ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SHINee Yaoi]Mission Possible ขอลูกซักคนเถอะนะ!(HOON)

    ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 6 : ภารกิจเร่งด่วนของท่านชายมินโฮ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 101
      0
      28 ก.ค. 57

     

    Chapter 6 : ภารกิจเร่งด่วนของท่านชายมินโฮ

    ตามล่าหาเมียที่หายไป เมียไม่มีแล้วจะไปเอาลูกจากไหนได้เล่า!

                ชายร่างสูงขยับตัวบิดขี้เกียจก่อนจะหาวออกมา พลิกกายไปด้านข้างก็พบกับหมอนข้างแข็งๆที่ใช้กอดแทนร่างกายนุ่มนิ่มของคุณภรรยาที่ไล่มานอนนอกห้อง มองนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาเจ็ดโมงเช้าแล้วและสมควรจะลุกเพื่อเตรียมตัวไปทำงานและง้อคุณเมียที่รัก

                ในหัวคิดอะไรเรื่อยเปื่อยว่าจะให้ดอกกุหลาบซักช่อ พาไปดินเนอร์ หรือซื้อไก่ทอดกล่องใหญ่ให้กินดี หรือจะพาไปเที่ยวเพื่อง้อให้หายโกรธ พอรู้ตัวอีกทีก็มายืนอยู่หน้าห้องนอนที่ใช้นอนประจำ ซึ่งเมื่อคืนโดนขับไล่ห้ไปนอนห้องนอนของแขกเลยไม่ได้เข้าไป

                “เมียคร้าบ”เคาะประตูเบาๆก่อนจะเอาหูแนบกับประตูเพื่อฟังเสียงข้างในห้องแต่ก็ไม่ได้ยินอะไร เคาะอีกสองสามรอบก็ไม่มีเสียงตอบกลับมาจนกระทั่งอีแทมินเดินออกจากห้องนอนมาแล้วทักขึ้น

                “อรุณสวัสดิ์ครับพี่มินโฮ”

                “อื้ม จินกิตื่นแล้วหรอ”

                “ไม่รู้อ่ะพี่ ผมเพิ่งออกมาจากห้องเอง”มินโฮพยักหน้ารับก่อนจะหันไปสนใจห้องของตัวเองอีกครั้งและตัดสินใจลองบิดลูกบิดประตูดู เมื่อพบว่าไม่ได้ล็อคจึงค่อยๆแง้มเข้าไปดู

                “เมียจ๋า”ห้องนอนว่างเปล่าเรียบร้อยเป็นระเบียบ เมื่อเดินเข้าไปเรื่อยๆก็พบว่าไม่มีชเวจินกิอยูในนี้ และในห้องน้ำก็ไม่มี

                “ไปไหนหว่า”บ่นงึมงำกับตัวเองก่อนจะหมุนตัวกลับออกไป แต่ดวงตาคมโตก็สะดุดกับกระดาษแผ่นหนึ่งบนที่นอนที่เกือบมองไม่เห็น มือหนาไปหยิบเอาออกมาอ่านก่อนจะเบิกตากว้าง

                คุณสามีที่รักของชเวจินกิ ฉันจะหนีออกจากบ้านไม่ต้องตามหานะ ไว้ล้มเลิกเรื่องอยากมีลูกแล้วค่อยเจอกันใหม่นะที่รัก บ๋ายบาย

                กระดาษเลื่อนหลุดลงจากมือก่อนจะหล่นแปะลงพื้นห้อง ชเวมินโฮอยากจะร้องไห้ออกมาแต่การออกตามหาภรรยาที่หายไปจะมาเสียเวลาร้องไห้ไม่ได้ นึกด่าตัวเองในใจที่นึกอะไรพิเรนจนโดนเมียทิ้งหนีออกจากบ้าน อยากจะโทรไปถามพ่อตาแม่ยายแต่ก็นึกได้ว่าไม่มีทางที่อีกฝ่ายจะไปที่เขานึกถึงแน่นอน

                ชเวจินกิไม่ใช่ชเวซีวอน..ที่จะได้หนีออกจากบ้านโยทิ้งพิกัดให้ตามหา หรือไปในที่ที่จะหาเจอได้ง่ายๆ

                “พี่มินโฮ!!”แทมินวิ่งขึ้นมาหาพี่เขยที่ตอนนี้มีสีหน้าเหมือนโลกล่มสลาย มองงไปเห็นกระดาษที่แปะบบนบพื้นห้องก็พอจะเข้าใจได้ว่าอีกฝ่ายรู้เรื่องแล้ว

