ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Danger : ภัยซ่อนเร้น
   
   
ไม่ได้เขียนซะนานฝีมือเลยอาจจะตกลงไปบ้าง มีคำผิดหรือจุดตรงไหนผิดก็ช่วยบอกด้วยนะครับ    ขอบคุณครับ
   
   
ย้อนกลับไปเมื่อเวลาก่อนหน้านั้น ครึ่งชั่วโมง
“ต็อก แต็กๆ” เสียงฝีเท้าของใครบางคนเดินแหวกความมือเข้ามา
“ตุ๊บ” คนๆนั้นหยุดเดินเมื่อ เมื่อมองขึ้นไปจากเท้าจนถึงหน้าแล้วจะพบว่าคนๆนั้นเป็นผู้ชายที่ใส่เสื้อสูทสีดำ ผมสีทองอร่าม บนหน้าผากของเขามีรอยไหม้อยู่เล็กน้อย ซึ่งถ้าหากสังเกตอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วละก็เราจะพบว่าเขาเป็นผู้ชายที่เดินแหวกความมืดที่คุกในตอนแรกนั้นเอง
“คลืดดด!” ประตูอัตโนมัติเปิดออกอย่างรวดเร็วเมื่อมีคนเดินเข้า
    ข้างในห้องมีสภาพรกเละเทะ มีขยะและเศษอาหารตกเกลื่อนเต็มพื้นอยู่ทั่วห้อง อุณหภูมิของห้องถูกปรับอย่างไม่สนค่าไฟ ซึ่งสังเกตได้จากเครื่องปรับอากาศ มีแสงสลัวๆจากโคมไฟและเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เปิดอยู่เล็กน้อย ที่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์มีเด็กชายกำลังยิ้มและใช้คอมพิวเตอร์อย่างตื่นเต้นราวกับว่าไม่เคยใช้คอมพิวเตอร์มาก่อน แต่เขาก็โชคไม่ดีเอาเสียเลยที่มีคนมาขัดจังหวะความสุขของเขา
    เด็กชายหันหน้ามามองที่ชายผู้นั้นอย่างไม่สบอารมณ์แล้วรีบพูดด้วยน้ำเสียงที่พึงพอใจซะเท่าไหร่
“มีอะไรกับฉันเนี่ย ฉันบอกแล้วไงว่าอย่ารบกวนฉันเวลาใช้คอมพ์”
“ขอประทานโทษด้วยครับคุณเฮสส์ แต่ทางเรามีปัญหาทางคอมพิวเตอร์ที่ให้ท่านช่วยครับ”ชายหนุ่มพูดอย่างสุภาพ
“ปัญหา!? นี่พวกแกก็มีปัญหาเหมือนกับชาวบ้านเค้าด้วยหรอเนี่ย? ไม่น่าเชื่อเลยวะ!”
“ครับ ทางเราเลยจะมาขอให้คุณช่วยพวกเราหน่อย”
“พวกแกมีปัญหาก็แก้ปัญหากันเองสิ พวกแกมีเครื่องมือครบครัน ช่างฝีมือเยอะแยะ เงินมากมาย แล้วทำไมยังต้องมาขอให้ฉันช่วยอีก อะไรของพวกแกวะเนี่ย!” เด็กหนุ่มเริ่มอารมณ์ขุ่นมัวจนสังเกตได้จากหน้าตาของเด็กชายและมีทีท่าว่าจะไม่ให้ความช่วยเหลือแก่ชายผู้นั้น
ในเมื่อการการขอร้องไม่ได้ผล ชายผู้นั้นก็เลยต้องหาอะไรบางอย่างมาสร้างความสนใจ ”คือ ปัญหาที่เรามีเนี่ยเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเพทริคซ์ด้วยนะครับ” ชายผู้นั้นกล่าว
ดูเหมือนการสร้างความสนใจจะได้ผลเล็กน้อย เฮสส์เริ่มมองที่เขาอีกครั้งแล้วเริ่มถามด้วยเสียงที่เงียบลง  “เพทริคซ์รึ? อืมม... มันไปทำอะไรให้พวกแกยุ่งยากอีกละเนี่ย?”
