คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : หากจะรักแล้ว....รักใครก็จงรักเถิด
หยิกกินบะหมี่กับจ้อนด้วยใจพองฟู…แต่เมื่อขี่รถถึงบ้านจ้อนเมื่อคราไปส่ง ใจหยิกก็ที่ฟูมาตลอดทางก็เละแหลกลานเป็นขนมสายไหมโดนอม พอจ้อนลงจักรยาน หยิกก็แค่หันหลังถีบจักรยานกลับบ้านเช่า221โดยไม่ลาสักคำ
หยิกไม่รู้หรอกว่าจ้อนก็มองหยิกตาละห้อยจนลับสายตาเหมือนกัน…
“อ้าวกลับมาแล้วเรอะวะหยิก….” ยายทักขณะที่นั่งชันเข่าบนพื้นกระดานบ้านก้มหน้าก้มตาจดเบอร์หนุ่มที่อยู่ในมือลงสมุด
“เออ เอ็งดูซิ หน้าฝนแท้ๆ ฝนไม่ตกซักแหมะตั้งแต่งานวัดวันแรกยันวันสุดท้าย…” ยายชื่นชมสภาพอากาศโดยหารู้ไม่ว่าที่ฝนไม่ตก เพราะพี่กำนันไม้แห่ง MOO6 ,ซึ่งอ่านว่าหมู่หก,ได้สั่งให้หยิกเอาตะไคร้ทั้งกอไปปักกันไว้ตั้งแต่วันแรก
แต่หยิกกำลังเศร้าเลยไม่มีอารมณ์จะเล่าให้ยายฟัง
“ยาย…เห็นกะโหลกของฉันมั้ย” หยิกถามแล้วก็สอดส่ายสายตาหา…หยิกว่าจะไม่สนใจจะคุยกับน้าผีแล้วแต่พอดีวันนี้เขาเหงาจริงๆ…ยายก็นะ….หยิกเผลอเมื่อไหร่ ยายจะเอาไปขูดหวยทุกที
“สอง…เจ็ด…หก…” ยายมะลิจดเลขจากมือลงสมุดเสร็จไปอีกหนึ่งเบอร์ ก่อนหันมาตอบ
“อยู่บนตู้กับข้าวไง ข้างหัวเอ็งหนะ” ยายก้มลงไปจดต่ออย่างไม่สนใจหยิก ขอสักคืนเหอะที่ไม่ต้องเป็นยายเป็นหลานกัน
“เมื่อไหร่จะเลิกยุ่งกับของของฉันสักทีหละยาย ต้นโพธิ์หน้าหมู่บ้านก็มี!!!” หยิกแหวขึ้นมาทันทีที่กะโหลกถึงมือ
“ยืมกะโหลกผีเอ็งหน่อยไม่ได้รึไงวะ ต้นโพธิ์หน้าหมู่บ้านหนะมันขูดกันทั้งหัวหงอกหัวดำ ข้าไม่ต้องทำอะไรก็เห็นเลขขึ้นตั้งแต่ 0-9 ลายพร้อยเต็มต้นยังกะโมโนแกร็มกระเป๋าแม่เอ็งแหนะ, หมาที่ไหนจะสุ่มถูกเลขไปซื้อถูกวะ”
“ยายอะ ….ฉันไม่พูดกับยายแล้ว” หยิกหน้างอแล้วก็เดินเข้าห้องไปยืนทำตาแข็งจองเวรอยู่ตรงประตู ยายก็ยังเมิน...พอโทรศัพท์ดังยิ่งแล้วใหญ่...ยายล้มตัวลงบนเสื่อคุยงุงิคริๆกรักๆ...หยิกถอนหายใจ ยายมีความสุขสินะ …เมื่อกี๊เขายังมีความสุขอยู่เลย…. กินกันไป ป้อนกันไป แย่งกันมั่ง เช็ดปากให้กันมั่ง..
