คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : -1- [NiorBam] ... สิ่งที่มันกำลังเกิด
-1-
NiorBam – สิ่งที่มันกำลังเกิด
เราไม่มีอะไรเหมือนกัน
ต่างคนก็ต่างความฝัน เรานั้นไม่ควรมาเจอ
แต่สุดท้ายชีวิตของฉันและเธอ
เป็นเรื่องตั้งใจหรือเผลอ ที่เราสองได้มาผูกพัน
ตึก! ตึก! ตึก!....
ฝีเท้าหนักๆ กระแทกลงบนบันได้หินอ่อนอย่างเร่งรีบแต่ด้วยความที่ขาถูกใช้งานค่อนข้างเกินกำลังจึงทำให้ทิ้งน้ำหนักแรงกว่าปกติจนเกิดเสียง
“อ้ะ! เอาไป!”
คนตัวสูงยิ้มกริ่มเมื่อเห็นร่างเหนื่อยหอบของคนตรงหน้าขว้างกระเป๋าใบเล็กมากระแทกอกดังปั้กแต่เขาก็ยังคงอารมณ์ดี
“ทำงานดีนี่จูเนียร์... นั่งพักก่อนแล้วกัน”
อิมแจบอมเอ่ยกับอีกคนที่ท่าทางโรยแรงเต็มทีสงสัยจะดื่มเยอะไปหน่อยหล่ะมั้งเพราะนี่แค่ขึ้นบันได้มาแค่สามชั้นเท่านั้น
“ช่างฉันเถอะน่า... รีบจัดการซะ จะได้เอาไปคืน”
จูเนียร์หรือปาร์คจินยองเอ่ยอย่างรำคาญแกมหงุดหงิด ทั้งที่เขากำลังเมามันส์อยู่ที่ฟลอร์แท้ๆ เจ้าเพื่อนตัวดียังสู้อุตส่าห์หาเหามาใส่หัวเพราะอยู่ดีๆ เกิดเจอคนถูกใจในผับจนต้องถึงขั้นใช้ความสามารถพิเศษของเขา
“อย่าบ่นน่า... ฉันก็รีบอยู่”
“ให้ไว!”
จูเนียร์ทิ้งตัวลงนั่งและพิงศีรษะลงบนพนักด้านหลัง แต่เพียงไม่กี่นาทีกระเป๋าเงินพร้อมโทรศัพท์มือถือก็ถูกยื่นมาตรงหน้า
“อ้ะ! .. ส่วนค่าเหล้าคืนนี้ก็... หายกัน” แจบอมยักคิ้วให้อย่างกวนประสาท
“ค่าเหล้านายมันโคตรแพง”
จูเนียร์บ่น แต่ก็รับของนั่นมาแต่โดยดีเพื่อจะเอาไปคืนเจ้าของก่อนที่จะรู้ตัว ว่ากันจริงๆ จูเนียร์ก็ไม่ได้มีสภาพเต็มร้อย... หากพูดถึงสติสัมปชัญญะก็มีอยู่ไม่ถึงเจ็ดสิบเปอร์เซนต์ทว่าสัญชาตญาณกลับยังทำงานได้ดี
ร่างเล็กบางตรงหน้าคือเป้าหมาย... แต่เพียงไม่กี่ก้าวที่เขาจะไปถึงตัวก็มีแขกไม่ได้รับเชิญโผล่มาเสียก่อนทำให้เขาต้องชะงักเท้าเอาไว้
ผู้ชายร่างกายค่อนข้างกำยำที่ย่างเข้าประชิดอย่างที่มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นพวกเสือ สิงห์ กระทิง แรด แต่ดูคล้ายคนถูกเข้าหาจะไม่ค่อยจะพอใจสักเท่าไหร่นักเพราะถึงกับปัดมือที่เยี่ยมกรายมาลวนลามอย่างไม่กลัวเกรงแม้จะตัวเล็กกว่า
แต่สิ่งที่ปาร์คจินยองไม่คาดคิดนั่นคือ... ร่างเล็กเหวี่ยงหมัดใส่สันกรามผู้ชายคนนั้นเพียงชั่วพริบตาที่จูเนียร์ละไปสอดสายตาหาเพื่อนสนิท
เหตุการณ์ที่เริ่มชุลมุนตรงหน้าทำให้เขาเลือกที่จะคว้าคนแสนใจร้อนฝ่าออกมาแทนที่จะพะบู๊กันตรงนั้นเพราะหากเจ้านั่นตั้งสติได้คนตัวเล็กนั้นเสียเปรียบเห็นๆ
“เฮ้ย!คุณ!”
