ลำดับตอนที่ #9
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ช่วย หรือ โจมตี(100%)
เปรี้ยง!!!!
เสียงอะไรบางอย่างประทะกับน้ำที่พุ่งเข้ามา ฉันลืมตาขึ้นและเห็นดาบสั้นประมาณฟุตนึงหล่นลงมา พร้อมกับที่มีโล่ไฟฟ้ากันกระแสน้ำไว้ไม่ไห้เข้ามา ห๊ะ..ดาบแค่นี้ไหงสร้างโล่ไฟฟ้าได้ใหญ่ขนาดนี้เนี่ย ต่อให้ผู้ใช้เป็นนักเวทย์ก็เถอะพลังแบบนี้ไม่ธรรมดาเลย แต่ว่าดายเล่มนี้มันคุ้นๆเหมือยเคยเห็นที่ไหนว้า... แต่ยังไม่ทันได้คิดวิเคราะห์เสียงหัวเราะก็ดังขึ้น
"ก๊าก ฮ่าๆๆๆๆๆๆ โหย...เล่นสนุกแบบนี้ไม่เรียกอาชูร่าเลยนิ?" ง่ะ นั่นมันยัยขโมยเมื่อตอนกลางวันเรอะ แล้วตัวมันอยู่ไสหว่า ได้ยินแต่เสียงพอฉันมองขึ้นไปข้างบนก็ถึงกับชะงัก เพราะยัยนั่นนั่งอยู่บนกิ่งไม่อย่างสบายใจเฉิบ และท่าทางจะมีอีกคนนึงแต่ดูไม่ออกว่าชาย รึ หญิง เพราะมันเล่นใส่เสื้อคลุมสีขาวมาคลุมไว้ทั้งตัวแถมยังมีฮู้ดปิดหน้าไว้ซะอีก แต่อย่างน้อยก็ยังดูดีกว่าไอ้คาดิอุสแฮะ (เหอๆ)
"จ...จ๊ากกกกกกกกกกกกก"
ตุบ
ทุกสายตาหันมามองต้นเสียงที่ทำให้ก่อเกิดและพบว่า....อาชูร่าหัวทิ่มลงไปกองกับพื้น..ง่า เชื่อเลย "โอ๊ยโหยว แหะๆ ง่า ดันตกต้นไม้ซะนิ ชางเหอะมาจัดการกับภูติน้ำเลยดีกว่านิ"อาชูร่าพูทั้งๆที่เพิ่งตกต้นไม้มาแท้ๆ แต่เจ้าตัวก็ยังยิ้มระลื่นกวนโมโหอยู่ตลอด
"หึ... เด็กกะโปโลอย่างแกคิดเรอะว่าจะทำอะไรข้าได้น่ะ" เจ้าภูติน้ำพูดขึ้นมาอย่างเยาะๆ "นั่นสิๆ อาชูร่าก็ไม่รู้เหมือนกานนิ ว่าจะจัดการได้รึเปล่าแต่ท่าทางน่าหนุกดีนิ"อาชูร่าพูดต่อ เออ จะไหวมั้ยล่ะเนี่ย อยู่บนต้นไม้ยังตกได้ซะอย่างนั้น แต่ว่า ต่อให้เราจะสู้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน ลุกก็ลุกไม่ขึ้น แถม เพราะปล่อยสายฟ้าลูกเมื่อตะกี๊ออกมา เวทเลยหมดเกลี้ยงเลย เหนื่อยชะมัด
"หึๆ เคยได้ยินเหมือนกันว่าหนึ่งในผู้ถูกล่าจะใช้สายฟ้า ก็ดี ขอเก็บทั้งสองตัว(เฮ้ย)เลยแล้วกัน" พูดจบน้ำในแม่น้ำก็พุ่งขึ้นมาอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ใช่ใบมีดน้ำเหมือนที่มันเคยใช้แต่เป็นร่างปลอมแปลง อีกหลายตัวที่ทำจากน้ำ" โห----สุดยอดเลยน่อ งั้นเห็นที่คงต้องโจมตีกันบ้างแล้ว"อาชูร่ายังพูดอย่างอารมณ์ดี พลางเก็บดาบที่ตัวเองโยนลงมาสร้างโล่ไฟฟ้าเมื่อครู่ขึ้น"อาชูร่าผู้ใช้ดาบคู่จะไปแล้วเน้อ" แล้วความเร็วที่ไม่ธรรมดา(รู้สึกจะน้อยกว่าเจ้าหมานั่น)ก็พุ่งเข้าไปที่ร่างแปลงที่ดาหน้าเข้ามา "ระบำอัศนีย์" แล้วสายฟ้าจำนวนมากก็ฟาดลงมา เป็นไปไม่ได้... ไม่ได้รู้สึกถึงการใช้เวทมนต์เลยนี่นา สายฟ้าพวกนี้มันมาจากไหนกัน อาชูร่าที่แม้จะส่งสายฟ้าออกมาทำลายหุ่นไปมากมายก็ยังไม่วายเลิกยิ้ม "ขอแนะนำตัวอีกที เราชื่ออาชูร่า เป็นผู้ใช้ไฟฟ้าและดาบคู่น่อ " แล้วอาชูร่าก็ขว้างดาบตัวเองลงพื้นพลางเอามือประสานกัน
