ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic khr] the new family of vongola! (รับสมัครตัวละคร)

    ลำดับตอนที่ #8 : เตรียมตัว... ระวัง... อย่าเพิ่งไป! บอกว่าอย่าเพิ่งไป!

    • อัปเดตล่าสุด 8 ก.ค. 55


    --ทางด้านสึกิกับซายุนะ-
    (mode sayuna)

    “ทำไมฉันต้องมาติดอยู่กับเธอด้วยเนี่ย!”
    ฉันหันไปสบถใส่น้องอีตาโรคจิตที่กำลังนั่งอยู่บนเบาะคนขับ
    “คิดว่าฉันอยากอยู่กับเธอรึไงเล่า!”
    ยัยนั่นค้อนตอบ
    ฉันคาดเข็มขัดแล้วกอดอก 
    ให้ตายสิ ทั้งพี่ทั้งน้อง สวะพอๆกันเลย
    “แล้วนี่ทำไมถึงเป็นเธอที่กำลังนั่งอยู่เบาะคนขับยะ??”
    ฉันพยายามทำเสียงขู่ให้ยายนั่นกลัวและใช้สัมมาคารวะคุย แต่ยัยนั้นก็ดันทำเสียง ซู่ กลับเหมือนงู
    “เพราะว่าฉันไม่ชอบหน้าเธอ ฉันละเกลียดที่สุดเลย พวกผู้หญิงใจง่ายที่ชอบเกาะแกะพี่”
    ยัยนั่นด่ากลับ 

    เย็นไว้...ซายุนะ เย็นไว้..
    ฉันหายใจเข้าแรงๆแล้วหันไปมองหน้าใสๆของยัยนั่น
    “ฉันไม่ชอบเกาะแกะพี่สวะของเธอย่ะ ฉันเกลียดอีตานั่นที่สุด”
    ฉันตอบด้วยเสียงที่เย็นที่สุดเท่าที่จะเป็นได้
    “ไม่จริง อลิซบอกว่าเธอกำลังท้องอยู่”
    -เปรี๊ยะ!!-
    ยัยอลิซนี่มันใครหน้าไหนมากล่าวหา ซายุนะแห่งวาเรียอย่างงี้!
    ยัยนั่นมันต้องตาย..
    ต้องตาย..
    ให้ตายสิ ไอ้การคัดเลือกผู้พิทักษ์นี่มันกำลังจะทำฉันโกรธแทบคลั่งแล้ว..
    “ยัยนั่นโกหกย่ะ และเธอก็โง่มากที่เชื่อฟังยัยบ้านั่น”
    ฉันตอบ
    ยัยสึกิทำหน้าเบ้
    “เธอนั่นแหละที่โกหก ท้องป่องซะขนาดนั้นน่ะ”

    -----เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะๆๆๆ!-----
    ฉันกรี๊ดในสมองอย่างรุนแรงและสบถคำด่าทั้ง52ที่พ่อเคยสอนไว้
    ยัยเด็กแก่แดด! 
    “ฉันไม่อ้วนย่ะ! ยัยเด็กสวะ!”
    ฉันลุกขึ้นอย่างรุนแรงทำให้เข็มขัดขาด แล้วกดหัวยัยเด็กบ้านั่นแรงๆ 
    หัวเหม่งของยัยนั่นกระแทกกับเข่าของตัวเอง เธอกรีดร้องออกมาสุดเสียง
    ฉันปล่อยหัวยัยนั่นแล้วกลัวมานั่งที่ที่นั่งของตัวเองแล้วกอดอก และแล้วเสียงของสวะตัวผู้ก็ดังขึ้น
    “เอาล่ะครับ ขอให้เตรียมตัวออกรถนะครับ เส้นชัยก็คือตัวผมนั่นเองครับ เพราะฉะนั้นใครหาผมเจอก่อนก็ชนะนะครับ”
    ช่างไร้สาระสิ้นดี - -*
    ฉันคิดแล้วหันไปมองยัยเด็กบ้าที่ตอนนี้กำลังครางเบาๆพลางกุมหัวตัวเอง
    มันไม่ใช่ความผิดของเธอนะ ซายุนะ ยัยเด็กนั่นสมควรแล้ว
    ฉันปลอบตัวเองแล้วทำหน้าเย็นชา
    “เอ้า! ยัยเด็กสวะ เธอจะคาดเข็มขัดได้รึยังยะ “
    ฉันพูดในเสียงที่คิดว่าไม่เย็นชาที่สุดแล้ว
    ยัยเด็กนั้นหันมามองฉัน แล้วก็ครางเสียงที่ต่ำกว่าลูกแมวก่อนที่จะหยิบเข็มขัดมาคาดเสียโดยดี

    หึ
    ฉันหัวเราะกับตัวเอง
    ใครกันแน่ที่เก่งกว่าล่ะทีนี้?.