เสียงหวานปนห้าวเอ่ยอย่างตกใจทั้งพยายามยื้อตัวไว้พร้อมกับสะบัดแขนแต่ขาเรียวก็ยังก้าวเร็วๆ ตามคนตรงหน้าทัน
จูเนียร์หันมองด้านหลังที่มีกลุ่มคนไม่ต่ำกว่าห้าตามมาติดๆ ทำให้เจ้าตัวต้องลากอีกคนออกมาด้านนอกคลับอย่างหมดหนทางก่อนจะยัดคนตัวเล็กเข้าไปในรถสีขาวที่จอดอยู่ไม่ไกลนัก
“เข้าไป!... ถ้ายังไม่อยากไปนอนโรงพยาบาล!!”
ได้ผล... คนตัวเล็กนั่งนิ่งไม่ขัดขืนเมื่อเห็นคู่กรณีวิ่งตามมาอย่างไม่ลดละ จูเนียร์กระตุกยิ้มเล็กๆ เมื่อเห็นคนข้างๆ ปรับเบาะลงอย่างอัตโนมัติพร้อมเอนตัวลงนอนตะแคงและยกสองแขนขึ้นบังหน้าตัวเองเอาไว้
รู้งานแฮะ....
คันเร่งถูกเหยียบเร็วแรงจนล้อฟรีก่อนจะทำการเร่งเครื่องสลัดคู่กรณีจอมตื๊อที่ไล่มาอย่างไม่ลดละ แต่จูเนียร์ก็อาศัยความชำนาญพื้นที่หลุดรอดมาได้โดยใช้เวลาไม่นานนัก
“อ้ะ...เอาไป!”
กระป๋องน้ำอัดลมถูกยื่นให้อีกคนที่นั่งนิ่งเงียบอยู่ในรถมาได้สักพักแล้ว
“ขอบคุณครับ... แล้วก็ขอบคุณที่ช่วยผม”
“นายก็พูดได้นี่...” จูเนียร์หัวเราะในคอ
“แล้วนี่... ของของนาย”
กระเป๋าเงินกับโทรศัพท์ถูกโยนลงที่ตักทำให้เจ้าของของนั่นมีสีหน้าตกใจ
“ของผม? คุณเป็นโจร?” คนตัวเล็กเลิกคิ้วสูงอย่างไม่เข้าใจ
“ตลกน่า...” จูเนียร์บอกปัด “ฉันเก็บได้...จะคืนนาย แต่เจอนายมีเรื่องเสียก่อน”
“งั้นก็...ขอบคุณอีกครั้งครับ”
คนตัวเล็กยกน้ำอัดลมในมือขึ้นดื่มโดยมีสายตาของจูเนียร์ทางเอาคางเกยพวงมาลัยลอบมองเป็นระยะ ใบหน้าหวานกับดวงตากลมโตทำให้เขาดูคล้ายเด็กผู้หญิงอยู่มาก แถมตัวก็บาง... ไม่แปลกที่จะถูกพวกชอบแต๊ะอั๋งเข้าหาและยิ่งมาคนเดียวยิ่งแล้วใหญ่
“มีอะไรจะพูดกับผมเหรอ?”
คนถูกมองหันมาถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ดูเหมือนจะรู้ตัว
“เปล่า... แค่มอง”
จูเนียร์ตอบตามตรง แต่ที่ไม่ได้บอกนั่นคือสิ่งที่เขาคิค
คิดว่า... นายก็น่ารักดีนะ
“คุณชอบผมรึเปล่า?” จู่ๆ เด็กนั่นก็ถามขึ้นมา
“ห๊ะ? อะไรนะ?” ถึงจูเนียร์จะดื่มไปเยอะ ทว่าก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีสติหรอกนะ ส่วนอีกคนนั้นเขาเองก็ไม่แน่ใจ แต่เหมือนจะรู้ทันความคิด
“ผมไม่ได้เมา แค่อยากรู้”
“ไม่รู้สิ ฉันยังไม่ได้คิด”
“เหรอ? ใช้เวลาคิดนานไหม?”
“ก็ไม่รู้อีกนั่นแหละ” จูเนียร์ลอบยิ้มในหน้าเล็กน้อย เขาเริ่มรู้สึกว่าเด็กนี่...น่าจะเมา
“เสียเวลาชะมัด!”