"อ๊ากกกก"เสียงภูติกรีดร้องอย่างโหยหวนบอกให้รู้ถึงความเจ็บปวด เพราะไฟฟ้าที่ช๊อตเข้าร่างกาย อ้อ...ยัยนี่ขว้างดาบลงเพราะแบบนี้เองหรอกเหรอ เพื่อให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านสื่อไฟฟ้าจากการต่อสู้เมื่อกี๊ ไม่อยากเชื่อเลยคนต๊องๆก็เก่งได้แฮะ "!!"จู่ๆไอ้ภูติน้ำก็หยุดกรีดร้องแต่กลับยิ้มอย่างเยือกเย็ก "วะ! อึ้งล่ะสิท่าทางแกจะไม่รู้เลยสินะว่าน้ำที่เป็นตัวนำไฟฟ้าน่ะจะนำก็ต่อเมื่อน้ำมันไม่ใช่น้ำบริสุทธฺเท่านั้น และพวกภูตอย่างข้าแค่เปลี่ยนน้ำให้กลายเป็นน้ำบริสุทธิ์ก็ง่ายนิดเดียว เท่านี้พลังของแกก็ถูกปิดกั้นไประดับนึงแล้ว"มันภูติอย่างเยาะๆ เอ้อ ต่อให้ถูกปิดกั้นไประดับนึงก็เหอะ แต่ยังไงมันก็แค่ระดับเดียวนา ฉันว่ายัยนั่นมันมีลูกเล่นมากกว่านี้อยู่
"โอ๊ยโหยว อาชูร่าเพิ่งรู้นะเนี่ยแล้วแบบนี้จะไปโจมตีได้ยังไงล่ะนิ"ง่ะ..ยัยนี่ไม่รู้เรื่องแบบนี้มาก่อนและไม่รู้แล้วว่าจะโจมตีแบบไหนเรอะ แถมยังยิ้มต่ออีกคนอื่นเค้าเครียดจะตายอยู่แล้วนะยะ "หือ!?"อาชูร่าอุทานออกมาพลางหันหลังไปมองเจ้าเจ้าฮู้ดนั่น (ดูคุณเธอเรียกแต่ละคน -- --)"อ้าวอาคิจังจะสู้เหรอ อะไรกันนิอาชูร่ากำลังสนุกอยู่แท้ๆ "อาชู่ร่าที่เริ่มชักจะโวยวายแต่ใบหน้ายังเปื้อนรอยยิ้มไว้อยู่ "เอาเหอะนิ ในเมื่อเป็นคำสั่งของอาคิจังก็คงต้องทำล่ะนิ"แล้วอาชู่ร่าก็จับฉันขึ้นหลังแล้วกระโดดขึ้นต้นไม้แถวนั้น ส่วนฉันที่ตอนนี้แม้แต่แรงยืนก็ยังไม่มีก็เลยต้องให้เขาจับขึ้นหลังไปก่อน ขณะที่อาชูร่ากำลังจะโหนต้นไม้ไปเข้าเมืองต่อ ก็มีอะไรบางอย่างที่ทำให้ฉันขนลุกซู่ ฉันรีบหันหลังไป แต่ว่าจู่ๆมันก็ดับวูบลง คิดไปเองรึเปล่า ไม่นี่นา นั่นมันจิตสังหารชัดๆ
"เป็นอะไรรึเปล่านิ?"อาชูร่าถามขณะที่เอี้ยวตัวหลบกิ่งไม้ที่ยื่นอยู่ข้างหน้า คงไม่ต้องบอกแล้วว่ามันยังยิ้มอยู่!!! ตั้งแต่มา ไม่เห็นมันเลิกยิ้มซักที่แถมยังกวนโมโหอีกต่างหาก "...."
"อะน่อ...ไม่อยากตอบอาชูร่าก็บังคับไม่ได่อยู่แล้วนิ "อาชูร่าตอบไปอย่างอารมณ์ดี พลางกระโดดไปที่ต้นไม้อีกต้นหนึ่ง ถ้าสังเกตุดูดีๆยัยนี่พาเราเข้าป่าแล้วนะคิดจะทำอะไรเนี่ย?
"ความจริงอาชูร่าก็อยากช่วยนะน่อ แต่ว่าอาชูร่าไม่เก่งเรื่องรักษาคนอื่นนิ อาคิจังยังเก่งกว่าอาชูร่าอีก ปกติคนทำแผลให้อาชูร่าก็คืออาคิจังนี่แหละนิ"อาชูร่าตอบไป
"นี่..คนที่ชื่ออาคินั่น่ะเก่งมากเลยเหรอ?"ฉันถามไป ว้าถามอะไรงี่เง่าอีกแล้วดูยังไงๆก็ท่าทางจะเก่งออก ฉันหลุดปากถามออกมาได้ไงเนี่ย
"เก่งสินิ อาคิจังเค้าเป็นหนึ่งในผู้ควบคุมพลังทั้งสี่นิน่อ"
"!? พลังทั้งสี่?"
