ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 7/1 : เช้าที่(ไม่)สดใส..คนไหนจะชอปปิ้งเอ่ย?
ชายหนุ่มผิวเข้มหน้าคม รูปร่างสูงโปร่งหุ่นดีแบบนายแบบอินเตอร์เดินถือหม้อใบขนาดใหญ่เข้ามาในครัว พอเนตรนภาที่กำลังคุมป้าอิ่ม แม่ครัวทำอาหารเช้าหันมาเห็นก็ร้องทัก
“ อ้าว ! มาแต่เช้าเชียวนะจ้ะ ตาภูมิ ”
“ สวัสดีครับ คุณอา พอดีผมทำข้าวต้มกระดูกอ่อนใส่เห็ดหอมของโปรดของน้องนายมาฝากครับ ” หนุ่มหล่อเข้มยิ้มให้นิดหนึ่งแบบยกมุมปากด้วยมาดเท่ พูดพร้อมทั้งยกหม้อขึ้นมานิดหนึ่งเหมือนโชว์ให้อีกฝ่ายเห็น ก่อนจะวางลงบนโต๊ะอเนกประสงค์กลางห้องครัวนั้น
ไตรภูมิชอบการทำอาหารเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่า เป็น ‘หนุ่มหน้าไทยใจคหกรรม’ ทีเดียว มีฝีมือทั้งอาหารคาวและหวานเป็นเลิศ (ขนาดแม่ช้อยคงยังไม่ทันขยับมือรำก็ต้องนำเสนอถ้วยรางวัลชนะเลิศให้เลย ถ้าได้ชิมฝีมือระดับนี้เข้า) และมักจะนำมาฝากแก่ครอบครัวของเนตรนภาเป็นประจำ โดยเฉพาะสำหรับน้องสาวตัวน้อย ถ้ารู้ว่าชอบอะไรก็จะสรรหาทำมาให้โดยไม่ขาด ไม่ว่าจะเป็น ต้นตำรับไทยชาววัง อาหารฝรั่งต่างชาตินานา ภัตตาคารฮ่องเต้ เหลาเจ๊ฮองเฮา ภาคกลางบ้านเรา หรือจะรวมสี่เหล่าทุกภูมิภาค  จนหนุ่มข้างกายสาวน้อยอีกหนึ่งคนที่ไม่มีความเอาไหนในเรื่องนี้ซะเลยบ่นอุบด้วยความหมั่นไส้ว่า ทำไมถึงไม่ (ส เสือ ใส่ เ-ือก) เลือกเรียนคหกรรมทำอาหารไปซะ ให้รู้แล้วรู้รอด ไม่ต้องมาเรียนวิศวกรรมทำงานก่อสร้างอย่างทุกวันนี้ 
“ ดีจริง วันนี้ได้ทานฝีมือภูมิ งั้นป้าอิ่มทำเฉพาะส่วนของพวกป้าละกันนะจ้ะ แล้วเดี๋ยวค่อยอุ่นข้าวต้มขึ้นตั้งโต๊ะ ”  เนตรนภาอุทานด้วยความพึงพอใจก่อนจะหันไปสั่งแม่ครัวเรื่องอาหารแล้วเดินนำชายหนุ่มออกมาที่ห้องรับแขกหน้าบ้าน
“ นี่น้องนายตื่นรึยังครับ ” ชายหนุ่มถามหาหญิงสาวหนึ่งเดียวในดวงใจ
“ ตื่นแล้วจ้ะ คงกำลังอาบน้ำอยู่ ส่วนแทนคงยังไม่ตื่น ” หญิงกลางคนยิ้มให้อย่างใจดี
...ผมสนแค่น้องนายครับ อีกตัว มันไม่ตื่นได้เป็นดี จะได้หมดคู่แข่งซะที เบื่อหน้ามันจะแย่อยู่แล้ว...แต่ถ้าตอบแบบนี้ คุณอาคงได้ค้อนขวับ สงสาร กลัวคุณอาคอเคล็ดแต่เช้าหรอกนะ...
“ อ๋อ เหรอครับ งั้น ผมนั่งรอที่นี่ละกันครับ ” ชายหนุ่มกล่าวพลาง นั่งลงหยิบหนังสือพิมพ์ประจำวันมาอ่าน
“ งั้นอาขอตัวขึ้นไปข้างบนก่อนนะจ้ะ ”
ไตรภูมิยิ้ม รับคำเบา ๆ แล้วเนตรนภาจึงปลีกตัวเดินขึ้นชั้นบนไป
สักพัก ชายหนุ่มอีกคนก็เดินลงบันไดมาในชุดนอนขายาวลายสก็อต ปากก็หาวตลอดทาง กว้างจนแทบจะเห็นลิ้นไก่และเป็ดในปาก (ขอแถมให้ทั้งเล้า กลัวไม่เห็นภาพ ^^) หัวหูยุ่ง หน้าตาปะยี่ห้อว่าอยู่ในสลีพพี้โหมด (sleepy mode ZZZzzzzz!!!)
