ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic khr] the new family of vongola! (รับสมัครตัวละคร)

    ลำดับตอนที่ #6 : พิธีสืบทอดอลวน คัดเลือกผู้พิทักษ์อลเวง(part1)

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ค. 55


     พิธีสืบทอดอลวน คัดเลือกผู้พิทักษ์อลเวง

     

    ผมหยิบเสื้อสูทสีดำที่วางบทเก้าอี้หนังข้างๆแล้วถอนหายใจเบาๆ

    แม่นะแม่...

    ผมก็ชินกับไอ้นิสัยทำเดี๋ยวนี้ของแม่อยู่เหมือนกันนั่นแหละนะ แต่ไอ้เรื่องพิธีสืบทอดอะไรเนี่ย มันจะไม่เร็วไปหน่อยรึเปล่า?

    ถึงผมจะอยากเป็นรุ่นที่สิบเอ็ดมากขนาดไหน  แต่ว่า.. เร็วขนาดนี้มันทำใจไม่ทันแฮะ ..

    “แอ๊ดดดด”

    เสียงเปิดประตูดังขึ้นครึ่งหนึ่ง ผมรีบหันไปดูแล้วก็เจอกับหัวของสึกิทันที ผมรีบดึงเธอขึ้นมาในห้องแล้วปิดประตูอย่างรุนแรง

    “ยัยตัวแสบ!

    ผมร้องแล้วกดหัวสึกิลง ทำให้เธอครางเสียงแมวออกมา

    “อะไรอีกเล่า? “

    สึกิบ่นแล้วลอดใต้แขนของผมออกไป

    “ก็จดหมายนั่นไงล่ะ!

    ผมรีบบ่น

    “อ๋อ... เรื่องนั้นพี่น่าจะขอบคุณหนูมากกว่านะ”

    ใช้พี่-หนู

    แสดงว่าคุณเธอกำลังอารมณ์ดีสินะ แต่ผมดันไม่อารมณ์ดีด้วย

    “หมายความว่าไง? เรื่องอะไรฉันถึงจะขอบคุณเธอ”

    ผมรีบค้อน

    “ก็เรื่องพิธียังไงล่ะ ถ้าแม่ไม่ช็อคเพราะจดหมายนั่นแล้วจัดพิธีตอนที่สติไม่เต็ม.. นายก็คงไม่มีทางจะได้เป็นรุ่นที่สิบหรอก”

    สึกิเริ่มอารมณ์เสียตาม

    “เธอเสี่ยงเกินไปแล้ว”

    ผมตอบเบาๆ

    “ถ้าหนูไม่เสี่ยง... พี่ก็คงจะหนีออกจากบ้านไปอีกแน่ๆ”

    สึกิตอบแล้วทำตาอ้อนเหมือนแมว

    “ยัยลูกแมวเอ๊ย! เธอน่ะทำเรื่องแล้วรู้มั้ย?”

    ผมตอบกลับแล้วลูบหัวสึกิเบาๆ

    “เรื่อง?”

    “ถ้าฉันได้เป็นบอสวองโกเล่... ฉันก็ต้องย้ายออกไปอยู่ที่ปราศาทวองโกเล่น่ะสิยัยบ๊อง”

    สึกิอึ้งไปสักนิด

    “งั้นหนูก็จะตาม.. จะตามพี่ไป หนูจะสมัครเป็นผู้พิทักษ์!

    คราวนี้เป็นผมที่อึ้งแทน

    “ไม่!!! ไม่เด็ดขาด!

    ผมรีบร้องแล้วเขย่าไหล่สึกิไปๆมาๆ แต่เธอก็ทำตัวดื้อและจ้องผมด้วยแววตากล้าหาญ

    “พี่บังคับหนูไม่ได้!

    สึกิร้องกลับ

    “ทำไมจะไม่ได้! เธอมีธาตุนภานะ! วองโกเล่ไม่ต้องการผู้พิทักษ์นภาอีกคนหรอก!

    สึกิหยุดแล้วคิด

    “งั้นฉันก็จะฝึก! จะฝึกเปลี่ยนธาตุ!  ถ้าอลิซทำได้ทำไมฉันจะทำไม่ได้!

    อลิซ.... แค่คำนั้นก็ทำให้ผมสะดุ้งไปทั้งตัว

     

    อลิซเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจากอเมริกา เธอเป็นสมาชิกในเมเปลิโต้ แฟมิลี่

    เธอเป็นพวกที่จัดได้ในหมู่”สวย” และเป็นดาวโรงเรียนเลยทีเดียว

    ดวงตาของเธอเป็นสีฟ้าใสยิ่งกว่าน้ำทะเล ผมสีทองยาวสยายที่มีกลิ่นเมเปิ้ล .....

