ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7] SF - Only One :: รักหนึ่ง... ของเรา

    ลำดับตอนที่ #6 : -2- [NiorBam] ... รักเธอทั้งชีวิต

    • อัปเดตล่าสุด 23 ก.ค. 57



                                                                                                                                                                                                                                                                                      -2-                         

    NiorBam – รักเธอทั้งชีวิต  

     

     

     

    กี่เหตุผลอะไรมากมาย ที่ทำให้เราไม่ควรรักกัน
    แต่ว่าฉันเองไม่สนใจ ขอฟังตัวเองเท่านั้น
    มันอยากจะรักเธอ แม้ต้องเจอเรื่องราวอะไรก็ตาม
    แต่หัวใจยังสั่ง ยังยืนยัน

     

     

     

     

    ลิฟท์แก้วโดยสารเลื่อนตัวขึ้นเพื่อส่งผู้โดยสารอยู่ทีละชั้นจนมาถึงชั้นที่จูเนียร์พักอาศัยอยู่ สองมือของเขาหอบของพะรุงพะรังมากมายเพราะวันนี้เขาตั้งใจจะทำอาหารอร่อยๆ ไว้รอเอาใจคนรักที่วันนี้มีสอบย่อยและรับรองว่าจะต้องหายเครียดกับการสอบเป็นปลิดทิ้งแน่ๆ

     

    ข้าวของถูกวางอย่างเบามือที่โต๊ะเตรียมอาหารแต่หางตากลับเห็นสิ่งผิดปกติ แววตาของจูเนียร์เปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมาในทันที ร่างสูงเคลื่อนตัวอย่างเงียบที่สุดก่อนจะผลักประตูห้องนอนของเขาให้เปิดกว้าง แต่แรงสะดุ้งเฮือกจากผู้บุกรุกทำเอาเขาถอนหายใจยาว

     

    “แบมแบม!.... เฮ้อ...”

     

    “ผมสิต้องตกใจน่ะ!”    พูดไปก็พลางหลับตาผ่อนลมหายใจบางๆ

     

    “ฉันก็นึกว่าโจรที่ไหนบุกห้อง”  จูเนียร์เดินเข้ามาหาคนตัวเล็กที่นั่งอยู่หน้าโน๊ตบุ๊คแล้วก้มโอบจากด้านหลัง

    “รู้ได้ยังไง? เอ้อ... แล้วนอกจากผมแล้ว ยังจะมีใครเข้าห้องคุณอีกเหรอ?”   แบมแบมเหล่มองหน้าคนรัก ปากบางเชิดขึ้นอย่างเอาแต่ใจ

     

    “อุ้ย! ซวยเลย..  แล้วคนอื่นเนี่ยไม่มี๊! จะมีใครที่ไหนได้ไงเล่า!”   จูเนียร์รีบปฏิเสธหน้าเหรอหรา เขาย่อตัวลงคุกเข่าที่ข้างเก้าอี้ก่อนจะยกสองมือขึ้นประคองดวงหน้าน่ารักไว้

     

    “อย่ามาเปลี่ยนเรื่องเจ้าเด็กขี้หึง... เช็คเฟสบุ๊คฉันเหรอ?” 

     

    แบมแบมเงียบ... ดวงตาที่เคยเหล่หาเรื่องจูเนียร์เปลี่ยนไปมองเพดาน ประตู หน้าต่าง ริมฝีปากที่เคยเชิดฉีกยิ้มหวานให้คนตรงหน้าโดยฉับพลันราวเปิดสวิตช์หลังจากโดนจับได้

     

    “ไปกัน... ไปช่วยฉันทำอาหารดีกว่า”   จูเนียร์ลุกขึ้นยืนแล้วแบมือตรงหน้า

     

    “โอเค...”    แบมแบมวางมือบนมือของร่างสูงแล้วเดินตามอย่างว่าง่าย

     

    “เอ้อ... จูเนียร์! คุณรู้ได้ยังไงว่าผมมา?”    แบมแบมเอ่ยถามอย่างสงสัยขณะที่กำลังช่วยจูเนียร์ผูกผ้ากันเปื้อนสีฟ้าผืนสวยที่เคยไปซื้อมาด้วยกัน

     

    “ฉันจะรู้ว่านายมาได้ยังไงล่ะ... แค่เห็นแจกันดอกไม้มันวางไม่เหมือนเดิมแค่นั้นเอง”

     

    “ห๊ะ...”