“เอ้า.. ก็ฉันเพิ่งเจอนาย แล้วฉันไม่รู้ ฉันผิดตรงไหนล่ะ เอางี้ดีกว่า บ้านนายอยู่ไหน? ฉันจะไปส่ง...ดึกแล้ว”
จูเนียร์ยิ้มบางให้คนแสนใจร้อนที่ดูเริ่มอารมณ์ไม่ค่อยดีก่อนจะขับรถออกจากหน้าร้านสะดวกซื้อที่แวะจอดเพื่อหาเครื่องดื่มเบาๆ แก้กระหาย
คนตัวเล็กบอกจุดหมายปลายทางอย่างว่าง่ายซึ่งผู้ที่เป็นสารถีก็พาไปแต่โดยดี เขาไม่ได้ลืมหรอกนะว่าคนข้างๆ ก็เป็นหนึ่งในคนที่อิมแจบอมผู้เป็นเพื่อนของเขามีท่าทีสนใจอยู่
รถสีขาวชะลอลงเมื่อถึงหน้าบ้านหลังสีครีมสองชั้นหลังใหญ่ที่มีพื้นที่กว้างมากถ้าสังเกตจากแนวรั้ว คนตัวเล็กมีสีหน้ากังวลเล็กน้อยก่อนจะเปิดประตูรถลงไป
“เอ่อ... คุณชื่ออะไรอ่ะครับ?”
คนตัวเล็กยังไม่ลืมที่จะหันมาถามชื่อของคนที่ช่วยเขาไว้แถมยังใจดีมาส่งอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก
“จูเนียร์...” เจ้าของรถสีขาวที่เปิดกระจกฝั่งคนขับแล้วเอาคางเกยไว้ตอบอย่างเดาออกว่ายังไงเขาก็ต้องหันมาถาม แล้วก็ไม่รู้เพราะอะไรที่ทำให้ตัวเองเอ่ยคำตอบออกไปอย่างง่ายดาย
“ขอบคุณอีกครั้งนะครับ” เขาเอ่ยพร้อมค้อมศีรษะ
“ไม่เป็นไร เข้าบ้านดีๆ ล่ะ”
จูเนียร์กดปิดกระจกแต่ก็ยังรอให้อีกคนเข้าประตูบ้านไปเสียก่อนที่จะเคลื่อนรถออกไปทำให้คนที่ยืนอยู่ด้านในระบายยิ้มนิดๆ อย่างรู้สึกดีขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
เมื่อไหร่ที่ฉันไม่เจอเธอ คิดถึงทุกนาที
ห่างหายกันหลายวัน ก็เหงาใจอย่างนี้
เธอเป็นเหมือนกันบ้างไหม
สิ่งที่มันกำลังเกิดกับเราทั้งสองคน
เธอเรียกมันว่าความรักหรือเปล่ามันชอบกล
เคยคิดถึงกันบ้างไหม เคยเหงาหัวใจบ้างไหม
วันนี้เธอเป็นอย่างไรตอบให้หายสงสัยให้รู้ที
“เฮ้! เพื่อนยาก.. ทำไมนั่งคนเดียว?”
อิมแจบอมทักทายเพื่อนสนิทน้ำเสียงสดใสจนคนที่นั่งอยู่ก่อนถึงกับเหล่มอง เพราะหากมาแบบนี้ก็คงจะมีเรื่องให้ช่วยอีกนั่นแหละ
“จูเนียร์เพื่อนยาก... จัดการคนนั้นทีสิ” นั่นไง... เดาผิดที่ไหน
“ใครอีกล่ะ? คุกตะรางทั้งนั้น!”
ก็แน่หละ... ฉกกระเป๋ากะโทรศัพท์เนี่ย โดนจับได้เป็นเรื่องแน่ๆ แต่สำหรับจูเนียร์งานแบบนี้หวานยิ่งกว่าขนมเด็กเสียอีก
“นั่น...” นิ้วของอิมแจบอมชี้ไปที่ผู้หญิงชุดดำสุดมุมร้านด้วยใบหน้าระริกระรี้อย่างที่สุด
“แล้วคนวันก่อนล่ะ?”
