ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ GOT7 x YOU ] THE X - SECRET :: ลับ...เฉพาะหัวใจ(เธอ)

    ลำดับตอนที่ #3 : X-Secret : II – ตัวแสบ VS วงแตก

    • อัปเดตล่าสุด 8 มิ.ย. 58








    X-Secret : II – ตัวแสบ VS วงแตก

     

     

     

    จังหวะดนตรีเร้าอารมณ์ดังกระหึ่มโถงกว้างที่มีเพียงไฟแบล็คไลท์ประดับเพิ่มแสงสลัวส่องสว่างในที่มืดรอบบริเวณ ร่างหนาที่เพิ่งมาถึงคลับบนตึกสูงริมแม่น้ำเจ้าพระยาเดินแทรกนักเที่ยวอันเนืองแน่นจนมาถึงโต๊ะด้านบนที่มองเห็นไฟยามค่ำคืนด้านนอกได้ชัดเจนซึ่งเป็นมุมที่ดีและสวยงามมากทีเดียว

    ดวงตาคมจับจ้องร่างเพรียวที่นั่งอยู่เพียงลำพัง ใบหน้าน่ารักแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางริมฝีปากจรดลงที่แก้วเครื่องดื่มสีสันสดใสมองทอดสายตาออกไปด้านนอกอย่างเหม่อลอย แจ็คสันก้าวประชิดข้างเก้าอี้นวมก่อนจะก้มลงกระซิบข้างหูของเธอ


    “แฟร์รี่... คิดถึงผมอยู่รึเปล่า?”

     


    เฮือก!

     


    หญิงสาวสะดุ้งสุดตัวเมื่อถูกคุกคามแต่เมื่อหันมาเห็นว่าคนนั้นเป็นใครก็หัวเราะออกมาเบาๆ พลางยันตัวลุกขึ้นยืน

    “คุณเฉินไปโทรศัพท์ค่ะ เชิญนั่งก่อนสิคะ”

    แจ็คสันพยักหน้ารับ เมื่อครู่หากไม่ได้ตาฝาดเขาเห็นสายตาระแวดระวังไม่ใช่อาการตกใจอย่างที่ควรเป็นต่างจากตอนนี้ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มดังที่เคย

    “ผมว่า... ผมเคยพบคุณมาก่อน”    ชายหนุ่มเอ่ยหยั่งเชิง โอกาสดีแบบนี้ไม่ได้หาง่ายนัก

    “จริงเหรอคะ?”  แฟร์รี่ถามพลางนิ่วหน้าเอียงคอคิด

    “ที่เอ็มคลับ... เมื่อคืนนี้”  

    “เอ็มคลับ? เดี๋ยวนะคะ... คุณ  เพื่อนคุณมิโนคนนั้น”   หญิงสาวยกนิ้วชี้มาที่แจ็คสันราวกับเพิ่งนึกขึ้นได้

    “นึกว่าคุณจะความจำเสื่อมเสียอีก” 

    “ก็อาจจะเป็นแบบนั้นได้ เมื่อวานฉันค่อนข้างดื่มเยอะน่ะค่ะ... ความจำคงไม่ค่อยดีนัก” 

     

     

    รอยยิ้มอีกแล้ว... ไม่ว่าจะทำอะไรเธอดูสบายใจไปเสียหมด ช่างน่าอิจฉาเสียจริง... แต่น่าเสียดายที่คราวนี้มันมีไว้เพื่อกลบเกลื่อนคำโกหก 



    ...เขารู้ว่าเธอจำเขาได้ตั้งแต่แรกแล้ว

     

     

    ไม่ทันได้คุยอะไรกันต่อคนสำคัญของคืนนี้ก็กลับมาเสียก่อน บรรยากาศภายในโต๊ะก็เปลี่ยนไป ยิ่งปริมาณแอลกอฮอลล์เริ่มมากขึ้นคุณเฉินและแฟร์รี่ก็สกินชิพกันชัดเจนมากขึ้น และนั่นก็ทำให้แจ็คสันชักจะหงุดหงิด

     

     

