ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Deux side | สองมุม #kookmin

    ลำดับตอนที่ #6 : I

    • อัปเดตล่าสุด 9 พ.ย. 65


     

    6

     

     !! WARNING !!

    เนื้อหานี้มีความรุนแรง มีพฤติกรรม คำพูด ความคิดที่ไม่เหมาะสม มีฉากทำร้ายร่างกายอาจทำให้ผู้อ่านรู้สึกไม่ดี

    จึงขออนุญาตแจ้งเตือนและห้ามลอกเลียนแบบพฤติกรรมอย่างเด็ดขาด ขออภัยในความไม่สะดวกและขออภัยมาใน ณ ที่นี้

     

         

         เสียงของบุคคลปริศนาดังขึ้นเรียกร้องความสนใจของร่างสูงให้ไปทางเข้าของสระน้ำ ซึ่งภาพที่ร่างสูงเห็นนั้นก็พอจะรู้ได้ว่างานแรกของตนได้มาถึงแล้ว วัยรุ่นผู้ชายร่างสูงสามคนกระชากเด็กอีกคนหนึ่งที่ตัวเล็กกว่าสามคนนั้นหลายเท่าเข้ามาด้วยความรุนแรง เด็กผู้ชายตัวเล็กร่างกายโอนอ่อนไปตามแรงอย่างง่ายดาย และคาบเลือดที่มุมปากเป็นการบ่งบอกได้ว่าก่อนที่จะมาที่นี้เขานั้นโดนอะไรมาบ้างจนทั้งสามดึงร่างบางมาเรื่อยๆจนถึงตรงหน้าของร่างสูงที่ยืนอยู่

         ทั้งสี่คนนั้นไม่เห็นเขา คนเดียวที่จะเห็นการมีตัวตนอยู่ของเขาคือคนที่กำลังจะตายเท่านั้น บุคคลที่กำลังจะตายและมีจิตบริสุทธิ์ที่ร่างสูงต้องเก็บบนหน้าผากจะปรากฎขีดหนึ่งขีดสีฟ้าซึ่งแน่นอนมันขึ้นที่ร่างบาง…ร่างสูงยืนมองไปยังสามคนที่กำลังจับร่างบางที่ดูกำลังจะหมดแรงเต็มที่ให้ยืนตรงๆก่อนที่จะมีหนึ่งในสามสั่งให้ปล่อยแขนของเด็กหนุ่มลง ร่างทั้งร่างของที่ถูกพยุงในตอนแรกจึงหล่นไปกองกับพื้นทันที

         “ถอย”

        ครับหัวหน้า"

         ร่างสูงเอียงคอมองการกระทำต่อไปเรื่อยๆ คนที่เป็นหัวหน้าก็มาหยุดตรงที่ร่างเล็กนอนคุดคู้อยู่กับพื้น อีกฝ่ายใช้เท้าเขี่ยที่เอวร่างบางเบาๆก่อนจะออกแรงมากขึ้นกลายเป็นถีบให้ร่างบางนั้นหงายขึ้นมาแล้วเอาเท้าข้างเดิมหยีบอกไว้ ร่างบางที่เริ่มหายใจไม่ออกก็พยายามดันเท้าอีกฝ่ายออกแต่ก็ไม่เป็นผล

         “นี่… มองกู”

         “อะ…อึก”

         “กูบอกมึงแล้วแล้วใช่ไหมว่าให้อยู่เงียบๆมึงก็ยังแส่ไม่เข้าเรื่อง”

         “ต้องให้บะ…อึก…บอกอีกกี่ครั้งว่าฉันไม่ได้เป็นคนบอกเรื่องของนาย” 

         “แล้วกูจะโดนไล่ออกแบบนี้ได้ยังไง!” ด้วยโทสะซอกแจจึงกดแรงลงไปที่อกมากกว่าเก่า

         “…”

         “คนที่รู้เรื่องของกูนอกจากพวกมันสองคนก็มีมึงที่รู้”

         “…”

         “พวกมันสองคนอยู่กับกูตลอด…ถ้ามึงจะโบ้ยความผิดให้มันสองคนมึงต้องมีหลักฐาน”

         ร่างสูงเอาเท้าออกมาจากอกของร่างบางและยืนรอคำตอบ ร่างบางจึงใช้มือและแรงที่เหลือพยุงตัวเองให้นั่งขึ้นมาก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปสบตาของเพื่อน ที่ตอนนี้อาจจะเป็นอดีตเพื่อนไปแล้ว

         “ทะ..ที่บอกว่าตลอดเนี่ย…อึก”

         “…”

         “ตอนนอนก็ด้วยงั้นหรอ”

         !!!

