คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : X-Secret : II – ตัวแสบ VS วงแตก
X-Secret : II – ตัวแสบ VS วงแตก
จังหวะดนตรีเร้าอารมณ์ดังกระหึ่มโถงกว้างที่มีเพียงไฟแบล็คไลท์ประดับเพิ่มแสงสลัวส่องสว่างในที่มืดรอบบริเวณ
ร่างหนาที่เพิ่งมาถึงคลับบนตึกสูงริมแม่น้ำเจ้าพระยาเดินแทรกนักเที่ยวอันเนืองแน่นจนมาถึงโต๊ะด้านบนที่มองเห็นไฟยามค่ำคืนด้านนอกได้ชัดเจนซึ่งเป็นมุมที่ดีและสวยงามมากทีเดียว
ดวงตาคมจับจ้องร่างเพรียวที่นั่งอยู่เพียงลำพัง
ใบหน้าน่ารักแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางริมฝีปากจรดลงที่แก้วเครื่องดื่มสีสันสดใสมองทอดสายตาออกไปด้านนอกอย่างเหม่อลอย
แจ็คสันก้าวประชิดข้างเก้าอี้นวมก่อนจะก้มลงกระซิบข้างหูของเธอ
“แฟร์รี่...
คิดถึงผมอยู่รึเปล่า?”
เฮือก!
หญิงสาวสะดุ้งสุดตัวเมื่อถูกคุกคามแต่เมื่อหันมาเห็นว่าคนนั้นเป็นใครก็หัวเราะออกมาเบาๆ
พลางยันตัวลุกขึ้นยืน
“คุณเฉินไปโทรศัพท์ค่ะ
เชิญนั่งก่อนสิคะ”
แจ็คสันพยักหน้ารับ
เมื่อครู่หากไม่ได้ตาฝาดเขาเห็นสายตาระแวดระวังไม่ใช่อาการตกใจอย่างที่ควรเป็นต่างจากตอนนี้ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มดังที่เคย
“ผมว่า...
ผมเคยพบคุณมาก่อน”
ชายหนุ่มเอ่ยหยั่งเชิง โอกาสดีแบบนี้ไม่ได้หาง่ายนัก
“จริงเหรอคะ?” แฟร์รี่ถามพลางนิ่วหน้าเอียงคอคิด
“ที่เอ็มคลับ...
เมื่อคืนนี้”
“เอ็มคลับ?
เดี๋ยวนะคะ... คุณ
เพื่อนคุณมิโนคนนั้น” หญิงสาวยกนิ้วชี้มาที่แจ็คสันราวกับเพิ่งนึกขึ้นได้
“นึกว่าคุณจะความจำเสื่อมเสียอีก”
“ก็อาจจะเป็นแบบนั้นได้ เมื่อวานฉันค่อนข้างดื่มเยอะน่ะค่ะ... ความจำคงไม่ค่อยดีนัก”
รอยยิ้มอีกแล้ว... ไม่ว่าจะทำอะไรเธอดูสบายใจไปเสียหมด ช่างน่าอิจฉาเสียจริง... แต่น่าเสียดายที่คราวนี้มันมีไว้เพื่อกลบเกลื่อนคำโกหก
...เขารู้ว่าเธอจำเขาได้ตั้งแต่แรกแล้ว
ไม่ทันได้คุยอะไรกันต่อคนสำคัญของคืนนี้ก็กลับมาเสียก่อน
บรรยากาศภายในโต๊ะก็เปลี่ยนไป
ยิ่งปริมาณแอลกอฮอลล์เริ่มมากขึ้นคุณเฉินและแฟร์รี่ก็สกินชิพกันชัดเจนมากขึ้น
และนั่นก็ทำให้แจ็คสันชักจะหงุดหงิด
บอกตามตรง... แจ็คสันเพียงแค่เกิดไม่พอใจแทนมิโนที่มีแฟนมีพฤติกรรมแบบเธอเท่านั้น
กว่าจะได้ที่ก็ปาไปค่อนคืน