    บอกตามตรง... แจ็คสันเพียงแค่เกิดไม่พอใจแทนมิโนที่มีแฟนมีพฤติกรรมแบบเธอเท่านั้น

     

     

    กว่าจะได้ที่ก็ปาไปค่อนคืน คุณเฉินจึงขอกลับไปพักผ่อนพร้อมแฟร์รี่ แจ็คสันเดินไปส่งที่รถจากนั้นก็รีบวิ่งกลับไปขับรถของตัวเองเพื่อตามถ่ายคลิปมาให้มิโนดูให้ตาสว่าง แม้จะแกล้งกันเท่าไหร่แต่หวังแจ็คสันก็รักเพื่อนเหมือนกัน

    ลีมูซีนสีดำเลื่อนเข้าจอดที่หน้าประตูโรงแรม พนักงานที่ถูกฝึกการบริการมาอย่างดีรีบเข้ามาเปิดประตูด้านหลังเพื่อให้ผู้ที่โดยสารมาลงอย่างสะดวก

    ชายหนุ่มกดถ่ายคลิปทั้งหมดเอาไว้อย่างชัดเจนด้วยอาการเข่นเขี้ยวยิ่งเห็นเธอเดินหายเข้าไปด้านในกับคุณเฉินก็ชักสีหน้าไม่ชอบใจ ก่อนจะส่งคลิปนั้นให้ซงมินโฮทันที

     

    เกือบครึ่งชั่วโมงผ่านไป ร่างเพรียวคุ้นตาก็เดินออกมาจากโรงแรม แจ็คสันรีบวิ่งเข้าไปรั้งเธอเอาไว้และดึงให้ตามมาทางรถของตัวเองและเป็นเพราะเธอจำเขาได้ทำให้ไม่ขัดขืนอะไรมากนักแต่ก็ยังสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของเขา

    “เดี๋ยวค่ะคุณ... คุณมีเรื่องคุยกับฉันเหรอคะ?”  แฟร์รี่ถอยหลังออกหลายก้าวพร้อมคำถาม

    “คุณหลอกเพื่อนผม ... แล้วคุณทำแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว?”  แจ็คสันถามอย่างเอาเรื่อง

    “แบบนี้? แบบไหนคะ คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?”  หญิงสาวยังไม่ค่อยเข้าใจนัก

    “เดือดร้อนอะไรก็บอกมันสิ! เพื่อนผมคงไม่ใจร้ายที่จะไม่ช่วยเหลือหรอก”

    “เดี๋ยวๆๆ! นี่คุณคงไม่ได้หมายความว่าฉัน เอ่อ...”  

    หญิงสาวชี้ตัวเองสลับกับตัวโรงแรมด้วยสีหน้าอึ้งๆ เธอไม่คิดว่าเขาจะจินตนาการกว้างไกลไปถึงขนาดนั้น นี่เขาไม่รู้หรือว่าคนที่ไปรับรองคุณเฉินไม่ใช่เธอ

    “หรือว่าคุณไม่ได้ทำเพราะเดือดร้อน แต่เพราะหวังรวยทางลัด!?” 

    “ห๊ะ!...”   ยิ่งฟังหญิงสาวยิ่งจุกจนเปิดตำราหาไม่ทันเลยว่าผู้ชายตรงหน้าเป็นคนประเภทไหนกันแน่

     

    ฉะนั้น... เธอควรไปให้ห่างปัญหาจะเป็นเรื่องดีที่สุดที่เธอสามารถทำได้ตอนนี้แล้ว

     

    “เฮ้ย! เธอ...”

     

    ร่างเพรียวขยับถอยหลังก่อนจะออกตัววิ่งหนีไปทันทีที่เหลือบไปเห็นรถแท็กซี่เข้ามาจอดและบานประตูกำลังจะปิดลง ส่วนแจ็คสันที่ไม่คิดว่าเธอจะหนีจึงทำให้ตั้งหลักไม่ทันจนออกตัวช้ากว่าแต่ด้วยความที่เป็นนักกีฬารวมทั้งอีกคนวิ่งทั้งสวมรองเท้าส้นสูงกว่าสี่นิ้วเลยสามารถคว้าเธอได้ทัน

     

    แฟร์รี่หันกลับมามองอย่างตกใจก่อนจะสะบัดมือฟาดซีกหน้าของแจ็คสันเต็มแรงด้วยความลืมตัว

     

     

     

     

    เพี๊ยะ!

