คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ความจริงเรื่องของดิลล์
9
# ความจริงเรื่องของดิลล์ #
ฉันเข้าไปในบ้านก็วิ่งขึ้นไปอาบน้ำข้างบนทันทีเพราะรู้สึกว่าเหนียวตัวมาก (เอ่อ...เพิ่งจะรู้ตัวเหรอจ๊ะ) พอลงมาข้างล่าง ป๊ากับดิลล์กำลังคุยกันอย่างสนุกสนานโดยที่ม๊ากับเฮียนั่งอยู่
“แล้วนี่เป็นลูกเต้าเหล่าใครล่ะ? แล้วพ่อกับแม่ชื่ออะไร? ทำงานอะไรเหรอจ๊ะดิลล์” ม๊าถาม แล้วฉันก็เข้าไปนั่งฟังด้วย
“ผมตอบคำถามแรกเลยนะครับ คือ...พ่อผมชื่อ แอนดริว เจ แมคนิสัน ครับ นั่นเป็นชื่อจริงๆของพ่อผม แต่พ่อก็มีชื่อไทยชื่อ นฤเดช คงพานิช ครับ พ่อผมทำงานเป็นเจ้าของธุรกิจชั้นนำของต่างประเทศครับ” ดิลล์ตอบคำถามทุกคำถามที่ได้ถามมา
“แล้วพ่อของเธอทำงานอยู่บริษัทอะไรล่ะ?” ป๊าถามบ้าง
“เออ....บริษัท Daimon & Precious Stone ครับ” ดิลล์ตอบตอบอย่างเขินนิดๆ ไม่รู้ว่าจะเขินไปทำไมนะก็แค่บริษัทของพ่อตัวเอง แต่....เอ๋! Daimon & Precious Stone ทำไมชื่อมันคุ้นๆนะ เฮ้ย! ชื่อนี้มันบริษัทยักษ์ใหญ่ดังกระฉ่อนไปทั่วในวงการแฟชั่นและเครื่องประดับ ทั้งในและต่างประเทศเลยหนิ แสดงว่าพ่อมันต้องรวยมากๆชัวร์
“พ่อของเธอเป้นเจ้าของบริษัทนี้น่ะเหรอ...Oh My God! โลกช่างกลมดีแท้ ฉันสงสัยตั้งแต่ชื่อพ่อของเธอแล้วว่าทำไมมันคุ้นๆอยู่ ที่แท้พอเธอบอกชื่อบริษัททำให้ฉันจำได้ทันทีว่า พ่อของเธอคนนี้เป็นเพื่อนสนิทกับฉันตอนที่อยู่ที่อังกฤษ” ป๊าพูดอย่างดีใจมากๆเลยที่ได้เจอเพื่อนสนิท เอ๊ย! ไม่ใช่นั่นลูกเพื่อนสนิทต่างหาก อ้าว! งั้นไอ้หน้าม้อก็ต้องเป็น.....มะ...มะจริ๊งรับไม่ได้เลยอ่ะ
“แล้วตอนนี้พ่อของเธอกับฉันก็ทำธุรกิจร่วมกันอยู่ที่อังกฤษ คือ ฉันเป็นหุ้นส่วนของบริษัทพ่อของเธอ แล้วฉันก็มีบริษัทที่เป็นของตัวเองด้วยอีกแห่งเช่นเดียวกับพ่อของเธอนั่นแหละ” ป๊าพูดต่อ
“แล้วตอนนี้พ่อของเธออยู่ที่เมืองไทยหรือเปล่าล่ะ เพราะก่อนที่ฉันจะลงมาที่นี่ ฉันก็ไม่เห็นเค้าเลย”
“อ๋อ..คือตอนนี้พ่ออยู่เมืองไทยครับ...มาเยี่ยมแม่ คือว่า....แม่ผมเป็นคนไทยฮะ”
“นั่นสินะ เห็นรูปของเค้าวางอยู่บนโต๊ะทำงานที่เค้าชอบนั่งอยู่ แล้วก็ชอบพูดให้ฉันฟังอยู่เรื่อยๆเลย แล้วทำไมเค้าถึงต้องมาที่ไทยล่ะ ตอนแรกฉันก็นึกว่าเค้าอยู่ด้วยกันที่นู่นด้วยกันซะอีกนะ” ป๊าถามถึงแม่ของดิลล์ ฉันรู้สึกว่าดวงตาของเขามีตะกอนที่เศร้าหมองปรากฏอยู่ข้างในนั้น แล้วดิลล์ก็ตอบว่า
