ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อยากมีรัก

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 20 ม.ค. 64



    สายฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก เสียงฟ้าคะนองร้องดังเปรี้ยงปร้าง ทำให้ใจฟ้า สิทธิกุล ตกใจตื่นขึ้นมา เธอมองออกไปนอกหน้าต่าง ท้องฟ้ายังคงมืดครึ้มแม้จะเป็นเวลาหกโมงเช้าแล้วก็ตาม เพราะฝนที่ตกลงมายังไม่มีวี่แววว่าจะหยุดตกง่ายๆ

                ปกติหญิงสาวจะตื่นเช้าเสมอหากเป็นวันที่ต้องไปทำงาน ภารกิจประจำยามเช้า ทำให้เธอตื่นสายไม่ได้ ต้องตื่นมาทำงานตามคำสั่งเจ้านาย คือปิดไฟหน้าบ้านที่เปิดทิ้งไว้ทั้งคืน และปล่อยเจ้าเบอร์เกอร์ ลูกหมาพันธ์บีเกอร์แสนซน ให้ออกไปทำกิจวัตรประจำวันของมัน แม้มันจะไม่ใช่งานที่เจ้านายจ้าง แต่เมื่ออาศัยอยู่บ้านเจ้านาย มันจึงกลายเป็นภารกิจที่เลี่ยงไม่ได้

                แต่เช้านี้ไม่เหมือนเดิม มองไปรอบๆ ห้อง เธอยังอยู่ในอาการงุนงงเมื่อตื่นมาแล้วมันไม่ใช่ห้องที่เคยอยู่ที่พัทยา แต่มันเป็นห้องที่เธอคุ้นเคยมานาน

                ห้องเราเองนี่นา หญิงสาวบ่นพึมพำ ก่อนที่จะล้มตัวนอนต่อ

                หญิงสาวค่อยๆ ลำดับความคิด ตอนนี้เธอกลับมาอยู่บ้านแล้ว หลังจากลาออกจากงานได้สองวัน และได้ไปเที่ยวส่งท้ายที่พัทยากับอุ้ยเพื่อนสนิท เมื่อตอนที่ทำงานเธอแทบไม่มีเวลาได้พัก เธอก็เลยเที่ยวอย่างสนุกสุดเหวี่ยง แม้จะมีเรื่องให้หงุดหงิดค้างคาใจอยู่บ้างก็ตาม และเมื่อกลับมาถึงกรุงเทพฯ ก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากท้องฟ้า ด้วยการเทกระหน่ำของสายฝนในตอนนี้

                ปัญหาที่ทำให้ลาออกไม่ได้อยู่ที่ตัวงาน เรื่องงานหนักเธอไม่เกี่ยง แต่เจ้านายของเธอเริ่มมีปัญหาการเงิน ค้างจ่ายเงินเดือน ดังนั้นเมื่อพี่ชายขอให้มาช่วยงานที่ร้าน ดูทีท่าแล้วร้านจะไม่รอด เธอก็เลยรีบลาออกจากงานเก่าทันที คิดไปถึงคำพูดที่เห็นแก่ตัวของเจ้านายตอนที่เธอบอกว่าจะลาออก

                ร้านพี่ขาดสอง พี่ก็แย่เหมือนกันนะ จะหาคนที่ไหนมาแทนสองก็ยาก สองไม่เห็นใจพี่เลยรึ อยู่ต่อสักเดือนสองเดือนจนกว่าพี่จะหาคนใหม่มาแทนก่อนนะ

              คำพูดของเจ้านายฟังดูแล้วเหมือนคนเอาแต่ตัวเอง เงินเดือนไม่จ่ายทำให้สองแทบปรี๊ด

              ที่บ้านสองก็อยากให้สองไปช่วยเหมือนกันค่ะพี่ ปากเธอบอกเจ้านายไปอย่างนั้น แต่ใจกลับคิดอีกแบบ ก็พี่ไม่จ่ายเงินเดือนให้สองมาหลายเดือนแล้ว สองก็อยู่ไม่ได้หรอกค่ะคุณพี่ จะหาใครเหมือนสองได้ล่ะ ทำให้ทุกอย่าง เงินเดือนก็น้อยนิด สองอยู่ไม่ไหวแล้ว ไปดีกว่าค่า

