คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Love will be there { Intro }
' Love will be there'
ในห้องนอนที่เครื่องปรับอากาศพัดเป่าลมที่เย็นเฉียบ.. บนเตียงใหญ่ที่ถูกจัดวางเอาไว้อย่างเหมาะสมในห้องกว้าง มีร่างกายสองร่างที่เปลือยเปล่าไร้อาภรณ์กำลังนอนกอดกันอยู่ในท่าที่ร่างบางหันหลังอยู่แล้วถูกลำแขนแกร่งโอบรอบตัวไว้ ไม่ให้ลุกไปไหนได้..
ร่างบางๆของโอ เซฮุนพลิกตัวกลับมาอีกทางเพื่อบรรจงมองใบหน้าคม ไม่มีวันไหนที่เซฮุนไม่เคยมองคนตรงหน้าคนนี้ไม่หล่อ.. ใบหน้าที่คมคาย ริมฝีปากหนาที่ดูมีเสน่ห์ ดวงตาคมที่คอยฉายแววโรจน์มาให้เขา.. ไม่มีวันไหนที่ผู้ชายคนนี้ไม่ดูดีในสายของเขาสักครั้ง..
ก้านนิ้วเรียวยกขึ้นมาไล้ไปตามโครงหน้าหล่อของผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามี
ผมยกตัวขึ้นเล็กน้อยก่อนจะประทับริมฝีปากบางลงไปที่แก้มสาก.. และเลื่อนริมฝีปากไปกระซิบที่ข้างหูอย่างแผ่วเบา
"รักนะครับ.."
เวลาที่ผมมีความสุขที่สุด ก็คือเวลาที่เขาหลับ.. เวลาที่ผมจะได้จดจ้องใบหน้าเขาได้อย่างสบายใจ...
หลังจากประโยคสั้นๆประโยคนั้น.. ผมจับลำแขนแกร่งที่พาดไว้ที่เอวของผมเพื่อที่จะได้ลุกไปชำระล้างร่างกายในห้องน้ำ
หมับ
"จะไปไหน?" ผมถูกคนที่นอนอยู่คว้าหมับเข้าที่ที่ข้อมือ ริมปากหนาขยับพ่นเสียงเบาๆออกมาถาม
"ป.. ไปอาบน้ำครับ ผมมีเรียนเช้า.."
"จะรีบไปเรียนหรือไปหาผัวอีกคนกันแน่.. หึ"
คำพูดทิ่มแทงใจของเขา.. ไม่เคยเลยแม้สักครั้งที่จะไม่ทำให้ผมต้องเจ็บและเสียใจ.. ที่นอนด้วยกันทุกคืน.. ยังไม่พอให้เขาเชื่อใจสักนิดเลยไหม.. ว่าผมเองก็มีเพียงเขาแค่คนเดียว..
"แล้วแต่คุณจะคิดเถอะครับ.. ผมก็แค่ผู้ชายขายตัวในสายตาของคุณอยู่แล้ว.."
"รู้ตัวก็ดี.. ผู้ชายที่ยอมแต่งงานกับคนอื่นเพื่อแลกกับเงินเพียงเล็กน้อยอย่างนาย.. มันไม่ได้มีอะไรไปมากกว่าผู้ชายขายตัวนักหรอก.. โอ เซฮุน"
"ครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับ.."
น้ำตาของผมรินไหลออกมาทันทีที่ผมหันหลังให้เขา หากใจของคนเราสามารถแหลกสลายได้จริงๆ หัวใจของผมตอนนี้ก็คงกลายเป็นธุลีละเอียดไปแล้ว... มันผิดมากนักหรือไง.. ที่แของผมยกผมให้กับเขาตามคำขอของพ่อแม่ของเขาเพื่อแลกกับหนี้สินทั้งหมด..
เขาหาว่าผมขายตัว.. แต่เขาเคยถามผมสักคำหรือไม่ ว่าผมอยากจะทำแบบนี้หรือเปล่า..