คุณเฉินจึงขอกลับไปพักผ่อนพร้อมแฟร์รี่ แจ็คสันเดินไปส่งที่รถจากนั้นก็รีบวิ่งกลับไปขับรถของตัวเองเพื่อตามถ่ายคลิปมาให้มิโนดูให้ตาสว่าง
แม้จะแกล้งกันเท่าไหร่แต่หวังแจ็คสันก็รักเพื่อนเหมือนกัน
ลีมูซีนสีดำเลื่อนเข้าจอดที่หน้าประตูโรงแรม
พนักงานที่ถูกฝึกการบริการมาอย่างดีรีบเข้ามาเปิดประตูด้านหลังเพื่อให้ผู้ที่โดยสารมาลงอย่างสะดวก
ชายหนุ่มกดถ่ายคลิปทั้งหมดเอาไว้อย่างชัดเจนด้วยอาการเข่นเขี้ยวยิ่งเห็นเธอเดินหายเข้าไปด้านในกับคุณเฉินก็ชักสีหน้าไม่ชอบใจ
ก่อนจะส่งคลิปนั้นให้ซงมินโฮทันที
เกือบครึ่งชั่วโมงผ่านไป
ร่างเพรียวคุ้นตาก็เดินออกมาจากโรงแรม
แจ็คสันรีบวิ่งเข้าไปรั้งเธอเอาไว้และดึงให้ตามมาทางรถของตัวเองและเป็นเพราะเธอจำเขาได้ทำให้ไม่ขัดขืนอะไรมากนักแต่ก็ยังสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของเขา
“เดี๋ยวค่ะคุณ...
คุณมีเรื่องคุยกับฉันเหรอคะ?”
แฟร์รี่ถอยหลังออกหลายก้าวพร้อมคำถาม
“คุณหลอกเพื่อนผม
... แล้วคุณทำแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว?”
แจ็คสันถามอย่างเอาเรื่อง
“แบบนี้?
แบบไหนคะ คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?”
หญิงสาวยังไม่ค่อยเข้าใจนัก
“เดือดร้อนอะไรก็บอกมันสิ! เพื่อนผมคงไม่ใจร้ายที่จะไม่ช่วยเหลือหรอก”
“เดี๋ยวๆๆ! นี่คุณคงไม่ได้หมายความว่าฉัน
เอ่อ...”
หญิงสาวชี้ตัวเองสลับกับตัวโรงแรมด้วยสีหน้าอึ้งๆ
เธอไม่คิดว่าเขาจะจินตนาการกว้างไกลไปถึงขนาดนั้น
นี่เขาไม่รู้หรือว่าคนที่ไปรับรองคุณเฉินไม่ใช่เธอ
“หรือว่าคุณไม่ได้ทำเพราะเดือดร้อน
แต่เพราะหวังรวยทางลัด!?”
“ห๊ะ!...”
ยิ่งฟังหญิงสาวยิ่งจุกจนเปิดตำราหาไม่ทันเลยว่าผู้ชายตรงหน้าเป็นคนประเภทไหนกันแน่
ฉะนั้น...
เธอควรไปให้ห่างปัญหาจะเป็นเรื่องดีที่สุดที่เธอสามารถทำได้ตอนนี้แล้ว
“เฮ้ย! เธอ...”
ร่างเพรียวขยับถอยหลังก่อนจะออกตัววิ่งหนีไปทันทีที่เหลือบไปเห็นรถแท็กซี่เข้ามาจอดและบานประตูกำลังจะปิดลง
ส่วนแจ็คสันที่ไม่คิดว่าเธอจะหนีจึงทำให้ตั้งหลักไม่ทันจนออกตัวช้ากว่าแต่ด้วยความที่เป็นนักกีฬารวมทั้งอีกคนวิ่งทั้งสวมรองเท้าส้นสูงกว่าสี่นิ้วเลยสามารถคว้าเธอได้ทัน
แฟร์รี่หันกลับมามองอย่างตกใจก่อนจะสะบัดมือฟาดซีกหน้าของแจ็คสันเต็มแรงด้วยความลืมตัว
เพี๊ยะ!
