คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Hunter
Hunter
เป็นนักล่าก็ต้องเสี่ยงชีวิตเข้าจัดการเป้าหมาย..โดยเฉพาะปีศาจที่ทำตัวเสื่อมเสียวงศ์ตระกูลปีศาจ นักล่าปีศาจอย่างเขาก็ต้องเข้าไปจัดการ แต่ไม่เห็นมีใครเคยบอกหรือแม้กระทั่งคัมภีร์ว่าด้วยการเป็นนักล่าปีศาจก็ยังไม่มีเขียนไว้เลยว่าต้องเอาต้องยอมเปลืองเนื้อเปลืองตัวถวายตัวน่ะ!!
‘หอเคียงฟ้า’แหล่งรวมบุรุษและสตรีรูปงามที่ปรนิบัติกับผู้มาเยือนราวกับผู้นั้นเป็นเจ้านายเหนือหัว ใครที่ได้เข้าไปจะรับรู้ได้ถึงคำว่าความสุขบนพื้นโลกที่ดุจดั่งเอนกายบนสวรรค์นั้นเป็นอย่างไร ไม่ว่าจะการแสดงที่งดงาม การปรนนิบัติอย่างเอาอกเอาใจ หรือแม้กระทั่งสมาชิกที่อยู่ที่นี่ก็เปรียบดั่งนางฟ้าเทพบุตรให้ผู้มาเยือนเชยชมกันถึงเช้า..แต่ต้องเป็นผู้ที่มีเงินมากพอตัวเลยถึงจะได้เหยียบเข้ามาสวรรค์บนดินแห่งนี้
แต่สำหรับลีจินกิหรือชื่อปลอมตัวที่ใช้ว่าลีอนยูนั้น..ไม่ได้อยากเข้ามาในนี้ซักหน่อย!
ฝ่ามือเรียวขาวหยิบเอากระดาษสีแดงชาดมาก่อนเม้นปากลงทาบให้สีแดงติดขึ้นมาบนกลีบปากอิ่มของตนเอง ดวงตาเรียวมองคนในกระจกที่ตอนนี้แต่งตัวด้วยชุดยาวรุ่มร่าม ชายเสื้อคลุมที่ยาวลงมากรอมข้อเท้าแทนที่จะช่วยให้อุ่นใจกลับทำให้เย็นวาบ เพราะเนื้อผ้านั้นโปร่งบางจนเห็นเนื้อใน
ผมสีน้ำตาลอ่อนที่นุ่มสวยยาวทอดลงไปกับแผ่นหลัง ผมบางส่วนถูกจับมัดขึ้นเป็นมวย เสื้อผ้านั้นก็เหมือนจะไม่ช่วยปิดอะไรเลย เพราะมันทั้งแหวก ทั้งบาง มันก็เหมือนกับเสื้อทั่วไปที่ใส่กันเพียงตัดแขนออกแล้วเอาผ้าโปร่งบางนี่ไปเย็บติดแทน ส่วนท้ายเสื้อก็ยาวเลยมากพอที่จะปิดบังได้บ้างแต่มันก็สั้นเสียเหลือเกิน ชายผ้าโปร่งที่ยาวกรอมข้อเท้าก็ยังจะอุตว่าห์แหวกขึ้นสูง
...ใครเป็นคนออกแบบกันนะ!
ร่างเล็กระบายลมหายใจออกหนักๆก่อนลุกขึ้นมองสำรวจตัวเองในกระจกว่าเรียบร้อยดีจึงก้าวออกไปนอกห้องพัก เพราะภารกิจปราบปีศาจหื่นกามนี่แท้ๆทำให้เขาต้องมาแต่งตัวแต่งหน้าทำงานศิลปะอีกเยอะแยะเอาใจผู้ชายเป็นอาทิตย์ที่สองแล้ว แถมยังโดนลวนลามอีกต่างหาก
ภารกิจแรกทำไมมันเป็นแบบนี้ล่ะ!?
ร่างเล็กสาวเท้าไปยังห้องรับแขกที่พวกเขาต้องนั่งปั้นหน้ายิ้มรอให้ถูกเลือกไปสร้างความสุขให้ หอเคียงฟ้าแบ่งออกเป็นสองฝ่ายคือคือฝ่ายดวงดาราเป็นที่สำหรับต้องการผู้หญิงไปบริการ อีกฝ่ายคือฝ่ายจันทราสำหรับผู้ที่ต้องการผู้ชายไปบริการ และเขาก็อยู่ที่ฝ่ายจันทราแห่งนี้
“ว่าไงอนยู”เพื่อนร่วมงานชั่วคราวร้องทักขึ้นขณะที่เขากำลังจะเดินไปยังห้องรับแขก ริมฝีปากอิ่มที่แต่งแต้มด้วยสีแดงอ่อนยิ้นหวานรับก่อนโค้งตัวลงเป็นเชิงทักทาย