"อ้าวไม่รู้หรอกเหรอนิ ทั้งๆที่หนึ่งในพลังนั่นก็อยู่กับตัวเองนี่นะน่อ"อาชูร่าตอบกลับมาเหมือนจะเยาะเย้ยแต่ท่าทางเจ้าตัวจะไม่ตั้งใจเล้ย เพราะมันก็ยังยิ้มอยู่
"งั้นก็อย่ามัวแต่ยิ้ม พลังนั่นคืออะไรบอกมานะ"
"อะจ้า บอกแล้วน่อ พลังนั่นก็เป็นพลังจากอัญมณีอะไรซักอย่างนึงน่อ!!!"อาชูร่าตอบกลับมาอย่างมั่นใจ แต่ ฉันไม่รู้เรื่อง
"เฮ้! อธิบายมาดีๆนะ อย่ามาพูดให้งงเซ่"
"ง่า... อาชูร่าก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงนิ อาชูร่าไม่เก่งเรื่องใช้ห่วงสมองน่อ"คำตอบแสนอารมณ์ดีที่ทำให้คนอื่นปวดหัวกันอย่างเต็มที่จากปากของ หัวขโมย นามอาชูร่า
แล้วจู่ๆอาชูร่าก็หยุดกระโดด ง่า..ซึ่งตอนนี้เราก็อยู่ที่กลางป่าแล้วนะเนี่ย "เอาล่ะน่อเลิกเล่นกันซักทีนิ มาสู้กันดีกว่า"อาชูร่าพูดโพล่งออกมา หือ? จะให้สู้อะไรเนี่ย
"อุ๊บ!!!!"จู่ๆ อาชูร่าก็ซัดเข้าที่หน้าท้องฉันซะเต็มแรง นี่..นี่มันอะไรกันเนี่ย รึว่าที่มันคุยกันเมื่อกี๊ จะจัดการเก็บเราเรอะ เฮ้อ--โง่จริงๆ น่าจะรู้ตัวอยู่แล้ว มีใครที่ไหนเค้าเอาตัวเองมาเสี่ยงตายด้วยเล่า.. แล้วจู่ๆ ภาพทั้งภาพก็ดับวูบไป..
************************************
(((ตอนนี้เราคงต้องเปลี่ยนคนบรรยายซะแล้วน่ะนะ งั้นกุ๊กกูผู้น่ารักคนนี้จะบรรยายต่อเองละกัน)))
"อ้าวนิ หนักไปรึเปล่าน่อ"อาชูร่าพูดอย่างอารมณ์ดี
"ช่างเหอะน่อ นายสองคนที่อยู่ตรงนั้นนิ ออกมาเหอะ"แล้วชายสองคนก็ออกมาจากต้นไม้ใหญ่แถวๆนั้น คนนึงมีผมสีน้ำตาลเข้มตาเป็นสีแดงสดท่าทางแข็งแรง อีกคนนึงเป็นชายที่แม้จะตัวเตี้ยแต่ท่าทางร่างกายก็แข็งแรงไม่แพ้กับชายคนแรก มีผมสี ดำ ดวงตา สีเขียวสด
"ไม่นึกว่าจะจัดการพวกเดียวกันเองอย่างนี้...ก็ดี ไม่ต้องสู้ให้ยาก"ชายคนแรกเอ่ยขึ้น
"แต่ก็น่าตกใจจริงๆที่เเกรู้ว่าพวกเราอยู่แถวนี้ แต่ชมไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก ยังไงเธอก็จะได้ไปยมโลกอยู่แล้ว"ชายผมสีดำพูด
"น่อ...งั้นมาสู้กับอาชูร่าก่อนแล้วกันนิ แล้วค่อยพาอาชูร่าไปยม เง้อ มะยม"คำพูดที่พูดแบบไม่รู้ตัวว่าตัวเองพูดผิดหลุดจากปากของอาชูร่าทันที
แล้วชายทั้งสองก้พุ่งเข้าหาอาชูร่าอย่างรวดเร็ว ชายผมสีน้ำตาลเข้มเงื้อมือขึ้นหมายจะปลิดชีวิตเด้กสาว(มั้ง)ที่อยู่ตรงหน้า
ตูม!!!
ต้นไม้ทีอาชูร่าเคยยืนอยู่ล้มลง ส่วนเจ้าคนที่เคยยืนอยุ่ ตอนนี้ก็เกาะต้นไม้อีกต้นหนึ่ง "เหวยๆ ต๊กกะใจเลยน่อ ถ้าหลบไม่ได้มีหวังแหลกแน่ๆนิ"อาชูร่ายิ้มก่อนจะกระโดหลบการโจมตีรอบที่สอง
เป๊าะ!!
"แว้กกกกกกกกกกกกกก"อาชูร่าร้องลั่นก่อนจะหล่นตุ้บลงพื้นไป ชายสองคนที่เป็นคู่ต่อสู้ได้แต่ตะลึงตาค้าง และคิดว่า"ทำไมตูต้องมาสู้กับคนพรรค์นี้ด้วยฟะ หาคนสติดีๆกว่านี้ไม่ได้เรงไง!! แล้วนั่น ตายรึยังน่ะ?"
