ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Preluge : Count Down! นับถอยหลังสู่วันอวสานโลก
ใครอ่านแล้วก็ช่วยคอมเม้นหน่อยนะครับว่าคำอธิบายเรื่องทำได้ดียัง ฟังแล้วน่าติดตามไหม น่าอ่านไหม แล้วน่าสนใจไหน ควนปรับปรุงตรงไหนบ้าง คะแนนเต็ม10 ควรได้เท่าไหร่ แล้วรูปภาพทำได้ดี สวย แล้วน่าสนใจมากไหม ขอบคุณครับ
เสียงฝีเท้าของผู้คุมนักโทษคนหนึ่งค่อยๆเดินอย่างช้าๆพร้อมกับผู้ติดตามอีก 3 คนข้างหลังผ่านห้องขังไปหลายห้อง ผู้คุมได้หยุดเดิน เมื่อเบื้องหน้าของเขาคือประตูเหล็กบานใหญ่ที่ดูเก่ามากบานหนึ่ง ในมือของเขามีกุญแจอยู่หลายดอก มันส่งเสียงกรุ๊งกริ๊งเมื่อกระทบกัน เขาพยายามไขประตูออก
"กริ๊ก"
เสียงของกุญแจอันเป็นหลักฐานว่าเขาไขกลอนประตูออกแล้ว เขาพยายามดันประตูบานใหญ่เต็มแรง และแล้ว....
"เอี๊ยด"
เสียงเสียดสีของบานประตูที่บ่งบอกอายุการใช้งานของมันได้เป็นอย่างดีดังเอี๊ยดอ๊าดช้าๆแสบแก้วหู ไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่าไม่ได้ถูกใช้งานบ่อยๆเป็นแน่แท้
ผู้คุมผลักประตูเข้าไปข้างในอย่างแรง จนทำให้โซ่ที่แขวนอยู่บริเวณนั้นชนกันจนเกิดเสียง
ตามพื้นห้องนั้นมีแต่ซากหนูกับขี้ฝุ่นเต็มไปหมดเศษกระดูกวางตามซอกพื้น ทางเดินเต็มไปด้วยก้อนกรวดซึ่งแตกระแหงออกเหมือนดินแห้งในยามบ่าย มันบ่งถึงว่า ห้องนี้ไม่ได้ทำความสะอาดมานานแล้ว
สภาพของห้องมีแค่แสงสลัวๆ ตรงหน้าของพวกเขามีร่างของชายคนหนึ่งนั่งพิงกำแพงอยู่ในความมืด ที่ข้อมือมีเครื่องพันธนาการล็อกเอาไว้อย่างแน่นหนา
จากเท่าที่ดูๆมาโดยรวมแล้วทั้งประตูและสภาพของห้อง มันคงบอกได้ว่า คนในห้องนี้คงจะไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันอีกแน่
ดูเหมือนว่าเขาจะถูกขังลืมซะแล้ว
แต่..... ไม่! ความจริงแล้วเขามีความผิดที่จะต้องจำคุกเป็นเวลา 50 ปี เท่านั้น
ในขณะที่ผู้คุมกำลังปลดเขาออกจากการพันธนาการ ใบหน้าอันน่ากลัวของมัน เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย มามองดูใบหน้าของชายที่ยืนยิ้มให้มันอยู่หลังผู้คุมแล้ว มันก็ได้อมยิ้มเล็กน้อยให้แก่ชายผู้นั้นเป็นการตอบแทน
