คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : หน่วยที่สิบสาม [ 1/3 ]
"นี่คะคุณฟอร์ดและนี่ก็ของคุณแคปเตอร์ค่ะ" คาเรนวางน้ำมะนาวปั่นลงบนโต๊ะของจัสตินและเซเรส
"เฮ้อ ทำไมพวกนั้นถึงได้ว่าหน่วยของพวกเราอยู่เรื่อยเลยน้า" จัสตินบ่นพลางดูดน้ำมะนาว
"อิจฉาล่ะสิ" นาตาลีเท้าคางพูด "ที่คุณลีเป็นหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการณ์น่ะ เป็นผู้หญิงแท้ๆแต่มีความสามารถพอๆกับผู้ชายจนได้เป็นถึงหัวหน้าหน่วย"
"เผลอๆมากกว่าด้วย" คาร์ลพึมพำเสียงห้าว
"เขาอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องไม่ดีก็ได้นะครับ ที่ให้ผู้หญิงเป็นหัวหน้าหน่วยน่ะ แถมคุณลีก็ค่อนข้างโมโหร้ายอยู่ด้วย พวกนั้นเลยไม่ชอบใจ" แฟรงก์เคนพูดเบาๆ
"โมโหร้ายก็จริงนะ แต่ตุณลีก็ไม่เคยทำให้พวกเราต้องเดือนร้อนเลยนี่" นาตาลีกล่าว
"มีแต่เธอทำตัวเองน่ะสิ" คาร์ลแว้งกัดเข้าให้ นาตาลีตวัดสายตามองเขา
จัสตินลุกขึ้นยืนทันทีทำเอาคนทั้งห้องต้องสะดุ้ง เขายกขาข้างหนึ่งวางบนโต๊ะทำท่าทางอย่างกับว่าจะประท้วง
"ผู้หญิงไม่เห็นจะไม่ดีตรงไหนเลยนี่! ดีซะอีกที่มีผู้หญิงในหน่วย! ถ้ามีแต่ผู้ชายก็หมดกำลังใจทำงานแย่น่ะสิ! ยิ่งมีผู้หญิงเป็นหัวหน้าหน่วยด้วยแล้ว! นี่มันสวรรค์ชัดๆ! สวนอีเดนในที่ทำงานแท้ๆ! ยิ่งหัวหน้าหน่วยของเราเป็นสาวน้อยน่ารักมีคาแร็กเตอร์เป็นสาวน้อยที่แสดงถึงความสดใสของโลกนี้อีก นางฟ้าตัวน้อย! สวนอีเดน! สวรรค์! ฮ่าๆๆ เข้าใจไหม ผู้หญิงคือสิ่งที่แสดงถึงความสดใสในใจสำหรับผู้ชาย ถ้าที่นี่ไม่มีผู้หญิง ผมคนแรกล่ะที่จะลาออกจากงาน! แม้ว่าเงินเดือนจะมากมายขนาดไหน! แต่ถ้าขาดดอกไม้ที่เบ่งบานให้ความงดงามล่ะก็! มันก็ไร้ความหมาย!" เขาวาดมือชี้ไปที่ไหนไม่รู้ แต่ละคนพากันมองตามมือนั้นแต่ก็พบแค่มุมห้องมุมหนึ่งเท่านั้น...
"คุณฟอร์ดคะ กรุณาเอาเท้าลงจากโต๊ะด้วยค่ะ!" เสียงรอดไรฟันของคาเรนดังขึ้นทำให้จัสตินรีบชักเท้าลงทันที แต่มือยังค้างอยู่ที่เก่า
"เก็บงูหน่อยก็ดีนะ มันโผล่ออกมาดูสวนอีเดนแล้วล่ะ" คาร์ลบอกเบาๆ จัสตินรีบลูบหัวของตัวเองทันที
"คุณคิดว่าผู้หญิงคือสิ่งที่ทำให้คุณมาทำงานที่นี่เหรอ" เซเรสถาม เขาวางเกมลงและมองหน้าเพื่อนร่วมงานที่นั่งข้างๆ "แต่ผมคิดว่าเพราะเกมมากกว่านะที่ทำให้ที่นี่เป็นสวรรค์น่ะ"