     

     

     

     

    เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นเพราะความเงียบที่ปกคลุม ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วไปหมด แฟร์รี่ยกสองมือขึ้นผลักร่างหนาเต็มแรงก่อนจะวิ่งขึ้นรถไปโดยที่คราวนี้เขารั้งเธอไว้ไม่ทันอีก

     

    Shit! บ้าเอ๊ย!”   แจ็คสันสบถลั่นด้วยความเจ็บใจ

     

     

     

     

    รถแท็กซี่ออกตัวจากหน้าโรงแรมอย่างฉิวเฉียด หญิงสาวพรูลมหายใจอย่างโล่งอก เธอไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเจอเรื่องยุ่งยากทั้งที่ราบรื่นมาทั้งวัน มือบางประสานกันแน่นตรงหน้าตัก ยอมรับว่าตกใจอยู่เหมือนกันที่จู่ๆ ก็เจอเหตุการณ์เช่นนี้

     

     

    เธอคงจำชื่อของหวังแจ็คสันได้ไปจนตาย

     

     

     

    ร่างบางลงรถที่หน้าอพาร์ทเม้นต์สีขาวซีดธรรมดาๆ หลังหนึ่งในย่านชุมชนก่อนจะเดินผ่านประตูกระจกที่เปิดค้างไว้เข้าไปด้านในและขึ้นไปยังชั้นสาม เมื่อเข้าห้องตัวเองได้ก็ทิ้งตัวลงบนเตียงที่ไม่นุ่มเอาเสียเลยอย่างเหนื่อยอ่อน

    เพียงไม่นานร่างเพรียวก็ลุกขึ้นนั่งและเปิดกระเป๋าดูเงินที่เพิ่งได้รับมาอย่างกระตือรือร้นผิดเป็นคนละคน

    “หกพันบาท! เริ่ด!...   หญิงสาวถึงกับยิ้มออก ก่อนจะหันมองไปที่หน้าตู้เสื้อผ้าก็พบกับชุดนักเรียนของตัวเองแขวนอยู่

    “พรุ่งนี้... ฉันจะไปโรงเรียนเสียที”

     

     

     

    เช้าตรู่แฟร์รี่สวมชุดเสื้อนักเรียนสีขาวแขนยาว ไทด์สีน้ำเงินเข้มและกระโปรงสีเดียวกันซึ่งเป็นเครื่องแบบมัธยมปลายโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งยืนส่องกระจกอย่างอารมณ์ดีก่อนจะคว้าเป้หนังสือคู่ใจขึ้นสะพายบนบ่า

    “ไปกันได้แล้วนักเรียนอิงฟ้า คึคึ...”  เธอหันไปพูดกับตัวเองในกระจก

     

     

    ก๊อก... ก๊อก...

     

     

    มือบางเคาะกระจกเลื่อนห้องออฟฟิศของอพาร์ตเม้นต์เบาๆ เมื่อเห็นว่ามีคนอยู่ด้านใน จากนั้นก็วางใบเรียกเก็บเงินค่าห้องพร้อมเงินมัดจำตามจำนวนที่คั่งค้างไว้เมื่อตอนย้ายเข้าลงตรงหน้า

    “มีเงินแล้วเหรอคะน้องแฟร์?”   หญิงวัยกลางคนขยับแว่นด้วยท่าทางใจดี

    “ค่ะคุณป้าคนสวย แม่ส่งเงินมาให้แล้ว”  ว่าแล้วก็ยิ้มหวานทั้งที่จริงค้านตัวเองอยู่ในใจ... ส่งกะผีอะไรล่ะ เพิ่งได้มาเมื่อคืนนี้!

