คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
"There is one word that contain all your life
There is one word that always be with you
There is one word that you have to find by yourself or by your heart where is it?
Did you already know that word?
If you not
Read this
)))"
แสงอาทิตย์ยามเย็นสาดส่องผ่านม่านหน้าต่างห้องนั่งเล่นเล็กๆภายในบ้านที่อบอุ่น อากาศที่หนาวเย็นติดลบถึงสิบองศา ประกายเก็ดหิมะสีขาวที่โปรยปรายจากท้องฟ้า มองดูเบาอ่อนหน้าหลงใหล
ภายใต้ผมดกดำ วงคิ้วเข้ม และผิวที่ดูคล้ำเอกลักษณ์ของชาวเอเชีย เงาโครงหน้าของชายหนุ่มที่ดูอายุน่าจะไม่เกินยี่สิบแปดปีที่ถูกบดบังด้วยแวนตากรอบสีดำสะท้อนอยู่ในกระจกหน้าบ้านทรงยุโรปบานใหญ่ แววตาของเขาเหม่อมองออกไป ไม่สิดูเหมือนกับเขาจะเฝ้ามองรอใครบางคนอยู่
ไฟหน้ารถของรถสีดำคันหนึ่งส่องผ่านตามถนนหน้าบ้านเขาและดับลงในที่สุดในโรงรถนั้น
แอ๊ด
..!!!
"ขอโทดนะคะ ที่กลับช้าข้างนอกหิมะตกหน้าจนต้องรอรถกวาดหิมะเข้ามาเคลีย
ถนนก่อน"
"พี่รู้แล้วละจ๊ะ พี่นั่งดูข่าวภาคค่ำนะ"ชายหนุ่มหันกลับมาตอบหญิงสาวที่เขาเฝ้ารอมาตลอดด้วยความเป็นห่วง แต่เขาก็ต้องพบกับสิ่งผิดปกติอย่างนึง อีกหนึ่งชีวิตแก้วตาดวงใจของเขาไม่ได้กลับมาพร้อมกับหัวใจดวงนี้ของเขา
"เอ๊ะ
!!แล้วไรเฟิลละยังไม่เข้าบ้านทำอะไรอยู่"
"นั่งร้องไห้อยู่หน้าบ้านมั้งคะ เฮ้อ
นึกถึงพวกเราสมัยก่อนจังเลย สมัยที่เราอยู่ โรงเรียนนะดูตาเฟิลคิดมากกับเรื่องนี้จริงๆนะคะ"
ชายหนุ่มเดินเข้าไปโอบกอดหญิงสาว ร่างบางจากทางด้านหลังและกระซิบข้างหูเธอเบาๆ
"สมัยที่เราเกลียดกันนะเหรอ แหวะ
ไม่เห็นจะอยากจำเลย"
"บ้าเหรอ
ก็ต้องตอนที่เราเป็นแค่แฟนกันเฉยๆสิคะ" หญิงสาวอิดออดอยู่ใต้อ้อมกอดของชายหนุ่ม
เธอคือผู้หญิงที่สวยชนิดผู้ชายคนไหนพบเจอต้องหันมองกันคอแทบเคร็ด ร่างบางๆกับสัดส่วนผมดำสลวยยาวถึงกลางหลังผิวขาวเนียนรับกับริมฝีปากสีชมพูอ่อนและอายุที่เพิ่งย่างเข้ายี่สิบเจ็ด แต่กับการที่เธอได้รับการเรียกขารจากเจ้าตัวน้อยว่า "แม่" เธอผู้รับผิดชอบในบ้านหน้าที่ที่สำคัญนี้ด้วยปฏิญาณที่ได้รับมา
แล้วเธอก็พูดขึ้น "แล้วจะไม่ออกไปดูลูกหน่อยเหรอคะ ป่านนี้ตาปูดเป็นลูกเทนนิสแล้วมั้ง"
"จ้าๆๆ งั้นเดี๋ยวขอผ้าพันคอหน่อยสิ แล้วก็หนังสือเล่มนั้นหายไปไหนแล้วอะพี่หาทั้งวันหาไงก็ไม่เจอเลย"
ภายในห้องที่ยังคงเต็มไปด้วยข้าวของมากมายที่ตั้งกองสุมกันจนล้นบ้านกับสภาพของพวกเขา ที่พึงย้ายบ้านมาอยู่ที่กรุงลอนดอนได้ไม่นานที่ที่ซึ่งครอบครัวน้อยๆคิดจะมาเริ่มต้นชีวิตอันแสนสงบแต่เป็นการจากลาบ้านเกิดมาด้วยความจำเป็น
"เอ๋? เล่มไหนละคะหนังสือกฏทางการทูตรึปล่าวตั้งอยู่บนห้องนี่คะ"
"ไม่ใช่จ๊ะ เล่มโปรดของพี่นะเล่มเดิมเดิมนะแหละอยู่ไหนเหรอ"
"อ๋อ ถ้าเล่มนั้นละก้ออยู่ในกล่องใต้บรรไดมั้งคะลองหาดูรึยัง"
"ง่า พี่ก็หาแล้วนะงั้นไม่เป็นไรไว้ค่อยหาอีกทีก็ได้จ๊ะ"
"เอ ก็จำได้ว่าเอามาด้วยแล้วนี่นาหนังสือเล่มสำคัญอย่างงั้นลืมได้ไงน้า แปลกจังงั้นเดี๋ยวไปหาให้นะคะ อะนี่ผ้าพันคอค่ะไปดูลูกได้แล้วนะ"