“ ฮ้าววววว !!! มาแต่เช้าเลยนะ แก ...ฮ้าววววว !!! ย้ายมาเลยม๊ะ จะได้ไม่ต้องไป ๆ มา ๆ ” เสียงประชดประชันดังมาจากเจ้าของบ้าน หน้าตายู่ยี่ ปากหาวไป (กว้างมาก ๆ ขอบอก) แถมยังเกาหัวแกรก ๆ อีกมือเกาบั้นท้าย แบบไม่เกรงเสียภาพพจน์หนุ่มหล่อตี๋จอมสำอางค์...ก็ไม่มีสาวสักคน ทำไมต้องไว้ฟอร์มล่ะ ฮ้าววววว !...
“ งั้นข้าไปเก็บของเลยละกัน ขอบใจว่ะ ”  ไตรภูมิตอบพลางขยับตัวลุกขึ้น หน้าตาดูดีใจเกินเหตุ ผิดความเก๊กปรกติ จนอีกฝ่ายต้องรีบห้ามแทบจะไม่ทัน
“ เฮ้ย ! อะไรวะ ไอ้นี่ คนประชดกัน คิดตามไม่ทันเหรอวะ เห็นหน้าตาก็ดี ๆ ” แทนไทรีบโวยวายกลัวอีกฝ่ายทำตามนั้นจริง ๆ แถมหลุดความจริงในใจที่คิดมานานแล้วว่า ‘อีกฝ่ายหน้าตาดี’ ออกมาด้วยทั้งที่ไม่เค้ยไม่เคยยอมรับกับใครสักที...ก็ใครมันจะหล่อกว่าตนเป็นไม่มี...ก็แค่ เอ่อ ‘หน้าตาดูดี’ ย้ำ !!! พอไปวัดแล้วพระไม่ทักว่าเป็น ‘สัปเหร่อ’ แต่ต้องตอนกลางวันนะ ตอนกลางคืนกลัวพระท่านมองไม่เห็นมัน เพราะ มันดำ...
“ ฮ่ะ ฮ่ะ ข้าพูดจริงทำจริง ไม่ทิ้งคำพูดเว้ย เดี๋ยวมา ” หนุ่มเข้มไทยแท้ยังเล่นไม่เลิก จนหนุ่มตี๋รีบเดินเข้าไปดึงไหล่อีกฝ่ายไว้ก่อน...กลัวใจมันว่ะ กลัวมันบ้าทำจริง...
“ ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น ข้าประชด อ่านปาก ประ-โช้ดดดด ” พูดพลางชี้ปากตนเองพลางกลัวอีกฝ่ายมองไม่เห็น
ไตรภูมิทำท่าผงะถอยหลัง ทำหน้ายู่ยิ่งกว่าคนตรงหน้า เอามือปิดจมูก แถมโบกมือข้างที่เหลือผ่านจมูกไปมา    “ โห ! แก แค่ได้กลิ่นปากแก ข้าก็ล่าถอยยกเลิกความคิดแล้วว่ะ เหม็นชิบ...วันหลังแปรงฟันก่อนออกมาจากห้องนอนนะเว้ย สงสารคนรอบข้างสักนิ้ด ชีวิตคนอื่นจะได้ยืนยาว ”
พูดจบ ก็รีบวิ่งออกไปหน้าบ้าน เพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์เฮือกใหญ่เข้าสู่ปอดและตามมาอีกหลายเฮือก ก่อนจะหมดลมไปจริง ๆ ...ก็เมื่อกี้พูดยาวไปหน่อย เลยลืมหายใจง่ะ แต่ขอตายดีกว่าที่จะได้กลิ่นจากปากมันอีก เหลือทนจริง ๆ ยิ่งกว่าช้างตายขึ้นอึดมาสิบวัน...หนูตัวมันเล็กไปน่ะ กลัวกลิ่นบิ้วด์ไม่ได้อารมณ์...
แทนไทยืนมองการช่วยชีวิตตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตายของคู่แข่ง แล้วลองเป่าปากพ่นลมเพื่อทดสอบกลิ่น
...อืม กลิ่นดีใช้ได้ ไม่เห็นเหม็นเลย ยังเฟรชเหมือนเพิ่งสีฟันมา... (ใครมันก็ทนกลิ่นปากตัวเองได้อยู่แล้ว ก็มันได้กลิ่นทุกวันนี่ ไม่งั้นคงสิ้นใจม้วยมรณาตายไปนานแล้ว  สงสัยบวกสงสารจังว่า น้องนายทนอยู่บ้านเดียวกันกับมันได้ไง)
...โอ๊ะ ! เกิดปิ๊งไอเดียแสนบรรเจิด ได้อาวุธแล้วเว้ย  ‘ดีดีทีประจำตัว’ ไว้ฉีดไล่ไอ้แมลงวันหัวเขียวตัวดำ ๆ...(อ้าว ! ทำไมไม่เทียบอะไรที่ดีกว่านี้นะ ถ้าเทียบกับแมลงวัน แล้วน้องนายล่ะ จะเป็นอะไร ?  ><)
ชายหนุ่มยืนกระหยิ่มยิ้มย่องกับความคิดที่ (ตัวเอง) คิดว่าดี ก่อนจะยักไหล่แล้วหันหลังเดินเข้าไปในครัว
...ท่าจะไม่ดี ถ้าใช้แผนแสนเลิศนี้ อาจจะเป็นการไล่น้องนายไปด้วย งั้นไม่เอาดีกว่า...
