ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Wanna ไฝว้? { yaoi }

    ลำดับตอนที่ #2 : Chap. 1

    • อัปเดตล่าสุด 16 พ.ย. 57


    Wanna ไฝว้ ?



    ตุบตับๆ

     

    แฮ่ก แฮ่ก...

     

    อยู่ไหน...กัณฑ์อยู่ไหนวะ! ผมไล่สายตามองไปทั่วร้านสนุ๊กที่ตอนนี้คนเริ่มเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งดึกคนยิ่งอยากมาท่องราตรี มันแน่อยู่แล้ว ผมพยายามใช้มือผลักคนที่ขวางทางออกไปให้พ้นๆแล้วแทรกตัวเข้าไปข้างใน

     

    “พี่เอิง พี่แน่ใจเหรอว่าพ่อพี่จะไม่ว่าน่ะ”

     

    เซปเอ่ยถามขณะที่แทรกตัวตามผมมา หลังจากที่ตัดสายจากกัณฑ์ ผมกับเซปก็ตัดสินใจออกมาตามหาพวกมันสองตัวลำพัง ตอนแรกอัยย์โวยวายจะมากับผมให้ได้ บอกว่าห่วงผมแบบนั้นแบบนี้ แต่ขืนออกมาสองคนพี่น้อง พ่อคงสงสัย ผมเลยให้มันรับหน้าแทนผมไป อ้างว่าทำรายงานก็จบ

     

    “เออน่า มึงไม่ต้องคิดมากแทนกูหรอก”

     

    ผมหันไปส่งยิ้มบางให้อีกฝ่าย แต่บรรยากาศโคตรให้เลย คนเบียดๆแล้วมาส่งยิ้มหวานให้กัน ให้ตายสิ เสียงเฮดังลั่นไปทั่วห้องใหญ่ สงสัยมีใครชนะพนันแหงๆ ผมส่ายหัวแล้วส่ายตาก็เหลือบไปเห็นพี่โอ๋ผู้จัดการร้านยืนอยู่แถวโต๊ะสนุ๊กฯไม่ไกล

     

    “เฮ้ยพี่! หวัดดีครับ”

     

    ผมยกมือไหว้ พี่โอ๋เป็นผู้ชายอายุยี่สิบเจ็ด แต่เฟี้ยวไม่น้อยกว่าพวกผมเลย

     

    “เอ้าว่าไงเอิง ไงเซป ไม่เจอนานเลย วันนี้พี่ก็เห็นกัณฑ์กับโทมากันสองคนนึกว่าเราจะไม่มาด้วยแล้ว”

     

    “นี่แหละพี่ ปัญหาใหญ่เลย” เซปหัวเราะ

     

    “คืองี้ครับ พวกมันโทรมาหาผมเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน แล้วอยู่ๆมันก็ตะโกนกันว่าวิ่งแล้วหายไปเลย” ผมเล่า เม้มปากแล้วมองไปรอบๆ “พวกผมเพิ่งไปมีเรื่องกับอีกโรงเรียนมาด้วย ไม่รู้พวกมันจะโดนอะไรหรือเปล่า”

     

    พี่โอ๋ขมวดคิ้วแล้วเอื้อมมือมาตบบ่าผมเบาๆ แกกวักมือเรียกลูกน้องแถวนั้นเข้ามาหาแล้วกระซิบถามอะไรกันบางอย่าง จนสุดท้ายพี่โอ๋ก็เอ่ยปากบอกพวกผม

     

    “แบบนี้นะเอิง จริงๆแล้ววันนี้เด็กโรงเรียนค.ต. จองโต๊ะสนุ๊กฯเอาไว้ ก็น่าจะเป็นเพื่อนเอิงนั่นแหละ แล้วดันมีอีกโรงเรียนมาป่วนโต๊ะสนุ๊กฯนั้น เอามีดขึ้นมาขู่กัน จนสุดท้ายก็วิ่งกันไปไหนไม่รู้”

     

    “อะไรนะพี่! มีดเลยเหรอ?”

     

    ผมตบโต๊ะเสียงดังจนลูกค้าแถวนั้นเริ่มหันมามอง เซปบีบไหล่ผมเบาๆให้ใจเย็น ผมล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบโทรศัพท์เครื่องสีขาวออกมาแล้วกดหารายชื่อโทรออกล่าสุด

     

    กัณฑ์

     

    “แม่ง! ทำไมไม่รับวะ”

     

    พี่โอ๋เริ่มมีท่าทีเครียดขึ้นมาบ้างแล้ว ผมไม่อยากให้พี่แกเครียดเลยขอตัวออกมาตามหากันเอง ผมมองไปตามโต๊ะสนุ๊กฯรอบๆจนเห็นโต๊ะตัวนึงมีรอยมีดเฉาะที่ขอบ ทำให้ผมแน่ใจว่าที่พี่โอ๋เล่ามันเป็นความจริง

     

    “เราไปดูที่บันไดหนีไฟกันดีไหมพี่ พี่ชอบบอกพวกผมว่าเวลาหนีให้ใช้บันได พวกมันจะได้ตามไม่ทัน”

     

    ผมพยักหน้า ที่ผมสอนพวกมันแบบนั้นไม่ใช่ว่าพวกผมวิ่งเร็วกว่า แต่พวกผมถนัดวิ่งหลบตามซอกมากกว่า ส่วนใหญ่ในไฝว้ชอบเล่นฟรีรันนิ่งกันเพราะเห็นว่ามันเท่ จนกระทั่งถูกตามกระทืบถึงได้ใช้ประโยชน์จากมัน