จากที่ดูชายผู้นั้นตัวสูงประมาณ 180 เซนติเมตรได้ เหนือหัวของเขามีหมวกสีดำลายขาวใบใหญ่ที่สวมใส่อยู่ และบนใบหน้าของเขาก็มีแว่นตากันแดดสีดำอยู่บนหน้าเขา ดูเหมือนของแต่ละอย่างนั้น เขาคงจะใส่เพื่อป้องกันการเห็นใบหน้าซึ่งจะนำไปถึงการกระตุ้นความทรงจำ และถ้าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นมันคงจะไม่ดีเป็นแน่เเละนอกจากนี้เขาก็ใส่เสื้อสูทสีดำอยู่
โดยข้างหลังของเขายังมีผู้ติดตามมาอีก 2 คนซึ่งน่าจะเป็นบอดี้การ์ดประจำตัว
ทันทีที่มันได้หลุดจากการพันธนาการแล้ว มันก็ลุกขึ้นมาทันทีด้วยแรงที่มีอยู่ทั้งหมด มันค่อยๆ เดินตามหลังผู้คุมไป จนออกจากความมืดในที่สุด
แสงส่องโดนใบหน้าของมันเผยให้เห็นใบหน้าอันหน้ากลัว ถ้าหากเราดูโดยรวมแล้ว มันน่าจะเป็นอาชญากร ผู้ก่อการร้ายหรือฆาตกรโรคจิตฆ่าต่อเนื่อง ที่มีอายุราวๆ 40-50 ปีได้ แต่ทั้งหมดนี้ผิดครับ เขาเป็นแค่ วัยรุ่นผอมแห้งคนหนึ่งที่มีอายุยังไม่ถึง 18 ปีด้วยซ้ำ อายุที่แท้จริงของเขาแค่ 15 ปีเท่านั้น แล้วไปทำผิดอะไรมาเล่าถึงได้มาติดคุก ณ ที่นี่ตั้งแต่วัยรุ่นที่อายุยังไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์
ตอนนี้เขาควรที่จะไปอยู่ในสถานที่กักกันเด็กด้วยซ้ำไป ถ้าหากเขามาติดคุกที่เกาะนี่ ซึ่งมี อาชญากรและผู้ก่อการร้ายระดับโลกอยู่ มันอาจแสดงว่าเด็กคนนี้ต้องได้ทำผิดอะไรที่ร้ายแรงมากถึงระดับความมั่นคงของประเทศแน่ ถึงได้มาติดคุกที่นี่ตามที่กฎหมายฉบับปรับปรุงได้ระบุไว้
เด็กหนุ่มเดินไปตามทางเดินสายหลักที่รอบข้างและบนหัวมีแต่ห้องขังนักโทษอยู่
ทุกคนทุกชั้นต่างพากัน โบกมือให้และขานชื่อของมันเสียงดังดั่งว่ามันเป็น พระราชา! ด้วยเสียงสรรเสริญเยินยอของเหล่านักโทษ ทำให้มันจากเดิมที่อมยิ้มอยู่ต้องฉีกยิ้มออกมาแทน ตลอดทางเดินมีแต่เสียงขานชื่อของมันดังอยู่เซ็งแซ่หนวกหูเต็มไปหมด
มันเป็นหลักฐานที่แสดงถึงอำนาจและความน่ากลัวของผู้เด็กชายผู้นี้เป็นอย่างดี
พวกเขาเดินกันมาจนถึงเคาน์เตอร์ตัวใหญ่ที่มีคอมพิวเตอร์ ตั้งวางไว้อยู่หลายเครื่อง พร้อมกับรอบข้าง ที่มีทั้ง ยาม ตำรวจและหน่วยคอมมานโดหลายคน รายล้อมอยู่ทั้งสี่ทิศสี่มุม มีช่องทางออกเล็กๆที่มีรั้วเหล็กกั้นไว้อยู่ ไม่ให้เดินออกทางประตูใหญ่ได้โดยง่าย
ทั้งหมดเดินเข้ามาเพื่อที่จะมาเซ็นเช็คออก ในขณะที่เจ้าหน้านั่งรอคอยเค้าอยู่
"ยินดีด้วยนายจะได้รับการปล่อยตัวออกมาแล้ว" เสียงๆหนึ่งดังขึ้นมาจากเคาน์เตอร์ "เซ็นนี่ซะแล้วนายอยากจะไปไหนก็ไป" เจ้าหน้าที่พูดขึ้นมาเบาๆทั้งกริยาท่าทางก็ทำดูเหมือนเขากำลังพูดกับนักโทษผู้ใหญ่ธรรมดาคนหนึ่งอยู่ โดยไม่ได้มองหน้าผู้ฝังเลยแม้แต่น้อย
