พูดจาแบบมีเสน่ห์ - พูดจาแบบมีเสน่ห์ นิยาย พูดจาแบบมีเสน่ห์ : Dek-D.com - Writer

    พูดจาแบบมีเสน่ห์

    ผู้เข้าชมรวม

    238

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    238

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  6 ม.ค. 50 / 13:24 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      พูดจาแบบมีเสน่ห์
       
      โบราณเคยบอก "พูดดีเป็นศรีแก่ตัว พูดชั่วอัปราชัย"

      หลายคนมาแผลงเป็น "พูดดีเป็นศรีแก่ปาก พูดมากปากจะมีสี" จะยึดคำกล่าวไหนก็ได้ค่ะ เพราะหัวใจสำคัญอยู่ที่การ "พูดให้ดี"

      ทำไมต้องพูดให้ดี...

      เพราะการพูดให้ดีนั้น ฟังแล้ว "เข้าหู" ชวนฟัง ชวนให้คล้อยตาม ชวนให้รู้สึกประทับใจและก่อให้เกิดสิ่งดี ๆ ตามมาได้อีกมากมาย

      การพูดเป็นเรื่องสำคัญในชีวิตค่ะ เพราะตลอดทั้งชีวิต เราต้องอาศัยการพูดเป็นการสื่อสารที่สำคัญ

      • พูดไม่เป็น
      • พูดไม่เข้าหูคน
      • หรือพูดแล้วคนอยากพาไป

      "ผ่าสุนัขออกจากปาก" อย่างที่เขาล้อ ๆ กันนั้น

      ท่าทางชีวิตจะย่ำแย่ ดังนั้นมาเรียนรู้การพูดการจาให้เป็นสง่าราศีแก่ชีวิตดีกว่าค่ะ
      1. คนจะพูดดีได้ต้องเริ่มจากคิดดี

      ไม่มีประโยชน์ที่เราจะเริ่มต้นจากการคิดร้ายแม้กับคนที่เราไม่ถูกชะตาด้วยที่สุด ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะต้องพูดจาไม่ดีกับเขา

      การคิดดี ถือเป็นเรื่องพื้นฐานของมนุษย์ เป็นพื้นฐานของจิตใจที่ดีงาม

      ใครก็ตามที่รู้จักคิดดี

      เขาก็จะเห็นแง่งามของโลกของชีวิต ของตนเอง และของผู้อื่น เมื่อเห็นแง่งามหรือแง่ดีของสิ่งต่าง ๆ เขาก็ย่อมมีทัศนคติที่ดี

      มีท่าทีที่ดีและเมื่อต้องพูดจากเสวนากัน เขาก็ย่อมพูดจาดี

      การพูดจาดี

      ไม่เพียงแต่สะท้อนการให้เกียรติและเคารพในตัวคนอื่น แต่ยังสะท้อนการให้เกียรติและเคารพตนเองอีกด้วย คนจะพูดจาดีได้ต้องรับการอบรมมาดี อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี

      ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า

      บุคลิกภาพดี ๆ เริ่มต้นที่ครอบครัว การพูดจาดีก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ต้องเริ่มจากในบ้าน พ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่างของคนที่พูดจาดี ๆ ต่อกัน ต้องเป็นผู้ชี้แนะคุณค่าของการพูดดี

      พูดดีในที่นี้หมายความว่าอะไร

      หมายความว่า

      • พูดเพราะ
      • พูดคำสุภาพ
      • มีน้ำเสียงที่สุภาพ
      • มีหางเสียงครับ ค่ะ จ๊ะ จ้ะ
      • เพื่อแสดงความมีมารยาท
      • มีไมตรีจิต
      • ไม่พูดคำหยาบ
      • ไม่ใส่ร้าย
      • ไม่ตะคอกตะเบ็งใส่กัน
      • ไม่ประชดประชัน
      • ไม่โกหกพกลม

      คนจะพูดดีเช่นนี้ได้จะคิดร้ายอยู่ในใจไม่ได้แน่นอน

      เพราะความร้ายกาจในใจจะเผยมาทางคำพูด น้ำเสียง แววตา หรือท่าทีขณะที่พูดได้ จึงจำเป็นต้องฝึกตนให้เป็นคนคิดดี
      2. พูดถูกกาลเทศะ

      ไม่ใช่ตลอดเวลาหรอกค่ะ ที่คนเราจะพูดได้ ต้องมีบ้างบางขณะที่เราหยุดพูด เพื่อเป็นผู้ฟังคนอื่นพูดบ้าง

      คนบางคนถูกตั้งข้อสังเกตว่า "ผีเจาะปากมาพูด"

      คือพูด ๆๆๆๆ ฟังไม่เป็น ไม่เปิดโอกาสให้คนอื่นพูด ทำตัวเป็นผู้รู้ไปหมดทุกเรื่อง จึงพูดอยู่ตลอดเวลาคนแบบนี้น่ารำคาญ จริงไหมคะ

