ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    EXO - LOVE ALL DAY ❤ KRISLAY (SHORTFIC)

    ลำดับตอนที่ #2 : in your eyes [krislay] - part 1

    • อัปเดตล่าสุด 15 ธ.ค. 55


    In your eyes…

     


     

     

     



     

    1

     

    เบเกอร์รี่ช็อป....

     

    พอเข้ามาในร้านก็รู้สึกอุ่นขึ้นมาทันที ภายในร้านนี้ออกแบบมาได้น่ารักมาก ไม่น่าเชื่อว่าจงอินจะรู้จักร้านสไตล์แบบนี้

     

    “จงอิน จงอินทางนี้!!

    เสียงผู้ชายตัวเล็กคนหนึ่งตะโกนเรียกจงอิน จากโต๊ะในสุดของร้าน จงอินจึงเดินนำผมไปที่โต๊ะตัวนั้นทันที และนั่นก็ทำให้ผมพบกับผู้ชายคนหนึ่งหน้าตาของเขาน่ารักมาก ผิวขาวราวน้ำนม ปากเล็กๆ และสายตาที่ยิ้มจนหยี เขาเหมือนตุ๊กตาตัวน้อยๆ บอบบางและน่าทะนุถนอม

     

    “รอนานไหม? แทมิน  เอ้อ....นี่จางอี้ซิง เพื่อนสนิทที่เคยเล่าให้ฟังไง”

     

    จงอินแนะนำผมให้รู้จักกับคนตรงหน้า

     

    “สวัสดี อี้ซิง ฉันชื่อแทมิน ยินดีที่ได้รู้จักนะ”

     

    “สวัสดี แทมิน”

     

    เขากล่าวทักทาย พร้อมกับยิ้มให้ผมอย่างสุภาพ ความสดใสของแทมินทำให้ผมดูเกร็งๆอยู่บ้าง และนั่นทำให้จงอินขำกับท่าทาง เก้ๆ กังๆของผม หลังจากนั้นเราทั้งคู่ก็นั่งลงที่โต๊ะ

     

    “ทั้งสองคนจะทานอะไรดี  เดี๋ยวฉันสั่งให้”

     

    “ฉันเอาเป็นช็อกโกแลตอุ่นๆ แล้วกัน แกหล่ะ อี้ซิงจะกินอะไร”

     

    “อะ.......เอ่อ ฉันเอาเหมือนจงอินก็ได้”

     

    “งั้นเป็นช็อกโกแลตสองที่แล้วกันนะ”

     

    แทมินยิ้มให้ผมก่อนจะหันไปสั่งเครื่องดื่มกับพนักงาน  ระหว่างนั้นเราก็เริ่มเปิดบทสนทนาพูดคุยกันเรื่องทั่วไป แล้วผมก็ได้รู้ว่าแทมินเรียนอยู่ปีสามเหมือนพวกเรา แทมินเรียนอยู่ที่โซลอาร์ทไฮสคูล โรงเรียนที่ใครๆหลายคนฝันไว้ว่าอยากเข้าเรียนรวมถึงผมกับจงอิน ด้วยหลักสูตรการเรียนการสอนที่เป็นเอกลักษณ์ ห้องเรียนกับห้องซ้อมเต้นที่ทันสมัยและอุปกรณ์การเรียนของเหล่าคนรักดนตรีและศิลปะที่มีอยู่ครบครัน ทำให้ใครหลายๆคนต่างก็ชอบโรงเรียนนี้ แต่เพราะค่าเทอมที่แสนแพง ทำให้หลายคนถอดใจมาเรียนที่ไฮสคูลธรรมดาเหมือนกับผมและจงอิน

     

    “อี้ซิงต่อไปนี้แกช่วยสนิทกับแทมินให้มากๆ นะ เพราะแกเป็นเพื่อนคนสำคัญของฉัน และแทมินก็เป็นคนที่สำคัญที่สุดของฉันเหมือนกัน ฉันอยากให้แกช่วยดูแลแทมินด้วย”
     

