ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Bring it on!! Love [Fic Wonder Girl Yuri]

    ลำดับตอนที่ #7 : Chapter#7 มิตรหรือศัตรู

    • อัปเดตล่าสุด 22 ต.ค. 50




    ในอีกอาทิตย์ต่อมา ก็ใกล้เข้าสู่ช่วงปิดเทอมฤดูร้อนของอานโซฮี และในวันสุดท้ายของภาคเรียน
    มันก็ตรงกับคิวนัดหมายถ่าย MV และถ่ายปกอัลบั้มพอดิบพอดี ทำให้อานโซฮีกระวนกระวายเป็นพิเศษ
    กลัวว่าจะไปไม่ทันจนเกิดเรื่องให้มินซันเยวีนแตกอีกสักรอบสองรอบ...

    จะว่าไป ในช่วงนี้เธอก็ไม่ได้พบเจอกับมินซันเย และบรรดาสาวๆวอนเดอร์เกิร์ลเลย
    เพราะเข้าสู่ช่วงเรียน จึงขาดเรียนไม่ได้สักวัน และซอนมีก็ลาไปเรียนหนังสือเช่นกัน ทำให้ต้องพักทำวงไปชั่วคราว
    แต่ต่อไปนี้ ช่วงปิดเทอมนี้ คงจะเป็นช่วงหฤโหดที่สุด สำหรับการทำอัลบั้มแล้วกระมัง ..

    "นี่ โซฮี รีบๆกินข้าวเข้าซี่ กินข้าวแล้วจะได้ไปอ่านหนังสือ จะได้มีเวลาทบทวนเพิ่ม" คิมแชยองเอ่ยเตือนเพื่อน
    เมื่อเห็นอานโซฮีนั่งเขี่ยข้าวเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่อีกแล้ว... ทำเอาเพื่อนสาวสะดุ้งโหยงก่อนจะยิ้มแหยๆ

    "แอ่ะ คิดถึงเพื่อนๆวงวอนเดอร์เกิร์ลล่ะสิ..." คิมแชยองเอ่ยยิ้มๆ

    "ม...มะ ไม่ .. เอ้อ..ก็คิดถึงนะ ... พี่ยูบิน  ซอนมี ..พี่เยอีน" อานโซฮียิ้มแหย

    "แหม ..อะไรๆก็พี่ยูบินก่อนเชียวน้า .." คิมแชยองแกล้งแหย่ต่อ เพราะอานโซฮีมักจะเอ่ยชื่นชมยูบินให้เธอฟังประจำ
    อานโซฮีหน้างอเล็กน้อย เพราะคิมแชยองนั้นชอบล้อเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก .. 

    สงสัยจะเล่าเรื่องพี่ยูบินให้ฟังมากไปหน่อย ...

    ก็แน่นอนล่ะ เพราะในบรรดาสาวๆทั้งหมด เธอก็ดูจะประทับใจในตัวยูบินมากที่สุดไม่ว่าจะเป็นหน้าตาหรือบุคลิก
    ติดเสียอย่างเดียวคือยูบินพูดน้อยไปหน่อยเท่านั้นเอง...

    จริงๆแล้ว ความทรงจำที่เธอมีเยอะที่สุดตั้งแต่อยู่วอนเดอร์เกิร์ลมาคือความทรงจำกับมินซันเย
    แต่ทุกๆความทรงจำมักจะเลวร้ายยิ่งนักจนไม่สามารถบอกเล่าต่อได้..
    ว่าแต่..จะเป็นยังไงบ้างน้อ หลังจากวันนั้น ... ไม่รู้ต้องคลานไปห้องพยาบาลเองหรือเปล่า
    อานโซฮีคิดแล้วแอบขำน้อยๆ .. สงสารก็สงสารนะ แต่สะใจเหมือนกัน

    (แต่ความจริงมินซันเยโชคดีมากกว่านั้น เพราะลงไปได้ 11 ชั้น ก็มีพนักงานในค่ายที่กำลังจะไปกินข้าวเจอเข้า
    ก็เลยช่วยพยุงพาไปห้องพยาบาลได้ทัน ..)


