ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Bring it on!! Love [Fic Wonder Girl Yuri]

    ลำดับตอนที่ #12 : Chapter#11 การกระทำที่ชัดเจน

    • อัปเดตล่าสุด 25 ต.ค. 50



    หลังจาก MV ตัวแรกของของพวกเธอถูกตัดต่อเสร็จเรียบร้อย
    เพลง Single แรกของวง ก็ถูกส่งไปตามสถานีวิทยุต่างๆ พร้อมทั้ง MV ที่ส่งไปตามช่องเพลงต่างๆ
    ซึ่งก็ได้รับกระแสตอบรับอย่างดีมาก และชื่อของวอนเดอร์เกิร์ลก็เริ่มเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมากขึ้นเรื่อยๆ

    "โซฮี...นี่ ดูสิ เพลงเธอติดชาร์ตด้วยนะๆ" คิมแชยองเอ่ยอย่างตื่นเต้น เมื่อเปิดนิตยสารดารารายสัปดาห์เล่มล่าสุดดู
    ทำเอาอานโซฮีที่นอนเล่นอยู่บนเตียงถึงกับผุดลุกขึ้นมาดูด้วยแทบไม่ทัน

    "จริงเหรอแชยอง!!" อานโซฮีร้องออกมาอย่างตื่นเต้นขณะเกาะไหล่เพื่อน คิมแชยองยิ้มแก้มปริ

    "ใช่สิ นี่ไง Top Chart ประจำสัปดาห์นี้ Tell me-Wonder Girls เนี่ย มีรูปพวกเธอด้วยน้า เพื่อนชั้นจะได้เป็นดาราแล้ว"
    คิมแชยองเอ่ยแล้วแบหนังสือให้ดูภาพภายในนิตยสารซึ่งเป็นภาพนิ่งโปรโมตที่พวกเธอไปถ่ายกันมา
    แน่นอนว่าทุกคนในรูปมีสีหน้าแช่มชื่น ไม่เว้นแม้แต่เธอ...ซึ่งยืนอยู่ข้างมินซันเย...คนที่เด่นที่สุด...

    "ว่าแต่..ไหนว่าไม่ชอบกันไม่ใช่เหรอ ทำไมยืนซะติดกันเชียวละจ๊ะ" คิมแชยองแหย่เข้าเมื่อเห็นภาพ

    "โปรดิวเซอร์เค้าจัดให้..." อานโซฮีหน้าแดงเล็กๆ ก่อนจะเอ่ยพลางทำหน้าทำตาไม่สนใจ
    คิมแชยองก็หัวเราะกับท่าทีของเพื่อน เพราะอานโซฮีในยามนี้ทำหน้าทำตาเหมือนเด็กเอาแต่ใจก็ไม่ปาน

    "แต่ได้ข่าวว่าไปรับไปส่งกันด้วยไม่ใช่หรอจ๊ะ..อุ๊บๆ" คิมแชยองยังไม่ทันล้อจบ อานโซฮีก็ปาหมอนใส่เพื่อนอย่างแรง
    ทำเอาคิมแชยองยิ่งหัวเราะร่าด้วยความขำ ขณะที่อานโซฮีทำตาปูดตาบวมใส่อย่างเคืองๆ

    "ทำไมเธอชอบล้อชั้นนักนะ!! อย่าได้คิดเลยนะว่าชั้นกับยัยนั่นจะมีอะไรในกอไผ่กันน่ะ" อานโซฮีโวยวาย

    "ชั้นว่ามันยิ่งกว่ามีอะไรซะอีกนะ" คิมแชยองหลิ่วตาพลางเท้าคางมองเพื่อน

    "ก็สังเกตดูสิ...เธอกับมินซันเยน่ะ ปากก็บอกว่าเกลียดกันแทบตาย แต่ทำไมยังอยู่ใกล้กันอยู่เล่า" คิมแชยองสาธยาย

    "ก็ทำงานร่วมกันนี่นา!!" อานโซฮีค้านหัวชนฝา

    "แล้วทำไมเค้าต้องมารับมาส่ง ทั้งๆที่เค้าก็บอกว่าเกลียดเด็กดื้อด้านอย่างเธอ" คิมแชยองยิงคำถามต่อ

    "ก็ยัยนั่นกลัวชั้นไปสาย...เสียเวลาทำมาหากินเค้านะสิ" อานโซฮียังคงค้านได้ต่อ

    "แล้วทำไมเค้าถึงต้องให้เธอจูบด้วยล่ะ" คิมแชยองแหย่เข้าโดนกลางใจพอดี

    "นี่!! ...แค่หอมแก้มนะ ไม่ใช่จูบ" อานโซฮีแหวขึ้นมา ใบหน้าเรื่อสีชมพูอ่อนๆอย่างปิดไม่มิด คิมแชยองหัวเราะชอบใจ
    ทำให้อานโซฮีได้แต่ถอนใจว่าไม่น่าบอกเรื่องนี้ให้แก่เพื่อนสนิทของเธอเลย ..