เฮ่ย!!! นี่มันมีใจให้เราเหมือนกันนี่หว่า…
ณ วินาทีที่เขาเห็นจ้อนพาเมียมาเจอ เขาก็อกหักดังเป๊าะ แต่พอรู้สึกว่าจ้อนมีเมียทั้งที่ก็มีใจให้เขา เขาก็ดันแสบทรวง
นังมาลีมันมีอะไรดี!!! ทำไมชอบเราแล้วยังไปรักมันได้!!!
หยิกคิดได้ก็เดินพรวดออกมาจากห้อง เอาวะ!! ไหนๆนอนไม่หลับแล้วคืนนี้ …แล้วก็เดินฉับๆ ลงข้างล่างเพื่อจะขี่จักรยานกลับไปบ้านจ้อนอีกรอบ ไม่ได้ไปดูน้ำหน้านังมาลีมีลูกแมวเหมียว แต่ไปดูแมวเหมียวว่าทำไมถึงไปอยู่กับนังมาลีต่างหาก เกิดมาหยิกเคยหารเคยแบ่งอะไรกับใครที่ไหน มีหรือเรื่องความรักจะยอมเป็นตัวเลือก ก ข ค ง ต่อให้เป็นตัวเลือกที่ตรงกับเฉลยเขาก็รับไม่ได้!
คนอย่างข้าต้องเป็นคำตอบอัตนัยเท่านั้น!!!
หยิกขี่จักรยานไปก็ทำหน้าเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน งึมงำกับตัวเองไปว่าจ้อนมันโง่!ถ้าไม่โง่ก็ต้องเลือกหยิก!ต่อจากนี้ไปเอ็งอย่ามาร่ำร้องหาความตื่นเต้นใดๆจากข้าอีกเลย! …อนิจจาความรัก สมหวังก็มึน ผิดหวังก็เบลอ หยิกคิดสรตะในใจแล้วก็คิดว่าจะไปสักรูปจ้อนเป็นอุทาหรณ์ว่าจะไม่รักใครอีก และจะกว้านซื้อที่บึงบัวที่กำลังจะโดนถมปลูกตะไคร้ส่งนอกประชดชีวิต!! เอาให้ฝนไม่ต้องตกมันตลอดปีตลอดชาติ ดี!!!เป็นทะเลทราย...กูจะได้เป็นชี้ค!!!....เอาจ้อนมาทรมาน...ร่างกฎหมายห้ามแต่งงานทั่วราชอาณาจักร!! …ตะไคร้ก็ต้องเป็นตะไคร้ไล่ยุง พอยุงสูญพันธุ์ทีนี้หละห่วงโซ่อาหารก็จะพังพินาศ!! ทุกคนจะได้ตายห่า!!!…กูไม่เดือดร้อนเพราะไม่ค่อยได้แดรกอะไรอยู่แล้ว! หยิกตะโกนกู่อยู่ในใจก็ตั้งจิตอธิษฐานว่าสัพเพสัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นสุข จงมาเป็นทุกข์ร่วมกะกู!!!….หลับตาด้วยใจว้าวุ่นลืมมองทาง ขี่กินซ้ายไปเรื่อยจนเกือบเสียหลักหักลงบ่อปลาดุก ใจหายแว้บ!เพราะถ้าตกลงไปมีหวังได้กลายเป็นบัวเหล่าที่หนึ่งดอกแรกที่กลายเป็นอาหารเต่าปลา….สงสัยเวรกรรมบาปบุญจะไม่มีจริง หยิกไม่เคยทำผิดคิดร้ายกับใคร...ทำไมไม่เคยสมหวัง?...ตอนแกล้งตายก็ถือโอกาสนอนโลงสะเดาะเคราะห์เอาน้ำมะพร้าวล้างหน้าอมตังก็แล้ว ต่อไปนี้หยิกจะไม่เชื่ออะไรอีก!!!
