ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไดอารี่ของชมรมหลังเลิกเรียน

    ลำดับตอนที่ #6 : -‘Mission #2’ตอน : เจอดีที่โรงแรมหรู ๔๐๙

    • อัปเดตล่าสุด 5 มี.ค. 56


    ชมรมหลังเลิกเรียน ระดับที่ ๒

     ‘Mission #2’

     โรงแรมหรูห้อง ๔๐๙

    Present By

    TH01001 เอกราช อัครเทวากุล (ไม้เอก)

    ตอน : เจอดีที่โรงแรมหรู ๔๐๙

    ภารกิจที่ ๒ ของผมถูกส่งตรงมาจากรุ่นพี่กาเหว่า หลังจากที่เราทำการเลือกกล่องไม้ปริศนาเมื่ออาทิตย์ก่อน ผลที่ได้ออกมาคือผมได้อยู่ในทีม A ซึ่งในการทำภารกิจครั้งนี้มีพวกเราสี่คนคือ ผม พราว ปอและชินจังเท่านั้น ต่างจากครั้งก่อนที่พวกเราได้รับผิดชอบกันไปบ้านละหนึ่งที่ แต่ด้วยความที่เหลือกันเพียงแปดคน ทำให้ต้องเฉลี่ยกันออกไปทำภารกิจ

    เมื่อผมได้รับสมุดโน้ตเล่มที่ผมคุ้นตามาแล้ว ต่อมาผมและเพื่อนจึงเดินไปที่ลิฟต์เรียกไปที่ชั้น ๔ ของโรงแรมหรูแห่งนี้

    “หวังว่าคงจะไม่เจออะไรที่น่ากลัวเหมือนตอนไปปีที่แล้วอีกนะ” ผมพูดตลกร้ายจนคู่เพื่อนๆได้แต่แย้มยิ้มเบา ๆ

    “คงไม่มีอะไรสยองขวัญเหมือนครั้งที่พวกเราเคยเจอแล้วล่ะ ... มั้ง” พราวพูดประโยคสุดท้ายเบา ๆ แต่ภายในลิฟท์มีแค่เราสี่คน ผมจึงได้ยินเสียงนั้นชัดเจน ก็เลยไม่ได้พูดอะไรนอกจากหัวเราะตามแบบฉบับของผมเท่านั้น

    ไม่นานนักประตูลิฟท์ค่อย ๆ เปิดอ้าออกพร้อมกับเสียงสัญญาณดังขึ้น ผมและเพื่อนก้าวออกมาให้พ้นมัน ดวงตาของพวกเราสำรวจไปรอบ ๆ มีเพียงทางเดินที่ว่างเปล่า ดูวังเวงแต่ก็ไม่ได้มืดมากเท่าไหร่เพราะรอบ ๆ ยังมีโคมไฟตัวใหญ่ติดไว้ที่ผนังและบนเพดาน

    “ไปกันเลยไหม?” ชินจังสะกิดถามผม

    “ถึงขั้นนี้แล้ว รีบจบภารกิจสยองขวัญนี่กันเสียทีเถอะ” ผมจ้องหน้าของเขาด้วยแววตาที่มุ่งมั่น พวกเราทั้งคู่ต่างสาวเท้ามาตามทางเดินพรมสีแดงกำมะหยี่จนกระทั่งมาถึงที่หมาย ตัวเลขที่สลักไว้บนบานประตูหน้าห้องเป็นเครื่องยืนยันว่าผมมาถูกทางแล้ว

    ห้องพักหมายเลข ๔๐๙

    ผมจัดการใช้คีย์การ์ดผ่านประตูที่ผมได้มาจากบริกรชายซึ่งประจำอยู่ที่โต๊ะของชมรมด้านล่าง มือขวาหยิบคีย์การ์ดก่อนที่จะเริ่มสัมผัสเข้ากับระบบอัตโนมัติหน้าประตู

    ติ๊ด!