“ข้ากำลังจะไปห้องรับแขก ท่านจะไปกับข้าเลยรึเปล่า”คนถูกชวนพยักหน้ารับก่อนเดินตามชายหน่มร่างบางไป ดวงตาอีกฝ่ายคอยจับจ้องท่อนขาขาวที่โผล่พ้นออกตามรอยผ่าของผ้าขณะก้าวเดิน นักล่าหนุ่มรับรู้ถึงสายตาที่จับจ้องจนอยากจะหันไปต่อยซักหมัดสองหมัด แต่ก็ทำไม่ได้อย่างที่คิดเพราะตอนนี้เขาคือลีอนยู นักบริการหน้าใหม่ที่อ่อนหวานไร้ทางสู้
ในห้องรับแขกที่มีการร่ายรำอย่างงดงามแสดงอยู่อย่างตระการตา ชายหนุ่มหลายคนนั่งมองเลือกคนที่ถูกใจ ลีจินกิมีหน้าที่สืบหาข้อมูลของปีศาจที่มักเดินทางไปยังหอต่างๆแล้วฆ่าดูดเลือดพวกนักบริการ เท่าที่เขารู้มาคืออีกฝ่ายชอบผู้ชายสวยๆหวานๆ ปีศาจตนนี้ว่ากันว่าหน้าตาหล่อเหลา ท่าทางองอาจสมชายชาตรีและมักสะพายกระบี่ยาวไว้ที่หลัง ดูดเลือดเพื่อเสริมพลังให้กับตน เขาลองถามกับผู้มาเยือนทั้งหลายแล้ว
พวกนั้นจะบอกว่าจำได้ว่าเคยเจอแล้วคุยกันแต่กลับไม่มีใครนึกใบหน้าออกเลย ราวกับลืมใบหน้านั้นไปเสียดื้อๆ จำได้แต่เพียงรูปงามหล่อเหลาและท่าทางองอาจเท่านั้น
ร่างเล็กเดินไปนั่งลงตรงเก้าอี้ที่ปูเบาะเนื้อดีไว้ก่อนจะนั่งไขว่ห้างอวดขาขาวล่อให้ปีศาจที่ขึ้นชื่อว่าหื่นนักหื่นหนาและนิยมผู้ชายหน้าหวานท่าทางอ่อนแอและช่างยั่ว
เขามั่นใจว่าวันนี้เจ้าปีศาจตนนั้นต้องมาที่นี่แน่นอน เพราะจากข้อมูลที่รวบรวมได้คือฝ่ายนั้นจะลงมือฆ่าคนสองวันต่อหนึ่งครั้ง และจะเดินทางไล่ไปตามตัวอักษรแรกของชื่อหอ และวันนี้ก็ถึงคราวของหอเคียงฟ้าที่ปีศาจตนนั้นจะเข้ามาเยือน
จะฆ่าก็ฆ่าตามถนนก็ไม่ได้ ทำไมต้องเจาะจงมีอะไรๆกับคนหน้าตาดีตามหอก่อนดูดเลือดด้วย เลวไม่พอยังหื่นบรรลัยอีกต่างหาก!
ชายหนุ่มหลายคนเดินผ่านมามองเขาหลายต่อหลายคน แต่ร่างบางก็เพียงแค่ส่ายหน้าแล้วบอกไปว่ามีคนจองตัวแล้ว ใบหน้าใสหันไปมองประตูกว้างที่เปิดรอรับแขกที่เดินทางมา ดวงตาเรียวเบิกกว้างขึ้นเมื่อพบเห็นบุรุษหนึ่งที่ใบหน้าหล่อเหลา ท่าทางองอาจและสะพายกระบี่ยาวที่หลัง ไม่แน่ว่า..อาจจะเป็นปีศาจตนนั้นก็เป็นได้
ขาเรียวยาวสาวเท้าไปหาบุรุษหนุ่มที่ดึงดูดทุกสายตาให้หันไปมอง รอยยิ้มหวานประดับบนดวงหน้าหวาน ร่างเล็กหยุดยืนห่างจากร่างสูงนั้นเป็นระยะพอประมาณก่อนจะโค้งตัวทักทายอย่างอ่อนน้อม
“ยินดีต้อนรับ..สู่หอเคียงฟ้า”
Hunter
ห้องพักของร่างบางตอนนี้มีคนมาเพิ่มอีกหนึ่งคน มือขาวเรียวค่อยๆบรรจงรินชากลิ่นหอมลงถ้วยใบเล็กพร้อมปรายตามองอีกฝ่ายด้วยท่าทางยั่วยวน ขาเรียวสวยที่โผล่พ้นเนื้อผ้าออกมาเรียกให้ดวงตาคมโตมองลงไปอย่างห้ามไม่ได้
“ท่านผู้เดินทาง ท่านมีนามว่าอะไรหรือ”เสียงนุ่มหวานร้องถามทำให้เขาต้องละสายตาจากขาสวยมามองใบหน้าใสกระจ่างนั่นแทน
“ข้ามาค้างแรมแค่คืนเดียว ไม่จำเป็นต้องบอกชื่อให้เจ้ารู้หรอก”
“ข้ามีนามว่าอนยู..ท่านประสงค์จะให้ข้าเรียกท่านว่าอะไรดี”
“เรียกข้านายท่านก็พอแล้ว”ร่างเล็กยิ้มหวานรับก่อนค้อมศีรษะลงเป็นเชิงตกลงทั้งที่ในใจอยากจะเตะอีกฝ่ายให้รู้แล้วรู้รอด ท่ามากจริงๆ!