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นเพราะความเงียบที่ปกคลุม
ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วไปหมด
แฟร์รี่ยกสองมือขึ้นผลักร่างหนาเต็มแรงก่อนจะวิ่งขึ้นรถไปโดยที่คราวนี้เขารั้งเธอไว้ไม่ทันอีก
“Shit! บ้าเอ๊ย!” แจ็คสันสบถลั่นด้วยความเจ็บใจ
รถแท็กซี่ออกตัวจากหน้าโรงแรมอย่างฉิวเฉียด
หญิงสาวพรูลมหายใจอย่างโล่งอก
เธอไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเจอเรื่องยุ่งยากทั้งที่ราบรื่นมาทั้งวัน มือบางประสานกันแน่นตรงหน้าตัก
ยอมรับว่าตกใจอยู่เหมือนกันที่จู่ๆ ก็เจอเหตุการณ์เช่นนี้
เธอคงจำชื่อของหวังแจ็คสันได้ไปจนตาย
ร่างบางลงรถที่หน้าอพาร์ทเม้นต์สีขาวซีดธรรมดาๆ
หลังหนึ่งในย่านชุมชนก่อนจะเดินผ่านประตูกระจกที่เปิดค้างไว้เข้าไปด้านในและขึ้นไปยังชั้นสาม
เมื่อเข้าห้องตัวเองได้ก็ทิ้งตัวลงบนเตียงที่ไม่นุ่มเอาเสียเลยอย่างเหนื่อยอ่อน
เพียงไม่นานร่างเพรียวก็ลุกขึ้นนั่งและเปิดกระเป๋าดูเงินที่เพิ่งได้รับมาอย่างกระตือรือร้นผิดเป็นคนละคน
“หกพันบาท! เริ่ด!...” หญิงสาวถึงกับยิ้มออก
ก่อนจะหันมองไปที่หน้าตู้เสื้อผ้าก็พบกับชุดนักเรียนของตัวเองแขวนอยู่
“พรุ่งนี้...
ฉันจะไปโรงเรียนเสียที”
เช้าตรู่แฟร์รี่สวมชุดเสื้อนักเรียนสีขาวแขนยาว
ไทด์สีน้ำเงินเข้มและกระโปรงสีเดียวกันซึ่งเป็นเครื่องแบบมัธยมปลายโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งยืนส่องกระจกอย่างอารมณ์ดีก่อนจะคว้าเป้หนังสือคู่ใจขึ้นสะพายบนบ่า
“ไปกันได้แล้วนักเรียนอิงฟ้า
คึคึ...” เธอหันไปพูดกับตัวเองในกระจก
ก๊อก...
ก๊อก...
มือบางเคาะกระจกเลื่อนห้องออฟฟิศของอพาร์ตเม้นต์เบาๆ
เมื่อเห็นว่ามีคนอยู่ด้านใน
จากนั้นก็วางใบเรียกเก็บเงินค่าห้องพร้อมเงินมัดจำตามจำนวนที่คั่งค้างไว้เมื่อตอนย้ายเข้าลงตรงหน้า
“มีเงินแล้วเหรอคะน้องแฟร์?” หญิงวัยกลางคนขยับแว่นด้วยท่าทางใจดี
“ค่ะคุณป้าคนสวย
แม่ส่งเงินมาให้แล้ว” ว่าแล้วก็ยิ้มหวานทั้งที่จริงค้านตัวเองอยู่ในใจ...
ส่งกะผีอะไรล่ะ เพิ่งได้มาเมื่อคืนนี้!
“โอ๊ย...