บนโต๊ะมีกระดาษพร้อมปากกาด้ามหนึ่งวางรอให้เขามาหยิบเซ็นอยู่ และดูเหมือนรายละเอียดอย่างอื่นชายชุดดำคงจะช่วยจัดการให้เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็แค่รอให้เขามาหยิบปากกานี่เซ็นเช็คนี่เท่านั้น เขาก็จะเป็น "อิสระ"
เด็กชายค่อยๆก้าวเท้าเข้ามาใกล้ๆ เพื่อเซ็น หลังจากเซ็นเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ได้ยกรั้วออกและคืนทรัยย์สินอันน้อยนิดแต่แสนจะมีค่าของมันคืนให้กับเจ้าของ
ตอนนี้ประตูทางออกได้เปิดรอรับพร้อมให้เขาออกแล้ว ชายชุดดำได้เดินออกไปก่อนพร้อมบอดี้การ์ดของมัน แต่แทนที่เขาจะรีบเดินตามหลังรีบออกจากคุกไปเหมือนที่นักโทษคนอื่นทำแล้ว เขากลับหันหน้ากลับมา แล้วตะโกนออกไปดังๆเหมือนคนเก็บกดที่ไม่ได้ตะโกนมานานแล้ว
"ทุกคน แล้วฉันจะกลับมา" ตบท้ายด้วยเสียงหัวเราะอันดังกึกก้องไปทั่วอย่างสะใจหลังจากที่ไม่ได้ปล่อยคำๆนี้ออกมาจากปากมานานแล้ว เหมือนสิงโตที่ออกจากการจำศีลแล้ว บรรดานักโทษทั้งหลายที่ได้ยินคำนี้ต่างพากันขานชื่อของมันเพิ่มอีกขึ้นเรื่อยๆจนเจ้าหน้าที่ต้องออกมาคุม
หลังจากนั้นเขาก็เดินตามชายชุดดำออกไปข้างนอกแล้ว เบื้องหน้าของมันคือ เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งจอดรอ พร้อมกับชายชุดดำอยู่อีกหลายคนข้างนอกที่ยืนรอรับอยู่
มันได้มองดูด้วยรอยยิ้มแห่งชัยชนะให้กับชายชุดดำที่หันมายิ้มให้อยู่ ดูเหมือนว่าพวกเค้าจะมีความลับอะไรต่อกันอยู่
เฮลิคอปเตอร์ได้บินขึ้นสู่ฟากฟ้าออกจากเรือนจำนี้สู่ทะเลอันกว้างไกล พร้อมกับเด็กผู้นี้ โดยหารู้ไม่ว่าตอนนี้พวกเค้าได้ปลุกแฮ็คเกอร์ที่อันตรายต่อโลกไซเบอร์ใบนี้ออกมาแล้ว ที่เหลือก็คงได้แต่นั่งรอนับถอยหลังรอจุดจบที่จะมาถึงเท่านั้น!
* _______________________________________________________*
เสียงฝีเท้าของผู้คุมนักโทษคนหนึ่งค่อยๆเดินอย่างช้าๆพร้อมกับผู้ติดตามอีก 3 คนข้างหลังผ่านห้องขังไปหลายห้อง ผู้คุมได้หยุดเดิน เมื่อเบื้องหน้าของเขาคือประตูเหล็กบานใหญ่ที่ดูเก่ามากบานหนึ่ง ในมือของเขามีกุญแจอยู่หลายดอก มันส่งเสียงกรุ๊งกริ๊งเมื่อกระทบกัน เขาพยายามไขประตูออก
"กริ๊ก"
เสียงของกุญแจอันเป็นหลักฐานว่าเขาไขกลอนประตูออกแล้ว เขาพยายามดันประตูบานใหญ่เต็มแรง และแล้ว....