    -ทางด้านแดเนี่ยลและเนโกะ-

    “นี่มัน... อะไรวะเนี่ย?”
    ฉันสบถแล้วจ้องไปที่กองเศษเหล็กล้อเดียวที่อยู่ตรงหน้า
    ฉันแอบเหลียวไปมองแดเนี่ยลเล็กน้อย.... ให้ตายสิ ไอ้เด็กนี่โมเอะชะมัดยาด =.,= 
    นี่ถ้าเกิดว่าไม่ใช่น้องของยัยแอนนา(น่ากลัวเวลาปกป้องน้อง) และลูกของน้าอันย่า(น่ากลัวแต่ก็เท่ห์) และก็ถ้าเกิดว่าอายุเท่าๆกันแล้วล่ะก็ ฉันคงจะเอานายกลับบ้านแน่นอนเลยล่ะ

    “นายปั่นจักรยานเป็นมั้ย?”
    “ไม่เป็นฮับ! เอ้ย ครับ!”
    เปรี้ยงงงงงง!!!!
    โอยยยยย รังสีโมเอะโจมตี 
    “ฮับเนี่ยนะ? นายอายุเท่าไหร่กันเนี่ย?”
    พูดแบบนั้นอีกสิ นายโมเอะมากเลยน้า >////<
    “คือว่า... แค่ติดเวลาอยู่กับพี่น่ะครับ”
    แดเนี่ยลว่าแล้วเกาหัว
    ฉันช่างอิจฉาเธอจังนะแอนนา
    “ฉันแพ้ไม่ได้นะ เข้าใจมั้ย? เพราะฉะนั้นนายจะต้องคิดหาวิธีที่จะปั่นไอ้กองนี้ให้ได้!”
    ฉันสั่งเสียงแข็ง
    เข้าใจมั้ยยะ? นายคิด ส่วนฉันจะนั่งดู
    “คือว่า... ในอีก1นาทีเราจะเริ่มการแข่งขันแล้วนะครับ”
    นายนั่นแย้งในแบบโมเอะๆ
    “งั้นนายก็ต้องรีบคิดไงล่ะ”
    ฉันตอบ
    ให้ตายสิ หัดคิดเอาเองบ้างสิยะ
    “งั้นคนนึงคงจะต้องปั่นไอนั่นล่ะครับ”
    นายนั่นตอบแบบอินโนเซ้น
    นี่นายอายุเท่าไหร่กันยะ! - -*
    “เอาอย่างงี้! ฉันจะปั่นจักรยาน ส่วนนายก็.... เอ่อ... ขี่คอฉันไปก็ได้ “
    ฉันตอบ หลังจากที่รู้ว่านายนั่นร้อยวันพันปีก็คงคิดไม่ออก
    “ค..ครับ!”
    นายนั่นตอบแบบโมเอะ ๆ(จะอธิบายยังไงดีเนี่ยยยยยย)
    “เอาล่ะนะ!”
    ฉันกระโดดขึ้นไปบนไอ้จักรยานเฮ็งซวยแล้วหายใจเข้ายาวๆ
    เอาล่ะ.... ชีวิตเธอกำลังเดิมพันอยู่บนล้อเดียวนี่แล้วล่ะ...เนโกะ.

