ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7] SF - Only One :: รักหนึ่ง... ของเรา

    ลำดับตอนที่ #2 : ที่รักหรือที่พัก ... [YugBam]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 403
      2
      12 ก.ค. 57





     

      

    ที่รักหรือที่พัก - YugBam





     

    มือเธอมาถูกฉัน ตั้งใจไหมไม่รู้
    กับสิ่งที่เธอนั้นคิดอยู่ ดูไม่ออกเหมือนกัน
    วันหนึ่งเข้ามาชิด อีกวันถอยห่างฉัน
    เธออยากคบหรือไม่ต้องการ เห็นแล้วมันหวั่นไหว

     

     

     

     

     

              “ยูค... ยูค...”    

     

                ผมสัมผัสได้ถึงมือเล็กๆ ที่ลงน้ำหนักลงมาที่แก้มซ้ายเบาๆ แต่เปลือกตามันช่างกบฏต่อเจ้าของเหลือเกิน อยากจะลืมตามองแม้เพียงนิดแต่กลับไม่สามารถทำได้

     

                “ตื่นสิ!”    

     

                เสียงคุ้นหูเอ่ยขึ้นอีกครั้ง แต่ขอโทษเถอะต่อให้น้ำเสียงนั่นจะบอกอาการงอนแค่ไหน... ผมลืมตาไม่ขึ้นจริงๆ แถมยังรู้ตัวด้วยว่าพลิกตัวหนีคนคนนั้นตามด้วยการใช้หมอนอีกใบที่ควานหามาได้ปิดหน้าเสียอีก

     

               

    ผ่านไปสักพักก็ได้ยินเสียงสายน้ำดังขึ้นเบาๆ ถ้าให้เดาก็คงเป็นคนที่ปลุกเมื่อครู่นั่นแหละ...

     

    มือหนาถูกยกขึ้นมาลูบหน้าช้าๆ อย่างพยายามตั้งสติ เมื่อคืนผมดื่มไปเยอะจริงๆ แต่ก็ยังจำได้นะว่ากลับมาที่ห้องได้ยังไง

    ใจหนึ่งอยากจะหัวเราะตัวเองกับต้นตอที่ดื่มขนาดนั้น ไม่พ้นคนที่กำลังอยู่ในห้องน้ำนั่นหรอก ผมเองก็ไม่แน่ใจว่านานแค่ไหนแล้ว...ที่ใส่ใจเรื่องของเพื่อนตัวเองมากมายจนแทบบ้าที่เห็นเขาไปสนิทสนมและทำดีกับคนอื่น

     

    ผมพยายามยันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงอย่างลำบาก สะบัดศีรษะน้อยเพื่อคลายความมึนงงและง่วงงุนที่เกาะกุมราวกับญาติสนิท

     

    เสียงน้ำเงียบไปแล้วอีกไม่เกินหนึ่งนาทีเพื่อนของผมก็คงจะออกมาจากห้องน้ำ

     

    ร่างผอมบางออกมาพร้อมกับสวมเสื้อกล้ามแขนกว้างสีขาวขนาดใหญ่กว่าไซส์ตัวเองเรียบร้อยแล้วส่วนครึ่งล่างยังเป็นผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่สีขาว แต่รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าหวานที่ส่งมาทำให้ผมต้องยิ้มตาม ขาเล็กก้าวเรื่อยๆ มาที่เตียงก่อนจะส่งผ้าขนหนูผืนเล็กให้และนั่งหันหลังให้โดยไม่ถามความสมัครใจสักคำ

     

    “เช็ดผมให้หน่อย เปียกไม่เยอะหรอก”

     

    มาเสียขนาดนี้ใครจะกล้าขัดล่ะครับ ผมพยายามเบิ่งตาให้กว้างขึ้นอีกก่อนจะวางผ้าขนหนูแหมะลงบนกลุ่มผมนุ่มที่เปียกชื้นแล้วเริ่มซับเบาๆ แต่ก็นะ... คนมันยังไม่หายง่วงนี่นา

     

