คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เพื่อนร่วมการเดินทาง
สวัสดีคร้าบ----ทุกคน กระผมคูล ลูกครึ่งอสูรที่แสนน่ารักครับ เมื่อวานนี้จู่ๆก็ไปเจอเด็กผู้หญิงท่าทางแปลกๆแถมใช้เวทมนต์เป็นหน้าตาก็น่ารักดีหรอก แต่นิสัยนี่สิครับ อารมณ์ร้ายสุดๆไปเลย เมื่อวานก็โดนไปหลายโป๊ก แล้วก็...
"ไอ้คูล นายกำลังนินทาฉันอยู่ใช่รึเปล่า?"แววตาอาฆาตร้ายแรงและพยาบาทสีแดงเพลิงของเธอจ้องมาตรงๆ นี่แหละคร้าบสาวน้อยผู้(ไม่)บอบบาง แถมอารมณ์ร้ายที่ผมเพิ่งเจอเมื่อวาน ผู้มีนามว่าแฟรี่(สัญชาตญาณก็ดีซะด้วย)
"ง่า...."
"ก็สวยสิ(วะ) ตาย!!!"
"เหวอออ"ผมร้องก่อนจะตั้งรับ แต่สายไปเสียแล้วเพราะตอนนี้เธอกำลังอัดผมจะแย่อยู่แล้วครับ
*******************
ถึงจะบอกว่าเป็นผู้หญิงก็เถอะ แต่ทั้งอารมณ์ที่ขึ้นๆลงๆ บวกกับ ความสามารถในการต่อสู้ที่เหมือนโดนฝึกมาดีก็เล่นเอาผมน่วม ผมคิดพลางเอามือคลำแก้ม
"สำออย"เธอบอก ก่อนจะทำแผลให้ตัวเอง
"ฉันถือคติไม่ทำร้ายผู้หญิงต่างหาก"ผมโต้ ก่อนจะเอาลิ้นเลียแผลที่ข้อศอก
"โม้"เธอโต้ ก่อนจะกระโดนลงมาจากต้นไม้ นอกจากจะเก่งแล้วยังตัวเบาอีกแน่ะ
"ยื่นแขนมา"
"??"
"บอกให้ยื่นก็ยื่นมาเซ่!!"เธอบอกอย่างหัวเสีย(แต่ไม่เสียหัว)
"ค..คร้าบ"ผมทำตามอย่างเลี่ยงไม่ได้ นึกสงสัยว่าเธอจะทำอะไรกับผมอีก จึงส่งสายตาไม่ไว้ใจไป
"ไม่ไว้ใจขนาดนั้นเลยเหรอ?"เธอถามเสียงดุๆ
"เปล่า..มั้ง"ผมตอบ ก่อนจะโดนข้อศอกของเธอโดนเต็มๆกลางศรีษะ
"ฉันจะมาช่วยทำแผลให้ต่างหาก"เธอจับข้อมือผม ก่อนจะบีบแรงๆ
"โอ๊ย"เธอบีบผมอย่างแรงจนทำให้ผมต้องร้องขึ้นมา แฟรี่ช้อนสายตาขึ้นมามอง ก่อนจะถาม"แผลหายแล้วจะร้องทำบ้าอะไร"
"??"ผมถึงกับงงก่อนจะยกแขนซ้ายขึ้น ปล่อยให้เธอจับแขนขวาผมไว้ แผลที่โดนข่วน ชก เตะ หมัด หายไปเกลี้ยง
"เก่งนะเนี่ย"ผมเปรยขณะยกแขนตัวเองขึ้นมามอง เธอหันกลับมามองผม ตาสีแดงกับผมสีดำของเธอถ้าดูตอนนี้เธอก็น่ารักไม่เลว
"มันแหงงอยู่แล้ว ตาบ้า"เธอตอบ ซึ่งทำให้ผมถึงกับหน้าเบ้ ความชื่นชมที่มีอยู่ตะกี๊หายไปสิ้น
"เดี๋ยวๆยังไม่เสร็จ"เธอบอกตอนที่ผมกำลังจะชักแขนซ้ายกลับ
"ทำไม? ก็แผลหายแล้ว"ผมถามทำหน้างงๆ ก่อนจะกลับมาเครียดทันที เพราะสีหน้าตอนนี้เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์
"เจ้าแห่งศาสตร์เวทมนต์ ณ บัดนี้ ข้าขอกระทำการ..."ขณะที่เธอกำลังร่ายเวทย์ รอบๆตัวพวกผมก็เริ่มมืดลงจนน่าตกใจ ทั้งๆที่เป็นตอนสี่โมงเช้า??
