วันที่ 1 The First Day วันแรก
ทางกลุ่มผมได้เดินทางไปทางทิศใต้ตามที่จับสลากมาได้ ผมได้เดินไปคิดไปว่าที่ครูบอกให้รักษาชีวิตของตัวเองเพราะอะไรเพราะเกาะนี้ดูไปก็เป็นเพียงเกาะธรรมดาที่มีต้นไม้มากป่ามากน้ำมาเพียงเท่านั้น พอเดินไปถึงจุดที่น่าพอเหมาะกับการตั้งแคมป์รอ 28 วันทุกคนก็นั่งพักและเตรียมหาที่สำหรับทำสิ่งต่างๆ Paga เพื่อนในกลุ่มผมก็บอกให้ทุกคนมารวมกันและบอกกับพวกผมว่า.กล่องที่ครูบอกว่าจะมีของที่เหมาะสมกับตัวเราเองที่สุดใช่ไหมงั้นเราก็มาเปิดพร้อมกันเลยเป็นไง” ผมกับ Podop ไม่เห็นด้วยเพราะน่าจะเอาไว้เปิดตอนจำเป็นเพาระถ้าเปิดตอนนี้อาจจะไม่มีประโยชน์อะไรเลยก็ได้ มีคนในกลุ่มที่เชื่อผมและยังมี Paga กับ Neme ที่ยังยืนกรานอยุ่และแล้วพวกมันก็เปิดกล่องจนได้ *-* (ไม่ฟังกันเล้ย) สิ่งที่อยู่ในกล่องของ 2 คนนั้นคือ หนังสือคู่มือเล็ก กับไฟแช็ก 1 อัน ซึ่งสมุดคู่มือ Pagaได้ไปและไฟแช็ก Neme ก็ได้ไป พวกผมรู้ว่าไฟแช็กจุดไฟได้ซึ่งก็มีประโยชน์มากในต่อกลางคืนที่มืดและตอนทำอาหารหรือย่างอื่น แต่ไอ้สมุดนี่สิ - - ไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้นอกจากฉีกมาเป็นเชื้อเพลิงเท่านั้น แต่ Dama ก็บอกว่าน่าจะมีอะไรเขียนอยู่ข้างในบ้าง ซึ่งพวกผมก็ถึงกับอึ้งเพราะเห็นไอ้เพื่อนคนนี้ของผมมันฉลาดก็วันนี้แหละ ผลจากการที่เปิดดูก็ปรากฏว่านี่เป็นสมุดคู่มือที่มีประโยชน์มากเพราะมันเป็นคู่มือสำหรับการทำต่างๆบนเกาะร้างและยังบอกข้อมูลของเกาะนี้อีก(อื้ม มันมีประโยชน์จริงๆ)แต่ก็ยังติดอยู่ในใจว่าถ้ามันไร้ประโยชน์ขึ้นมาได้เป็นขี้เถ้าแน่ๆ ในคู่มือผมบอกสรุปได้ว่าให้ที่พักก่อนให้เสร็จวันแรกเพราะตอนกลางคืนหนาวมากถ้าเป็นไข้หรือไม่สบายจะหายารักษายาก ต่อไปก็คือให้จุดไฟสร้างแสงสว่างให้กับชีวิต(เฮ้ย!) จากนั้นก็นอนหลับให้สบายซะวันต่อไปจะได้ไปทำอย่างอื่นต่อ ฟังไปฟังมาคู่มือเล่มนี้มันกวนตีนจริงๆ พวกผมก็คิดว่าน่าไปหาไม้สร้างที่พักกับทำฟืนจุดไฟซะก่อน แต่มีดที่ครูให้มาจะไปตัดไม้ที่ไหนได้ขืนเอาไปตัดไม้คมมีดได้ขึ้นสวรรค์แน่ หลังจากการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ(?) คนที่จะไปหาฟืนหรือกิ่งไม้นั่นแหละเพราะทุกคนยังไม่อยากให้มีดมันอารมณ์ดี(บิ่น)ซะก่อน มี ผม(Fiano) Podop Dama Koji ที่เหลือนั่งพักสบายๆซะก่อน