ไม่เป็นไร น้องแฟร์มาเรียนกรุงเทพคนเดียวป้าเข้าใจว่าอาจมีติดขัดหรือล่าช้าบ้าง” หญิงวัยกลางคนยิ้มพร้อมกับหยิบเงินตรงหน้าไปเช็คก่อนจะเงยหน้ามาบอกอีกรอบ
“สี่พันเก้าร้อยห้าสิบนะคะลูก... คุณป้าทอนให้ห้าสิบบาท”
“ค่ะ ขอบคุณคุณป้าคนสวยนะคะที่ใจดี
หนูไปโรงเรียนแล้วนะคะ”
“ค่ะ
ไปดีมาดีนะคะ”
แฟร์รี่กำเงินทอนเอาไว้และเอ่ยลาแต่ก็ไม่ลืมยิ้มให้ตามสไตล์บางทีเธอก็คิดว่าตัวเองยิ้มมากเกินไป...
มากจนจะคล้ายคนบ้าเข้าไปทุกที แต่ทำยังไงได้...
การที่เธอยิ้มแบบนี้ก็สามารถทำให้เธอรอดวิกฤตมาได้หลายรอบแล้วจึงไม่หยุดที่จะทำมันต่อไป
อิงฟ้า
อังคุนนท์ หรือแฟร์รี่ เด็กสาวอายุ 17 ปี เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ของโรงเรียนเอกชนธรรมดาแห่งหนึ่งด้วยความจำเป็นเพราะเธอเพิ่งย้ายเข้ามาทำให้ไม่สามารถเข้าเรียนโรงเรียนรัฐบาลที่ใดได้ทั้งที่ฐานะของตัวเองก็ไม่ได้ดีแถมเข้าขั้นลำบากด้วยซ้ำ
แต่ความที่มีหน้าตาน่ารักบวกกับได้รับความเอ็นดูและพอมีทักษะความสามารถอยู่บ้างทำให้เธอหาเงินได้อย่างไม่ลำบากลำบนมากนักแม้มันจะไม่ใช่หนทางที่ดีเท่าไหร่ก็ตาม
ตั้งแต่วันนั้นก็ผ่านไปร่วมอาทิตย์จนคุณเฉินกลับฮ่องกงเขาก็ไม่ได้พบกับแฟร์รี่อีกเลยแถมยังติดต่อซงมินโฮไม่ได้อีกต่างหาก
แต่วันนี้ก็มีโอกาสมางานเลี้ยงสายรหัสจึงทำให้ได้ผ่อนคลายจากการเรียนและงานอันหนักหน่วงขึ้นมาบ้าง
สาวสวยหลายคนเริ่มแวะเวียนเข้ามาหาแจ็คสันอย่างเคยแต่เขาก็หาได้ให้ความสนใจมากนัก
แม้จะมีฉายาเพลย์บอยแปะบนหน้าผากแต่ก็ไม่อยากเล่นสนุกเกินเหตุต่อไปอีกแล้ว
ชายหนุ่มมองดูเวลาอีกครั้งก่อนจะขอตัวกลับก่อนซึ่งคนอื่นๆ
ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะรู้ดีว่าช่วงนี้แจ็คสันงานยุ่งแค่ไหน
ล่ำลากันอยู่สักพักก็ได้ฤกษ์แทรกตัวจากด้านในสุดออกไปประตูทางออก
ทว่าสายตาอันเฉียบคมของเขาดันหันไปเห็นใครบางคนที่แม้วันนี้ดูแปลกตาไปบ้างแต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือรอยยิ้มหวานๆ
นั่นที่จำได้ติดตา
“แฟร์รี่...? หึหึ... ฉันเจอเธอแล้ว”
จากที่จะกลับชายหนุ่มก็นึกเปลี่ยนใจ
เขาเลือกที่จะเดินกลับไปที่โต๊ะเดิมด้วยเหตุผลที่ว่าต้องไปรับเพื่อนจึงกลับมานั่งรอเวลาทั้งที่ความจริงแล้วเขาจับจ้องไปที่ร่างของหญิงสาวที่สวมชุดเดรสสั้นสีดำน่ารักอีกด้านต่างหาก
ทุกอากัปกิริยาทำให้เขาหมั่นไส้
การแสดงออกของเธอดูแตกต่างจากที่พบพร้อมมิโน และแตกต่างจากตอนที่อยู่กับคุณเฉิน
ดูเหมือนว่า... เธอจะมีมารยาห้าร้อยเล่มเกวียนเลยทีเดียว
แต่... คนอย่างแจ็คสันเป็นพวกชอบปราบเซียนเสียด้วยสิ
คืนนี้คงมีอะไรสนุกๆ ให้เล่นแก้เซ็ง
ร่างหนาควงแก้วสีอำพันในมือเล่นอย่างครุ่นคิดก่อนจะยิ้มในหน้าและยันตัวเองลุกขึ้นตรงไปที่โต๊ะเป้าหมาย
เขาจะไม่ปล่อยให้คนหลอกลวงลอยหน้ามีความสุขง่ายๆ แน่
เขาหยุดยืนไม่ห่างจากโต๊ะมากนักซึ่งยังไม่มีใครสังเกตเห็นแม้แต่เธอ
แก้วในมือถูกยกขึ้นจิบจากนั้นแผนการที่หนึ่งก็เริ่มขึ้น
“เฮ้คุณ!...”