ไม่รู้ว่ากี่ครั้งแล้วที่เขาทำร้ายจิตใจผม... แต่ก็ไม่รู้ทำไม.. ผมถึงได้ไปรักผู้ชายคนนั้นอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
ที่ผมต้องยอมทนอยู่อย่างทุกวันนี้.. ผมก็แค่หวังว่า.. เขาจะยอมใจอ่อนแล้วรู้สึกดีๆกับผมบ้างก็เท่านั้นเอง
ผมรีบชำระล้างร่างกายของผมให้สะอาดอย่างเร็วที่สุด เจ็บสะโพกไปหมด แสบตรงแผลที่ฉีกขาด.. ร่างกายก็มีรอยช้ำจากการบีบกระชากจากสนามรักเมื่อคืนนี้ ยิ่งเวลาที่มองตัวเองในกระจก มันก็ยิ่งดูน่าสมเพศ รอยแดงๆที่เขาฝากเอาไว้... ก็ไม่ต่างอะไรจากตราบาปเขาเอามาทาบทับไว้ที่ตัวผม..
ผมเดินออกจากห้องน้ำไปด้วยสภาพที่ร่างกายถูกพันไว้ด้วยผ้าขนหนูเพียงพื้นเดียว ตู้เสื้อผ้าของผมถูกเปิดออก ผมรีบจัดแจงหาชุดที่ดูดีหน่อยออกมาใส่
"ทำแบบนี้คิดจะยั่วฉันหรือยังไง...?"
ผมถูกมือหนาๆกระชากตัวลงมีที่เตียงอีกครั้ง ร่างหนารีบขึ้นคร่อมผมไว้ไม่ให้ผมหนีไปไหนได้ ผ้าขนหนูที่ถูกพันไว้มันไม่ได้หนาแน่นอะไรเสียมากมาย มันจึงหลุดออก เผยให้เห็นส่วนที่ผมปกปิดมันเอาไว้ก่อนหน้านี้
"ผมเปล่า.."
"เดี๋ยวนี้แรดขึ้นเยอะนะ"
"คุณจ..จงอินอย่านะครับ..."
ผมรีบร้องห้ามเมื่อปากหนาๆซับจูบไปทั่วบริเวณหน้าท้องและเคลื่อนต่ำลงมายังบริเวณท้องน้อยใต้สะดือ ผมปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุการกระทำของเขามันทำให้ผมรู้สึกดีมากๆ ทุกครั้งที่เรามีอะไรกัน ผมทั้งรู้สึกดีและรู้สึกเสียใจไปพร้อมๆกัน แต่ตอนนี้.. มันไม่ใช่เวลาที่ควรที่เขาจะมาทำแบบนี้กับผม..
เขายังคงไม่เลิกคลอเคลียกับร่างกายของผม ปากหนาดูดเม้มไปทั่วร่างกายขาว รอยแดงที่เคยมีอยู่แล้วมันกลับมีเพิ่มขึ้นมาอีก ยอดอกสีชมพูสวยถูกปากครอบครองไว้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ลิ้นสากลากเลียติ่งไตสีชมพูดไปมาอย่างสนุกสนาน
"อ..อ๊า ย..อย่าครับ" ผมพยายามดันกายหนาออกก่อนที่เขาจะทำให้อารมณ์ของมตื่นไปมากกว่านี้ แต่ด้วยแรงที่สู้เขาไม่ได้อยู่แล้ว บวกกับพลังงานที่สั่งสมเอาไว้มันหายไปหมดตั้งแต่เมื่อคืน จึงทำให้ผมไม่สามารถดันเขาออกได้สำเร็จ
"หึ.. อารมณ์ตื่นง่ายจังเลยนะ.."
"คุณจงอินอย่าทำแบบนี้เลยนะครับ .. วันนี้ผมมีเรียนเช้า.."
"เรียนเช้าหรือกลัวไม่มีแรงไปเอากับชู้กันแน่! อย่ามาตอแหลให้มากนักเลยโอ เซฮุน" เขาตวาดลั่นจนผมตกใจตัวสั่น น้ำไหลก็ไหลออกมาคลอเบ้า โมโหทีไร.. ก็เข้าเรื่องผมมีชู้ทุกที..
"ทำไม?! ลีลาฉันมันเด็ดไม่พอหรือไง ถึงต้องไปหาเศษหาเลยกับคนข้างทางน่ะ"
"ผม.. ไม่ได้.. ฮึก ผมไม่ได้เป็นอย่างที่คุณพูด..นะ"
"ทีพี่จงฮยอนนายยังให้เขาสัมผัส แล้วทำไมทีกับฉันถึงได้สะดีดสะดิ้งนัก"
"ฮึก.. มันใช่อย่างนั้นนะครับ.."
"โธ่เว้ย! นายนี่น่ารำคานชะมัด.." โวยวายได้แค่นั้น อยู่ดีๆเขาก็ลุกออกแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ผมไม่เคยเข้าใจการกระทำของเขาเลย ว่าเขาต้องการอะไรจากผมกันแน่ แค่แกล้งผมให้ผมทนไม่ได้... เท่านั้นหรอ...
