คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : GHOSTBOY 1 st
GHOST BOY 1st
- NICE TO MEET YOU –
“คุณ..คุณ ตื่นขึ้นมาสิ”
“เพิ่งเจอกันแท้ๆมาหลับใส่กันแบบนี้ได้ยังไงครับ?”
“ผมไม่มีเพื่อนคุย ตื่นขึ้นมาคุยเป็นเพื่อนหน่อยไม่ได้รึไง!”
เสียงทุ้มของร่างหนาที่กำลังพยายามจะปลุกคนที่นอนสลบอย่างไม่ลดละ ถึงแม้มันจะไม่ได้ผลแม้แต่น้อย มือหนาทำท่าจะเขย่าคนตัวบางแต่ก็ต้องหงุดหงิดทุกครั้งไปที่ตนเองไม่สามารถจะจับต้องตัวมนุษย์ได้หรือแม้แต่สิ่งของเครื่องใช้เขาก็ไม่มีทางที่จะจับมันได้เลย จะมีแต่เพียงบางครั้งที่เขาสามารถหยิบจับสิ่งต่างๆได้เหมือนกับคนอื่นทั่วไป แต่นั่นก็ต้องแลกมาด้วยการเสียพลังงานไปพอสมควร เหมือนกับตอนที่ตั้งใจให้ร่างเล็กนั่นหันมาชนเขา แต่ทว่าตอนนี้ทงเฮหมดพลังงานที่จะปลุกคนที่เอาแต่นอนนี่ไปแล้ว..
ที่จริงตัวเขาเองน่าจะชินได้แล้วนะ นี่ก็ผ่านมาสองปีแล้วที่เดินทะลุกำแพง ผนัง หรือแม้กระทั่งประตูหน้าต่างออกไปเดินเล่น มันดีก็ตรงที่ไม่ต้องเสียเวลามารูดคีย์การ์ดเปิดออกไปนี่แหละ
“อืม..” ร่างของคนที่นอนอยู่บนพื้นห้องส่งเสียงอื้ออึงในลำคอพร้อมกับขยับตัวลุกขึ้น
“.......” ทงเฮนั่งลงกับพื้นห้องเหมือนกับคนข้างหน้า ร่างบางมองไปทางด้านซ้ายที่เป็นห้องนอน ก่อนจะหันไปมองด้านขวาที่เป็นห้องครัวเล็กๆ แต่ไม่คิดที่จะมองมาทางด้านหลังที่เขานั่งอยู่เลย นี่ตกลงเขาเห็นผมจริงๆรึเปล่านะ
“คุณ..” ลองเสี่ยงเรียกดูว่าคุณที่เขาว่านี่จะได้ยินหรือเปล่า และก็ต้องยิ้มกว้างเมื่อหลังเล็กทำท่าค่อยๆหันกลับมา
“เฮือก!!!” คนตัวเล็กทำท่าจะหมดแรงลงไปอีกรอบ ทงเฮรีบยกมือขึ้นมาโบกสะบัดเป็นพัลวัน เขาไม่ได้ตั้งใจมาหลอกสักหน่อย แค่หาเพื่อนคุยเท่านั้นเอง อยู่คนเดียวมาตั้งสองปี คนที่มาพักคนก่อนๆไม่เคยเห็นเขาหรอกเพราะมองไม่เห็น เห็นแบบนี้ผีก็เหงาเป็นนะครับ อยู่ไปก็คุยด้วยกันไม่ได้งั้นจะอยู่ไปทำไมอยู่ไปก็เหมือนทงเฮที่พูดเองคนเดียว จัดการเข้าฝันบอกให้ออกไปซะก็สิ้นเรื่อง
“อย่าสลบนะ! ห้าม!”
“ทะ..ทำไมเล่า!”
“ถ้าเป็นลมไปอีกจะตามไปเข้าฝันเลยคอยดู!”
“ฮืออออ ผีใช่มั้ย”
“เรียกว่าอดีตคนยังจะดูน่ากลัวน้อยกว่า”
“มันก็เหมือนกันนั่นแหละ!”