เสียงทุ้มเอ่ยทัก คนในโต๊ะก็ชะงักไปแต่สาวสองสามคนในนั้นกลับตาเป็นประกายด้วยความหล่อเหลาและดูดีของผู้มาใหม่
“มีอะไรครับ?
คุณ..?” ผู้ชายท่าทางดีที่อยู่ใกล้แจ็คสันที่สุดเอ่ยถามด้วยความฉงน
“แจ็คสันครับ
รู้จักกับแฟร์รี่”
เขาใช้มือที่ถือแก้วชี้ไปทางคนที่กำลังคุยอย่างออกรส
ซึ่งเธอก็ยังไม่รับรู้ถึงการมาของเขาเช่นเคยซึ่งคล้ายกับว่ากลุ่มคนอีกด้านของโต๊ะนั้นก็ไม่ได้สนใจการมาของเขาด้วยซ้ำ
“อ่อครับ”
เขาพยักหน้าอย่างรับรู้ก่อนจะยื่นมือสะกิดไหล่เธอเบาๆ
“คะ?”
“มีคนมาหาคุณ”
แฟร์รี่หันตามทิศทางที่ชายหนุ่มบอกแล้วก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นชัดเจนว่าคนตรงหน้าคือใคร....
แจ็คสันยักคิ้วยิ้มกวนให้คู่กรณีอย่างยั่วอารมณ์จากนั้นก็เอ่ยประโยคอันร้ายกาจออกมา
“หนีมาคั่วผู้ชายแบบนี้
ไม่ละอายบ้างหรือไง... หืม...”
“คุณ...”
“อุ๊บ!”
ทันทีที่ได้ยินหญิงสาวเห็นเขาเริ่มเปิดปากก็รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล เธอรีบลุกขึ้นเอามือปิดปากของแจ็คสันเอาไว้ก่อนจะหันไปยิ้มสดใสให้กับกลุ่มคนที่กำลังมองอย่างแคลงใจ
“คุณอาของแฟร์รี่เองค่ะ
เขาจะฟ้องคุณพ่อที่แฟร์หนีเที่ยวกลางคืน ขอตัวไปเคลียร์กับคุณอาก่อนนะคะ
เดี๋ยวมา... แปบเดียว”
“อ่อ คุณอาครับ
อย่าโกรธน้องแฟร์นะครับ ผมขอโทษที่พาน้องมาเที่ยว”
ชายหนุ่มคนที่เคยนั่งข้างแฟร์รี่เอ่ยปากด้วยสีหน้าสำนึกผิด
ซึ่งแจ็คสันก็ได้แต่พยักหน้ารับเพราะถูกหญิงสาวบีบเสียแน่นจนเริ่มเจ็บ
ผู้หญิงบ้าอะไร... แรงควายชะมัด! แจ็คสันคิด
หญิงสาวยิ้มทิ้งท้ายไว้อีกทีก่อนจะกึ่งดึงกึ่งลากเขาตามออกไป
พลั่ก!