"อ..อ๋อย แย่จังน่อดันตกต้นไม้ซะนิ"อาชูร่าพึมพำยิ้มๆก่อนจะปีนต้นไม้ขึ้นมาอีกรอบ(ไม่เข็ด)
"อ้าว นึกว่าตายแล้วซะอีกนะนี่"ชายผมสีน้ำตาลพูดเยาะๆ
"ช่วยไม่ได้นี่น่อ ในเมื่ออาคิจังสั่งให้จัดการพวกลูกกระจ๊อกอาชูร่าก็ต้องทำแหละนิ"เจ้าตัวว่าอย่างอารมณ์ดี ขณะที่อีกฝ่ายเส้นอารมณ์ขาดผึง
"ใครเป็นลูกระจ๊อกวะ! ข้าไม่ได้กระจอกเหมือนเจาเลยกระโดไปกระโดมาจนตกต้นไม้น่ะ"
"กระโดดจนตกต้นไม้? อาชูร่าไม่ได้ตกต้นไม้นะน่อ กิ่งไม้มันหักต่างหากนิ"แล้วเจ้าตัวดีก็โบ้ยความผิดให้กับกิ่งไม้"อีกอย่าง พวกนายก็กระจอกอยู่แล้วไม่ใช่เหรอนิ?"คำถามยั่งประสาทที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว แต่ทำให้เส้นอารมณ์คนอื่นขาดผึงหลุดออกมา
"แก๊!!! งั้นก็มาลองดูกันว่าใครจะกระจอกกว่ากัน เฮ้ยคาโอสจับยัยนี่ไว้"ชายผมสีน้ำตาลสั่งเสียงเฉียบ
"ด..ได้"ชายผมสีดำที่มีนามว่า คาโอสตอบกลับมาอย่างตกใจ แต่เจ้าตัวก็ตั้งสติไว้ได้ และพุ่งไปล็อกแขนเจ้าตัวดี
"อะจึ๋ย! เล่นขี้โกงนิ จับไว้แบบนี้แล้วอาชูร่าจะหลบได้ไงนิ"เจ้าตัวโวยวาย แต่ท่าทางกับหน้าตามันคนละเรื่อง -- --"
" หนวกหู(เว้ย) ถ้าไม่ทำอย่างงี้แกก็หลบได้สิวะ ถ้าแกไม่กระจอกก็น่าจะไม่ถูกจับหรอก"ชายผมสีน้ำตาลตวาดก่อนจะหันมารวบรวมพลังที่มือ ซึ่งตอนนี้พลังแทบจะล้นออกมา และ"ตายซะ!!!.
ตูม!!!
พลั่ก!!!
เสียงคาโอสที่ตอนนี้ล้มลงบนต้นไม้เนื่องจากถูกพลังเข้าไปเต็มๆ ส่วนเจ้าคนที่ควรจะถูกพลังจริงๆก็เอามีดจ่อคอหอยชายผมสีน้ำตาลอยู่
"น่อ กระจอกจิงๆนิ^๐^ นิน่อไหนๆก็ไหนๆแล้วนิ อาชูร่าขอบถามหน่อย ว่าใครส่งพวกนายมาน่อ"อาชูร่าถามอย่างอารมณ์ดีและแทบจะไม่มีท่าทีอยากฟังคำตอบซักนิด
"เรื่องอะไรจะบอกวะ"ชายผมสีน้ำตาลตวาด แต่.."อาซาฟ.. บอกไปเหอะ ยังไงเราก็ไม่รอดอยู่แล้.. อ่อก"พูดไม่ทันจบ คาโอสก็กระอักเลือดออกมา ก่อนจะสิ้นใจตายทันที "จ๊ากกก คนตายนิ" เพราะความตกใจทำให้อาซาฟปัดดาบที่จอคอตัวเองไว้ได้ และวิ่งหนีไป
"อ้าวนิ หนีแบบนี้แล้วจะทำไงดีละนิ --v--"เจ้าตัวบ่นอย่างอารมณ์ดีเช่นเดิม ก่อนจะหันไปมองคนที่ถูกตัวเองซัดเต็มแรง อาชูร่ายิ้มก่อนจะพูดว่า"เอ้า เอาล่ะนิ คนสุดท้ายแล้วน่อ"
*********************************************
"อาชูร่า.."
"จ๋า?"
"ที่ให้จัดการเป็นยังไงบ้าง?"
"น่อ.. สองคนนั้นเหรอนิ คนแรกถูกพวกเดียวกันสังหาร ไม่รู้ว่าใครเหมือนกันนิ รู้แต่ดาพุ่งมาจากไหนไม่รู้ เสียบคาที่เลย-- --" ส่วนอีกคนนึงหนีไปได้น่อ"อาชูร่ารายงาน
ผัวะ!!
"แว้กกก"คนถูกตบหัวร่วงจากต้นไม้อีกรอบ แต่ยังไม่วายรายงานต่อ "ส่วนนักเวทอีกคนที่อาคิจังให้อาชูร่าจัดการน่ะ เรียบร้อยแล้วน่อ"
แต่แล้ววอาชูร่าก็คว้ากิ่งไม้มารได้กิ่งนึงก่อนจะปีนขึ้นมา"งั้นกลับกันได้ยังนิ อาคิจัง"
"...."