สีหน้าของคนตัวเล็กที่เบะปากออกทำท่าจะปล่อยโฮออกมา ทำให้ผมยิ้มออกมาเบาๆ มันดูน่าเอ็นดูดีนะ น่ากอดปลอบแล้วเอามาเลี้ยงที่บ้าน
“คุณชื่ออะไรอะ เป็นหมอหรอผมเห็นเสื้อขาวๆ”
“เป็นนักศึกษาแพทย์ ชื่อ ฮยอกแจ.. อี ฮยอกแจ” ผมพยักหน้ารับเบาๆสองสามที
“ผมชื่ออี ทงเฮนะ”
“ฉันไม่ได้อยากรู้จักนายสักหน่อย”
“เอาหน่า..ยังไงเราก็ต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน” ทงเฮลุกขึ้นยืนก่อนจะหายตัววับไปกับตา
ใช่.. T^T ฮยอกแจเห็นเต็มๆสองตาว่าหายไปภายในเวลาไม่ถึงเสี้ยววินาที
“คุณ!”
“อะไรอีกเล่า!” ฮยอกแจสะดุ้งสุดตัวเมื่อน้ำเสียงของผีหน้าหล่อมากระซิบอยู่ตรงต้นคอเขา
“ผมอยากกินพิซซ่า”
“ก็ไปโทรสั่งเซ่!”
“ที่โลกของผีสัญญาณโทรศัพท์มันยังเข้าไม่ถึงน่ะ แหะๆ” ร่างสูงเกาท้ายทอยอย่างเก้อๆ ก็แหม่..ถึงเขาจะอิ่มทิพย์แต่อารมณ์อยากกินของอย่างอื่นมันก็ต้องมีบ้างอะไรบ้าง แล้วว่าที่คุณหมอนี่ใช้อะไรคิดว่าผีจะมีโทรศัพท์ไว้ใช้ครับ.. ถึงแม้จะมีวิศวกรตายก็ไม่ได้หมายความว่าจะมาสร้างเทคโนโลยีในโลกของผีหรอกนะครับ
“เอาหน้าฮาวายเอี้ยนนะคุณ ผมแพ้กุ้ง”
“อีผีเรื่องมาก!”
“ไม่กลัวผมแล้วหรือไง?”
“ไม่กลัวแล้ว จำไว้เลยนะอีทงเฮถ้าคิดจะอยู่กับฉันที่นี่ล่ะก็...ท่องให้ขึ้นใจว่าอี ฮยอกแจน่ะ น่ากลัวยิ่งกว่าผี!” พูดจบเท้าเล็กก็กระแทกปึงปังขึ้นไปนั่งบนโซฟาก่อนจะต่อสายโทรศัพท์ไปสั่งพิซซ่าด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์สุดไรสุด
ติ๊งหน่อง~~
ร่างเล็กที่นั่งดูทีวีอยู่กับผีอีกหนึ่งตัวหันไปตามเสียงก่อนที่เจ้าของห้องคนปัจจุบันจะเป็นคนลุกไปเปิดประตู ทงเฮชะเง้อมองก็เห็นว่าเป็นพนักงานที่เอาพิซซ่ามาส่ง คุยกับร่างบางไม่กี่คำก็ทำท่าจะหันหลังกลับไป แต่ไม่วายทงเฮที่ชะโงกหน้าไปบ๊ายบายพี่เสื้อแดงเขียวจนฮยอกแจส่ายหน้าก่อนจะปิดประตูจนเสียงดัง
ปัง!
ไม่ได้สนใจทงเฮที่ยืน เอาหัวทะลุประตูออกไปอยู่นี่เลย..
“กินดิ ฉันไม่หิว” ทันทีที่ทงเฮเดินคอตกมานั่งข้างๆ เสียงใสก็แจ้วขึ้นทันที
“คุณต้องจุดธูปอนุญาตให้ผมกินก่อน” ทงเฮบอกไปตามความจริง ไม่ได้ตั้งใจจะเรื่องมากใส่เพื่อนร่วมห้องคนใหม่นะ แต่ถ้าฮยอกแจไม่ทำแบบนั้นทงเฮคนนี้จะกินไม่ได้ จะได้แค่มองดูพิซซ่าหน้าตาน่ากินนี่ให้อีแมลงวันตาโตนั่นบินมาตอมเสวยสุขไป
ต้องหน้าด้านแค่ไหนถึงจะแย่งของของคนอื่นได้ต่อหน้าต่อตา ฮึ!