“ครับ ไว้คุณเฮสส์ไปแล้วพวกเราจะบอกปัญหาที่เจอครับ” ชายหนุ่มพูดออกไปอย่างมั่นใจ
“มีงี้ด้วย” เด็กหนุ่มพูดแล้วก็คิดอยู่ซักพัก “ก็ได้ฉันจะไป นานๆทีได้เอาจริงก็ดีเหมือนกันแฮะ” เด็กชายตอบด้วยเสียงที่นุ่มนวลขึ้นแล้วหันไปหยิบแผ่นซีดีแผ่นหนึ่งที่อยู่บนชั้นวางซีดีเข้ากระเป๋า ชายหนุ่มจับตามอง
“ถ้าพร้อมแล้ว ก็ไปกันครับ” ชายหนุ่มเปิดทางให้เฮสส์ออกจากห้อง
\"นี่หรอคือแคร็กเกอร์ที่ลือกันว่าเป็นคนที่น่ากลัวและฉลาดที่สุดในโลก\" ชายผู้นั้นเดินไปคิดไป
\"เป็นไปไม่ได้ๆ ทำไมมีนิสัยอย่างนี้ ไม่เหมือนที่เราคิดไว้เลยหรือว่าทางเราจะพามาผิดคน\"
\"ไม่สิ! เป็นไปไม่ได้พวกเราก็เช็คอย่างละเอียดแล้วนิว่าเด็กคนนี้เป็นตัวจริง ทำไมมีนิสัยที่แตกต่างไปจากเมื่อ 3 ปีก่อน ทำไม หรือว่าจะอยู่ในคุกนานเกินไปหรือจะถูกพวกตำรวจล้างสมอง เป็นไปไม่ได้!\" ชายผู้นั้นคิด คิดจนเหงื่อตกจนเฮสส์สังเกตเห็นท่าทางที่ผิดปรกติของชายผู้นั้น
\"เฮ้ ฉันรู้นะแกคิดอะไรอยู่ดังนั้นอย่าคิดนะว่าฉันจะไม่รู้ ฉันดูคนเป็นนะเว้ย\" เด็กหนุ่มหันกลับมาพูดเสียงเบาด้วยใบหน้าที่ดูแตกต่างจากเดิมไปอย่างมาก ซึ่งดูเหมือนใบหน้าของฆาตกรที่ฆ่าคนมาแล้วนับไปถ้วนแล้วเด็กชายก็หันหน้ากลับไป
ชายผู้นั้นมองดูแล้วก็ขยี้ตาอีกครั้งรู้สึกว่าเขาจะเมื่อสายตาของตนเองเมื่อตะกี้เขาเริ่มเดินอย่างกระสับกระส่ายโคลงเคลงจนเขาเกือบเดินล้มด้วยความตกใจแต่เขาก็ยังเดินตามเด็กชายมาติดๆอยู่ด้วยความสงสัย   
ทั้ง 2 คนเดินผ่านห้องต่างๆไปจนถึงห้องๆหนึ่งที่มีลักษณะเป็นรูปเรขาคณิต 8 เหลี่ยมขนาดใหญ่ ตรงใจของกลางห้องมีเครื่อง super computer เครื่องขนาดยักษ์อยู่ มีเคาท์เตอร์ล้อมรอบซ้อนกันอยู่หลายชั้น   
ทันใดนั้นมีชายผู้หนึ่งเดินยิ้มเข้ามาหาทั้งคู่ พร้อมกับยื่นมือออกมาคิดจะเข้ามาจับมือด้วย
เด็กหนุ่มเหลือกตามองหน้าของชายหนุ่มผู้นั้นซักพัก เขาพบว่าชายผู้นั้นใส่สูทสีขาวไร้กระดุม เหมือนคนนั้นห้องนี้ตามปกติและใส่แว่นหนาเล็กน้อยคงเพราะทำงานหนักมามาก แล้วเด็กชายก็กลับตามองมาที่มือของขายหนุ่มใส่แว่นที่ยื่นมือออกมารอเขาอยู่ แล้วเขาก็เข้าไปจับมือด้วย
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ขอต้อนรับสู่ศูนย์กลางของระบบเครือข่ายรักษาความปลอดภัยของพวกเราครับ กระผม สมิทย์ ฟรีแมน ผู้ดูแลแผนกนี้ครับ” ชายหนุ่มพูดไปพลางเขย่ามือไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
เด็กชายกวาดตามองสิ่งต่างๆภายในห้องนี้แล้วหันกลับมาพูดเริ่มพูด “เอาละ เข้าเรื่องเลยดีกว่าฉันไม่ชอบยืดเยื้อไหนละปัญหาที่ว่า”
“ครับ เชิญทางนี้ได้เลยครับ” ชายผู้นั้นกวักมือให้แล้วเดินนำไปก่อน
พวกเขาได้เดินไปถหาคอมพ์ 2 เครื่องที่พบกำลังมีปัญหาอยู่พร้อมกับมีชาย 2 คนกำลังแก้ปัญหาอยู่ด้วย
