คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 4 (ฉบับทดลองอ่าน,เต็ม) หลังกระจกบานที่ 2
หลังกระจกบานที่ 2
“สวัสดีค่ะ” เสียงหวานๆ ของตัวเราเอง ที่คนทางนั้นใช้พูดมา
…
หลังจากที่คุยโทรศัพท์ขานรับชื่อกันสักพักจนรู้ว่าใครเป็นใคร ฉันก็จัดแจงอธิบายเรื่องราวที่มันเกิดขึ้น ซึ่งฉันเองก็รู้ดีอยู่แล้ว เพราะฉันดูหนังมาเยอะ รู้ดีว่าเมื่อสลับร่างกันต้องทำอย่างไร ของแค่นี้กล้วยๆ แต่มันไม่กล้วยที่จะใช้ชีวิตต่อจากนี้นี่สิ ฉันจึงต้องเริ่มทำการเก็บข้อมูลเอาไว้
ฉันเริ่มอธิบายถึงอุบัติเหตุที่ทำให้เราสลับตัวกัน ซึ่งฉันเองคิดว่า ตัวเขาน่าจะรู้ดีกว่าตัวฉัน เพราะเขาเป็นคนที่โดนรถชน และพุ่งเข้ามาหาตัวฉันในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ แต่อย่างว่านะ ผู้ชายมักจะเชื่อเรื่องทำนองนี้ยากกว่าผู้หญิงที่ดูละครมามากอย่างเรา
ทีนี้ก็ถึงตาที่ฉันเริ่มถามเขาบ้าง อย่างน้อยก็เพื่อคืนนี้ สถานที่ที่ฉันจะต้องกลับไป เพื่อพักผ่อน
“บ้านคุณอยู่ที่ไหนคะ ฉันดูจากบัตรประชาชน รู้ที่อยู่แล้ว แต่อยากทราบตำแหน่งที่ชัดเจนค่ะ” ฉันก็จัดแจงจดรายละเอียด จุดสังเกตต่างๆ ของทางเข้าบ้านเขา ตามที่เขาบอกมา
“แล้วพรุ่งนี้จะต้องไปทำงานที่ไหนค่ะ ใช่บริษัทนี้หรือเปล่า” ฉันบอกชื่อบริษัท ตามเอกสารงานที่ฉันค้นดูก่อนหน้าที่จะโทรหาเขา
“งานที่คุณทำ เป็นงานตำแหน่งอะไรคะ ต้องทำอะไรบ้าง” เขาก็จัดแจงอธิบายหน้าที่การงานของเขาให้ฟัง
“ขอโทษนะคะ คุณจบอะไรมาหรือคะ ถึงมาทำงานนี้”
ให้ตายสิ สิ่งที่เขาตอบมา เป็นสิ่งเดียวกะที่เรากำลังเรียนอยู่ตอนนี้พอดี จะได้วัดความรู้ที่เรียนมาก็คราวนี้ล่ะ... ตัวเขาเอง ก็คงรู้ละมั้ง ว่าฉันเองก็เรียนคณะนี้อยู่
!!!