แทนไทรินนม (ที่ไม่ได้สดจากเต้าแต่เรามาจากกล่อง) มาหนึ่งแก้ว ยกขึ้นดื่มหนึ่งอึกแล้วเดินถือกลับขึ้นชั้นบน กำลังจะถึงชั้นสองก็เดินสวนกับนายาวีที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้วในชุดเสื้อผ้าฝ้ายคอปาดแขนกุดสีขาวราวซักด้วยโอโม่ มีริบบิ้นเส้นเล็กสีชมพูเดินตามขอบคอและรอบแขนเสื้อ ตัวกระโปรงยาวแค่เข่า มีริบบิ้นสีเดียวกันและลูกไม้ขาวระบายรอบชายกระโปรง เข้าชุดกับตัวเสื้อ หน้าตาสดใส ผมสีน้ำตาลเข้มสลวยปล่อยยาว ดูน่ารักสมตัวคล้ายนางฟ้าตัวน้อย ๆ เปล่งประกายเจิดจ้ามองแล้วราวกับมีปีกสีขาวอันน้อยสองอันโผล่มาด้วยที่หลัง ตามจินตนาการอันสุดกู่ของคนมอง ผิดกับอีกฝ่ายที่เหมือนเพิ่งลุกมาจากหลุม
หนุ่มหล่อตี๋ที่ตอนนี้หน้ายังยับ นึกได้ถึงเรื่องที่เพิ่งเกิด รีบใช้มือที่เหลือปิดปากหมับ ก้มหน้าตัวเองเพื่อหลบสาวน้อย...กลัวเกิดการพ่นน้ำยาดีดีที ผิดเป้าหมาย
ฝ่ายสาวน้อยกลับผงะหลีกทางให้ชายหนุ่มจนเบียดชิดราวจับของบันได ถ้าทำได้คงขอลงไปโหนเป็นลิงน้อยเป็นแน่ จนชายหนุ่มนึกสงสัยในพฤติกรรม
นายาวีหันหน้าเสมองออกไปนอกราวบันไดเหมือนกับมองหาอะไร  พูดกับอีกฝ่ายว่า  “ พี่แทนรีบไปอาบน้ำดีกว่าจะได้ลงไปทานข้าว ” แล้วเลี่ยงเดินลงบันไดไปทันที
...เอ ทำไม น้องนายต้องหลบหน้าเราด้วย  เราสิ ต้องหลบ...
แทนไทยืนนิ่งคิดอยู่ที่เชิงบันไดเป็นครู่ นึกย้อนถึงเหตุการณ์ในช่วงเช้าที่ผ่าน ๆ มา ที่ไม่เคยนึกสงสัยในทีท่าแปลก ๆ ของสาวน้อย ก่อนความคิดจะสว่างวาบคล้ายโดนสปอทไลต์ดวงโตส่องที่สมองแถมค้อนทุบหัวด้วยอีกอัน
...มิน่า เจอกันทีไร ต้องไล่เราไปอาบน้ำทุกที โธ่...กลิ่นดีดีที ทำพิษซะแล้ว !!!...ทำม้าย ทำไม...น้องนายถึงไม่ยอมบอกพี่  โธ่ โธ่ โธ่ เสียคะแนนโม้ดดดดด... ><
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ อ้าว แทน มาแล้วรึ ลูก กำลังรออยู่เลย ” เสียงเนตรนภาเอ่ยทักคนมาใหม่ ทำให้ชายหนุ่มที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์และสาวน้อยอีกหนึ่งที่โต๊ะอาหารหันมามอง จนแทนไทรู้สึกเก้อเขินขึ้นมา หน้าขาวปรากฏริ้วรอยแดงเรื่อ ๆ บริเวณโหนกแก้ม...นึกถึงเรื่องนั้น แล้วมันคันใจ ต่อไปคงไม่กล้าพูดกับใคร ถ้ายังไม่ได้แปรงฟัน เสียเซ็ลฟหมด เฮ้อ !... (อุทาหรณ์สำหรับเด็ก ๆ และผู้ใหญ่บางคนนะคะ แปรงฟัน แปรงฟัน แปรงฟัน แปรงทุก ๆ วัน ฟันจะสะอาดดี)
วันนี้ที่โต๊ะอาหารเหลือเพียงสี่คน เพราะเทพไท เจ้าของบ้านฝ่ายชายเดินทางไปพบลูกค้าที่ต่างจังหวัดแต่เช้า
“ พี่ภูมิทำข้าวต้มกระดูกอ่อนของโปรดน้องนายมาค่ะ พี่แทน” นายาวีเอ่ยขึ้นเชิงบอกกล่าวขณะชายหนุ่มกำลังนั่งลงที่โต๊ะอาหารข้าง ๆ คนพูด  ส่วนไตรภูมิ ‘ฝ่ายโภชนาการประจำตัว’ ของสาวน้อยหันมามองด้วยหน้าตาเหนือกว่าแกมเยาะเย้ย ยกคิ้วเข้มข้างหนึ่ง...เอ็งหมดท่า แต่ข้าเป็นต่อล่ะ คราวนี้...
