คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2 (ฉบับทดลองอ่าน,เต็ม) หลังกระจกบานแรก
หลังกระจกบานแรก
“นี่เราตายแล้วหรือ” คำแรกที่คิดในหัว เมื่อสมองเริ่มสั่งงาน
ภาพแรกที่ฉันเห็น หลังจากลืมตาขึ้นมา เป็นภาพบรรยากาศในโรงพยาบาล
กวาดสายตามองไปรอบๆ ก็พบว่า มีคนไข้คนอื่นอยู่อีกเกือบสิบเตียง
ใช้สายตาได้อยู่พักหนึ่ง สายตาก็ไปสะดุดอยู่ตรงทางเดิน ที่มีคนสามคนกำลังเดินผ่านมา
!!!
“นั่นมัน... เราไม่ใช่รึ... แล้ว... พ่อกับแม่เราด้วย”
ภาพที่ฉันเห็น เป็นภาพพ่อกับแม่ของเรา เดินประคองหญิงสาวในชุดนักศึกษามหา’ลัย ซึ่งไม่ผิดแน่ นั่นมันก็คือตัวฉันเอง
เธอคนนั้นก็ตะลึงเช่นกัน หลังจากได้มองรับสายตามาที่เรา แต่เราทั้งคู่ยังไม่ทันได้ทำอะไรต่อ พ่อและแม่ฉัน ก็พาร่างตัวฉันเดินจากไป
“หึหึ... นี่มันอะไรกัน แล้วนี่ล่ะใคร”
ในขณะที่ฉันกำลังจะเริ่มใช้ความคิด พยาบาลก็เดินเข้ามาหา หลังจากที่เห็นฉันลุกตัวขึ้นจากเตียงและกำลังอมยิ้มให้กับตัวเอง
“คุณไม่เป็นอะไรแล้วนะคะ หมอตรวจแล้ว อวัยวะภายในไม่มีส่วนไหนได้รับความกระทบกระเทือน จะมีก็แค่แผลถลอก กับรอยช้ำตามร่างกายนิดหน่อยค่ะ หมอบอกว่าถ้าคนไข้ฟื้นแล้วก็อนุญาตให้กลับบ้านได้เลย เดี๋ยวรออยู่ตรงนี้สักครู่นะคะ ดิฉันจะจ่ายยาตามที่หมอสั่งและเอาใบประกันสังคมมาให้คุณเซ็น กับของใช้ของคุณมาให้ค่ะ”
มองดูตัวเองได้สักพักนึง ก็พบว่าตัวฉันเองอยู่ในร่างของผู้ชาย ใส่เสื้อเชิ้ต กางเกงสแล็ก สภาพเหมือนผู้ชายวัยทำงานคนหนึ่ง ก็พอจะเริ่มเดาเหตุการณ์ได้แล้วล่ะ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตัวฉัน
สักครู่พยาบาลก็นำใบเบิกค่ารักษาพยาบาลประกันสังคมมาให้เซ็น พร้อมมีบัตรประชาชนแนบมาด้วย 1 ใบ ซึ่งฉันดูชื่อและรูปถ่าย ก็เห็นว่าเป็นของผู้ชายคนหนึ่ง คนที่ฉันกำลังอยู่ในร่างเขา
จากนั้นฉันก็สวมบทตามน้ำทันที เซ็นชื่อ-นามสกุลตามที่ได้เห็นบนบัตร จากนั้นก็รับใบจ่ายยา , บัตรประชาชน พร้อมของใช้ของผู้ชายคนนั้นจากพยาบาล
ต่อจากนั้น ฉันก็ลงจากเตียง จัดเสื้อจัดกางเกงให้เรียบร้อย แล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ
