ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Hacker&Cracker : เปิดตำราจอมโจรอัจฉริยะ
  หลังจากนั้นมาอีก 3 เดือน
เด็กชายวัย 15 ปีคนหนึ่งกำลังง่วนกับการนำไฟล์ passwd และไฟล์ shadow ที่ได้มาเชื่อมด้วยคำสั่ง unshadow ของโปรแกรม John The Ripper โดยที่เขารู้ตัวว่าการกระทำเช่นนี้อาจจะทำให้เขาถูกจับ เพราะไม่มีอภิสิทธิ์ของ root แต่ใครจะไปสน ในเมื่อเขาไม่ได้แฮ็คด้วยคอมพิวเตอร์ของบ้านเขา แต่แฮ็คด้วยคอมพิวเตอร์ของบริษัทประกันแห่งหนึ่ง ในเมื่อฝั่งโน้นได้ไอพีมา มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก นอกเสียจากจะมีคนจำหน้าของเขาได้และรู้จักเขา
รอยยิ้มแห่งชัยชนะผุดขึ้นบนใบหน้าของเค้าในเมื่อการ unshadow เสร็จสิ้น ตอนนี้เขาก็ได้ password ที่สามารถนำไปใช้งานได้จริงมาแล้ว เขาได้รีบจัดการปิดโปรแกรม John The Ripper ทันทีแล้วถอดซีดีรอมออกเก็บเข้ากระเป๋ากางเกง โดยไม่ได้จัดการจดบันทึก password เอาไว้ นั่นไม่ใช่เพราะเขามีความจำที่ดีเลิศขนาดที่เห็น Password ครั้งเดียวก็จำได้หรอก แต่เพราะ John The Ripper นั้นสามารถเซฟรหัสที่แฮ็คมาได้ไว้ในไฟล์ john.pot อยู่แล้ว เค้าจึงไม่จำเป็นที่ต้องมาจดบันทึกมันอีก
เด็กชายหันซ้ายหันขวาแล้วค่อยๆเดินออกไปจากตัวอาคารอย่างกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เด็กชายยิ้มแป้นด้วยความดีใจท่ามกลางผู้คนที่เดินขวักไขว่ เมื่อเด็กหนุ่มเดินมาถึงจุดที่ปลอดคนแล้ว ความโล่งก็เผยให้เห็นใบหน้าของเค้าที่ใส่แว่นตาหนาเตอะ หน้าตาเจ้าเล่ห์ ผมที่ดูยุ่งไม่เป็นทรง ร่างกายซูบผอมเหมือนเด็กขาดสารอาหารแถมยังใส่เสื้อผ้าโทรมๆอีกตะหาก  การที่เด็กหนุ่มผู้นี้มีรูปร่างหน้าตาที่แย่แบบนี้อาจทำให้เค้าไม่มีหน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ทำให้หลายคนจำเค้าได้ยาก
แต่การที่เขาเข้าไปใช้คอมพิวเตอร์ของบริษัทอย่างมืออาชีพแล้วยังมีตัวอักขระแปลกๆเต็มหน้าจออีก มันคงเป็นเรื่องที่หน้าแปลกใจไม่น้อย สำหรับเด็กวัยรุ่นที่มีอายุแค่ 15 ปี เด็กชายก็มีสมาธิมากซะจนไม่สนใจคนรอบข้างที่จ้องการกระทำของเค้าอยู่แบบตาไม่กระพริบ เชื่อได้เลยว่าการที่เด็กชายเข้าไปแฮ็คแบบนี้ต้องมีคนจำหน้าเค้าได้แน่ๆ แต่คนอย่างเค้าคงไม่สนใจอยู่แล้วเพราะเค้ารู้ว่าไม่มีใครรู้ที่อยู่ของเค้า แถมยังไม่เคยถูก FBI หรือตำรวจหน้าไหนมาจับเค้าได้ ถึงแม้เขาเคยเกือบถูกจับก็เหอะ แต่ก็ไม่เคยนอนซังเตหรือเข้าศูนย์กักกันเด็กซักครั้งเดียว ทั้งๆที่เด็กหนุ่มคนนี้จะเริ่มแฮ็คตั้งแต่ 10 ขวบและแฮ็คมานับครั้งไม่ถ้วน