“จิ๊!” ถึงจะทำท่าทางขัดใจแต่ก็ยอมลุกไปหยิบธูปที่ตัวเองพกมาในกระเป๋าให้อยู่ดี คืออย่าเพิ่งสงสัยว่าทำไมต้องพกธูป อย่างที่รู้ๆหรือยังไม่รู้ก็ช่างเถอะว่าอี ฮยอกแจพบเจอผีได้ตามทางทั่วไป เวลาจะย้ายหอทั้งทีมันก็ต้องมีมาเผื่อไหว้ที่ไหว้ทางกันบ้าง แต่ดูเหมือนเจ้าที่ห้องนี้จะไม่ได้ดุร้ายอะไร...มั้ง
เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าถาดพิซซ่าขนาดกลางที่มีหกชิ้นกับผีหน้ามึนที่ทำตาเป็นประกายประหนึ่งไม่เคยได้ลิ้มลองไอ้แป้งสามเหลี่ยมที่มีหน้าสีแดงๆแปะอยู่ข้างบนนี่ จุดธูปแล้วพูดอนุญาตให้ผีทงเฮนี่กินเรียบร้อยไม่ทันได้ปักธูปลงบนพิซซ่าก็เหมือนแร้งลง อีทงเฮสวาปามกับฮาวายเอี้ยนทันทีที่เขาจุดธูปเสร็จ
โฮกกกกกก TvT
เริ่มต้นวันแรกของการย้ายเข้ามาอยู่หอใหม่ที่แถม เพื่อนใหม่..
Rrrrrr!
“หอยทอด!” ร่างเล็กสะดุ้งตกใจทันทีที่เสียงริงโทนของโทรศัพท์ดังขึ้น เผลอสบถปล่อยคำอุทานที่ตัวเองติดมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ฮยอกแจพยายามจะไม่พูดแล้วนะ แต่มันจะเผลอเฉพาะเวลาตกใจมากจริงๆ ยกเว้นตอนที่เจอทงเฮครั้งแรกแล้วกันนะ ตอนนั้นไม่มีแรงจะพูด
เด็กหมี ‘s calling…
ก้มลงมองหน้าจอโทรศัพท์อีกครั้ง เมื่อกี้มัวแต่บรรยายที่มาของหอยทอดจนลืมรับโทรศัพท์ทำให้ปลายทางของสายต้องกดโทรมาอีกรอบ
“ว่าไงจงอิน”
[เป็นไงบ้างพี่..หอใหม่น่านอนกว่าที่รึเปล่า]
“ก็พออยู่ได้นะ” แต่ตอนแรกเกือบหัวใจวายตายไปแล้ว..
[คิดถึงพี่จัง..]
“ง่วงแล้วก็ไปนอนสิจงอิน”
[ฮ่าๆ ยังไม่สองทุ่มเลยจะง่วงได้ไงกัน..แล้วพี่ทำไรอยู่ครับ]
“..มองผีกินพิซซ่า..”
[อะไรนะครับ?]
“เอ้ย! ไม่ๆ พี่ท่องศัพท์อยู่น่ะ ขอโทษที แต่อค่นี้ก่อนแล้วกันนะ ไว้จะโทรหา”
มือเรียวกดไอคอนสีแดงรูปโทรศัพท์ทันทีที่รู้ตัวว่าเผลอไปพูดอะไรก็ไม่รู้ให้รุ่นน้องฟัง ประจวบเหมาะไปกับผีทงเฮที่ตอนนี้กำลังเดินเข้ามาหาพร้อมกับปากที่เคี้ยวพิซซ่ายังไม่หมดนั่น
ฮยอกแจคิดว่าทงเฮเหมือน...
