ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อยากมีรัก

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 3

    • อัปเดตล่าสุด 25 ม.ค. 64



    รถเก๋งสีแดงคันเล็กเลี้ยวเข้ามาจอดช้ากว่าวันก่อนๆ ในตอนแรกใจฟ้าตั้งใจว่าจะไปที่ร้านช่วงเที่ยง โดยให้เด็กๆ ดูแลร้านไปก่อน หากแต่เช้านี้พี่ชายตัวดีโทรมาตาม

                “สอง! แกออกมารึยังวะ วันนี้มีประชุมบ่ายโมงนะ

                “ประชุมอะไรพี่ ไม่เห็นรู้เรื่อง

                “ก็บอกอยู่นี่ไง ประชุมผู้ประกอบการร้านค้า ประจำเดือนนี้... อ้อ ตอนเย็นมีงานเลี้ยงด้วยนะ อย่าลืม เสียงพี่ชายมีแต่สั่งๆ พอสั่งเสร็จก็วางสายเอาดื้อๆ ใจฟ้าได้แต่ส่ายหัวไปมา เพราะจะโทรกลับไปต่อว่าก็กระไรอยู่

                “รอให้เจอก่อนเถอะน่า...

                หญิงสาวเลี้ยวรถเข้ามามองหาที่จอด วันนี้รถค่อนข้างจะหนาแน่น แม้พี่ชายบอกเธอแล้วว่าให้ไปจอดรถที่ลานจอดของตึกอำนวยการได้ เจ้านายอนุญาตแล้ว แต่เธอก็วนรถมายังลานจอดส่วนกลาง ลืมไปว่าที่นั่นพอสายแล้วมักจะไม่มีที่ว่าง ในที่สุดเธอก็ขับรถย้อนกลับมาจอดด้านหน้าตึกอำนวยการที่ยังพอมีที่ว่างอยู่บ้าง ลานจอดรถที่นี่จำกัดให้ใช้เฉพาะข้าราชการทหารและผู้มาติดต่อตึกอำนวยการเท่านั้น

                วันนี้ใจฟ้าใส่กางเกงยีนสีน้ำเงินเข้มเข้ารูป เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนพับแขนขึ้นมาถึงข้อศอก เธอชอบแต่งตัวสบายๆ โดยเฉพาะนุ่งกางเกงยีน มักโดนพี่ชายค่อนเสมอว่า

                “ไปหากระโปรงมาใส่ซะบ้างยัยสอง ฉันมีน้องสาวนะไม่ใช่น้องชาย แต่เธอก็ไม่ได้ทำตาม ยังคงแต่งตัวตามสไตล์เธอที่ใส่อยู่ประจำ

                ตอนลงจากรถรู้สึกว่ามีใครจ้องมองเธออยู่ แต่พอเหลียวมองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นใครนอกจากเจ้าหน้าที่ฝั่งตรงข้ามกำลังเดินไปยังตัวอาคาร ซึ่งเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรเธอ

                “ใครมองวะ...” เมื่อมองซ้ายมองขวาไม่เห็นมีใคร เธอก็เลิกใส่ใจกับความรู้สึกแปลกที่หาตัวตนไม่เจอ ใจฟ้า
    ล็อกประตูรถแล้วเดินข้ามถนนไปยังอาคารฝั่งตรงข้าม

                ถ้าเพียงแต่เธอมองขึ้นไปยังชั้นสามของตึกอำนวยการ ก็จะเห็นสายตาคู่หนึ่งมองลงมา

                กองการศึกษาตั้งอยู่บนชั้นสามของตึกอำนวยการ จากตรงนี้มองเห็นด้านหน้าของตึกและอาคารสโมสรฝั่งตรงข้าม ระยะหลังๆ มานี่ เมฆจะคอยมองลงไปหน้าตึกเป็นประจำทุกวัน เช้าวันนี้ก็เช่นกัน

                โต๊ะทำงานของเขาตั้งอยู่มุมห้องด้านหลัง ซึ่งตำแหน่งมองลงไปหน้าอาคารจะเห็นบริเวณที่จอดรถและด้านหน้าของสโมสรอย่างชัดเจน