“แม่ของผมท่านจากไปนานแล้วครับ...พ่อก็เลยลงมาเยี่ยมแม่ที่เมืองไทย....แม่ของผมท่านจากไปด้วยโรคมะเร็งครับ แล้วช่วงนั้นพ่อแม่และผมก็อยู่ด้วยกันตลอดที่อังกฤษ แล้วตอนนั้นผมก็อายุ 12 ขวบพอดี....ก่อนที่ท่านจะจากแม่บอกพ่อว่าต้องการอยู่ที่เมืองไทยและแม่ก็อยากให้ผมได้เรียนที่นี่ และให้น้าดูแลผมไว้แทนแม่ มาจนถึงตอนนี้” ดิลล์เล่าเรื่องราวของแม่ตัวเองให้ฟัง พร้อมกันกับที่น้ำตาของเขากำลังจะไหลอยู่เต็มทน ฉันเห็นว่าเค้าพยายามจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหลต่อหน้าพวกเรา แต่สำหรับฉัน...มันไหลไปโดยอัตโนมัติไปเรียบร้อยแล้วโรงเรียนวิรัญดา แล้วป๊าก็พูดขึ้นว่า
“ฉันขอโทษ และเสียใจด้วยนะ ฉันไม่น่าถามเลย แย่จริงๆ” ป๊าพูดขอโทษดิลล์
“ไม่เป็นไรหรอกฮะ แล้วอีกอย่างเดวล์ก็เป็นเพื่อนสนิทของผมเค้าก็ควรจะรู้ไว้ด้วย” ดิลล์ตอบ
“เอาเถอะๆนี่ก็ดึกมากแล้วไปนอนกันดีกว่า พรุ่งนี้วันอาทิตย์ ฉันอยากจะไปหาพ่อของเธอด้วย” ป๊าพูด
“แล้วดิลล์โทรบอกทางบ้านหรือยังจ๊ะ เดี๋ยวเค้าจะเป็นห่วง แล้วแม่จะให้เบลล์ไปจัดห้องให้นะจ๊ะ / เดวล์เตรียมชุดให้เพื่อนของลูกด้วยนะ” ม๊าพูด+สั่งออกมาเป็นชุดเลย
“ผมโทรบอกทางบ้านไว้เรียบร้อยแล้วครับคุณแม่...ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ” ดิลล์
“ปะไอ้ดิลล์...ขึ้นไปนอนกันเถอะ (กรู) ง่วงแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้จะได้ไปบ้านแกด้วยอยากเจอพ่อแกว่ะ” ประโยคนี้เฮียเดวล์พูดกับดิลล์ซึ่งหันมาทางฉันพอดี แล้วฉันก็ต้องวิ่งขึ้นห้องข้างบน เพราะแม่สั่งให้ขึ้นไปจัดห้องให้ไอ้หน้าม้อนั่นอีกแต่โชคร้ายที่ห้องที่เหลือมันอยู่ติดกับห้องของฉันด้วย...แต่ช่างเถอะ...แล้วหลังจากนั้นฉันก็จัดการกับหมอนแล้วก็เตียงเสร็จ เฮียกับไอหน้าม้อก็เข้ามาพอดี
“เฮ้ย!ดิลล์แกระวังนะเว้ย...ยัยนี่จัดห้องทีไรต้องมีอะไรโผล่มาทุกทีเลย....อยากรู้ปะว่าอะไร....ก็ซาลาเปา..นะวังนะ...ไปล่ะ”
เฮียพูด อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก มันว่าช้านนนนนนนว่าซาลาเปาอ่ะแล้วมันก็วิ่งไปเลย