..ชิปมังก์.. ใช่.. อี ทงเฮ เหมือนกระรอกที่กำลังกินอะไรจนแก้มมันตุ่ย
“อี้อุน..ออบอุนอั๋มอับอิ๊ดอ้าอ๊ะ” (นี่คุณ..ขอบคุณสำหรับพิซซ่านะ)
“ยี๋..น่าเกลียดอะ” ร่างเล็กเบะปากออกอย่างเหยียดๆก่อนจะเดินไปหยุดหย่อนตัวลงนั่งบนโซฟาหน้าทีวีในห้องรับแขกที่จริงๆแล้วสำหรับฮยอกแจเป็นแ ม่งเกือบทุกห้อง ห้องนั่งเล่น ห้องกินข้าว ห้องนอน ฯลฯ
ทงเฮเลื่อนตัวเข้ามาใกล้จนร่างเล็กที่นั่งอยู่ได้แต่ถอนหายใจยาวๆออกมา
คือยังไม่ชินอะเข้าใจมั้ย ถึงชีวิตนี้จะเห็นผีมานับครั้งไม่ถ้วนก็เถอะ
เคยเห็นนี่มั้ยในเอ็มวีเบื้องหลังกองถ่ายไรงี้อะ ที่จะมีรถเข็นไว้ให้นักแสดงยืนข้างบนแล้วค่อยๆเคลื่อน นั่นแหละ...อี ทงเฮ ตอนนี้เลย แต่ติดที่ทงเฮไม่มีรถเข็น มันคงไม่แปลกหรอกใช่มั้ยถ้าจะรู้สึกขนลุกขนพองที่เห็นร่างที่มีลักษณะเหมือนคนแต่เคลื่อนที่ได้โดยไม่ต้องออกแรงเดินก้าวขา
โอ้ยยยยยยยยยยย ให้มันหายตัวมายังรู้สึกดีกว่า
“ทงเฮ”
“ว่า”
“ถามไรหน่อยดิ”
“จะตอบ ถ้าตอบได้” ผมพยักหน้าเข้าใจก่อนจะเอ่ยคำถามที่เอ่ยถามทุกครั้งเวลาที่มีวิญญาณมาเบียดเบียนตนเอง
เดี๋ยวนะ..เบียดเบียน หรอ ทงเฮไม่มีคนทำบุญไปให้รึเปล่าวะ ?
“เป็นอะไรทำไมถึงตายอะ” ทงเฮเงียบไปเล็กน้อย ก่อนจะเกาหัวแก้เก้อแล้วยิ้มแห้งๆออกมา
“คุณอาจจะสมน้ำหน้าผมหลังจากที่ได้ฟัง”
“เล่าสิ..ฉันรอสมน้ำหน้าอยู่” ใบหน้ามึนของผีหน้ามนคนหล่อบึ้งตึงทันทีที่ได้ยิน แบบนี้ชักไม่อยากจะเล่าแล้ว นี่รู้มั้ยทงเฮรู้สึกอับอายและรู้สึกแย่มากแค่ไหน ตอนที่ตาย ไม่สิ..วิญญาณออกจากร่าง ใช่ๆ..ตอนนี้ยังเป็นผีไม่เต็มขั้น แล้ววิญญาณไปโผล่อยู่ที่โรงพยาบาล เพื่อนๆของเขาที่อยู่ที่นั่นล้อมรอบเตียงเขาไว้บางคนก็ร้องไห้แต่บางคน..
“สมน้ำหน้าดีมั้ย ไอ้ควาย โง่ชิบหาย”
“มึงอย่าพูดงั้นดิ กูรู้สึกสงสารควาย”
..ไอ้เพื่อนเหี้ย..
นี่ทงเฮรอวันฟื้นขึ้นไปต่อยคนพูดอยู่นะ หึ กูแค้นมากกูแค้นนนนนน
“วันนั้นผมโดนแฟนบอกเลิก..แล้วก็เลยดื่มหนักน่ะ หนักมากแบบเหมือนในชีวิตนี้จะไม่มีเหล้าให้กินอีกแล้ว..”