“พวกเราจะขอให้คุณเฮสส์ช่วยล้างระบบป้องกันภัยของเพทริคซ์ให้หน่อยครับ”
“เชอะ แค่นี้เองหรอ? ชั้นไม่คิดเลยนะว่าพวกแกจะตกต่ำขนาดถึงกับไม่มีปัญญาล้างระบบป้องกันภัยของเพทริคซ์ได้ แต่เอาเหอะในเมื่อพวกแกทำไม่ได้เดี๋ยวฉันจะช่วยเอง”เด็กหนุ่มพูดอย่างไม่สบอารมณ์แล้วหันไปดูชายที่นั่งอยู่บนเครื่องคอมพ์แล้วไล่ให้ลุกขึ้น
เด็กชายนำแผ่นซีดีที่อยู่กับตัวเองออกมาใส่เข้าไปในคอมพ์แล้วเปิดโปรแกรมอะไรบางอย่างออกมาแล้วคีย์คำสั่งที่เป็นภาษาc++ที่ทำให้เขาสามารถล้างระบบป้องกันภัยของเพทริคซ์ได้อย่างง่ายดาย
ในขณะที่เขากำลังล้างระบบอยู่นั้นชายทั้ง 4 คนนั้นต่างจ้องมายังที่เขาด้วยความตื่นเต้นและไม่ได้ทำการขยับตัวไปไหนแม้แต่นิดเดียว
“เอาละฉันทำการล้างระบบป้องกันภัยให้หมดแล้วพวกแกจะทำอะไรก็เชิญ แต่ถ้าพวกแกมีปัญหาอะไรกับการเจอเพทริคซ์แล้วละก็ ฉันจะขอเป็นคนจัดการเขาเอง”
“ตามใจครับ” ชายใส่แว่นตอบพลางยิ้มไปด้วยอย่างมีเลศนัยไปด้วย และชายทั้ง 2 นั้นก็เข้ามานั่งแล้วทำการโจมตีใส่เป้าหมายอย่างไม่รู้ตัว......
   
ไม่ได้เขียนซะนานฝีมือเลยอาจจะตกลงไปบ้าง มีคำผิดหรือจุดตรงไหนผิดก็ช่วยบอกด้วยนะครับ    ขอบคุณครับ
   
   
ย้อนกลับไปเมื่อเวลาก่อนหน้านั้น ครึ่งชั่วโมง
“ต็อก แต็กๆ” เสียงฝีเท้าของใครบางคนเดินแหวกความมือเข้ามา
“ตุ๊บ” คนๆนั้นหยุดเดินเมื่อ เมื่อมองขึ้นไปจากเท้าจนถึงหน้าแล้วจะพบว่าคนๆนั้นเป็นผู้ชายที่ใส่เสื้อสูทสีดำ ผมสีทองอร่าม บนหน้าผากของเขามีรอยไหม้อยู่เล็กน้อย ซึ่งถ้าหากสังเกตอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วละก็เราจะพบว่าเขาเป็นผู้ชายที่เดินแหวกความมืดที่คุกในตอนแรกนั้นเอง
“คลืดดด!” ประตูอัตโนมัติเปิดออกอย่างรวดเร็วเมื่อมีคนเดินเข้า
    ข้างในห้องมีสภาพรกเละเทะ มีขยะและเศษอาหารตกเกลื่อนเต็มพื้นอยู่ทั่วห้อง อุณหภูมิของห้องถูกปรับอย่างไม่สนค่าไฟ ซึ่งสังเกตได้จากเครื่องปรับอากาศ มีแสงสลัวๆจากโคมไฟและเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เปิดอยู่เล็กน้อย ที่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์มีเด็กชายกำลังยิ้มและใช้คอมพิวเตอร์อย่างตื่นเต้นราวกับว่าไม่เคยใช้คอมพิวเตอร์มาก่อน แต่เขาก็โชคไม่ดีเอาเสียเลยที่มีคนมาขัดจังหวะความสุขของเขา
    เด็กชายหันหน้ามามองที่ชายผู้นั้นอย่างไม่สบอารมณ์แล้วรีบพูดด้วยน้ำเสียงที่พึงพอใจซะเท่าไหร่
“มีอะไรกับฉันเนี่ย ฉันบอกแล้วไงว่าอย่ารบกวนฉันเวลาใช้คอมพ์”
“ขอประทานโทษด้วยครับคุณเฮสส์ แต่ทางเรามีปัญหาทางคอมพิวเตอร์ที่ให้ท่านช่วยครับ”ชายหนุ่มพูดอย่างสุภาพ
“ปัญหา!? นี่พวกแกก็มีปัญหาเหมือนกับชาวบ้านเค้าด้วยหรอเนี่ย? ไม่น่าเชื่อเลยวะ!”
