คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3 (ฉบับทดลองอ่าน,เต็ม) หน้ากระจกบานที่ 2
หน้ากระจกบานที่ 2
ชายหญิงวัยกลางคนคู่นี้ พาผมออกจากห้องคนไข้ เดินผ่านมาตามทางเดิน ที่ผ่านเตียงคนไข้รวม
ผมตะลึงกับภาพที่ได้เห็นเมื่อมองไปที่เตียงคนไข้เตียงหนึ่ง
“นั่นมัน ตัวผมนี่!” ผมอุทานในใจ แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร ผมก็โดนดันตัวให้เดินต่อไป ร่างของผมเองก็ได้แต่จ้องมาที่ตัวผมจนลับสายตาเช่นกัน
คนพ่อก็จัดแจงพาผมขึ้นรถ ขับออกจากโรงพยาบาล จนมาถึงบ้าน
ในระหว่างที่อยู่ในรถ ผมก็ใช้ความคิด
“นี่ตกลง ผมต้องใช้ชีวิตอยู่ในร่างนี้ใช่ไหมนี่”
ลงจากรถ กำลังก้าวเข้าบ้าน ผมก็คิดในใจว่า สภาพบ้านนี้จะเป็นเช่นไร เพราะจากที่เห็นมา ก็ดูพ่อแม่ของเธอ เป็นคนมีฐานะ แต่งตัวภูมิฐาน มีรถขับ บ้านก็ดูโอ่อ่ากว้างใหญ่
“แล้วนี่เราจะเข้าห้องของเธอ ถูกมั้ยนี่” ผมนึกในใจ
ในขณะที่ผมกำลังงง ทำอะไรไม่ถูก ผมก็เลยบ่นไปตามอารมณ์ว่า
“เฮ้อ! เหนื่อยจัง”
นับเป็นความโชคดี ที่ผมได้พูดออกไปเช่นนั้น คนผู้แม่ก็เข้ามาจูงพาไปขึ้นห้องให้
“เหนื่อยสินะ คืนนี้อาบน้ำแล้วพักผ่อนให้สบายนะลูก” คนผู้แม่พูดกับผม ทำให้ผมเริ่มเห็นความอ่อนโยนของผู้ที่เป็นแม่ที่มีให้
เข้าห้องมา สิ่งที่สายตามองไปเป็นอันดับแรก นั่นคือเตียง ผมรีบทิ้งตัวคว่ำหน้าลงไปกับเตียงนอน
“นี่มันเป็นสวรรค์หรือนรกของเรากันแน่”
สักพัก ก็มีเสียงเคาะประตูห้อง แล้วประตูก็เปิดเข้ามา ตัวผมซึ่งนอนคว่ำหน้าอยู่ ก็หันเหลือบไปมอง เห็นคนผู้แม่หอบเอากองหนังสือที่ดูระเกะระกะกองหนึ่ง ซึ่งผมมองแล้วคุ้นตาเป็นอย่างดี นั่นคือกองที่เป็นหนังสือ เอกสารการเรียน และข้างบนสุดก็มีมือถือที่ผมหมั่นไส้ วางอยู่คู่กับกระเป๋าถือของสาวมหา’ลัยคนนั้นนั่นเอง ที่เป็นต้นเหตุให้ผมต้องมาอยู่ ณ ที่นี้
“ขอบคุณค่ะ แม่” ผมเจตนาตอบตามธรรมชาติรอบข้างตัวผมที่ตอนนี้มันได้เปลี่ยนไปจากเดิมแล้ว
หึหึ... ต่อๆ ไป เราต้องพูดแบบนี้สินะ
…
ตรู้ด... ตรู้ด... (ทำนองริงโทนกุ๊กกิ๊กแบบผู้หญิง)
เสียงโทรศัพท์มือถือดัง ผมก็ยื่นมือไปหยิบขึ้นมารับสาย ในขณะที่ยังนอนคว่ำหน้าอยู่
“สวัสดีค่ะ” ผมตอบรับสาย ด้วยเสียงอ่อนหวานแบบผู้หญิง
“ฮัลโหล นั่นใช่คุณนิทัศน์ รึเปล่าคะ” เป็นเสียงผู้ชายจากสายทางนู้นพูดมา
“ไม่ใช่ค่ะ นี่คือ... เอ่อ...” เอ่อ... แล้วนี่ตัวผู้หญิงคนนี้คือใครหว่า ชื่อไรหว่า จะปลอมตัวเป็นเขา ยังไม่เนียนเลย ชื่อเช่อยังไม่รู้เลยเรา แย่จริง ทำยังไงดี
ในขณะที่ผมยังคิดไม่ออก กำลังจะไปหยิบหนังสือเรียนมาเพื่อเปิดดูชื่อนั้น เสียงผู้ชายทางนั้นก็พูดมาต่อ ซึ่งผมก็ฟังน้ำเสียงแล้ว มันคุ้นเคยเป็นอย่างดี ตอนแรกที่รับสายไป เลยไม่ได้เอะใจอะไรมาก แต่ตอนนี้ผมก็เริ่มตั้งใจฟังเพื่อจับใจความ
“ฟังนะ คุณน่ะชื่อ แจ่ม... แจ่ม-แจ่มใส”
“อือ...” ซึ่งผมก็เห็นว่าใช่ เพราะผมก็เปิดหนังสือดูชื่อพอดี
“(แล้วคุณรู้ชื่อฉันได้ไงคะ)” ในขณะที่ผมกำลังจะยิงถามคำถามนี้ไป ก็โดนแทรกก่อน
“นี่ฉันเองค่ะ ฉันคือแจ่มใส คุณน่ะ เดิมชื่อนิทัศน์ใช่มั้ย ฉันรู้ทั้งหมดแล้วนะ ว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นระหว่างเรา”
ผมกำลังเริ่มงงในสิ่งที่ชายคนนั้นพูดมา ผมก็มองไปที่หน้าจอมือถือ เมื่อเห็นเบอร์มือถือที่โทรมา ผมเองก็เริ่มเข้าใจอะไรบางอย่าง
“อืมใช่ค่ะ เอ้ย ใช่ครับ” ผมยังปรับตัวไม่ถูก ยังตอบรับแบบผิดๆ ถูกๆ อยู่ ว่าคนที่ผมกำลังคุยอยู่ด้วยนั้น ผมจะรับด้วยคำว่า “ค่ะ” หรือ “ครับ” ดี เพราะเบอร์ที่โทรมานั้น มันเป็นเบอร์มือถือของผมเอง
ความคิดเห็น