    ผมค่อยๆ เลื้อยตัวไปใกล้กว่าเดิมแล้ววางคางลงบนไหล่ก่อนจะพลิกหน้าโดยสันจมูกซุกเข้ากับซอกคอของเขา แต่มือซ้ายก็ยังทำหน้าที่ในการเช็ดผมให้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง กลิ่นอ่อนๆ ที่ปลายจมูกสัมผัสได้คือกลิ่นครีมน้ำหอมที่คุ้นเคย ทว่ายิ่งได้กลิ่นนี้ใกล้เท่าไหร่ยิ่งควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้

     

    ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกลิ่นน้ำหอมอ่อนหรือเพราะคนคนนี้กันแน่

     

     

    แต่ก็... แล้วไงล่ะ

     

     

    สันจมูกเริ่มเคลื่อนย้ายจากซอกคอขาวเป็นการรุกไล้ไปที่หลังใบหูเล็กก่อนจะเลื่อนระบายจูบไปที่หลังคอ ช่วยไม่ได้ก็นั่งหันหลังให้ผมเอง แรงสั่นน้อยๆ ทำให้ต้องยกมือขวาขึ้นเชยคางให้หันมาหา ส่วนมือซ้ายที่เคยถือผ้าขนหนูผืนเล็กเพื่อเช็ดผมนั่นน่ะ... วางทิ้งไปนานแล้ว

     

    “วันนี้แบมตัวหอมจัง”   

     

    ผมเอ่ยขึ้นเบาๆ แต่คนตรงหน้ากลับทำสีหน้าแปลกๆ แล้วหลุบตาลงที่พื้น... น่ารักชะมัด

     

    ความเงียบเข้าครอบคลุมรอบข้างจนแทบได้ยินเสียงเครื่องปรับอากาศ ผมจับปลายคางของเขาให้หันมาสบตาก่อนจะกดจูบเบาๆ อย่างหมั่นเขี้ยว

     

    “อ๊ะ!” 

     

    เสียงของแบมแบมดังขึ้นเบาๆ อาจเป็นเพราะตกใจแต่มันก็ไม่ใช่จูบแรกของเขากับผมนี่นา ถ้าอย่างนั้นผมควรทำอะไรที่มันเป็นครั้งแรกสักหน่อยดีไหม

     

     

     

    Rrrrrrrr

     

     

    เสียงโทรศัพท์ที่สั่นเป็นเจ้าเข้าอยู่ที่โต๊ะเล็กข้างเตียงดันขัดจังหวะเสียได้

     

     

    ไอ้เครื่องมือสื่อสารนี่ทำหงุดหงิดมากนะ!ผมพูดเลย...

     

     

     

     

    “แบมจะออกไปแล้วนะ พี่มาร์คไลน์มาตามแล้ว”

     

    ผมเงียบ... ก็ไม่รู้จะพูดอะไร ยังเซ็งอยู่

     

    “สรุปยูคจะไปส่งหรือเปล่า?”

     

     

    เสียงหวานหันมาถามผมแต่ผมก็หันไปมองด้วยสายตาเฉยเมยสุดๆ คิดว่านะ

     

     

    “ไม่เป็นไร แบมไปเองก็ได้ คราวหลังไม่ต้องสัญญาเลยนะ พอเมาแล้วลืมหมด...”

     

     

    แบมแบมยังคงบ่นไปพลางเปิดตู้เสื้อผ้าไปพลาง ส่วนตัวผมน่ะเหรอ? ก็คว้าผ้าเช็ดผมของแบมแบมติดมือเข้าห้องน้ำไป เชื่อเถอะ... ผมออกมา หมอนั่นก็ยังแต่งตัวไม่เสร็จ

     

     

     

     

     

     

    นึกสงสัยในใจทุกที ที่สบตาเธอคู่นั้น
    เงาสะท้อนข้างในแววตา
    ที่เป็นฉันอยู่ คือแบบไหน

     

     

     

     

     