    "ก็เค้ารู้นี่ว่าชั้นไม่อยากอยู่ใกล้เค้า..." อานโซฮีเถียงไปได้ทุกกระบวนท่า ก่อนจะกอดหมอนแล้วหันหน้าหนีเพื่อนบ้าง
    คิมแชยองได้แต่ส่ายหัวด้วยความระอา .. ก่อนจะตัดสินใจพูดกับเพื่อนตรงๆ

    "แต่ชั้นว่าเค้าชอบเธอนะ" คิมแชยองเอ่ย ก่อนจะทำหน้าจริงจัง แล้วดึงแก้มเพื่อนให้หันหน้ามามองหน้าเธอ

    "ฮึ้ย!! บ้าเหรอ เธอเอาอะไรมาพูด" อานโซฮีทำตาโตอย่างประหลาดใจ
    ท่าทางตกใจสุดขีดนั้นทำเอาคิมแชยองถอนหายใจอย่างเอ็นดู ...

    "อะไรกัน แค่นี้เธอดูไม่ออกหรือไงที่คุณซันเยเค้าทำกับเธอเนี่ย ไม่ว่าจะเป็น หาเรื่องมาแกล้งให้สนใจ,
    ไปรับไปส่งดูแล,อยากให้อยู่ใกล้ๆ,เก็บของที่เธอให้ไว้ดีๆ นี่มันสูตรสำเร็จเลยนะ" คิมแชยองเอ่ยพลางนับนิ้ว

    "บะ..บ้าน่า... ยัยนั่น...มีแฟนแล้วมั้ง!" อานโซฮีปฏิเสธหัวชนฝา เพราะไม่เชื่อว่ามันจะเป็นเรื่องจริงไปได้เลย
    แม้คิมแชยองจะพยายามหาหลักฐานแน่นหนาแค่ไหน

    "ไอ้มีแฟนแล้วหรือเปล่าน่ะไม่รู้นะ ... แต่สวยๆอย่างนั้นน่ะผู้ชายมาจีบเยอะเป็นธรรมดา..." คิมแชยองเอ่ยพลางยักไหล่

    "แต่ถ้าคนมาจีบเยอะขนาดนั้นแล้วยังไม่ยอมมีแฟนอีกละก็...เธอคิดว่าจะเป็นเพราะอะไรถ้าไม่ใช่เพราะเค้าชอบเธอ"
    แล้วหลิ่วตาให้อานโซฮีซึ่งกำลังทำหน้าสยดสยองสุดๆเมื่อจินตณาการภาพ ...

    ไม่จริงน่ะ!! ไม่ใช่หรอกนะ... ไม่ใช่!!

    "ติ๊ด..ติ๊ดๆๆ.." เสียงโทรศัพท์ของอานโซฮีดังขึ้นดึงให้เธอออกจากห้วงภวังค์
    แต่ก็ดึงได้ไม่เร็วพอที่จะห้ามมือซนๆของคิมแชยองให้คว้ามันขึ้นมาดู พร้อมทำหน้าทำตาตื่นเต้น

    "โอ้ว... ใครกันนะที่โทรมา...รู้สึกว่าจะชื่อ มินซันเ ... อุ๊บ ..ว๊าย" ขณะที่คิมแชยองกำลังเย้าแหย่
    อานโซฮีก็รีบกระโดดคว้าโถมใส่ตัวเธออย่างแรง แต่คิมแชยองก็ยังคงแกล้งดึงให้ห่างมือ

    "อ้าว...ไหนไม่ชอบเค้าไม่ใช่เหรอจ๊า...ทำไมต้องพยายามอยากได้..ว๊าย..." คิมแชยองหัวเราะร่า
    พลางยิ่งรีบเอาโทรศัพท์ของอีกฝ่ายซ่อนไว้ด้านหลัง

    "ม..มะ ใช่...รับ ช้า !! เดี๋ยว ... มินซันเย... ด่าเอา...!!" อานโซฮีพูดน้ำเสียงขาดตอน
    ขณะพยายามกระโดดตะครุบให้จนได้แต่ด้วยความที่เธอแรงน้อยกว่า ก็ทำให้คิมแชยองยังเป็นฝ่ายได้เปรียบ ...
    เสียงโทรศัพท์ยังดังอยู่เรื่อยๆ ...ในที่สุดอานโซฮีก็หอบเหนื่อย และคิมแชยองก็ยอมแพ้ยื่นโทรศัพท์ให้แต่โดยดี