“เอี๊ยด” เสียงรถแท็กซี่เบรกดังขึ้นหน้าซอยเล็กๆที่หนึ่ง
“ขอบคุณที่ใช้บริการครับ” คนขับพูดเบาๆหลังจากที่รับเงินจำนวนหนึ่งมาก็รีบตะบี้ตะบันขับออกไปหาลูกค้ารายใหม่
เด็กชายรีบวิ่งเข้าไปในตรอกเล็กๆทางเดินข้างในทอดยาวไปจนสุดทางที่ประตูเหล็กเก่าๆบานหนึ่ง เเฮ็คเกอร์หนุ่มบิดลูกหมุนประตูแล้วดันเข้าไปอย่างง่ายดาย เนื่องจากประตูนี่ไม่ได้ล็อก
ข้างในห้องมืดเหมือนคุกใต้ดินไม่มีผิด จนกระทั่งเค้าเปิดไฟ
“ฟลุบ!” แฟลชไลท์สว่างขึ้นเป็นช่วงๆพร้อมกับให้ความอบอุ่นท่างกลางความหนาวเย็นเพราะเครื่องปรับอากาศที่ทำงาน สุดที่ปลายทางของห้องที่มีโต็ะคอมพิวเตอร์อยู่
เด็กชายปิดประตูแล้วจ้องดูที่มันพลางยิ้มด้วยความดีใจ แล้ววิ่งผ่านเศษขยะที่เขาทิ้งไว้ที่กองอยู่บนพื้น
เด็กหนุ่มนั่งลงบนเก้าอี้ก่อนที่จะเริ่มทำการเปิดมันขึ้นมาแล้วนั่งรอมันโหลดซักพักจนเสร็จ มือของเขาก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของเค้าแล้วหยิบแผ่นซีดีรอมขึ้นมาพร้อมที่จะใส่ลงในตัวขับซีดีรอม
ทุกครั้งที่เค้าจะเริ่มแฮ็ก เด็กหนุ่มมักจะหลับตาแล้วเริ่มถามตัวเองว่าเป็น แฮ็กเกอร์หรือแคร็กเกอร์กันแน่ แต่หนุ่มก็ตอบกับตัวเองทุกครั้งว่าเค้าเป็นแฮ็กเกอร์ ถึงแม้ว่าเขามักจะเจาะเข้าไปแล้วสร้างความเสียหายให้กับเซิฟเวอร์หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ใดๆก็ตาม แต่เขาก็ยังถือตัวเองเป็นแฮ็กเกอร์อยู่ดี
“ปิ๋ง!” เสียงดังขึ้นจากคอมพิวเตอร์ของเขา มันเป็นเสียงที่บอกว่ามีคนมาติดจ่อกับเค้าทาง ICQ
เด็กชายมองดูในขณะที่มือยังถือแผ่นซีดีคาไว้อยู่ พลางถอนหายใจแล้วบ่นไปในหัว “ใครกันหน๋อ?มาทำลายความสุขของเราในตอนนี้”
เด็กชายวางแผ่นซีดีไว้บนโต็ะแล้วเข้าไปดูที่ ICQ เพื่อดูว่าใครติดต่อเข้ามา
เมื่อเด็กชายเห็นชื่อบน ICQ แล้วเด็กชายถึงกับเริ่มถอนหายใจเป็นครั้งที่ 2 พร้อมกับพูดชื่อที่เค้าไม่อยากพูดขึ้นมา “มอส!”