ผมเดินลงมาที่ด้านล่างของบ้านหลังใหญ่และผ่านไปยังห้องรับประทานอาหาร อาหารบนโต๊ะถูกจัดตรียมไว้อย่างพร้อมเพรียงสำหรับสองคน กลิ่นข้าวตมหอมฉุยลอยมาเตะจมูกผม
"อ้าว คุณหนูซฮุน มาแล้วหรือค่ะ" ผมยิ้มให้กับป้าแม่บ้านน้อยๆ ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ตัวประจำที่ผมเคยนั่งอยู่ทุกวัน น่าแปลกที่วันนี้อาจารถูกจัดเตรียมไว้เพียงสองที่เท่านั้น
"ป้าครับ.. ทำไมวันนี้อาหารถึงมีแค่นี้ล่ะ แล้วคุณพ่อกับคุณแม่..."
"คุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงมีประชุมที่ต่างประเทศน่ะค่ะ ออกไปขึ้นเครื่องตั้งแต่เช้ามืดกันแล้ว.. ส่วนคุณหนูใหญ่ก็ยังไม่กลับมาตั้งแต่เมื่อคืน วันนี้ก็เหลือแค่คุณหนูเล็กกับคุณหนูเท่านั้นล่ะค่ะ..."
"อ่อ... ขอบคุณครับ"
ผมได้รับคำตอบจากป้าแม่บ้านมาอย่างแจ่มแจ้งชัดเจน หากเหลือผมกับคุณจงอินแค่เพียงสองคน บ้านก็คงจะเงียบเหงาอยู่ไม่น้อย คุณพ่อคุณแม่และคุณหนูใหญ่อย่างพี่จงฮยอนที่คอยช่วยเหลือผมทุกอย่าง ในตอนนี้เขาก็ไม่ได้อยู่คอยคุ้มหัวผม.. ไม่รู้ว่าหลังจากนี้ผมจะเจอกับอะไรบ้าง จากผู้ชายคนนั้น
"นั่น คุณหนูเล็กมาพอดีเลย.. มาทานพร้อมกันเลยสิค่ะ"
ประโยคที่ป้าแม่บ้านเอ่ยออกมาเมื่อกี้ ทำให้ผมต้องรีบก้มหน้าก้มตาตักน้ำต้มในถ้วยเข้าปากต่อ ไม่อยากจะสบกับแววตาเย็นชานั่น แววตาวาวโรจน์ที่เจ้าของต้องการส่งให้ผมโดยเฉพาะ..
"วันนี้ผมไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ครับป้า.. เก็บไว้ให้พวกเหลือขอแถวนี้กินเถอะ..."
คำพูดกระแทกแดกดันที่ออกมาจากริมฝีปากหนา ทำไมผมจะไม่รู้ว่ามันหมายถึงผม.. แต่แค่คนอาศัยที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมียที่เขาไม่เคยรัก จะตอบโต้อะไรได้..
ร่างหนาเดินหายออกไปพร้อมกับน้ำตาใสๆของผมทั่งหลั่งรินออกมา น้ำแกงข้าวต้มผมปนเปไปด้วยหยดน้ำตา ถึงแม้อยากจะกลั้นน้ำตาไม่ให้ใครเห็นความอ่อนแอ..
แต่มันก็ยากเหลือเกิน สำหรับเซฮุน...
"คุณหนู.... อย่าร้องไห้ไปเลยนะคะ ป้าเชื่อว่าสักวันคุณหนูเล็กต้องเห็นความดีในตัวคุณหนูแน่ๆ" ป้าแม่บ้านเดินเข้ามากอดปลอบผม ผมไม่ได้ขัดขืนอะไร เวลาแบบนี้ผมก็แค่ต้องการกำลังใจ..
"ขอบคุณนะครับป้า.. ฮึก.. ฮือออ"
ผมเดินออกมาจากบ้านมาด้วยตาที่บวมแดง หลงจากที่ผมร้องไห้ ผมก็กินข้าวไม่ลงอีกเลยแม้แต่คำเดียว.. ถึงแม้ว่าป้าแม้บ้านจะบอกให้ผมกินเข้าไปอีกก็ตาม.. แต่อารมณ์นั้น ผมคงจะกินลงแค่น้ำตาของตัวเอง..
"ชักช้าจังนะ.. คิดว่าคนอื่นเขาจะเวลามายืนรอมากขนาดนั้นเลยเหรอ..?"