“นายท่านจะรับประทานอาหารชนิดใด ข้าจะได้ไปแจ้งคนครัวให้เขาทำมาให้ท่าน”
“ของขึ้นชื่อของที่นี่ นำมาให้หมด”ตอบสั้นห้วนได้ใจความ ดวงตาคมทอดมองไปยังร่างเล็กที่นั่งตรงข้ามด้วยแววาตาที่ลึกล้ำยากคาดเดาว่ากำลังคิดสิ่งใด ริมฝีปากอิ่มสวยคลี่ยิ้มหวานหยดก่อนขยับตัวเดินไปโอบรอบคออีกฝ่ายจากด้านหลัง
“แล้วท่านประสงค์จะให้ข้าขับกล่อมบทเพลงให้ท่านซักบทเพลงหรือไม่”ริมฝีปากสวยคลอเคลียบริเวณใบหูอีกฝ่าย ฝ่ามือเรียวลูบไปตามแผ่นอกกว้างกำยำด่วยท่าทียั่วยวน ริมฝีปากหยักกระตุกยิ้มก่อนจับมือเล็กแล้วลูบไล้เบาๆ
“อย่าทำให้ข้าผิดหวังละกัน”ร่างเล็กผละออกก่อนเดินไปแจ้งคนที่อยู่หน้าห้องว่าให้นำของดีทั้งหมดมาส่งอย่างเร็วที่สุด ขาเรียวเดินสาวเท้าไปยังเชิงเทียนที่มีเทียนสีชมพูอ่อนวางอยู่ก่อนจุดไปลงไปให้กลิ่มหอมอ่อนๆแผ่กระจายไปทั่วห้อง
“นี่เป็นเทียนที่ทางหอเคียงฟ้าคิดค้นขึ้นเอง กลิ่นจะหอมอ่อนๆแต่ติดจมูกให้นายท่านได้คิดถึงข้ายามเดินกลับออกไป”เทียนไขเริ่มหลอมละลายลงไป กลิ่นของมันทำให้ร่างสูงรู้สึกผ่อนคลายจากการเดินทางไกล ร่างเล็กเดินไปนั่งลงตรงเครื่องดนตรี ปลายนิ้วเรียวเริ่มขยับเคลื่อนไปบนสายต่างๆอย่างชำนาญ เสียงหวานนุ่มขับร้องออกมากล่อมให้ร่างสูงรู้สึกเคลิบเคลิ้ม เนื้อหาเพลงเกี่ยวกับสรวงสวรรค์ หอเคียงฟ้าและความสุขจากการร่วมหลับนอนกับเจ้าของห้องนี้..
อาหารหลายอย่างถูกนำเข้ามาในห้องตามที่ร่างสูงสั่ง แต่ถึงกระนั้น ดวงตาคมก็มิได้ละออกจากคนบรรเลงเพลงเลยแม้แต่น้อย นิ้วเรียวสวยขยับเคลื่อนไปมาดั่งนกน้อยที่โผบินไปตามกิ่งไม้ จังหวะการเล่นเริ่มเร็วขึ้นและหนักแน่นขึ้น เนื้อหาเพลงเริ่มส่อไปทางเชิญชวนมากกว่าเดิม..ลีจินกิได้แต่นึกสงสารตัวเองในใจที่ต้องมาร้องเพลงอะไรแบบนี้ แต่หน้าที่ก็คืดหน้าที่ ต้องทำไปจนกว่าเจ้าปีศาจตรงหน้านี่จะตายนั่นแหละ!
เสียงเพลงหยุดลงก่อนที่ร่างเล็กจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหาปีศาจหนุ่ม สะโพกกลมหย่อนลงบนตักอีกฝ่ายก่อนที่แขนเรีบวจะเอี้ยวมาโอบรอบคออีกฝ่ายเอาไว้
“นายท่านไม่รับประทานอาหารหรือ ถ้ามันเย็นแล้วจะเสียรสชาตินะ”ฝ่ามือหนาเลื่อนขึ้นลูบกลุ่มผมนุ่มสวยไปมาอย่างเบามือแล้วยิ้มบางกลับ
“ข้าอยากกินของหวานแทนซะแล้วล่ะ”
ดวงตาเรียวมองประกายความต้องการในดวงตาคมโตอีกฝ่ายก็แย้มยิ้มกว้าง..เหยื่อตกหลุมแล้ว การที่จะรู้ตัวว่าอีกฝ่ายคือปีศาจฆ่าคนนั้นต้องให้อีกฝ่ายหลุดการควบคุมเสียก่อน เพราะเวลาจะฆ่าคนหรือทำอะไรซักอย่างที่หลุดการควบคุม ปีศาจพวกนี้จะมีดวงตาเป็นสีแดงฉานดุจเลือด และคนที่เขานั่งตักอยู่นี้ก็มีกลิ่นอายปีศาจเข้มข้นเลยทีเดียว
เขาเองก็เป็นลูกครึ่งปีศาจเลยรับรู้ถึงกลิ่นอายปีศาจ
“น่าเสียดายอาหารรสเลิศเหล่านี้เสียจริง”
Hunter
ชายหนุ่มร่างสูงเดินเข้ามาทางประตูห้องรับแขกขอหอเคียงฟ้าด้วยท่าทางสง่างาม ดวงตาคมโตกวาดมองไปรอบๆ พบสายตาใครหลายคนจับจ้องมาทางตนอย่างชื่นชมกึ่งประหลาดใจ
“นายท่านจะมาหาคนใหม่อีกหรือ”หนุ่มหน้าสวยอีกคนสาวเท้าเข้ามาหาพร้อมกับโค้งกายคำนับ คิ้วหนาขมวดเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับไป
“ข้าเพิ่งมาถึงที่นี่เองนะ”
“จริงหรือ? แต่ข้าเห็นท่านเดินไปกับอนยูเมื่อครู่ก่อนเอง”
“อะไรนะ?”
“พวกเราในที่นี้เห็นท่านเดินไปกับอนยู เมื่อไม่นานมานี้ ท่านจะเพิ่งมาถึงได้อย่างไรกัน”
“ห้องอนยูอยู่ที่ไหน??”หวังว่าเขาคงจะไม่มาช้าเกินไปนะ..
Hunter
ร่างเล็กเอนกายลงนอนกับที่นอนนุ่มโดยมีร่างสูงกว่าคร่อมทับ ฝ่ามือเรี ยวสวยของร่างเล็กเลื่อนขึ้นโอบรอบคออีกฝ่ายไว้แน่น ใบหน้าคมเข้มก้มลงซุกไซร้ลำคอขาวผ่องก่อนฝากรอบแดงเข้มไว้ ดวงตาเรียวมองลงอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะเลื่อนสายตาไปยังซอกข้างเตียง กระบี่และขวดยานอนหลับ..นอนนิ่งสนิทอยู่ที่เดิม
“นายท่านได้โปรดลุกออกไปก่อน”มือนุ่มแตะไหล่กว้างก่อนดันออกเบาๆ ดวงตาเรียวมองสบยังดวงตาคมโตที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน ไม่ผิดตัวแน่..