"เอี๊ยด"
เสียงเสียดสีของบานประตูที่บ่งบอกอายุการใช้งานของมันได้เป็นอย่างดีดังเอี๊ยดอ๊าดช้าๆแสบแก้วหู ไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่าไม่ได้ถูกใช้งานบ่อยๆเป็นแน่แท้
ผู้คุมผลักประตูเข้าไปข้างในอย่างแรง จนทำให้โซ่ที่แขวนอยู่บริเวณนั้นชนกันจนเกิดเสียง
ตามพื้นห้องนั้นมีแต่ซากหนูกับขี้ฝุ่นเต็มไปหมดเศษกระดูกวางตามซอกพื้น ทางเดินเต็มไปด้วยก้อนกรวดซึ่งแตกระแหงออกเหมือนดินแห้งในยามบ่าย มันบ่งถึงว่า ห้องนี้ไม่ได้ทำความสะอาดมานานแล้ว
สภาพของห้องมีแค่แสงสลัวๆ ตรงหน้าของพวกเขามีร่างของชายคนหนึ่งนั่งพิงกำแพงอยู่ในความมืด ที่ข้อมือมีเครื่องพันธนาการล็อกเอาไว้อย่างแน่นหนา
จากเท่าที่ดูๆมาโดยรวมแล้วทั้งประตูและสภาพของห้อง มันคงบอกได้ว่า คนในห้องนี้คงจะไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันอีกแน่
ดูเหมือนว่าเขาจะถูกขังลืมซะแล้ว
แต่..... ไม่! ความจริงแล้วเขามีความผิดที่จะต้องจำคุกเป็นเวลา 50 ปี เท่านั้น
ในขณะที่ผู้คุมกำลังปลดเขาออกจากการพันธนาการ ใบหน้าอันน่ากลัวของมัน เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย มามองดูใบหน้าของชายที่ยืนยิ้มให้มันอยู่หลังผู้คุมแล้ว มันก็ได้อมยิ้มเล็กน้อยให้แก่ชายผู้นั้นเป็นการตอบแทน
จากที่ดูชายผู้นั้นตัวสูงประมาณ 180 เซนติเมตรได้ เหนือหัวของเขามีหมวกสีดำลายขาวใบใหญ่ที่สวมใส่อยู่ และบนใบหน้าของเขาก็มีแว่นตากันแดดสีดำอยู่บนหน้าเขา ดูเหมือนของแต่ละอย่างนั้น เขาคงจะใส่เพื่อป้องกันการเห็นใบหน้าซึ่งจะนำไปถึงการกระตุ้นความทรงจำ และถ้าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นมันคงจะไม่ดีเป็นแน่เเละนอกจากนี้เขาก็ใส่เสื้อสูทสีดำอยู่
โดยข้างหลังของเขายังมีผู้ติดตามมาอีก 2 คนซึ่งน่าจะเป็นบอดี้การ์ดประจำตัว
ทันทีที่มันได้หลุดจากการพันธนาการแล้ว มันก็ลุกขึ้นมาทันทีด้วยแรงที่มีอยู่ทั้งหมด มันค่อยๆ เดินตามหลังผู้คุมไป จนออกจากความมืดในที่สุด
แสงส่องโดนใบหน้าของมันเผยให้เห็นใบหน้าอันหน้ากลัว ถ้าหากเราดูโดยรวมแล้ว มันน่าจะเป็นอาชญากร ผู้ก่อการร้ายหรือฆาตกรโรคจิตฆ่าต่อเนื่อง ที่มีอายุราวๆ 40-50 ปีได้ แต่ทั้งหมดนี้ผิดครับ เขาเป็นแค่ วัยรุ่นผอมแห้งคนหนึ่งที่มีอายุยังไม่ถึง 18 ปีด้วยซ้ำ อายุที่แท้จริงของเขาแค่ 15 ปีเท่านั้น แล้วไปทำผิดอะไรมาเล่าถึงได้มาติดคุก ณ ที่นี่ตั้งแต่วัยรุ่นที่อายุยังไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์
ตอนนี้เขาควรที่จะไปอยู่ในสถานที่กักกันเด็กด้วยซ้ำไป ถ้าหากเขามาติดคุกที่เกาะนี่ ซึ่งมี อาชญากรและผู้ก่อการร้ายระดับโลกอยู่ มันอาจแสดงว่าเด็กคนนี้ต้องได้ทำผิดอะไรที่ร้ายแรงมากถึงระดับความมั่นคงของประเทศแน่ ถึงได้มาติดคุกที่นี่ตามที่กฎหมายฉบับปรับปรุงได้ระบุไว้
เด็กหนุ่มเดินไปตามทางเดินสายหลักที่รอบข้างและบนหัวมีแต่ห้องขังนักโทษอยู่