                แม้ว่าเธอจะคิดถึงเจ้าเบอร์เกอร์หมาแสนซนที่เริ่มผูกพัน และความสะดวกสบายพร้อมทุกอย่างของบ้านพักชั้นเดียวอันน่าอยู่ แต่เธอก็ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด

                นี่คือสาเหตุที่เธอต้องมานอนมองฟ้ามองฝนอยู่ที่บ้าน แม้จะเป็นบ้านหลังเล็กๆ ย่านรามอินทรา แต่มันก็เป็นบ้านที่พ่อแม่ซื้อให้เธอและพี่ชายอยู่ จะพักให้สบายสักหน่อยคุณพี่ชายตัวดีก็ดันมาบอกว่า

                สองกลับมาก็ดีแล้ว พี่หญิงใกล้คลอดเต็มที พรุ่งนี้สองไปช่วยที่ร้านพี่เลยนะ พี่หนึ่งพี่ชายคนเดียวบัญชามาแบบห้ามปฏิเสธ

                พี่จะให้สองไปเฝ้าไอ้ร้านเหล้าของพี่เนี่ยนะ สองเบื่อพวกทหารขี้เหล้า

                เฮ่ยๆ มันหลอกว่าพี่ว่าเชื้อ เดี๋ยวเถอะ

    นาวาอากาศโท ชนะภัย สิทธิกุล ส่ายหน้า เขารู้จักนิสัยน้องสาวตัวเองเป็นอย่างดี เธอมีความสามารถในการหลอกว่าคนโดยที่บางทีเจ้าตัวก็ไม่รู้ว่ากำลังโดนว่า และเธอยังสามารถกวนโมโหคู่กรณีได้เป็นอย่างดี แต่ก็ไม่มีใครถือสาเธอสักคน พวกที่จะโดนมากหน่อยมักเป็นชายหนุ่มที่เข้ามาเกาะแกะน่ารำคาญในชีวิตเธอ

                แรกๆ พวกเพื่อนๆ ของเขาก็พยายามเข้ามาจีบน้องสาวเขา แต่เจอแม่เสือสองตีกลับซะกระจุยจนไม่มีใครอยากยุ่งด้วย คงเหลือแต่นาวาอากาศโท การันต์ อาจเสมอ หรือ เสธฯ ต้น นายทหารฝ่ายเสนาธิการ ที่ใจฟ้ายังยอมให้บ้าง เขาพอจะรู้ว่า ไอ้ต้น เพื่อนเขา ซึ่งทั้งใจร้อน เจ้าอารมณ์ จริงจังไปเสียทุกเรื่อง ยอมให้น้องสาวเขาตลอดเพราะสนใจในตัวเธอ เจ้าสองน้องเขาแรกๆ ก็ไม่สนใจ แต่บ่อยครั้งที่เขาก็รู้สึกว่าด้วยอะไรบางอย่างในตัวการันต์ ทำให้ใจฟ้าก็ไม่ปฏิเสธเสียทีเดียว

                ช่วงนี้เข้าพรรษา แขกไม่เยอะเท่าไหร่หรอก ถ้านายทหารผู้ใหญ่มาทานข้าว แกก็ระวังปากระวังคำไว้บ้างล่ะ อย่าไปกวนท่านให้มากนัก เดี๋ยวพี่แกจะรุ่งริ่งซะก่อน เข้าใจ๋ ชนะภัยรีบเตือนน้องสาวตัวแสบที่ไม่ค่อยจะกลัวใคร

                รู้แล้วน่า... พี่หนึ่งเห็นสองเป็นพวกชอบหาเรื่องรึไงนะ สองไม่เคยหาเรื่องใครก่อนนะ น้ำเสียงน้องสาวชักจะหงุดหงิด เดี๋ยวก็ไม่ไปทำให้ซะเลยนี่

                จ้า... แม่น้องบังเกิดเกล้า...” เขาจำเป็นต้องยอมรับ เดี๋ยวแม่ตัวดีไม่ยอมไปทำงานให้ มันจะยุ่งวุ่นวายปวดหัวมากเลยทีเดียว ตอนแรกเขากังวลจะหาใครที่ไว้ใจได้ดีมาช่วย พอรู้ว่าน้องสาวจะกลับมาอยู่บ้าน มันจึงเป็นเรื่องวิเศษสำหรับเขา

     