หญิงสาวผลักไหล่เขาออกจากการเกาะกุมแรงๆ
จนร่างหนาของแจ็คสันเซถลาหน้าแทบทิ่มพลางยกมือขึ้นแตะข้างแก้มที่ถูกบีบปิดของตัวเองเบาๆ
อย่างรู้สึกเจ็บ
“คุณมีอะไรกับฉัน!?”
ภาพสาวช่างยิ้มหายไปหลงเหลือเพียงแค่ท่าทางหงุดหงิดให้เห็น
“เธอมันพวกต้มตุ๋น!”
แจ็คสันชี้หน้า ขาแข็งแรงก้าวเข้าหาคู่กรณี
“ต้มบ้าตุ๋นบออะไรล่ะ...
ฉันก็ทำงานของฉัน มีแต่คุณนั่นแหละที่คอยมาวุ่นวาย!” เธอตอกกลับอย่างเหลืออด
วันนี้เขาเกือบจะทำงานของเธอพังไม่มีชิ้นดีหากเธอไหวตัวไม่ทัน
“นี่เธอ!”
“ทำไม?
ฉันทำไม?” ใบหน้าน่ารักเชิดท้าทายเพราะเธอก็หมดความอดทนกับเขาแล้วเหมือนกัน
“ก็เธอเป็นแฟนเพื่อนฉัน!”
แจ็คสันข่มเสียงเข้ม
“ไร้สาระ! ... นี่คุณ...”
ร่างเพรียวตรงหน้าเริ่มก้าวเข้าหาดูท่าจะเสียอารมณ์ไม่น้อยเลยทีเดียว
“ฟังฉันนะ...
ฉันเนี่ยไม่ใช่แฟนเพื่อนคุณ ถ้าคุณอยากรู้เรื่องความสัมพันธ์ของฉันกับเขาก็ไปถามเอาเอง
แต่ขอร้อง... อย่า มา ยุ่ง กับ ชีวิต ฉัน โอเค๊?”
ข้อหนึ่งของข้อตกลงคือห้ามเปิดเผยความลับลูกค้า ฉะนั้น
เธอคงบอกเขาได้แค่นี้จริงๆ ก็ถ้าหากผู้ว่าจ้างจะเป็นคนพูดเองอันนั้นถือว่านอกเหนือสิ่งที่เธอต้องรับผิดชอบ
ใช่... อิงฟ้า
หรือแฟร์รี่รับงานพิเศษเป็นเพื่อนเที่ยว เพื่อนกินข้าว แต่ไม่ได้รับรองแขกเพราะตัวเธอเองก็ไม่ได้สิ้นหนทางขนาดนั้นและอายุแค่นี้ต้องหลอกคนทั่วไปว่าอายุยี่สิบเอ็ดกับถือบัตรประชาชนปลอมนี่ก็เสี่ยงคุกเสี่ยงตารางจะแย่อยู่แล้ว
หากให้ค้าประเวณีอีกก็คง... มากเกินไป
“ได้! ฉันจะไปถามมิโน
แต่อย่าคิดนะว่าจะยอมรามือง่ายๆ!”
“ตามสบาย
แต่ถ้าคุณมาวุ่นวายกับฉันอีก คุณเจอดีแน่!”
หญิงสาวสะบัดหน้าพรืดเข้าไปด้านในโดยที่ทิ้งตัวปัญหาเอาไว้
เธอไม่ได้สนใจเขาอีกเพราะรู้สึกกังวลกับสิ่งที่ต้องกลับไปเผชิญมากกว่า
ใบหน้าน่ารักมีแววยุ่งยากใจอยู่จางๆ และยังจดจำขึ้นใจว่าหากเห็นหวังแจ็คสันอยู่ที่ไหนเธอนั้นก็ควรอยู่ให้ห่าง
สำหรับแฟร์รี่แล้ว หวังแจ็คสันก็ไม่ต่างจาก... ตัวซวย
ความราบรื่นกลับมาอีกครั้งหลังจากครึ่งชั่วโมงผ่านไป
หญิงสาวสามารถดึงบรรยากาศได้อย่างดีจนเริ่มสบายใจขึ้นว่าคืนนี้คงผ่านไปด้วยดี
เธอมองนาฬิกาข้อมือก่อนจะเอ่ยอะไรบางอย่างกับคนข้างๆ ซึ่งเขาก็ลุกตามด้วยเช่นกัน
“พาน้องไปห้องน้ำแปบนึงนะ
เดี๋ยวมา”
“แหม...