    "แล้วยัยหัวหน้าวงคนนั้นล่ะ ที่บอกว่าไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่ เค้ายังเขม่นเธออยู่มั๊ย" คิมแชยองเอ่ยถามออกมา 
    เมื่อเห็นอานโซฮีไม่ได้เอ่ยถึงมินซันเยเลย ...เพื่อนสาวของเธอจึงยิ้มหน้าเจื่อนแล้วถอนหายใจออกมา

    "ก็คงยังเกลียดชั้นอยู่แหละมั้ง ..หนสุดท้ายที่เจอกัน ชั้นก็ทำกับเค้าไว้เยอะ" อานโซฮีทำสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก

    "ก็แหมนะ...เธอก็ไม่น่าจะไปล้างแค้นอะไรเค้า ที่แล้วก็ให้มันแล้วไป เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวรไงจ๊ะ" 
    คิมแชยองแนะนำ ก่อนจะกุมมือเพื่อนเธอเบาๆแล้วเอ่ยไล่

    "ไปอ่านหนังสือไป๊ .. ไม่ต้องมานั่งคิดมาก วันนี้สอบวันสุดท้ายแล้วด้วย..."

    "เออใช่! วันนี้สอบเสร็จต้องไปถ่าย MV นี่นา ...โธ่ๆๆ ..ทำไงดี ไปไม่ทันอีกแน่เลย" 
    อานโซฮีกุมหัวอย่างสิ้นหวัง กว่าการสอบของเธอจะเลิกก็ตั้ง 4 โมง ไหนจะต้องเดินทางไปบริษัทเพื่อขึ้นรถตู้
    ไปยังสตูดิโอที่ใช้ถ่าย MV อีก... กว่าจะไปถึงก็ 5 โมงกว่าพอดี .. ซึ่งคงจะเลยเวลานัดไปครึ่งชั่วโมง 
    เธอนึกเห็นหน้ามินซันเยตีหน้ายักษ์รอไว้ได้กระจ่างแจ่มชัดในมโนภาพเลยทีเดียว ... 

    แต่อย่างไรก็ตาม คิมแชยองก็ยังรบเร้าให้เธออ่านหนังสืออย่างตั้งใจ เธอจึงจำเป็นต้องตัดความกังวลออกไป
    แล้วหันมาตั้งหน้าตั้งตาอ่านทบทวนวิชาที่กำลังจะต้องสอบ 3 วิชาสุดท้าย ในภาคบ่ายนี้... 

    "การเปลี่ยนของทิศทางลม จะทำให้ก้อนหินตกถึงพื้นช้าลง... ช้า...อืม..ถ้าไปช้ามินซันเยจะว่าอะไรมั๊ยนะ" 

    "Present Simple Tense เรื่องนี้เราเรียน...อืม..." 

    "มินซันเยจะว่าอะไรมั๊ยนะ..."

    ตุบ.... อานโซฮีวางหนังสือลง ก่อนจะเคาะหัวตัวเองหลายครั้งเพื่อเรียกสติกลับคืนมา
    แต่ไม่รู้ทำไมทุกครั้งที่ยิ่งพยายามจดจ่อ ก็จะมีหน้ามินซันเยลอยเข้ามาให้เห็นอยู่ได้เสมอ .. 

    ไป..ชิ่ว..ออกไปนะ
    ตอนนี้ยังไม่อยากเห็นหน้า ออกป๊ายยย >o< 
    อานโซฮีคิดอย่างบ้าคลั่ง ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเห็นหน้ามินซันเยตลอด 
    คงเป็นเพราะเธอกังวลมากไปกับชะตากรรมที่จะต้องไปเผชิญในเย็นนี้กระมัง

    เสียงระฆังหมดชั่วโมงดังขึ้น บรรดานักเรียนก็ต่างวิ่งแยกย้ายกันเข้าไปในห้องสอบ
    อานโซฮีสะดุ้งเฮือก ก่อนจะวิ่งตามเพื่อนๆไปอย่างรวดเร็ว แม้ในใจจะยังกังวลอยู่ก็ตาม 