“ไงเพทริคซ์ไม่ได้เจอกันมาซะนาน” คำๆหนึ่งปรากฎขึ้นบนหน้าจอ ICQ ของเค้า
มอสเป็นเพื่อนแฮ็กเกอร์ที่น่าเบื่อคนหนึ่งของเค้าบน ICQ ซึ่งมักจะมาติดต่อด้วยเมื่อมีปัญหาที่แก้ไม่ออก ก็มักจะมาขอให้เค้าช่วยอยู่เป็นประจำ โดยที่มักจะมาให้ขอเสนอแลกเปลี่ยนในการขอให้เค้าช่วย ความจริงแล้วเจ้ามอสนี่ก็ไม่ใช่แฮ็กเกอร์อยู่ซะทีเดียวหรอก เขาน่าจะเป็นนักเขียนไวรัส (Visus Writer) ซะมากกว่าเพราะเจ้าหมอนี่เขียนไวรัสได้เก่งกว่าเค้าซะอีก
“ตอนนี้ฉันไม่ว่างมีอะไรก็รีบบอกมา” เพทริคซ์ตอบกลับไป
“คืองี้นะเพื่อนฉันอยากให้นายช่วยหา username กับ passwd ของเซิร์ฟเวอร์ที่ฉันเมลให้นายหน่อยได้ไหม?”
“แล้วทำไมนายไม่หัดทำเองล่ะ” เพทริคซ์ตอบไปหาวไป เพราะเค้าคิดว่าครั้งนี้เค้าจะไม่ช่วยมอสอีกแล้ว เนื่องจากเขาไม่ใช้เบ้ และเค้าก็ไม่มีอารมณ์ที่จะช่วย
“ขอร้องละฉันทำเองไม่ได้เพราะเซิร์ฟเวอร์นี้มีการป้องกันที่แน่นหนา ฉันรู้ดีว่ามีนายคนเดียวเท่านั้นที่สามารถเจาะเข้าไปได้” ลูกไม้ยอของมอสหวังว่าจะให้เพทริคซ์ตอบตกลง แต่ดันได้รับคำตอบที่ตัวเองไม่อยากจะเห็นขึ้นมาแทน
“แล้ว ทำไมฉันต้องทำให้นายด้วย?” เพทริคซ์พิมพ์ตัวหนานั้นแสดงว่าเค้าเริ่มที่จะเซ็งเต็มทีแล้ว และเค้าก็ค่อยๆเลื่อนเมาส์ไปกะว่าจะไปปิด  ICQ ที่เพื่อนจอมยุ่งของเค้ากำลังพิมพ์แต่ว่า
“เอางี้นะเพื่อนฉันมีข้อมูลของเฮสส์มาใหม่ถ้านายอยากรู้ก็ขอให้นายช่วยฉันหน่อยนะ อย่างน้อยมันก็ดีกว่าที่นายจะรอให้ทีวีลงข่าว ถ้านายได้รู้ก่อนเป็นคนแรกๆมันก็ดีกว่าไม่ใช่หรอ?” มอสยื่นข้อเสนอสุดท้ายขึ้นมาและหวังว่ามันจะได้ผล
“อะไรนะเฮสส์หรอ!?” เพทริคซ์ถามขึ้นเผื่อว่ามอสจะเกิดพิมพ์ผิดขึ้นมา
“ใช่ครับจะรับข้อเสนอของผมไหมละ ถ้าหากนายช่วยฉันนายก็จะได้ข้อมูลมา”
เพทริคซ์นั่งคิดอยู่ซักครู่ในที่สุดความอยากรู้อยากเห็นก็ชนะทำให้เพทริคซ์รับปากไปและหวังว่า การช่วยมอสครั้งนี้จะได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าต่อเวลาที่เด็กหนุ่มคนนี้เสียไป
“ขอบคุณมาก ไว้เดี๋ยวผมจะติดต่อกลับไปถ้านายทำได้แล้ว” มอสตอบสั้นๆแล้วหายไปจากหน้าจอ ICQ