พอถึงหน้าบ้านจ้อน หยิกจอดรถจักรยานพิงเสา เห็นเงาตะคุ่มๆใต้ถุนเรือนก็รู้ว่าจ้อนกำลังจัดของที่เพิ่งขนมา เพราะวันนี้ย้ายเข้าบ้านวันแรก พอจ้อนเห็นหยิกก็เผลอปล่อยถุงดำใบเขื่องที่ถืออยู่ ลำตัว แขน ขา หัวไฟเบอร์กลาสที่ใช้ตัดเสื้อผ้ากับหัดทำผมของนังมาลีหล่นออกมาจากถุงไปกองที่พื้น หยิกเห็นเต็มตา
ทำเอาที่หยิกที่อุตส่าห์เข่นเขี้ยวเคี้ยวองุ่นเปรี้ยวมาตลอดทางเป็นอันลืม แถมอากัปกิริยาตกใจ ไปไม่เป็นของจ้อนทำให้เขาโยงไปทางหมู่บ้านมโนรมย์ว่า จ้อนไม่รู้มาก่อนว่าชอบเขา และตอนที่เขาแกล้งตายจ้อนเสียใจมาก และได้แต่งงานกับมาลีเพราะจิตใต้สำนึกของจ้อนร่ำร้องหาสัญลักษณ์บางอย่างที่เกี่ยวเนื่องกับเขา
เอ็งเพิ่งรู้พร้อมข้าสินะ ว่าเอ็งมีใจให้ข้า….
และไม่รู้เพลงหนี้รักดังลอยมาจากไหน ...จ้อนกับเขาเลยยืนจ้องหน้ากันอึ้งๆ ท่ามกลางเนื้อหาชวนหวามใจวัยกลางคน ....หากจะรักแล้ว รักใครก็จงรักเถิด ความรักบรรเจิดพริ้งเพริดหนักหนา....
แน่ะ เสียดายข้าหละสิ<3 หยิกมองจ้อนที่ลนลานก้มเก็บชิ้นส่วนร่างกายไฟเบอร์กลาส
ความคิดนั้นทำเอากระหยิ่มยิ้มย่อง ว่าจ้อนดีใจที่ได้เจอเขา และสวีทกันไปมากมายก่ายกองยามกินหมี่เหลืองชายสี่ ทำให้จ้อนเพิ่งรู้ว่าจ้อนชอบเขาแค่ไหน
งั้นเราก็ไม่ใช่ช้อยส์!!! จ้อนมันแค่ไม่รู้ตัว!!! จ้อนมันแค่ไม่รู้เท่านั้นเอง!!!
หยิกเดินเข้ามาหาจ้อนที่กำลังเก็บหุ่นที่กระจายอยู่บนพื้น หัวไปทาง ขาไปทาง หยิกก้มลงช่วยเก็บและทาบมือลงบนมือจ้อนจนมิด เป็นเชิงชวนให้สนใจเขามากกว่าเก็บของ จ้อนเกิดเขินขึ้นมา เพราะสวีทกันตั้งแต่กินเกี๊ยว ตอนนั้นเอาแต่คิดในใจว่า เรามีเมียแล้ว ไม่เป็นไรน่า ไม่เจอหยิกก็ตั้งนาน คุยไปเหอะแค่เพื่อน แต่พอกลับถึงบ้านในก็เหงาหงอยเป็นถุงก๊อบแก๊บต้องลม และที่ซ้ำร้ายไปกว่านั้นตอนนี้หยิกกำลังแสดงอาการที่เขาไม่ควรอยากให้หยิกทำ และที่ควรคือต้องเบรกหยิก ไม่ใช่เลยตามเลยแบบนี้