    “นี่จงอิน... ทำไมพูดแบบนั้นหล่ะ ฉันก็ดูแลตัวเองได้นะ ทำไมจงอินชอบพูดเหมือนฉันเป็นเด็กทุกทีเลย”

     

    “ฮ่าๆ อะไรกันแทมิน ครั้งที่แล้วใครกันที่ซ้อมเต้นจนสะดุดขาตัวเองล้มไม่เป็นท่าหน่ะ”
     

    “จ...จงอิน ก็...>////< ไม่รู้ไม่ชี้ ฉันไม่คุยกับนายแล้ว”

     

    แทมินทำหน้างอนแก้มป่องแบบที่ใครๆเห็นก็ต้องบอกว่าน่ารัก ผมมองทั้งสองคนแล้วรู้สึกเศร้าใจแปลกๆ เหมือนกับว่าผมมาเป็นส่วนเกินของโต๊ะนี้ และไม่สมควรมานั่งอยู่เลย จงอินเอื้อมมือไปจับมือของแทมินมากุมไว้เบาๆ แทมินดูเขินกับการกระทำของจงอินจนแก้มสองข้างที่ขาวอยู่แล้วค่อยๆมีสีแดงระเรื่อ

     

    “พวกนายเป็นแฟนกันหรอ?”

     

    ผมกลั้นใจถามทั้งๆที่สองคนนี้ก็แสดงให้เห็นอยู่แล้ว  ว่าพวกเขามีความสัมพันธ์แบบไหนกัน  แต่ถึงอย่างนั้นผมก็อยากฟังคำตอบ คำตอบจากปากจงอินหรือแทมินก็ได้ คำตอบที่ว่าพวกเค้าไม่ได้เป็นอะไรกัน.... ผมแค่คิดไปเองคนเดียว....

     

    “ถูกต้องแล้วหล่ะ อี้ซิงเพื่อนรัก ฉันกับแทมินเราเป็นแฟนกัน”

     

    เหมือนกับว่ามันเป็นประโยคที่ดังก้องอยู่ในโสตประสาทของผมซ้ำแล้วซ้ำเล่า  ผมมองจงอินจับมือแทมินด้วยความปวดร้าวในใจ ราวกับว่าใจของผมมันกำลังแตกเป็นเสี่ยงๆ ทั้งที่จงอินไม่เคยรักใครจริงจังเลยสักครั้ง มันยังช่วยให้ผมพอมีความหวังอยู่บ้าง แต่นี่จงอินกล้าพูดได้เต็มปากว่าแทมินเป็นแฟนเขา

     

    ความรักของผมที่เก็บไว้มานานกำลังจะสูญหายไปแล้วสินะ....

     

    “ฉันไม่อยากคุยกับนายแล้วจงอิน  อี้ซิงนายน่ารักกว่าที่ฉันคิดอีกนะ ไม่เห็นเหมือนที่จงอินบอกสักนิด อ้อ! ฉันเคยดูคลิปที่นายแข่งต้นเมื่อต้นปีด้วยนะ มันสุดยอดมากเลยหล่ะ ฉันอยากเต้นเก่งเหมือนนายจัง”

     

    แทมินหันมาคุยกับผมแทน แต่จงอินก็สวนขึ้นมาว่า
     

    “โธ่แทมิน  ถึงนายยังเต้นไม่เก่งเท่าอี้ซิง แต่ฉันเชื่อว่านายฝึกไม่นานนายต้องเก่งกว่าเจ้านี่แน่ นายหน่ะน่ารักกว่าอี้ซิงตั้งเยอะ ไม่แคระแกนเหมือนเจ้าบ้านี่ด้วย นี่หันมาคุยกับฉันดีกว่า ไหนบอกมีขนมมาให้กินไง”

     

    “อย่าว่าอี้ซิงแบบนั้นสิ อี้ซิงตัวเล็กน่ารักจะตายไป”
     

    “ไม่เห็นน่ารักตรงไหน ตัวก็เล็กเกินไป ฉันไม่ค่อยชอบ เวลาทะเลาะกันทีไรเหมือนฉันหาเรื่องเด็กยังไงไม่รู้”