...มันทำมาเอาหน้าอีกแล้ว เซ็งโว้ย !!!...
“ จริง ๆ พี่ก็ไม่ค่อยชอบไอ้อาหารมีกระดูกนี่เท่าไรหรอกครับน้องนาย มันมักจะมาติดคอเป็นประจำ ” แทนไทพูดพร้อมส่งสายตาไม่เป็นมิตรให้คู่แข่ง ให้มันรู้ไปว่า ‘ไอ้กระดูก’ นี่มันจะอ่อนจริงรึเปล่า
“ อ้าว นึกว่าจะชอบกระดูก เห็นชอบหวงก้างนักนี่ ” ไตรภูมิส่งสารท้ามา นัยน์ตาคู่น้ำตาลเข้มเกือบดำวาววับไม่ยิ่งหย่อนกัน ร่ำ ๆจะเกิดศึกอีกแล้ว
“ ทานกันดีกว่าจ้ะ เดี๋ยวข้าวต้มจะเย็นหมด ” เนตรนภาเอ่ยเตือน ยังไม่อยากเห็นมวยคู่เอกแต่เช้า
“ ทานเถอะค่ะ ” สาวน้อยสนับสนุนด้วย...วัน ๆ คงไม่ต้องทำอะไรถ้าต้องคอยห้ามมวยคู่นี้ที่ชักจะมีสถิติขึ้นชกมากกว่าที่ลุมพินีซะอีก...
สองหนุ่มจำใจยอมล่าถอยจากกัน  พอแทนไทหยิบช้อนตักปุ๊บ ไตรภูมิที่รอท่าอยู่แล้วก็กัดปั๊บ “ ไหนว่า ไม่ชอบไง ”
“ ไม่ชอบนะชัวร์ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่กินนี่ ของฟรีมาถึงที่ มีหรือจะเสียโอกาส ถึงรสชาติจะงั้น ๆ ก็เถอะ” ปากว่าแต่มือก็ตักไม่หยุด...อืม ทำไมมันทำอร่อยยังงี้วะ น่าเจ็บใจจริง ๆ ><...
“ อร่อยจังเลยค่ะ พี่ภูมิ ” กรรมการใหญ่ได้ยินอย่างนั้นต้องรีบออกโรงขัดจังหวะ หยอดคำหวานให้คนทำ เมื่อฝ่ายโภชนาการได้ยิน หน้าตาที่บึ้งอยู่ ก็เกิดรอยยิ้มยินดีแก้มแทบปริ ประกายตาระยับ จนแทนไทนึกหมั่นไส้ขึ้นมาอีกรอบ
“ น้องนายครับ พี่ว่า วันนี้เราออกไปซื้อเสื้อผ้าของใช้กันดีกว่า ใกล้เปิดเทอมแล้ว ” ไหน ๆ ก็ทำดีเรื่องอาหารไม่ได้ ขอใช้ความถนัดแล้วกัน 
‘ฝ่ายสไตลิสต์ประจำตัว’ รีบนำเสนอ  ส่วนไตรภูมิทำหน้าเซ็งขึ้นมาทันที
“ ดีเหมือนกันค่ะ น้องนายอยากได้ของตั้งหลายอย่าง ตอนแรกว่าจะชวนพวกเพื่อน ๆ ไป แต่ไปกับพี่แทนก็ดีเหมือนกัน จะได้ช่วยเลือกของให้ ” สาวน้อยเห็นดีเห็นงาม ยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างอ่อนหวาน  แทนไทมีความสามารถทางศิลปะกำลังเรียนสถาปัตยกรรมปีสุดท้าย มีความชอบทั้งออกแบบสิ่งก่อสร้างและแบบเสื้อผ้าเครื่องประดับ  สามารถเลือกสรรสิ่งของเสื้อผ้าได้เป็นอย่างดี สมกับที่เป็นหนุ่มเจ้าสำอางค์
...สบายเรา จะได้ไม่ต้องเหนื่อย ได้ทั้งคนเลือกของ ถือของ แถมจ่ายให้ด้วย ทรีอินวัน...ประเภท ของฟรี ดีจัง ตังค์อยู่ครบ เนี่ย ชอบ ฮิฮิ...นายาวีนึกในใจ
“ งั้นเดี๋ยวทานข้าวเสร็จ เราไปกันเลยนะครับ ” ชายหนุ่มยิ้มรับอย่างอารมณ์ดีขึ้นมาเชียว หน้าตากระดี้กระด้าอย่างหนุ่มจะออกเดต
“ แล้วพี่ภูมิจะไปด้วยกันมั้ยคะ ” นายาวีถามอีกหนึ่งหนุ่ม
...อะจึ๋ย...น้องนายไปชวนมันทำไม  โธ่ !...โอกาสอันดีที่พี่เพียรพยายาม จะชวดซะก็คราวนี้ ไม่น๊ะ !!!...