      อย่าทำตัวน่ารำคาญ

      ด้วยการพูดจาไม่หยุดไม่หย่อน ไม่ดูวาระและโอกาส คนพูดเป็นจะรู้ว่าโอกาสไหนควรพูด โอกาสไหนควรฟัง และโอกาสไหนควรวางเฉย คนที่รู้จักพูดเขาจะดูสถานที่

      และเลือกวิธีพูดจาให้เหมาะสมกับผู้ฟังและสถานที่

      • ผู้ฟังที่อาวุโสกว่าเรา เราต้องพูดด้วยท่าทีและน้ำเสียงอย่างหนึ่ง
      • เป็นเพื่อนกันก็พูดอย่างหนึ่ง
      • เป็นน้องเป็นนุ่งเราก็ต้องพูดอีกแบบหนึ่ง
      • พูดในที่ประชุมจะเหมือนพูดในกลุ่มเพื่อนไม่ได้
      • พูดคุยกับเพื่อนก็อย่าทำตัวน่าเบื่อเหมือนบรรยายวิชาการ

      การปรับตัวหรือพลิกแพลงตามสถานการณ์ที่ต่างกันไปเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเรียนรู้

      หลักการพูดให้ถูกกาลเทศะทำได้ง่าย ๆ คือ

      • ดูว่าเราต้องพูดในหัวข้อไหน
      • เรื่องอะไร
      • พูดที่ไหน
      • ใครฟัง
      • ผู้ฟังกี่คน
      • ฟังกันในที่เปิดเผยหรือในห้องจำกัด
      • พูดสั้นหรือพูดยาว
      • จริงจังหรือกันเอง
      • ใครอ่านสถานการณ์ออก
      • เตรียมตัวพร้อม ก็สามารถพูดจาได้น่าจดจำตามวาระและโอกาสนั้น ๆ ได้เสมอ
      3. พูดมีเนื้อหาสาระ

      ห้ามพูดเรื่อยเปื่อย ไม่ว่าจะคุยกันกับเพื่อน ผู้ร่วมงานพ่อแม่ หรือพูดในที่ประชุมหรือที่สาธารณะ

      ก็ต้องมีเป้าหมายในการพูด พูดอย่างมีสาระ มีขอบเขตชัดเจนว่าต้องการสื่อสารเรื่องอะไร หรือต้องการจะบอกกับผู้ฟังว่าอะไร
      4. พูดจาให้น่าฟัง

      น้ำเสียงที่กังวานแจ่มใส ดังพอประมาณ พูดจาฉะฉานชัดเจน จะดึงดูดความสนใจจากผู้ฟังได้มาก การพูดในบ้างครั้งต้องพูดปากเปล่า แต่บ่อยครั้งก็ต้องพูดผ่านไมโครโฟน

      หากมีโอกาสฝึกฝนเรื่องการใช้เสียงอย่างเหมาะสมทั้งแบบปากเปล่าและผ่านไมโครโฟนได้

      ก็ควรทำ เพราะการพูดผ่านไมโครโฟนนั้น ต้องมีระยะใกล้ไกลระหว่างปากกับไมโครโฟนที่พอเหมาะ เสียงจึงจะชัดเจน ไม่มีเสียงเสียดแทรกจนผู้ฟังรู้สึกไม่สบายหู หรือรำคาญ
      5. พูดให้เกิดความรู้สึกร่วม

      วิธีการง่าย ๆ คือ

      สบตากับผู้ฟังอย่างทั่วถึง ตั้งคำถามในขณะพูดแล้วค่อย ๆ อธิบายเพื่อนำไปสู่คำตอบ สอบถามผู้ฟังบ้างในบางหัวข้อที่ง่าย ๆ หรือเป็นเรื่องของประสบการณ์ เป็นเรื่องของความคิดเห็นที่ไม่ใช่เรื่องซึ่งเมื่อตอบแล้วอาจถูกหรือผิด

      ผู้พูดจำเป็นต้องรู้พื้นภูมิของผู้ฟังบ้าง

      เพื่อพูดในภาษาที่เขาเข้าใจง่าย บางครั้งการพูดด้วยสำเนียงท้องถิ่นก็ทำให้ผู้ฟังรู้สึกดี รู้สึกเป็นกันเอง อย่าพูดไทยผสมกับภาษาต่างประเทศโดยไม่อธิบาย เลือกใช้ภาษาต่างประเทศเท่าที่จำเป็นเท่านั้น

      และยกตัวอย่างที่คาดว่าผู้ฟังน่าจะมีประสบการณ์ร่วม อย่ายกตัวอย่างไกลตัว

      การพูดเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของคนเรา

      เป็นภาพฟ้องอุปนิสัยใจคอ จึงไม่อาจพูดจาเรื่อยเปื่อย ไร้จุดหมาย ไร้การระมัดระวังได้

      • การพูดนำมาซึ่งมิตรและศัตรู แต่ก็นั่นแหละ เราเลือกได้นี่คะว่าจะพูดให้ได้เพื่อน หรือพูดให้ได้ศัตรู

      • การพูดทำให้คนเราดูดีหรือดูแย่ได้ทั้งนั้น อยู่ที่ว่าเราเลือกอะไร

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×