“มีอะไร”เสียงเข้มที่ร้องถามนั้นเจือไปด้วยกระแสหงุดหงิดจนเห็นได้ชัด
“ท่านเป็นปีศาจหรือ ข้าได้กลิ่นอายปีศาจจากตัวท่าน”คิ้วหนาเลิกขึ้นก่อนจะสบตามองดวงหน้าใสของอีกฝ่าย
“ที่เขาบอกกันว่าเป็นลูกครึ่งจิ้งจอกเก้าหางก็จริงสินะ”คราวนี้ดวงตาเรียวกลับเบิกกว้างแทนด้วยความตกใจ ริมฝีปากอิ่มเผยออ้าขึ้น
“ท่านรู้ได้อย่างไรกัน?”
“หึ มีอะไรที่ข้ารู้อีกเยอะ การได้ดื่มเลือดจิ้งจอกเก้าหางที่ยังบริสุทธิ์จะทำให้พลังกล้าแข็งขึ้น ข้ามาที่นี่ก็เพื่อสิ่งนี้แหละอนยู ถึงแม้ว่าเจ้าจะมีเลือดจิ้งจอกแค่ครึ่งเดียวก็เถอะ”ฝ่ามือแข็งแกร่งของชายร่างสูงจับข้อมือเล็กตรึงกดลงกับเตียงไว้แน่น
“ปล่อยนะ!”ขาเรียวพยายามจะถีบอีกฝ่ายออกแต่กลับถูกอีกฝ่ายแทรกเข้าตรงกลางดันขาเรียวให้อ้ากว้างจนไม่สามารถถีบอีกฝ่ายได้
“นักล่ามือใหม่อย่างเจ้ากล้ามาต่อกรกับปีศาจที่มีพลังแข็งกล้าอีกหรือ? ทางสำนักคิดอะไรกันแน่นะ”
“เจ้ารู้!?”ดวงตาเรียวเบิกกว้างอย่างตื่นตระหนก เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งถึงได้ยอมเปลืองเนื้อเปลืองตัวล่ออีกฝ่ายให้หลงก่อนจะใช้ยานอนหลับช่วย แต่ตอนนี้เจ้าปีศาจรู้ตัวเสียแล้ว..เขาจะทำอย่างไรดี?
“ก็ข้าไม่โง่นี่ นักล่าตัวน้อย..คอยดูข้าให้ดีละกัน!”ทันทีที่พูดจบใบหน้าหล่อเหลาก็ก้มลงไปไซร้ลำคอหอมอย่างร้อนแรง ร่างเล็กดิ้นพล่านพยายามหนีสัมผัสอีกฝ่าย..ลิ้นร้อนแตะลากลงไปตามลำคอหอมกรุ่นจนไปหยุดตรงตำแหน่งชีพจร สัมผัสได้ถึงเลือดอุ่นที่แล่นไปทั่วร่างและจังหวะการเต้นที่รัวเร็วเพราความตกใจปนหวาดกลัว
“อย่าตื่นกลัวไปเลย..ลีจินกิ”หยาดน้ำใสคลอเต็มดวงตาเรียวด้วยความหวาดกลัว เขาเพิ่งเกิดมาได้แค่ 18 ปีเองนะ! ทำไมสวรรค์ถึงให้เขาตายเร็วขนาดนี้ ภารกิจแรกก็โดนปีศาจฆ่าซะแล้วหรือ..
“เจ้า! หยุดเดี๋ยวนี้!”เสียงทุ้มเข้มตะโกนลั่นก่อนจะสาวเท้าเข้ามาในห้องพักที่มีสองร่างอยู่บนเตียง ทั้งคู่หันไปมองผู้เข้ามาใหม่แทบจะพร้อมกัน
“อะ..อะไรกัน”บุรุษที่ยืนหน้าห้องด้วยท่าทีองอาจและสง่างามพร้อมกับใบหน้าหล่อเหลานั้น เหมือนกันคนที่อยู่บนตัวเขาเหลือเกิน..
“มาแล้วรึ ข้ากำลงคอยอยู่เลย”ร่างสูงใหญ่ผละออกคนตัวบางก่อนจะลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับผู้มาใหม่..ราวกับกำลังยืนส่องกระจก
“เจ้าห้ามทำอันตรายใดๆกับอนยูเด็ดขาด”ร่างเล็กถอยจนแผ่นหลังติดกับผนังห้อง มือเรียวเอื้อมลงคว้าด้ามกระบี่ไว้เตรียมพร้อมเสมอ
“มีสิทธิ์อะไรมาสั่ง?”
“ข้าเป็นศิษย์พี่มินโฮของเขาที่สำนักปราบมาร ข้ารับหน้าที่ปกป้องคุ้มครองอนยูจากปีศาจฆ่าคนอย่างเจ้า”คนมาใหม่จ้องมองคนที่เหมือนตัวเองทุกระเบียดนิ้วด้วยสายตาโกรธเคือง
“ศิษย์พี่..มินโฮ?”เสีงนุ่มร้องถามเสียงเบาอย่างประหลาดใจ แล้วทำไมศิษย์พี่ของเขาที่ขึ้นชื่อว่าเก่งกาจสามารถถึงมีหน้าตาเหมือนปีศาจฆ่าคนแบบนี้ล่ะ?