    ถึงปากบอกไม่อยากช่วยยังไง แต่วันนี้ใจฟ้าก็ขับรถมาถึงสโมสรทหาร เธอเลี้ยวเข้ามาจอดในลานจอดรถสำหรับลูกค้าสโมสร สายตามองหาที่ว่างซึ่งปกติมักไม่ค่อยมี รถส่วนใหญ่ที่จอดมักจะเป็นของเจ้าหน้าที่มากกว่าลูกค้า สร้างความหงุดหงิดให้พอสมควร เวลาเธอแวะมาหาพี่ชายที่นี่ทีไรก็ต้องโทรเรียกพี่ชายมาจัดการทุกที โชคดีที่วันนี้เธอได้ที่จอดรถ

                ข้างนอกสโมสรตกแต่งด้วยสนามหญ้าสวยงาม มีสนามเปตองอยู่ด้านหน้า ทหารชั้นผู้น้อยและเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานในละแวกนั้นจะมาออกกำลังกายกันเป็นประจำช่วงเที่ยงหลังรับประทานอาหารเสร็จ

                ใจฟ้าเดินเข้าสโมสร ซึ่งเป็นอาคารชั้นเดียวทอดยาวขนานไปกับโรงเรียนนายทหารที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ด้านในสโมสรมีร้านขายเครื่องดื่มของนาวาอากาศโท ชนะภัย พี่ชายของเธออยู่ในส่วนหน้า ส่วนร้านอาหารต่างๆ และครัวอยู่โซนหลัง

                หญิงสาวมองไปยังห้องด้านข้างที่จัดไว้เป็นห้องคาราโอเกะรวม มีเวทีเล็กๆ อยู่ด้านหน้า และมีโต๊ะวางคอมพิวเตอร์ ห้องนี้จัดไว้สำหรับการผ่อนคลายยามเย็นของเหล่าบรรดาข้าราชการประจำและลูกจ้างชั่วคราว

                “ที่นี่มีห้องวีไอพีสองห้อง” เสียงนาวาอากาศโท ชนะภัย ดังอยู่ข้างหลัง

                “อ้าว แวบมาได้เหรอพี่”

                “เออ เห็นรถแกมาจอด พี่กำลังจะไปตามงาน เลยแวะมาหาแกก่อน”

                ร้านค้าของชนะภัยเป็นร้านจำหน่ายเครื่องดื่มซึ่งมีแทบทุกชนิด ทั้งพวกเครื่องดื่มต่างๆ หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม น้ำเปล่า ซึ่งล้วนแต่แช่เย็นฉ่ำอยู่ในตู้ และยังมีบุหรี่กับขนมขบเคี้ยวด้วย

                “ราคาของอยู่นี่นะ พวกเด็กๆ เขารู้ราคาอยู่ สองคอยเช็กดูอีกทีก็แค่นั้น สองอยู่ช่วงเช้าไปก่อน เดี๋ยวเย็นๆ เลิกงานแล้วพี่มาช่วย จะยุ่งหน่อยก็ช่วงกลางวันกับช่วงเย็นๆ ค่ำๆ แหละ เออ... อย่าลืมแยกบิลอาหารกับพวกเครื่องดื่มออกจากกันนะ แต่ส่วนใหญ่เด็กเสิร์ฟของแต่ละร้านอาหารเขาก็จะเก็บเงินไปเลย ยกเว้นแต่เวลาโต๊ะไหนออเดอร์เยอะๆ นั่นแหละ เขาถึงจะฝากบิลให้เราเก็บ ที่สำคัญ...” พี่ชายร่ายเสียยาวก่อนจะหยุดนิ่งมองหน้าเธอ “แกบวกเลขให้มันถูกๆ นะ พลาดเดี๋ยวเจ๊งกันพอดี

                พูดจบชนะภัยก็เดินเปิดประตูห้องออกไปไม่หันมาดูเธอทำหน้าเบ้ เพียงอึดใจเดียวก็โผล่หน้ากลับมากำชับ

                อ้อ! อย่าขโมยกินเหล้านะแก

                ไอ้พี่หนึ่งบ้า!” หญิงสาวร้องออกมาอย่างเหลืออด ไล่หลังเสียงหัวเราะของพี่ชายที่กำลังเดินห่างออกไป

    ใจฟ้ามองไปรอบห้อง ทุกอย่างเตรียมพร้อมสำหรับการขายแล้ว ตอนนี้เก้าโมงกว่าแต่เธอเพิ่งจะมา เป็นเพราะไม่อยากออกบ้านแต่เช้าเพื่อเผชิญรถติดอย่างแสนสาหัส พี่ชายจึงเป็นคนมาเปิดร้าน โดยมีน้องมลพนักงานที่ไว้ใจได้คอยช่วยตอนที่เธอยังมาไม่ถึง