    สัญญาณดังขึ้นช้า ๆ พร้อมกับประตูที่คลายพันธนาการออก ผมและเพื่อนมองหน้ากันก่อนที่จะเราทั้งคู่จะก้าวเข้าไปในก้องพักสยองขวัญนั้น สิ่งแรกที่ผมสัมผัสได้คือกลิ่นน้ำหอมบาง ๆ เหมือนน้ำหอมของผู้หญิงพรมไปทั่วทั้งห้อง ให้ความรู้สึกสดชื่นและลึกลับไปในเวลาเดียวกัน ภายในห้องกว้างนี้ถูกจัดเป็นโซนอย่างเป็นระเบียบ เข้ามาด้านในจะเป็นห้องรับแขกกว้างมีเครื่องอำนวยความสะดวกแบบครบครัน ด้านซ้ายมือของห้องถูกตกแต่งให้เป็นเคาน์เตอร์อาหารไว้สำหรับทำครัวเล็ก ๆ และทางด้านขวามือจึงจะเป็นห้องนอนที่เกิดเรื่องราวสยองขวัญขึ้น ....

    “แยกกันไปก็ได้ ฉันจะไปอีกที่ ส่วนพวกนายก็สำรวจรอบ ๆ ห้องรับแขกนี่ไปก่อนก็ได้ ....” ปอเลือกที่จะเดินไปอีกทางซึ่งเป็นห้องนอนส่วนผมก็ถูกให้สำรวจรอบ ๆ ห้องรับแขกนี่แทน

    ผมตกลงตามนั้น รีบสำรวจจะได้เสร็จภารกิจไวไว เพราะรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไรกับการต้องมาบุกรุกห้องของคนอื่นแบบนี้ ครั้งที่แล้วผมได้ทำหน้าที่สำรวจบ่อน้ำหลังโรงเรียนยังไม่น่ากลัวเท่านี้ มันโล่งและมีทางหนีทีไล่ได้เยอะกว่า แต่ดูตอนนี้สิ ถ้ามีวิญญาณปรากฏตัวออกมาจริง ๆ ในพื้นที่สี่เหลี่ยมจำกัดแบบนี้ผมจะรอดไปไหนได้ล่ะ

    ซ่า....

    ยังไม่ทันที่จะได้คิดอะไรไปมากกว่านี้ ก็โดนเล่นงานเข้าให้เมื่อจู่ ๆ ทีวีจอแบนติดผนังเกิดคำรามเปิดขึ้นมาเองซะงั้น แถมไม่มีภาพอะไรนอกจากคลื่นรบกวน คารดว่าในห้องนี้คงไม่ได้เปิดใช้บริการมานานมาก ทางโรงแรมจึงไม่ได้ต่อสายทีวีเอาไว้

    แต่มันก็ไม่น่าจะบังเอิญมาติดตอนที่ผมกำลังอยู่คนเดียวแบบนี้ ผมพยายามทำใจดีสู้เสือ เดินเข้าไปปิดทีวีเพราะเสียงมันเริ่มจะบาดหูแล้ว หลังจากที่ทำการปิดทีวี เธอคงไม่ปล่อยให้ผมได้พักหายใจแน่ๆ เมื่อจู่ๆ

    เคร้ง!!

    คราวนี้ บางอย่างที่อย่างที่อยู่ทางเคาน์เตอร์เกิดร่วงลงจากที่ที่มันควรจะอยู่ เอาอีกแล้ว เธอเล่นงานผมอีกแล้ว ทำไมไม่ไปหา ...... บ้างนะ ป่านนี้คงกำลังรอให้เธอปรากฏตัวออกมาแล้วล่ะมั้ง สองเท้ารีบเดินไปด้านหลังเคาน์เตอร์ กำไฟฉายเอาไว้ในมือแน่จนกระทั่งเห็น บางอย่างที่ว่านั่นอยู่ที่พื้น