     

    แทมินยิ้มเขินๆ กับคำหยอดหวานๆของจงอิน ฝ่ามือเล็กเอื้อมไปตีที่แขนของจงอินเบาๆ เหมือนกับลงโทษ แต่ผมก็อดแปลกใจตัวเองไม่ได้ ว่าทำไมยังนั่งหัวเราะต่อไปได้ทั้งๆที่ดวงตาพร่ามัวไปหมด แทบจะมองไม่เห็นอะไรอยู่แล้ว ผมแอบเช็ดน้ำตาที่เกือบจะไหลออกมา

     

    ฉันดูแย่ขนาดนั้นเลยหรอจงอิน......

    ฉันเป็นแค่ตัวตลกที่นายเอาไว้เปรียบเทียบกับคนอื่นใช่ไหม.....

     

    “อี้ซิงทานด้วยกันนะ”

     

    แทมินยื่นคุกกี้หน้าตาน่ากินที่บรรจุอยู่ในกล่องสีสวยน่ารักเหมือนเค้าเลย มันช่างแตกกับคุกกี้สีโทรมๆของผมเหลือเกิน คุกกี้ที่ที่มีสภาพแตกๆหักๆไม่ต่างจากหัวใจของผมในตอนนี้สักเท่าไหร่ มันดูไร้ค่า น่าสมเพส และคงไม่มีใครต้องการมัน... ผมแอบดันกล่องคุกกี้ให้เข้าไปอยู่ในสุดของกระเป๋าทันที ไม่อยากให้จงอินเห็นแล้วเอามาเปรียบเทียบผมเป็นตัวตลกอีกครั้ง คุกกี้แบบนี้... หัวใจดวงนี้... ใครหล่ะจะต้องการมัน

     

    ผมมาทำไรที่นี่นะ...มาอยู่เป็นส่วนเกินของพวกทำไม

     

    ผมถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ยิ่งมองทั้งสองคนแสดงความรักต่อกัน ผมก็ยิ่งเจ็บปวดใจมากขึ้นเท่านั้น มันทำให้ผมรู้สึกว่า ผมไม่เหลืออะไรอีกแล้ว

     

    ที่นั่งของแทมิน คือที่ที่ผมไม่มีวันได้นั่ง ที่ตรงนั้นกลางใจของจงอิน...

     

    ผมกลั้นน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมาอีกครั้ง  หวังว่ามันคงไม่ไหลออกมาให้จงอินต้องลำบากกับความรู้สึกข้างเดียวของตัวเอง ผมกัดฟันพูด แล้วทำหน้าตาสดใสให้ดูเป็นธรรมชาติที่สุด ถึงแม้ว่ามันจะยากเต็มทีก็ตาม

     

    “จงอิน แทมิน ฉันนึกได้ว่าต้องไปทำธุระหน่ะ ฉันไปก่อนนะ”

     

    ผมคว้ากระเป๋าสะพายแล้วลุกออกไปจากร้านทันทีที่พูดจบ  น้ำตาที่กักเก็บไว้นานแสนนานไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย เสียงสะอื้นดังออกมาทำให้รู้ว่าหัวใจตัวเองบอบช้ำแค่ไหน  ถึงแม้จะมีเสียงจงอินตะโกนตามไล่หลังแต่ผมก็ไม่สามารถหันกลับไปมองเขาได้ ไม่อยากให้เขาเห็นว่าผมร้องไห้

    ความรักที่ยาวนานของผม มันจบลงแล้ว......

     

     

    ท่ามกลางความหนาวเหน็บของอากาศในเดือนทันวา ทุกย่างก้าวที่เดินมามีแต่ความเจ็บปวดในหัวใจ ผมได้แต่ยืนมองคู่รักที่เคียงข้างกัน อย่างมีความสุข พวกเขาช่างดูอบอุ่น และเปร่งประกายในแบบที่ผมไม่มี ในขณะนี้คงไม่มีใครสังเกตใบหน้าผม ที่มีแต่รอยคราบน้ำตาเต็มไปหมด

     

    ผมหยิบลูกแก้วขนาดเท่าลูกปิงปอง สีฟ้ามรกตขึ้นมาดู มันเป็นสิ่งที่ผมพกติดตัวเสมอก็เพราะว่า...