    “โอ๊ย... ไม่เป็นไร น้องแฟร์มาเรียนกรุงเทพคนเดียวป้าเข้าใจว่าอาจมีติดขัดหรือล่าช้าบ้าง”   หญิงวัยกลางคนยิ้มพร้อมกับหยิบเงินตรงหน้าไปเช็คก่อนจะเงยหน้ามาบอกอีกรอบ “สี่พันเก้าร้อยห้าสิบนะคะลูก... คุณป้าทอนให้ห้าสิบบาท”

    “ค่ะ  ขอบคุณคุณป้าคนสวยนะคะที่ใจดี หนูไปโรงเรียนแล้วนะคะ” 

    “ค่ะ ไปดีมาดีนะคะ”

    แฟร์รี่กำเงินทอนเอาไว้และเอ่ยลาแต่ก็ไม่ลืมยิ้มให้ตามสไตล์บางทีเธอก็คิดว่าตัวเองยิ้มมากเกินไป... มากจนจะคล้ายคนบ้าเข้าไปทุกที แต่ทำยังไงได้... การที่เธอยิ้มแบบนี้ก็สามารถทำให้เธอรอดวิกฤตมาได้หลายรอบแล้วจึงไม่หยุดที่จะทำมันต่อไป

     

    อิงฟ้า อังคุนนท์ หรือแฟร์รี่ เด็กสาวอายุ 17 ปี เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ของโรงเรียนเอกชนธรรมดาแห่งหนึ่งด้วยความจำเป็นเพราะเธอเพิ่งย้ายเข้ามาทำให้ไม่สามารถเข้าเรียนโรงเรียนรัฐบาลที่ใดได้ทั้งที่ฐานะของตัวเองก็ไม่ได้ดีแถมเข้าขั้นลำบากด้วยซ้ำ แต่ความที่มีหน้าตาน่ารักบวกกับได้รับความเอ็นดูและพอมีทักษะความสามารถอยู่บ้างทำให้เธอหาเงินได้อย่างไม่ลำบากลำบนมากนักแม้มันจะไม่ใช่หนทางที่ดีเท่าไหร่ก็ตาม

     

     

     

     

    ตั้งแต่วันนั้นก็ผ่านไปร่วมอาทิตย์จนคุณเฉินกลับฮ่องกงเขาก็ไม่ได้พบกับแฟร์รี่อีกเลยแถมยังติดต่อซงมินโฮไม่ได้อีกต่างหาก แต่วันนี้ก็มีโอกาสมางานเลี้ยงสายรหัสจึงทำให้ได้ผ่อนคลายจากการเรียนและงานอันหนักหน่วงขึ้นมาบ้าง

    สาวสวยหลายคนเริ่มแวะเวียนเข้ามาหาแจ็คสันอย่างเคยแต่เขาก็หาได้ให้ความสนใจมากนัก แม้จะมีฉายาเพลย์บอยแปะบนหน้าผากแต่ก็ไม่อยากเล่นสนุกเกินเหตุต่อไปอีกแล้ว

    ชายหนุ่มมองดูเวลาอีกครั้งก่อนจะขอตัวกลับก่อนซึ่งคนอื่นๆ ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะรู้ดีว่าช่วงนี้แจ็คสันงานยุ่งแค่ไหน

    ล่ำลากันอยู่สักพักก็ได้ฤกษ์แทรกตัวจากด้านในสุดออกไปประตูทางออก ทว่าสายตาอันเฉียบคมของเขาดันหันไปเห็นใครบางคนที่แม้วันนี้ดูแปลกตาไปบ้างแต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือรอยยิ้มหวานๆ นั่นที่จำได้ติดตา

     

    “แฟร์รี่...?  หึหึ... ฉันเจอเธอแล้ว”

     

    จากที่จะกลับชายหนุ่มก็นึกเปลี่ยนใจ เขาเลือกที่จะเดินกลับไปที่โต๊ะเดิมด้วยเหตุผลที่ว่าต้องไปรับเพื่อนจึงกลับมานั่งรอเวลาทั้งที่ความจริงแล้วเขาจับจ้องไปที่ร่างของหญิงสาวที่สวมชุดเดรสสั้นสีดำน่ารักอีกด้านต่างหาก

     