         

         สายตาของร่างบางมองผ่านไปทางของสองคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง ถึงแม้ทุกอย่างจะดูเลือนลางไปตามแรงที่น้อยนิดแต่ร่างบางก็สังเกตูได้ว่าทั้งสองคนนั้นมีสีหน้าที่เจื่อนลง และเมื่อพูดจบร่างบางก็พยุงตัวขึ้นและเดินไปที่หนึ่งในสองคนนั้น 

         “ขอดูมือถือของนายหน่อยได้ไหม” ร่างบางพูดกับอีกฝ่ายโดยที่จ้องไปที่กระเป๋ากางเกงยีนส์อีกฝ่าย

         “จะดูทะ…ทำไม”

         “ไม่ได้งั้นหรอ" ร่างบางเมื่อได้คำตอบกลับมาแบบนั้นจึงหันไปมองอีกฝ่ายเป็นการสื่อนัยบ้างอย่าง

    “ทำมึงไม่ให้มันดู” ร่างสูงถามลูกน้องตนเอง

         “มันจนตรอกมันก็พูดไปมั่ว หัวหน้าอย่าไปเชื่อมันนะครับ” 

         “ถ้ามันมั่วก็แปลว่าไม่มีอะไรที่มึงต้องกลัว”

         “…”

         “…”

        “เอาออกมา”

         สองทั้งมองหน้ากันก่อนที่จะยอมอื่นมือถือของตนเองไปให้ร่างบางในที่สุด ซึ่งเมื่อร่างบางนั้นได้มือถือมาก็ไม่ได้เปิดเองเพียงแต่ยื่นไปให้อีกฝ่ายที่ยืนรออยู่

         “เปิดดูเอาเองแล้วกัน เรามะ...ไม่อยากยุ่ง”

         เมื่อมือถือถูกส่งไปในมือร่างสูงเป็นที่เรียบร้อย ร่างบางจึงถอยหลังไปพิงกับกำแพงเพื่อพยุงตัวไม่ให้ล้มลงไปอีกครั้ง 

        พลันสายตาเมื่อร่างบางถอยออกมาก็ดูเหมือนจะเห็นอะไรมากขึ้น แต่เหมือนร่างบางจะไม่รู้ว่าการเห็นอะไรมากขึ้นในครั้งนี้มันไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่

          สายตาเฉี่ยวคมก็มองไปยังข้างทั้งสองคนแต่กับกลายเป็นว่าตอนนี้มันไม่ได้มีสองคนแล้ว แต่สิ่งที่ร่างบางเห็นคือชายร่างสูงโปร่งและใบหน้าที่มีสายตาดุจดั่งใบมีด ร่างบางจึงหยุดและคิดถึงเหตุการณ์ตั้งแต่เข้ามาที่นี้ว่ามีคนอยู่ก่อนแล้วหรือไม่ แต่ถึงอย่างงั้นร่างบางก็ยังคงจำได้ว่าไม่มีใครอยู่ เพราะหากถ้ามีคงร้องขอความช่วยเหลือไปนานแล้ว

    “ช่วยด้วย”   

         ร่างบางมองไปยังคนที่พึ่งสังเกตเห็นก่อนที่ร่างสูงนั้นจะหันมาให้ความสนใจเขาเช่นกัน ทันทีร่างบางไม่รอช้าส่งสัญญาณเป็นการขอความช่วยเหลือทันทีโดยทีขยับปากไม่ให้มีเสียง แต่มือก็ต้องกลับมาสั่นเทาอีกครั้งเพราะดูเหมือนว่าจะไม่ทันคนที่ดูโทรศัพท์ในตอนแรก

         “หึ สุดท้ายมึงคงยื้อเวลามาได้เท่านี้แหละ...กูค้นดูในแกลลอรี่พวกมันแล้วไม่มีรูปที่เป็นหลักฐาน” ร่างสูงยื่นโทรศัพท์คืนให้ลูกน้องทั้งสองคนและหันกลับมาให้ความสนใจร่างบาง

         “…”

         “ปาร์ค จีมิน

         !!!

         “จีมิน” ทั้งทีตอนแรกก็ไม่ได้สนใจอะไรอยู่แล้วแท้ๆแต่ทันทีที่ได้ยินชื่อที่คุ้นเคยก็กลับกลายเป็นว่าร่างกายเหมือนถูกไฟฟ้าเบาๆมากระตุกขึ้นมาซะดื้อๆอย่างั้น

         “จับตัวมันไปข้างบน”

         “!!”