“ครับ ทางเราเลยจะมาขอให้คุณช่วยพวกเราหน่อย”
“พวกแกมีปัญหาก็แก้ปัญหากันเองสิ พวกแกมีเครื่องมือครบครัน ช่างฝีมือเยอะแยะ เงินมากมาย แล้วทำไมยังต้องมาขอให้ฉันช่วยอีก อะไรของพวกแกวะเนี่ย!” เด็กหนุ่มเริ่มอารมณ์ขุ่นมัวจนสังเกตได้จากหน้าตาของเด็กชายและมีทีท่าว่าจะไม่ให้ความช่วยเหลือแก่ชายผู้นั้น
ในเมื่อการการขอร้องไม่ได้ผล ชายผู้นั้นก็เลยต้องหาอะไรบางอย่างมาสร้างความสนใจ ”คือ ปัญหาที่เรามีเนี่ยเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเพทริคซ์ด้วยนะครับ” ชายผู้นั้นกล่าว
ดูเหมือนการสร้างความสนใจจะได้ผลเล็กน้อย เฮสส์เริ่มมองที่เขาอีกครั้งแล้วเริ่มถามด้วยเสียงที่เงียบลง  “เพทริคซ์รึ? อืมม... มันไปทำอะไรให้พวกแกยุ่งยากอีกละเนี่ย?”
“ครับ ไว้คุณเฮสส์ไปแล้วพวกเราจะบอกปัญหาที่เจอครับ” ชายหนุ่มพูดออกไปอย่างมั่นใจ
“มีงี้ด้วย” เด็กหนุ่มพูดแล้วก็คิดอยู่ซักพัก “ก็ได้ฉันจะไป นานๆทีได้เอาจริงก็ดีเหมือนกันแฮะ” เด็กชายตอบด้วยเสียงที่นุ่มนวลขึ้นแล้วหันไปหยิบแผ่นซีดีแผ่นหนึ่งที่อยู่บนชั้นวางซีดีเข้ากระเป๋า ชายหนุ่มจับตามอง
“ถ้าพร้อมแล้ว ก็ไปกันครับ” ชายหนุ่มเปิดทางให้เฮสส์ออกจากห้อง
\"นี่หรอคือแคร็กเกอร์ที่ลือกันว่าเป็นคนที่น่ากลัวและฉลาดที่สุดในโลก\" ชายผู้นั้นเดินไปคิดไป
\"เป็นไปไม่ได้ๆ ทำไมมีนิสัยอย่างนี้ ไม่เหมือนที่เราคิดไว้เลยหรือว่าทางเราจะพามาผิดคน\"
\"ไม่สิ! เป็นไปไม่ได้พวกเราก็เช็คอย่างละเอียดแล้วนิว่าเด็กคนนี้เป็นตัวจริง ทำไมมีนิสัยที่แตกต่างไปจากเมื่อ 3 ปีก่อน ทำไม หรือว่าจะอยู่ในคุกนานเกินไปหรือจะถูกพวกตำรวจล้างสมอง เป็นไปไม่ได้!\" ชายผู้นั้นคิด คิดจนเหงื่อตกจนเฮสส์สังเกตเห็นท่าทางที่ผิดปรกติของชายผู้นั้น
\"เฮ้ ฉันรู้นะแกคิดอะไรอยู่ดังนั้นอย่าคิดนะว่าฉันจะไม่รู้ ฉันดูคนเป็นนะเว้ย\" เด็กหนุ่มหันกลับมาพูดเสียงเบาด้วยใบหน้าที่ดูแตกต่างจากเดิมไปอย่างมาก ซึ่งดูเหมือนใบหน้าของฆาตกรที่ฆ่าคนมาแล้วนับไปถ้วนแล้วเด็กชายก็หันหน้ากลับไป
ชายผู้นั้นมองดูแล้วก็ขยี้ตาอีกครั้งรู้สึกว่าเขาจะเมื่อสายตาของตนเองเมื่อตะกี้เขาเริ่มเดินอย่างกระสับกระส่ายโคลงเคลงจนเขาเกือบเดินล้มด้วยความตกใจแต่เขาก็ยังเดินตามเด็กชายมาติดๆอยู่ด้วยความสงสัย   