    "ฮ..ฮาโหล" อานโซฮีรีบกดปุ่มรับด้วยน้ำเสียงที่หอบอยู่

    "ทำไมรับช้านักล่ะ...ถ้าช้ากว่านี้ชั้นแจ้งคนหายจริงๆนะ" มินซันเยพูดติดตลก น้ำเสียงไม่มีวี่แววหงุดหงิดแต่อย่างใด
    ทำให้อานโซฮีถอนหายใจอย่างโล่งใจออกมา

    "โทษทีนะ...ชั้นหาโทรศัพท์ไม่เจอน่ะ...แมวมันเอาไปซ่อน" อานโซฮีเอ่ยอย่างแขวะเพื่อน

    "ชั้นไม่ใช่แมวซะหน่อยนะ" คิมแชยองพูดอย่างตัดพ้อ ทำให้เสียงดังเข้าไปในโทรศัพท์

    "อยู่กับใครน่ะ?" น้ำเสียงของมินซันเยเปลี่ยนเป็นเสียงเข้มทันทีเมื่อได้ยินเสียงใครอีกคนในโทรศัพท์

    "อยู่กับคิมแชยอง..เพื่อนชั้นไง วันนั้นที่เดินอยู่ด้วยกันหน้าโรงเรียนน่ะ..."

    "อ๋อ.." น้ำเสียงนั้นมีแววโล่งใจขี้น...

    "มีการถามด้วยเหรอว่าอยู่กับใคร ..อย่างนี้มันฟังดูคล้ายกับหึงเลยนะคะ" คิมแชยองตะโกนเข้าไปในโทรศัพท์
    ทำให้อานโซฮีต้องรีบปิดหนี พลางส่งสายตาขุ่นเขียวให้เพื่อนสาว

    "เหอะๆ..." มินซันเยหัวเราะแห้งตอบกลับมาตามสาย เป็นสัญญาณว่าได้ยินเสียงนั้นแล้ว
    อานโซฮีจึงได้แต่หลับตาปี๋ว่าอีกฝ่ายจะตอบมาว่าอะไรบ้าง ...

    "เธอลองบอกเพื่อนเธอซิว่า... ถ้าหึง..แล้วจะทำไมเหรอ..." มินซันเยเอ่ยด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ

    "จะบ้าเหรอ...เพื่อนชั้นยิ่งเข้าใจผิดไปใหญ่สิเธอ" อานโซฮีโวยวายบ้าง ทำให้คิมแชยองยิ่งทำหน้าอยากรู้เข้าไปใหญ่

    "ล้อเล่นน่า...ชั้นแค่โทรมาบอกเธอว่า อาบน้ำแต่งตัวซะ" มินซันเยเอ่ย ทำให้อานโซฮีขมวดคิ้วอย่างรวดเร็ว

    "ทำไม?..อาบน้ำแต่งตัวไปไหน มีงานอะไรอีกล่ะเธอ Debut อัลบั้มเรามันอาทิตย์หน้าไม่ใช่เหรอ?"
    อานโซฮีรัวคำถามเป็นชุด ..ทำเอานึกหน้าปลายสายออกว่าคงกำลังขมวดคิ้วอย่างขัดใจอยู่ในตอนนี้

    "เออ..เอาน่ะ .. รีบๆเข้า...ชั้นรออยู่หน้าบ้านแล้ว" มินซันเยเอ่ยประโยคนั้น ที่ทำเอาอานโซฮีตาค้าง

    "หา!! อยู่หน้าบ้าน!?" อานโซฮีทวนคำ ก่อนจะวิ่งไปเปิดผ้าม่านดูก็พบรถเปิดประทุนคันสีแดงจอดอยู่
    และเจ้าของรถก็นั่งถือโทรศัพท์มือถือแนบหูพลางเงยหน้าขึ้นโบกมือให้เธอ...

    "อ..เออ...เดี๋ยวลงไป" อานโซฮีพูดตะกุกตะกัก ก่อนจะวางสายโทรศัพท์ไป

    "จุ๊ๆ ช่างสร้างความประหลาดใจไม่เว้นแต่ละวันเลยนะจ๊ะเนี่ย" คิมแชยองทำเป็นส่ายหัว ทำให้อานโซฮีค้อนขวับใหญ่
    แต่เพื่อนของเธอก็ไม่มีเวลาจะเสียกับเธอมาก เพราะต้องรีบควานหาชุดออกจากบ้านที่ดูดีที่สุดในเวลานั้น
    ก่อนจะรีบแต่งกายอย่างรวดเร็วด้วยชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ธรรมดา ตามประสาเด็ก ม.ต้น แล้วเร่งฝีเท้าวิ่งลงบันไดไป
    คิมแชยองจึงวิ่งตามลงไปด้วยอย่างนึกสนุก ...