    สโมสรแห่งนี้มีร้านขายอาหารแยกตามประเภทอาหาร มีทั้งร้านอาหารตามสั่ง ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านส้มตำ แต่ร้านขายเครื่องดื่มมีร้านของพี่ชายเธอร้านเดียว พี่ชายเธอเปิดดำเนินกิจการตั้งแต่ก่อนที่จะมาเป็นผู้จัดการสโมสร จึงไม่โดนนินทาเรื่องเส้นสาย

                ใจฟ้าเคยมาช่วยพี่ชายอยู่บ้างเวลาเข้ากรุงเทพฯ เธอจะมาช่วยพี่หญิงพี่สะใภ้เธอดูแลร้าน แต่ตอนนี้พี่หญิงอุ้ยอ้ายจวนคลอดหลานเต็มที ทำให้เธอต้องมาเฝ้าร้านคนเดียว

                ตอนนี้ที่สโมสรยังไม่มีลูกค้า พวกเด็กเสิร์ฟสามคนยังคงจับกลุ่มคุยกัน หญิงสาวสำรวจความเรียบร้อยของร้านอีกครั้ง นับขนมที่เขาเอามาฝากขาย มัวแต่ก้มๆ เงยๆ ทำให้ไม่ได้สังเกตว่ามีชายหนุ่มยศนาวาอากาศโทมายืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์

                สวัสดีครับน้องสอง พี่ขอน้ำเปล่าขวดหนึ่งครับ

                ใจฟ้าหันกลับมาตามเสียงเรียก

                อ้าวพี่ต้น สวัสดีค่ะ พอเห็นว่าเป็นใครเธอก็ยกมือไหว้นาวาอากาศโท การันต์ เพื่อนรักของพี่ชาย มาได้ยังไงคะ หญิงสาวเดินไปหยิบน้ำดื่มในตู้แช่ให้

                เจอไอ้หนึ่งเมื่อเช้า มันบอกว่าให้สองมาช่วยงาน เลยแวะมาอุดหนุนสาวน้อยซะหน่อยการันต์ยื่นเงินให้ยี่สิบบาท ไม่ต้องทอนนะครับ

                ไม่ต้องค่ะ สองเลี้ยง ใจฟ้าจะไม่รับเงินของนาวาอากาศโท การันต์

                รับไปเถอะ ของซื้อของขาย เดี๋ยวไอ้หนึ่งมันจะเจ๊งซะก่อน ขืนสองเที่ยวเลี้ยงซะแบบนี้

                ไอเดียดีค่ะพี่ต้น พี่หนึ่งจะได้ไม่ต้องให้สองทำไงคะหญิงสาวทำตาโตก่อนจะส่งยิ้มพร้อมพยักหน้าเห็นด้วย

                สองนี่ยิ่งพูดเหมือนยิ่งยุ พี่ไปล่ะ เดี๋ยวเย็นๆ พี่แวะมาใหม่นะครับ การันต์เดินจากไปโดยที่ทิ้งขวดน้ำเปล่าไว้ ไม่ได้หยิบไปด้วย

                พี่ต้น! น้ำค่ะ! อ้าว... ไปซะละ

                ใจฟ้าเรียกไม่ทันจึงหยิบขวดน้ำไปเก็บที่เดิม เลยถือโอกาสเช็กของในตู้แช่ เห็นอะไรขาดก็ทยอยนำของที่พร่องลงไปเข้าแช่เพิ่ม เธอจัดข้าวของทุกอย่างเรียบร้อย กลับไปนั่งพักพลางค้นอะไรยุกยิกในกระเป๋าที่เธอเรียก สัมภารก แต่เพื่อนๆ เรียกว่ากระเป๋าโดเรมอน อะไรต่อมิอะไรเธอยัดไว้เต็มกระเป๋า จะเอาอะไรก็ล้วนมีเกือบทั้งสิ้น