“ปลอมตัวเป็นข้าแล้วยังจะมาพูดจาทุเรศๆอีกรึไง ใครกันแน่ที่ฆ่าคน?”คนที่อยู่ก่อนหน้าพูดเสียงเรียบนิ่ง
“เจ้าต่างหากที่ปลอมตัว ถอยไปซะ!”ขายาวก้าวไปหมายจะหาคนตัวเล็ก แต่กลับถูกกระบี่เล่มยาวสวยสะบัดขวางกั้นอย่างรวดเร็ว
“จ่ายค่าผ่านทางเป็นหัวเจ้าก่อนสิ แล้วข้าจะให้เจ้าไป”คนพูดแสยะยิ้มอย่างน่ากลัว อีจินกิได้แต่มองคนทั้งสองอย่างงุนงง
แล้วคนไหนคือศิษย์พี่กันแน่?
“อนยู กางยันต์ป้องกันเสียงซิ”คนที่ถูกกระบี่ขวางหน้าร้องบอกเขา ร่างเล็กหยิบยันต์ใต้หมอนขึ้นมาก่อนจะเขวี้ยงให้ไปแปะกลางประตูไม่ให้คนนอกเข้าและได้ยินเสียงข้างใน
“อย่าลืมที่ข้าบอกล่ะ..คอยดูข้าให้ดี”ดวงตาเรียวหันมองดวงตาคมโตเป็นสีแดงฉาน แววตานี้ดูแข็งกระด้างแต่ก็ช่างอบอุ่นยิ่งนัก..
กลิ่นอายปีศาจของทั้งคู่ลอยคละคลุ้งไปทั่ว ศิษย์พี่มินโฮที่เขาไม่เคยเห็นหน้านั้นก็เป็นปีศาจเช่นกัน แล้วเขาจะตัดสินใจได้อย่างไรว่าใครเป็นปีศาจฆ่าคนกันแน่
กระบี่เงาสวยตวัดแหวดอากาศจนเกิดเสียงดังหมายจะบั่นคอคนมาใหม่อย่างรวดเร็ว แต่คนที่อ้างว่าชื่อมินโฮนั้นกลับก้มหลบอย่างง่ายดาย ดวงตาเปล่งประกายสีแดงสดไม่แพ้กัน
“ภารกิจข้าคือปกป้องอนยูและจัดการสังหารปีศาจฆ่าคน เจ้าไม่มีสิทธิ์มาโกรธข้านะ”
“แค่เจ้าปลอมตัวเป็นข้า ข้าก็โกรธแล้วล่ะ!”กระบี่ยาวที่หลังก็ตวัดออกมาอย่างรวดเร็วไม่แพ้กัน คนทั้งคู้กำลังต่อสู้กันและมีทีท่าว่าจะดุเดือดมากขึ้นด้วย อีจินกิอดคิดไม่ได้เลยว่าหากเขาเป็นคนไปสู้กับปีศาจเสียเอง..เขาจะได้ใช้ซักกี่กระบวนท่าที่ร่ำเรียนมา อาจจะได้แค่ครึ่งท่าก็โดนอีกฝ่ายดูดเลือดหมดเสียก่อน
เสียงกระบี่กระทบกันดังไปทั่ว ทั้งคู่ต่างเป็นเพียงเงาแวบไปแวบมาเหมือนหายตัวได้ ทั้งๆที่เขามั่นใจว่าตนเองมีประสาทสัมผัสดีเลิศยังอดตะลึงกับความสามารถของทั้งสองไม่ได้
ทันใดนั้นจู่ๆเงาสายหนึ่งก็พุ่งมาทางเขาจนนักล่ามือใหม่แทบคว้ากระบี่มาขวางตัวเองไม่ทัน ดวงตาคมโตที่เป็นสีแดงสดมองมาทางร่างเล็กเจือด้วยกระแสเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัดก่อนหันหลังกลับเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายที่เหมือนกันกับเขา
“กระจอกจริงๆ คิดว่าทำแบบนั้นแล้วเด็กนี่จะเชื่อว่าเจ้าเป็นตัวจริงของข้ารึไง”หนุ่มร่างสูงที่ยืนตรงข้ามกับอีจินกิพูดพร้อมกับชี้กระบี่มาจ่อหน้าร่างสูงอีกคนที่อยู่ฝั่งเดียวกับเขา
“ชเวมินโฮนักล่าปีศาจผู้เก่งกาจ ย่อมช่วยเหลือเหยื่อก่อนที่จะจัดการปีศาจ เจ้านั่นแหละที่กระจอก จะปลอมเป็นข้าก็ไม่หัดหาข้อมูล”
“งั้นรึ เจ้าคงได้รับข้อมูลที่ผิดพลาดนะ คนอย่างข้าน่ะ..ไม่ช่วยเหลือเหยื่อก่อนเพราะข้าจัดการไอ้พวกเศษปีศาจอย่างเจ้าได้ในเวลาไม่นานไง”
ร่างเล็กนั่งมองสลับคนทั้งสองคนไปมาอย่างงุนงง คนหนึ่งอ้างอย่างอีกคนพูดอีกอย่าง ลักษณะท่าทางและนิสัยก็เหมือนกัน..อวยตัวเองพอกัน!