“เอิ่มม…รายการคดีเด็ด…ตอนเอ็งหายไปหละเรตติ้งตกเลยนะ” จ้อนพูดถึงรายการที่จ้อนชอบเขียนไปรษณียบัตรไปเล่าเรื่องหยิก ทั้งที่ไม่ใช่ตีมรายการ เล่าเล่นๆ เพราะแค่อยากบอกให้โลกรู้อีกสองสามคน แต่รายการดันลองเพิ่มช่วง thriller/ suspense ขึ้นมาขำๆ เพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้รายการที่มีมานาน กลับกลายเป็นรายการดังเป็นพลุแตกอีกรอบ และนั่นแหละทำให้หยิกกับจ้อนดังไปทั่วประเทศ
“เขาคงดีใจมากที่เอ็งกลับมา …ตอนเอ็งหายไป มีคนโทรมาขอเอาเรื่อง คดีอะไรนะ ….ที่เอ็งกับข้าไปตามหากระต่ายที่เอ็งว่ามันเรืองแสงได้เหมือนกระสือหนะ”
"มันน่าสนใจขนาดนั้นเลยเหรอจ้อน ไอ้คดีหมาว้ออาละวาดที่ดาดหม้อเนี่ย...คนก็รู้กันหมดแล้วนี่หว่า ว่าเด็กมันเห็นภาพหลอนเพราะโดนวางยาในยานัตถุ์..." หยิกยิ้มกริ่มตาเยิ้มและเริ่มลามปามจับผมข้างหน้าของจ้อนเล่นเบาๆไปด้วยเหมือนตอบจ้อนไปอย่างนั้น
"ผมเริ่มหงอกแล้วนะเอ็งหนะ" พอดีกับเพลงก็มาถึงท่อน หากวันใด ที่แสงทองของชีวิตผ่านนน แหมม เหมาะดียังกับผีจับยัด...หยิกเหลือบตาขึ้นบนบ้าน ที่มีไฟเปิดอยู่ตามหาที่มาของเสียงเพลง
จ้อนได้ทีมองตาม “เออ นั่นแหละข้าไม่ชอบใช้ประคำดีควายสระหัวเหมือนเอ็งหนิจะได้ดกดำเป็นนกกาน้ำ" จ้อนเขินเลยทำเป็นเถียงแล้วก็ถือโอกาสเขี่ยมือหยิกออกจากผมเขาด้วย เห็นมือหยิกโตจนกุมหัวเขาเกือบมิดก็วูบนึกถึงคำทำนายที่ป้าวัยดึกที่เขาเจอตอนไปรบที่อัฟกานิสถานทายให้เพราะอยากตอบแทนที่เขาช่วยชีวิตว่าเนื้อคู่ของเขาจะเป็นคนร่างสูงเป็นต้นตาล แขนยาวมือเท้าใหญ่เหมือนใบลาน จ้อนฟังแล้วก็ระคายหู เพราะขาดแค่ปากเท่ารูเข็มก็จะเป็นเปรตวัดสุทัศน์แล้ว...เลยลืมๆไป....
ที่ไหนได้ กลายเป็นว่ามือใหญ่สูงชะลูดตูดเป่งเก่งทุกเรื่อง แถมยังเสียงกระเส่าหล่อเร้าใจ นิสัยลึกๆก็ดีไปซะงั้น
ช่างเหอะ! จ้อนสะบัดหัวเบาๆต่อหน้าหยิกที่มองอยู่ว่าจ้อนทำอะไรอย่างเอ็นดูๆ…ป้าแกทายไม่แม่นหรอก…จ้อนคิดไปข้างๆคูๆ
แกหมายถึงผู้หญิงต่างหาก...แถมมาลีมือตีนเล็กเรียวยังกับลำเทียน!!! ...