"ครับ?" ผมขมวดคิ้วสงสัยในคำพูดของคนที่ยืนพิงรถคันหรูอยู่ที่หน้าบ้าน
"ขึ้นรถสิ จะไปส่ง แล้วไม่ต้องถามมาก มันน่ารำคาน" ผมไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงแต่เดินไปขึ้นรถตามที่เขาสั่งเท่านั้น ในใจก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าจะทำแบบนี้ทำไม ในเมื่อก่อนหน้านี้ยังแดกดันว่าเขาแทบเป็นแทบตาย แต่จะถามออกไปก็เกรงว่าจะทำให้คนที่นั่งอยู่ทางฝั่งคนขับหงุดหงิดขึ้นมาอีก..
บรรยากาศในรถช่างแสนอึดอัด แอร์เย็นพัดมาปะทะใบหน้าของผม ความเร็วของรถที่ยังคงดำเนินไปอย่างเนิบๆ ผมและเขานั่งเงียบไม่พูดไม่จากันมาตลอดทาง ผมนั่งเกร็งจนตัวแทบจะเป็นเหน็บอยู่แล้ว ส่วนเขาเองก็เคร่งเครียดกับการขับรถจนคิ้วจะขมวดเป็นโบได้..
"ไม่ได้พกปากมาหรือไง..?" แต่ถึงอย่างไร คนอย่างคิม จงอินก็ไม่วายหาเรื่องผมอยู่ดี
"ก็คุณบอกให้ผมอย่าถามมาก.."
"เดี๋ยวนี้หัดยอกย้อนหรือไง?"
"เปล่าครับ..." ผมก้มหน้าคางชิดอก คิดว่าเขาจะดุด่าว่ากล่าวผม แตเปล่าเลย.. เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงชักสีหน้าใส่ผมเล็กน้อยเท่านั้น ผมหันไปมองหน้าเขาด้วยความแปลกใจเล็กน้อยี่วันนี้เขาดูแปลกไป
"ทำไม? คิดว่าฉันจะใจร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ? นั่งเฉยๆไปเถอะ วันนี้ฉันขี้เกียจจะด่านายแล้ว.."
หลังจากจบประโยคนั้น บรรยากาศในรถก็กลับไปเป็นเชนตอนแรก.. แต่ก็ต้องขอบคุณที่เขาพามาผมมาส่งถึงมหาวิทยาลัยได้อย่างปลอดภัยโดยที่เราไม่มีปากไม่มีเสียงกันเลยแม้แต่น้อย..
"ขอบคุณนะครับ.."
"เรียนเสร็จกี่โมง?"
"เอ่อ.. บ่ายสองครึ่งครับ"
"บ่ายสามมารอฉันตรงนี้ เดี๋ยวมารับ.."
"ครับ"
ทันทีผมปิดประตูรถลง จงอินก็ขับรถออกไปทันที ผมรู้สึกได้ว่าวันนี้เขาดูแปลกไป... เมื่อก่อน ถ้าเป็นเขา.. หากไม่ได้ถูกคุณพ่อหรือคุณแม่บังคับให้มารับมาส่ง จะไม่มีทางเด็ดขาดที่เขามาเหยียบที่นี่ แต่วันนี้กลับไม่ใช่..
-ติ้ด ติ้ด-
เสียงเตือนข้อความเข้าดังขึ้นจากโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋า ผมล้วงมันขึ้นมาดูว่าใครส่งอะไรมา
ผมยกยิ้มบางๆขึ้นมาทันทีที่ได้อ่าน ในเนื้อความไม่ได้มีอะไรมากมาย.. แต่ทำไมมันถึงทำให้ผมรู้สึกดีได้ขนาดนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน..
'ตอนกลางวันไม่ต้องทานข้าวนะ ไว้บ่ายสามฉันจะรับนายไปกินข้าวข้างนอก'
จะผิดไหม.. ถ้าหากว่าผมคนนี้ อยากจะคิดเข้าข้างตัวเอง ว่าสามีที่ไม่เคยรักผมเลย.. ก็รู้สึกเป็นห่วงผมเป็นใยผมบ้างแล้วเหมือนกัน...
หรือทุกอย่างที่เขาแสดงออกกับผมในวันนี้.. มันเป็นเพียงการเล่นละครแกล้งให้ผมเชื่อใจเขากันแน่.....
ผมไม่รู้เลยจริงๆ.......
______________________
จบแล้วกับอินโทร : )
ความคิดเห็น