"งั้นกลับเลยนะน่อ"แล้วทั้งสองคนก็เดินจากไป ทิ้งภาพเบื้องหลังไว้
ที่ๆควรจะเป็นชายป่าแม่น้ำ และทราย กลับถูกปกคลุมไปด้วยแท่งน้ำแข็งและหิมะเรื่องที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นในทะเลทราย ที่ไม่เคยมีหิมะตก
**********************************
เย้! ในที่สุดก็อัพเสร็จซักที แล้วมาเมนท์ให้กันหน่อยเน้อ อะบายจ้า
เสียงอะไรบางอย่างประทะกับน้ำที่พุ่งเข้ามา ฉันลืมตาขึ้นและเห็นดาบสั้นประมาณฟุตนึงหล่นลงมา พร้อมกับที่มีโล่ไฟฟ้ากันกระแสน้ำไว้ไม่ไห้เข้ามา ห๊ะ..ดาบแค่นี้ไหงสร้างโล่ไฟฟ้าได้ใหญ่ขนาดนี้เนี่ย ต่อให้ผู้ใช้เป็นนักเวทย์ก็เถอะพลังแบบนี้ไม่ธรรมดาเลย แต่ว่าดายเล่มนี้มันคุ้นๆเหมือยเคยเห็นที่ไหนว้า... แต่ยังไม่ทันได้คิดวิเคราะห์เสียงหัวเราะก็ดังขึ้น
"ก๊าก ฮ่าๆๆๆๆๆๆ โหย...เล่นสนุกแบบนี้ไม่เรียกอาชูร่าเลยนิ?" ง่ะ นั่นมันยัยขโมยเมื่อตอนกลางวันเรอะ แล้วตัวมันอยู่ไสหว่า ได้ยินแต่เสียงพอฉันมองขึ้นไปข้างบนก็ถึงกับชะงัก เพราะยัยนั่นนั่งอยู่บนกิ่งไม่อย่างสบายใจเฉิบ และท่าทางจะมีอีกคนนึงแต่ดูไม่ออกว่าชาย รึ หญิง เพราะมันเล่นใส่เสื้อคลุมสีขาวมาคลุมไว้ทั้งตัวแถมยังมีฮู้ดปิดหน้าไว้ซะอีก แต่อย่างน้อยก็ยังดูดีกว่าไอ้คาดิอุสแฮะ (เหอๆ)
"จ...จ๊ากกกกกกกกกกกกก"
ตุบ
ทุกสายตาหันมามองต้นเสียงที่ทำให้ก่อเกิดและพบว่า....อาชูร่าหัวทิ่มลงไปกองกับพื้น..ง่า เชื่อเลย "โอ๊ยโหยว แหะๆ ง่า ดันตกต้นไม้ซะนิ ชางเหอะมาจัดการกับภูติน้ำเลยดีกว่านิ"อาชูร่าพูทั้งๆที่เพิ่งตกต้นไม้มาแท้ๆ แต่เจ้าตัวก็ยังยิ้มระลื่นกวนโมโหอยู่ตลอด
"หึ... เด็กกะโปโลอย่างแกคิดเรอะว่าจะทำอะไรข้าได้น่ะ" เจ้าภูติน้ำพูดขึ้นมาอย่างเยาะๆ "นั่นสิๆ อาชูร่าก็ไม่รู้เหมือนกานนิ ว่าจะจัดการได้รึเปล่าแต่ท่าทางน่าหนุกดีนิ"อาชูร่าพูดต่อ เออ จะไหวมั้ยล่ะเนี่ย อยู่บนต้นไม้ยังตกได้ซะอย่างนั้น แต่ว่า ต่อให้เราจะสู้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน ลุกก็ลุกไม่ขึ้น แถม เพราะปล่อยสายฟ้าลูกเมื่อตะกี๊ออกมา เวทเลยหมดเกลี้ยงเลย เหนื่อยชะมัด
"หึๆ เคยได้ยินเหมือนกันว่าหนึ่งในผู้ถูกล่าจะใช้สายฟ้า ก็ดี ขอเก็บทั้งสองตัว(เฮ้ย)เลยแล้วกัน" พูดจบน้ำในแม่น้ำก็พุ่งขึ้นมาอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ใช่ใบมีดน้ำเหมือนที่มันเคยใช้แต่เป็นร่างปลอมแปลง อีกหลายตัวที่ทำจากน้ำ" โห----สุดยอดเลยน่อ งั้นเห็นที่คงต้องโจมตีกันบ้างแล้ว"อาชูร่ายังพูดอย่างอารมณ์ดี พลางเก็บดาบที่ตัวเองโยนลงมาสร้างโล่ไฟฟ้าเมื่อครู่ขึ้น"อาชูร่าผู้ใช้ดาบคู่จะไปแล้วเน้อ" แล้วความเร็วที่ไม่ธรรมดา(รู้สึกจะน้อยกว่าเจ้าหมานั่น)ก็พุ่งเข้าไปที่ร่างแปลงที่ดาหน้าเข้ามา "ระบำอัศนีย์" แล้วสายฟ้าจำนวนมากก็ฟาดลงมา เป็นไปไม่ได้... ไม่ได้รู้สึกถึงการใช้เวทมนต์เลยนี่นา สายฟ้าพวกนี้มันมาจากไหนกัน อาชูร่าที่แม้จะส่งสายฟ้าออกมาทำลายหุ่นไปมากมายก็ยังไม่วายเลิกยิ้ม "ขอแนะนำตัวอีกที เราชื่ออาชูร่า เป็นผู้ใช้ไฟฟ้าและดาบคู่น่อ " แล้วอาชูร่าก็ขว้างดาบตัวเองลงพื้นพลางเอามือประสานกัน