“ยังไม่ได้ทำอะไรเลย... แต่เอาวันนี้ให้รอดก่อน ค่าตอบแทนคือบิลคืนนี้แถมด้วยคืนพรุ่งนี้ด้วยอ้ะ”
จูเนียร์วางแก้วบรรจุน้ำสีอำพันในมือลงแล้วยืดตัวขึ้นเต็มความสูง เพียงเท่านั้นก็ทำให้อิมแจบอมยกยิ้มระรื่นแล้วเดินผละไปเพื่อรอผลงานทันที
เป็นอันรู้กันว่า... รับข้อเสนอ
.
.
.
รถสีขาวจอดนิ่งที่ฝั่งตรงข้ามของบ้านสีครีมหลังใหญ่ในเวลาตีสองกว่าๆ แม้บ้านทั้งหลังจะปิดไฟมืดจะเหลือก็แต่ไฟด้านนอกที่ส่องสว่างแต่ห้องๆ หนึ่งบนชั้นสองกลับมีแสงสลัวที่น่าจะมาจากโคมไฟเปิดอยู่
‘คุณมาทำอะไรหน้าบ้านผม...?’
เสียงเตือนข้อความเข้าดังขึ้นแต่เจ้าของเครื่องกลับต้องมุ่นคิ้วเมื่อเห็นข้อความ แต่แทนที่จะโทรกลับไปเขาเลือกที่จะตอบข้อความนั้นแทน
‘นายมีเบอร์ฉันได้ยังไง?’
เพียงแค่อึดใจก็มีข้อความตอบกลับมา
‘ก็เอามาจากเครื่องคุณ ผมชื่อแบมแบม... เผื่อรอบหน้าคุณจะเรียกผมถูก ขับรถกลับดีๆ ล่ะ ฝันดีนะครับ’
รถสีขาวขับออกไปหลังจากอ่านข้อความนั้นจบราวกับเด็กที่แอบทำอะไรแล้วถูกจับได้ยังไงยังงั้น
ใจได้มีหนึ่งคนสำคัญ
ได้มีหนึ่งคนในนั้น วันนี้คนเดียวคือเธอ
อยากจะรู้ในเรื่องที่เราได้เจอ
เธอนั้นตั้งใจหรือเผลอ ทำให้ฉันได้มาผูกพัน
เมื่อไหร่ที่ฉันไม่เจอเธอคิดถึงทุกนาที
ห่างหายกันหลายวัน ก็เหงาใจอย่างนี้
เธอเป็นเหมือนกันบ้างไหม
ช่วงนี้โปรแกรมไลน์กลายเป็นโปรแกรมแชทประจำของจูเนียร์จนแทบจะเรียกได้ว่าติด ไม่ว่าจะเดินไปไหนหรือแม้แต่ตอนเข้าเรียนในคลาสก็ยังอุตส่าห์แอบหยิบโทรศัพท์ออกมาดูแถมทุกครั้งยังมีรอยยิ้มผุดอยู่บนหน้าบ่อยๆ แม้จะนั่งอยู่เพียงลำพัง
กว่าสองอาทิตย์ที่ชายหนุ่มมีเพียงแค่ส่งข้อความและส่งเสียงโต้ตอบกับแบมแบมแต่นั่นก็ทำให้เขารู้สึกดีกับอีกคนแม้จะไม่ได้เจอหน้ากันสักครั้งหลังจากวันนั้นเลยก็ตาม ซึ่งดูเหมือนอีกฝ่ายก็ไม่ต่างกัน
คืนวันเสาร์เป็นวันที่จูเนียร์จะต้องเข้ามาสิงสถิตอยู่ในคลับอยู่เป็นประจำจนเรียกได้ว่าเป็นกิจวัตร จังหวะเพลงเร้าใจทำให้บรรยากาศร้อนแรงแต่คนอย่างเขาก็ไม่ได้สนใจมากนักเพราะอยู่กับมันมานานจนชักจะชินชาแล้ว
ผมสีบรอนด์แสนโดดเด่นที่แวบเข้ามาในสายตาทำให้จูเนียร์ต้องหันไปมองก่อนจะลุกขึ้นแหวกทางผู้คนตามไปอย่างสนใจ
เพียงแค่ดวงหน้าด้านข้างที่เห็นก็ย้ำเตือนความทรงจำของเขาได้ทันที ร่างสูงเร่งจังหวะก้าวให้เร็วขึ้นเพื่อตามคนข้างหน้าให้ทัน
“แบมแบม!”
“ไอ้เนียร์!”