หวงจริงน้า น่าอิจฉาจริงเชียว”
เพื่อนในกลุ่มเอ่ยแซวทำเอาแฟร์รี่ออกอาการยิ้มเขิน
“เลิกแซวน่า
ไปครับน้องแฟร์”
“ค่ะ”
เธอเดินตามอย่างว่าง่าย
จริงๆ แล้วคือถึงเวลากลับบ้านและเธอออกมารับเงินกับผู้ชายที่เป็นคนว่าจ้างเธอมาต่างหาก
ชายหนุ่มเอ่ยขอบคุณเธอด้วยรอยยิ้มและขอตัวกลับไปที่โต๊ะก่อนโดยที่เธอเองก็แวะที่ห้องน้ำก่อนที่จะตามกลับไป
แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดกลับเกิดขึ้นตอนที่เธอไม่อยู่เสียนี่
แจ็คสันประกาศว่าไม่จบแค่นี้และเขา... ก็ไม่จบจริงๆ
ร่างหนาก้าวเข้ามาที่โต๊ะเดิมอย่างหมายมาด
เขารอเวลาที่เธอจะลุกออกไปนานพอดูจนได้เวลาเหมาะจึงไม่รอช้า
รอยยิ้มเจ้าเสน่ห์ของแจ็คสันก็เป็นใบเบิกทางที่ดี เพียงไม่กี่นาทีเขาก็เข้ามานั่งในกลุ่มเดียวกันได้ไม่ยาก
หลังจากทักทายกันไม่กี่ประโยคเขาก็เริ่มเดินแผนที่คิดมาสดๆ
ร้อนๆ ทันที
“ขอโทษนะครับน้อง
พอดีพี่มีความจริงจะบอก...” เขาเกริ่นนำด้วยสีหน้าที่สลดลงต่างจากก่อนหน้าที่ยังแย้มยิ้มสดใส
“คุณแจ็คสันเป็นอะไรรึเปล่าคะ?” หญิงสาวสวยข้างกายให้ความสนใจทันที ก็แหม...
เขาออกจะดูดีขนาดนี้ใครไม่ชอบก็แย่ละ
“อันที่จริง...
ผมโกหกพวกคุณ” เขายังคงพูดต่อ
รอให้ถาม... และก็มั่นใจด้วยว่าต้องมีใครสักคนสนใจถามขึ้นมา
“เรื่องอะไรคะ?”
และก็จริงดังคาด
ซึ่งนั้นทำให้เขาลอบหัวเราะอยู่ในใจจากนั้นก็เริ่มพูดต่อ
“ ผมไม่ใช่อาของแฟร์รี่หรอกครับ
แต่เป็น....”
คนพูดยิ้มกริ่มขึ้นมาราวกับคนละคนที่เพิ่งทำหน้าสลดให้เห็น
คราวนี้หละ... เธอพังแน่!
“...
ผัวน่ะ”
“ห๊ะ!!”
หลายเสียงในโต๊ะประสานขึ้นพร้อมกัน
ทว่า คนที่เลี่ยงไปห้องน้ำดันเดินกลับมาได้ยินพอดี...
เสียงที่เคยหวานเปลี่ยนเป็นกระชากห้วนเรียกชื่อของคนจ้องทำลายล้างชีวิตอย่างโมโหสุดขีด
“หวัง
แจ็คสัน! ... ตายซะเถอะ!!”
หวังแจ็คสันน่ะร้าย
555
ความคิดเห็น