มองเห็นสภาพตัวเองในกระจกห้องน้ำ ฉันก็เริ่มนึกถึงละครที่เคยได้ดู ที่พระเอกกับนางเอกสลับร่างกัน ดูแล้วก็เป็นเรื่องเหลือเชื่อกับความเป็นจริง มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ แต่ตอนนี้ ฉันเริ่มเชื่อแล้วล่ะ ว่ามันมีจริง เพราะนี่ มันได้เกิดขึ้นกับตัวของฉันซะแล้วสิ
จากนั้นฉันเดินไปที่ห้องจ่ายยา เพื่อรับยา และคุยกับพยาบาลอีกที ถามถึงเหตุการณ์ตอนที่ตัวฉันได้รับอุบัติเหตุ พยาบาลได้เล่าถึง คนที่เห็นเหตุการณ์บอกกันมาว่า ตัวฉันและเขาคนนี้โดนรถชนตอนที่กำลังก้มเก็บของกัน แล้วกลิ้ง ศีรษะไปชนต้นไม้ข้างทางเข้า เลยสลบไปกันทั้งคู่
ซึ่งนี่เองก็ทำให้ฉันเชื่อใจได้ว่า ฉันได้รับอุบัติเหตุสลับตัวจริงๆ
หลังจากนั้น ก็ออกมานั่งที่ม้านั่งริมทางเดินของโรงพยาบาลเพื่อครุ่นคิด...
แล้วต่อจากนี้ ฉันจะทำอย่างไรต่อไปดี จะใช้ชีวิตในร่างผู้ชายคนนี้ต่อไปอย่างไร เขาต้องทำอะไรบ้าง บ้านเขาอยู่ที่ไหน ที่ทำงานเขาอยู่ที่ไหน
“จริงสิ บัตรประชาชน” ฉันก็หยิบบัตรประชาชนเขาขึ้นมา เพื่อดูที่อยู่ของเขา พบว่า เขาอาศัยอยู่ไกลจากที่นี่อยู่พอสมควร
แต่รู้ที่อยู่แล้ว ก็ไม่รู้ตำแหน่งอยู่ดีอีกน่ะแล่ะ เอาเป็นว่า ไว้ถามทางเอาจากแท็กซี่ละกัน
จากนั้นก็หยิบดูเอกสารการทำงานของเขา พบว่า บริษัทที่ทำงานของเขาอยู่ในกรุงเทพนี่เอง
ค้นไปค้นมา จนเจอโทรศัพท์มือถือของเขา ก็เกิดความคิดขึ้นมาในใจทันที
“จริงสิ โทรถามจากเขาก็ได้นี่หน่า”
“เอ่... แต่เบอร์โทรเขาเบอร์อะไรนะ เราไม่รู้ด้วยสิ”
“...” ฉันเงียบคิดไปครู่หนึ่ง
“จริงสิ เราก็ต้องโทรเข้าเบอร์ตัวเองสินะ ตอนนี้มือถือที่เราใช้อยู่ อยู่กับตัวเขา ก็เท่ากับเป็นมือถือเขาแล้ว ก็เหมือนมือถือเขาที่ตอนนี้อยู่ที่เรา มันก็เป็นมือถือตัวเราเองไปแล้ว อิอิ”
ฉันเองก็แอบขำกับความสลับตัว สลับมือถือกัน แล้วต้องโทรเข้ามือถือเบอร์ตัวเอง
ฉันก็จัดแจงกดเบอร์มือถือเบอร์ตัวเองในเครื่อง แล้วจัดแจงเม็มเบอร์นั้นไว้ ระหว่างที่กำลังง่วนอยู่กับการโทรออกนั้น ฉันก็สังเกตเห็นว่า เครื่องโทรศัพท์มือถือของเขานั้น มันเป็นรุ่นเดียวกัน ยี่ห้อเดียวกันกับของที่ฉันใช้อยู่
ตรู้ด... ตรู้ด...
“สวัสดีค่ะ” เสียงที่ฉันเองคุ้นหูเป็นอย่างดี พูดตอบรับสาย
ความคิดเห็น