"อ๊ากกกก"เสียงภูติกรีดร้องอย่างโหยหวนบอกให้รู้ถึงความเจ็บปวด เพราะไฟฟ้าที่ช๊อตเข้าร่างกาย อ้อ...ยัยนี่ขว้างดาบลงเพราะแบบนี้เองหรอกเหรอ เพื่อให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านสื่อไฟฟ้าจากการต่อสู้เมื่อกี๊ ไม่อยากเชื่อเลยคนต๊องๆก็เก่งได้แฮะ "!!"จู่ๆไอ้ภูติน้ำก็หยุดกรีดร้องแต่กลับยิ้มอย่างเยือกเย็ก "วะ! อึ้งล่ะสิท่าทางแกจะไม่รู้เลยสินะว่าน้ำที่เป็นตัวนำไฟฟ้าน่ะจะนำก็ต่อเมื่อน้ำมันไม่ใช่น้ำบริสุทธฺเท่านั้น และพวกภูตอย่างข้าแค่เปลี่ยนน้ำให้กลายเป็นน้ำบริสุทธิ์ก็ง่ายนิดเดียว เท่านี้พลังของแกก็ถูกปิดกั้นไประดับนึงแล้ว"มันภูติอย่างเยาะๆ เอ้อ ต่อให้ถูกปิดกั้นไประดับนึงก็เหอะ แต่ยังไงมันก็แค่ระดับเดียวนา ฉันว่ายัยนั่นมันมีลูกเล่นมากกว่านี้อยู่
"โอ๊ยโหยว อาชูร่าเพิ่งรู้นะเนี่ยแล้วแบบนี้จะไปโจมตีได้ยังไงล่ะนิ"ง่ะ..ยัยนี่ไม่รู้เรื่องแบบนี้มาก่อนและไม่รู้แล้วว่าจะโจมตีแบบไหนเรอะ แถมยังยิ้มต่ออีกคนอื่นเค้าเครียดจะตายอยู่แล้วนะยะ "หือ!?"อาชูร่าอุทานออกมาพลางหันหลังไปมองเจ้าเจ้าฮู้ดนั่น (ดูคุณเธอเรียกแต่ละคน -- --)"อ้าวอาคิจังจะสู้เหรอ อะไรกันนิอาชูร่ากำลังสนุกอยู่แท้ๆ "อาชู่ร่าที่เริ่มชักจะโวยวายแต่ใบหน้ายังเปื้อนรอยยิ้มไว้อยู่ "เอาเหอะนิ ในเมื่อเป็นคำสั่งของอาคิจังก็คงต้องทำล่ะนิ"แล้วอาชู่ร่าก็จับฉันขึ้นหลังแล้วกระโดดขึ้นต้นไม้แถวนั้น ส่วนฉันที่ตอนนี้แม้แต่แรงยืนก็ยังไม่มีก็เลยต้องให้เขาจับขึ้นหลังไปก่อน ขณะที่อาชูร่ากำลังจะโหนต้นไม้ไปเข้าเมืองต่อ ก็มีอะไรบางอย่างที่ทำให้ฉันขนลุกซู่ ฉันรีบหันหลังไป แต่ว่าจู่ๆมันก็ดับวูบลง คิดไปเองรึเปล่า ไม่นี่นา นั่นมันจิตสังหารชัดๆ
"เป็นอะไรรึเปล่านิ?"อาชูร่าถามขณะที่เอี้ยวตัวหลบกิ่งไม้ที่ยื่นอยู่ข้างหน้า คงไม่ต้องบอกแล้วว่ามันยังยิ้มอยู่!!! ตั้งแต่มา ไม่เห็นมันเลิกยิ้มซักที่แถมยังกวนโมโหอีกต่างหาก "...."
"อะน่อ...ไม่อยากตอบอาชูร่าก็บังคับไม่ได่อยู่แล้วนิ "อาชูร่าตอบไปอย่างอารมณ์ดี พลางกระโดดไปที่ต้นไม้อีกต้นหนึ่ง ถ้าสังเกตุดูดีๆยัยนี่พาเราเข้าป่าแล้วนะคิดจะทำอะไรเนี่ย?
"ความจริงอาชูร่าก็อยากช่วยนะน่อ แต่ว่าอาชูร่าไม่เก่งเรื่องรักษาคนอื่นนิ อาคิจังยังเก่งกว่าอาชูร่าอีก ปกติคนทำแผลให้อาชูร่าก็คืออาคิจังนี่แหละนิ"อาชูร่าตอบไป
"นี่..คนที่ชื่ออาคินั่น่ะเก่งมากเลยเหรอ?"ฉันถามไป ว้าถามอะไรงี่เง่าอีกแล้วดูยังไงๆก็ท่าทางจะเก่งออก ฉันหลุดปากถามออกมาได้ไงเนี่ย
"เก่งสินิ อาคิจังเค้าเป็นหนึ่งในผู้ควบคุมพลังทั้งสี่นิน่อ"
"!? พลังทั้งสี่?"