"ผนึกไว้....ด้วยเหตุ..."ตาของผมเริ่มจะปิดแม้จะพยายามฝืนไว้ "เริ่มการผนึก" เธอจับแขนขวาของผมไว้ให้กระชับก่อนจะเริ่มร่ายเวทย์ วงแหวนเวทย์สีขาวสว่างปรากฏขึ้นก่อนจะวิ่งเข้าสู่แขนขวาของผม แล้วลามขึ้นมาถึงหน้าอกแล้วแสงสีขาวก็จ้าขึ้นอีกครั้งแล้วดับไป ผมทนไม่ไหว ไม่ฝืนมันแล้วโว้ยยย หลับดีกว่า แล้วทุกอย่างก็กลับมาอยู่สภาพเดิมอีกครั้ง แสงสว่างกลับมาที่เดิม เหมือก่อนที่แฟรี่จะร่ายเวทย์
แฟรี่จับผมนอนอลง พอหัวถึงพื้นผมก็หลับทันที เธอยิ้มสายตาเจ้าเลห์ ดวงตาสีแดงสั่นระริกด้วยความขบขัน
"โทษฉันไม่ได้นะ นายไว้ใจคนอื่นมากเกินไป..."
**********************
หลงนึกว่าจะเป็นคนดีที่ไหนได้... โว้ยยยเสียรู้จนได้ ผมย่ำเท้าหนักๆด้วยความโมโห เมื่อพบว่าตื่นขึ้นมาก็มีรอยสักแปลกๆตั้งแต่แขนซ้ายลามไปจนถึงหน้าอก พอผมถามเธอ เธอก็บอกว่า มันเป็นพันธสัญญาอสูรรับใช้กับนายบ่าว อ๊ากกกก ม่ายยยย นี่มันอะไรกันเนี่ย แถมยังเสริมไว้อีกว่า ถ้าเกิดอสูรรับใช้ทำร้ายนายบ่าวสายฟ้าก็จะผ่าใส่ผมทันที รับไม่ได้อย่างรุนแรงจริงๆ
"ทำหน้าอย่างนั้นคิดจะหาเรื่องกันเหรอ"แฟรี่หันมาถาม (ใครกันแน่ฟะ)
"....ฉันหาเรื่องเธอได้เหรอ"ผมโต้กลับอย่างเนือยๆ สายตาบอกว่าเบื่อสุดๆ
"โกรธเหรอ...?"
"แล้วคิดว่ายังไงเล่า?".