                เธอหยิบกระดาษห่อของขวัญรูปหัวใจสีแดง เต็มไปด้วยคำนิยามความรักหลากหลายแบบขึ้นมาอ่าน เธอเพิ่งได้รับมาวันก่อนพร้อมกับหนังสือที่อยากได้มานาน ตั้งใจจะซื้อเล่มนี้เมื่อไปร้านหนังสือ แต่งานยุ่งมากเธอเลยไม่มีเวลาไปเดินหาซื้อ จนก่อนที่เธอจะออกจากงานสองวัน เธอก็ได้รับหนังสือเล่มนี้จากพี่สาวที่เธอนับถือส่งมาให้เธออ่าน

     

                            ความรัก... แค่ลมพัด ก็คิดถึง

                            ความรัก... คือภัยธรรมชาติ ที่ปั่นป่วน

                            ความรัก... เชื่อเถอะนะ ไม่ได้มีแค่ครั้งเดียว

     

                แต่สองก็ขยาดกับมันแล้วล่ะ เจ็ดปีแล้วสินะสำหรับรักครั้งสุดท้ายของเรา ป่านนี้อีตาโทนี่ไม่มีลูกเป็นโขยงแล้วเหรอ ใจฟ้าพึมพำเบาๆ เมื่อเจอข้อความที่โดนใจมันเข้ากับเหตุการณ์ที่เธอเคยเจอ

                โทนี่เคยเป็นแฟนกับเธอ ตอนนั้นเธอเริ่มทำงานได้ไม่นานนัก เขาเอาใจสารพัดตามประสาผู้ชายปากหวาน แต่คบกันได้ไม่นานลายความเจ้าชู้ก็เริ่มออก จนมาเจอเมียที่อุ้มท้องอาละวาด ทำให้เธอรู้ว่าโดนหลอก

                ตั้งแต่นั้นมาใจฟ้าก็ไม่ได้คบกับใคร เธอรู้ว่าพี่ต้นคิดยังไงกับเธอ แต่เธอก็ให้เขาเป็นแค่พี่ชาย และที่สำคัญ พี่ต้นไม่ค่อยกวนใจเหมือนกับเพื่อนพี่ชายทั้งหลายของเธอ ทำให้เธอยังคุยกับพี่ต้นได้สนิทใจ แม้จะมีห่างไปบ้างตอนที่เธอไปทำงานที่พัทยา

     

                             ความรัก... เริ่มต้นใหม่ ได้เสมอ

                             ความรัก... ขออีกสักครั้งหนึ่งเถอะ...

     

                ยังกะหาได้ง่ายนักนี่ หญิงสาวบ่นพลางวางกระดาษห่อของขวัญรูปหัวใจแสนสวยลงบนโต๊ะ ก่อนที่จะสะดุ้งกับเสียงลูกค้าที่โผล่หน้าเข้ามา

                บุหรี่ซองแดงซองหนึ่งครับ

                เสียงทุ้มๆ ดังขึ้น ช่างคุ้นซะเหลือเกิน ที่สำคัญไอ้ท่าทางอมยิ้มอันแสนจะคุ้นตานี่ มันทำให้เธอจำได้รางๆ ทำไมโลกกลมเช่นนี้หนอ แต่...เอ... จะใช่รึเปล่านะ เธอยังคงมองหน้าเจ้าของเสียงแบบงงๆ

                คุณครับ ซื้อบุหรี่ซองแดงหนึ่งครับ เสียงคุ้นๆ ดังย้ำขึ้นมาอีกครั้ง

                แปดสิบห้าบาทค่ะ สองหยิบบุหรี่ยื่นให้

                ซองแดงครับ ไม่ใช่ซองเขียว

                สองสะดุ้งมองซองบุหรี่ที่ถือในมือ

              ตายละวา... หยิบผิดอีกละ เพราะอีตานี่แน่เลย สองเปลี่ยนจากยิ้มเป็นหน้าบึ้ง และหยิบบุหรี่ที่เขาต้องการยื่นให้ใหม่พร้อมเงินทอน

                ขอบคุณค่ะ น้ำเสียงมีแววห้วนนิดๆ ท้ายเสียง

              ใช่แน่ๆ เลย ท่าทางอมยิ้มกวนประสาทแบบนี้ ทำไมอีตานี่เป็นทหารด้วยเหรอ เธอมองตามเขาไป แอบสังเกตปกเสื้อเห็นเครื่องหมายสี่ขีด บ่งบอกถึงชั้นยศอย่างชัดเจน

                นาวาอากาศเอก...