"เอ็งขึ้นบ้านก่อนดีกว่าหวะหยิก ยุงเยอะแล้ว เดี๋ยวข้าจะเก็บของต่อสักหน่อย…มาลีโว้ย พี่หยิกมา เอ็งเอาน้ำเอาท่ามารับแขกหน่อย…” จ้อนตะโกนเรียกเมีย เพราะอยากจะตั้งตัวก่อน นังเมียเด็กนี่ก็อะไร ช่วยผัวรึก็ไม่มี ยังจะเปิดเพลงบิ๊วอิก.... ตอนนี้จ้อนยังปรับใจไม่ทัน จริงๆก็ระแวงหวาดตัวเองมานานแล้วว่าจะเผลอใจให้หยิก เพิ่งมาแน่ใจก็ตอนไปกินหมี่ด้วยกันเมื่อกี้ ไล่หยิกไปก่อนเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด....เพราะเขาไม่อยากจะเป็นสิ่งที่ตัวเองไม่รู้จัก และเขาก็สงสารแม่ที่ต้องอับอายกับพี่มามากพอแล้ว ทั้งที่นอกจากเรื่องเมาหัวราน้ำ พี่สาวเขาก็ไม่ได้ผิดอะไร
มาลีก็โผล่หน้าออกมาขยิบตาส่งสัญญาณให้หยิกในจังหวะที่จ้อนก้มลงไปเก็บของต่อ หยิกเลยต้องเดินขึ้นไปและระงับแผนแย่งผัวชาวบ้านไว้ก่อน เพราะเมียเขาท่าทางรู้เห็นเป็นใจขนาดนี้ ชะรอยว่าชรัสจะไม่ต้องลำบากมาก
ใจบุญขนาดนี้...ฉลองศรัทธามันหน่อยแล้วกัน!!! หยิกคิดพร้อมเยื่องย่างขึ้นไปนั่งบนโซฟาที่ชานเรือนด้านบน เตรียมรอฟัง
“พี่หยิกจ๊ะ" มาลีหันซ้ายหันขวาทำหน้าล่อกแล่กเสียงก็เบาในระดับกระซิบ "ฉันจะรีบพูดไม่อ้อมค้อมนะจ๊ะ"
"… ฉันกับพี่จ้อนแต่งงานกันในนาม เพราะแม่พี่จ้อนอยากให้พี่จ้อนเป็นฝั่งเป็นฝา ตอนนั้นพี่จ้อนเสียผู้เสียคน...แม่พี่เขาก็ไม่ได้บังคับหรอกจ้ะ แต่ไม่รู้ทำไมมาบ้านฉันทีเดียวแกก็ตอบตกลง ฉันก็แอบต่อรองว่า เราสองคนจะไม่มีอะไรกันเพราะฉันไม่ชอบผู้ชายจ้ะ..ส่วนพี่จ้อนจะรักใคร ฉันจะไปไหน ก็ห้ามถามห้ามยุ่ง แต่พักหลังๆ พี่จ้อนแกเหมือนจะหึงฉันและพยายามจะปล้ำฉันเหลือเกินจ้ะ”
หยิกสะดุ้งนิดๆแต่มาลีก็ดูออก…แล้วยังไม่นับว่ากำลังสะอื้นในอก… แต่ก็ยังปั้นหน้าเรียบเฉย
“แต่ฉันรู้ว่าเขารักพี่ เพราะทุกครั้งที่เมา ฉันนึกว่าพี่จ้อนจะลากฉันไปทำอะไรแต่พี่จ้อนดันลากฉันมานั่ง แล้วก็เล่าเรื่องพี่ซะแยะพะเรอเกวียนจนฉันฟังไม่หมดเลยจ้ะ…แต่ถ้าตอนสร่างนะ ฉันล้อเรื่องพี่เมื่อไหร่ พี่จ้อนจะชอบท้าพิสูจน์แล้วก็หาเรื่องชวนฉันขึ้นเตียงทุกทีเลย...แต่พี่จ้อนแกเป็นสุภาพบุรุษนะจ๊ะไม่ได้บังคับขู่เข็ญอะไรฉัน .... แกบอกว่าระวันฉันจะยอมเป็นเมียแกเอง”
หยิกสะอึกระลอกสอง คราวนี้หละสุดทน เพราะไม่ใช่ว่าจ้อนจะไม่เคยระแคะระคายว่ารู้สึกยังไงกับเขา..แต่จ้อนก็รู้ตัวมาตลอด แต่ไม่ยอมรับต่างหาก.... เขาไม่ดีตรงไหนทำไมต้องไม่ยอมรับด้วย?? แถมยังแอบมีใจให้นังมาลีอีก……นี่มันเกินใจหยิกจะรับไหว....