    --------------------------------------------------------------------------

    "เป็นไงบ้างโซฮี ทำได้รึเปล่าจ๊ะ" คิมแชยองวิ่งตามอานโซฮีซึ่งออกมารอหน้าโรงเรียน
    แม้เธอจะทำข้อสอบช้าไปหน่อย แต่ดูจากทีท่าก็ออกจะมั่นใจว่าทำได้อยู่เหมือนกัน ผิดกับอานโซฮีที่ดูซีดเซียวไป

    "ชั้นคิดว่า...ทำได้นะ.." อานโซฮีเอ่ยด้วยสีหน้าไม่ค่อยสู้จะมั่นใจนัก 
    ความจริงเธอก็ทำได้หลายข้อเลยทีเดียว แต่ในคราวนี้เธอมัวกังวลเรื่องงาน จึงไม่มีเวลาใคร่ครวญเท่าที่ควร

    "เอางี้...เดี๋ยวชั้นไปส่งที่ตึก KYN เอามั๊ย" คิมแชยองเอ่ยอย่างเอื้อเฟื้อ เพราะรู้ว่าอานโซฮีต้องขี้นรถไฟไปเอง
    ซึ่งคงจะไปถึงช้าอย่างแน่นอน ... เพราะตอนนี้ก็ 4 โมงกว่าแล้ว .. 

    "เอ่อ ชั้นเกรงใจเธอน่ะ เกรงใจคุณพ่อเธอด้วย ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ" อานโซฮีปฏิเสธอย่างสุภาพ 
    คิมแชยองขมวดคิ้ว... เพื่อนคนนี้นี่นะ ขี้เกรงใจเป็นบ้าเลย 

    "แต่ชั้นคงต้องรีบไปแล้ว" อานโซฮีเอ่ยแล้วยิ้มให้ ก่อนจะโบกมือลา คิมแชยองจึงโบกมือตอบ 
    อานโซฮีจึงตั้งหน้าตั้งตาจะออกวิ่งออกไปที่ท้องถนนทันที ... แต่..

    "โซฮี ระวัง!!!" คิมแชยองร้องลั่น

    เอี๊ยดดดดดด.... เสียงบดขยี้ล้อกับพื้นถนนดังลั่นเกิดจากการเบรกอย่างรุนแรง 
    อานโซฮีผงะถอยหลังด้วยความตกใจ จนเกือบจะเสียการทรงตัว
    รถเปิดประทุนสีแดงเข้าเทียบจอดหน้าโรงเรียนนั้นดูโอ่อ่าจนน่าหมั่นไส้
    แต่สิ่งที่ทำให้คนที่เกือบจะโดนรถชนตกใจยิ่งกว่านั่นก็คือร่างที่อยู่ในรถ หลังจากที่เลื่อนหลังคาเปิดประทุนของมันลงแล้ว

    "มินซันเย?" อานโซฮีหน้าซีดเผือดยิ่งกว่าเดิม รู้สึกได้ว่าเลือดในกายแทบจะเป็นน้ำแข็งด้วยความตกใจ
    คนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยมองลอดแวนตากันแดดออกมาด้วยสายตากวนๆ 

    "ยืนบื้ออะไรอยู่เล่า ขี้นมาซี่" มินซันเยเอ่ยก่อนจะกวักมือเรียก 

    "..เธอ... รู้จักโรงเรียนชั้นได้ยังไง..." อานโซฮีเอ่ยถามอย่างกล้าๆกลัวๆ 
    มินซันเยกลอกตาไปมาอย่างเซ็งๆแล้วถอนหายใจ

    "ในประวัติตอน Audition เธอมันก็มีเขียนบอกไว้นี่ยัยบื้อ .. จะถามอะไรก็ขึ้นมาบนรถก่อนเดี๋ยวสาย"
    มินซันเยเอ่ยแล้วกวักมืออีกครั้ง ... อานโซฮีมองซ้ายมองขวาอย่างไม่แน่ใจ 