ส่วน Paga จะอ่านหนังสือไร้สาระเอ้ยคู่มือต่อไปเผื่อเจออะไรดีๆ โชคดีที่พวกผมเลือกพักตรงที่ใกล้ทะเลสาบ กับป่าเพราะมันหาของที่ต้องการง่ายแต่มันก็ไม่ได้หาง่ายไปซักเท่าไหร่หรอก พวกผมใช้เวลาในการหาฟืนไปเกือบค่อนวันกลับมาถึงจุดที่คนอื่นอยู่ก็ใกล้จะเย็นซะแล้ว และสิ่งที่ผมเห็นเมื่อกลับมาก็คือเพื่อนผมที่ไม่ได้ไปหาฟืนหลับกันเกลี้ยงยกเว้น Paga ที่นั่งอ่านอยู่ ผมอดสงสัยไม่ได้ว่าคู่มือเล่มนั้นมันมีกี่หน้ากันแน่(อ่านไปซะค่อนวัน) ผมก็รอสักพักนึงเพื่อให้ Paga อ่านคู่มือเสร็จ ไม่รุ้ว่าหนังสือมันติดเรท อ่านไม่รู้เรื่อง หรือกระดาษบาดมือกันแน่ที่ทำให้ Paga ตะโกนออกมาว่า “เวรละพวกกู” การตะโกนครั้งนี้มีอนุภาคเท่าใดผมไม่รู้แต่มันทำให้เพื่อนที่หลับสนิทอยู่สะดุ้งตื่นตาสว่างสดใสอยู่ได้ถึงเที่ยงคืนเลยละ ผมเลยถาไปว่า “เป็นไรว่ะหนังสือกัดไง๊(เล่นมุขอีก)” Paga ตอบมาแบบไม่ได้ฟังคำถามของผมว่า “จุดที่อันตรายที่สุดคือป่าทางทิศใต้เพราะจะมีสัตว์ป่าจำนวนมากที่ออกหากินกลางคืน” พวกผมเพียงได้ยินคำนี้ก็เข้าใจอย่างถ่องแท้เลยว่าอันตรายอยู่แค่ไม่กี่ 100 เมตรนี่เอง ทำให้สัญชาติยานการเอาตัวรอดของทุกคนออกมาทุกคนรีบวิ่งเตรียมฟืนที่มีมาจุดไฟให้สว่างที่สุดและกลับเข้าป่าไปหาฟืนมาเพิ่มมากที่สุดก่อนจะมืด ตะวันลับขอบฟ้าทุกคนก็มารอบกองไฟและนั่งพูดคุยกัน ผมจึงขอทุกคนพูดซะเรื่องหนึ่ง “เฮ้ยนี่ ฉันได้คิดมานานและว่าที่ครูบอกว่ารักษาชีวิตเธอด้วยตัวเธอเองคืออะไร” ทุกคนก็เงียบและผมจึงบอกต่อไปว่า “ครูน่าจะหมายถึงว่ามีอันตรายอยู่ทุกที่และให้อันตรายที่ว่ามันอาจทำให้เราตายได้เลยแล้วเราคงไม่ผ่านการทดสอบนี้แน่” Koji(พึ่งมีบทนะ) ก็บกว่าไม่ต้องกังวลหรอกน่ามันอาจจะไม่เป็นอย่างที่คิดก็ได้ “แต่ก็น่าจะกันไว้ดีกว่านะ” เสียงของ Kalod (ที่พึ่งจะมีบทเช่นเดียวกัน) “แล้วจะทำอย่างไงละ” Dama พูดตอบแบบไม่คิดและไม่ต้องคิดด้วย Paga ก็พูดบอกแบบผู้นำที่ดีว่า “ลองผลัดเวรเฝ้าทีละคนเป็นไงพอคนเฝ้าคนแรกง่วงก็ให้ปลุกคนที่นอนนานแล้วมาแทนดีมั๊ย” ทุกคนก็ตอบตกลงและลงว่าให้ แต่ละคืนเวรเวียนไปคืนละ 3 คน คืนแรกนี้ก็คือ Kalod Sta Neme ส่วนวันต่อไปก็คงต้องตายความเหมาะสมละกัน(มั้ง) วันแรกก็(คง)ผ่านไปได้ด้วยดีไม่รู้ว่าวันต่อไปจะเป็นเช่นไรแต่ก็คงต้องอยู่ให้ครบ 28 วันละ
ความคิดเห็น