    ตอนนั้นผมอยู่ม.2  เป็นเด็กบ้าเบสบอลทั่วๆไป ไม่เคยคิดถึงมาเฟียเลย และนาทีนั้น.. นาทีเดียวที่ผมเห็นเธอ ผมก็รู้ทันทีเลยว่าผมตกหลุมรักเข้าซะแล้ว....

    “พวกเด็กรวย อย่าไปหลงเลยดีกว่า เดี๋ยวจะน้ำตาเช็ดหัวเข่า”

    ไคโตะบอกผม

     “แต่มันก็ไม่แน่นะ”

    ผมตอบ ตาเปล่งประกายไปด้วยความหวังพลางมองไปที่อลิซ

    “โง่- แกมันโง่เฟร้ย”

    นายนั่นร้องแล้วทำหน้าซังกะตาย

    แล้วผมกับอลิซก็กลายเป็นเพื่อนสนิทกัน... แต่ความรู้สึกของผมสำหรับอลิซ ก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปอย่างใด แล้ววันหนึ่ง... มันก็เกิดขึ้น

     

    “อลิซ...”

    ผมเริ่ม

    “มีอะไรเหรอ?”

    เธอตอบกลับ

    “ฉัน.... รักเธอนะ”

    เธอมองผมด้วยสายตาผิดหวัง

    “ฉันก็นึกว่าเธอเป็นเพื่อนที่ไว้ใจได้เสียอีก...”

    เธอจุดไฟขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว และในนาทีนั้นผมก็เห็น... ไฟธาตุสายหมอก เปลี่ยนไปเป็นธาตุอัสนี.. เธอเดินจากไป และทิ้งผมไว้คนเดียว.... ไว้คนเดียวตลอดไป... จนกระทั่งเย็นวันหนึ่งหลังเลิกเรียน.....

    “ซึสึยะ!

    “..... เธอเป็นใคร?”

    ผมรีบถามเด็กผู้หญิงที่ดูๆแล้วท่าทางจะมาจากห้องe

    “ฉันชื่อโกคุเดระ เคียวสึไง! เราเคยเจอกันวันประชุมใหญ่ของวองโกเล่!

    ผมจ้องไปที่เธอก่อนที่จะถอนหายใจ

    “เธอต้องการอะไรจากฉัน?”

    “ฉันต้องการรอยยิ้ม”

    ยัยนี่มันบ้า ผมคิดในใจ

    “หมายความว่ายังไง?”

    เคียวสึหัวเราะคิกคัก

    “ก็หมายความว่า ฉันจะช่วยเยียวยาใจคนอกหักหน้าบูดเป็นตูดเป็ดที่นั่งมองหน้าฉันอยู่นี่ไงล่ะ”

    เธอหัวเราะ

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    เคียวสึเป็นเพื่อนที่ดี  เราเป็นเพื่อนกันมาหลายปี ..

    สึกิบอกผมอยู่เสมอว่าเคียวสึหวังจะแต่งงานกับผมเพื่อฮุบสมบัติ ผมเอาเรื่องนี้ไปบอกเคียวสึ หวังว่าเธอจะหัวเราะแล้วบอกว่า”ฉันไม่ชอบซึสึยะสักหน่อย”แต่เธอกลับสะอึกแล้วก็เดินหนีไปทันที

     

    “ซึสึยะ!

    เสียงเล็กๆขัดกับการเหม่อลอยของผม ผมรีบหันไปดูและเจอกับร่างบางผมสีเทาในชุดสูทที่มีตราวองโกเล่

    “โมโมโกะ”

    ผมเอ่ยชื่อเธอแล้วหันไปทางสึกิ... หายไปแล้ว ช่างเป็นน้องที่....(เว้นไว้)

    “ฉันจะเป็นผู้พิทักษ์นายให้ได้เลยแหละ!

    เธอว่าแล้วหัวเราะ

    “ผ่านการทดสอบให้ได้ก่อนเถอะ”

    ผมหัวเราะตาม แต่แล้วสายตาผมก็ไปเจอกับดวงตาสีแดงเข้มที่กำลังจ้องมาทางผม

    เคียวสึ...

    ผมคิดในใจ ตั้งแต่ที่บ้านแล้วก็ไม่ได้พูดอย่างที่อยากจะพูดเลยนี่นา...

    “ค..เคียว..”

    ผมเริ่มเปิดปาก แต่แล้วก็โดนขัดเสียก่อน

    “ชิ! พวกสวะ”

    เสียงแบบรังเกียจเดียดฉันท์ดังมาจากข้างๆทำให้ผมต้องหันไปดู

    พวกซันซัส...

    “อ่า... คิดถึงฉันทนมาไหวเลยมาหาฉันถึงห้องแต่งตัวล่ะจ๊ะ?”

