คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter#6 รองเท้าส้นสูงทำพิษ
"หา...อะไรนะคะ!!"
นี่นับว่าเป็นประโยคแรกที่บรรดาสมาชิกวงวอนเดอร์เกิร์ลพูดพร้อมกันแทบจะเป็นเสียงเดียวกัน
ครูสอนเต้นจึงพยักหน้าพร้อมหยิบรองเท้าส้นสูงขึ้นมาเพิ่มความมั่นใจ
"ใช่จ้ะ MV Single แรกของพวกเธอ ต้องใส่รองเท้าส้นสูงเต้น"
พอได้ยินคำยืนยันเช่นนั้น ก็ทำเอาบรรดาสาวน้อยโอดครวญกันยกใหญ่
โดยเฉพาะซอนมีกับอานโซฮีเพราะทั้งสองอายุแค่เพียง 15 ปี และก็นับว่าเป็นธรรมดาที่เด็กอายุ15จะคุ้นเคย
กับการใส่รองเท้าแตะ รองเท้าผ้าใบ มากกว่าส้นสูงที่เป็นส้นเข็มอย่างนี้...
แม้แต่คนที่โตพอจะใส่ส้นสูงแล้วอย่างสมาชิกที่เหลือก็ยังถอนหายใจอย่างหนักใจ ..
เพราะลำพัง การใส่ส้นเข็มเดินไปเดินมาธรรมดาก็ทำเอาสาวเจ้าปวดเท้ากันจะแย่อยู่แล้ว...
แล้วยังต้องมาใส่ส้นสูงเต้นเนี่ยนะ!!!
ถึงอย่างไร "งานก็คืองาน" อย่างที่ยูบินว่า เพราะแม้สาวๆจะโอดครวญกันเท่าไหร่
แต่ทุกคนก็ลุกขึ้นมาหยิบรองเท้าของตนเองไปใส่อย่างขะมักเขม้น
"เป็นอะไรจ๊ะซอนมี" ปาร์คเยอีนเอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นสาวน้อยนั่งลงกับพื้นพร้อมทั้งทำหน้าบูดหน้าเบี้ยว
เมื่อปาร์คเยอีนก้มลงดูใกล้ๆก็ถึงกับยิ้มกริ่มออกมา ... เพราะซอนมีกำลังนั่งใส่รองเท้าของเธออย่างตั้งใจ
แต่ไม่ว่าจะพยายามอย่างไร รองเท้าเจ้ากรรมก็ไม่ยอมเข้าไปเสียที ..
"โธ่.. มานี่ เดี๋ยวพี่ใส่ให้" ปาร์คเยอีนเอ่ยก่อนจะนั่งลงแล้วพยายามใส่รองเท้าให้ซอนมีอย่างแผ่วเบา
"ข..ขอบคุณนะคะ พี่เยอีน" ใบหน้าของซอนมีเรื่อสีขึ้นมาอีกแล้ว
อานโซฮีเห็นอากัปกริยาของทั้งสองแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้ ..ปาร์คเยอีนนั้นดูเหมือนจะชอบแกล้งซอนมี
แต่เอาเข้าจริงแล้วก็คอยเป็นห่วงเป็นใย คอยดูแลอยู่ตลอดเวลา..
"อยากให้ชั้นใส่ให้มั่งมั๊ยล่ะ" น้ำเสียงกวนอารมณ์ดังมาแต่ไกล
อานโซฮีหันไปมองเจ้าของเสียงที่ไม่มีใครอื่นเหมือน .. (และคงไม่ใช้น้ำเสียงอย่างนี้กับใคร)
"ไม่เป็นไร... ขอบคุณ!!" อานโซฮีตอบเสียงห้วน ก่อนจะเดินกระแทกส้นเท้าเลี่ยงไป
"เอ้า .. จะไปไหนซะล่ะ...ยังใส่ไม่เสร็จเลยไม่ใช่เหรอ" มินซันเยเอ่ยถามน้ำเสียงเป็นมิตรมากขึ้น
ทำเอาอานโซฮีเริ่มไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายจะมาดีหรือมาร้าย แต่เมื่อมินซันเยดึงแขนเธอไว้ เธอก็ถลึงตาใส่ทันที
"อย่า...มา...แตะ...ต้อง...ตัว...ชั้น!" อานโซฮีพูดลอดไรฟัน ก่อนจะสะบัดมือหนี
มินซันเยจึงได้แต่มองตามแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่... แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรต่อ
"เอ้า ...ห้า หก เจ็ด แปด ..." เสียงอาจารย์นำเต้นเริ่มขึ้น
พวกเธอเริ่มจากวอร์มอัพเสต็ปง่ายๆก่อน สำหรับคนไม่เคยเต้น และอาจารย์ก็จะเริ่มต่อท่าใน MV ให้ทีละท่า
สมาชิกในวงหลายคนเต้นได้ราวกับมันเป็นเรื่องง่าย แม้ต้องทรงตัวอย่างยากลำบากบนส้นสูง
แต่ทุกคนก็ดูมีพื้นฐานการเต้นดีมาแล้วทั้งนั้น.(แม้แต่ซอนมีก็เคยเรียนบัลเล่ต์มา)..