    "ว๊าว...รถเท่จังเลย" คิมแชยองเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินเข้ามาเคียงข้างอานโซฮีอย่างอยากรู้อยากเห็น
    พลางกระซิบถาม .."เนี่ยหรอ มินซันเยจอมโหดของเธอ..." 
    อานโซฮีหันไปมองเพื่อนก่อนจะพยักหน้าถี่ๆ .. คิมแชยองขมวดคิ้ว... ก็ไม่เห็นจะโหดเลยนี่นา 

    "จะไปไม่ไป?" มินซันเยเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกวน ทำเอาอานโซฮีขมวดคิ้ว 

    "ถ้าไม่ไปล่ะ?" อานโซฮีเอ่ยถามอย่างไว้เชิงบ้าง มินซันเยเลยส่ายหัวก่อนจะถอนหายใจอีกครั้ง... 

    ปื้นนนน ... ปื้นๆๆ เธอกดแตรดังลั่น ทำให้นักเรียนที่เพิ่งเดินออกจากโรงเรียนทั่วบริเวณนั้นหันมามองเป็นตาเดียว
    อานโซฮีก็ตกใจเพราะไม่นึกว่ามินซันเยจะทำอะไรบ้าๆ ส่วนคิมแชยองได้แต่หัวเราะคิก

    "เอ้า .. จะไปไม่ไป ... ถ้าไม่ไปจะกดแตรจนอาจารย์วิ่งออกมาดูทั้งโรงเรียนเลยนะ" 
    มินซันเยเอ่ย และอานโซฮีก็พอรู้ว่าคงจะทำจริง เธอจึงรีบเปิดประตูรถมินซันเยแล้วลงไปนั่งทันที 
    มินซันเยเห็นอากัปกริยานั้นก็หัวเราะชอบใจ ก่อนจะเอื้อมมือมาตบที่หัวของอานโซฮีเบาๆ 

    "อย่างนี่สิค่อยเป็นเด็กดีหน่อย" มินซันเยตบๆหัวเธอ อานโซฮีก็กอดอกแล้วทำหน้าบูดหน้าบึ้ง 
    ก่อนจะเบือนหน้าหนีหันไปมองคิมแชยอง .. ซึ่งเพื่อนของเธอก็กำลังปิดปากแบบกลั้นหัวเราะแทบไม่อยู่ .. 

    ก็ดูเอาเถอะ...คนที่อานโซฮีเอาแต่บ่นว่าด่าทอให้เธอฟังอยู่เสมอๆ กลับเป็นคนมารับเธอด้วยตนเอง
    อย่างนี้คิมแชยองก็ชักเริ่มไม่แน่ใจเอาเสียแล้วว่ามินซันเยนั้นจะตั้งตนเป็นศัตรูกับเพื่อนของเธอแน่หรือ 
    คิมแชยองหัวเราะน้อยๆเมื่อเห็นท่าทางโมโหของอานโซฮี ก่อนจะมองตามรถคันสีแดงนั้นที่ซิ่งลับสายตาไป... 

    ---------------------------------------------------------------------------

    "ทำไมต้องมารับด้วย?" อานโซฮีด้วยน้ำเสียงห้วน ไม่มีหางเสียงเหมือนเคย (ซึ่งจะใช้กับมินซันเยเท่านั้น) 
    อีกฝ่ายถอดแว่นกันแดดออกแล้วทำทีเป็นถอนหายใจ 

    "ก็ชั้นกลัวเธอไปไม่ทันอีกน่ะสิ ขี้เกียจไปรอคนไม่มีความรับผิดชอบ" มินซันเยทำหน้าตาแบบเสียมิได้ 

    "นี่!! ชั้นเพิ่งสอบวิชาสุดท้ายเสร็จนะ! ข้อสอบก็ทำแทบไม่ได้เพราะตอนอ่านมัวแต่กังวลว่าเธอจะด่าชั้นรึเปล่าเย็นนี้น่ะ!!" 
    อานโซฮีโวยวายอย่างเหลืออด แต่ประโยคนั้นก็สะดุดหูมินซันเยจนอีกฝ่ายหันมามองหน้าเธอ

    "มัวแต่คิดถึงชั้นจนไม่เป็นอันอ่านหนังสือก็บอกมาเห๊อะ!!" มินซันเยคลี่ยิ้มบางๆอย่างกวนอารมณ์ 