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ อ้าว ! มาแต่เช้าเชียวนะจ้ะ ตาภูมิ ”
“ สวัสดีครับ คุณอา พอดีผมทำข้าวต้มกระดูกอ่อนใส่เห็ดหอมของโปรดของน้องนายมาฝากครับ ” หนุ่มหล่อเข้มยิ้มให้นิดหนึ่งแบบยกมุมปากด้วยมาดเท่ พูดพร้อมทั้งยกหม้อขึ้นมานิดหนึ่งเหมือนโชว์ให้อีกฝ่ายเห็น ก่อนจะวางลงบนโต๊ะอเนกประสงค์กลางห้องครัวนั้น
ไตรภูมิชอบการทำอาหารเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่า เป็น ‘หนุ่มหน้าไทยใจคหกรรม’ ทีเดียว มีฝีมือทั้งอาหารคาวและหวานเป็นเลิศ (ขนาดแม่ช้อยคงยังไม่ทันขยับมือรำก็ต้องนำเสนอถ้วยรางวัลชนะเลิศให้เลย ถ้าได้ชิมฝีมือระดับนี้เข้า) และมักจะนำมาฝากแก่ครอบครัวของเนตรนภาเป็นประจำ โดยเฉพาะสำหรับน้องสาวตัวน้อย ถ้ารู้ว่าชอบอะไรก็จะสรรหาทำมาให้โดยไม่ขาด ไม่ว่าจะเป็น ต้นตำรับไทยชาววัง อาหารฝรั่งต่างชาตินานา ภัตตาคารฮ่องเต้ เหลาเจ๊ฮองเฮา ภาคกลางบ้านเรา หรือจะรวมสี่เหล่าทุกภูมิภาค  จนหนุ่มข้างกายสาวน้อยอีกหนึ่งคนที่ไม่มีความเอาไหนในเรื่องนี้ซะเลยบ่นอุบด้วยความหมั่นไส้ว่า ทำไมถึงไม่ (ส เสือ ใส่ เ-ือก) เลือกเรียนคหกรรมทำอาหารไปซะ ให้รู้แล้วรู้รอด ไม่ต้องมาเรียนวิศวกรรมทำงานก่อสร้างอย่างทุกวันนี้ 
“ ดีจริง วันนี้ได้ทานฝีมือภูมิ งั้นป้าอิ่มทำเฉพาะส่วนของพวกป้าละกันนะจ้ะ แล้วเดี๋ยวค่อยอุ่นข้าวต้มขึ้นตั้งโต๊ะ ”  เนตรนภาอุทานด้วยความพึงพอใจก่อนจะหันไปสั่งแม่ครัวเรื่องอาหารแล้วเดินนำชายหนุ่มออกมาที่ห้องรับแขกหน้าบ้าน
“ นี่น้องนายตื่นรึยังครับ ” ชายหนุ่มถามหาหญิงสาวหนึ่งเดียวในดวงใจ
“ ตื่นแล้วจ้ะ คงกำลังอาบน้ำอยู่ ส่วนแทนคงยังไม่ตื่น ” หญิงกลางคนยิ้มให้อย่างใจดี
...ผมสนแค่น้องนายครับ อีกตัว มันไม่ตื่นได้เป็นดี จะได้หมดคู่แข่งซะที เบื่อหน้ามันจะแย่อยู่แล้ว...แต่ถ้าตอบแบบนี้ คุณอาคงได้ค้อนขวับ สงสาร กลัวคุณอาคอเคล็ดแต่เช้าหรอกนะ...
“ อ๋อ เหรอครับ งั้น ผมนั่งรอที่นี่ละกันครับ ” ชายหนุ่มกล่าวพลาง นั่งลงหยิบหนังสือพิมพ์ประจำวันมาอ่าน
“ งั้นอาขอตัวขึ้นไปข้างบนก่อนนะจ้ะ ”
ไตรภูมิยิ้ม รับคำเบา ๆ แล้วเนตรนภาจึงปลีกตัวเดินขึ้นชั้นบนไป
สักพัก ชายหนุ่มอีกคนก็เดินลงบันไดมาในชุดนอนขายาวลายสก็อต ปากก็หาวตลอดทาง กว้างจนแทบจะเห็นลิ้นไก่และเป็ดในปาก (ขอแถมให้ทั้งเล้า กลัวไม่เห็นภาพ ^^) หัวหูยุ่ง หน้าตาปะยี่ห้อว่าอยู่ในสลีพพี้โหมด (sleepy mode ZZZzzzzz!!!)