    ทุกอากัปกิริยาทำให้เขาหมั่นไส้ การแสดงออกของเธอดูแตกต่างจากที่พบพร้อมมิโน และแตกต่างจากตอนที่อยู่กับคุณเฉิน ดูเหมือนว่า... เธอจะมีมารยาห้าร้อยเล่มเกวียนเลยทีเดียว

     

    แต่... คนอย่างแจ็คสันเป็นพวกชอบปราบเซียนเสียด้วยสิ คืนนี้คงมีอะไรสนุกๆ ให้เล่นแก้เซ็ง

     

    ร่างหนาควงแก้วสีอำพันในมือเล่นอย่างครุ่นคิดก่อนจะยิ้มในหน้าและยันตัวเองลุกขึ้นตรงไปที่โต๊ะเป้าหมาย เขาจะไม่ปล่อยให้คนหลอกลวงลอยหน้ามีความสุขง่ายๆ แน่

     

    เขาหยุดยืนไม่ห่างจากโต๊ะมากนักซึ่งยังไม่มีใครสังเกตเห็นแม้แต่เธอ แก้วในมือถูกยกขึ้นจิบจากนั้นแผนการที่หนึ่งก็เริ่มขึ้น

     

    “เฮ้คุณ!...”   เสียงทุ้มเอ่ยทัก คนในโต๊ะก็ชะงักไปแต่สาวสองสามคนในนั้นกลับตาเป็นประกายด้วยความหล่อเหลาและดูดีของผู้มาใหม่

    “มีอะไรครับ? คุณ..?”  ผู้ชายท่าทางดีที่อยู่ใกล้แจ็คสันที่สุดเอ่ยถามด้วยความฉงน

    “แจ็คสันครับ รู้จักกับแฟร์รี่”  

    เขาใช้มือที่ถือแก้วชี้ไปทางคนที่กำลังคุยอย่างออกรส ซึ่งเธอก็ยังไม่รับรู้ถึงการมาของเขาเช่นเคยซึ่งคล้ายกับว่ากลุ่มคนอีกด้านของโต๊ะนั้นก็ไม่ได้สนใจการมาของเขาด้วยซ้ำ

    “อ่อครับ”   เขาพยักหน้าอย่างรับรู้ก่อนจะยื่นมือสะกิดไหล่เธอเบาๆ

    “คะ?”  

    “มีคนมาหาคุณ”  

    แฟร์รี่หันตามทิศทางที่ชายหนุ่มบอกแล้วก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นชัดเจนว่าคนตรงหน้าคือใคร....

    แจ็คสันยักคิ้วยิ้มกวนให้คู่กรณีอย่างยั่วอารมณ์จากนั้นก็เอ่ยประโยคอันร้ายกาจออกมา

     

    “หนีมาคั่วผู้ชายแบบนี้ ไม่ละอายบ้างหรือไง... หืม...”

    คุณ...”

    “อุ๊บ!

                ทันทีที่ได้ยินหญิงสาวเห็นเขาเริ่มเปิดปากก็รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล เธอรีบลุกขึ้นเอามือปิดปากของแจ็คสันเอาไว้ก่อนจะหันไปยิ้มสดใสให้กับกลุ่มคนที่กำลังมองอย่างแคลงใจ

    “คุณอาของแฟร์รี่เองค่ะ เขาจะฟ้องคุณพ่อที่แฟร์หนีเที่ยวกลางคืน ขอตัวไปเคลียร์กับคุณอาก่อนนะคะ เดี๋ยวมา... แปบเดียว”  

    “อ่อ คุณอาครับ อย่าโกรธน้องแฟร์นะครับ ผมขอโทษที่พาน้องมาเที่ยว”  ชายหนุ่มคนที่เคยนั่งข้างแฟร์รี่เอ่ยปากด้วยสีหน้าสำนึกผิด ซึ่งแจ็คสันก็ได้แต่พยักหน้ารับเพราะถูกหญิงสาวบีบเสียแน่นจนเริ่มเจ็บ

     


    ผู้หญิงบ้าอะไร... แรงควายชะมัด!  แจ็คสันคิด

     

     

    หญิงสาวยิ้มทิ้งท้ายไว้อีกทีก่อนจะกึ่งดึงกึ่งลากเขาตามออกไป

     

     

     

    พลั่ก!