ทุกคนทุกชั้นต่างพากัน โบกมือให้และขานชื่อของมันเสียงดังดั่งว่ามันเป็น พระราชา! ด้วยเสียงสรรเสริญเยินยอของเหล่านักโทษ ทำให้มันจากเดิมที่อมยิ้มอยู่ต้องฉีกยิ้มออกมาแทน ตลอดทางเดินมีแต่เสียงขานชื่อของมันดังอยู่เซ็งแซ่หนวกหูเต็มไปหมด
มันเป็นหลักฐานที่แสดงถึงอำนาจและความน่ากลัวของผู้เด็กชายผู้นี้เป็นอย่างดี
พวกเขาเดินกันมาจนถึงเคาน์เตอร์ตัวใหญ่ที่มีคอมพิวเตอร์ ตั้งวางไว้อยู่หลายเครื่อง พร้อมกับรอบข้าง ที่มีทั้ง ยาม ตำรวจและหน่วยคอมมานโดหลายคน รายล้อมอยู่ทั้งสี่ทิศสี่มุม มีช่องทางออกเล็กๆที่มีรั้วเหล็กกั้นไว้อยู่ ไม่ให้เดินออกทางประตูใหญ่ได้โดยง่าย
ทั้งหมดเดินเข้ามาเพื่อที่จะมาเซ็นเช็คออก ในขณะที่เจ้าหน้านั่งรอคอยเค้าอยู่
"ยินดีด้วยนายจะได้รับการปล่อยตัวออกมาแล้ว" เสียงๆหนึ่งดังขึ้นมาจากเคาน์เตอร์ "เซ็นนี่ซะแล้วนายอยากจะไปไหนก็ไป" เจ้าหน้าที่พูดขึ้นมาเบาๆทั้งกริยาท่าทางก็ทำดูเหมือนเขากำลังพูดกับนักโทษผู้ใหญ่ธรรมดาคนหนึ่งอยู่ โดยไม่ได้มองหน้าผู้ฝังเลยแม้แต่น้อย
บนโต๊ะมีกระดาษพร้อมปากกาด้ามหนึ่งวางรอให้เขามาหยิบเซ็นอยู่ และดูเหมือนรายละเอียดอย่างอื่นชายชุดดำคงจะช่วยจัดการให้เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็แค่รอให้เขามาหยิบปากกานี่เซ็นเช็คนี่เท่านั้น เขาก็จะเป็น "อิสระ"
เด็กชายค่อยๆก้าวเท้าเข้ามาใกล้ๆ เพื่อเซ็น หลังจากเซ็นเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ได้ยกรั้วออกและคืนทรัยย์สินอันน้อยนิดแต่แสนจะมีค่าของมันคืนให้กับเจ้าของ
ตอนนี้ประตูทางออกได้เปิดรอรับพร้อมให้เขาออกแล้ว ชายชุดดำได้เดินออกไปก่อนพร้อมบอดี้การ์ดของมัน แต่แทนที่เขาจะรีบเดินตามหลังรีบออกจากคุกไปเหมือนที่นักโทษคนอื่นทำแล้ว เขากลับหันหน้ากลับมา แล้วตะโกนออกไปดังๆเหมือนคนเก็บกดที่ไม่ได้ตะโกนมานานแล้ว
"ทุกคน แล้วฉันจะกลับมา" ตบท้ายด้วยเสียงหัวเราะอันดังกึกก้องไปทั่วอย่างสะใจหลังจากที่ไม่ได้ปล่อยคำๆนี้ออกมาจากปากมานานแล้ว เหมือนสิงโตที่ออกจากการจำศีลแล้ว บรรดานักโทษทั้งหลายที่ได้ยินคำนี้ต่างพากันขานชื่อของมันเพิ่มอีกขึ้นเรื่อยๆจนเจ้าหน้าที่ต้องออกมาคุม
หลังจากนั้นเขาก็เดินตามชายชุดดำออกไปข้างนอกแล้ว เบื้องหน้าของมันคือ เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งจอดรอ พร้อมกับชายชุดดำอยู่อีกหลายคนข้างนอกที่ยืนรอรับอยู่
มันได้มองดูด้วยรอยยิ้มแห่งชัยชนะให้กับชายชุดดำที่หันมายิ้มให้อยู่ ดูเหมือนว่าพวกเค้าจะมีความลับอะไรต่อกันอยู่
เฮลิคอปเตอร์ได้บินขึ้นสู่ฟากฟ้าออกจากเรือนจำนี้สู่ทะเลอันกว้างไกล พร้อมกับเด็กผู้นี้ โดยหารู้ไม่ว่าตอนนี้พวกเค้าได้ปลุกแฮ็คเกอร์ที่อันตรายต่อโลกไซเบอร์ใบนี้ออกมาแล้ว ที่เหลือก็คงได้แต่นั่งรอนับถอยหลังรอจุดจบที่จะมาถึงเท่านั้น!
* _______________________________________________________*
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น