จังหวะเดียวกันกับที่จูเนียร์เอ่ยเรียกคนข้างหน้าที่ห่างแค่ปลายนิ้ว เสียงทุ้มอีกเสียงก็เรียกชื่อของเขาเช่นเดียวกัน แต่เสียงเรียกนั่นเป็นของอิมแจบอมนี่สิ
มือหนาคว้าคนที่กำลังหันตามเสียงเรียกด้วยสัญชาตญาณก่อนจะดันคนตัวเล็กจนหลังติดกำแพงแล้วเอียงหน้าเข้าใกล้อย่างได้องศาราวกับกำลังจะจูบคนตรงหน้า
“อยู่เฉยๆ...” จูเนียร์กระซิบแผ่วให้พอได้ยินโดยที่คนที่ถูกกระชากยังตกใจไม่หายทว่ากลับมีสติมากพอสมควร
จูเนียร์ปรายตามองอิมแจบอมที่เข้ามาใกล้นิดหน่อยราวไม่ใส่ใจก่อนจะยกมือดึงฮู้ดขึ้นคลุมหัวแล้วหันกลับมาหาคนตรงหน้าเหมือนจะตัดการสื่อสารกับเพื่อน นัยว่า ติดธุระส่วนตัว...ห้ามรบกวน
สายตาของจูเนียร์และแบมแบมสบตากันนิ่งในระยะไม่กี่เซนติเมตร ลมหายใจที่รดกันทำให้ทั้งสองไม่มีแม้แต่คำพูดต่างจากช่วงระยะเกือบสองอาทิตย์ที่คุยกันในโปรแกรมแชทไม่เว้นแต่ละวันอย่างสิ้นเชิง
แต่เกมส์จ้องตากลับจบลงด้วยน้ำมือของอิมแจบอม
ริมฝีปากของทั้งคู่สัมผัสกันอย่างไม่ตั้งใจ... เพียงเพราะอิมแจบอมเกิดหมั่นไส้เพื่อนจนอยากแกล้งขึ้นมาแล้วยกมือขึ้นดันศีรษะจูเนียร์แรงๆ ไปหนึ่งทีก่อนจะจากไปพร้อมเสียงหัวเราะลั่นอย่างขบขันโดยที่ไม่รู้สึกนิดว่าอีกคนหนึ่งเป็นคนที่เขาสนใจเมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อน
คนตัวเล็กเบิกตากว้างเมื่ออยู่ดีๆ ก็ถูกจูบแบบไม่ทันเตรียมใจ มือบางยกขึ้นเตรียมผลักร่างสูงตรงหน้าออกอย่างอัตโนมัติแต่กลับได้รับสัมผัสแปลกจากเขาเสียก่อนจนชะงักค้าง
แม้การถูกแกล้งจากอิมแจบอมเป็นเรื่องบังเอิญ... แต่ต่อจากนั้นจูเนียร์กลับตั้งใจที่จะทำและขอบอกเลยว่าไม่ใช่เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์แต่มาจากความรู้สึกล้วนๆ
ทันทีริมฝีปากหนาขบเม้มที่ริมฝีปากล่างของคนตัวเล็กอย่างยั่วเย้า คนถูกสัมผัสกลับนิ่งงันแต่หัวใจกลับเต้นแรงอย่างช่วยไม่ได้ ลิ้นร้อนเลาะเล็มสำรวจโพรงปากด้วยความย่ามใจก่อนจะไล้หยอกให้ลิ้นเล็กเริ่มตอบสนองจนมือหนาประสานกับมือบางที่ชะงักค้างอยู่ ออกแรงนวดเบาๆ ที่หลังมือก่อนจะจับขึ้นคล้องคอตัวเองจากนั้นก็เลื่อนมือหนึ่งประคองต้นคอให้รับจังหวะจูบที่ร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ส่วนอีกมือก็สัมผัสแผ่วอยู่แถวขอบสะโพกบางอยู่เนิ่นนานท่ามกลางบรรยากาศที่เอื้อต่อการเร้าอารมณ์ของทั้งคู่เสียเหลือเกิน
สิ่งที่มันกำลังเกิดกับเราทั้งสองคน
เธอเรียกมันว่าความรักหรือเปล่ามันชอบกล
เคยคิดถึงกันบ้างไหม เคยเหงาหัวใจบ้างไหม
เมื่อฉันไม่อยู่ตรงนั้นเธอเองจะเป็นเช่นไร
แสงแดดยามเช้าที่สาดเข้ามาเพราะลืมปิดม่านทำให้ร่างสูงที่นอนอยู่ต้องยกผ้าห่มขึ้นมาบังอย่างคร้านก่อนจะวาดมือไปหาคนข้างกายที่อยู่ด้วยกันมากว่าหนึ่งอาทิตย์ แขนแข็งแรงดึงร่างเล็กกว่าเข้าหาตัวจนหลังชิดแผ่นอกเปล่าเปลือยก่อนจะซุกใบหน้าลงที่ซอกคอขาวแต่กลับถูกขัดการนอนเพราะถูกฟาดเบาๆ ที่หน้าด้วยผ้าขนหนู
“ตื่นได้แล้ว...” คนข้างกายเอ่ยเสียงเรียบ
“วันนี้มีอะไรล่ะ?”