                “ผมว่าพี่ควรมาเห็นอะไรนี่”

                เป็นอีกครั้งที่ตาโตๆของคุณชายชเวเบิกกว้างหลังจากผ่านไปไม่ถึงสิบนาทีเลยด้วยซ้ำ..เพราะดูท่าคุณนายชเวมีความสุขกับการหนีออกจากบ้านเสียเหลือเกิน

                โพสอิทใบเล็กๆนับสิบใบแปะไว้ทั่วชั้นล่างทั้งห้องครัวห้องรับแขกห้องทานข้าว ดูท่าว่าจะออกไปตั้งแต่ช่วงเช้ามืดไม่มีใครได้สังเกตโดยมีคนรับใช้ที่รายงานมาว่า

                “คุณจินกิบอกมีธุระด่วนและไม่อยากให้ปลุกใคร”

                “แต่น่าจะบอกฉันบ้างสิ!”เสียงทุ้มขึ้นเสียงดังใส่หุ่นยนต์คนรับใช้ที่มีสีหน้าเรียบนิ่ง และเจ้าหุ่นยนต์ที่มีระบบประมวลผลก็ตอบกลับมาจนคุณชายชเวแทบจะลมจับ

                “คุณจินกิสั่งห้ามบอกใคร เมื่อคำนวณความปลอดภัยในการดำรงอยู่จึงสรุปได้ว่าคำสั่งคุณจินกิถือเป็นสิ่งที่เด็ดขาดที่สุดเจ้าค่ะ”

                ชเวมินโฮโดนเมียทิ้ง!!!

              ‘ไม่ต้องตามหา’ ‘หาให้ตายก็ไม่เจอ’ ‘เอ ไปต่างประเทศดีมั้ยนะ’ ‘กรุณาอย่าตามหาจนกว่าจะคิดได้’ ‘ต่างจังหวัดก็น่าไปดีเนอะ’ ‘ตามเจอก็ไม่กลับ’ ‘อย่าหาซะให้ยาก’ ‘อย่าเสียเวลาเลย’ ‘เหนื่อยเปล่านะจะบอกให้

                แถมยังมีโพสอิทให้กำลังใจมากมายกว่าสิบใบทั่วบ้าน...

                มือหนาหยิบโทรศัพท์มาทันทีแทบไม่ต้องคิด โทรสั่งการให้ทุกคนติดตามเส้นทางการใช้เงินของชเวจินกิจากบัตรเครดิทและกดเงินสด ใช้อำนาจที่นานๆทีจะใช้เพื่อสิ่งสำคัญที่สุด..ตามหาเมีย

                “อะไรกันเนี่ย”ชเวคนพี่เดินเข้ามาในห้องทานข้าวก็พบกับบรรยากาศตึงเครียดจากตัวน้องชายที่น่าหมั่นไส้ และท่าทางกังวลเล็กๆของอีแทมิน

                “พี่จินกิหนีออกจากบ้านไปนะครับ พี่มินโฮเลยพยายามตามหาอยู่”

                “อ้าว ไปตั้งแต่กี่โมงล่ะนั่น”

                “หุ่นยนต์บอกราวๆตีสามน่ะพี่”อีแทมินตอบไปก่อนจะตัดสินใจว่าควรออกไปมหาวิทยาลัยแล้ว เขาเองไม่ได้ห่วงอะไรมากนักและคิดว่าป่านนี้พี่ชายเขาคงไปอยู่ที่ไหนซักแห่งแล้วแน่ๆ

                “ไม่ ไม่ต้องประกาศออกสื่อ ฉันไม่อยากให้พ่อตาฉันรู้ เจอเบาะแสแล้วรีบติดต่อด้วย”วางสายโทรศัพท์ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ชเวซีวอนก็ไม่รู้จะช่วยอะไรได้นอกจาตบไหล่คนเป็นน้องเบาๆ อีแทมินก็พูดให้กำลังใจสองสามคำก่อนจะออกเดินทางไปเรียน

                เวลาแห่งความตึงเครียดผ่านไปราวครึ่งชั่วโมงจนในที่สุดโทรศัพท์ของชเวมินโฮก็แผดเสียงขึ้นและรีบกดรับทันที

                “ว่าไง ได้อะไรมาบ้าง....จินกิไปถอนเงินจากธนาคารเมื่อไม่กี่นาทีนี้ที่ทงแดมุน? ขอบใจมาก!”วางสายแล้วรีบไปลุกขึ้นยืนในขณะที่ซีวอนตั้งท่าจะพูดอะไรออกมาแต่ก็ไม่ทันมินโฮที่หันกลับมาสั่งพี่ชายอย่างเร่งรีบ

                “วันนี้ไม่ทำงาน พี่ซีวอนไปทำแทนผมอีกวันนึงหน่อยนะ!