                หูฟังครอบศีรษะสีเหลืองดำที่สวมอยู่ช่างทำงานได้อย่างดีเยี่ยม เสียงรบกวนรอบข้างทะลุทะลวงเข้ามาอย่างชัดแจ๋วยิ่งกว่าระบบดอบบี้เซอร์ราวนด์... ก็ทำไมจะไม่ได้ยินล่ะ... ผมไม่ได้เปิดเพลงสักแอะ

     

                อย่าถามว่าอยู่ที่ไหนนะเพราะมันน่าอาย คือ... ผมมากับแบมแบม ตอนแรกก็เหมือนจะไม่สนใจใช่ไหมล่ะ แต่คุณก็รู้นี่นา...ทำแบบนั้นได้ซะที่ไหน

     

                ตั๋วหนังสามใบถูกยัดใส่มือผมโดยคนตัวเล็ก ผมอยากจะยิ้มรับอยู่นะถ้าอีกมือของแบมแบมมันไม่ได้ถูกเกาะกุมโดยพี่มาร์คหัวแดงนั่น เออ... ยอมรับว่าพี่มาร์คหล่อ(หล่อมาก) แถมบ้านรวย เรียนดี กีฬาเก่ง อบอุ่น เป็นผู้ใหญ่ เอางี้เฟอร์เฟคแล้วกัน...  

     

     

                แถมวันนี้จะเรียกว่าเดทแรกของสองคนนั้นได้ไหมนะ? ... แต่ที่ไม่ปกติสำหรับการเดทก็เพราะมันดันมีผมเป็นก้างชิ้นใหญ่อยู่ด้วย

     

     

     

     

     

                ... เรื่องมันเศร้าขอเหล้าเข้มๆ ดิ๊!

     

     

     

     

                แต่แบมแบมคงเห็นผมหน้าบอกบุญไม่รับละมั้งเลยเอื้อมมือมาจับมือของผมไว้ แต่ขอโทษ!... จับแบบสอดนิ้วประสานกันเลยนะ

     

     

    แค่นี้ก็เรียกรอยยิ้มของผมได้แล้วแม้อีกมือจะยังจับมือพี่มาร์คไว้ก็เถอะ

     

                 



    บอกหน่อยได้ไหม เธอมองว่าฉันคนนี้เป็นที่รัก
    หรือมองเป็นเพียงที่พักเวลาเหงาใจ
    แค่อยากจะรู้ ว่าฉันนั้นควรยืนอยู่ที่ตรงไหน
    ไม่รู้จริงๆ ว่าเป็นอะไรกับเธอ

     

     

     

     

                    หลายเดือนแล้วที่เรื่องราวของพี่มาร์คถูกถ่ายทอดจากปากของแบมแบมไม่หยุด ส่วนผมก็ได้แต่ฟังแม้ว่าภายในหัวใจมันจะแอบเจ็บทุกครั้งก็เถอะ

                เรื่องแย่ที่สุดก็คงจะเป็นเรื่องที่พี่มาร์คเรียนสถาปัตย์ฯ ปี 4 ในขณะที่พวกผมอยู่ปี 2 นึกว่าจะอดทนแค่เทอมเดียวก็จะหลุดพ้นและเราก็จะเป็นเหมือนเดิมกลับกลายเป็นต้องอยู่ให้เห็นหน้าไปอีกตั้งปี และหากอยู่นานขนาดนี้ผมอาจเสียเขาไปก็ได้

     

     

     

     

                วันนี้แบมแบมที่เพิ่งกลับมาจากข้างนอกเดินตรงมาหาแถมยังทิ้งตัวลงที่พื้นพรมที่ผมกำลังนั่งเล่นเกมส์และใช้ต้นขาผมแทนหมอน ผมกดหยุดเกมส์แล้วก้มลงมองคนที่นอนนิ่งๆ อย่างแปลกใจ

     

                จอยซ์เกมส์ถูกเลื่อนออกไปจนไปชนชั้นวางทีวีดังกึกแต่ผมก็ไม่ได้สนใจมากนักเพราะสนใจคนที่กำลังทำหน้าหงอยแลดูน่าสงสารนี่มากกว่า คนน่ารักเงยหน้ามองผมก่อนจะยกสองมือขึ้นประคองใบหน้าของผมจากนั้นก็ถอนหายใจเบาๆ มือเล็กปล่อยใบหน้าของผมแต่ผมก็คว้ามือหนึ่งกลับมาสัมผัสที่แก้มอีกครั้ง

     

                “เป็นอะไรหืม...”