“จูเนียร์... คุณต้องไปส่งรายงานไม่ใช่เหรอ?” เสียงหวานตอบทั้งที่นอนอยู่ท่าเดิมไม่ขยับ
“เรียกว่าพี่จูเนียร์ หรือว่าพี่จินยอง มันยากนักเหรอแบมแบม” ปากก็พูดไปแต่ตายังคงหลับเหมือนเดิม
“ก็ยากนะ”
“เหรอ?...”
เมื่อได้ยินคำตอบที่ไม่น่าพอใจนักจูเนียร์ก็จัดการตวัดผ้าห่มออกจากตัวของอีกคนเพื่อแก้เผ็ด
“เฮ้ย! เฮ้ย!... เฮ้ยยยยยย...”
คนกวนประสาทร้องเสียงหลงเมื่อร่างเปลือยเปล่าเผยออกจากผ้าห่มผืนหนามาท้าลมท้าแดดจนร้องเสียงหลงพร้อมกับไขว่คว้าผ้ากลับมาคลุมตัวแทบไม่ทันโดยมีเสียงของคนขี้แกล้งหัวเราะลั่นอยู่ข้างๆ
“โทษที... มันติดมือ”
จูเนียร์หันมาบอกขำๆ ก่อนจะลุกขึ้นใช้ผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ทิ้งให้คนบนเตียงทำหน้าคว่ำไล่หลังไปอย่างฝากไว้ก่อน
รถมอเตอร์ไซต์สี่สูบคันโตสีดำเลี้ยวเข้าประตูมหาวิทยาลัยโดยมีจูเนียร์เป็นคนขับและมีอีกคนซ้อนอยู่จอดนิ่งสนิทที่หน้าคณะ เจ้าตัวรีบวิ่งไปส่งงานและบอกให้คนตัวเล็กนั่งรอที่ใต้ตึก
แบมแบมมองรอบข้างอย่างไม่ค่อยคุ้นเคยเพราะมาแค่ไม่กี่ครั้งจึงเลือกที่จะเล่นเกมส์รออีกคนมากกว่าจะต้องนั่งเอ๋ออยู่คนเดียว แต่กลับต้องเปลี่ยนความคิดเพราะคนมาใหม่ที่เขาไม่เคยรู้จัก อันที่จริงเขาก็ไม่เคยรู้จักใครในมหาวิทยาลัยนี้สักคนนอกจากจูเนียร์
“เด็กน้อย... ไม่คิดว่าจะได้เจอนายที่นี่”
“คุยกับผม?... เราเคยเจอกันเหรอ?” คนตัวเล็กมีท่าทีไม่ค่อยแน่ใจ
“ฉันจำได้ว่านายชื่อกันต์พิมุกต์”
แบมแบมยิ่งแปลกใจที่เขารู้แม้กระทั่งชื่อจริงของตัวเองแต่สัญชาตญาณสั่งการว่ามีบางอย่างไม่น่าไว้ใจ
“ผมว่า... ผมไม่เคยพบคุณ เอ่อ.. ขอตัวนะครับ” เขาเอ่ยลาเมื่อก้มมองข้อความแชทที่ถูกส่งมาโดยมีสายตาของแจบอมมองไม่ละสายตา
ที่จริงจูเนียร์ลงมาจากการส่งงานและกำลังจะเดินไปหาแบมแบมที่โต๊ะประจำทว่าเมื่อไปถึงกลับพบอิมแจบอมกำลังนั่งอยู่ด้วยทำให้เขาต้องส่งข้อความให้อีกคนเดินออกมาแทนที่จะรอเขาอยู่ตรงนั้น
อิมแจบอมเป็นคนหวงของ...แม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นเพียงแค่สิ่งที่เขาหมายตาไว้ ตอนแรกจูเนียร์คิดว่าเพื่อนของเขาจะลืมแบมแบมไปแล้ว แต่เขาคิดผิดไปถนัดเมื่อเห็นสายตาที่มองตามหลังคนตัวเล็กไป
ใช่... จูเนียร์เห็นว่าอิมแจบอมสนใจคนอื่น เขาเลยกล้าที่จะสานสัมพันธ์กับแบมแบม แต่หากเรื่องออกมาเป็นแบบนี้เห็นทีเขาจะต้องกันแบมแบมออกให้ห่าง
ไม่อย่างนั้น... อาจจะมีเรื่องยุ่งๆ ตามมาก็ได้
.