“เอ๊ะ! หรือว่าคุณแกล้งฉันรึเปล่าคะเนี่ย คุณแกล้งอำว่าจบมาจากคณะที่ตอนนี้ฉันเรียนอยู่พอดี บังเอิญเกินไปรึเปล่า แอบดูจากเอกสารเรียนของฉันรึเปล่าคะ ค้นจนหมดแล้วสิ”
“หึหึ ขนาดตอนที่รับสาย แม้แต่ชื่อของคุณ ผมยังไม่รู้เลย ผมยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวคุณเลย แล้วจะบอกว่าผมอำคุณได้ไง แต่ผมกำลังเริ่มรู้จักตัวคุณจากคุณอยู่นี่ล่ะ ตอนนี้ผมอยู่ในห้องของคุณ หนังสือของคุณ ของใช้ของคุณ อยู่ตรงหน้าผมแล้ว รวมถึงมือถือที่ผมคุยอยู่นี่ด้วย ก็เท่ากับมันกำลังจะเป็นของของผมทั้งหมดแล้ว”
“งั้นของของคุณ ก็เป็นของฉันหมดแล้วเช่นกัน”
แล้วก็หัวเราะกันทั้งคู่
จากนั้นเราก็สลับกันเล่าในสิ่งที่กันและกันเป็น ฉันเองก็เล่าในสิ่งที่ตัวฉันเป็น สภาพในบ้าน ตำแหน่งข้าวของเครื่องใช้ มหาวิทยาลัยและคณะที่ฉันกำลังเรียน ให้เขาฟัง เพื่อให้ตัวเขาปรับสภาพได้ถูก
จากนั้นก็ถึงจังหวะที่เขาพูดขึ้นมาบ้าง
“ผมว่าคุณเลิกลงท้ายว่า คะ ค่ะ สักทีเถอะ ผมเองฟังเสียงคุณในร่างผมแล้วมาพูดลงท้ายด้วยคะ ค่ะ ฟังแล้วมันแปลกๆ น่ะ ผมเองเริ่มหัดใช้สำเนียงผู้หญิงแล้วนะ ตอนตอบรับกับแม่คุณ ผมก็รับด้วยคำว่า ค่ะ”
“จริงสินะ ต่อจากนี้ไป ฉันก็ต้องฝึกใช้ชีวิตในแบบผู้ชาย งั้นฉันจะเริ่มปรับตัวตั้งแต่ตอนนี้เลยค่ะ เอ้ย ครับ”
แล้วก็หัวเราะกันอีกรอบ
“อือนี่ แล้วเรื่องของเราสองคนที่สลับตัวกันเนี่ย ขอให้เป็นความลับระหว่างเราสองคนนะ นับจากวันนี้ หรือจนกว่าทุกอย่างมันจะเหมือนเดิม หากมันไม่สามารถที่จะกลับมาเหมือนเดิมได้ ก็ขอให้คุณเข้าใจในตัวฉัน ในสิ่งที่ฉันเป็น” ฉันเสนอข้อตกลง
“อืม... ผมสัญญาครับ แล้วคุณก็รีบๆ กลับบ้านล่ะ นี่มันก็ค่ำแล้วนะ กว่าจะถึงบ้านที่ผมอยู่ มันก็คงดึก ผมเป็นห่วงนะ ไม่รู้จะกลับถูกด้วยรึเปล่าเนี่ย”
“อืม เอางี้... พอฉันกลับถึงบ้านแล้ว ฉันจะส่งแมสเซจไปบอกให้คุณรู้ละกัน ดีมะ?”
จากนั้นฉันก็ออกจากโรงพยาบาล เรียกแท็กซี่ บอกทางกลับบ้าน เพื่อกลับบ้านไปพักผ่อน เพราะจากโรงพยาบาลนี้ไป ก็ไกลบ้านมากอยู่พอควร กว่าจะกลับไปถึง ก็เป็นเวลาดึกมากแล้ว
แต่ฉันก็ไม่ลืมที่จะส่งแมสเซจเพื่อบอกให้นายนิทัศน์รู้ ทันทีที่ฉันกลับถึงบ้าน
ทำให้ฉันได้พบสิ่งมหัศจรรย์ที่น้อยคนนักจะได้เจอแบบฉัน
“รอจนหลับ นึกว่าจะไม่ได้รับซะแล้ว [ผู้ส่ง <แจ่มใส> / เวลา <00:24>]”
มันเป็นแมสเซจครั้งแรกและของวันแรกที่ฉันรู้จักกับนายนิทัศน์ และมันก็เป็นทั้งแมสเซจแรกที่ส่งมาจากตัวฉันเอง
ความคิดเห็น