     

                “พี่มาร์ค...” 

     

                พี่มาร์คอีกแล้วว่ะ... แค่ได้ยินชื่อก็อยากจะลุกหนีแล้วแต่ทำไม่ได้จริงๆ ติดอยู่ที่คนตัวเล็กตรงหน้านี่แหละ

     

                “พี่มาร์ค...ทำไม?”    ผมยังคงถามต่อ เพราะหากเขาเอ่ยมันขึ้นมาก็คงอยากจะเล่าให้ฟัง

     

                 “... ไม่มีอะไร...”  

     

                เขาซุกหน้าเข้าหาหน้าท้องของผมพร้อมกับยกแขนขึ้นกอดเอวแน่นจนเกือบจะยกมาทั้งตัว ผมเลยแกะมือเขาออกและจับไหล่สองข้างให้ลุกขึ้นจากนั้นก็ดันตัวให้ออกเดินไปที่ห้องนอน คนตัวเล็กนอนลงบนเตียงอย่างว่าง่ายโดยมีผมที่แทรกตัวเองกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ข้างๆ

     

                “ยูคไม่เล่นเกมส์แล้วเหรอ?”    แบมแบมถามเสียงอู้อี้โดยที่เจ้าตัวเริ่มหันมานอนตะแคงแล้วกอดเอวผมเอาไว้หลวมๆ

     

                “นี่ไง..”    ผมยกมือถือในมือให้ดู รู้ดีว่าเวลาเขาไม่สบายใจมักจะต้องการคนอยู่เป็นเพื่อนและคนคนนั้นจะเป็นคนอื่นไปไม่ได้หรอกนอกจากผม

     

     

                “ขอบคุณที่อยู่เป็นเพื่อนนะ”  

     

                พูดจบเขาก็หลับตาลง ผมเองก็ได้แต่เขี่ยกลุ่มผมนุ่มเล่นไปเรื่อยๆ ตอนนี้ลืมไปแล้วว่าจะเล่นเกมส์มันมีแต่ความกังวลระคนเป็นห่วงคนตัวเล็กข้างๆ

     

     

                ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไง... เขาจะรักใคร... ผมก็จะอยู่ตรงนี้ ถ้าเขาต้องการ...         

     

     

     

     

     

     



    บางทีก็ดูรัก บางครั้งก็ผลักไส
    มีสิ่งที่ฉันไม่เข้าใจ เกิดจากเธอเรื่อยมา
    วางตัวไม่ถูกแล้ว ยิ่งนานยิ่งเหนื่อยล้า
    ควรอยู่หรือไปซะดีกว่า รู้ไหมว่าฉันสับสน

     

     

     

    ความรู้สึกนุ่มหยุ่นที่ริมฝีปากทำให้ผมเริ่มรู้สึกตัวเพียงแค่ไม่ได้ลืมตาขึ้นมา ความมืดที่ปกคลุมทำให้รู้ว่าเผลอหลับไปนานจนค่ำ ปลายผมที่ตกเคลียแก้มทำให้รู้ว่าคนข้างๆ เริ่มซนมากขึ้นทุกที ผมขยับแขนขึ้นโอบรัดให้เขาอยู่นิ่งๆ แต่ก็เป็นอย่างนั้นได้ไม่นานนัก

     

    คนตัวเล็กชักจะซนจนน่าตี เขาขยับตัวอีกครั้งและเริ่มแตะริมฝีปากบนปากผมอีกครั้งแต่ผมก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นหรือเล่นด้วย ลิ้นเล็กร้อนจึงเริ่มทำหน้าที่ของมันอย่างคุ้นชินเพียงเท่านั้นผมก็ทนนิ่งต่อไปไม่ไหวเผลอเผยอปากจูบตอบและส่งเรียวลิ้นเข้าหยอกล้อพร้อมกับเลื่อนมือสัมผัสแผ่นหลังเนียนใต้เสื้อ

     

    “อื้อ...”  