.
.
“ต่อไปนี้... ห้ามไปที่คลับ แล้วก็ไม่ต้องไปที่มหาวิทยาลัยฉันนะ” จูเนียร์เอ่ยราวเป็นเรื่องพูดคุยปกติ
“ทำไม? นายมีอะไร?” ดูเหมือนแบมแบมจะใช้สรรพนามเปลี่ยนไปพร้อมทั้งน้ำเสียงที่จับผิดจนทำให้คนที่กำลังคิดมากอย่างจูเนียร์ยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู
“ไม่มี... ก็แค่เพื่อความปลอดภัย”
“ปลอดภัยอะไร? หวงเหรอ?” น้ำเสียงทำนองล้อเลียนทำให้รู้ว่าคนตัวเล็กตรงหน้าอารมณ์ดีขึ้นกว่าคำถามแรกเยอะ
“อืม... หวง” จูเนียร์ก็ตอบง่ายเช่นกัน โดยรวมแล้วก็เท่ากับหวงแหละนะ
“เป็นเหตุผลที่ดี ก็ได้... ไม่ไปก็ได้”
แบมแบมรับคำง่ายอย่างเหลือเชื่อจนจูเนียร์โล่งใจ นี่อุตส่าห์คิดหาเหตุผลเตรียมไว้มากมายทว่าแค่บอกว่าหวงแค่นี้ก็ยอมทำตามแล้ว... นายนี่น่ารักจริงๆ เลยนะ
“นี่แบมแบม... ชอบฉันมากไหม?” จูเนียร์โยกตัวเข้ามาถามใกล้ๆ ด้วยความอยากรู้
“อาทิตย์หนึ่งมี 7 วัน ผมอยู่กับคุณสี่วัน อยู่บ้านสามวัน นี่มันแปลว่าเกลียดงั้นสิ” คนตัวเล็กประชดเข้าให้
“เปล่า... ก็แค่ได้อยากได้ยิน” จูเนียร์ที่ดึงตัวกลับไปนั่งที่เดิมบอกทั้งที่ยิ้มแก้มแทบแตก
“ฟังนะ ผมชอบคุณ! ชัดไหม?”
สิ่งที่มันกำลังเกิดกับใจของฉันเอง
ฉันเรียกมันว่าความรักเต็มปากอย่างมั่นใจ
ฉันไม่เคยเป็นอย่างนี้ ไม่ว่ากับใครคนไหน
เธอเรียกมันว่าอย่างไร คือความรักใช่ไหมเราสองคน
สิ่งที่มันกำลังเกิดกับเราทั้งสองคน
เธอเรียกมันว่าความรักหรือเปล่ามันชอบกล
เคยคิดถึงกันบ้างไหม เคยเหงาหัวใจบ้างไหม
เมื่อฉันไม่อยู่ตรงนั้นเธอเองจะเป็นเช่นไร
หลายเดือนที่ผ่านมาจูเนียร์จะไปคลับเฉพาะวันที่แบมแบมอยู่บ้าน ส่วนวันที่แบมแบมอยู่กับเขาจะไม่ออกมาทำงานข้างนอกเพราะเลือกที่จะใช้เวลาอยู่กับคนตัวเล็กมากกว่า
แม้บรรยากาศของโดยรอบก็เดิมๆ แต่สีหน้าของเพื่อนของเขากลับแปลกไป
“จูเนียร์... งานของนายหนักแล้วหละ”
อิมแจบอมเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยดีนักก่อนจะยื่นซองสีน้ำตาลขนาดกลางให้ มือหนาเปิดซองแล้วหยิบของภายในอย่างไม่เข้าใจ แต่กลับต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นรูปที่อยู่ภายในนั้น
“แบมแบม...”