                สายตาเมฆเหลือบมองไปยังนาฬิกาที่แขวนอยู่ผนังด้านหน้า

                “สิบเอ็ดโมง มาช้าจัง เมฆบ่นพลางลุกจากโต๊ะ เดินออกจากห้อง

                “พี่เมฆครับ พี่เมฆ เรืออากาศเอก ธวัชชัย มั่งมี เดินกระหืดกระหอบจ้ำอ้าวเข้ามาหา

                “มีอะไรรึเอ นายเรียกเหรอ

                “เปล่าครับพี่ คืองานเลี้ยงคืนนี้น่ะครับ ผมคงอยู่ได้ไม่ตลอดงาน ผมฝากพี่เคลียร์ค่าใช้จ่ายด้วยนะครับ ว่าแล้วเอก็ล้วงกระเป๋าสตางค์หยิบเงินออกมายื่นให้

                “หมื่นถ้วนครับพี่

    เมฆรับเงินมานับก่อนที่จะเก็บใส่กระเป๋ากางเกง

                “นายอยู่รึเปล่าเอ

                “ไม่อยู่ครับพี่ วันนี้มีประชุมที่กองบัญชาการ ถึงเย็นเลย คงมาตอนงานเลี้ยงเลยครับพี่

                เมฆพยักหน้ารับทราบ เรืออากาศเอกธวัชชัย มั่งมี หรือเจ้าเอ เป็นนายทหารคนสนิทหรือที่มักเรียกกันว่า ทส.นาย คอยติดตามเจ้านายของตนไปทุกที่ และบ่อยครั้งที่แม้จะเลิกงานแล้ว แต่ด้วยความรับผิดชอบก็มักจะตามนายไปจนกว่านายจะเข้าบ้าน ยกเว้นวันนี้ที่เขามีธุระ

                “งั้นเราไปทานข้าวกันเถอะ เสร็จจะได้งีบสักนิด บ่ายนี้พี่จะเข้าฟังประชุมสโมสรซะหน่อย ว่าแล้วเมฆก็เดินนำเรืออากาศเอก ธวัชชัย มั่งมี ไปยังบันไดด้านข้างตึก

     

    อากาศภายนอกอาคารสุดแสนจะร้อนอบอ้าว เครื่องปรับอากาศสองตัวภายในสโมสรทำงานกันอย่างหนัก แต่ก็ไม่ช่วยให้อากาศภายในเย็นฉ่ำอย่างที่ควรเป็น

                ใจฟ้าเปิดพัดลมช่วยก็ไม่ได้ทำให้เย็นขึ้นมากนัก ทั้งวันนี้คนในสโมสรยังค่อนข้างจะคึกคักมากกว่าวันอื่นๆ เพราะเป็นวันศุกร์ วันสุดท้ายแห่งการทำงานในสัปดาห์

                “น้องมลคนงาม ช่วยเพิ่มความเย็นให้พี่หน่อยได้มั้ยจ๊ะ พันจ่าอากาศตรีหนุ่มขาประจำของสโมสรชอบมานั่งป้อสาวเสิร์ฟพูดแซวขึ้นมา ซึ่งเป็นเรื่องปกติของที่นี่

                “พัดลมไม่มีแล้วพี่ ข้างในขอไปหมดแล้ว

                “งั้นขอน้องมลมาใกล้ๆ ได้มั้ยจ๊ะ แค่นี้พวกพี่ๆ ก็เย็นใจแล้วล่ะจ้ะ

                “อุ๊ย... พวกพี่พูดอะไร เช้ย...เชย น้องมลหันไปยิ้มกับน้องโอ๋เพื่อนสาวเสิร์ฟ

                “งั้นหนูไปใกล้ๆ พี่เอง น้องโอ๋พูดเสร็จกำลังจะเดินเข้าไปหา

                “โอ๊ะ...โอ...อย่าเลยจ้า พี่กลัวร้อนยิ่งกว่าเดิม แล้วก็มีเสียงหัวเราะกันทั้งโต๊ะ เล่นเอาสาวโอ๋ค้อนขวับ เพราะน้องนั้นทั้งดำทั้งอ้วน แต่นิสัยดีเป็นที่เอ็นดูให้พวกจ่าๆ หยอกเล่นกันประจำโดยที่เธอไม่ถือโกรธอะไร ทำให้เธอได้ทิปงามๆ จากพวกพี่ๆ เสมอ