“ ฮ้าววววว !!! มาแต่เช้าเลยนะ แก ...ฮ้าววววว !!! ย้ายมาเลยม๊ะ จะได้ไม่ต้องไป ๆ มา ๆ ” เสียงประชดประชันดังมาจากเจ้าของบ้าน หน้าตายู่ยี่ ปากหาวไป (กว้างมาก ๆ ขอบอก) แถมยังเกาหัวแกรก ๆ อีกมือเกาบั้นท้าย แบบไม่เกรงเสียภาพพจน์หนุ่มหล่อตี๋จอมสำอางค์...ก็ไม่มีสาวสักคน ทำไมต้องไว้ฟอร์มล่ะ ฮ้าววววว !...
“ งั้นข้าไปเก็บของเลยละกัน ขอบใจว่ะ ”  ไตรภูมิตอบพลางขยับตัวลุกขึ้น หน้าตาดูดีใจเกินเหตุ ผิดความเก๊กปรกติ จนอีกฝ่ายต้องรีบห้ามแทบจะไม่ทัน
“ เฮ้ย ! อะไรวะ ไอ้นี่ คนประชดกัน คิดตามไม่ทันเหรอวะ เห็นหน้าตาก็ดี ๆ ” แทนไทรีบโวยวายกลัวอีกฝ่ายทำตามนั้นจริง ๆ แถมหลุดความจริงในใจที่คิดมานานแล้วว่า ‘อีกฝ่ายหน้าตาดี’ ออกมาด้วยทั้งที่ไม่เค้ยไม่เคยยอมรับกับใครสักที...ก็ใครมันจะหล่อกว่าตนเป็นไม่มี...ก็แค่ เอ่อ ‘หน้าตาดูดี’ ย้ำ !!! พอไปวัดแล้วพระไม่ทักว่าเป็น ‘สัปเหร่อ’ แต่ต้องตอนกลางวันนะ ตอนกลางคืนกลัวพระท่านมองไม่เห็นมัน เพราะ มันดำ...
“ ฮ่ะ ฮ่ะ ข้าพูดจริงทำจริง ไม่ทิ้งคำพูดเว้ย เดี๋ยวมา ” หนุ่มเข้มไทยแท้ยังเล่นไม่เลิก จนหนุ่มตี๋รีบเดินเข้าไปดึงไหล่อีกฝ่ายไว้ก่อน...กลัวใจมันว่ะ กลัวมันบ้าทำจริง...
“ ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น ข้าประชด อ่านปาก ประ-โช้ดดดด ” พูดพลางชี้ปากตนเองพลางกลัวอีกฝ่ายมองไม่เห็น
ไตรภูมิทำท่าผงะถอยหลัง ทำหน้ายู่ยิ่งกว่าคนตรงหน้า เอามือปิดจมูก แถมโบกมือข้างที่เหลือผ่านจมูกไปมา    “ โห ! แก แค่ได้กลิ่นปากแก ข้าก็ล่าถอยยกเลิกความคิดแล้วว่ะ เหม็นชิบ...วันหลังแปรงฟันก่อนออกมาจากห้องนอนนะเว้ย สงสารคนรอบข้างสักนิ้ด ชีวิตคนอื่นจะได้ยืนยาว ”
พูดจบ ก็รีบวิ่งออกไปหน้าบ้าน เพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์เฮือกใหญ่เข้าสู่ปอดและตามมาอีกหลายเฮือก ก่อนจะหมดลมไปจริง ๆ ...ก็เมื่อกี้พูดยาวไปหน่อย เลยลืมหายใจง่ะ แต่ขอตายดีกว่าที่จะได้กลิ่นจากปากมันอีก เหลือทนจริง ๆ ยิ่งกว่าช้างตายขึ้นอึดมาสิบวัน...หนูตัวมันเล็กไปน่ะ กลัวกลิ่นบิ้วด์ไม่ได้อารมณ์...
แทนไทยืนมองการช่วยชีวิตตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตายของคู่แข่ง แล้วลองเป่าปากพ่นลมเพื่อทดสอบกลิ่น
...อืม กลิ่นดีใช้ได้ ไม่เห็นเหม็นเลย ยังเฟรชเหมือนเพิ่งสีฟันมา... (ใครมันก็ทนกลิ่นปากตัวเองได้อยู่แล้ว ก็มันได้กลิ่นทุกวันนี่ ไม่งั้นคงสิ้นใจม้วยมรณาตายไปนานแล้ว  สงสัยบวกสงสารจังว่า น้องนายทนอยู่บ้านเดียวกันกับมันได้ไง)
...โอ๊ะ ! เกิดปิ๊งไอเดียแสนบรรเจิด ได้อาวุธแล้วเว้ย  ‘ดีดีทีประจำตัว’ ไว้ฉีดไล่ไอ้แมลงวันหัวเขียวตัวดำ ๆ...(อ้าว ! ทำไมไม่เทียบอะไรที่ดีกว่านี้นะ ถ้าเทียบกับแมลงวัน แล้วน้องนายล่ะ จะเป็นอะไร ?  ><)
ชายหนุ่มยืนกระหยิ่มยิ้มย่องกับความคิดที่ (ตัวเอง) คิดว่าดี ก่อนจะยักไหล่แล้วหันหลังเดินเข้าไปในครัว
...ท่าจะไม่ดี ถ้าใช้แผนแสนเลิศนี้ อาจจะเป็นการไล่น้องนายไปด้วย งั้นไม่เอาดีกว่า...