ลีจินกิหลับตาลงผ่อนหายใจออกช้าๆช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดที่เกิดขึ้น สู้กันไปก็คงไม่ได้อะไรขึ้นมาเพราะฝ่ายปีศาจนั้นคงจะลอกเลียนแบบทั้งวิชาท่าทางมาจนหมด ไม่แน่ว่าศิษย์พี่มินโฮนั้นอาจจะพ่ายแพ้ก็เป็นได้..ไม่มีใครคาดเดาอนาคตออก
“ให้ข้าตัดสินสิ”ดวงตาเรียวลืมขึ้นแล้วจับจ้องไปเบื้องหน้า ชายหนุ่มทั้งสองที่ดูเหมือนจะลืมเป้าหมายของตนกลายเป็นแข่งกันว่าใครคือตัวจริงหันมามองอย่างประหลาดใจ
“พวกท่านสู้กันไปก็คงไม่ชนะกันหรอก ข้าจะตัดสินให้เองว่าใครคือตัวจริง แล้วข้าก็จะสังหารปีศาจที่ปลอมตัวซะ”
“แล้วถ้าเจ้าตัดสินใจพลาดล่ะ”สองเสียงที่เหมือนกันร้องถามอย่างพร้อมเพรียง ลีจินกิชักไม่มั่นใจเสียแล้วว่าเขาละเลือกถูกหรือไม่
“ข้าก็ตายตามศิษย์พี่ไป..เพราะถือว่าข้าเป็นคนทำให้ศิษย์พี่ต้องตาย”
“ไม่เลวนี่..สู้ไปก็เหนื่อยเปล่า”อีกคนได้แต่ชักสีหน้าไม่พอใจ แต่ก็มีท่าทียอมรับข้อเสนอดังกล่าวนี้
ร่างเล็กมองไปยังสองร่างเบื้องหน้าที่มาหยุดยืนนิ่งให้เขาพิจารณา แววตาทั้งคู่นั้นเรียบนิ่งและเป็นสีแดงสดไม่แตกต่าง ท่าทางการยืนก็เหมือนกัน
“พวกท่านมาที่นี่มีจุดประสงค์อะไร”
“ข้ามาเพื่อคุ้มครองเจ้าแล้วกำจัดปีศาจตามที่สำนักได้สั่งมา”
“มาเพื่อกำจัดปีศาจตามหน้าที่ แต่คุ้มครองเจ้าเป็นพิเศษตามคำขอของท่านแม่ของเจ้า”ริมฝีปากอิ่มเหยียดยิ้ม..แค่คำถามเดียวเขาก็รู้แล้ว
“ท่านแม่ของข้าหรือ? ท่านแม่ของข้าน่ะได้เดินทางไปยังภูเขาแดนเหนือนานนับสิบปีแล้วนะ..ไม่ได้อาศัยในสำนักเพื่อปกป้องตนเองอย่างที่ท่านเข้าใจหรอก ที่ท่านรู้มาก็แค่ข่าวลวง และที่สำคัญ สำนักของเราเหมือนครอบครัว หัวหน้าคือบิดาลูกศิษย์คือลูกหลาน ไม่มีทางที่จะละเลยคำว่าคุ้มครองข้าหรอกนะ”
กระบี่ทั้งสองเล่มตวัดไปหาเป้าหมายเป็นทางเดียวกัน ชายหนุ่มที่พุ่งมาขวางหน้าเขาไว้ตอนแรกคือปีศาจ..คนที่เพิ่งจะเจอหน้ากันไม่มีทางที่จะมองเขาด้วยแววตาเป็นห่วงเป็นใยมากขนาดนั้นแน่
“ไหวพริบดีใช้ได้เลยนี่”ชเวมินโฮตัวจริงเอ่ยชมก่อนจะสาวเท้าไล่ต้อนตัวปลอมให้ถอยหลังไปเรื่อยๆ ขาเรียวก้าวลงจากที่นอนก่อนจะกดปลายกระบี่สวยเรียกเลือดจากลำคอปีศาจที่หลอกลวง
“อย่าลืมสิว่าข้าน่ะ..ลูกครึ่งจิ้งจอกเก้าหางเชียวนะ”
Hunter
หลังจากจัดการเจ้าปีศาจได้ ชเวมินโฮตัวจริงกับลีจินกิก็นั่งลงทานข้าวที่เย็นชืดด้วยความหิว มือหนาวางตะเกียบลงก่อนยกเหล้าเข้าปาก
“น่าเสียดายจริงที่เคื่องดนตรีดันโดนฟันซะเละ”
“ศิษย์พี่ ข้าขอถามอะไรหน่อยได้รึเปล่า”
“ว่ามาสิ”ตะเกียบคู่เดิมถูกใช้คีบอาหารเข้าปากอีกครั้ง ดวงตาเรียวมองสภาพคนหิวจัดที่ไม่รักษาภาพลักษณ์มือปราบหนุ่มแม้แต่น้อย
“ท่านรู้เรื่องทั้งหมดนี้ใช่รึเปล่า เล่าให้ข้าฟังที”ชเวมินโฮยกเหล้าขึ้นซดอีกรอบก่อนจะหันหน้ามามองดวงหน้าหวานที่จ้องมายังเขา
“เจ้านี่ช่างถามเสียจริง ความจริงภารกิจเจ้าไม่ใช่ปราบปีศาจหรอก แต่ความจริงของเจ้าคือเหยื่อล่อและสืบหาข้อมูลต่างหาก ถ้าทางสำนักบอกว่าเจ้าเป็นเหยื่อล่อเจ้าจะมาทำมั้ยล่ะ?
ส่วนข้าก็มีหน้าที่แพร่ข่าวว่าหอเคียงฟ้ามีลูกครึ่งจิ้งจอกชื่ออนยูที่ยังบริสุทธิ์อยู่ ส่วนทำไมมันถึงเลือกที่จะจำลองตัวข้ามานั้นข้าไม่รู้ ข้าคิดว่ามันอาจจะคิดว่าข้าหน้าตีและเก่งกาจก็ได้นะ ก็ถือว่ามันดวงดีนั่นแหละ เพราะเจ้าไม่เคยเจอหน้าข้าเลย ไม่ยากที่หลอกว่าเป็นข้า และคนทั่วไปก็ไม่รู้อยู่แล้วว่านักล่าแต่ละคนหน้าตาเป็นอย่างไร มีแต่พูดกันไปปากต่อปาก รูปวาดก็ไม่เหมือนเท่าไหร่
ปีศาจแบบพวกมันน่ะจะปลอมตัวได้อย่างแนบเนียน เหมือนต้นแบบทุกอย่างรวมถึงวิชาที่มีด้วย เพียงแต่จะได้แค่เสมอกันเท่านั้น ที่ข้ามานี่เพื่อกำจัดปีศาจก็เหตุผลนึง อีกเหตุผลนึงคือรับรองความสามารถของเจ้า”
“ความสามารถของข้า?”