     

     

     

     

    งานของจูเนียร์ดูจะง่ายอยู่ไม่น้อยเพราะส่วนใหญ่แบมแบมก็ไม่ได้ไปไหนทำให้เขาไม่ต้องออกไปตามติดให้ลำบาก แต่ที่สร้างความรำคาญให้มากกว่าทุกสิ่งก็ตอนที่เห็นอิมแจบอมปรากฏตัวที่มหาวิทยาลัยของแบมแบมในอาทิตย์ต่อมาต่างหาก

     

     

    อิมแจบอมยังไม่ระแคะระคายเรื่องที่เขาคบกับแบมแบมเพราะหมอนั่นเองก็ไม่ได้ว่างขนาดที่จะมารู้เรื่องส่วนตัวของเขาทุกเรื่องไม่ต่างจากเขาที่ไม่รู้เหมือนกันว่าแจบอมคบใครเป็นตัวเป็นตนอยู่หรือไม่

     

    “ไอ้เพื่อนเลว... ถ้ายังหาเศษหาเลยกับแฟนฉันอยู่ คราวหน้าฉันจะพังสวรรค์ชั้นเจ็ดของนาย!”  จูเนียร์ได้แต่ฮึดฮัดกับลมแล้งเมื่อเห็นแจบอมเดี๋ยวแตะศอกเดี๋ยวแตะไหล่ของแบมแบมแต่ด้วยความที่เข้าใจว่าเป็นงานเลยปล่อยๆ ไปบ้างแต่หากมีใครที่ไม่รู้จักมายุ่มยามล่ะก็เขาคงอัดหมอนั่นน่วมแน่ๆ

     

     

    กว่าครึ่งชั่วโมงประตูรถสีขาวก็ถูกเปิดออก จูเนียร์ที่กำลังเอนเบาะนอนใช้แขนก่ายหน้าผากก็กระเด้งตัวขึ้นโดยอัตโนมัติ

     

    “จูเนียร์... คืนนี้ต้องไปธุระกับที่บ้าน ผมคงไม่ได้ไปคอนโดนะ”

     

    จูเนียร์รับฟังโดยไม่พูดอะไร สมองกำลังประมวลผลอย่างเร่งด่วนเพราะคืนนี้เขาก็คงต้องแอบตามแบมแบมตามหน้าที่เช่นกัน

     

     

     



    อาจไม่เห็นทางเดินเข้าไป เข้าไปข้างในจิตใจของเธอ
    แต่ว่าฉันเองไม่ท้อใจ ขอทุ่มเทไปอย่างนั้น
    ไม่อยากจะรักใคร แม้ว่าเธอไม่มองกลับมาก็ตาม
    จะขอพยายามด้วยชีวิต

     

     

     

     

    จูเนียร์โทรรายงานสถานที่ของแบมแบมให้กับแจบอมก่อนจะเริ่มทำหน้าที่ของตัวเองอีกครั้ง

     

    เครื่องดักฟังขนาดจิ๋วที่ถูกติดไว้ปกคอเสื้อของแบมแบมก่อนหน้านี้โดยที่เขาไม่รู้ตัวกำลังเริ่มทำหน้าที่ จูเนียร์นั่งฟังบทสนทนารอบข้างอยู่ในรถระหว่างรอแบมแบมไปด้วย

     

     

    งานก็ทำแถมได้เฝ้าแฟน...หากไม่คิดเรื่องทางลบก็ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยข้อดี

     

     

     

    แต่บทสนทนาที่ต่างจากทั่วไปทำให้จูเนียร์คิ้วขมวด ก่อนจะลุกขึ้นนั่งดีๆ และตั้งใจฟัง

     

     

    “ไง...แบมแบม”

     

    "ครับ”

     

    “พักนี้ไม่ค่อยได้อยู่บ้านหรือไงเรา?”

     

    “ครับ”

     

    “อย่าทำตัวเหลวไหลนัก... แล้วงานที่สั่งให้ทำน่ะคืบหน้ารึยัง?”