         “แล้วปล่อยมันลงมา

         สีหน้าของร่างบางซีดเผือกเมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว ในหัวแล่นไปด้วยคำว่าข้างบน ซึ่งข้างบนที่ร่างสูงพูดถึงในสถานที่แบบนี้ก็คงไม่พ้นหอกระโดดน้ำ มันเป็นสิ่งเดียวที่ต้องเดินขึ้นไป นั้นจึงทำให้ร่างบางกลัวมากกว่าเก่าจึงตัดสินใจหันไปขอความช่วยเหลือในทางเดิมอีกครั้ง

         “ช่วยผมด้วย!!!” เสียงของร่างบางถูกตะโกนออกไป

         “มึงพูดกับใครวะ”

         “นั่นดิหัวหน้า มันพูดกับใครวะ”

         และด้วยคำพูดของร่างบางทั้งสามคนจึงเกิดความงง

         “มะ..ไม่เห็นอย่างงั้นหรอ”

         ร่างบางหันไปมองที่จองกุก แต่หากครั้งนี้กลับกลายเป็นว่าความรู้สึกของตัวเองนั้นตีรวนกันในหัวไปหมด เพราะอะไรทำไมถึงมีแค่เพียงตัวเขาที่ไหน ทำไมอีกสามคนถึงไม่เห็น

         “ไม่ต้องหาคำตอบ มีเพียงเจ้าที่เห็นข้า

         “ทำไมถึงมีแค่ผมที่เห็นคุณ” ร่างบางถาม

         “ผมว่ามันหนักละหัวหน้า”

         “เพราะอะไร” ร่างบางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้า

         “มีเพียงแค่คนที่กำลังจะตายเท่านั้นที่จะเห็นข้า

         “ตายงั้นหรอ”

         “ใช่เดี๋ยวมึงได้ตายแน่ ลุกขึ้นมา”

         ร่างเล็กถูกกระชากให้ออกมาจากกำแพงที่พิงอยู่ไปตามทางเดินของสระน้ำสายตาของร่างบางยังคงหันมามองที่ร่างสูง แต่ถึงอย่างงั้นก็ไม่ได้ขอความช่วยเหลือเช่นก่อนอีกเพียงแต่ปล่อยให้สายน้ำตาลงมากับใบหน้า

        ความรู้สึกของเขาไม่เหลืออะไรแล้วเมื่อรู้ว่าทุกอย่างกำลังจะจบลง การที่ต้องตายเท่ากับว่าต่อให้พยามหนีไปยังไงก็ต้องตาย หากกลับกันนี้อาจเป็นเรื่องที่ดีแล้วก็ได้ ต่อไปนี้จะได้ไม่ต้องพยามกับอะไรอีกแล้ว ไม่ต้องแล้ว...

          “หึ ไม่สู้แบบนี้ยอมแล้วสิท่า” สองคนที่พาตัวร่างบางขึ้นมาหันมาเยาะเย้ยให้กับร่างบางที่ไม่คิดขัดขืนเหมือนในตอนแรก

         “ถึงแบบนั้นพวกกูก็ใช่ว่าจะสงสารมึงหรอกนะ”

         “ไปยืน!”

         จีมินถูกพาขึ้นมายังชั้นสูงสุดของหอกระโดดก่อนจะถูกผลักไปให้ยืนที่ปลายสุดของแท่นกระโดด ซึ่งมันก็สูงพอที่จะมองลงไปเห็นบุคคลที่อยู่ด้านล่างทั้งสองคน 

         “มึงนี้มันซวยจริงๆจีมิน”

         “หมายความว่ายังไง” ร่างบางหันกลับไปมอง

         “มึงเดาถูกแล้วแหละ” หนึ่งในสองคนนั้นก้าวออกมา

         “…”

         “หลักฐานทั้งหมดมันอยู่ในมือถือกูเนี่ยแหละ”

         “!!!”

         “แต่เพื่อนมึงมันโง่ ไฟล์เล็กๆแค่นี้มันยังค้นไม่เจอ เหอะ...แล้วหวังจะขึ้นเป็นใหญ่ในสายค้ายาแบบนี้ ถุ้ย!” ร่างบางเบือนหน้าหนี

         “…”

         “ขอบคุณที่มาเป็นแพะรับบาปแทนพวกกูนะ บ้ายบาย ฮ่าๆๆ” ร่างบางพอได้รู้ความจริงว่าตัวเองเป็นแค่แพะรับบาปก็ยิ่งสมเพชตัวเองเข้าไปใหญ่

         ร่างบางจึงหันหน้ากลับมาอีกครั้งเพื่อรับชะตากรรมของตัวเอง เพราะเมื่อกี้หากมองดีๆแล้วในมือของอีกฝ่ายมีปืนถือไว้ คงไม่พ้นเอามากำจัดเขาเป็นแน่

     

         “แหม่...หนุ่มน้อยหลับตาปี๋เชียวนะ

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    TBC ;

    ยังไม่ได้ตรวจคำผิดนะคะ 

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×