หิมะหยุดไปได้ซักพักแล้วแต่ข้างนอกก็ยังหนาวอยู่มาก สีขาวโพรนของหิมะปกคลุมไปทั่วทุกมุมบ้าน บ้านหลังใหญ่ในแถบชานเมืองของอังกฤษที่ไม่ค่อยพรุกพร่านนักกับเพื่อนบ้านอัธยาศัยดีแต่พวกเขาผู้มาใหม่ก็ยังต้องปรับตัวอีกมากเพื่อให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมรอบตัว ชายหนุ่มหยุดอยู่ที่ประตูหน้าบ้านอยู่ครู่หนึ่งมองท้องฟ้านั้นอีกครั้งที่คราวนี้เต็มไปด้วยดวงดาวและพระจันทร์ ลมหายใจที่กลายเป็นไอขาว เขากระชับเสื้อกันหนาวขนสัตว์ให้แนบเนื้อมากยิ่งขึ้น ย่างก้าวไปบนหิมะหน้าหลายนิ้ว ที่สุดมุมบ้านข้างๆโรงรถนั้นปรากฏภาพของเงาเล็กๆเงาหนึ่งที่สั่นไหวอยู่ไกลๆค่อยกระเถิบเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เขาเดินมาหยุดและนั่งลงข้างเงานั้น
"น้องคับๆ ให้พี่ชายนั่งด้วยได้มั้ยคับ" เขากล่าวขึ้น
ดวงตาคู่เล็กๆของเด็กชายอายุสามขวบที่ตอนนี้มีน้ำอุ่นๆไหลออกมากวาดมามองเขา
"แม่สอนว่าไม่ให้คุยหรืออยู่ใกล้คนแปลกหน้าอะคับ" พูดจบก็ค่อยๆเขยิบออกห่างไปชายหนุ่มสะอึกกับคำพูดของเด็กชายที่ตอบกลับมา
"พ่อคิดว่าลูกจาไม่มีอารมเล่นซะอีก ตรงข้ามแฮะ"
"ผมก็ไม่มีอารมณ์หรอกแต่พ่ออยากมากวนผมก่อนเองนะ แล้วนี่ผมก็กำลังใช้ความคิดอยู่การที่พ่อเข้ามาเงียบๆอย่างงี้ไม่คิดว่ามันเป็นการล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผมเหรอคับ แล้วนี่ยังมานั่งชิดอีกสร้างความรำคาญให้ผมมากๆๆๆๆๆๆๆๆแล้วยัง แล้วยัง ฉอดๆๆๆ"
"ง่า
" ชายหนุ่มนั่งอมยิ้มกับท่าทางของลูกชายตัวดีที่นิสัยดันให้ความรู้สึกที่คุ้นๆกับการที่กวนด้วยคำพูดกับกริยาท่าทางช่างเหมือนอาของเด็กชายจริงๆ แต่ตอนนี้สีหน้าของเด็กชายกลับดูเศร้าหมองและทุกข์ใจอย่างเห็นได้ชัด
"เรื่องเพื่อนที่ โรงเรียน อีกแล้วใช่มั้ยลูก มีปัญหาอะไรไหนลองบอกพ่อซิ"
"ก็พวกนั้นเค้าชอบมองผมแปลกๆ ทักก็ทักตอบแบบแหยๆ ผมชวนเล่นหมากเก็บก็ไม่ยักกะเล่น แล้วอย่างงี้จะทำความคุ้นเคยกันยังไงละคับ หรือว่าพวกเค้ารังเกียจผม"
ชายหนุ่มค่อยโน้มตัวลูกชายมาไว้ในอ้อมกอด เค้าเองก็รู้สึกนึกตลกกับความไร้เดียงสาของลูกชายที่คิดยังไงกับการเอาหมากเก็บมาให้พวกเด็กอังกฤษเล่นกัน -__-
" มันไม่ใช่หรอกลูก เรายังต้องทำความรู้จักกันอีกมาก แล้วนี่ก็เพิ่งห้าวันเองอย่าใจร้อนสิครับ"
"แต่ผมเบื่อแถมเหงาด้วยT_T"
"หึหึหึ”
"พ่อหัวเราะไรอะ"
"ก็ตลกลูกอะแหละ ตัวแค่เนี้ยคิดเป็นตาลุงแก่ขี้เหงาไปได้"
"เชอะ งั้นผมไม่พูดด้วยแล้ว เบื่อ-*-"
"อ่าๆๆ โอ่เอ้ๆ อย่างอนจิคับ เอางี้มะงั้นเดี๋ยวพ่อจาเล่าไรหนุกให้ฟังเอามะ”
"ง่า เรื่องไรอ่า”
"เอาน่าๆ รับลองหนุกฟังป่ะฟังหน่อยน่านะนะนะนะนะนะนะ"
"ง่า ฟังก็ได้แต่เวลาหนูฟังพ่อเล่าเรื่องต่างๆทีไรหลับทุกทีอ่ะ"
"คับๆๆ แต่รับลองเรื่องนี้แปลกและต่างจากทุกเรื่องแน่นอน เรื่อง เริ่มขึ้นที่เด็กชายคนหนึ่งเหมือนลูกเลยแต่เค้าอายุสิบห้านะ ช่วงนั้นเป็นช่วงเปิดเทอมใหม่ขึ้นชั้น ม.4 ของ รร ชื่อดัง แห่งนึงชื่อว่า
."
ครับ และเรื่องราวก็เริ่มขึ้นจากตรงนั้นจริงๆครับ
สิบสามปีก่อน
ความคิดเห็น