     

    “มีบ้างครับ แต่มันยังไม่ค่อยได้เรื่อง”

     

    “นานเกินไปแล้วนะ”

     

    “ขอโทษครับ”

     

     

     

    สิ้นเสียงของบทสนทนาโทรศัพท์ของจูเนียร์ก็ดังขึ้นซึ่งก็มาจากแบมแบมที่บอกว่าจะกลับแล้ว ชายหนุ่มเก็บของทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนจะวนรถไปรอรับ แบมแบมขึ้นรถมาด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีจนจูเนียร์เป็นห่วง

     

    “คืนนี้ไปนอนด้วยคน”   คนตัวเล็กข้างๆ เอ่ยทั้งที่ยังมองไปด้านนอกตัวรถ

     

    “ไม่มีปัญหา แต่ว่า...นายเป็นอะไรรึเปล่า?”   จูเนียร์ถาม

     

    “ก็แค่โดนคุณลุงดุ... ที่มาคบกับนักศึกษามหาวิทยาลัยจอมจุ้นอย่างคุณ”

     

    “แบมแบม!”  

     

    “ฮ่ะฮ่ะ... อ้าว...ไม่ใช่เหรอ? โทษๆ”

     

     

    เสียงหัวเราะของแบมแบมรวมถึงรอยยิ้มที่ฉายบนใบหน้าทำให้เขาคลายความห่วงลงได้บ้างทั้งที่กลัวว่าคนตัวเล็กจะคิดมากแต่ดูเหมือนจะเป็นเขาเองที่คิดมากเกินไป

     

     

    .

    .

    .

     

                บ้านสีครีมหลังใหญ่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเขามองตัวบ้านอีกครั้งก่อนจะเริ่มหาทางหลบกล้องวงจรปิดเข้าไปด้านใน เวลาไม่นานนักชายหนุ่มผมสีเข้มที่มีมาสก์สีดำอันใหญ่ปิดหน้าก็เข้ามาได้ถึงภายในตัวบ้าน ซึ่งบรรยากาศด้านในสร้างความแปลกใจให้เขาไม่น้อย

     

                บ้านที่ตกแต่งอย่างสวยงานราวภาพวาดแต่ให้ความรู้สึกราวกับไร้ชีวิต ไรฝุ่นสักนิดแทบไม่มีแต่คล้ายสิ่งของต่างๆ ไม่มีการใช้งาน เขากวาดตามองห้องโถงอีกครั้งก่อนจะย้ายไปยังห้องอื่นที่เขาคิดว่าจะมีอะไร

     

                ประตูบานหนาเปิดได้โดยง่าย ภายในมีเตียงสีเสาหลังใหญ่ประดับด้วยม่านสีขาวปักลายทั่วผืนผูกติดกับเสาเอาไว้ ห้องนี้เหมือนว่างไม่มีใครอยู่ ไม่มีแม้แต่เสื้อผ้าซักตัวภายในตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่มีเพียงความรู้สึกที่บอกเท่านั้นว่าห้องนี้จะต้องมีใครสักคน จูเนียร์ไม่รอช้ารีบสำรวจทั้งห้องแต่กลับไม่ได้อะไร

     

                เขาเริ่มรู้สึกหงุดหงิดตัวเองขึ้นมาเล็กน้อยจึงตัดสินใจตรงไปที่ห้องที่คิดว่าเป็นของแบมแบมเสียเลยอย่างน้อยห้องนั้นก็เป็นห้องของเป้าหมายแล้วก็มีคนอยู่แน่นอน

     

                เคยได้ยินคำว่า... ความแน่นอนคือความไม่แน่นอนบ้างไหม?

     

     

    นั่นแหละ มันใช้ได้กับเวลานี้เลย

     

     

    ห้องที่เขาเคยคิดว่าเป็นของแบมแบมกลับไม่มีกลิ่นของสิ่งมีชีวิตเลยสักนิด มีแต่เตียงขนาดใหญ่ที่ผ้าปูที่นอนเป็นสีเทาเข้มเหมือนกับที่ห้องของเขา โต๊ะทำงานแบบเดียวกับที่ห้องของเขา การจัดวางต่างๆ เหมือนกับที่ห้องของเขา ตอนนี้จูเนียร์นิ่งไปด้วยความงงเมื่อเปิดประตูมาแล้วคล้ายกับเข้าห้องนอนของตัวเองไม่มีผิด

     

    “นี่มันอะไรกัน?”     จูเนียร์รำพึงเบาๆ

     

     

    แต่มันจะเหมือนได้แค่ไหนกันเชียว...