                เป็นเรื่องปกติของสโมสร ที่บรรดาหนุ่มๆ ทั้งหลายหยอกเย้าเด็กเสิร์ฟบ้างแม่ค้าขายของในสโมสรบ้างเป็นที่สนุกสนาน แต่ไม่มีใครกล้าแซวใจฟ้าหรือน้องสองเลย จะมีก็แค่ทักทายนิดๆ หน่อยๆ เพราะเกรงใจพี่ชายเธอ

                “โอ๋จ๋า โอ๋เดินไปเปิดแอร์ห้องวีหนึ่งได้เลยนะ” ใจฟ้าตัดบทการแซวของบรรดาหนุ่มๆ ทั้งหลาย “เดี๋ยวแอร์จะเย็นไม่ทัน ตอนบ่ายเขาจะใช้ห้องนั้นประชุม

                สาวน้อยตัวอวบๆ เดินออกไปยังห้องวีไอพีหนึ่ง หรือที่เรียกกันสั้นๆ ในกลุ่มเด็กเสิร์ฟว่าวีหนึ่ง

                “ไม่ต้องแล้วโอ๋ พี่เปิดให้แล้ว ชนะภัยเดินสวนเข้ามาบอก

                “สอง แกชอบร้องเพลงไม่ใช่เหรอ เย็นนี้เข้าไปร่วมงานหน่อยนะ ช่วยกันร้องหน่อย ผู้หญิงน้อย งานนี้ไม่ได้จ้างนักร้องนาวาอากาศโท ชนะภัย ยังคงสั่งน้องสาวตามความเคยชิน

                ไม่เอา ใครจะกล้า ไม่คุ้นกับใคร เธอรีบปฏิเสธพัลวัน “เรื่องอะไร ไม่เอาด้วยหรอก”

                “อย่างแกน่ะเหรอจะไม่กล้า ขี้คร้านพอจับไมค์แล้วจะไม่ยอมวาง พี่หนึ่งบอกอย่างรู้ทัน แกรู้จักคนเยอะแล้วนี่ กินเหล้าได้นะ แต่อย่าให้งานเสีย ห้ามอาละวาด ห้ามกวนประสาท

                หญิงสาวค้อนขวับใส่พี่ชายที่ประจานเธอออกมาแทบไม่มีดี โชคยังดีที่ไม่มีใครอยู่ใกล้

                “ไม่รู้ดูก่อน

                ชนะภัยไม่อยากเซ้าซี้น้องสาว เมื่อถึงเวลาเขาเชื่อว่าเธอจะต้องเข้าไปช่วยอย่างปฏิเสธไม่ได้

                ปะ... ไปกินข้าวกันเถอะ พี่เลี้ยงเอง ไปกินฝั่งโน้นกันบ้าง เขาลากแขนน้องสาวให้ลุกเดินพร้อมกับตัวเอง ออกนอกสโมสรข้ามไปยังฝั่งตึกอำนวยการ

                ฝั่งโน้นของเขาจึงแค่ข้ามถนนด้านหน้า สองคนพี่น้องเดินเข้าไปด้านในก็มีร้านอาหารตามสั่งเล็กๆ สำหรับนายทหารและเจ้าหน้าที่ของตึกอำนวยการ พอเข้าไปพี่ชายหยุดเดินเมื่อได้ยินเสียงเรียก

                หนึ่ง มานั่งด้วยกันสิ

                ใจฟ้ามองตามเสียงที่เรียกชื่อพี่ชาย เห็นผู้การเมฆกวักมือเรียก หญิงสาวหน้าบึ้งขึ้นมาทันใด เมื่อพี่ชายตัวดีเดินลากเธอเข้าไปด้วย