"อ้าวไม่รู้หรอกเหรอนิ ทั้งๆที่หนึ่งในพลังนั่นก็อยู่กับตัวเองนี่นะน่อ"อาชูร่าตอบกลับมาเหมือนจะเยาะเย้ยแต่ท่าทางเจ้าตัวจะไม่ตั้งใจเล้ย เพราะมันก็ยังยิ้มอยู่
"งั้นก็อย่ามัวแต่ยิ้ม พลังนั่นคืออะไรบอกมานะ"
"อะจ้า บอกแล้วน่อ พลังนั่นก็เป็นพลังจากอัญมณีอะไรซักอย่างนึงน่อ!!!"อาชูร่าตอบกลับมาอย่างมั่นใจ แต่ ฉันไม่รู้เรื่อง
"เฮ้! อธิบายมาดีๆนะ อย่ามาพูดให้งงเซ่"
"ง่า... อาชูร่าก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงนิ อาชูร่าไม่เก่งเรื่องใช้ห่วงสมองน่อ"คำตอบแสนอารมณ์ดีที่ทำให้คนอื่นปวดหัวกันอย่างเต็มที่จากปากของ หัวขโมย นามอาชูร่า
แล้วจู่ๆอาชูร่าก็หยุดกระโดด ง่า..ซึ่งตอนนี้เราก็อยู่ที่กลางป่าแล้วนะเนี่ย "เอาล่ะน่อเลิกเล่นกันซักทีนิ มาสู้กันดีกว่า"อาชูร่าพูดโพล่งออกมา หือ? จะให้สู้อะไรเนี่ย
"อุ๊บ!!!!"จู่ๆ อาชูร่าก็ซัดเข้าที่หน้าท้องฉันซะเต็มแรง นี่..นี่มันอะไรกันเนี่ย รึว่าที่มันคุยกันเมื่อกี๊ จะจัดการเก็บเราเรอะ เฮ้อ--โง่จริงๆ น่าจะรู้ตัวอยู่แล้ว มีใครที่ไหนเค้าเอาตัวเองมาเสี่ยงตายด้วยเล่า.. แล้วจู่ๆ ภาพทั้งภาพก็ดับวูบไป..
************************************
(((ตอนนี้เราคงต้องเปลี่ยนคนบรรยายซะแล้วน่ะนะ งั้นกุ๊กกูผู้น่ารักคนนี้จะบรรยายต่อเองละกัน)))
"อ้าวนิ หนักไปรึเปล่าน่อ"อาชูร่าพูดอย่างอารมณ์ดี
"ช่างเหอะน่อ นายสองคนที่อยู่ตรงนั้นนิ ออกมาเหอะ"แล้วชายสองคนก็ออกมาจากต้นไม้ใหญ่แถวๆนั้น คนนึงมีผมสีน้ำตาลเข้มตาเป็นสีแดงสดท่าทางแข็งแรง อีกคนนึงเป็นชายที่แม้จะตัวเตี้ยแต่ท่าทางร่างกายก็แข็งแรงไม่แพ้กับชายคนแรก มีผมสี ดำ ดวงตา สีเขียวสด
"ไม่นึกว่าจะจัดการพวกเดียวกันเองอย่างนี้...ก็ดี ไม่ต้องสู้ให้ยาก"ชายคนแรกเอ่ยขึ้น
"แต่ก็น่าตกใจจริงๆที่เเกรู้ว่าพวกเราอยู่แถวนี้ แต่ชมไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก ยังไงเธอก็จะได้ไปยมโลกอยู่แล้ว"ชายผมสีดำพูด
"น่อ...งั้นมาสู้กับอาชูร่าก่อนแล้วกันนิ แล้วค่อยพาอาชูร่าไปยม เง้อ มะยม"คำพูดที่พูดแบบไม่รู้ตัวว่าตัวเองพูดผิดหลุดจากปากของอาชูร่าทันที
แล้วชายทั้งสองก้พุ่งเข้าหาอาชูร่าอย่างรวดเร็ว ชายผมสีน้ำตาลเข้มเงื้อมือขึ้นหมายจะปลิดชีวิตเด้กสาว(มั้ง)ที่อยู่ตรงหน้า
ตูม!!!
ต้นไม้ทีอาชูร่าเคยยืนอยู่ล้มลง ส่วนเจ้าคนที่เคยยืนอยุ่ ตอนนี้ก็เกาะต้นไม้อีกต้นหนึ่ง "เหวยๆ ต๊กกะใจเลยน่อ ถ้าหลบไม่ได้มีหวังแหลกแน่ๆนิ"อาชูร่ายิ้มก่อนจะกระโดหลบการโจมตีรอบที่สอง
เป๊าะ!!
"แว้กกกกกกกกกกกกกก"อาชูร่าร้องลั่นก่อนจะหล่นตุ้บลงพื้นไป ชายสองคนที่เป็นคู่ต่อสู้ได้แต่ตะลึงตาค้าง และคิดว่า"ทำไมตูต้องมาสู้กับคนพรรค์นี้ด้วยฟะ หาคนสติดีๆกว่านี้ไม่ได้เรงไง!! แล้วนั่น ตายรึยังน่ะ?"