มาลีเงียบไปนิดหน่อยเพราะเห็นหยิกหน้าเสีย ก่อนถอนหายใจอีกครั้ง แล้วหยิบรูปหญิงสาวคนหนึ่งออกมาให้ดู …นี่แฟนเก่าของฉันเองจ้ะพี่หยิก”
หยิกหันไปทางอื่น “มันไม่ใช่ธุระของข้านังมาลี พอได้แล้ว”
มาลียังไม่ยอมแพ้ “พี่จ้อนก็รู้จ้ะ ว่าฉันไม่สนใจผู้ชาย แต่ที่ไม่รู้คือฉันมั่นใจว่าฉันชอบผู้หญิงและเคยมีแฟนแล้วด้วย…ไม่ใช่ฉันไม่เคยบอกนะจ๊ะ แต่พี่จ้อนไม่สนใจฟัง ฉันเลยไม่ได้บอกว่าฉันรักใคร”
“เขาเป็นคนรวยมีชาติตระกูลจ้ะ” มาลีเริ่มพรรณนาถึงรักเก่าที่บางกอก ไม่รู้ทำไมเหมือนกันหยิกถึงอยากฟังต่อ ทั้งที่หยิกคิดว่าควรระเห็จซมซานกลับบ้านได้แล้ว เพราะทั้งน่าเบื่อ ทั้งน่าเศร้า และน่าแค้นใจอย่างรุนแรงที่คนอย่างเขาต้องมาอยู่ในสถานะนี้
“บ้านใหญ่ยังกะปราสาท ยังกะวิมาน มีสวน บ้านก็เป็นหินอ่อน…” มาลีเล่าตาลอย
"เออ จะมีสวน มีสระ มีน้ำพุเด็กเยี่ยวอะไรก็รีบๆสรุปประเด็นเหอะวะ ยาวไปแล้ว" หยิกยิ่งหงุดหงิดดันมาเจอพรรณนาโวหารยิ่งขึ้น มาลีเลยรีบรวบรัดตัดซีนจากหน้าบ้านไปที่โรงเรียน...
“เราเคยเป็นแฟนกันตอนอยู่ ม ต้น…แล้วก็ติดต่อกันมาเรื่อยๆ ตอนนั้นฉันเรียนตัดเย็บเขาก็เรียนมหาวิทยาลัย เราก็แอบติดต่อกัน แต่แฟนฉันเขาไม่ยอมบอกแม่ว่าคบใครอยู่เพราะที่บ้านไม่ให้คบคนบ้านนอกคอกนา…เขาใส่ลูบูแตง....แต่ฉันใส่ช้างดาว” หยิกเริ่มตาปรือเพราะมาลีพูดไม่กระชับ จะลูบูแตงหรือช้างดาวมันก็เป็นแค่เกิบจะอะไรกันนักกันหนา แถมยังจะดังที่สีพื้นเหมือนกัน ต่างกันแค่อันนึงสีน้ำเงิน อีกอันสีแดง มันจะเป็นประเด็นตรงไหน? นี่เขาไม่คิดว่าเป็นแบรนด์เครือเดียวกันก็บุญแค่ไหนแล้ว...