              นาวาอากาศเอกก็เหอะ จะเป็นผู้การหรือเป็นอะไรก็ช่าง มากวนประสาท สองไม่เอาไว้แน่

                หญิงสาวได้แต่อาฆาตอยู่ในใจ มองตามไปเห็นเขาแวะคุยกับนายทหารอยู่หน้าประตูสโมสร

    สองครั้งแล้วสินะ ที่กำลังคิดอะไรเพลินๆ แล้วอีตาผู้การบ้านี่ก็เข้ามาทำลายวิมานกลางอากาศอันแสนหวานพังลงอย่างไม่เป็นท่า แต่มองๆ ดูก็เท่ไม่เบาแฮะ เสียแต่มีแผลที่คางแถมยังมีเมียแก่อีก นี่ถ้าไม่ติดท่าทางอมยิ้มที่ไม่ชอบก็คงจะหล่ออยู่หรอก

                ใจฟ้าอดวิจารณ์ในใจไม่ได้ เหลือบมองไปอีกทีก็เห็นเขามองมายังเธอและยิ้มให้

                บ้า เธอลุกหนีจากตรงที่นั่งอยู่ ให้พ้นสายตายิ้มๆ ที่เธอไม่ชอบ

     

    การมาสายเป็นเรื่องปกติของใจฟ้า เธอไม่อยากเจอรถติด ชนะภัยจะเป็นคนเปิดร้านและให้พนักงานดูแลร้านก่อนที่ใจฟ้าจะมา ช่วงเช้าที่ร้านมีลูกค้าทยอยมาซื้อของอยู่เรื่อยๆ แต่ไม่ยุ่งมาก พนักงานดูแลแทนได้ชั่วคราว จะเริ่มวุ่นวายก็ช่วงเที่ยงที่มีนายทหาร เจ้าหน้าที่ รวมไปถึงผู้มาติดต่อราชการ เข้ามากินอาหารอย่างต่อเนื่อง พอย่างเข้าช่วงบ่ายเวลาเข้างาน คนมารับประทานอาหารที่สโมสรแห่งนี้ก็เบาบางลงไป

                สโมสรมาเริ่มคึกคักอีกทีช่วงสี่โมงเย็นซึ่งเป็นเวลาเลิกงาน บรรยากาศข้างในก็เริ่มมีสีสัน มีเสียงเพลงจากห้องคาราโอเกะดังออกมา

                ไงสอง เหนื่อยไหมเราวันนี้ นาวาอากาศโท ชนะภัยเดินถือถุงเงาะมาวางบนโต๊ะ เอ้า... นี่เงาะ ของโปรด

                แหม! พอใช้งานละก็ซื้อของมาล่อหลอกน้องเชียวนะ

                เอ๊ะ! ไอ้นี่ จะกินรึเปล่า แบ่งให้เด็กๆ ด้วยนะ” พี่ชายมองนาฬิกาแล้วหันมาบอก “สองกลับไปอยู่เป็นเพื่อนพี่หญิงเถอะ เดี๋ยวพี่ดูร้านต่อให้ ว่าแล้วพี่หนึ่งพี่ชายที่แสนดีก็เดินออกไปยังโต๊ะเพื่อนๆ ที่มานั่งกันได้สักพักแล้ว

                หญิงสาวมองตามไปยังโต๊ะที่พี่ชายเข้าไปนั่ง

                เธอไม่รู้จักใครสักคน คงจะเป็นเพื่อนที่ทำงาน เธอจะรู้จักแค่เพื่อนเรียนของพี่ชายเท่านั้น

                สวัสดีครับ น้องสอง

                สวัสดีค่ะพี่ต้น พี่หนึ่งอยู่โน่น ใจฟ้าพยักพเยิดหน้าไปทางโต๊ะมุมห้องที่พี่ชายนั่งอยู่

                พี่เห็นแล้วครับ นี่สองจะมาช่วยเจ้าหนึ่งตลอดเลยรึเปล่าครับ

                ก็คงช่วยหลายเดือนอยู่ค่ะ พี่หญิงใกล้คลอดเต็มที คลอดแล้วกว่าจะแข็งแรง ไหนจะต้องดูแลเจ้าตัวเล็กอีก ช่วงนี้สองว่างอยู่ ไม่มีปัญหาค่ะ