                สอง นี่พี่เมฆ นาวาอากาศเอก เมฆ อิศรา รุ่นพี่พี่

                หญิงสาวยกมือไหว้สวัสดี มองหน้าเขม็ง แล้วก็หลบสายตา เมื่อเห็นอีกฝ่ายก็จ้องกลับมาเช่นกัน

                “พี่เมฆครับ สอง น้องสาวผมครับ

                เมฆยกมือรับไหว้พร้อมกับส่งยิ้มให้

                “ผมเอครับ เอที่อายุน้อยกว่ายกมือไหว้ ยิ้มให้กับหญิงสาวที่รีบยกมือรับไหว้ ทานอะไรดีครับ เดี๋ยวผมเดินไปสั่งให้

                “พี่เอาผัดซีอิ๊วทะเล สองล่ะกินอะไร หนึ่งหันไปถามน้องสาว

                “ผัดซีอิ๊วทะเลเหมือนพี่หนึ่งก็ได้ค่ะ

                เรืออากาศเอก ธวัชชัยรีบลุกไปสั่งอาหารให้

                หญิงสาวแอบลอบมองใบหน้าผู้การเมฆที่เพิ่งจะเห็นชัดๆ ก็วันนี้ นัยน์ตายิ้มๆ คู่นั้น กับสไตล์การยิ้มกวนๆ ที่เห็นทีไรก็อดหมั่นไส้ไม่ได้ ใต้ริมฝีปากอันอิ่มเอิบเห็นรอยแผลเป็นยาวชัดๆ บริเวณคาง แล้วเธอก็อดหน้าแดงขึ้นมาไม่ได้เมื่อคิดถึงความฝัน

                “ร้อนรึเปล่าครับ อากาศวันนี้ค่อนข้างอบอ้าว เมฆกล่าวทักเมื่อเห็นสาวน้อยหน้าแดง

                นิดหน่อยค่ะ

                เมฆส่งแก้วน้ำที่เอรินแจกทุกคน เลื่อนไปตรงหน้าเธอ

                “ขอบคุณค่ะ” ใจฟ้ายกแก้วน้ำขึ้นมาจิบ

                “สองกับพี่เมฆนี่จะว่าไปน่าจะเคยเจอกันมาก่อน เมื่อเจ็ดปีก่อนนะครับ แต่ไม่รู้จักกัน จู่ๆ หนึ่งก็พูดขึ้นมา เล่นเอาทั้งพี่เมฆและน้องสองต่างก็งงเพราะไม่เข้าใจความหมาย

                “ก็วันเด็กไงพี่ ที่พวกเราเก็บรองเท้าได้ตั้งสองเข่งใหญ่ หนึ่งรีบอธิบาย เมฆพยักหน้า

                “จำได้ไม่ลืมแน่ ทำเอาพี่เกือบตาย จู่ๆ เครื่องยนต์ดันขัดข้อง โชคดีนะที่ไม่มีใครเป็นอันตราย เมฆเผลอเอามือลูบคางตัวเองเมื่อนึกถึงเหตุการณ์วันนั้นแล้วก็หัวเราะเบาๆ เลยหมดหล่อกัน

                ใจฟ้ายังไม่เข้าใจว่าเรื่องที่เขาคุยมันจะเกี่ยวอะไรกับตัวเอง แม้จะอยากรู้แต่ก็แค่ส่งสายตาสงสัยออกไป ไม่ได้พูดอะไร

                “สองจำเหตุการณ์วันเด็กที่ ฮ. ตกที่ประจวบได้รึเปล่า ที่แกโกยอ้าวเลยน่ะ ชนะภัยอธิบายไปหัวเราะไป

                ใจฟ้าพอจะนึกออก แต่ก็ยังงงอยู่ดีว่าพี่ชายหมายถึงอะไร

                ยัยสองวิ่งไวยังกะปรอท แต่ทิ้งรองเท้าไว้ คู่โปรดซะด้วย หาเจออยู่ข้างเดียว อีกข้างไม่รู้ติดไปกับใคร โมโหไปหลายวันเลย แถมยังจำไม่ลืม