“ส่วนทางฝั่งฉันยายก็รับไม่ได้ที่ฉันเป็นแบบนี้ยายเลยหาผัวให้”
“พี่ต้องช่วยฉันนะจ๊ะ … ถือซะว่าฉัน…มาลี วสันต์ คนนี้เป็นลูกค้าพี่อีกคน ฉันก็ไม่มีอะไรจะจ่ายให้พี่หรอกจ้ะ นอกจากความสุขตลอดชีวิตของพี่เอง”
“ไอ้จ้อนมันเล่าเรื่องข้า...แล้วมันลืมบอกเอ็งเหรอว่าข้ามันใจไม้ไส้ระกำ...ข้าไม่ช่วยเอ็งหรอก...ว่าแต่เอ็งเถอะเปิดใจรักมันเดี๋ยวเอ็งก็เปลี่ยนใจ ผู้หญิงที่ไหนก็รักมันทั้งนั้น…จ้อนมันหัวใจสาธารณะอยู่แล้วถ้าเอ็งรักมันมันก็รักเอ็งเองแหละ”
“คนอย่างข้ามันวิเศษวิโสเกินไปที่ใครหน้าไหนที่มันรักข้าแล้วจะไม่ยอมรับ และไม่เห็นข้าเป็นคนเดียวในสายตา…จ้อนมันบังอาจคิดแบบนี้กับข้า...มันถือว่าหยามกันเกินไปเกินที่ข้าจะรับได้!”
แม้หยิกจะเดือดดาลปานภูเขาไฟใกล้ระเบิด แต่ก็พนมมือพูดรัวเบาเหมือนนาครอปลงผมจนมาลีเกือบเผลอเอากรรไกรมาช่วยเล็ม…ทั้งนี้จ้อนอยู่ข้างล่าง จะให้ได้ยินไม่ได้เพราะสำหรับหยิกจ้อนไม่คู่ควรกับเขาอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นไม่รู้เลยนั่นแหละดี
มาลีพูดมายืดยาว แต่ในหัวหยิกมีแค่คำว่า จ้อนหึงหวงมาลี จ้อนจะปล้ำมาลี จ้อนไม่ยอมรับที่รักเขา จ้อนรอให้มาลียอมเป็นเมีย วนซ้ำขยำใจหยิกรอบแล้วรอบเล่า หยิกแม้จะเปิดอกกับมาลีไปเยอะแล้ว แต่มาลีก็แค่ผู้หญิงซื่อๆบ้านๆ จะมาให้เห็นเขาร้องไห้ไม่ได้ หยิกเลยลุกหนี มาลีเห็นท่าไม่ดีเลยรีบยิงศรรักดอกสุดท้าย ถ้าหยิกไม่สนใจอีก มาลีคงต้องยอมแพ้และไม่พูดถึงอีกต่อไป...ความสุขก็ความสุขของคนอื่น ทำไมมาลีจะต้องเพียรพยายามด้วย?
“พี่จ้อนรักทุกคนมันก็จริงจ้ะ…แต่พี่คือคนเดียวที่พี่จ้อนหลงนะจ๊ะ”
“คนอย่างพี่จ้อนเยือกเย็นมั่นคงเลยดีกับทุกคน พี่จ้อนเชื่อว่าความรักคือความสงบอบอุ่น ดังนั้นใครๆก็อยากฝากผีฝากไข้...แต่เท่าที่ฉันรู้ความรักหากขาดความร้อนรุ่มจากไฟปรารถนาแล้วมันก็แค่ความเป็นญาติเป็นเพื่อนดีๆนี่เอง...แล้วเท่าที่ฉันเห็น...พี่หยิกก็คือคนๆนั้น...คนที่จะจุดไฟเสน่หาให้ใจพี่จ้อนได้..ตอนที่พี่จ้อนคิดว่าพี่ตายไปแล้ว…ทุกครั้งที่พี่จ้อนพูดถึงพี่ แม้พี่จ้อนจะพูดไปร้องไห้ไป...แต่รอยยิ้มที่แทรกอยู่ในนั้น ยังมีสีสันกว่าที่พี่จ้อนเคยยิ้มให้ใคร หรือแม้กระทั่งอะไรทั้งนั้น..."