แทนไทรินนม (ที่ไม่ได้สดจากเต้าแต่เรามาจากกล่อง) มาหนึ่งแก้ว ยกขึ้นดื่มหนึ่งอึกแล้วเดินถือกลับขึ้นชั้นบน กำลังจะถึงชั้นสองก็เดินสวนกับนายาวีที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้วในชุดเสื้อผ้าฝ้ายคอปาดแขนกุดสีขาวราวซักด้วยโอโม่ มีริบบิ้นเส้นเล็กสีชมพูเดินตามขอบคอและรอบแขนเสื้อ ตัวกระโปรงยาวแค่เข่า มีริบบิ้นสีเดียวกันและลูกไม้ขาวระบายรอบชายกระโปรง เข้าชุดกับตัวเสื้อ หน้าตาสดใส ผมสีน้ำตาลเข้มสลวยปล่อยยาว ดูน่ารักสมตัวคล้ายนางฟ้าตัวน้อย ๆ เปล่งประกายเจิดจ้ามองแล้วราวกับมีปีกสีขาวอันน้อยสองอันโผล่มาด้วยที่หลัง ตามจินตนาการอันสุดกู่ของคนมอง ผิดกับอีกฝ่ายที่เหมือนเพิ่งลุกมาจากหลุม
หนุ่มหล่อตี๋ที่ตอนนี้หน้ายังยับ นึกได้ถึงเรื่องที่เพิ่งเกิด รีบใช้มือที่เหลือปิดปากหมับ ก้มหน้าตัวเองเพื่อหลบสาวน้อย...กลัวเกิดการพ่นน้ำยาดีดีที ผิดเป้าหมาย
ฝ่ายสาวน้อยกลับผงะหลีกทางให้ชายหนุ่มจนเบียดชิดราวจับของบันได ถ้าทำได้คงขอลงไปโหนเป็นลิงน้อยเป็นแน่ จนชายหนุ่มนึกสงสัยในพฤติกรรม
นายาวีหันหน้าเสมองออกไปนอกราวบันไดเหมือนกับมองหาอะไร  พูดกับอีกฝ่ายว่า  “ พี่แทนรีบไปอาบน้ำดีกว่าจะได้ลงไปทานข้าว ” แล้วเลี่ยงเดินลงบันไดไปทันที
...เอ ทำไม น้องนายต้องหลบหน้าเราด้วย  เราสิ ต้องหลบ...
แทนไทยืนนิ่งคิดอยู่ที่เชิงบันไดเป็นครู่ นึกย้อนถึงเหตุการณ์ในช่วงเช้าที่ผ่าน ๆ มา ที่ไม่เคยนึกสงสัยในทีท่าแปลก ๆ ของสาวน้อย ก่อนความคิดจะสว่างวาบคล้ายโดนสปอทไลต์ดวงโตส่องที่สมองแถมค้อนทุบหัวด้วยอีกอัน
...มิน่า เจอกันทีไร ต้องไล่เราไปอาบน้ำทุกที โธ่...กลิ่นดีดีที ทำพิษซะแล้ว !!!...ทำม้าย ทำไม...น้องนายถึงไม่ยอมบอกพี่  โธ่ โธ่ โธ่ เสียคะแนนโม้ดดดดด... ><
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ อ้าว แทน มาแล้วรึ ลูก กำลังรออยู่เลย ” เสียงเนตรนภาเอ่ยทักคนมาใหม่ ทำให้ชายหนุ่มที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์และสาวน้อยอีกหนึ่งที่โต๊ะอาหารหันมามอง จนแทนไทรู้สึกเก้อเขินขึ้นมา หน้าขาวปรากฏริ้วรอยแดงเรื่อ ๆ บริเวณโหนกแก้ม...นึกถึงเรื่องนั้น แล้วมันคันใจ ต่อไปคงไม่กล้าพูดกับใคร ถ้ายังไม่ได้แปรงฟัน เสียเซ็ลฟหมด เฮ้อ !... (อุทาหรณ์สำหรับเด็ก ๆ และผู้ใหญ่บางคนนะคะ แปรงฟัน แปรงฟัน แปรงฟัน แปรงทุก ๆ วัน ฟันจะสะอาดดี)
วันนี้ที่โต๊ะอาหารเหลือเพียงสี่คน เพราะเทพไท เจ้าของบ้านฝ่ายชายเดินทางไปพบลูกค้าที่ต่างจังหวัดแต่เช้า
“ พี่ภูมิทำข้าวต้มกระดูกอ่อนของโปรดน้องนายมาค่ะ พี่แทน” นายาวีเอ่ยขึ้นเชิงบอกกล่าวขณะชายหนุ่มกำลังนั่งลงที่โต๊ะอาหารข้าง ๆ คนพูด  ส่วนไตรภูมิ ‘ฝ่ายโภชนาการประจำตัว’ ของสาวน้อยหันมามองด้วยหน้าตาเหนือกว่าแกมเยาะเย้ย ยกคิ้วเข้มข้างหนึ่ง...เอ็งหมดท่า แต่ข้าเป็นต่อล่ะ คราวนี้...