"เงียบซะเซเรส! ทั้งที่วันวาเลนไทน์นายได้ช๊อกโกเลตมากมายขนาดนั้นแท้ๆ แต่ทำไมนายถึงไม่เข้าใจถึงความต้องการของผู้ชายนะ! ดอกไม้งามของผู้ชายนั่นน่ะคือความรักจากผู้หญิง! เข้าใจไหม ช๊อกโกเลตน่ะช๊อกโกเลต! ถึงแม้นายจะได้น้อยกว่าผมก็ตาม แต่ก็ได้มากเหมือนกันนะ!" จัสตินร้องลั่น
"ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่ทำให้ฉันมาทำงานที่นี่ก็คงเป็นบุหรี่กับเหล้าสินะ" นาตาลีพึมพำ
"นั่นสิ" คาร์ลเห็นด้วย
"นายไม่มีความคิดหรือไง!" นาตาลีมองเขาตาเขียว
"ช่วยไม่ได้ ก็เธอกับฉันชอบอะไรเหมือนๆกันนี่"
"กาแฟได้แล้วคะ"
"สำหรับผมก็คงเป็นเงินน่ะครับ เงินเดือนที่นี่ดีจะตาย" โรเบิร์ตพูด อัลเบิร์ตพยักหน้าสนับสนุน
"อะไรน่ะ เป็นผู้ชายซะเปล่า" จัสตินมองสองพี่น้องอย่างเสียดาย "หน้าตาดีด้วยนะพวกนายน่ะ"
"ผมว่าเพราะที่นี่มีของเล่นกับขนมเลี้ยงสัตว์ได้นะ" แฟรงก์เคนกล่าว
"นายน่ะไม่เข้าใจไปตลอดชีวิตนั่นแหละ!" จัสตินตะโกนใส่ "แล้วนายล่ะ!" เขาหันไปทางด้านข้างอีกข้างหนึ่งของตน
"ผมหรือครับ" หลุยส์ขยับแว่น "แน่นอนว่าที่นี่เป็นที่ๆให้ผมได้ใช้ความสามารถอย่างเต็มที่ มีกองเอกสารให้ประมวลผลมากมายน่ะสิครับ ปากกาที่นี่ก็งดงามท่าทางมีคุณภาพ โต๊ะทำงานก็- -"
"เออๆ ขอบใจ" จัสตินพูดตัดบท เขามองไปทางเพียร์สซึ่งเป็นความหวังสุดท้าย
"อย่ามองฉันอย่างนั้น ฉันไม่ได้หื่นเหมือนนาย" เพียร์สตัดความหวังของจัสตินภายในพริบตาเดียว
"พูดอย่างนั้นได้ยังไงเพียร์ส! ทั้งๆที่นายเป็นคนที่มีความนิยมในหมู่ผู้หญิงมากที่สุดแท้ๆ แต่ทำไม...ทำไมนายถึง!"
"ถ้าอย่างนั้นของหนูลีก็คงเป็นเพื่อนร่วมงานและก็การประชุมหน่วยสินะ!" เสียงเล็กๆดังจากโต๊ะทำงานหัวหน้าหน่วย
"แฮนน์ กลับมาเมื่อไหร่น่ะ ไม่เห็นรู้ตัวเลย!" จัสตินร้องด้วยความสงสัย
"ก็ตั้งแต่สวนอีเดนนั่นแหละ" แฮนน์ตอบอย่างร่าเริ่ง "ของหนูลีคงเป็นเพื่อนร่วมงานที่น่ารักทุกคน ลูกน้องทุกคนทำให้หนูลีอยากทำงานที่นี่ต่อไป เพื่อนร่วมงานที่หนูลีไม่ทอดทิ้งแน่นอน และหนูลีก็หวังว่าเพื่อนร่วมงานทุกคนจะไม่ทิ้งหนูลีไปใช่ไหม" พูดจบเธอก็ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
"อา..." คาร์ลทำท่าทางเช็ดน้ำตา
"นี่ค่ะ น้ำผึ้งผสมโซดา" คาเรนกล่าวเสร็จก็ไปเทน้ำเปล่าให้ตัวเองและนั่งลง
"เอาล่ะ...เริ่มประชุมเรื่องภารกิจใหม่ได้!"