เด็กชายวัย 15 ปีคนหนึ่งกำลังง่วนกับการนำไฟล์ passwd และไฟล์ shadow ที่ได้มาเชื่อมด้วยคำสั่ง unshadow ของโปรแกรม John The Ripper โดยที่เขารู้ตัวว่าการกระทำเช่นนี้อาจจะทำให้เขาถูกจับ เพราะไม่มีอภิสิทธิ์ของ root แต่ใครจะไปสน ในเมื่อเขาไม่ได้แฮ็คด้วยคอมพิวเตอร์ของบ้านเขา แต่แฮ็คด้วยคอมพิวเตอร์ของบริษัทประกันแห่งหนึ่ง ในเมื่อฝั่งโน้นได้ไอพีมา มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก นอกเสียจากจะมีคนจำหน้าของเขาได้และรู้จักเขา
รอยยิ้มแห่งชัยชนะผุดขึ้นบนใบหน้าของเค้าในเมื่อการ unshadow เสร็จสิ้น ตอนนี้เขาก็ได้ password ที่สามารถนำไปใช้งานได้จริงมาแล้ว เขาได้รีบจัดการปิดโปรแกรม John The Ripper ทันทีแล้วถอดซีดีรอมออกเก็บเข้ากระเป๋ากางเกง โดยไม่ได้จัดการจดบันทึก password เอาไว้ นั่นไม่ใช่เพราะเขามีความจำที่ดีเลิศขนาดที่เห็น Password ครั้งเดียวก็จำได้หรอก แต่เพราะ John The Ripper นั้นสามารถเซฟรหัสที่แฮ็คมาได้ไว้ในไฟล์ john.pot อยู่แล้ว เค้าจึงไม่จำเป็นที่ต้องมาจดบันทึกมันอีก
เด็กชายหันซ้ายหันขวาแล้วค่อยๆเดินออกไปจากตัวอาคารอย่างกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เด็กชายยิ้มแป้นด้วยความดีใจท่ามกลางผู้คนที่เดินขวักไขว่ เมื่อเด็กหนุ่มเดินมาถึงจุดที่ปลอดคนแล้ว ความโล่งก็เผยให้เห็นใบหน้าของเค้าที่ใส่แว่นตาหนาเตอะ หน้าตาเจ้าเล่ห์ ผมที่ดูยุ่งไม่เป็นทรง ร่างกายซูบผอมเหมือนเด็กขาดสารอาหารแถมยังใส่เสื้อผ้าโทรมๆอีกตะหาก  การที่เด็กหนุ่มผู้นี้มีรูปร่างหน้าตาที่แย่แบบนี้อาจทำให้เค้าไม่มีหน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ทำให้หลายคนจำเค้าได้ยาก
แต่การที่เขาเข้าไปใช้คอมพิวเตอร์ของบริษัทอย่างมืออาชีพแล้วยังมีตัวอักขระแปลกๆเต็มหน้าจออีก มันคงเป็นเรื่องที่หน้าแปลกใจไม่น้อย สำหรับเด็กวัยรุ่นที่มีอายุแค่ 15 ปี เด็กชายก็มีสมาธิมากซะจนไม่สนใจคนรอบข้างที่จ้องการกระทำของเค้าอยู่แบบตาไม่กระพริบ เชื่อได้เลยว่าการที่เด็กชายเข้าไปแฮ็คแบบนี้ต้องมีคนจำหน้าเค้าได้แน่ๆ แต่คนอย่างเค้าคงไม่สนใจอยู่แล้วเพราะเค้ารู้ว่าไม่มีใครรู้ที่อยู่ของเค้า แถมยังไม่เคยถูก FBI หรือตำรวจหน้าไหนมาจับเค้าได้ ถึงแม้เขาเคยเกือบถูกจับก็เหอะ แต่ก็ไม่เคยนอนซังเตหรือเข้าศูนย์กักกันเด็กซักครั้งเดียว ทั้งๆที่เด็กหนุ่มคนนี้จะเริ่มแฮ็คตั้งแต่ 10 ขวบและแฮ็คมานับครั้งไม่ถ้วน