    ผมทำเสียงเย้ยหยันกลับแล้วโปรยยิ้มแบบที่คิดว่าดูดีที่สุดแล้วใส่ แต่แม่คุณเธอก็ทำหน้าแบบรำคาญ

    “ไอ้สวะ.. แค่ฉันมาร่วมงานก็บุญของนายแล้วล่ะย่ะ”

    “งั้นเหรอ..? งั้น....”

    ผมกำลังจะตอบแต่ก็กลับโดนดีดกระโลหกอย่างรุนแรง(ย้ำ! รุนแรง)

    เพียะ!

    ผมเซหงายหลังกลับไปก่อนที่จะได้สติแล้วรีบกุมหัว

    “นี่เธอจะฆ่าฉันรึไงฮะ!

    ผมตะโกนกลับไป บุคลิกหนุ่มหล่อได้รั่วหายไปหมดแล้ว

    “ถ้าทำได้ก็ดีสิยะ - -*”

    เธอตอบ

    “เธอ.... ซึนสินะ”

    เพียะ!

    ผมหงายกลับไปอีกครั้งเนื่องจากแรงดีดอย่างรุนแรงที่หน้าผากที่เดิม

     

    “ยัยบ้าโรคจิต!

    ผมร้องพลางเอามือกุมหน้าผาก

    “ก็ไม่บ้าเท่านายแล้วกัน”

    เพียะ!

    เธอส่งสายตาที่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนโดนตบในจินตนาการ

    “ว่าแต่ พวกตระกูลเธอน่ะ เกลียดฉันกับพ่อจะตาย แล้วทำไมถึงมาล่ะ?”

    “ก็มากินข้าวฟรี”

    เพียะ!

    ผมโดนตบหงายในจินตนาการอีกรอบ

     

    “ซายุนะ!

    เสียงใสๆดังขึ้น

    ผมรีบหันไปดู ยามาโมโตะ ยูริ...  ยัยตัวแสบนั่น ยัยตัวแสบที่ที่แกล้งผมเป็นงานอดิเรกตั้งแต่อายุ6ขวบ! ยัยตัวแสบที่เอาถังขยะมาเทใส่ห้องผม ยัยตัวแสบที่เอายานวดแก้เคล็ดขัดยอก มาสลับกับยาสีฟันของผม ยัยตัวแสบที่เอาผมของผมมามัดติดกันเป็นปมตอนที่ผมนอนหลับ...

    ยัยตัวแสบนี่.. พูดได้ว่าผมแค้นอย่างมาก

    “ยูริ! ไปกันดีกว่า ไม่อยากเห็นหน้าอีตาโรคจิต คู่หมั้นตัวเองมาหาจากต่างประเทศยังจะมาทำตัวเจ้าชู้อีก”

    เธอบ่นแล้วเดินไปจับมือกับยูริ

    “คู่หมั้นอะไรของเธอ??? ฉันไม่เคยมีสักหน่อย?”

    ผมรีบแย้ง

    ซายุนะทำหน้าไม่พอใจ

    “ก็ยัยหัวทองที่ทำตัวกระแดะๆนั่นไงเล่า!

    เธอตอบ

    “คนที่หน้าเหมือนลิลี่ในโวคาลอยด์ยังไงล่ะ”

    ยูริเสริม

    “เห?? ยัยนั่นน่ะเหรอ?? ลิลี่สวยกว่าเยอะเลยน้า”

    ซายุนะหันไปแย้งเพื่อนสาว

    “ซึสึยะ!! แย่แล้วล่ะ!

    เคียวสึรีบวิ่งเข้ามา

    “ทำไมเหรอ?”

    ผมรีบถามด้วยความวิตก

    “เธอ... เธอคนนั้น ...”

    เธอหอบแฮ่กๆ

    ผมรู้ทันทีว่าเคียวสึหมายถึงใคร...เธอคนนั้น....เธอคนที่ไม่ควรเอ่ยนาม(ประมาณโวลเดอร์มอล์เรอะ? – ไรท์) ....เธอคนนั้นคือ...

    ผมเรียกชื่อออกมาอย่างแผ่วเบา

    อลิซ”

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
    writer's talk
     
    ตอนนี้ไรท์มีคาแรคเตอร์ฟีเวอร์ =^=
    เนื่องจากตัวละครเยอะเกินไปทำให้การจำชื่อมึน
    เพราะฉะนั้นถ้าท่านเห็นชื่อต่อไปนี้
    ยามาโมโตะ อาเมะ 
    ซาวาดะ ซึคุโมะ
    หรือมั่วอะไรไปอีก
    กรุณาทัก เพราะไรท์มึนมากกกกก
    ในตอนนี้ไรท์มาแก้ชื่อแล้วนะคะ จะพยายามไม่ลืมแล้วนะ โอยยยย ฉันล่ะมึนนนนนน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×