เว้นซะแต่...
"ฮึบ... ห้า ... หก...เจ็ด...แปด ...ฮึบ..." อานโซฮีพยายามทำท่าทำทางตามอย่างสุดความสามารถ
แต่เธอแทบไม่มีพื้นฐานการเต้นเอาเสียเลย การเต้นมันเลยดูขลุกขลักไปหมด
อานโซฮีมองไปรอบๆอย่างหมดหวัง เพื่อดูตัวอย่างเพื่อนในวง ...
ดูซิ...พี่ยูบินก็เต้นได้เท่เชียว ... ยังกับสาวฮิพฮ็อพมาเอง
พี่เยอีนก็เต้นสวยยังกับเคยเป็นเชียร์ลีดเดอร์มาก่อน...
ซอนมีก็เต้นได้พลิ้วไหว...สมกับที่เรียนบัลเล่ต์มาเลยเนอะ
เอ่อ...เอาล่ะ... ชั้นยอมรับว่าเธอก็เต้นสง่ายังกับนางพญาจริงๆ...มินซันเย
แล้วชั้นล่ะ...ชั้นเต้นเป็นยังไงเนี่ย!!
อานโซฮียิ่งคิดยิ่งท้อใจ .. แต่ก็ยังพยายามฝืนร่างกายต่อไป
"ห้า..หก..เจ็ด ว๊าย!!" อานโซฮีร้องลั่นออกมา เธอรู้สึกได้ว่าสิ่งที่เหยียบไปเบื้องหน้าไม่ใช่พื้นแต่เป็นอากาศ
รู้สึกได้ถึงร่างที่หงายหลังกำลังจะลอยกระทบพื้นอย่างช้าๆ ..เพื่อนๆทุกคนในวงหันมามองเป็นตาเดียว
แต่ก็ไม่มีใครถึงตัวเธอไวเท่า............
พลั่ก!!~ เสียงร่างที่กระแทกพื้นก้นจ้ำเบ้าอย่างแรงนั้น หาใช่อานโซฮีไม่ แต่เป็นร่างอีกร่างหนึ่งที่วิ่งเข้ามารับพอดี
ถึงแม้จะไม่เก่งอย่างพระเอกหนังไทยที่รับนางเอกได้ทันเสมอ แต่ก็ทันที่จะไม่ให้อานโซฮีต้องลงไปจูบพื้น
เธอจึงรีบหันมาขอบคุณผู้หวังดีคนนั้นอย่างรวดเร็ว...
"ข..ขอบ..คุ... เอ่อ..." คำขอบคุณถูกกลืนหายไปในลำคอแทบจะทันทีที่เห็นว่าคนที่รองรับเธออยู่นั้นเป็นใคร
มินซันเยนั่งอยู่กับพื้นโดยที่มีร่างของอานโซฮีทับอยู่...แค่ดูจากสีหน้า ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอจุกแค่ไหน
อานโซฮีนิ่งอึ้งไป...แต่ไม่ใช่เฉพาะเธอคนเดียวที่อึ้ง...เพราะทุกคนก็มองหัวหน้าวงของพวกเธออย่างไม่เชื่อสายตา
นี่มัน....?...
มินซันเย..ช่วย...อานโซฮี...
อย่างนั้นเหรอ??!??
แต่ดูท่ามินซันเยก็คงจะพอตีความหมายสายตาเหล่านั้นได้ เธอจึงทำเป็นถอนหายใจเฮือกก่อนจะเอ่ยบอก
"โธ่...ก็นึกว่าซอนมีล้ม .. ถึงได้รีบวิ่งมารับ ถ้ารู้นะว่าเป็นใครก็คง...."
มินซันเยทำเป็นบ่น ทำให้อานโซฮีที่กำลังจะสำนึกในบุญคุณกลับฮึดฮัดอีกครั้ง
ใช่สินะ เมื่อก่อนในวงก็คงมีแต่ซอนมีคนเดียวที่เป็นเด็กที่สุด
ทุกคนก็เลยห่วงที่สุดเป็นธรรมดา...แม้แต่หัวหน้าวง!!