                “เห้ย!! เดี๋ยวสิ ฉันมีนัดนะ!  ไอ้น้องบ้า ไอ้..ไอ้ ไอ้กบ!!

                ชเวซีวอนไม่รู้จะทำยังไงได้นอกจากจำใจหยิบโทรศัพท์ไปเลื่อนนัดกับใครคนหนึ่งที่ใช้เวลานานกว่าจะขอมานัดเดทได้สำเร็จ

                “เอ่อ..วันนี้ พี่ต้องไปทำงาน เรื่องเที่ยวคงไปไม่ได้”ปลายสายมีเพียงความเงียบงันโนที่ซีวอนก็กลั้นใจรอคำตอบจนในที่สุดผ่านไปเกือบนาที อีกฝ่ายกดวางสายทิ้งไป..

                “เฮ้ย!! ฮัลโหล เดี๋ยวสิ อย่าวางสายแบบนี้สิ..”

                ชเวซีวอนที่น่าสงสาร..น้องชายทะเลาะกับภรรยาตัวเองก็ดันซวยมารับเคราะห์ซะได้

                คุณชายชเวผู้ร้อนใจกับการหนีออกจากบ้านของภรรยาได้บิดคันเร่งมอเตอรไซค์จนกระทั่งมาถึงทงแดมุน ดวงตากวาดมองไปรอบๆด้วยความหวังว่าจะพบเจอกับร่างนุ่มนิ่มของภรรยาที่อยู่แถวนี้ และตอนนี้ได้แต่ภาวนาว่าจะยังไม่ออกไปไหนหรือไปยังต่างประเทศ..สมัยนี้ไปอีกซีกโลกก็ใช้เวลาแค่สามสี่ชั่วโมงเท่านั้น

                ถ้าไปสนามบินแล้วจะทำยังไงล่ะ..

                พอคิดได้ก็กดโทรศัพท์โทรออกไปยังฝ่ายสืบค้นอีกรอบเพื่อให้คอยจับตาดูว่าชเวจินกิจะไปไฟลท์บินไหน รวมถึงให้ติดต่อไปยังเครื่องบินส่วนตัวและเรือสำราญทั้งหมดถ้าคุณนายชเวได้ไปติดต่อเพื่อออกเดินทาง ขายาวก้าวเดินไปยังธนาคารก่อนจะเข้าไปและคนที่อยู่ในนั้นได้แต่เบิกตากว้างกับท่าทางคุณชายชเวมาดเนี๊ยบเสมอดูร้อนรน

                “มีอะไรให้รับใช้รึเปล่าคะ”

                “ชเวจินกิมาที่นี่ใช่มั้ย เขามีท่าทางยังไงและไปทางไหน”

                “คะ? ใช่ค่ะ คุณจินกิมาถอนเงินไปเมื่อครู่จำนวนล้านวอนค่ะ..ถอนไปเยอะมากและท่าทางก็ค่อนข้างรีบด้วยค่ะ เพราะจำนวนเงินมากเลยต้องรอซักครู่เลยเพิ่งออกไปไม่นานี้ค่ะ ไปทางขวามือ”

                “ขอบใจมาก”พนักงานธนาคารมองตามชายผู้คมอำนาจเศรษฐกิจในประเทศไว้ด้วยความงุนงง ความสงสัยแผ่กระจายไปทั่วและเริ่มคุยกันสนุกปาก

                โดนเมียทิ้งบ้างล่ะ เมียยักยอกเงินแล้วหนีบ้างล่ะ เมียมีกิ๊กบ้างล่ะ โดนซ้อมจนต้องหนี สารพัดสารเพแต่จะมีใครรู้บ้างเล่าว่าชเวจินกิน่ะ..แค่หนีออกจากบ้าน