     

     

    ตู้เสื้อผ้าที่เขาเปิดประตูตู้ออกมาคือคำตอบ เสื้อผ้าของจูเนียร์แทบเต็มตู้... ไม่ใช่สิ มันต้องเรียกว่าแบบเดียวกันต่างหาก

     

    มือหนาปิดประตูตู้เสียงดังอย่างไม่กลัวว่าจะมีเรื่องเพราะเขารู้แล้วว่าบ้านในไม่มีใครอยู่สักคน

     

     

     

     

    ประตูคอนโดถูกกระแทกปิดอย่างแรงจนคนที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่โซฟาสะดุ้ง จูเนียร์เหวี่ยงกระเป๋าออกจากตัวและเดินไปยืนบังจอที่อีกคนกำลังตั้งใจดูอย่างเอาเรื่อง

     

    “เรามีเรื่องต้องคุยกันแล้วนะแบมแบม!

     

    “มีอะไรก็นั่งก่อนสิครับ”   แบมแบมเอ่ยเบาๆ

     

    “ไม่จำเป็น! นายทำอะไรกับห้องของฉัน ไม่สิ.. ห้องของนาย”

     

    “แล้วคุณล่ะ... ทำอะไรกับผม?”

     

    คำถามถูกตอบด้วยคำถามทำให้จูเนียร์นิ่งไปเสียเฉยๆ แบมแบมลุกขึ้นเผชิญหน้าอย่างไม่ลดละราวกับโมโหทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่มีทีท่าสักนิดเดียว

     

    “คุณสืบเรื่องของผมทำไม? อย่าบอกนะว่าสืบเรื่องของแฟนอะไรเทือกนั้น เพราะคงไม่หวงขนาดที่ต้องติดเครื่องดักฟัง สะกดรอยตาม ให้คนมาตีสนิท แล้วก็ย่องเข้าบ้าน หรือแฮ็กอีเมล์ผมหรอก..ใช่ไหม?”

     

     

    จูเนียร์มองแบมแบมราวกับไม่เคยเห็น เขาคิดว่าการหลอกแบมแบมเป็นเรื่องผิดจะแย่อยู่แล้วแต่เจ้าตัวรู้ทุกเรื่องขนาดนี้เขายิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นไปอีกอย่างช่วยไม่ได้

     

    “คนจ้างคุณเขาอยากรู้อะไรก็มาถามผมเลย ไม่ต้องสืบให้ลำบากหรอก มันเสียเวลาเปล่า”

     

    “แบมแบม... นายระ รู้?  รู้ได้ยังไง?”

     

    “คุณสืบเรื่องของผมยังไง... ผมก็ทำแบบเดียวกันนั่นแหละ แต่มันเริ่มหลังจากที่คุณสืบเรื่องของผม”

     

    แบมแบมก้าวออกไปจากโซฟาเพื่อหยิบกระเป๋าที่จูเนียร์เหวี่ยงทิ้งเอาไว้ก่อนจะเปิดมันออกและหยิบมาสก์ที่จูเนียร์สวมวันนี้ออกมาแล้วปาไปที่เจ้าของ

     

    “คุณรู้ไหม? ผมอยู่ที่บ้านตอนที่คุณเข้าไป ผมอาจจะผิดที่ไม่ได้เล่าอะไรให้ฟังแต่ใช้วิธีบุกบ้านคนรักแบบนี้ คุณไม่คิดว่ามันเกินไปหน่อยเหรอ?”

     

     

     

     

     

    “ตอบผมมาสิ! คุณจูเนียร์... นักโจรกรรมข้อมูล ของอิมเทค!