หัวหน้าหน่วยสิบสามเปิดคอมพิวเตอร์และปรับแต่งข้อมูลในการแสดงผล ทันทีที่เธอเปลี่ยนแปลงข้อมูลเสร็จ ภาพก็ปรากฏขึ้นเหมือนกับถูกฉายใส่แต่ว่ามันลอยขึ้นมาโดดๆไม่มีฉากมารับ มันลอยตั้งฉากอยู่เหนือโต๊ะของแฮนน์ ข้อมูลที่ปรากฏขึ้นคือรูปผู้หญิงสองคน คนหนึ่งเป็นหญิงผมยาวสีแดงเพลิง นัยน์ตาสีน้ำตาล จมูกโด่งสวย ส่วนอีกคนหนึ่งนั้นเป็นสาวผมทอง ผมยาวนั้นถูกถักเป็นเปียไว้ นัยน์ตาสีดำ ผิวค่อนข้างคล้ำ
"ไวโอเล็ตกับวิคทอเรีย โจแฮนสัน นี่คือตัวของบุคคลที่ทางจัสติสต้องการ" แฮนน์พูดเสียงดังฟังชัด "คนนี้..." เธอหยิบเอาปากกาเวเซอร์ขึ้นมาวงที่ใบหน้าของหญิงสาวผมแดง "...ชื่อไวโอเล็ต โจแฮนสัน ข้อมูลบอกว่าเธอทำผิดฐานค้าเด็ก ส่วนคนนี้..." เธอวงไปที่ผู้หญิงอีกคนหนึ่ง "หนักหน่อยที่ได้รับโทษฐานในการติดตั้งระเบิดใส่สถานีตำรวจและทำให้สมาชิกจัสติสต้องเสียชีวิตไปหนึ่ง บาดเจ็บอีกสาม หนึ่งในผู้บาดเจ็บคือหัวหน้าหน่วยยี่สิบสองคนก่อนหน้านี้ สองคนนี้เป็นพี่น้องกันเลยอยากให้กลุ่มหนึ่งไปทำงานนี้"
"ขอถามหน่อยครับ ทำไมไม่ให้พวกตำรวจเค้าจัดการเรื่องนี้กันล่ะครับ" โรเบิร์ตชูมือขึ้นพลางร้องถาม
"ถามได้ดีมากโรเบิร์ต" แฮนน์พูดอย่างชื่นชม "และนั่นคือสิ่งที่หนูลีกำลังสงสัยอยู่ตอนนี้ ทั้งที่แค่พวกเราหาข้อมูลที่อยู่ให้พวกตำรวจก็น่าจะพอแล้ว แต่ทำไมจัสติสถึงต้องลงมือเองด้วย งานนี้จัสติสทำทั้งหมดด้วยตัวเอง มันน่าแปลกนะ หนูลีเลยรับงานนี้มาไว้ให้หน่วยสิบสามทำ เลยเกิดการแย่งกันระหว่างหน่วยสิบสามกับหน่วยหนึ่ง แต่ในที่สุดหนูลีก็ได้มา เอาล่ะ...คำตอบของคำถามที่โรเบิร์ตถามหนูลีนั่นคือไม่รู้ แต่ก็ต้องทำด้วยความซื่อสัตย์เพราะมันคือหน้าที่ และคนที่หนูลีเลือกให้ทำงานนนี้คือ..." เธอคลิกที่คอมพิวเตอร์ของตัวเองหนึ่งที รูปของเพียร์สกับโรเบิร์ตก็ปรากฏขึ้น "เพียร์ส วอลเนอร์กับโรเบิร์ต วัตสัน"
"อะไรกัน อย่างนี้ก็น่าเบื่อแย่สิ!" นาตาลีร้องท้วงขึ้นมา "วอลเนอร์กับวัตสันอีกแล้วหรือ!"
"นาตาลีก็มีหน้าที่นะ" แฮนน์พูดเบาๆ "เพียร์สกับโรเบิร์ต ต้องจำตัวสองคนนี้มาให้ได้" โรเบิร์ตลุกขึ้นไปหยิบเอกสารจากมือแฮนน์ที่ยื่นมาให้ "ให้ลงใต้ไปที่เวลล์ซิตี้..."
"บ้านนอกเลยนะนั่น" นาตาลีร้องขึ้นอีกครั้ง ไม่มีท่าทีเสียดายในน้ำเสียงอีกต่อไป
"...จับตัวสองคนนี้กลับมาที่เซนเตอร์ซิตี้นี้ให้ได้" แฮนน์บอกต่อไปเหมือนกับไม่มีอะไรมาขัดจังหวะการพูดของเธอ "เบื้องบนสั่งลงมาว่าให้กระทำการโดยเงียบที่สุด ไม่ให้พวกราชการรู้เรื่องนี้ แต่สองคนนี้ก็ไม่ต้องการให้รู้อยู่แล้วล่ะ สองคนนี้เป็นพี่น้องกันน่าจะอยู่ด้วยกัน และก็ได้รับคำสั่งมาอีกว่าถ้าเกิดหนีหรือขัดขืนล่ะก็สามารถยิงได้ แต่ต้องนำตัวกลับมาไม่ว่าจะเป็นหรือตาย"
"ถึงอย่างนั้นให้มอริซไปก็ได้นี่" นาตาลีพูดพลางส่งสายตาไปทางคาร์ล "เจ้านี่น่ะแรงควายจะตายไป พวกผู้หญิงตัวเล็กๆแบบนี้โดนซัดทีเดียวก็ตายแล้ว"
"แต่หนูลีขอสั่งเพิ่ม" ทุกคนในห้องเงียบ คำสั่งเพิ่มของเธอหมายถึงกฎข้อบังคับที่ต้องทำไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร "ถึงเบื้องบนจะบอกว่าจับเป็นหรือตายก็ได้ก็ตาม แต่หนูลีอยากให้จับมาทั้งที่ยังมีชีวิต และต้องครบสามสิบสองส่วนด้วย ห้ามทำร้ายจนถึงความอันตรายเด็ดขาด! ขอเพิ่มแค่นี้คงได้ใช่ไหม"
ทีนี้นาตาลีก็รู้แล้วว่าทำไมถึงให้เพียร์สกับโรเบิร์ตไป...