ทั้ง 2 คนเดินผ่านห้องต่างๆไปจนถึงห้องๆหนึ่งที่มีลักษณะเป็นรูปเรขาคณิต 8 เหลี่ยมขนาดใหญ่ ตรงใจของกลางห้องมีเครื่อง super computer เครื่องขนาดยักษ์อยู่ มีเคาท์เตอร์ล้อมรอบซ้อนกันอยู่หลายชั้น   
ทันใดนั้นมีชายผู้หนึ่งเดินยิ้มเข้ามาหาทั้งคู่ พร้อมกับยื่นมือออกมาคิดจะเข้ามาจับมือด้วย
เด็กหนุ่มเหลือกตามองหน้าของชายหนุ่มผู้นั้นซักพัก เขาพบว่าชายผู้นั้นใส่สูทสีขาวไร้กระดุม เหมือนคนนั้นห้องนี้ตามปกติและใส่แว่นหนาเล็กน้อยคงเพราะทำงานหนักมามาก แล้วเด็กชายก็กลับตามองมาที่มือของขายหนุ่มใส่แว่นที่ยื่นมือออกมารอเขาอยู่ แล้วเขาก็เข้าไปจับมือด้วย
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ขอต้อนรับสู่ศูนย์กลางของระบบเครือข่ายรักษาความปลอดภัยของพวกเราครับ กระผม สมิทย์ ฟรีแมน ผู้ดูแลแผนกนี้ครับ” ชายหนุ่มพูดไปพลางเขย่ามือไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
เด็กชายกวาดตามองสิ่งต่างๆภายในห้องนี้แล้วหันกลับมาพูดเริ่มพูด “เอาละ เข้าเรื่องเลยดีกว่าฉันไม่ชอบยืดเยื้อไหนละปัญหาที่ว่า”
“ครับ เชิญทางนี้ได้เลยครับ” ชายผู้นั้นกวักมือให้แล้วเดินนำไปก่อน
พวกเขาได้เดินไปถหาคอมพ์ 2 เครื่องที่พบกำลังมีปัญหาอยู่พร้อมกับมีชาย 2 คนกำลังแก้ปัญหาอยู่ด้วย
“พวกเราจะขอให้คุณเฮสส์ช่วยล้างระบบป้องกันภัยของเพทริคซ์ให้หน่อยครับ”
“เชอะ แค่นี้เองหรอ? ชั้นไม่คิดเลยนะว่าพวกแกจะตกต่ำขนาดถึงกับไม่มีปัญญาล้างระบบป้องกันภัยของเพทริคซ์ได้ แต่เอาเหอะในเมื่อพวกแกทำไม่ได้เดี๋ยวฉันจะช่วยเอง”เด็กหนุ่มพูดอย่างไม่สบอารมณ์แล้วหันไปดูชายที่นั่งอยู่บนเครื่องคอมพ์แล้วไล่ให้ลุกขึ้น
เด็กชายนำแผ่นซีดีที่อยู่กับตัวเองออกมาใส่เข้าไปในคอมพ์แล้วเปิดโปรแกรมอะไรบางอย่างออกมาแล้วคีย์คำสั่งที่เป็นภาษาc++ที่ทำให้เขาสามารถล้างระบบป้องกันภัยของเพทริคซ์ได้อย่างง่ายดาย
ในขณะที่เขากำลังล้างระบบอยู่นั้นชายทั้ง 4 คนนั้นต่างจ้องมายังที่เขาด้วยความตื่นเต้นและไม่ได้ทำการขยับตัวไปไหนแม้แต่นิดเดียว
“เอาละฉันทำการล้างระบบป้องกันภัยให้หมดแล้วพวกแกจะทำอะไรก็เชิญ แต่ถ้าพวกแกมีปัญหาอะไรกับการเจอเพทริคซ์แล้วละก็ ฉันจะขอเป็นคนจัดการเขาเอง”
“ตามใจครับ” ชายใส่แว่นตอบพลางยิ้มไปด้วยอย่างมีเลศนัยไปด้วย และชายทั้ง 2 นั้นก็เข้ามานั่งแล้วทำการโจมตีใส่เป้าหมายอย่างไม่รู้ตัว......
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น