“เฮียเดววววววววล์...กลับมาเดี๋ยวนี้น้า~~ .” ฉันพูดตะโกนออกไป ส่วนไอ้หน้าม้อก็ยืนขำอยู่ตรงนั้น..นี่..จะขำอะไรกันนัดกันหนานะ...ไม่เห็นว่ามันจะน่าขำตรงไหนเลย
“ไม่ยักรู้นะว่าเธอก็มีความเป็นกุลสตรีด้วยน่ะ....ฉันล่ะทึ่งเลย” กลับลมาสู่หมวดเดิมเลยนะไอ้ดิลล์
“นี่ความสุภาพของนายเมื่อตอนที่อยู่ข้างล่างมันจางหายไปไหนหมด....ห๊า!ไอ้หน้าม้อดิลล์” ฉันพูดกลับไป
“ก็...หายไปตอนที่เห็นหน้าเธอนั่นแหละ...ยัยซาลาเปา” ดูมันตอบดิน่าจับไปฆ่าชิบ....อ๊ากกกกกทนไม่ไหวแล้ว ขืนอยู่ตรงนี้มีหวังได้วีนแตกแน่ๆ
“ไม่พูดด้วยแล้ว! ไปล่ะ!” ฉันพูด
“ฝันดีน้า...คร้าบบบบ” ดู๊ดูมันพูดเข้า...ร้อยวันพันปีก็ไม่เคยได้ยินเสียงมันพูดกับฉันแบบนี้เลย....เฮ้อ! มันก็เขินเหมือนกันน้า
“ไอ้บ้า!” ฉันด่ามัน แล้วก็เข้าห้องไปนอน
พอฉันเข้าห้องของตัวเองปุ๊บ ก็เหลือบไปเห็นรูปที่ฉันถ่ายคู่กับพี่เทนที่โต๊ะเขียนหนังสือ แล้วน้ำตาของฉันมันก็เริ่มไหลขึ้นมาอีกรอบแล้วล่ะตอนนี้ ‘ทำไมกันล่ะ...ทำไมยังตัดใจจากเค้าไม่ได้อ่ะ....เค้าไม่ชอบฉันแล้วหนิแต่ทำไมฉันยังตัดเค้าไม่ขาดซักที ฮือๆๆ...’
ฉันพูดกับรูปถ่ายใบนั้นทั้งที่ยังมีน้ำตาอยู่บนใบหน้า และพูดอยู่อย่างนั้ยไม่รู้ว่าตัวเองพูดเสียงดังไปรึเปล่า...แล้วก็นั่งลงไปฟุบหน้าลงที่โต๊ะ
“ฮือออออๆๆๆทำไม...ทำไมมมมม...ฮือออออ” ฉันพูดไปร้องไห้ไปยิ่งขึ้นอีก ไม่เข้าใจตัวเองเล้ย
“เบลล์เกิดอะไรขึ้น...เป็นอะไรรึเปล่า?” อ๊ะเสียงใครน่ะ ฮือออออออ ตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ฉันมองคนที่เดประตูเข้ามาไม่เห็นเลยอ่ะแต่เสีงคล้ายพี่เทนด้วย....เสียงนี่ที่คอยถามฉันตลอดในคราวที่ฉันไม่มีใครนอกจากเค้าคนนั้น แล้วฉันก็ลุกแล้ววิ่งเข้าไปกอดทั้งๆที่ยังร้องไห้อยู่อย่างนั้นฮือออๆๆๆๆ
“เบลล์เป็นอะไรไปน่ะทำไมเธอร้องไห้อย่างนั้นล่ะฮึ?...มีไรก็บอกกันได้นะ...ใครทำอะไรบอกชั้นได้นะ” เบลล์ไม่รู้หรอกว่านั่นคือเสียงของดิลล์
“ทำไมอ่ะ...ทำไมชั้นยังตัดเค้าไม่ได้ซักทีนะ...ทั้งๆที่ควรตัดใจไปตั้งนานแล้ว...แล้วเค้าเป็นใครอ่ะที่มาทำให้ชั้นร้องไห้ได้ขนาดนี้ ช่วยบอกชั้นหน่อยสิว่าทำไมมมมมฮือออๆๆๆๆ” ฉันพูดกับเค้า