"นายคิดว่าฉันจะจับนายมาเป็นอสูรรับใช้ โดยไม่มีเหตุผลงั้นสิ?"เธอพูดอย่างเคืองๆ
"ก็คิดอย่างงั้นแหละ.."ผมพึมพำให้เธอไม่ได้ยิน แต่ก็นั่นแหละ ดูเหมือนว่าแฟรี่คงจะมีหูเรดาร์เธอถึงได้เริ่มอธิบายชนิดยาวเหยียดให้ผมฟัง
"ไม่ได้คิดจะบังคับหรอกนะ แต่ว่าฉันกับนายยังอยู่ในป่าบ้านี่อยู่เลย แล้วฉันก็เป็นพวกหลงทางง่าย นายเป็นลูกครึ่ง...นั่นแหละ น่าจะรู้ทิศมากกว่าฉัน แต่ฉันไม่รู้ว่านายจะแอบหนีไปเมื่อไหร่นี่ ขืนเป็นอย่างนั้นฉํนก็แย่ใช่ไมล่ะ? ที่สำคัญ...."แฟรี่ทำท่าจะพูดต่อแต่จู่ๆก็เงียบแล้วหันหลังเดินนำหน้าต่อไป
"ที่สำคัญ.... อะไรเหรอ?"ผมถาม เริ่มชักจะสนใจ แฟรี่หันมาจ้องหน่าผมตรงๆ ดวงตาสีแดงของเธอถ้ามองเผินๆก็ดูจะเป็นคนกล้า แต่พอมองลึกๆลงไปมันก็มีแต่ความโดเดี่ยว อ้างว้างและเหงาเท่านั้นเอง...
"คูล....."เธอเรียกชื่อผมเบาๆ แต่ก็ทำเอาผมตื่นจากภวังค์
"อ...อะไร?"ผมถาม ตั้งท่าตั้งรับแบบอัตโนมัติ
"ขอโทษ"เธอพูด เป็นคำพูดที่เรียบง่าย แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะมาจากปากของแม่มดอารมณ์ร้ายที่ผมเพิ่งจะเจอ
"เอ่อ..ตะกี๊พูดว่าอะไรนะ?"ผมถามเพื่อความแน่ใจ
เปรี้ยง!!!!
ฟ้าผ่าลงมาตรงหน้าผม ทั้งๆที่อากาศออกจะดีแต่ผมรู้สึกว่าบรรยากาศรอบผมเย็นยะเยือก สายตาของแฟรี่ในตอนนี้บ่งบอกว่าเปลี่ยนอารมณ์ไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะตามมาด้วยหมัดหนักๆของเธอ
******************
"แฟรี่คร้าบ"
"อะไร?"
"คือว่า... ไอ้รอยสักตั้งแต่แขนถึงอกของผมนี่คืออะไรเหรอคร้าบ---"ผมถามลากเสียงยาวๆ เพราะเธอยังไม่ได้อธิบายว่าทำไมผมต้องมีรอยสักไว้ตามตัวด้วยแม้จะเป็นพันธสัญญาก็เถอะ
".... ก็ ไม่สำคัญหรอก มันเป็นแค่เครื่องหมายพันธสัญญาของเจ้านายกับอสูรรับใช้เท่านั้นแหละน่า"เธอเว้นช่วงก่อนจะพูดต่อ "มันเอาไว้บอกว่าอีกนานเท่าไหร่นายกับฉันถึงจะได้จบพันธสัญญาไง" คำอธิบายของเธอทำเอาผมหน้าเบ้ จะอะไรซะอีกในเมื่อรอยสักพวกนี้น้อยซะเมื่อไหร่ ก่อนจะจบพันธสัญญา ผมคงเดี้ยงไปก่อนแน่ๆ และดูเหมือนว่าเธอจะเข้าใจสีหน้าของผม(หน้าตาคงอุบาทว์ไปหน่อย) เธอจึงโยนแอ๊ปเปิ้ลมา
ให้ "กินซะเถอะ ไม่งั้นนายได้เดี้ยงแน่ๆ"เธอพูดก่อนจะกัดแอ๊ปเปิ้ลอีกลูกดังกร้วม ผู้หญิงอาไร้ไม่เป็นกุลสตรีเอาซะเลย