“ตับแข็งตายหรอ” =_______________________________= ทงเฮทำหน้างี้ใส่ฮยอกแจจริงๆ
“เพราะมันตรงกับวันครบรอบสามเดือนของผมกับเขาด้วย”
“.............”
“ผมก็เลยเกิดอาการเฮิร์ทหนัก แตะเหล้าแบบไม่ขาดปาก จากนั้นก็ปวดฉี่อะ เลยจะเดินไปเข้าห้องน้ำ คุณเข้าใจคนเมามากๆมั้ย ตั้งตัวให้ตรงยังยากเลย นับประสาอะไรกับให้เดินไปนู่นมานี่”
“กอร์ไปตอนที่ตายเลยได้มั้ยอะ ง่วงแล้วเนี่ย”
โอเค -___________________________-
“นั่นแหละ ผมเดินไปห้องน้ำแต่ขาไม่รักดีดันเหยียบขวดเหล้าที่กองทิ้งสเปะสประไปทั่วแล้วก็ล้ม นู่น..หัวไปฟาดกับขาเก้าอี้ล้อตรงนู้น”
“ง่าวจริง”
“ห๊ะ!!” ถามไปพรรค์นั้นแหละ ที่จริงก็ได้ยินชัดแจ๋วมาก และเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ของคนที่พูดมักจะตอบกลับมาด้วยคำพูดเบสิคว่า ‘เปล่า’
“เปล๊า~”
แหนะ เสียงสูงด้วยเห็นมั้ย
“คุณรู้มั้ย...”
“ไม่รู้”
อิโธ่วววววววว เดี๋ยวพ่อไม่เล่าแม่งซะเลยหนิ
“ผมมารู้ทีหลังตอนที่เห็นแฟนของผมร้องไห้อยู่ข้างเตียงผู้ป่วยว่า ‘เขาล้อเล่น’ “
“ง่าวทั้งคู่” เสียงเล็กบ่นอุบออกมา แต่ก็ไม่พ้นหูของทงเฮที่รับรู้ดีซะยิ่งกว่าหมา ร่างหนาเลือกที่จะทำเป็นไม่ได้ยินปล่อยผ่านไป เพราะรู้สึกเซ้งขึ้นมาทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องนี้
“ช่วยอะไรผมหน่อยสิ” ร่างหนาหันไปมองหน้าอีกคนด้วยแววตาจริงจัง ไม่มีรอยยิ้มบนใบหน้า มีแต่คิ้วเข้มที่กำลังขมวดเข้าหากัน
“ว่ามาสิ..ถ้าฉันช่วยได้นะ”
“ช่วยไปที่โรงพยาบาลโซลที ร่างของผมอยู่ที่นั่น..”
“หืม? นายไม่ถูกฝังหรอกหรอ”
“จริงๆก็ยังไม่ตายหรอก แค่วิญญาณออกจากร่างน่ะ” ทงเฮอธิบายซึ่งฮยอกแจก็ได้แต่พยักหน้ารับรู้ ในเรื่องที่เขาเรียนก็มีผู้ป่วยเคสนี้อยู่เหมือนกัน น่าสงสารคนที่อยู่ต้องมานั่งหวังอะไรที่ความเป็นไปได้แทบเป็นศูนย์
แต่ก็นั่นแหละ ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสฟื้นขึ้นมานี่
“จดหมายใต้เตียงในห้อง ช่วยเอาไปให้แฟนผมที”
“ห้องพิเศษ 194 ตึกผู้ป่วยใน ชั้นห้า”
“โอ เซฮุน วิศวกรรม โซล ปีสาม ฝากบอกเขาทีว่าผมฝากมาให้ แต่คุณเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศหรืออะไรก็ว่าไปเถอะให้เขาไม่สงสัยก็พอ”
“เพราะคุณเป็นคนเดียวที่สื่อสารกับผมได้........นะ”
________________________________________________
คาแร็กเตอร์ฮยอกแจกวนตีนหน้านิ่งโอเคมั้ย ส่วนเฮคือผีหน้ามึน .__.
ไม่เข้าใจตรงไหนถามได้ สุดท้าย .. Enjoy Reading น้าาาาาา <3
ความคิดเห็น