“เอี๊ยด” เสียงรถแท็กซี่เบรกดังขึ้นหน้าซอยเล็กๆที่หนึ่ง
“ขอบคุณที่ใช้บริการครับ” คนขับพูดเบาๆหลังจากที่รับเงินจำนวนหนึ่งมาก็รีบตะบี้ตะบันขับออกไปหาลูกค้ารายใหม่
เด็กชายรีบวิ่งเข้าไปในตรอกเล็กๆทางเดินข้างในทอดยาวไปจนสุดทางที่ประตูเหล็กเก่าๆบานหนึ่ง เเฮ็คเกอร์หนุ่มบิดลูกหมุนประตูแล้วดันเข้าไปอย่างง่ายดาย เนื่องจากประตูนี่ไม่ได้ล็อก
ข้างในห้องมืดเหมือนคุกใต้ดินไม่มีผิด จนกระทั่งเค้าเปิดไฟ
“ฟลุบ!” แฟลชไลท์สว่างขึ้นเป็นช่วงๆพร้อมกับให้ความอบอุ่นท่างกลางความหนาวเย็นเพราะเครื่องปรับอากาศที่ทำงาน สุดที่ปลายทางของห้องที่มีโต็ะคอมพิวเตอร์อยู่
เด็กชายปิดประตูแล้วจ้องดูที่มันพลางยิ้มด้วยความดีใจ แล้ววิ่งผ่านเศษขยะที่เขาทิ้งไว้ที่กองอยู่บนพื้น
เด็กหนุ่มนั่งลงบนเก้าอี้ก่อนที่จะเริ่มทำการเปิดมันขึ้นมาแล้วนั่งรอมันโหลดซักพักจนเสร็จ มือของเขาก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของเค้าแล้วหยิบแผ่นซีดีรอมขึ้นมาพร้อมที่จะใส่ลงในตัวขับซีดีรอม
ทุกครั้งที่เค้าจะเริ่มแฮ็ก เด็กหนุ่มมักจะหลับตาแล้วเริ่มถามตัวเองว่าเป็น แฮ็กเกอร์หรือแคร็กเกอร์กันแน่ แต่หนุ่มก็ตอบกับตัวเองทุกครั้งว่าเค้าเป็นแฮ็กเกอร์ ถึงแม้ว่าเขามักจะเจาะเข้าไปแล้วสร้างความเสียหายให้กับเซิฟเวอร์หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ใดๆก็ตาม แต่เขาก็ยังถือตัวเองเป็นแฮ็กเกอร์อยู่ดี
“ปิ๋ง!” เสียงดังขึ้นจากคอมพิวเตอร์ของเขา มันเป็นเสียงที่บอกว่ามีคนมาติดจ่อกับเค้าทาง ICQ
เด็กชายมองดูในขณะที่มือยังถือแผ่นซีดีคาไว้อยู่ พลางถอนหายใจแล้วบ่นไปในหัว “ใครกันหน๋อ?มาทำลายความสุขของเราในตอนนี้”
เด็กชายวางแผ่นซีดีไว้บนโต็ะแล้วเข้าไปดูที่ ICQ เพื่อดูว่าใครติดต่อเข้ามา
เมื่อเด็กชายเห็นชื่อบน ICQ แล้วเด็กชายถึงกับเริ่มถอนหายใจเป็นครั้งที่ 2 พร้อมกับพูดชื่อที่เค้าไม่อยากพูดขึ้นมา “มอส!”