    "จะบ้าหรอ ใครจะไปคิดถึงคนอย่างเธอ!" อานโซฮีว่าเข้าให้ ก่อนจะกอดอกแล้วหันหน้าหนี 
    มินซันเยหัวเราะหึๆในลำคออย่างได้ใจ แล้วบี่งรถตรงไปยังสตูดิโอถ่าย 

    ตลอดทาง มินซันเยก็จะพูดกวนให้อานโซฮีหันมาคุยด้วยอยู่ตลอดเวลา 
    แม้มันจะเป็นการโวยวายใส่กัน แต่ยิ่งอานโซฮีโวยวาย มินซันเยก็ยิ่งหัวเราะน้อยๆอย่างชวนหัว 

    "นี่แน่ะๆ!! จะบ้ารึไงฮะ" อานโซฮีแหวก่อนจะหยิกมือข้างที่จับกระปุกเกียร์รถอยู่ 

    "โอ๊ย!!" มินซันเยร้องลั่นก่อนจะปล่อยกระปุกเกียร์ แล้วหันมามองอานโซฮีอย่างตัดพ้อ

    "นี่เธอ! แผลเก่ายังไม่หาย จะสร้างแผลใหม่เพิ่มให้ชั้นอีกเหรอ" มินซันเยโวยวายบ้าง
    อานโซฮีขมวดคิ้วเมื่อมองเห็นรอยแผลที่เป็นรอยรองเท้า .. เมื่อเธอหยิกลงไป แผลที่ตกสะเก็ดอยู่จึงเปิดให้เลือดซึมอีก
    เมื่อเธอเห็นดังนั้นก็ตกใจ .. นึกย้อนได้ว่าครั้งล่าสุดเคยได้ทำอะไรมินซันเยเอาไว้

    "อุ๊ย... ชั้น..ขอโทษนะ.." อานโซฮีร้องอย่างตกใจ มินซันเยจึงได้แต่ส่ายหัวขณะที่สาวพวงมาลัยหลบรถข้างหน้า

    "หึ ไม่ต้องล่ะ ... วันนั้นมีคนพาชั้นไปห้องพยาบาลแล้ว .. ขอบใจเธอมากนะที่ถีบชั้นเข้าไปในลิฟท์" 
    มินซันเยพูดอย่างประชดประชัน ทำให้อานโซฮีไม่รู้ว่าควรจะขอโทษต่อหรือควรจะโกรธต่อดี 
    แต่เธอก็รู้สึกไม่ดีที่ทำให้คนอื่นต้องเจ็บ ... เธอจึงหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาแล้วค้นหาสิ่งของที่อยู่ข้างใน 

    "ไหนมาดูซิ..." อานโซฮีเอ่ยขึ้นแล้วดึงมือมินซันเยเข้ามาดูเมื่อรถจอดติดไฟแดงอยู่ 
    การกระทำอย่างนั้น ทำให้มินซันเยถึงกับเงยหน้ามองอานโซฮีอย่างงุนงง 
    อีกฝ่ายก็ไม่อธิบายอะไรมาก...แต่แปะพลาสเตอร์ลายการ์ตูนสีส้มสะท้อนแสงลงบนหลังมือของมินซันเยอย่างแผ่วเบา
    มินซันเยมองมือตัวเอง ก่อนจะเงยหน้ามองอานโซฮีด้วยสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย...แล้วเอ่ยออกมาว่า..

    "ตายแล้ว...สีน่าเกลียดเชียว..." 

    มินซันเยเอ่ยแล้วทำสีหน้าไม่ชอบใจ ทำให้อานโซฮีหน้าบูดก่อนจะกอดอกแล้วหันหน้าหนีไปตามระเบียบ .. 
    แต่สิ่งหลังจากนั้นที่อานโซฮีไม่เห็นคือ... 

    คนที่มีพลาสเตอร์ลายการ์ตูนสีส้มสะท้อนแสงติดอยู่ทีมือ หักพวงมาลัยเลี้ยวซ้าย ...
    ...แล้วอมยิ้มที่มุมปากอย่างมีความสุข...



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×