"แน่นอนครับ" สองคนที่ได้รับไหว้วานรับคำเสียงหนักแน่น
"ถ้าเกิดสองคนนี้ตายไป...หรือคนใดคนหนึ่งตายไปล่ะก็ คนที่ต้องตายเพิ่มก็คือพวกเธอสองคนเองนะ" แฮนน์กล่าวทีเล่นทีจริง
"ทราบแล้วครับ!"
"เอาล่ะ ภารกิจต่อไป" เธอคลิกสองครั้งที่คอมพิวเตอร์ "การตรวจสอบสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนในเขตเหนือตั้งแต่แถบเทเรียซิตี้ไล่ไปจนถึงเซซีซิตี้ ตรวจสอบตั้งแต่เรื่องเล็กๆอย่างน้ำที่ดื่มไปจนถึงเรื่องใหญ่ๆอย่างสภาพเมืองและภูมิอากาศ งานนี้ให้เวลาหนึ่งเดือน เมืองแค่สองเมืองคงใช้เวลาไม่มากนัก..."
"เอ่อ..." โรเบิร์ตชูมือขึ้นอีกครั้ง "อยากทราบว่างานจับตัวพี่น้องโจแฮนสันนั้นให้เวลาเท่าไหร่ครับ"
"ไม่จำกัด เอาล่ะคนที่ทำงานนนี้คือ..." แฮนน์คลิกไปที่คอมพิวเตอร์อีกครั้ง รูปหลุยส์ อัลเบิร์ตและนาตาลี ปรากฏขึ้น "ที่เทเรียซิตี้ให้หลุยส์ ฟอนเดรย์ อัลเบิร์ต วัตสันและนาตาลี แชโดว์ ไปสำรวจ ส่วนที่เซซีซิตี้..." รูปของคาเรน จัสตินและแฟรงก์เคนปรากฏขึ้นแทนที่ "คาเรน ฮัสเทล จัสติน ฟอร์ดและแฟรงก์เคน ชาร์ลเนลไปสำรวจ เอาแบบละเอียดยิบเลยนะ"
"แล้วพวกเราล่ะ" เซเรสร้องถามขึ้น
แฮนน์ฉีกยิ้มกว้าง "เซเรสกับคาร์ลให้พักก่อน แต่ถ้าฉันต้องการตัวพวกเธอสองคนต้องอยู่ทันทีไม่อย่างนั้น" เธอใช้นิ้วชี้ปาดคอตัวเอง
นาตาลีแลบลิ้นให้คาร์ลที่ไม่มีงานทำ ซึ่งคาร์ลก็แยกเขี้ยวใส่เธอเป็นค่าตอบแทน
"เอานี่..." ละสายตาจากหัวหน้าเพียงนิดเดียวเท่านั้น เธอก็ยืนอยู่ข้างๆเพียร์สแล้ว มือของเธอมีปืนสั้นสีดำทั้งกระบอกยื่นให้เขา "ปืนยาสลบน่ะ มีกระบอกละหกนัด ยาแรงนะเนี่ย" เมื่อเพียร์สรับไปแล้วเธอก็กระโดดไปหาโรเบิร์ตแล้วยื่นให้เขาเช่นกัน "อย่าใช้พร่ำเพรื้อล่ะของมันแพง กว่าเซเรสจะประดิษฐ์ออกมาได้ก็ใช้เวลาเดือนเลยล่ะ แล้วนี่ก็แอบๆทำด้วยนะ ไม่งั้นหน่วยสิบสามมีหวังถูกยุบเหมือนหน่วยสามสิบแน่ที่แอบดัดแปลงมอเตอร์ไซด์ของจัสติส"
"ทราบแล้วครับ ผมจะใช้อย่างระมัดระวังที่สุด" เพียร์สตอบอย่างสุภาพขณะเก็บปืนลงไปที่ช่องเก็บปืนที่ขอบกางเกง
"ดีมากจ้ะ" แฮนน์พูดแต่มือขยี้หัวเพียร์สเล่น "เอาล่ะทุกคน วันนี้เลิกประชุมเท่านี้ คนที่ต้องออกเดินทางไปเก็บของได้แล้วล่ะ!"
ความคิดเห็น