หลักทางการแพทย์ที่ใช้ในการสืบสวน

ลำดับตอนที่ #2 : หลักการ ตอนที่สอง (ต่อ)

- ถ้าไม่ออกกำลังกายสม่ำเสมอทุกวัน พอแก่ตัวไปอาจจะเป็นโรคความดันสูง, เบาหวาน, โคเลสเตอรอลในเลือดสูง ที่เป็นบ่อเกิดของโรคหลอดเลือดในสมองตีบ, โรคหลอดเลือดไปเลี้ยงหัวใจอุดตัน - ศีรษะด้านขวามีเลือดออกมาก มือและขาข้างซ้ายชาทั้งแถบ อาการแบบนี้อาจจะมีเลือดคั่งในเยื่อบุสมองเฉียบพลัน - รอยนิ้วมือที่ติดบนเทปใส สามารถนำมาตรวจสอบได้ - ก้นบุหรี่ สามารถนำไปตรวจสอบหากรุ๊ปเลือดได้ ** ตรวจกรุ๊ปเลือดจากน้ำลายที่ติดอยู่ที่ก้นบุหรี่ - การนำศพมาใส่ในอ่างน้ำร้อนทำให้การสันนิษฐานเวลาตายคลาดเคลื่อนไป - คอแดงจะทำให้เสียงแหบ ควรพยายามอย่าเปล่งเสียงออกมา เดี๋ยวจะเป็นโรคหลอดลมอักเสบได้ - คนที่ผูกคอตายจะมีเลือดคั่งอยู่บริเวณใบหน้าก็จริง แต่ถ้าไม่มีบาดแผลอยู่ในปาก เลือดก็จะไม่ไหลออกมา - ถ้าหากว่าถูกถอนฟันมาแล้ว 2-3 วัน เหงือกบริเวณนั้นก็จะเริ่มสมานตัวเองและหดตัวเข้ามาเป็นตูม ๆ - คนที่เพิ่งถอนฟันมาใหม่ ๆ ห้ามทานอาหารรสจัด - อาการปุปปัปลุกขึ้นแล้วหน้ามืดไป มักจะเกิดกับคนที่นั่งเป็นเวลานานแล้วลุกขึ้นยืนปุปปับทำให้เส้นเลือดหัวใจต้องรับภาระหนักเกินไป และส่งผลมาถึงร่างกาย ทำให้เกิดภาวะความดันเลือดต่ำ ทำให้เกิดอาการหน้ามืดและหมดสติได้ - ยาอิโซโปรเทเลนอล เป็นยาที่ใช้ทดสอบภาวะการหมดสติ โดยที่เขาจะฉีดมันให้กับคนไข้ที่หมดสติหรือหน้ามืดเพื่อให้หมดสติง่ายขึ้น เป็นยาที่ใช้ตรวจสอบว่าสาเหตุการหมดสติของคนไข้ไม่ได้เกิดจากสมองหรือโรคเกี่ยวกับหัวใจ แต่เป็นผลของประสาทสั่งการอัตโนมัติหรือเปล่า และตอนนี้ถึงเขาไม่ค่อยได้ใช้กันแล้ว แต่ยาตัวนี้ก็มีผลในการช่วยขยาหลอดลมด้วย ถ้าใช้ในปริมาณที่เหมาะสมก็จะเป็นยาโรคหอบหืดได้ เวลาที่ยาจะออกฤทธิ์คือประมาณ 10 กว่านาทีให้หลัง - คนเราพอกินอาหารเข้าไปแล้วลำไส้ใหญ่แนวนอนถึงลำไส้ใหญ่รูปตัว S จะมีการบิดตัวอย่างรวดเร็วและรุนแรง พอมีอะไรตกลงไปในกระเพาะ ความรู้สึกอยากถ่ายก็จะเกิดขึ้นเร็วมาก - เมื่อเวลาผ่านไป รอยเลือดจะเปลี่ยนกลายเป็นสีดำ - ริมฝีปากเปลี่ยนเป็นสีม่วง เริ่มมีอาการเลือดขาดออกซิเจน แสดงว่าหายใจไม่สะดวก แต่เท่าที่ลองแตะชีพจรดู จังหวะการเต้นของหัวใจก็ปกติดี เพราะฉะนั้นสาเหตุก็น่าจะมาจากสมองผิดปกติหรือไม่ก็ูถูกวางยาพิษ - อุณหภูมิของน้ำในบ่อประมาณ 20 ํC แต่ก็ยังไม่มีก๊าซเน่าเกิดขึ้นในร่างกาย ก็แปลว่าศพนี่เพิ่งจะถูกฆ่ามาไม่นานเท่าไหร่ - บางทีสาเหตุการจามของโรคภูมิแพ้อาจไม่ใช่ฝุ่น แต่อาจจะมาจากรังแคที่ออกมาจากตัวสัตว์ - แมวไม่มีเอนไซม์ที่ใช้ย่อยน้ำตาลในนม และสัตว์กินพืชอย่างวัวกับสัตว์กินเนื้ออย่างแมวก็มีสารอาหารในน้ำนมต่างกันด้วย... ถ้าให้กินนมวัวแบบเพียว ๆ เลย ท้องมันก็จะเสีย แล้วมันก็จะไม่ยอมดื่ม... จึงต้องเอานมผงสำหรับเลี้ยงทารกมาชงในน้ำร้อนที่ประมาณ 38 องศาเซลเซียส ที่เอามาแตะผิวคนแล้วจะพออุ่น ๆ ให้เจือจางประมาณ 2 เท่า สำหรับกรณีที่ไม่มีร้านสัตว์เลี้ยงอยู่ใกล้ ๆ และหานมสำหรับแมวโดยเฉพาะไม่ได้ - โรคแพ้เกสรดอกไม้ ก็คือ โรคภูมิแพ้ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ ร่างกายสะสมสารที่จะทำให้เกิดอาการแพ้เอาไว้จนถึงระดับหนึ่งถึงได้เริ่มแสดงอาการออกมา แต่ว่าเกสรดอกไม้ที่เป็นตัวทำให้เกิดอาการแพ้จะมีช่วงเวลาให้ได้สัมผัสแค่ปีละหนึ่งครั้งเท่านั้น เพราะฉะนั้น... ช่วงเวลาในการสะสมจึงใช้เวลานานพอสมควร เพราะเหตุนี้คนที่ตอนเด็ก ๆ ไม่เป็นอะไร แต่มาแพ้เกสรดอกไม้ตอนอายุ 20-30 ปี ถึงได้มีอยู่เยอะ - คอนแท็กเลนส์จะทำให้อาการคันตา... เพราะโรคแพ้เกสรดอกไม้รุนแรงขึ้น