    มินซันเยนั่งรออยู่บนรถ ... ใส่แว่นตากันแดดเช่นเดิม ท่าทางกวนๆเหมือนเดิม...
    เงยหน้ามองอานโซฮีจากภายในรถอย่างพินิจพิจารณา...

    "จะพาไปไหน..?" อานโซฮีเอ่ยถาม

    "ขึ้นรถแล้วค่อยถามได้มั๊ยอ่ะ" มินซันเยเอ่ยอย่างกวนอารมณ์ ทำเอาอานโซฮีกะจะแหวขึ้นมาอีก
    แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าสงบศึกกันเรียบร้อยแล้ว...เธอจึงไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด

    "เฮ้อ...!!" อานโซฮีถอนหายใจ พลางเปิดประตูรถของอีกฝ่ายแล้วนั่งลง

    "ไปก่อนนะน้อง!" มินซันเยเอ่ยพลางทำท่าวันทยาหัตถ์ให้คิมแชยองก่อนจะออกรถไป ฝ่ายคิมแชยองก็ทำตอบ

    "บอกแม่ให้ด้วยนะแชยอง~*" อานโซฮีตะโกนกลับมา

    "เออ!!" คิมแชยองรับคำ ก่อนจะส่ายหัวด้วยความชวนหัวของทั้งสอง

    ------------------------------------------------------------------------------

    "ไง..จะพาไปไหน" อานโซฮีเอ่ยถามเมื่ออยู่กันสองคนเรียบร้อยแล้ว

    "พาไปกินข้าวกลางวัน..." มินซันเยเอ่ย ทำเอาอานโซฮีอ้าปากค้าง

    "ห๊ะ! พาไปกินข้าวกลางวันเนี่ยนะ .. โธ่ แล้วก็โทรเร่งยังกับมีงานด่วน รู้มั๊ยว่าชั้นรีบหาเสื้อผ้าขนาดไหนเนี่ย"
    อานโซฮีโวยวายไปพลางโอดครวญไปพลาง ทำเอามินซันเยหัวเราะแล้วส่ายหัวน้อยๆ

    "ขอโทษแล้วกันนะ.. แต่ขนาดรีบหาเธอยังแต่งได้ดูดีเลยนี่นา" มินซันเยเอ่ยอย่างสุภาพ ช่างต่างกับมินซันเยเมื่อก่อนนัก
    และคำพูดนั้นก็คงทำให้อานโซฮีรู้สึกอะไรบางอย่างได้ ถ้าไม่ได้ยินประโยคต่อไป...

    "ดูดีกว่าคนบ้านิดนึง..." มินซันเยหัวเราะคิกพลางก้มลงมองรองเท้าแตะที่ใส่มาคนละสีของอานโซฮี
    เมื่ออานโซฮีก้มลงมองตามสายตาของอีกฝ่ายก็หน้าแดงระเรื่อขึ้นมาด้วยความอาย ...

    "...เค้าเรียกว่าเทรนด์.... ไม่เคยเห็นหรอ ใส่ข้างละสี...เด็กแนวอ่ะ!!" อานโซฮีเถียงข้างๆคูๆ

    "แนวขวางโลกน่ะสิ" มินซันเยเอ่ยกลั้วหัวเราะก่อนจะหันไปจดจ้องกับท้องถนนทำให้ไม่ทันเห็นรังสีอมหิตของอีกฝ่าย
    อานโซฮีได้แต่ทำปากยื่นใส่อย่างเคืองๆ .. ก่อนจะกอดอกแล้วหันหน้าหนี(ท่าประจำ)

    ใจจริงเธออยากจะถามนักว่าทำไมต้องลงทุนขับรถมาถึงบ้าน แค่เพื่อจะชวนออกไปกินข้าว
    แต่ก็กลัวคำตอบเหลือเกิน...กลัวว่ามันจะเป็นแบบที่คิมแชยองคาดการณ์ไว้...
    ทั้งๆที่...อีกฝ่ายก็ไม่ได้มีท่าทีอะไร คำพูดคำจาก็ยังคงกวนประสาทเหมือนเช่นเคย...
    แต่การกระทำที่เปลี่ยนไปนี้...มันยิ่งฉายแววให้บางสิ่งบางอย่างชัดเจน...

    -----------------------------------------------------------------


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×