“ใช่ ถึงเจ้าจะผ่านบททดสอบในสำนัก แต่ใช่ว่าเจ้าจะไปสู้กับปีศาจได้เลย ต้องมีไหวพริบและฝีมือ..ข้ามาเพื่อตรวจสอบดูว่าเจ้ามีไหวพริบความสามารถมากพอรึเปล่าที่จะออกนอกสำนัก และปรากฏว่าเจ้าทำได้ดีทีเดียว ความจริงปีศาจแบบนี้ข้าฆ่ามันได้ง่ายจะตายไป
และหลังจากนี้ข้าจะเป็นพี่เลี้ยงของเจ้า คอยดูแลแนะนำจนกว่าเจ้าจะสามารถเผชิญหน้ากับปีศาจด้วยตัวคนเดียวได้ยังไงล่ะ”และแล้วเหล้าในไหนั้นก็หมดลง ดวงตาเรียวยังคงจับจ้องมายังเขา
“ขออีกคำถามได้รึเปล่า?”
“คำถามสุดท้ายแล้วนะ ข้าขี้เกียจตอบแล้ว”ลีจินกิเบ้ปากหมั่นไส้นักล่าฝีมือฉกาจคนนี้เสียจริง หลงตัวเอง ขี้เก๊ก ท่ามาก
“ท่านคือคนที่เข้ามาคนแรกใช่รึเปล่า”ดวงตาคมโตมองสบดวงตาเรียวที่จ้องมาอย่างคาดคั้น ริมฝีปากหยักเหยียดยิ้มก่อนจะคีบอาการเข้าปาก
“ภารกิจนี้มีเรื่องผิดพลาดเพียงเรื่องเดียว”
“นี่! ข้าถามท่านว่า..”
“ข้อมูลของเจ้ารั่วไหลและปีศาจบางตัวที่ฉลาดๆบางตัวอาจจะตามหาเจ้าเพื่อดื่มเลือด”แขนยาวเอื้อมกระชากแขนเล็กให้ร่างเล็กถลาเข้ามานั่งบนตักเขา
“ศิษย์พี่จะทำอะไรน่ะ!”
“ข้าคงต้องรับผิดชอบเจ้าด้วยการทำให้เจ้าเป็นจิ้งจอกน้อยที่ไม่บริสุทธิ์เสียแล้วสิ ตอนแรกข้ามาเพื่อจะทำอย่างนี้เหมือนกัน แต่เจ้าปีศาจนั่นดันมาเร็วไปหน่อย”
“ท่านพูดบ้าอะไรน่ะ ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้”ลำแขนแข็งแกร่งโอบรอบเอวคอดไว้แน่น มืออีกข้าวก็รวบสองมือเล็กอย่างง่ายดาย
“ฝีมือเรายังห่างกันเยอะเด็กน้อย..ตอนนี้เจ้ายังอยู่ในหน้าที่นี่หืม?”ดวงตาคมมองไล่ไปยังต้นขาขาวที่โผล่พ้นออกนอกเนื้อผ้าก่อนวกกลับมายังกลีบปากอิ่ม ริมฝีปากหยักสวยจัดการกดลงบดเบียดปากนุ่มของจิ้งจอกน้อยอย่างรุนแรง ลิ้นร้อนแทรกเข้าโพรงปากอีกฝ่ายอย่างชำนาญ
ร่างเล็กหลับตาปี๋ด้วยความตกใจ อยากจะผลักไล่อีกฝ่ายไปแต่มือก็ถูกพันธนาการเสียหมด สู้แรงอีกฝ่ายไม่ได้เลย..เขารู้แล้วล่ะว่าปีศาจหรือชเวมินโฮที่เข้ามาห้องนี้เป็นคนแรก
“เรียกข้าว่านายท่านสิ เหมือนตอนแรกยังไงล่ะ ไม่แน่ว่าข้าอาจจะใจอ่อนก็ได้นะ..”พอผละออกมาก็ไปคลอเคลียแก้มอิ่มขาว ริมฝีปากร้อนไล่เลื่อนไปยังใบหูนุ่มก่อนงับลงไปเบาๆ
“นะ..นายท่าน..”เสียงใสนั้นสั่นระริกกับการถูกเล้าโลมในครั้งแรกในชีวิต ทำไมเขาถึงปฏิเสธนักล่ารุ่นพี่คนนี้ไม่ได้เลย?
“แต่ข้าว่าพอเจ้าพูดคำนี้มันดูยั่วข้ายังไงก็ไม่รู้สิ..ข้าจะรับผิดชอบชีวิตทั้งชีวิตที่เหลือต่อจากนี้ของเจ้าเอง”ท่าทางเจ้าชู้ดูโลเลแต่กลับเอ่ยคำมั่นที่ดูหนักแน่นให้ซึมลงไปในใจของนักล่าตัวน้อย อาการขัดขืนตอนแรกมลายหายไป ดวงตาคมมองไปยังเทียนไขสีชมพูอ่อนแล้วลอบยิ้มบาง
ยาผงที่แอบหยอดลงไปในเทียนนี่..ใช้ได้ดีทีเดียวนะ
บางทีปีศาจที่เจ้าเล่ห์ร้ายกาจที่สุดคงไม่ใช่ปีศาจฆ่าคน..แต่อาจจะเป็นปีศาจที่เก่งกาจช่วยเหลือมนุษย์ก็เป็นได้
Hunter
อยากอ่านกรุณาไปจิ้มตอนที่ 1 นะเจ้าคะ อาจจะยุ่งยากแค่แปปเดียว แต่ดีกว่าการเสียเวลาคอยเมล์จากไรท์หลายวันนะคะ
Hunter
ยามปกติในช่วงเช้าของหอเคียงฟ้าจะเงียบสงบเพื่อให้ทุกคนพักผ่อน หรือยางคนอาจจะตื่นมาทำกิจกรรมต่อ แต่ในห้องนี้มันไม่ใช่แบบนั้น..