     

     

     

    หญิงสาวผลักไหล่เขาออกจากการเกาะกุมแรงๆ จนร่างหนาของแจ็คสันเซถลาหน้าแทบทิ่มพลางยกมือขึ้นแตะข้างแก้มที่ถูกบีบปิดของตัวเองเบาๆ อย่างรู้สึกเจ็บ

    “คุณมีอะไรกับฉัน!?”   ภาพสาวช่างยิ้มหายไปหลงเหลือเพียงแค่ท่าทางหงุดหงิดให้เห็น

    “เธอมันพวกต้มตุ๋น!”  แจ็คสันชี้หน้า ขาแข็งแรงก้าวเข้าหาคู่กรณี

    “ต้มบ้าตุ๋นบออะไรล่ะ... ฉันก็ทำงานของฉัน มีแต่คุณนั่นแหละที่คอยมาวุ่นวาย!” เธอตอกกลับอย่างเหลืออด วันนี้เขาเกือบจะทำงานของเธอพังไม่มีชิ้นดีหากเธอไหวตัวไม่ทัน

    “นี่เธอ!”

    “ทำไม? ฉันทำไม?”   ใบหน้าน่ารักเชิดท้าทายเพราะเธอก็หมดความอดทนกับเขาแล้วเหมือนกัน

    “ก็เธอเป็นแฟนเพื่อนฉัน!”   แจ็คสันข่มเสียงเข้ม

    “ไร้สาระ! ... นี่คุณ...”   ร่างเพรียวตรงหน้าเริ่มก้าวเข้าหาดูท่าจะเสียอารมณ์ไม่น้อยเลยทีเดียว

    “ฟังฉันนะ... ฉันเนี่ยไม่ใช่แฟนเพื่อนคุณ ถ้าคุณอยากรู้เรื่องความสัมพันธ์ของฉันกับเขาก็ไปถามเอาเอง แต่ขอร้อง... อย่า มา ยุ่ง กับ ชีวิต ฉัน โอเค๊?”   ข้อหนึ่งของข้อตกลงคือห้ามเปิดเผยความลับลูกค้า ฉะนั้น เธอคงบอกเขาได้แค่นี้จริงๆ ก็ถ้าหากผู้ว่าจ้างจะเป็นคนพูดเองอันนั้นถือว่านอกเหนือสิ่งที่เธอต้องรับผิดชอบ

     

    ใช่... อิงฟ้า หรือแฟร์รี่รับงานพิเศษเป็นเพื่อนเที่ยว เพื่อนกินข้าว แต่ไม่ได้รับรองแขกเพราะตัวเธอเองก็ไม่ได้สิ้นหนทางขนาดนั้นและอายุแค่นี้ต้องหลอกคนทั่วไปว่าอายุยี่สิบเอ็ดกับถือบัตรประชาชนปลอมนี่ก็เสี่ยงคุกเสี่ยงตารางจะแย่อยู่แล้ว หากให้ค้าประเวณีอีกก็คง... มากเกินไป

     

    “ได้! ฉันจะไปถามมิโน แต่อย่าคิดนะว่าจะยอมรามือง่ายๆ!

     

    “ตามสบาย แต่ถ้าคุณมาวุ่นวายกับฉันอีก คุณเจอดีแน่!

     

    หญิงสาวสะบัดหน้าพรืดเข้าไปด้านในโดยที่ทิ้งตัวปัญหาเอาไว้ เธอไม่ได้สนใจเขาอีกเพราะรู้สึกกังวลกับสิ่งที่ต้องกลับไปเผชิญมากกว่า ใบหน้าน่ารักมีแววยุ่งยากใจอยู่จางๆ และยังจดจำขึ้นใจว่าหากเห็นหวังแจ็คสันอยู่ที่ไหนเธอนั้นก็ควรอยู่ให้ห่าง

     

     

    สำหรับแฟร์รี่แล้ว หวังแจ็คสันก็ไม่ต่างจาก... ตัวซวย

     

     