     

    เสียงครางของคนตัวเล็กเล็ดลอดออกมาให้ได้ยิน ดูเหมือนเขาจะพยายามไม่เปล่งเสียงอะไรออกมาอย่างเต็มที่ คนตัวเล็กย้ายขึ้นมาทาบทับบนร่างของผมเพื่อให้จูบถนัดขึ้น

     

    แม้จะพลุ่งพล่านกับความอ่อนโยนผสมร้อนแรงจากจูบนั้น แต่อะไรบางอย่างทำให้ผมรู้สึกได้ว่ามันแปลก

    ทว่าความคิดนั้นก็ต้องถูกสะบัดทิ้งไปเมื่อมือเล็กที่เคยจับอยู่ทุกวันสัมผัสกับส่วนที่ไวต่อความรู้สึกผ่านเนื้อผ้ากางเกงวอร์มสีเทาที่สวมอยู่

     

     



    นึกสงสัยในใจทุกที ที่สบตาเธอคู่นั้น
    เงาสะท้อนข้างในแววตา
    ที่เป็นฉันอยู่ คือแบบไหน

     

     

     

     

    ในเสี้ยววินาทีผมก็ดันเขาออกจากตัวก่อนจะตวัดมือลงบนสวิตช์ของโคมไฟตั้งพื้นที่อยู่หัวเตียง แสงนวลสีส้มตกกระทบใบหน้าของอีกคนที่ทำหน้าเหวออยู่บนเตียง

     

    ทั้งที่เมื่อกี๊ยังจูบกันจนแทบจะรวมร่าง... แต่อะไรบางอย่างกลับย้ำเตือนให้ผมต้องหยุด

     

    “นายทำแบบนี้ไม่ได้นะแบมแบม!

     

    ผมยกตัวเองขึ้นนั่งและพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงจริงจัง ... ให้ตายเหอะ พูดเหมือนตัวผมเองจะถูกปล้ำงั้นแหละ

     

     

    คำว่าพี่มาร์ค... มันย้อนกลับเข้ามากวนใจผมเมื่อนึกได้ว่าก่อนจะเข้ามานอนในห้องนี้การพูดคุยมันค้างอยู่ที่ตรงไหน

     

    แบมแบมอาจกำลังรู้สึกแย่... แต่ว่าผมไม่ใช่ไอ้พี่มาร์ค ผมทำแทนหรือทดแทนขนาดนั้นไม่ได้หรอกนะ 

     

    แม้ว่าผมจะรักเขา... แต่ ผมทำใจยอมรับไม่ได้จริงๆ

     

     

     

    ให้ผมเป็นตัวแทนแบบนั้น... ผมคงทนไม่ไหว

     

     

     

    “คืนนี้... ฉันจะไปนอนห้องยองแจ”  ผมตัดสินใจบอกออกไปแล้วก็เลื่อนตัวลงจากเตียง แต่แรงสัมผัสจากด้านหลังที่โถมเข้ามาและสองแขนที่โอบกอดทำให้ต้องหยุดชะงัก

     

     

    “ไม่นะยูค... อย่าไปนะ”

     

     

     

     

    ต่อมความรู้สึกทำงานดีเกินไปนะ ทำไมรู้สึกเจ็บขึ้นมาราวกับหัวใจจะหลุดขนาดนี้ล่ะ หรือเพราะผมรักเขามานานเกินไป มันก็แค่สองปีทำไมต้องคิดอะไรมาก

     

     

    ภายในสองปีนั้นมีอยู่ปีครึ่งที่อยู่ในสถานะ... มากกว่าเพื่อน

     

     

    และหากเขาได้เจอคนที่ดี และพร้อมที่จะรักเขา... ผมก็ควรจะปล่อยให้เขาเดินไปด้วยรอยยิ้มที่มันเคยทำให้โลกของผมสว่างเหมือนกัน