    มันเป็นเพียงแค่กระทะไฟฟ้าธรรมดาที่ร่วงลงมาด้วยวิธีการอะไรก็แล้วแต่เท่านั้นเอง .... นี่ผมกำลังเข้าข้างตัวเองอยู่ใช่ไหมเนี่ย

    ผมพยายามสะบัดความคิดนั้นออกก่อนที่จะก้มลงไปเก็บกระทะให้เข้าที่ ในตอนนั้นเองที่สายตาอันว่องไวเกินมนุษย์ของผมก็ไปสัมผัสเข้ากับบางสิ่งบางอย่างจากช่องใต้เคาน์เตอร์

    เคาน์เตอร์ครัวนั้นถูกออกแบบตามศิลปกรรมที่ทันสมัย ใต้เคาน์เตอร์จึงเป็นช่องว่างเอาไว้สำหรับการถ่ายทะหรืออะไรก็ช่าง แต่ตอนนี้สายของผมเจอเข้าอะไรบางอย่าง

    ขาเรียวยาวของผู้หญิง ....

    ใจเริ่มเต้นแรงขึ้น ผมเริ่มรู้ตัวแล้วว่าจะต้องเจอดีเข้าให้ แต่ไม่คิดว่าจะมาเจอในระยะประชิดขนาดนี้ ผมยังคงใจดีสู้เสือลุกขึ้นสาดไฟไปยังเจ้าของขาสวยคู่นั้น แต่แล้วผมก็ไม่พบอะไรนอกจากความว่างเปล่าของห้อง ๔๐๙ เช่นเดิม

    “หรือว่าตาฝาด” ผมพยายามคิดเข้าข้างตัวเองอีกครั้ง เอาวะ ไหนๆก็มาแล้ว ลองก้มไปดูอีกครั้ง ถ้าไม่มีอะไรก็คงว่าเราตาฝาดไปเอง เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงก้มลงไปดูที่ช่องเคาน์เตอร์อีกครั้ง

    และแล้วสิ่งที่ผมเห็นเกือบทำให้ผมแหกปากออกมา

    นั่นคือใบหน้าของผู้หญิงที่มีเพียงแค่ศีรษะกลิ้งอยู่ใต้เคาน์เตอร์นั้น ดวงตาของเธอแหกโปนออก เส้นเลือดปูดออกมาจากนัยน์ตาจนผมต้องผงะ ริมฝีปากสีม่วงอมเขียวนั้นเผยอยิ้มเผยให้เห็นฟันซี่ดำที่มีขี้ดินแห้งกรังเกาะอยู่

    “อยากเจอไม่ใช่เหรอ ก็มาแล้วนี่ไง!” เสียงนั้นดังขึ้นก่อนที่จะเจ้าของเสียงจะกลิ้งศีรษะมาที่เท้าผม ผมแทบจะลุกพรวดพอดีกับที่พวกเราที่เหลือเปิดประตูออกมา พวกเราทั้งหมดมองหน้ากันแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร หมายความว่าพวกเขาเองก็คงเจอดีเข้าให้ พวกเราต่างวิ่งโกยออกมาจากห้องก่อนที่จะรีบเรียกลิฟท์ ไม่นานนักลิฟท์ก็มา เราทั้งคู่วิ่งเข้าไปพร้อมกับกดลงไปที่ชั้นล่าง ประตูค่อย ๆ ปิดลงตามการทำงาน แวบแรกที่ผมมองผ่านประตูลิฟท์นั่น

    ผมเห็นศีรษะของเธอชะโงกออกมาหน้าก้องเพียงครึ่ง ริมฝีปากข้างที่ออกมานอกห้องยิ้มกว้างราวกับเป็นการบอกลานัยๆ

    ให้ตายเหอะ มันน่ากลัวยิ่งกว่าที่ผมเจอครั้งแรกซะอีกนะ!




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×