ข้อมูลเบื้องต้น
ผมนั้นเคยอยากฆ่าตัวตายมานับครังไม่ถ้วน เพราะความล้มเหลวของตนเองและเสียงด่าทอต่อนิสัยที่ผิดแปลกจากคนอื่นของผม เพื่อนผมก็เริ่มพูดความจริงๆเกี่ยวกับผมในสายตาของพวกเขา พวกเขาบอกว่าผมเป็นคนพูดมากและขี้เกียด แต่ข้อดีของผมคือเก่งด้านการศึกษาแต่เรียนไม่เก่ง (เรียนหมายถึงการกระทำตามต้นแบบนั้นคือครู ซึ่งผมทำตามครูแย่ๆแบบนั้นไม่ได้หรอก ครูที่บอกเหตุผลไม่เข้าหู บอกแบบขอไปที) ผมนั้นเก่งวิชาวิทย์ คณิต และอังกฤษ แล้วพอคนอื่นไม่เข้าใจอะไรก็มาถามผม พอผมไม่เข้าใจอะไรกลับไม่มีใครตอบ ซึ่งผมก็ไปหาคำตอบเอง ผมได้คะแนนเกรด3วิชาที่ว่ามาเกรด2 แถมผมแทบไม่ส่งงาน ทุกคนก็รู้ว่ายังไงผมก็ผ่าน
ผมรู้สึกว่าผมไม่ได้มีเพื่อนเลย แถมพอกลับมาที่บ้านก็โดนด่าว่าจากพ่อแม่ว่าเลียงไม่เชื่องบ้าง บ้างก็ว่าหมา บ้างก็ว่าอะไรก็ไม่รู้ ซึ่งผมไม่สนใจหรอก เพราะผมนั้นได้เฉยชากับเรื่องนี้แล้ว พอนานๆวันเข้า เพื่อนผมทุกก็ต้องเลือกห้องใหม่ แล้วผมก็ไปอยู่ห้อง2 เพราะเกรดไม่ค่อยดี พอผ่านไปได้2วันทุกคนก็บอกกับผมว่าห้องสงบดีเนอะ เวลาไม่มีนาย ผมก็ยิ้มให้พวกเขา ทั้งๆที่ในหัวผมคิดว่า พวกเองเป็นใครกูไม่เคยมีเพื่อนแบบนี้ จนถึงตอนนี้ก็เหลือผมแค่คนเดียว ผมได้ทิ้งเพื่อนทั้งหมดแล้ว เพราะคำว่าเพื่อนมันสวยหรูเกินไปสำหรับพวกที่หาประโยชน์จากผม แล้วไม่มีอะไรตอบแทน แค่ขอบคุณก็ยังไม่เคยมี แนวคิดของคนอื่นส่วนใหญ่จะคิดถึงอนาคต ส่วนผมไม่ พ่อแม่ผมเลยเกลียดผมเพราะผมไม่ได้ใส่ใจเรื่องอนาคตของผมหรือของเขากันแน่ ผมมีพี่และน้อง ซึ้งทั้งสองเป็นความหวังของครอบครัว ส่วนผมถูเปรียบเทียบกับคนติดยา ทั้งที่บุหรี่ซักมวนไม่เคยสูบเหล้าไม่เคยดื่ม ผู้หญิงก็ไม่ติดเพราะไม่มีใครเอา นิสัยดีไม่ชอบแกล้งใครแต่ชอบช่วยคนอื่นมากกว่า แล้วทุกคนที่ผมรู้จักก็ได้สร้างอนาคตที่ผมต้องการจริงๆ เพราะแต่ก่อนผมไม่เคยสนใจอนาคตเลย แล้วผมก็ได้หนีออกจากบ้านเพื่อตามความฝัน ความฝันที่ว่าอยากจะไปให้ไกลที่สุดจากที่นี้ ผมก็ได้หนีจากบ้านมา ไม่เอาอะไรติดตัวมาเลยสิ่งแรกที่ผมทำคือหาที่อยู่ ผมนั้นได้เดินไปเรื่อยๆจนพบบ้านหลังนึงเก่าๆและไกล้พัง ผมได้พบกับครอบครัวเล็กๆครอบครัวหนึ่ง ถึงพวกเขาแทบจะไม่มีอะไรกินอยู่แล้วเขาก็ยังแบ่งอาหารมาให้ผม ได้อยู่กับพวกเขาหลายวัน