     

    แอ๊ดดด

     

    พอผมเปิดประตูหนีไฟบานใหญ่ออก กลิ่นเหม็นควันของบุหรี่ก็พุ่งเข้าอัดหน้าเต็มๆ ผมโบกมือปัดไล่กลิ่นไปมาจนสุดท้ายต้องยอมถอยออก เพราะข้างในมีคนสูบบุหรี่อยู่อีกสามสี่คน ข้างในห้องสนุ๊กมีกฏว่าห้ามสูบบุหรี่ บางคนที่ไม่อยากเดินออกไปข้างนอกเลยนิยมมาสูบในบันไดหนีไฟ

     

    แล้วผมดันเป็นคนไม่สูบบุหรี่ ได้กลิ่นทีไรต้องหนีทุกที เห็นแบบนี้ก็คงต้องยอมถอย ถ้าพวกมันหนีมาทางนี้จริงคงวิ่งไปถึงชั้นไหนต่อไหนแล้ว

     

    “ไอ้เหี้ย!! อย่าหนีดิวะ!!!

     

    เสียงตะโกนดังขึ้นมาจากชั้นล่างสุด ผมเลยลากแขนเซปออกมาชะโงกหัวมองจากหน้าต่างที่ใกล้ที่สุด

     

    “นั่นมันไอ้กัณฑ์นี่พี่!! คนตามมันเป็นสิบเลย”

     

    ผมรีบมองไปตามทางที่เซปชี้ ก็พบกับผู้ชายเสื้อขาวกางเกงน้ำเงินกำลังวิ่งซิกแซกผ่านรถที่ขับสวนเข้ามาในซอยแคบๆ หนีคนเป็นสิบที่พร้อมจะรวมตีนกันกระทืบมัน แล้วไอ้โทไปไหน?

     

    “เซป มึงไปช่วยไอ้กัณฑ์ เดี๋ยวกูไปตามหาโทเอง”

     

    “ครับพี่!

     

    เซปรับคำแล้วรีบวิ่งเข้าไปในบันไดหนีไฟ ส่วนผมก็รีบวิ่งตามไปแต่เลี้ยวมาคนละทาง ให้ตายสิ รัฐบาลช่วยส่งงบประมาณมาติดตั้งเสาไฟแถวนี้ที่เหอะผมกราบ! ผมควักโทรศัพท์ออกมาอีกรอบแล้วกดโทรหาไอ้โท

     

    “มึงรีบสิวะ...รับสิ”

     

    “นั่นไงมึง!! เด็กค.ต.!

     

    ผมหันขวับไปทางต้นเสียง ก็เห็นฝูงตีนประมาณสี่ห้าคนกำลังถือไม้หน้าสามวิ่งมาทางผม ไอ้สัสเอ๊ย! ไอ้โทก็ไอ้โทเหอะ กูขอวิ่งก่อนแล้วกัน!!

     

    “หยุดสิวะ!

     

    หยุดให้โง่ดิวะ!! ผมวิ่งลัดเลาะไปตามตรอกแคบๆ พยายามวิ่งให้เร็วที่สุดแต่เหมือนตีนจะไม่เข้าใจ รองเท้าคู่นี้ก็ดันใส่ของอัยย์มา หลวมโพรก หลุดตีนเมื่อไหร่ก็คงต้องตีนเปล่าลูกเดียว

     

    โครม!!

     

    “โอ๊ย!

     

    ผมล้มคะมำกลิ้งไปชนกับกำแพง รู้สึกแสบๆที่เข่าขึ้นมา ผมรีบยันตัวลุกขึ้นก่อนที่พวกมันจะตามมาทัน ไอ้ถังขยะเฮงซวย! ผมเตะป้าบเข้าที่ถังนั่นอย่างหงุดหงิด แต่ก็ถึงกับต้องกุมตีนเลยครับ แม่งจี๊ดพอๆกับเดินชนมุมโต๊ะเลย น้ำตาจะไหลแม่งเอ๊ย!

     

    “มันอยู่นั่น!

     

    โอ๊ยไอ้เหี้ย...มึงไม่ต้องรีบ เดี๋ยวกูหนีไม่ทัน เหยดแหม่

     

    ผมเลิกสนใจถังขยะที่นอนตายอยู่กลางตรอกแล้ววิ่งกระเผลกไปตามทางลัดเลาะไปเรื่อยๆ ถามว่าจำทางได้ไหมบอกเลยว่าไม่เลยสักนิด ขากลับคงต้องเปิดจีพีเอสนำทางออกนอกซอย

     

    “ทางนี้!

     

    ผมหันไปตามเสียงก็เห็นผู้ชายเสื้อนักเรียนปักอักษรที่อกว่าอ.ช. คนละโรงเรียนกับพวกนี้นี่หว่า ผมรีบวิ่งไปทางที่มันยืนอยู่ มันคว้าแขนผมหมับแล้วพลิกตัวเอาหลังผมชนกำแพงพร้อมค่อยๆโน้มหน้ามาใกล้...มึงจูบกูเลยสิไอ้สัส!

     

    ตุบๆๆ

     

    “เฮ้ย! มึงเห็นเด็กค.ต.วิ่งมาทางนี้บ้างไหมวะ?”

     

    ผมเห็นมันเงยหน้าจากผมไปมองกลุ่มพวกนั้นแล้วใช้ตัวมันบังผมเอาไว้ ผมเลยต้องบีบตัวให้เล็กที่สุดในชีวิต กูไม่เคยรู้สึกป๊อดขนาดนี้มาก่อนเลย!! ให้ตาย... 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×