     

     

     

     

     


    จะทำให้เธอได้รู้และได้เข้าใจ ว่าฉันรักเธอเท่าไร
    หมดชีวิตฉันให้เธอก็ยังน้อยไป
    จะทำให้เธอได้รู้และได้เข้าใจ ทุกสิ่งทุกความหมาย
    ในคำว่ารัก จากฉันคนนี้

     

     

     

     

    มือหนาถูกยกขึ้นลูบใบหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า จูเนียร์มีสีหน้าอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด ตั้งแต่คบกันมาเขาไม่เคยทะเลาะกับแบมแบมรุนแรงแบบนี้มาก่อน แถมผมก็เพิ่งรู้เรื่องที่ไม่คิดว่าจะมันจะเป็นไปได้จากปากของเขา

     

     

     

    นั่นคือ... แบมแบมเป็นทายาทของทีกรุ๊ปที่ถูกสั่งให้ล้วงข้อมูลของจูเนียร์หลังจากที่ลุงของเขารู้ว่าแบมแบมกับจูเนียร์คบกัน

     

     

    ดูเหมือนเรื่องนี้จะซับซ้อนเกินไปแล้ว...

     

     

    แต่ยังไงก็แล้วแต่...หากตัดเรื่องยุ่งๆ ออกไป สิ่งที่จูเนียร์กังวลมีเพียงแค่เรื่องที่แบมแบมโกรธแล้วหนีกลับบ้านไปโดยการเอาปืนจ่อหัวจูเนียร์ไม่ให้ตามต่างหาก

     

     

    จูเนียร์ไม่ได้กลัวและรู้ดีว่าเขาไม่กล้ายิง แต่ตกใจที่แบมแบมโกรธถึงขั้นคว้าปืนขึ้นมาขู่กัน

     

     

     

    ทว่าอยู่อย่างนั้นไม่ได้นานก็ถูกอิมแจบอมทำลายความเงียบเมื่อข้อความที่ส่งมาบอกว่าถูกหักหลังจากผู้ว่าจ้างโดยการที่อิมเทคจะถูกแบล็คเมล์และงานสำคัญคือเขาจะต้องไปฉกงานและหลักฐานคืนมาก่อนที่จะเป็นเรื่องใหญ่

     

     

     

    .

    .

    .

     

     

     

     

     

    “ยินดีที่ได้พบกับทายาททีกรุ๊ป... นายมาเองแบบนี้งานของฉันคงง่ายขึ้นเยอะ” 

     

    “แล้วคนของผมอยู่ที่ไหน?”  แบมแบมตะโกนถาม

     

    “ดูเหมือนคราวนี้นายจะติดกับแล้วหละนะ หึหึ”

     

     

    ปืนหลายกระบอกถูกเล็งมาที่แบมแบมเป็นจุดเดียว ใบหน้าหวานหันมองรอบตัวอย่างตระหนกเล็กๆ ที่พลาดตกอยู่ในวงล้อมอย่างไม่น่าจะเป็นไปได้

     

     

    “คราวนี้ถ้าฉันต่อรองกับทีกรุ๊ปคงได้เปรียบอยู่เยอะทีเดียว ต้องขอบคุณนายแล้วก็แฟนนายด้วยที่ทำให้งานของฉันง่ายขึ้นเยอะ”

     

    “เขาเกี่ยวอะไรด้วย แล้วเขาอยู่ไหน!?”   แบมแบมเริ่มเดือด

     

    “ก็แค่แผนตื้นๆ ฉันเองก็ไม่คิดว่าพวกแกจะตกหลุมง่ายๆ”

     

     

    แบมแบมกัดฟันแน่นอย่างแค้นที่ถูกดัดหลังแถมถูกใช้เป็นเครื่องมืออย่างไม่รู้ตัว แต่ไม่เพียงแต่แบมแบมเท่านั้นยังมีคนที่อยู่บนฝ้าอีกคนที่อยากจะกระโดดลงไปซัดผู้ว่าจ้างตัวแสบให้แหลกคามือเช่นกัน

     

     

     

     

     

    ปัง!!!!!!

     

     

     

     

    เสียงปืนด้านนอกเรียกสายตาจากคนในห้องได้เป็นอย่างดี เพียงเท่านั้นแบมแบมก็ชักปืนออกมายิงมือปืนที่ใกล้ที่สุดแล้วถอยฝ่าวงล้อมออกไปอย่างรวดเร็ว

     

     

    ลูกน้องทั้งหมดถูกสั่งให้ตามไปในทันที ส่วนจูเนียร์ที่ได้จังหวะเหมาะก็ลงมาค้นสิ่งที่ต้องการแล้วรีบตามไปช่วยแบมแบมในทันที

     

     