                คงไม่เบื่อนะครับ

                ไม่ค่ะ ถ้าไม่ไปมีเรื่องกับใคร

                เสธฯ ต้นหัวเราะชอบใจ เพราะรู้กิตติศัพท์หญิงสาวเป็นอย่างดี

                ใจฟ้าจ้องไปที่โต๊ะมุมห้อง สังเกตว่ามีคนใหม่เดินเข้าไปร่วมโต๊ะ คุยกับพี่ชายเธอไม่นานก็หันหน้ามองมาทางนี้ เมื่อเห็นเธอคุยกับนาวาอากาศโท การันต์ เขาคนนั้นก็หันไป เพียงครู่เดียวชนะภัยก็กวักมือเรียกเพื่อนให้ไปร่วมโต๊ะ

                ขอตัวก่อนนะครับ

                การันต์รีบเดินเข้าไปร่วมโต๊ะ ยกมือไหว้อีตานั่น นั่งคุยกันเสียงหัวเราะลั่น ใจฟ้าแอบมองอยู่เห็นว่า อีตานั่น หัวเราะดังกว่าใครเพื่อน

                แม้พี่ชายบอกให้เธอกลับก่อน เขาจะดูร้านเอง แต่จนป่านนี้ก็ยังไม่ยอมมาเฝ้าร้าน กลับยิ่งดื่มแก้วชนแก้วจนคนเป็นน้องสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่

                มลจ๊ะ ช่วยไปเชิญคุณหนึ่งมาหาพี่หน่อยนะจ๊ะ ใจฟ้าบอกเด็กซึ่งกำลังจะนำน้ำแข็งและเครื่องดื่มไปเสิร์ฟโต๊ะนั้น

                หลังจากนั้นเพียงไม่นาน

                ทำไมยัยสอง ตามพี่มาทำไม หน้าตาพี่ชายเริ่มแดงๆ

                จะกลับแล้ว หกโมงเองหน้าแดงแล้วนะพี่ อย่ากินเยอะสิ แล้วฝากคืนเงินให้พี่ต้นยี่สิบบาทด้วย เมื่อเช้าซื้อน้ำแล้วไม่เอาน้ำกลับไป ใจฟ้ามองพี่ชายตัวดีแล้วอดค้อนไปยังอีกคนไม่ได้ ว่าแต่กินเนื่องในโอกาสอะไรกัน คนเยอะแยะ น้ำเสียงเริ่มห้วน

    ปกติพี่ชายเธอไม่ค่อยดื่ม แต่วันนี้ดูจากอาการแล้วท่าทางจะยาว เพราะรู้สึกจะคุยกันถูกคอทั้งโต๊ะ รวมทั้งการันต์ที่เข้าไปร่วมวงทีหลัง พอนั่งแล้วก็ยังไม่ลุกไปไหน

                ต้อนรับรุ่นพี่ เพิ่งย้ายมาอยู่ที่กองศึกษา ได้ติดยศนาวาอากาศเอกมาหมาดๆ เลยฉลองกันหน่อย ไม่ต้องห่วง ไม่ดึกหรอกน่า ปิดร้านก็เลิก พี่รู้ ชนะภัยรีบพูดดักคอน้องสาว

                รับใครเหรอพี่ ใจฟ้าทำเป็นไม่สนใจ ถามไปเก็บของใส่กระเป๋าไป แต่ในใจอยากรู้จนเก็บอาการแทบไม่อยู่

                พี่เมฆไง นาวาอากาศเอก เมฆ อิศรา

                “อีตานั่น เอ๊ย คนนั้นเป็นผู้การเลยเหรอ” ใจฟ้าเบ้ปาก

                “ไม่ใช่ผู้การ ต้องเรียก รองเมฆ หรือรอง ผอ. ก็ได้
    ผู้การนั่นต้องเป็นผู้บังคับการกองบิน”

                “ไม่รู้ อยากเรียกอะไรก็เรียก ทีพี่โต๊ดยังเรียกผู้การได้” เธอยังเถียงไม่เลิก

                “ไอ้โต๊ด มันเป็นทหารเรือ นาวาเอกของทหารเรือเขาเรียกผู้การได้ แต่ทหารอากาศไม่ใช่”

                “ไม่รู้ล่ะ สองจะเรียกผู้การเมฆ” เธอยิ้มราวกับจะเอาชนะพี่ชายให้ได้

                “เออ... แล้วแต่แก ปวดหัวโว้ย”

                พี่ชายเดินส่ายหัวในความรั้นเอาชนะของน้องสาว เข้าไปนั่งรวมกับกลุ่ม เพียงไม่นานก็เสียงดังเฮฮากันเหมือนเดิม ใจฟ้าส่ายหน้า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×