"แล้วเธอกะจะไม่อาบน้ำเลยรึไง?"ผมถาม เพราะตั้งแต่เจอกันผมไม่เคยเห็นเธออาบน้ำเลย เธอจ้องหน้าผมตรงๆ สายตาของเธอบอกว่า"นายเป็นพ่อฉันเหรอ?" แต่อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้พูดแหละ
"อาบแล้ว"เธอพูดสั้นๆ แต่เล่นเอาผมสำลักแอ๊ปเปิ้ล
เธอจ้องผมโกรธๆ ความจริงก็คือตั้งแต่ที่ผมรู้จักแฟรี่ ผมก็ได้ตระหนักว่าเธอนี่แหละผู้ที่สามารถมีความแค้นดวยปลา(อาหาร)ได้อย่างนาสยดสยอง
"นายคิดว่าฉันจะอาบให้ฉันดูรึไง ไอ้เจ้าหมาเบ๊อะเอ๊ย ฉันทำได้ก็แล้วกันน่า แล้วดูสิเรื่องแค่นี้ดันสำลักแอ๊ปเปิ้ล เสียดายของ"
"ฉ..ฉัน...ป..เป็น คนหา..ม.มาเองนะ"ผมพูดตะกุกตะกักเพราะแอ๊ปเปิ้ล
"อย่าเถียง(เฟ้ย)"แล้วเธอกับผมก็ตะลุมบอลกันอีก ถ้าพูดง่ายคือเธอพยายามจะต่อยผม ในขณะที่ผมต้องพยายามหลบเพราะสายฟ้ามากฤทธิ์ของเธอ
*******************
เรียกได้ว่าเป็นการเดินทางที่พิลึกที่สุดเท่าที่ผมเคยมีมา เริ่มตั้งแต่ รอยสักที่มีอักษรเวทมนต์(ตามที่แฟรี่บอกไว้)มันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแทนที่จะลดลง ทั้งๆที่ผมพยายามเอาใจเธอขนาดนี้แล้ว แต่ยิ่งทำดูเหมือนว่ามันจะยิ่งเพิ่ม จนเมื่อไม่นานมานี้ผมได้เข้าไปถาม(โวย)กับเธอว่า ท้งๆที่ผมทำดีขนาดนั้นแล้วแท้ๆ ทำไมรอยสักมันถึงได้เพิ่มเอาๆ แต่เธอหัวเราะแล้วตอบว่า
"ตราบใดที่นายยังไม่เข้าใจความหมายของคำว่าจริงใจ นายก็คงจะไม่มีวันหลุดจากพันธสัญญานายบ่าวหรอก" พอผมถามต่อว่าทำไมเธอก็ยิ้ม แล้วตอบว่า"ใจเขาใจเรา ฉันก็ตอยให้นายไม่ได้เหมือนกัน อุปนิสัยและความจริงใจเป็นเรื่องส่วนบุคคลไม่ใช่เรื่องที่สามารถบังคับกันได้ ตราบใดที่นายไม่นึกถึงข้อนี้นายก็อยู่กับฉันไปตลอดแล้วกัน" เป็นคำตอบยาวๆที่ผมไม่เข้าใจถึงได้กลับไปนั่งคิดนอนคิดตั้งหลายคืน แฟรี่เห็นผมเป็นอย่างนี้เลยแขวะผม
"เรื่องอะไรที่นายคิดไม่ได้ก็ปล่อยมันไปบ้างก็ได้ คิดแล้วหนักหัวเปล่าๆ อีกอย่างสมองเล็กกระจิดริดของนายคงคิดไม่ออกหรอก" ผมแย้งว่าแล้วเพราะใครผมถึงต้องมาคิดหนักอย่างนี้ เธอก็ตอบผมว่า"ทำตามใจคนอื่นได้แต่อย่าให้มันมากนัก ทำตามใจคนอื่นได้แต่อย่าหน้าไหว้หลังหลอก ทำตามใจคนอื่นได้แต่ก็คิดถึงใจตัวเอง ทำตามใจคนอื่นได้แต่ก็ให้มันจริงใจ ใบ้ให้แค่นี้พอรึเปล่า?" ผมทำหน้าเป็นเชิงว่าไม่ไหวก่อนจะบอกว่า "ฉันเอาคติคิดไม่ออกก็อย่าคิดของเธอมาใช้นี่ท่าจะรุ่งนะ หรือว่าไง?"
****************
ความคิดเห็น