     

    “จางอี้ซิง!!  นี่เป็นเครื่องรางแห่งความรัก ถ้ามันหลุดจากมือเจ้าของมันแล้วกลิ้งไปหาใคร แสดงว่านั่นคือเนื้อคู่เรา จำไว้นะเจ้าเตี้ย ฉันให้แกเป็นของขวัญวันเกิด เผื่อแกจะมาแฟนกับเค้าซักที....เฮ้ยย!!! ลูกแก้วนั่นกลิ้งไปหาแกแล้ว ตายแล้วนี่ฉันเป็นเนื้อคู่แกงั้นหรอ? ฮ่าๆๆ ๆ ๆ”

     

    ลูกแก้วที่หลุดจากมือจงอินแล้วกลิ้งมาทางผมในตอนนั้นมันทำให้ใจผมเต้นรัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน  ถึงแม้จะรู้ว่าจงอินตั้งใจทำให้มันหลุดมือก็ตาม แต่ผมก็ยังปักใจเชื่อว่าจงอินจะ เป็นคนเดียวที่ผมรักตลอดไป...

     

     

    พลั่กก ก !!

     

    “ขอโทษครับๆ”

     

    คำขอโทษถูกรัวใส่ผมอย่างรวดเร็ว  แล้วชายคนนั้นก็วิ่งจากไป

     

    ผมถูกชนจนล้มลงไปกองที่พื้นถนน  พอได้สติ ในมือผมกลับว่างเปล่า ลูกแก้ว!! ลูกแก้วของผม!!

    มันหายไปไหนแล้วผมพยายามมองหา ก็ไม่พบวี่แววของลูกแก้วเลย ถึงจะถูกเดินชนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผมก็ไม่สนใจ ยังไงซะวันนี้ก็ต้องหา......ต้องหาลูกแก้วให้เจอ

     

    และแล้วผมก็เห็นประกายสีฟ้าของลูกแก้ว มันกำลังกลิ้งห่างจากผมไปทุกทีๆ ผมพยายามวิ่งตามก่อนมันจะหายไปจากสายตาอีกครั้ง ลูกแก้วค่อยๆวิ่งไปตามพื้นลาด ปลายทางของมันคือ ...  สวนสาธารณะ

     

     

     

     

     

     




     


    Ect.


    จบตอนแรกแล้วพระเอกของฉันยังไปมุดน้ำงมหอยอยู่ที่ไหนไม่รู้เมื่อไหร่จะออกมา(นั่นสิ)
    นางคิวเยอะ อิกระเทยแวนคูเวอร์กำลังซ้อมหลีดมหาลัยอยู่นางไม่ว่างมาเข้าฉาก
    ปล่อยนางสวยไปสักพักเดี๋ยวนางทนเห็นน้องทอมอี้ซิงที่รักของนางโดนรังแกไม่ไหว
    เดี๋ยวนางก็ออกมาเอง  อย่าพึ่งเบื่อฉันนะ ตอนหน้าฉันสัญญา
    จะลากวิญญาณของกระเทยแวนคูเวอร์ให้เลิกสิงพระเอกของฉันแล้วเอาอู๋อี้ฟานกลับมา
    ตอนนี้ พระเอกไม่อยู่อนุญาตให้นักอ่านซับน้ำตาน้องทอมอี้ซิงไปแทนไปก่อน
    ฉันจะขายผ้าเช็ดหน้าให้ อิอิอิอิ


    @comebaek10  ตามไปทวงไปด่ากันได้ที่แอคนี้  เห็นดิสไคเลย์อย่าตกใจหล่ะ
    แค่กำลังปูทางวางให้อิเสี่ยไก่เป็นชู้น้องซิงอย่างเต็มตัว
    จะได้มีคนปลอบน้องซิงตอนพี่คริสเป็นกระเทย -..-

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×