พวกเข้านั้นได้วอนให้ผมรู้ว่า ถึงไม่มีอะไรก็เป็นครอบครัวที่ดีได้ หลังจากนั้น2-3วัน ผมก็ได้ขอไปตามทางผมอีกครังแล้วผมก็ขอบคุณครอบครัวนั้นที่ทำให้ผมนั้นมีความสุข ผมก็ได้เดินทางต่อจนไปถึงตัวเมืองผมก็ได้พบคนเร่ร่อนและขอทานเต็มไปหมด ผมนั้นพอมีตังติดตัวอยู่10บาทผมก็ได้ให้กับขอทานไป ผมนั้นมีความสุขกับแบบนี้จริงๆหรอผมถามตัวเอง แล้วบอกกับตัวเองว่ากลับไปตอนนี้ยังทันนะ แต่ผมก็ยังไม่ลดความเกลียดชังของผมกับครอบครัว ผมนั้นได้ไปเจอกับช่างตัดเสื้อคนหนึ่ง แล้วผมก็ได้ขอเสื้อจากเขา เขาบอกไม่ให้ถ้าจะเอาก็ต้องมาทำงานกับเขาแล้วเขาก็ยิ้มให้แล้วมอบเสื้อให้ผม ผมนั้นรู้สึกดีใจมากทั้งๆที่เสื้อนั้นมันเป็นแค่เสื้อถูกๆเอง พอผมทำงานกับเขาได้3ปีผมก็ได้ขอบคุณเขาแล้วขอลาออกจากงาน แต่ผมได้บอกกับเขาว่าผมจะกลับมาทำพาทต์ทามแน่นอน แล้วผมก็เดินทางไปยังสนามบินตอนนี้ผมมีเงินอยู่200,000ผมกะจะไปสำรวจต่างประเทศหน่อย แล้วจู่ผมก็ได้ยินเพลงโปรดผมเล่นขึ้นมีเด็กคนหนึ่งเปิดเพลงโปรดผมข้างๆผม ทำให้ผมตัดสินใจไปญี่ปุ่น แล้วผมก็ได้เจอคนแบบผมมากมาย ผมได้คุยกับพวกเขาพวกเขานั้นต่างท้อแท้ใจ ผมก็เลยถามไถ่เรื่องพวกเขาแล้วให้พวกเขาทำตามในสิ่งที่ผมทำไม่ได้ ซึ่งมันเป็นผลสำเร็จพวกเขานั้นได้กลับไปใช้ชีวิตของเขา เรื่องนี้ทำให้ผมรู้ว่าไม่ได้มีแค่ผมที่เป็นแบบนี้ ซึ่งนั่นทำให้ผมอยากช่วยพวกเขา ผมได้สร้างศูนย์ให้คำปรึกษาขึ้นมาโดยใช้ห้องเช่าที่ตัวเองอยู่นั้นแหละทั้งๆที่ไม่มีใบอะไรรับรองเลย หลังจากนั้นก็ได้มีคนเข้ามาใช้บริการคนแรก เขานั้นเขานั้นมีความทุกเกี่ยวกับครอบครัวและครอบครัวเขาก็กำลังจะแตก ผมก็ได้ให้คำแนะนำเขาไปในแบบที่ผมไม่มีทางทำได้ไป ผลสรุปออกมาพวกเขานั้นดีกันแล้วครอบครัวเขานั้นก็มาขอบคุณผมแล้วผมเงินให้ผม10,000เยน ซึ่งผมบอกไม่รับเงินนะครับ แต่ถ้าบริจาก ผมรับอยู่ แล้วผมก็รับเงินมา
ผมก็ได้ทำแบบนั้นอยู่นานถึง10ปี ชื่อเสียงผมเริ่มดัง คนก็มาขอคำปรึกษาเยอะเลย แต่แล้ววันหนึ่งเรื่องมันก็แดงขึ้นเรื่องที่ว่าผมนั้นไม่ได้จบการศึกษา ทำให้ต้องหนีการจับกุมของตำรวจญี่ปุ่นแล้วผมก็กลับมาไทย แล้วกลับไปหาทุกคนที่ผมเคยเจอมา แล้วผมก็ได้ตอบแทนพวกเขาในสิ่งต่างที่มันเป็นประโยชน์ต่อพวกเขา แล้วสุดท้ายผมก็ได้กลับไปหาครอบครัวหลังจากมานานถึง15ปี
ความคิดเห็น