“นายรู้จัก?” แจบอมมองเพื่อนด้วยสายตาจับผิด
“ไม่..”
“แต่นายเรียกชื่อ...”
“ก็เด็กที่นายสนใจ ไม่ใช่เหรอ?”
“อืมใช่... แต่นายจัดการส่วนของนาย ฉันจะจัดการส่วนของฉัน”
หากจะเทียบว่าจูเนียร์เปรียบเสมือนนักย่องเบาก็คงใช่... แต่จริงๆ เขาเป็นนักโจรกรรมข้อมูลต่างหาก ทว่ากลับไม่ได้อยู่ภายใต้ความอิสระแต่อย่างใดเพราะเขามักจะรับงานผ่านอิมแจบอมเสมอและนั่นทำให้ถูกโยงให้เป็นคนของนายใหญ่อิมผู้เป็นลุงของเพื่อนไปโดยปริยาย
ดังนั้น... ก็สามารถนับได้ว่าอิมแจบอมเป็นเจ้านายของเขาด้วย
จูเนียร์กลับคอนโดช่วงเกือบตีสี่แต่กลับพบว่าคนตัวเล็กนอนหลับสบายอยู่บนเตียงกว้างทั้งที่ตอนแรกบอกไว้ว่าจะอยู่บ้าน ชายหนุ่มปลดกระเป๋าวางไว้ที่โต๊ะก่อนจะนั่งลงบนเตียงข้างคนรัก มือหนาเกลี่ยเส้นผมที่บรอนด์ที่ปรกหน้าให้อย่างเบามือก่อนจะก้มลงหอมแก้มเนียนเบาๆ
งานที่ได้รับเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กๆ คือ สืบความเคลื่อนไหวของแบมแบม...
แต่เรื่องใหญ่กว่านั้นที่เขาเป็นห่วงคืองานอีกส่วนที่แจบอมจะต้องเข้าไปใกล้ชิดแบมแบมเพื่อผลประโยชน์หากมีข้อผิดพลาดซึ่งนั่นต่างหากที่เขากลัว
มือบางปาดป่ายจนเจอกับมือของจูเนียร์ที่ชักหลบเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กขยับ ก่อนจะยิ้มให้บางๆ เมื่อได้ยินคำถามที่ติดงอนอยู่นิดๆ
“หนีเที่ยวเหรอ? กลับช้ามากรู้ไหม?”
“เปล่าหรอก แค่ไปธุระมานิดหน่อย”
“กลิ่นบุหรี่เต็มตัวเลย... ไปอาบน้ำเลยนะ” แบมแบมทำหน้ายู่ใส่บ่งบอกถึงความไม่ชอบอย่างเห็นได้ชัด
“รู้แล้วน่า เดี๋ยวอาบน้ำหอมมาเลย”
จูเนียร์คว้าผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำอย่างอารมณ์ดี แต่เมื่อบานประตูปิดลงหน้าเปื้อนยิ้มก็นิ่งขรึมลงโดยที่ดวงตายังจ้องมองไปที่ประตูบานหนาราวกับจะมองให้ทะลุถึงคนที่นอนอยู่บนเตียงอีกฝั่งของประตู
“ฉันรู้ว่านายรักฉัน... แล้วนายก็รู้ใช่ไหมว่าฉันรักนายมากเหมือนกัน และถ้าหาก...นายรู้ว่าฉันจำเป็นต้องโกหกนาย... นายจะเกลียดฉันไหม?”
สิ่งที่มันกำลังเกิดกับใจของฉันเอง
ฉันเรียกมันว่าความรักเต็มปากอย่างมั่นใจ
ฉันไม่เคยเป็นอย่างนี้ ไม่ว่ากับใครคนไหน
เธอเรียกมันว่าอย่างไร คือความรักใช่ไหมเราสองคน
เธอเรียกมันว่าอย่างไร คือความรักใช่ไหมเราสองคน
TBC…
อ่ะจ้ะ... เรื่องยังไม่ไปไหนไกล
สิ่งที่เห็นอาจไม่เป็นอย่างที่คิด หรือคิดถูกแล้วก็ไม่รู้
อะไรยังไง? ><
ความคิดเห็น