...มันทำมาเอาหน้าอีกแล้ว เซ็งโว้ย !!!...
“ จริง ๆ พี่ก็ไม่ค่อยชอบไอ้อาหารมีกระดูกนี่เท่าไรหรอกครับน้องนาย มันมักจะมาติดคอเป็นประจำ ” แทนไทพูดพร้อมส่งสายตาไม่เป็นมิตรให้คู่แข่ง ให้มันรู้ไปว่า ‘ไอ้กระดูก’ นี่มันจะอ่อนจริงรึเปล่า
“ อ้าว นึกว่าจะชอบกระดูก เห็นชอบหวงก้างนักนี่ ” ไตรภูมิส่งสารท้ามา นัยน์ตาคู่น้ำตาลเข้มเกือบดำวาววับไม่ยิ่งหย่อนกัน ร่ำ ๆจะเกิดศึกอีกแล้ว
“ ทานกันดีกว่าจ้ะ เดี๋ยวข้าวต้มจะเย็นหมด ” เนตรนภาเอ่ยเตือน ยังไม่อยากเห็นมวยคู่เอกแต่เช้า
“ ทานเถอะค่ะ ” สาวน้อยสนับสนุนด้วย...วัน ๆ คงไม่ต้องทำอะไรถ้าต้องคอยห้ามมวยคู่นี้ที่ชักจะมีสถิติขึ้นชกมากกว่าที่ลุมพินีซะอีก...
สองหนุ่มจำใจยอมล่าถอยจากกัน  พอแทนไทหยิบช้อนตักปุ๊บ ไตรภูมิที่รอท่าอยู่แล้วก็กัดปั๊บ “ ไหนว่า ไม่ชอบไง ”
“ ไม่ชอบนะชัวร์ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่กินนี่ ของฟรีมาถึงที่ มีหรือจะเสียโอกาส ถึงรสชาติจะงั้น ๆ ก็เถอะ” ปากว่าแต่มือก็ตักไม่หยุด...อืม ทำไมมันทำอร่อยยังงี้วะ น่าเจ็บใจจริง ๆ ><...
“ อร่อยจังเลยค่ะ พี่ภูมิ ” กรรมการใหญ่ได้ยินอย่างนั้นต้องรีบออกโรงขัดจังหวะ หยอดคำหวานให้คนทำ เมื่อฝ่ายโภชนาการได้ยิน หน้าตาที่บึ้งอยู่ ก็เกิดรอยยิ้มยินดีแก้มแทบปริ ประกายตาระยับ จนแทนไทนึกหมั่นไส้ขึ้นมาอีกรอบ
“ น้องนายครับ พี่ว่า วันนี้เราออกไปซื้อเสื้อผ้าของใช้กันดีกว่า ใกล้เปิดเทอมแล้ว ” ไหน ๆ ก็ทำดีเรื่องอาหารไม่ได้ ขอใช้ความถนัดแล้วกัน 
‘ฝ่ายสไตลิสต์ประจำตัว’ รีบนำเสนอ  ส่วนไตรภูมิทำหน้าเซ็งขึ้นมาทันที
“ ดีเหมือนกันค่ะ น้องนายอยากได้ของตั้งหลายอย่าง ตอนแรกว่าจะชวนพวกเพื่อน ๆ ไป แต่ไปกับพี่แทนก็ดีเหมือนกัน จะได้ช่วยเลือกของให้ ” สาวน้อยเห็นดีเห็นงาม ยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างอ่อนหวาน  แทนไทมีความสามารถทางศิลปะกำลังเรียนสถาปัตยกรรมปีสุดท้าย มีความชอบทั้งออกแบบสิ่งก่อสร้างและแบบเสื้อผ้าเครื่องประดับ  สามารถเลือกสรรสิ่งของเสื้อผ้าได้เป็นอย่างดี สมกับที่เป็นหนุ่มเจ้าสำอางค์
...สบายเรา จะได้ไม่ต้องเหนื่อย ได้ทั้งคนเลือกของ ถือของ แถมจ่ายให้ด้วย ทรีอินวัน...ประเภท ของฟรี ดีจัง ตังค์อยู่ครบ เนี่ย ชอบ ฮิฮิ...นายาวีนึกในใจ
“ งั้นเดี๋ยวทานข้าวเสร็จ เราไปกันเลยนะครับ ” ชายหนุ่มยิ้มรับอย่างอารมณ์ดีขึ้นมาเชียว หน้าตากระดี้กระด้าอย่างหนุ่มจะออกเดต
“ แล้วพี่ภูมิจะไปด้วยกันมั้ยคะ ” นายาวีถามอีกหนึ่งหนุ่ม
...อะจึ๋ย...น้องนายไปชวนมันทำไม  โธ่ !...โอกาสอันดีที่พี่เพียรพยายาม จะชวดซะก็คราวนี้ ไม่น๊ะ !!!...
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น