ถึงหยิกจะไม่เชี่ยวชาญเรื่องรักๆ แต่หยิกก็ใช้ชีวิตอยู่กับความหลงใหลทั้งมาทั้งชีวิต หยิกแม้จะใช้สมองเยอะกว่าคนปกติ แต่เขาใช้มันเพื่อความบันเทิง เพื่อสร้างสิ่งที่ชวนหลงใหลมาบรรณาการแก่ใจ คำๆนี้เขาจึงอินมากกว่าคนปกติที่ใช้ชีวิตอยู่ใต้การบงการของสมองที่โดนเส้นเหตุผลของสังคมสืบรุ่นต่อรุ่นมาตีกรอบอีกที…ดังนั้นคำของนังมาลีจึงจี้จุดคีหมึงของเขาเข้าอย่างจังแต่ก็ยังทำเก๊กมองหลังคาบ้านหลังใกล้ๆเพื่อความเท่
มาลีพูดไปเสียงสั่นไป หยิกเองก็สะเทือนใจอยู่วูบๆ... นี่แหละหนา ความรัก หากใครประจักษ์ ไม่ว่าจะนักปราชญ์หรือคนปัญญาทรามก็จะเข้าใจดุจเดียวกัน
และในที่สุด..หยิกก็ค่อยๆหันมายิ้มให้มาลีอย่างจริงใจเป็นครั้งแรก
“แฟนเอ็งหนะ เอ็งไม่อาจเอื้อมก็จริง แต่ถ้าเป็นข้า...ไม่ต้องพยายามมากข้าก็คว้ามาได้นะ”
มาลียิ้มออกมาอย่างดีใจที่สุด จนแทบหยิบโทรศัพท์มาโทรหาแฟน ทั้งที่ยังไม่รู้แน่ชัดด้วยซ้ำว่าหยิกจะพูดถึงอะไร แล้วจ้อนเดินขึ้นมาพอดี
“เอ็งมีอะไรกับข้าเหรอถึงได้ขี่รถกลับมาหา” จ้อนถามอย่างยังประหม่าเล็กน้อยขนาดเตรียมใจมาดีแล้ว และเมียก็ยืนอยู่
“ตอนแรกข้าอยากให้เอ็งไปกางมุ้งให้ข้าหน่อยหวะคืนนี้ ….แต่ตอนนี้ข้าคิดว่ายายคงกลับมาแล้ว…ไม่ต้องดีกว่า”
"เอาให้แน่นะว่ายายกลับมาแล้วหนะ...เอ็งหนะ แค่หยิบมุ้งลงมาคลี่ก็ยุ่งขิงเป็นลิงแก้แหแล้ว" จ้อนมองอย่างเป็นห่วง แต่หยิกก็ทำหน้าเบิกบานเหมือนไม่ได้สนใจที่จ้อนพูด จนมาลีแทบจะยกรางวัลสุพรรณหงส์ทรงภู่ห้อยให้ เพราะสุพรรณหงส์เฉยๆยังสมควรแก่สกิลการแสดงของหยิก
หยิกทำท่าหันไปมา แล้วกวักมือเหมือนขอของคืนจากมาลี "เอ๊ย!..มาลี เอ็งเอารูปคุณเงาะมาซิ" ดีที่มาลีจับต้นชนแกะจับแพะชนปลายถูกเลยยื่นให้ไปแล้วยังทำท่าตื่นเต้นตามหยิกไปด้วย
"ข้ามีเรื่องจะบอกเอ็งอีกหวะจ้อน" หยิกชูรูปคุณเงาะ สาวสังคมชื่อดังให้จ้อนดูด้วยน้ำเสียงละล่ำละลัก จ้อนก็มองตามอย่างสนใจ
หยิกรีบพูดเพราะจังหวะนี้ จ้อนกำลังจิตเปิดเพราะรอฟัง...
“ข้ากำลังจะบอกข่าวดีกับเอ็งว่า…ข้ากำลังจะแต่งงาน
...กับผู้หญิงคนนี้แหละ"
tbc.
ความคิดเห็น