    ทางด้านโมโมโกะ-มิซาอิ

    ตั้งแต่เล็กๆ.. ฉันก็รักการขึ้นเครื่องบินมาตลอด.. มันช่างมหัศจรรย์เหลือเกิน.. การได้บินอยู่บนฟ้า....
    แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกกลัว(มากๆ)ซะแล้วสิ 
    ฉันคาดเข็มขัดนิรภัยในเบาะผู้ช่วยนักบิน แล้วก็หันไปหาร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆในเบาะนักบิน
    “นายขับเครื่องบินเป็นมั้ย?”
    ฉันถามด้วยเสียงสั่นๆ
    “มันก็คงจะง่ายเหมือนกินถุงเท้านั่นแหละ”
    นายนั่นตอบ
    การกินถุงเท้ามันง่ายงั้นเรหอ =[]=
    “... การกินถุงเท้ามันยากมากเลยนะ”
    ฉันตอบแต่ก็ไม่อยากเถียงอะไร
    “ก็ใช่ไงล่ะ “
    อ๋อ...
    ฉันตรัสรู้แล้วหล่ะนะ ... ว่าทั้งสองคน
    ไม่รู้เรื่องอะไรเลย!
    ฉันสะดุ้งเล็กน้อย
    “งั้นเราก็คงต้องจะต้องหาปุ่มสตาร์ท... ใช่มั้ย?”
    นายนั่นหันมาถาม
    ...
    ถามฉันเรื่องนั้นก็เหมือนถามปลาทองว่าปีที่แล้วปีอะไรน่ะสิ >_<
    (เพราะปลามีความจำได้ถึงแค่3นาที)
    แต่ถึงอย่างงั้นฉันก็ยังพยักหน้า
    “เธอก็ช่วยหาด้วยสิ.. แล้วนี่เป็นอะไรไปล่ะ? นั่งนิ่งเหมือนหุ่นขี้ผึ้งเลย”
    นายนั่นหันมามองฉันแล้วถาม
    ... 
    “ไม่เป็นไร.. ฉ.. ฉันสบายดี.. สบายดีมากๆเลย”
    ฉันโกหกหน้าด้านๆ
    นายนั่นหัวเราะ
    “5555+ ให้ตายสิเธอนี่ตลกจริงๆ “
    นั่นมันคำชมเหรอ?
    “ฉันชื่อ โรคุโด มิซาอิ , และฉันคาดว่าเธอคงจะจำฉันไม่ได้แล้ว”
    ฉันทำหน้างงแล้วคิด ... โรคุโด... มิซาอิ
    ...
    นั่นมันคนของตระกูลโรคุโดนี่นา!!(แหงสิ)
    โรคุโด... มิซาอิ... 
    “ขอโทษนะ ฉันจำไม่ได้ “
    ฉันตอบ
    “ไม่เป็นไรหรอก เอาล่ะ เธอก็ช่วยหาปุ่มสตาร์ทด้วยล่ะนะ”
    เขาบอกแล้วหันไปจ้องที่ผนังข้างหน้า ซึ่งเต็มไปด้วยอะไรต่างๆนาๆ สาธยายเป็นชาติก็ไม่หมด(พูดง่ายๆคือไรท์มันขี้เกียจ?)
    ฉันกวาดตามองแป้นตรงหน้า... รู้สึกได้ถึงหัวใจเต้นเลย...
    ถ้าเกิดว่าเครื่องบินตกลงมาเมื่อไหร่ล่ะก็....
    กรี๊ด!!! แค่คิดก็เสียวบรื๋อ!
    ฉันกวาดตามองไปเรื่อยๆ จนตาสะดุดเข้ากับปุ่มสีแดงอันใหญ่
    ไม่ลองไม่รู้
    ฉันคิด ก่อนที่จะรวบรวมความกล้า แล้วก็กดปุ่มนั่นไปแรงที่สุดเท่าที่จะทำได้
    เครื่องบินส่งเสียง แต็ก แต็ก แต็ก หลังจาหนั้นมันก็พุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วเหนือแสง ฉันกับมิซาอิถูกแรงดันผลักไปนับเบาะนั่งแบบเต็มๆ 
    ลมพัดมาแร็งและเจ็บปวดอย่างกับเฮอริเคน... ไม่มีเวลาที่จะกรี๊ดแล้ว สมองของฉัน มันทำได้แค่สั่งการให้ฉันมองทุกสิ่งทุกอย่าง... มองทุกสิ่งทุกอย่างจบไปกับตา
    กระจกหน้าเครื่องบินแตก.
    เศษกระจกจากไอ้หน้าต่างบ้านั่นบินอย่าวรวดเร็วใส่หน้าของฉันและมิซาอิ ฉันไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว ทั้งหน้าฉันรู้สึกชาไปหมด 
    ชีวิตฉันจะจบแล้วสินะ...
    มันจะจบแล้ว...
    ตึก!
    อยู่ดีๆเครื่องบินก็หยุดอย่างรวดเร็วทำให้ทั้งฉันและมิซาอิเกือบจะพุ่งออกมาจากเบาะที่นั่ง. แต่เพราะเข็มขัดนิรภัย . พวกเราก็ถูกยึดไปในที่เดิม
    “นี่เธอเป็นบ้าอะไรของเธอเนี่ย โมโมโกะ!! นี่เลือดเต็มหน้าแล้วจะรู้มั้ย!ให้ตายสิ “
    เสียงของซึสึยะดังขึ้นผ่านลำโพงที่ถูกติดไว้เหนือหัว .
    ฉันหยุดอยู่กับที่ ช็อค . ค้าง
    “ฉันขอโทษนะ แต่ว่า พวกเธอกดปุ่มสตาร์ท ก่อนที่ฉันจะได้บอกให้เริ่มวิ่ง เพราะฉะนั้นแล้ว... พวกเธอถูกเด้งออกจากการแข่งขัน”
    ซึสึยะสาธยายต่อ
    ฉันนั่งนิ่งไม่ขยับเขยื้อน , ในใจก็สบถด่าตัวเอง

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    writer's talk

    ตอนนี้ไรท์อัพช้ามากกกก
    นี่ไรท์ไม่ได้อัพมากี่เดือนแล้วเนี่ย?
    ต้องขอโทษจริงๆนะคะ >_<
    แต่ว่าตอนนี้ไรท์ปิดเทอมแล้ว ก็จะได้เริ่มอัพเร็วๆได้สักที XD

    ปล. ไรท์เว้นช่วงว่างระหว่างแต่ละส่วนไว้แล้วทำไมพอเข้าไปตรวจดูดันติดกันเป็นพืดเลยล่ะเนี่ย?? -^-
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×