“เบลล์บอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะว่าใครเป็นคนทำให้เธอร้องไห้ได้ขนาดนี้น่ะ” ดิลล์ถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง
“พี่....เทน...ฮือๆๆๆ” ฉันพูดพร้อมกับผละออกจากอ้อมกอดของเค้าแล้วเค้าก็เช็ดน้ำตาให้กับฉัน ทำให้เห็นหน้าของเค้าชัดเจนขึ้น....อ้าว! ไอ้ดิลล์แกมาทำไรอยู่ในห้องของฉันเนี่ย....อย่าบอกน้าว่าคนที่ฉันวิ่งไปกอดเมื่อกี้คือมันน่ะ....ตายล่ะมองหน้าไม่ติดเลยอ่ะ
“ฉันขอโทษนะ....คือ....ที่ว่า...ฉันวิ่งเข้าไปกอดนายเลยน่ะ...ขอโทษด้วยนะ” ฉันพูดแบบว่า....หน้าแดงเป็นลูกตำลังเลย...ก็คนมันอายน่ะ...เขินด้วย....-//\\-
“ไม่เป็นไรหรอก.....เพราะรูปนั้นใช่มั้ยที่ทำให้เธอร้องไห้น่ะ...รู้ปะ...ตตอนแรกฉันตกใจแทยแย่แน่ะ นึกว่าผีหลอกซะแล้ว แล้วฉันก็ได้ยินเสียงเธอร้องไห้ก็เลยวิ่งเข้ามาดู แต่ก็ไม่นึกเลยว่าเธอก็วิ่งมากอดฉันน่ะ” ดิลล์พูด ไม่น่าเชื่อว่านายมีด้านที่เป็นห่วงคนอื่นเค้าด้วยเหรอ ฉันเพิ่งรู้นะเนี่ย....
“อือ...ตอนี้ฉันไม่เป็นอะไรหรอกนายไปนอนเถอะ..ดึกแล้ว...ฉันก็จะนอนแล้วด้วย” ฉันพูด
“ไม่อ่ะ....แนไม่แน่ใจน่ะว่าเธอจะนอนจริงหรือเปล่า...เดี๋ยวก็ร้องไห้อีกแล้วฉันก็นอนไม่ได้พอดี” ดิลล์พูดพร้อมกับเดินไปที่โต๊ะเขียนหนังสือแล้วหยิบรูปของฉันกับพี่เทนเก็บใส่ลิ้นชักให้
“ขอบใจนะ...นายมีอะไรอีกรึเปล่า....ฉันจะนอนจริงๆแล้ว...มันง่วงมากๆเลย” ฉันพูดแล้วก็หาวอีกวอดนึง
“มี......ชั้น...” ดิลล์ตอบ....โอ๊ย! จะพูดอะไรก็พูดมาดิ
“มีอะไรเหรอ?”
“ไม่มีรัยหรอก...นอนเถอะ...ฉันไปนะ” ดิลล์พูดแล้วรีบออกจากห้องไป
แล้วฉันก็นอน...แต่ทำไมนอนไม่หลับเลยอ่ะ....แล้วก็อ้อมกอดของนายนี่ทำให้ฉันสบายใจขึ้นเยอะเลยแฮะ...ตายล่ะ..ทำไมฉันฟุ้งซ่านอย่างนี้เนี่ยะเรา....นอนดีกว่า...ZZZZ.
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หวัดดีคร้าทุกท่านที่เข้ามาอ่านของแก้ว
อ่านแล้วอย่าลืมมาเม้นให้หนูน้อยคนนี้ด้วยนะคร้าจะได้นำไปแก้ไขหรือไม่เม้นก็โหวตให้หนูบ้างก็ได้นะคร้าไม่ถือๆๆค่ะ จะดีจัยมั๊กมากเลยคร้า ช่วงนี้อากาศแปรปรวนเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝน ยังไงก้อรักษาสุขภาพกันบ้างนะคร้า บ๊ายบายคร้า
ความคิดเห็น