ชายหนุ่มร่างสูงที่มีเพียงกางเกงสวมติดตัวแบบลวกๆยืนจนเกือบชิดติดประตู ในขณะที่ร่างเล็กบนเตียงนั้นมีผ้าห่มคลุมตัวไว้อย่างหมิ่นเหม่ ใบหน้าหวานแดงจัดพร้อมกับหายใจเข้าออกหนักๆ ดวงตาเรียวมีน้ำตารื้นขึ้นดูน่าสงสาร
“จินกิใจเย็นๆก่อนสิ”
“ใจเย็น? ใจเย็นงั้นหรอ!? ท่าน..ท่านมันแย่ที่สุด!”ทันทีที่ลีจินกิลืมตาตื่นขึ้น ความทรงจำของเมื่อคืนก็ทำให้ร่างเล็กลืมเจ็บ..ถีบศิษย์พี่ของตนจนตกเตียง แต่สุดท้ายก็เป็นตัวเองที่ต้องร้องลั่นเพราะดูท่าแผลเมื่อคืนจะฉีกขาดอีกรอบ
“ข้าไม่ได้ขืนใจเจ้าเลยนะ! ถึงนิสัยข้าแย่แต่ลีลาข้ามันก็ดีเยี่ยม”รอบตัวชายหนุ่มมีหมอนหลายใบกองอยู่ เชิงเทียนถูกเขวี้ยงมาแตกเฉียดเท้า พอฤทธิ์ยาหมดเจ้าจิ้งจอกแสนพยศก็กลับมาอีกครั้ง ทั้งๆที่เมื่อคืนยังออดอ้อนร้องเสียงหวานอย่างว่าง่ายอยู่เลย
คนฟังอยากจะถลาเข้ามาจัดการอีกฝ่ายซักยกแต่ก็ติดตรงที่ขยับไม่ไหว ชเวมินโฮมองอีกฝ่ายที่ถ้ากรี๊ดเป็นคงกรี๊ดไปแล้ว มองสำรวจรอบกายอีกฝ่ายว่าไม่มีอาวุธอีกจึงค่อยๆเดินกลับไปหา
“ท่านมันใจร้าย! ถ้าท่านไม่ทำแบบนั้น..เราไม่ใช่คนรักกันนะ! ฮืออ”คราวนี้ทำนบแตกของจริง มือนุ่มยกขึ้นขยี้ตาตนเองเหมือนเด็กน้อย ร่างสูงลงนั่งข้างๆก่อนใช้แขนยาวโอบไหล่เล็กให้อีกฝ่ายเอนมาซบอกตนเอง
“อย่าร้องไปเลยเด็กดี ข้ารักเจ้านะ รักมานานด้วย”
“ตะ..แต่ข้าไม่ได้รักท่าน ข้าจะฟ้องท่านแม่!! ฮือออ ท่านรังแกข้า..”มือหนาลูบศีรษะกลมเบามือเป็นการปลอบอีกฝ่าย
“ฟ้องสิ ข้าจะพาเจ้าไปเลย ข้าจะได้สู่ขอเจ้าด้วย และอีกอย่างที่ข้าทำไปเพราะเป็นห่วงเจ้านะ”น้ำเสียงนุ่มทำให้อีกฝ่ายยอมเงยหน้าขึ้นช้อนตามองอีกฝ่าย ดวงตาแดงช้ำจนนน่าสงสาร
“ห่วงจริงหรอ”
“จริงสิ ข้าไม่มีวัตถุประสงค์แอบแฝงหรอก”รอยยิ้มอ่อนโยนทำให้คนโดนรังแกเชื่อใจไปกว่าครึ่ง ยังไงก็ตามศิษย์พี่ไม่ทันอยู่ดี ชเวมินโฮลอบยิ้มในใจที่อีกฝ่ายหลงเชื่อและไม่รู้ว่าโดนยาเข้าไป
แต่ที่บอกว่ารักและจะสู่ขอน่ะ เรื่องจริงนะ..
“แล้ว..ทำไมข้าถึง..เอ่ออ ยอม?”
“ชะตาลิขิตล่ะมั้ง~ ข้าอายุเยอะกว่าเจ้าตั้งหลายปีข้ายังมาหลงรักเด็กอยางเจ้าเลย ตอนเจอเจ้าครั้งแรกเจ้าอายุห้าขวบ ตอนนั้นข้าอายุตั้งยี่สิบเอ็ดแล้ว”ดวงตาเรียวเบิกกว้างด้วยความตกใจ สิบหกปีเลยหรอ!?
“ถ้างั้นตอนนี้ท่านก็..สะ สามสิบสี่ ไอ้แก่โรคจิต!!”มือบางซัดผลัวะเข้าให้ตรงไหล่กว้างทับแผลเดิม ร่างเล็กถูกอีกฝ่ายรวบตัวกดลงกับเตียงแทบจะทันที
“อายุมันก็แค่ตัวเลขน่า..ขอแค่หน้าแค่เด็กเหมือนอายุยี่สิบก็พอแล้ว เจ้านี่ขี้แยเหมือนเดิม เอาแต่ใจเหมือนเดิม ชอบใช้กำลังก็ยังเหมือนเดิม สงสัยเราคงต้องใช้กำลังคุยกันแล้วล่ะนะ~”
The End
ความคิดเห็น