ที่จริงน่ะไม่ได้ตั้งใจจะมาช่วยชั้นหรอกใช่มั๊ย!!
อานโซฮีคิดได้ดังนั้น ทิฐิมานะของเธอบวกกับการกระทำเลวร้ายที่มินซันเยทำก็ทำให้เธอใจร้ายพอจะลุกหนีทันที
ไม่มีคำขอบคุณสักคำหลุดออกมาจากปาก ซึ่งมินซันเยก็ทำเฉย ไม่ได้ทวงถามใดใด
"แต่ก็ดีแล้วละ ลูกในท้องจะได้ไม่เป็นอันตราย" มินซันเยแกล้งแหย่อีกครั้ง
"พูดแบบนี้ คิดว่ามันตลกมากนักใช่มั๊ย!!" อานโซฮีหันมาแหวใส่
"ตลกสิจ๊ะ ที่รัก" มินซันเยยังกวนอารมณ์ได้อีก
"หยุดเดี๋ยวนี้นะ" อานโซฮีโวยวาย
"เธอเป็นใครมาสั่งชั้น" มินซันเยถามกวน
"เป็นแม่เธอมั้ง.."
"ชั้นไม่เคยมีแม่หน้าตาอย่างเธอนี่"
"โอ๊ย...หยุดได้แล้ว มาซ้อมเต้นกันนะลูกไม่ได้มาโต้วาที .. โซฮีไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ซันเยลุกไหวมั๊ย?"
ครูสอนเต้นออกมาห้ามทัพ ก่อนจะเอ่ยถามสภาพการณ์ .. ซึ่งมินซันเยก็พยุงตัวลุกขึ้นทันที ..
แต่ยังไม่ทันได้ลุก .. เธอก็ปวดแปลบที่ข้อเท้า .. จึงต้องร้องโอ๊ยออกมาเบาๆ
"เฮ่อ..เอาล่ะ งั้นคงต้องพักซ้อมชั่วคราว.. โซฮีพยุงซันเยไปห้องพยาบาลชั้นB ละกัน" ครูเอ่ยอย่างระอา
อานโซฮีกำลังตั้งท่าจะเถียง แต่ครูก็โบกมือไล่ ...ทำให้เธอต้องจำใจพยุงมินซันเยขึ้น
"ขอบใจนะจ๊ะที่รัก" มินซันเยยังไม่วายแกล้งแหย่ ทำให้อานโซฮีถลึงตาขุ่นเขียวใส่
"เจ็บแล้วยังปากดีอีก...เดี๋ยวจะโดน" อานโซฮีบ่นเบาๆ
"โดนอะไร...โดนแบบที่ชั้นทำกับเธอน่ะเหรอ" มินซันเยเอ่ยถาม อานโซฮีขบฟันกรอด
"เดี๋ยวก่อน...เดี๋ยวเธอจะได้รู้แน่ว่าโดนอะไร" อานโซฮีเอ่ยด้วยน้ำเสียงน่ากลัวแล้วจ้องมองอย่างแค้นๆ
แต่มินซันเยกลับสบตาท้าทายอย่างไม่เกรงกลัวเลย...
------------------------------------------------------------------------------------------------
เมื่ออานโซฮีพยุงมินซันเยออกไปพ้นจากบริเวณห้องซ้อมเต้นแล้ว สมาชิกวงที่เหลือก็ตั้งกระทู้ถามกันทันที
"คิดว่ามันมีอะไรแปลกๆอยู่หรือเปล่า..." ยูบินเอ่ยขึ้นมาก่อนด้วยน้ำเสียงเรียบ
"นั่นนะสิคะ .. ปกติพี่ซันเยก็คงไม่ห่วงหนูขนาดนี้ ถ้าหนูล้ม คนที่จะประคองก็คงมีแต่..."