                ร่างสูงกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปตามทางที่บอกแต่ก็ไม่พบใคร ติดต่อไปที่เครื่องเท่าไหร่ก็ไม่มีการรับสายจนชักหงุดหงิด เดินไปเดินมาเกือบครึ่งชั่วโมงจนเริ่มถอดใจและโทรศัพท์ของชเวมินโฮก็สั่นอีกครั้ง

                “ว่าไง จินกิจองเครื่องบินไปฝรั่งเศส??? กี่โมง? สิบเอ็ดโมง! บ้าเอ๊ย”มินโฮอยากจะบ้าตายกับเมียคนสวยที่ตัดสินใจไปต่างประเทศ การตามตัวก็จะยิ่งยากขึ้นเพราะเขาไม่มีอำนาจแทรกแซงระบบของต่างชาติ กดโทรศัพท์กลับไปที่บ้านให้คนใช้เตรียมเสื้อผ้าเรียบร้อยและให้คนเอาไปให้ที่สนามบิน รวมถึงจองโรงแรมไว้เลยหนึ่งอาทิตย์

                ทำไมการจะมีลูกของชเวมินโฮถึงยากลำบากแบบนี้ พระเจ้ากำลังทดสอบความตั้งใจจริงของเขารึไงกัน!!

                ในขณะที่ชายชเวคนหล่อแทบทึ้งหัวกลางทงแดมุน บนแท็กซี่คันหนึ่งคุณนายชเวจินกิกลับนั่งสบายใจพลางเปิดกระเป๋าดูข้าวของเครื่องใช้ภายใน นึกถึงดินแดนแห่งศิลปะก็อดยิ้มออกมาไม่ได้

                หนีออกจากบ้านทั้งทีก็ขอทำตัวโสดซักหน่อยล่ะนะ ไม่ได้เที่ยวคนเดียวมานานจนจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายคือเมื่อไหร่

                มองนาฬิกาข้อมือก็บอกเวลาว่าสิบโมงเข้าไปแล้ว นึกถึงหน้าหล่อๆของคุณสามีแล้วอดขำออกมาไม่ได้ ป่านนี้คงจะวุ่นวายหัวหมุนตามหาเขาที่ทงแดมุนอยู่แน่นอน

                ให้สำนึกซะบ้างว่าทำให้ชเวจินกิโกรธน่ะเป็นยังไง

                โทรศัพท์ยังคงสั่นระรัวจนในที่สุดร่างเพรียวตัดสินใจหยิบมากดปิดเครื่อง เป็นการหนีออกจากบ้านที่ง่ายแสนง่ายและสะดวกสบายที่สุด เมื่อสบายใจเสียงนุ่มก็ฮัมเพลงออกมาเบาๆเพราะแท็กซี่นี้ไม่ใช่คนขับจึงสบายใจได้ว่าจะไม่มีใครหาว่าเขาบ้า

                สู้ต่อไปนะคุณสามี แต่ให้ตายก็หาเขาไม่เจอหรอก

                คนหนึ่งกำลังฮัมเพลงสบายใจ อีกคนกลับเครียดจนไมเกรนจะขึ้นและรีบเดินทางไปสนามบินอย่างด่วนที่สุด และพี่ชายผู้แสนดีชเวซีวอนก็น้ำตาตกในเซ็นเอกสารไปแทบปาดน้ำตาไป..แต่คงมีแค่อีแทมินที่ลั้ลลากับทูคิมในมหาวิทยาลัยไม่ร้อนใจกับการหนีออกจากบ้านของพี่ชายซักเท่าไหร่

                “ไม่ห่วงพี่จินกิหน่อยหรอแทมิน”เสียงของคีย์ทำให้แทมินเงยหน้าจากเกมในโทรศัพท์แล้วส่ายหน้าไปให้ โดยมีคิมจงฮยอนนอนหนุนตักอยู่ แทมินเอียงใบหน้าไปซบไหล่ของคีย์ก่อนจะพูดขึ้น

                “เดี๋ยวพี่มินโฮก็ตามเจอเองแหละ”

                “นั่นสิคีย์ อย่าคิดมากเลยน่า”จงฮยอนพูดสนับสนุนก่อนจะผุดลุกขึ้นมานั่งแทน มองไปยังใบหน้าสวยก็เริ่ดหล่อก็เท่ของแทมินพลางพินิจพิจารณา

                อีแทมินนับวันจะแมนขึ้นแบบนี้..คิมจงฮยอนจะแห้วมั้ยนะ

                “มองอะไรจงฮยอน”

                “เปล่า..วันนี้ไปเที่ยวไหนกันดี”

                “ไปช็อป!”เสียงคีย์ดังขึ้นทำเอาคนเบื่อการเดินซื้อเสื้อผ้ากรอกตาทันที จงฮยอนมองไปยังแทมินเพื่อรอคำตอบที่น่าจะดีกว่านี้

                “ไม่ไปไหนอ่ะ จะกลับบ้าน คีย์ไปเที่ยวกับจงฮยอนละกันนะ”

                “แทมินไม่ไปคีย์ก็ไม่ไป!