"อ..อ๋อย แย่จังน่อดันตกต้นไม้ซะนิ"อาชูร่าพึมพำยิ้มๆก่อนจะปีนต้นไม้ขึ้นมาอีกรอบ(ไม่เข็ด)
"อ้าว นึกว่าตายแล้วซะอีกนะนี่"ชายผมสีน้ำตาลพูดเยาะๆ
"ช่วยไม่ได้นี่น่อ ในเมื่ออาคิจังสั่งให้จัดการพวกลูกกระจ๊อกอาชูร่าก็ต้องทำแหละนิ"เจ้าตัวว่าอย่างอารมณ์ดี ขณะที่อีกฝ่ายเส้นอารมณ์ขาดผึง
"ใครเป็นลูกระจ๊อกวะ! ข้าไม่ได้กระจอกเหมือนเจาเลยกระโดไปกระโดมาจนตกต้นไม้น่ะ"
"กระโดดจนตกต้นไม้? อาชูร่าไม่ได้ตกต้นไม้นะน่อ กิ่งไม้มันหักต่างหากนิ"แล้วเจ้าตัวดีก็โบ้ยความผิดให้กับกิ่งไม้"อีกอย่าง พวกนายก็กระจอกอยู่แล้วไม่ใช่เหรอนิ?"คำถามยั่งประสาทที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว แต่ทำให้เส้นอารมณ์คนอื่นขาดผึงหลุดออกมา
"แก๊!!! งั้นก็มาลองดูกันว่าใครจะกระจอกกว่ากัน เฮ้ยคาโอสจับยัยนี่ไว้"ชายผมสีน้ำตาลสั่งเสียงเฉียบ
"ด..ได้"ชายผมสีดำที่มีนามว่า คาโอสตอบกลับมาอย่างตกใจ แต่เจ้าตัวก็ตั้งสติไว้ได้ และพุ่งไปล็อกแขนเจ้าตัวดี
"อะจึ๋ย! เล่นขี้โกงนิ จับไว้แบบนี้แล้วอาชูร่าจะหลบได้ไงนิ"เจ้าตัวโวยวาย แต่ท่าทางกับหน้าตามันคนละเรื่อง -- --"
" หนวกหู(เว้ย) ถ้าไม่ทำอย่างงี้แกก็หลบได้สิวะ ถ้าแกไม่กระจอกก็น่าจะไม่ถูกจับหรอก"ชายผมสีน้ำตาลตวาดก่อนจะหันมารวบรวมพลังที่มือ ซึ่งตอนนี้พลังแทบจะล้นออกมา และ"ตายซะ!!!.
ตูม!!!
พลั่ก!!!
เสียงคาโอสที่ตอนนี้ล้มลงบนต้นไม้เนื่องจากถูกพลังเข้าไปเต็มๆ ส่วนเจ้าคนที่ควรจะถูกพลังจริงๆก็เอามีดจ่อคอหอยชายผมสีน้ำตาลอยู่
"น่อ กระจอกจิงๆนิ^๐^ นิน่อไหนๆก็ไหนๆแล้วนิ อาชูร่าขอบถามหน่อย ว่าใครส่งพวกนายมาน่อ"อาชูร่าถามอย่างอารมณ์ดีและแทบจะไม่มีท่าทีอยากฟังคำตอบซักนิด
"เรื่องอะไรจะบอกวะ"ชายผมสีน้ำตาลตวาด แต่.."อาซาฟ.. บอกไปเหอะ ยังไงเราก็ไม่รอดอยู่แล้.. อ่อก"พูดไม่ทันจบ คาโอสก็กระอักเลือดออกมา ก่อนจะสิ้นใจตายทันที "จ๊ากกก คนตายนิ" เพราะความตกใจทำให้อาซาฟปัดดาบที่จอคอตัวเองไว้ได้ และวิ่งหนีไป
"อ้าวนิ หนีแบบนี้แล้วจะทำไงดีละนิ --v--"เจ้าตัวบ่นอย่างอารมณ์ดีเช่นเดิม ก่อนจะหันไปมองคนที่ถูกตัวเองซัดเต็มแรง อาชูร่ายิ้มก่อนจะพูดว่า"เอ้า เอาล่ะนิ คนสุดท้ายแล้วน่อ"
*********************************************
"อาชูร่า.."
"จ๋า?"
"ที่ให้จัดการเป็นยังไงบ้าง?"
"น่อ.. สองคนนั้นเหรอนิ คนแรกถูกพวกเดียวกันสังหาร ไม่รู้ว่าใครเหมือนกันนิ รู้แต่ดาพุ่งมาจากไหนไม่รู้ เสียบคาที่เลย-- --" ส่วนอีกคนนึงหนีไปได้น่อ"อาชูร่ารายงาน
ผัวะ!!
"แว้กกก"คนถูกตบหัวร่วงจากต้นไม้อีกรอบ แต่ยังไม่วายรายงานต่อ "ส่วนนักเวทอีกคนที่อาคิจังให้อาชูร่าจัดการน่ะ เรียบร้อยแล้วน่อ"
แต่แล้ววอาชูร่าก็คว้ากิ่งไม้มารได้กิ่งนึงก่อนจะปีนขึ้นมา"งั้นกลับกันได้ยังนิ อาคิจัง"
"...."
"งั้นกลับเลยนะน่อ"แล้วทั้งสองคนก็เดินจากไป ทิ้งภาพเบื้องหลังไว้
ที่ๆควรจะเป็นชายป่าแม่น้ำ และทราย กลับถูกปกคลุมไปด้วยแท่งน้ำแข็งและหิมะเรื่องที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นในทะเลทราย ที่ไม่เคยมีหิมะตก
**********************************
เย้! ในที่สุดก็อัพเสร็จซักที แล้วมาเมนท์ให้กันหน่อยเน้อ อะบายจ้า
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น