    อิมแจบอมที่ตามมาสมทบกำลังอยู่ในที่นั่งลำบาก เขาหลบอยู่หลังกองลังไม้ภายในโกดังด้วยอย่างใจระรัวเพราะหายเล่นซ่อนหาแบบนี้ไปเรื่อยๆ เขาจะต้องแพ้แน่ๆ แต่เกินกว่าจะคาดเดาเสียงปืนก็ลั่นขึ้นมาจากอีกด้านที่ไม่ได้ระวังทว่าใครบางคนกระชากเขาออกวิ่งไปอีกทางอย่างไม่คิดชีวิต

     

    ทันทีที่ก้าวออกมาจากโกดังสินค้าร่างที่คว้าอิมแจบอมจากคมกระสุนก็ทรุดฮวบ

     

    “ไอ้เนียร์!”   

     

    อิมแจบอมร้องเสียงหลงเมื่อเห็นเลือดที่อยู่บนพื้นจึงค่อยๆ ประคองมาหลบตรงที่ที่ค่อนข้างมิดชิด

     

    “ฉันไม่เป็นไร แต่นายเป็นหนี้ฉัน... ต้องตอบแทนโดยการห้ามยุ่งกับแฟนฉันเด็ดขาด!

     

    “เออ... รับปาก แต่ว่าใครวะ!?”  

     

    “แบมแบม... ห้าม! เข้าใจไหม!?”   

     

     

    อิมแจบอมพยักหน้าหงึกอย่างร้อนใจ เรื่องที่ขอน่ะไม่เท่าไหร่แต่จะเอาชีวิตรอออกไปอย่างไรนี่สำคัญกว่า จูเนียร์กระตุกเสื้อของเพื่อนเพื่อเป็นสัญญาณบอกให้ไปอีกทางก่อนที่อิมแจบอมจะค่อยๆ พยุงจูเนียร์ขึ้น โชคยังดีที่แค่กระสุนถากที่ขาแต่นั่นก็ทำให้เสียเลือดและหลบหนีลำบากอยู่ไม่น้อย

     

     

    เสียงฝีเท้าหลายเสียงใกล้เข้ามาทำให้ทั้งคู่ต้องรีบไปที่รถให้เร็วที่สุดทว่าเสียงหนักแน่นน่าเกรงขามของใครสักคนที่ดังขึ้นทำให้เขาเริ่มรู้สึกหนักใจกว่าเก่า และยิ่งได้ยินเสียงสตาร์ทเครื่องยนต์ตามด้วยแรงบิดวอร์มเครื่องยิ่งสร้างความกดดันให้กับคนจนตรอกทั้งสองเพราะนั่นหมายความว่าเวลาในการไปให้ถึงรถที่จอดทิ้งไว้ด้านนอกนั้นลดลงไป

     

             

     

     


    ต่างเพียงไหนถ้าเราเข้าใจ และมีอะไรข้างในเหมือนกัน
    อาจจะยากเย็นแต่สักวัน ฝันคงเป็นจริงใช่ไหม
    สิทธิ์อาจเป็นของเธอ หัวใจเธอเลือกทางที่เธอมั่นใจ
    ส่วนฉันจะรอไปอยู่อย่างนี้

     

     

     

     

    ทันทีที่พ้นซอกตู้คอนเทนเนอร์มาโผล่ถนนอีกด้าน รถสีดำที่คุ้นเคยปราดเข้าจอดขวางหน้าจนจูเนียร์ผงะถอยหลัง อิมแจบอมที่ประคองอยู่ข้างๆ เบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าคนที่ลงจากฝั่งคนขับเป็นใคร

     

     

    “นั่นรถฉัน...”   แจบอมอุทานเสียงเบาอย่างงงๆ

     

     

    แบมแบมรีบเข้าประคองอีกฝั่งเพื่อช่วยให้เดินไปที่รถเร็วขึ้น จูเนียร์ถูกจับให้อยู่ฝั่งคนนั่งและอิมแจบอมเป็นคนขับ

     

     

    “คุณแจบอม! ไปได้แล้ว!”   คนตัวเล็กออกคำสั่งเสียงเฉียบ

     

     

    “แบมแบม... นาย...”

     

     

    “ผมบอกให้ไปไงเล่า!