    ความราบรื่นกลับมาอีกครั้งหลังจากครึ่งชั่วโมงผ่านไป หญิงสาวสามารถดึงบรรยากาศได้อย่างดีจนเริ่มสบายใจขึ้นว่าคืนนี้คงผ่านไปด้วยดี เธอมองนาฬิกาข้อมือก่อนจะเอ่ยอะไรบางอย่างกับคนข้างๆ ซึ่งเขาก็ลุกตามด้วยเช่นกัน

     

    “พาน้องไปห้องน้ำแปบนึงนะ เดี๋ยวมา”

    “แหม... หวงจริงน้า น่าอิจฉาจริงเชียว”   เพื่อนในกลุ่มเอ่ยแซวทำเอาแฟร์รี่ออกอาการยิ้มเขิน

    “เลิกแซวน่า ไปครับน้องแฟร์”

    “ค่ะ”

    เธอเดินตามอย่างว่าง่าย จริงๆ แล้วคือถึงเวลากลับบ้านและเธอออกมารับเงินกับผู้ชายที่เป็นคนว่าจ้างเธอมาต่างหาก

     

    ชายหนุ่มเอ่ยขอบคุณเธอด้วยรอยยิ้มและขอตัวกลับไปที่โต๊ะก่อนโดยที่เธอเองก็แวะที่ห้องน้ำก่อนที่จะตามกลับไป

     

    แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดกลับเกิดขึ้นตอนที่เธอไม่อยู่เสียนี่ แจ็คสันประกาศว่าไม่จบแค่นี้และเขา... ก็ไม่จบจริงๆ

     

                ร่างหนาก้าวเข้ามาที่โต๊ะเดิมอย่างหมายมาด เขารอเวลาที่เธอจะลุกออกไปนานพอดูจนได้เวลาเหมาะจึงไม่รอช้า รอยยิ้มเจ้าเสน่ห์ของแจ็คสันก็เป็นใบเบิกทางที่ดี เพียงไม่กี่นาทีเขาก็เข้ามานั่งในกลุ่มเดียวกันได้ไม่ยาก

     

                หลังจากทักทายกันไม่กี่ประโยคเขาก็เริ่มเดินแผนที่คิดมาสดๆ ร้อนๆ ทันที

     

    “ขอโทษนะครับน้อง พอดีพี่มีความจริงจะบอก...”  เขาเกริ่นนำด้วยสีหน้าที่สลดลงต่างจากก่อนหน้าที่ยังแย้มยิ้มสดใส

     

    “คุณแจ็คสันเป็นอะไรรึเปล่าคะ?”   หญิงสาวสวยข้างกายให้ความสนใจทันที ก็แหม... เขาออกจะดูดีขนาดนี้ใครไม่ชอบก็แย่ละ

     

    “อันที่จริง... ผมโกหกพวกคุณ”   เขายังคงพูดต่อ รอให้ถาม... และก็มั่นใจด้วยว่าต้องมีใครสักคนสนใจถามขึ้นมา

    “เรื่องอะไรคะ?”  

     

    และก็จริงดังคาด ซึ่งนั้นทำให้เขาลอบหัวเราะอยู่ในใจจากนั้นก็เริ่มพูดต่อ

     

    “ ผมไม่ใช่อาของแฟร์รี่หรอกครับ แต่เป็น....”

     

    คนพูดยิ้มกริ่มขึ้นมาราวกับคนละคนที่เพิ่งทำหน้าสลดให้เห็น คราวนี้หละ... เธอพังแน่!

     

    “... ผัวน่ะ”  

     

    “ห๊ะ!!   หลายเสียงในโต๊ะประสานขึ้นพร้อมกัน

     

     

    ทว่า คนที่เลี่ยงไปห้องน้ำดันเดินกลับมาได้ยินพอดี... เสียงที่เคยหวานเปลี่ยนเป็นกระชากห้วนเรียกชื่อของคนจ้องทำลายล้างชีวิตอย่างโมโหสุดขีด

     

     

    หวัง แจ็คสัน! ... ตายซะเถอะ!!

     

     







    หวังแจ็คสันน่ะร้าย

    555











    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×