     

     

    ส่วนผมน่ะ... ช่างมันเถอะ

     

     

     

     

    “อย่าห้ามยูคเลยนะแบม”

     


     


    บอกหน่อยได้ไหม เธอมองว่าฉันคนนี้เป็นที่รัก
    หรือมองเป็นเพียงที่พักเวลาเหงาใจ
    แค่อยากจะรู้ ว่าฉันนั้นควรยืนอยู่ที่ตรงไหน

    ไม่รู้จริงๆ ว่าเป็นอะไรกับเธอ

     

     

     

     

     

    “แบมแค่อยากลองอยู่ห่างๆ ยูคบ้าง”

     

     

    หืม... เจ็บดีนะ

     

     

    “อยากรู้ว่าจะอยู่ได้ไหมถ้าไม่มียูค”

     

     

    ซ้อมทิ้งกัน...? ถือว่าเป็นวิธีการที่ดี

     

     

    “บางที... แบมอยู่กับยูคมากเกินไป ก็กลัวทำให้รำคาญ”

     

     

                ห๊ะ!... อะไรนะ?  ใครกันที่รำคาญ ผมไม่เคยรำคาญเขาสักครั้ง มีแต่เขานั่นแหละที่พยายามทำตัวออกห่างจนผมรู้สึกว่าผมยุ่งกับชีวิตเขามากเกินไปรึเปล่า

     

     

    บอกหน่อยได้ไหม เธอมองว่าฉันคนนี้เป็นที่รัก
    หรือมองเป็นเพียงที่พักเวลาเหงาใจ

     

     

     

    “ยูคเป็นคนสำคัญสำหรับแบมนะ”

     


    แค่อยากจะรู้ ว่าฉันนั้นควรยืนอยู่ที่ตรงไหน

     

     

     

     

    “อยู่ตรงนี้ต่อไปได้ไหม?”

     

     


    ไม่รู้จริงๆ ว่าเป็นอะไรกับเธอ

     

     

    “ขอโทษที่ทำให้คิดมาก... ถ้ายูคไม่ได้ชอบ ก็... ขอโทษ”

     

    “ถ้าเป็นอย่างนั้น จะยังอยู่ด้วยกันได้อยู่ไหม?”

     

    “อย่าโกรธแบมนะยูค”

     

     

    อ้าว... คดีพลิก!

     

     

    “ยูคไม่เคยโกรธแบมแบมหรอก”     ใช่... ผมไม่เคยโกรธเขาเลย อย่างมากก็ทำได้แค่น้อยใจที่ไม่สำคัญ

     

     

     


    ฐานะจริงๆ ฉันคืออะไร ช่วยบอกให้รู้ที

     

     

     

                “ไม่โกรธแล้วใช่ไหม?”    เขาถามทั้งที่ยังเกยคางลงบนบ่ากว้างของผมแต่แขนเล็กนั่นก็ยังกอดผมไม่ยอมปล่อย

     

     

                ผมปลดแขนของเขาออกแล้วหันมาสวมกอดเขาเต็มตัว มือหนาถูกยกขึ้นเพื่อลูบกลุ่มผมนุ่มอย่างปลอบประโลม

     

     

     

     

     

    “ไม่มีอะไรจะโกรธหรอก?”

     

     

    “หืม...จริงเหรอ?”  แบมแบมดูประหลาดใจที่ได้ยินแบบนั้น  

     

     
                ผมสูดหายใจลึกอีกรอบก่อนจะขยับปากกระซิบข้างใบหูเล็ก




     

    “ก็เพราะเรา... รักกันไม่ใช่เหรอ?

     

     

     

     

     -END-



     

     

    อย่าถามถึงพี่มาร์คที่ตัดทิ้งไป

    เพราะมันจะอยู่ในพาร์ทพี่มาร์ค อ้าวววว....

    ขอบคุณที่หลงมาอ่านนะคะ 55555

     

    เพลงมาฟิคมา ><


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×