“ไงเพทริคซ์ไม่ได้เจอกันมาซะนาน” คำๆหนึ่งปรากฎขึ้นบนหน้าจอ ICQ ของเค้า
มอสเป็นเพื่อนแฮ็กเกอร์ที่น่าเบื่อคนหนึ่งของเค้าบน ICQ ซึ่งมักจะมาติดต่อด้วยเมื่อมีปัญหาที่แก้ไม่ออก ก็มักจะมาขอให้เค้าช่วยอยู่เป็นประจำ โดยที่มักจะมาให้ขอเสนอแลกเปลี่ยนในการขอให้เค้าช่วย ความจริงแล้วเจ้ามอสนี่ก็ไม่ใช่แฮ็กเกอร์อยู่ซะทีเดียวหรอก เขาน่าจะเป็นนักเขียนไวรัส (Visus Writer) ซะมากกว่าเพราะเจ้าหมอนี่เขียนไวรัสได้เก่งกว่าเค้าซะอีก
“ตอนนี้ฉันไม่ว่างมีอะไรก็รีบบอกมา” เพทริคซ์ตอบกลับไป
“คืองี้นะเพื่อนฉันอยากให้นายช่วยหา username กับ passwd ของเซิร์ฟเวอร์ที่ฉันเมลให้นายหน่อยได้ไหม?”
“แล้วทำไมนายไม่หัดทำเองล่ะ” เพทริคซ์ตอบไปหาวไป เพราะเค้าคิดว่าครั้งนี้เค้าจะไม่ช่วยมอสอีกแล้ว เนื่องจากเขาไม่ใช้เบ้ และเค้าก็ไม่มีอารมณ์ที่จะช่วย
“ขอร้องละฉันทำเองไม่ได้เพราะเซิร์ฟเวอร์นี้มีการป้องกันที่แน่นหนา ฉันรู้ดีว่ามีนายคนเดียวเท่านั้นที่สามารถเจาะเข้าไปได้” ลูกไม้ยอของมอสหวังว่าจะให้เพทริคซ์ตอบตกลง แต่ดันได้รับคำตอบที่ตัวเองไม่อยากจะเห็นขึ้นมาแทน
“แล้ว ทำไมฉันต้องทำให้นายด้วย?” เพทริคซ์พิมพ์ตัวหนานั้นแสดงว่าเค้าเริ่มที่จะเซ็งเต็มทีแล้ว และเค้าก็ค่อยๆเลื่อนเมาส์ไปกะว่าจะไปปิด  ICQ ที่เพื่อนจอมยุ่งของเค้ากำลังพิมพ์แต่ว่า
“เอางี้นะเพื่อนฉันมีข้อมูลของเฮสส์มาใหม่ถ้านายอยากรู้ก็ขอให้นายช่วยฉันหน่อยนะ อย่างน้อยมันก็ดีกว่าที่นายจะรอให้ทีวีลงข่าว ถ้านายได้รู้ก่อนเป็นคนแรกๆมันก็ดีกว่าไม่ใช่หรอ?” มอสยื่นข้อเสนอสุดท้ายขึ้นมาและหวังว่ามันจะได้ผล
“อะไรนะเฮสส์หรอ!?” เพทริคซ์ถามขึ้นเผื่อว่ามอสจะเกิดพิมพ์ผิดขึ้นมา
“ใช่ครับจะรับข้อเสนอของผมไหมละ ถ้าหากนายช่วยฉันนายก็จะได้ข้อมูลมา”
เพทริคซ์นั่งคิดอยู่ซักครู่ในที่สุดความอยากรู้อยากเห็นก็ชนะทำให้เพทริคซ์รับปากไปและหวังว่า การช่วยมอสครั้งนี้จะได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าต่อเวลาที่เด็กหนุ่มคนนี้เสียไป
“ขอบคุณมาก ไว้เดี๋ยวผมจะติดต่อกลับไปถ้านายทำได้แล้ว” มอสตอบสั้นๆแล้วหายไปจากหน้าจอ ICQ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น