ซอนมีเอ่ยออกความคิดเห็น ก่อนจะหน้าแดงเรื่อขึ้นมาเมื่อต้องเอ่ยชื่อปาร์คเยอีน
ที่เป็นเหมือนองค์รักษ์ส่วนตัวของเธอไปเสียแล้ว ... คนที่ยังไม่ทันได้โดนเรียกชื่อก็เข้าใจดี แล้วยิ้มอ่อนๆ
"ฟอร์มน่ะ รู้จักคำว่าฟอร์มมั๊ย... คนอย่างซันเยไม่ยอมเสียฟอร์มหรอก ที่จริงน่ะแค่ได้ยินเสียงโซฮีก็วิ่งไปแล้ว"
ปาร์คเยอีนเอ่ยอย่างรู้เท่าทันเพื่อน เพราะปกติที่ผ่านมาไม่เคยเห็นมินซันเยทำแบบนี้กับใครเลย
"ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่า พี่ซันเยก็เป็นห่วงโซฮีอยู่น่ะสิคะ" ซอนมีอมยิ้ม
"ก็น่าจะใช่ .. เพราะเค้าก็รู้ตัวอยู่นะว่าเคยแกล้งโซฮีแรงแค่ไหน เสียแต่ตรงที่ว่าเค้าเป็นคนไม่ยอมขอโทษใคร"
ปาร์คเยอีนลูบคางอย่างครุ่นคิด ... มินซันเยมักจะปากแข็งแบบนี้เสมอ
"แต่สองคนนั้นเค้า...ดูเกลียดกันไม่ใช่เหรอ?" ยูบินเอ่ยถามขึ้นมาเนิบๆอย่างไม่มั่นใจ
"ไม่...ไม่เกลียดแน่นอน โซฮีน่ะอาจจะ แต่ซันเยน่ะชั้นรู้ดี..." ปาร์คเยอีนเอ่ยด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
"แต่มันจะมีท่าทียังไงต่อน่ะ.. คงต้องรอดูกันต่อไป... แต่ที่รู้ๆ สนุกแน่!"
----------------------------------------------------------------------------------------------
อานโซฮีกดลิฟท์นานแล้ว แต่ลิฟท์ยังไม่มาเสียที เธอจึงต้องยืนประคองมินซันเยไว้โดยไม่พูดอะไรสักคำ
ก็สถานที่ที่เธอทั้งสองยืนอยู่ตอนนี้ มันเป็น "ที่เกิดเหตุ" ของเรื่องราวในวันนั้น..
มันเป็นสถานที่สุดท้ายที่อานโซฮีจะเลือกยืนอยู่นานๆบนโลกใบนี้ !!
และที่สำคัญ... ถ้าต้องมายืนอยู่กับมินซันเยลำพังสองต่อสอง!!
โชคดีที่อีกฝ่ายไม่อยู่ในสภาพที่จะสามารถทำอะไรเธอได้เลย
สังเกตได้จากขาที่เขียวเป็นจ้ำเพราะโดนรองเท้าของเธอทับเอา อานโซฮีจึงโล่งใจไปอีกหนึ่งเปลาะ
"นี่ โซฮี..." มินซันเยเอ่ยขึ้นมา ทำเอาอานโซฮีสะดุ้งเฮือกเพราะตกใจ
อากัปกริยาของอีกฝ่ายทำเอามินซันเยหัวเราะก๊ากออกมาอย่างเอ็นดู...
"โถ แม่คนขวัญอ่อน ชั้นทำอะไรเธอเหมือนวันนั้นไม่ได้หรอกน่า" มินซันเยเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ
อานโซฮีเริ่มอารมณ์ขึ้นอีกครั้ง
"เงียบไปเลยน่า!!" อานโซฮีเอ่ยอย่างขัดใจ
"คือชั้นจะบอกว่า ..ชั้นขอ..." มินซันเยกำลังจะพูดว่า ขอบคุณ หรือ ขอโทษ ก็ไม่ทราบ
แต่นาทีนี้ สองคำนั้นไม่มีความหมายกับอานโซฮีเลยแม้แต่น้อย เพราะสิ่งที่เธอต้องการคือ
พลั่ก~*!!
"โอ๊ย!!" มินซันเยร้องลั่น
เมื่อลิฟท์เปิดประตูอานโซฮีก็เหวี่ยงเธอเข้าไปในลิฟท์อย่างไม่ใยดี ก่อนจะกดลิฟท์ปิดแล้วหัวเราะร้าย
"ทีใครทีมันนะคะคุณมินซันเย...ถ้าโชคดีก็อาจจะมีคนมาช่วยพาไปนะ ถ้าโชคร้ายก็คลานไปเองแล้วกัน ฮะฮ่า"
อานโซฮีโบกมือลา ... มินซันเยที่ทั้งเจ็บ ทั้งบวมไปหมดมองลอดลิฟท์กลับมาอย่างโกรธเคือง ..
แต่ก็ลุกไม่ได้ จึงต้องนั่งอยู่ในลิฟท์ค่อยๆปิดประตู พร้อมกับภาพใบหน้าร่าเริงของอานโซฮี...ยัยตัวดีของเธอ..
ฮึ่ม... จำไว้นะ ... แสบจริงๆนะเราเนี่ย!!
อย่าให้หายไวไวนี้นะ จะโดนหนักกว่านี้เยอะ!!
ความคิดเห็น