     

     

    ตวาดเสียงดังไปอีกครั้งก่อนจะวิ่งหายไปอีกทางทำให้อิมแจบอมต้องเหยียบคันเร่งเพื่อเอาตัวรอดออกจากบริเวณนั้นก่อนที่จะถูกจับได้เสียก่อน

     

     

    รถของแจบอมถูกเร่งความเร็วเพื่อหนีออกจากโกดังให้เร็วที่สุด ด้านหลังยังมีมือปืนฝีมือดีขี่มอเตอร์ไซต์คันใหญ่ตามล่าอย่างไม่ลดละ

     

    ทางออกอยู่อีกไม่ไกลเท่าไหร่นักยิ่งทำให้อิมแจบอมเร่งเครื่องยนต์ให้เร็วขึ้นอย่างต้องการสลัดให้หลุดในคราวเดียว

     

     

     

     

     

     

     

    เสียงนั่น...

     

     

     

     

     

    จูเนียร์รู้สึกได้ว่าเป็นรถมอเตอร์ไซต์คันเก่งของตัวเองทว่าเมื่อหันมองกลับไปก็ไม่มี แต่เมื่ออิมแจบอมเร่งความเร็วผ่านช่องว่างระหว่างตู้คอนเทนเนอร์เขากลับได้ยินเสียงเครื่องยนต์ใกล้ขึ้นและเมื่อหันไปก็เห็นรถกำลังพุ่งตรงออกมา

     

     

     

     

     

    “ไม่!!!!!!!!!!

     

     

     

     

     

     

     

    โครมมมมมม!!!!!

     

     

     

     

     

     

     

    เสียงเครื่องยนต์ที่ถูกบิดเร่งตามมาด้วยเสียงประสานงาจังๆ ของรถมอเตอร์ไซต์คันใหญ่ที่ใช้ความเร็วสูง ด้วยความแรงของรถสองคันชนกันทำให้เสียงดังสนั่นไปทั่วบริเวณจนอิมแจบอมต้องเบรกรถอย่างกะทันหัน ส่วนจูเนียร์นั้นมองเหตุการณ์อยู่ตลอดจนแม้กระทั่งวินาทีที่รถสองคันปะทะกัน

     

    รถสีดำสนิทของเขาเข้าชนเต็มที่ดูก็รู้ว่าเพื่อขวางการติดตามของคนคนนั้นขณะที่กำลังถือปืนเอาไว้เตรียมยิงซึ่งโชคดีที่เหตุการณ์เกิดขึ้นก่อนที่กระสุนจะถูกปล่อยออกจากลำกล้อง

     

    ร่างของผู้ไล่ล่าล้มไปพร้อมกับรถรวมถึงรถอีกคันที่ไถลไปด้วยกันแล้วอัดกระแทกที่ตู้คอนเทนเนอร์ด้านข้างเสียงดังสนั่นไปทั่ว ส่วนร่างคนขับอีกคนลอยหลุดจากตัวถังรถหลังจากนั้นก่อนจะตกลงมาอย่างแรงแล้วกลิ้งหลุนๆ ไปกระแทกกับตู้คอนเทคเนอร์อีกตู้ที่อยู่ไม่ไกลกัน จนสุดท้ายหมวกกันน็อคกระเด็นหลุดออก ร่างที่แน่นิ่งไม่ไหวติงทำเอาจูเนียร์ใจหล่นวูบ

     

     

     

     

     

     

     

    “แบมแบมมมมมมมมม!!!!

     

     

     

     


    จะทำให้เธอได้รู้และได้เข้าใจ ว่าฉันรักเธอเท่าไร
    หมดชีวิตฉันให้เธอก็ยังน้อยไป
    จะทำให้เธอได้รู้และได้เข้าใจ ทุกสิ่งทุกความหมาย
    ในคำว่ารัก จากฉันคนนี้

     

     

     

     

     

    ระหว่าง

     

     END- 

     

    กับ

     

    -TBC …  อยากได้อันไหนคะ? มันได้ทั้งสองอย่างง่า แฮ่...

     

    แล้วนี่เราทำอะไรลงไปอีกแล้ววววววว

    เอ้า... ตอนนี้เข้าดราม่าเฉย เวรกรรมจริงๆ แอร๊ย...

    ระหว่างจูเนียร์กับแบมแบมจะโกรธใครดี... หรือไม่โกรธใครเลย?

     

    เอิ่มมมมมมมม... 





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×