                คราวนี้ทั้งผู้การเมฆทั้งพี่ชายตัวดีหัวเราะกันทั้งคู่ ใจฟ้าไม่เห็นจะตลกด้วยเลย นึกในใจอีตานี่เหรอขับเฮลิคอปเตอร์ลำนั้น บังคับประสาอะไรดันปล่อยให้ตกได้

                “พี่โดนสอบสวนอยู่นาน เกือบแป๊กซะแล้ว เลยขอย้ายมาอยู่ส่วนการศึกษาดีกว่า

                “ไม่งั้นเขาจะเรียกพี่เมฆ แมวเก้าชีวิตเหรอพี่

                “เฮ้ย สมญานามแบบนี้ไม่ค่อยน่าภูมิใจนะ

                ทั้งเมฆและชนะภัยต่างคุยกันอย่างถูกคอ จนแม่ค้ายกผัดซีอิ๊วทะเลมาเสิร์ฟสี่จาน เบรกจังหวะการคุย เมฆเห็นเป็นผัดซีอิ๊วทั้งหมดก็พูดขึ้น

                “อ้าว สั่งเหมือนกันหมด จานนี้ให้น้องสองแล้วกันนะ ผู้หญิงกินน้อย อย่ากินเยอะ กลัวอ้วนไม่ใช่เหรอ เมฆจัดแจงเลื่อนจานที่ดูน้อยกว่าเพื่อนให้ใจฟ้า นอกนั้นก็แจกจ่ายกันโดยทั่วถึง แม้จะเห็นหญิงสาวหน้าบึ้ง แต่เมฆก็ทำเป็นไม่เห็น ลึกๆ รู้สึกมีความสุขกับปฏิกิริยาของสาวน้อย

                “เอาเลยครับ ไม่ต้องเกรงใจ เมฆพยักพเยิดกับสองแล้วหันไปบอกหนึ่ง เดี๋ยวกินเสร็จพี่ว่าจะไปงีบซะหน่อย คืนนี้จะได้สนุกได้เต็มที่ เออ...หนึ่ง บ่ายนี้มีประชุมใช่ไหม

                นาวาอากาศโท ชนะภัย ยังไม่ทันได้ตอบก็มีเสียงพึมพำเบาๆ ดังขึ้น

                “แก่แล้วขี้ลืม”

                ใจฟ้ารู้สึกขวางหูขวางตาในความเจ้ากี้เจ้าการของคนที่นั่งตรงกันข้ามกับเธอ ไม่สนใจพี่ชายที่สะกิดขาเธออยู่ พอเหลียวไปดูเห็นอาการของพี่ชายที่ถ้าบีบคอเธอได้คงทำไปแล้ว เธอเลยทำเป็นไม่สนใจหยิบแก้วน้ำขึ้นมาจิบแล้วก้มหน้าก้มตากินผัดซีอิ๊วด้วยอาการเซ็งๆ

                “น้องสอง งานเลี้ยงเย็นนี้ขอเชิญนะครับ คนกันเองทั้งนั้น เมฆยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี ทำเป็นไม่ได้ยินที่สาวน้อยว่าเขา

                นานๆ จะมีข้ออ้างกลับบ้านดึกซะทีนะครับพี่ หนึ่งได้ทีเย้าหยอกรุ่นพี่ที่กลายมาเป็นผู้บังคับบัญชา แต่เขาจะหยอกกันเล่นเฉพาะนอกเวลางานเท่านั้น

                แล้วเสียงหัวเราะก็ดังขึ้นมาทั้งโต๊ะ คงมีแต่หญิงสาวคนเดียวที่ทำหน้าเบื่อ ก้มหน้าก้มตารีบกินให้เสร็จ จะได้แยกย้ายกันโดยเร็ว



    Thumbnail Seller Link
    อยากมีรัก
    ปัณณ์นภัส
    www.mebmarket.com
    สอง สาวน้อยจอมกวน อยากมีรักกับเขาสักทีดั่งสวรรค์เป็นใจส่งตัวเลือกมาให้ถึงสามคนระหว่าง  โทนี่...อดีตคนรัก               เสธฯ ต้น...ผู้ชายที่แสนดีหร...
    Get it now
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×