                “ฉันก็จะไม่ไปไหนเหมือนกัน”แทมินมองคนสองคนที่ชอบทำเขาสับสนทางเพศแล้วยิ้มออกมา มือเรียวจับมือทูคิมให้แตะกันแล้วพูดขึ้นเสียงใสจนคนได้ยินปฏิเสธไม่ลง

                “ไปเที่ยวกันสองคนบ้างก็ได้ อยู่กับฉันตลอดเลยนี่นา”

                คิมจงฮยอนกับคิมคีบอมมองหน้ากันไปมาก่อนในที่สุดจะถอนหายใจและตัดสินใจไปเที่ยวกันสองคน..

                อีกด้านหนึ่งคือสาวงามนามเจสสิก้าที่วันนี้ลงทุกแต่งสวยมาก็หน้าคว่ำกอดอกเมื่อท่านรองประธานไม่มาทำงาน ระหว่างกำลังคิดถึงสาเหตุที่ไม่มาทำงานพร้อมกับชเวจินกิก็รู้สึกได้ถึงการจับจ้องมา

                “พี่เจสสิก้าคะ”สาวมาดเท่ตัวสูงแต่สวยขั้นสุดมองมายังเธอด้วยท่าทางประหม่าแบบเห็นได้ชัด สาวร่างบางเลิกคิ้วมองเป็นเชิงถามว่าอะไร

                “ฉัน..อยากชวนพี่ไปกินข้าวด้วย”

                “ไม่ไปจ้ะ มีนัดกินข้าวกับยัยคริสตัล”อ้างชื่อน้องสาวตัวดีที่ตอนนี้คงอยู่ที่มหาวิทยาลัยกับแฟนสาวที่หล่อระเบิด ควอนยูริกลับยิ้มออกมาให้ทำให้รู้สึกหวั่นไหวบอกไม่ถูก

                “คริสตัลบอกเรียนถึงบ่ายนี่คะ พี่ปฏิเสธฉันไม่ได้แล้วนะคราวนี้”เจสสิก้าเบิกตากว้างกับยัยสูงที่ไม่รู้ไปสืบมาจากไหน แต่ในเมื่อวันนี้ท่านรองประธานไม่มาและว่างเหลือเกินเพราะงานผู้ช่วยเลขาก็ทำเสร็จไปแล้ว สุดท้ายจึงยอมไปกับผู้หญิงที่มาชวนอยู่นี่

                “ที่ไหนล่ะ? เธอเลี้ยงนะ”

                ชเวมินโฮมายืนอยู่ในสนามบินเพื่อมองหาคนสวยของเขาที่น่าจะมาถึงแล้ว แต่ผู้คนพลุกพล่านก็ยากเกินกว่าจะหาเจอและตอนนี้ก็เกือบสิบเอ็ดโมงเข้าไปแล้ว คนจองตั๋วเครื่องบินไฟลท์เดียวกันไม่ทันหรือไม่ก็ชเวจินกิจงใจเลือกไฟลท์บินที่เหลือที่ว่างที่เดียวถอนหายใจด้วยความหงุดหงิดและกดโทรศัพท์โทรออกอีกครั้ง

                “เอาเครื่องบินส่วนตัวฉันออกมา จะไปฝรั่งเศส ยกเลิกไฟลท์ตอนเที่ยงเดี๋ยวนี้เลย”

                ต่อให้ไปสุดหล้าฟ้าเขียว ชเวมินโฮจะต้องตามหาชเวจินกิให้เจอให้จงได้!!

               

    TBC.

                อัพอีกแล้ว~ เป็นเรื่องที่เขียนด้วยความสนุกไม่มีสาระเจือปนจริงๆค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ และเริ่มเพิ่มบทบาทตัวละครอืนๆเข้าไปด้วย ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามและขอบคุณคนใหม่ๆที่เข้ามาอ่านนะคะ ขอบคุณมากค่า

     

    MINOR
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×