ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Pentacle Mask จะร้ายหรือ...จะรัก

    ลำดับตอนที่ #3 : :::: Stake 2 When TOMBOY becomes SEXY WOMAN ::::

    • อัปเดตล่าสุด 23 ก.ค. 56


    Stake 2 When TOMBOY becomes SEXY WOMAN                 

      

                    ในที่สุดวันที่ฉันรอคอยก็มาถึง วันนี้คือวันเสาร์ซึ่งเป็นวันที่ฉันจะได้พักผ่อนอย่างสุขกายสบายใจที่สูดในรอบสัปดาห์ และก็เป็นวันที่ฉันรอดูว่า จานัสมันจะให้ฉันทำอะไรในเย็นวันนี้ จริงๆแล้วฉันควรจะอยู่คนเดียวนะแต่ไอ้ลูกลิงนี่มันจะมาทำไม!!!!

    “ไอ้ลินวันนี้แกจะไปแข่งรึเปล่าวะ” ไอ้ธีร์เพื่อนชายที่ฉันสนิทที่สุดในคณะและควบด้วยตำแหน่งเพื่อนร่วมสนามเอ่ยถามฉัน

    ตอนนี้มันมานอนกลิ้งอยู่ที่คอนโดของฉันทำอย่างกับว่านี่คือห้องของมันอย่างนั้นแหละ เมื่อตอนบ่ายมันมาหาฉันบอกว่าขี้เกียจซ้อม เบื่อรถติด เซ็งสาว  อยากเมาแต่ไม่มีที่ให้ไป สรุปคือมันเห็นห้องฉันแป็นบาร์ส่วนตัวของมัน!!

    “วันนี้ไม่มีแข่ง อะเบียร์แก” ฉันโยนกระป๋องเบียร์ไปให้ไอ้ธีร์จากทางด้านข้างทีวี

    หลังจากที่มันมานั่งๆนอนๆทำตัวไร้สาระในห้องฉันเป็นชั่วโมงๆมันก็เรียกหาเบียร์มากระแทกปาก ฉันเป็นพวกชอบซื้อเหล้าหรือเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ต่างๆเก็บใส่ตู้ และถ้าเป็นไวน์ด้วยแล้วห้องฉันยิ่งเยอะเพราะว่ามีแหล่งดีอย่าง ยัยเบอร์นอนบ้านมันส่งออกไวน์ฉันเลยไปอุดหนุนมันอยู่บ่อยครั้ง ด้วยประการทั้งหลายแล้วห้องฉันเลยกลายเป็นสวรรค์บนดินของไอ้ธีร์มันเลย เวลามันมาทีเรียกได้ว่าแอลกอฮอล์ในห้องหายไปเกือบครึ่งห้อง ไม่ว่าจะเป็นเบียร์ ไวน์ จิน ว็อคกา ต่างๆนานามันก็ไปขุดมากรอกใส่ปากอย่างบ้าคลั่ง ฉันหล่ะกลัวว่าสักวันมันจะเป็นโรคแอลกอฮอล์ริซึม พักหลังๆฉันถึงขั้นต้องหากุญแจมาล็อคตู้โชว์แอลกอฮอล์หลากหลายเชื่อชาติเอาไว้

    “ขอบใจ” มันรับกระป๋องเบียร์ก่อนจะเปิดออกแล้วยกเท้าทั้งสองข้างของมันขึ้นมาพาดบนโต๊ะกระจกด้านหน้า พลางหยิบเอารีโมทไปเปลี่ยนช่องโทรทัศน์ เอ่อ มันจะสบายไปรึเปล่าวะ นี่มันห้องฉันไม่ใช่หรอ!!

    “ไอ้ธีร์แข่งเมื่อวานเป็นไงบ้างวะ”

    “ถามได้ แพ้ดิวะ! แม่งดูมันจับรุ่นให้แข่งดิ เอาแชมป์มาแข่งกับฉัน ฉันคงจะชนะมันได้หรอก ก็รู้ๆกันอยูว่าฝีมือฉันยังไม่เทพขนาดแก” ไอ้ธีร์บ่นและทำท้าจะบ่นต่ออีกยาว

    “ลินขออีกกระป๋องดิ” หลังจากที่มันซัดเบียร์กระป๋องแรกหมดในเวลาไม่นานมันก็เอ่ยของเบียร์จากฉันอีก ฉันเลยต้องเดินย้อนกลับไปที่ตู้เย็นอีกรอบ

    ฉันเอากระป๋องเบียร์ยัดใส่มือมัน ไอ้หมอนี่มันขาดแอลกอฮอล์ไม่ได้เลย ฉันไปห้องมันทีไรกระป๋องเบียร์เกลื่อนพื้นทุกที แล้วเบียร์ที่อยู่ในห้องฉันก็ของมันทั้งนั้น มันเล่นซื้อมาแช่ไว้เวลามันมา ฉันยังกินเหล้าไปบ่อยขนาดมันเลย ถ้าไอ้ธีร์ไปยู่กับยัยจานัสมีหวังมันได้กินคิทแคทแทนเบียร์แน่ๆ

    แต่ถึงอย่างนั้นก็เหอะฉันก็โดนยัยวาเลนกับยัยคอตต้อนบ่นอยู่บ่อยๆอะนะว่าฉันบริโภคแอลกอฮอล์เยอะเกินไป แต่ทำไงได้หล่ะก็คนมันชินอะ

    “วันนี้ตอนเย็นๆแกว่างปล่าววะ” มันถามขณะที่ตัวเองยกกระป๋องเบียร์ซดเอาๆ

    “ไม่ว่างว่ะ มีนัด”

    “โห่! นัดสาวที่ไหนไว้อีกวะ” ดูมันพูดดิมันน่านัก “เฮ้ย!! ใจเย็นดิอย่างเพิ่ง!!!” ไอ้ธีร์ร้องเสียงหลงเมื่อชั้นยกเท้าขึ้นเตรียมพร้อมถีบมัน

    แกร๊ง....

    แต่มันเร็วกว่า ไอ้ธีร์จับขาฉันไว้ก่อนจะกระชากเข้าหาตัวมันทำให้ฉันเสียการทรงตัว โชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่รู้ที่ไอ้ธีร์มันรับตัวฉันไว้ทัน เสียงกระป๋องเปล่าเบียร์ตกกระทบพื้นพร้อมๆกับร่างของฉันกับมันจะล้มลงไปบนโซฟา ตอนนี้หน้าฉันกับมันห่างกันเพียงไม่กี่เซ็นต์

    ฉันเพิ่งสังเกตเห็นวันนี้เองว่าไอ้ธีร์มันก็หน้าตาดีเหมือนกันนะนัยน์ตาสีฟ้าของมันที่ฉันไม่เคยชอบ บัดนี้มันกลับดูมีเสน่ห์ดึงดูดให้ฉันสบตามันอยู่อย่างนั้น ผมสีดำนิลที่ซอยดูไม่เป็นทรงของมันดูดีกว่าครั้งที่ผ่านมา จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากสีชมพู ทั้งหมดที่มันเป็นดูดีไปเสียหมด ไม่รู้ว่าฉันคิดไปเองรึเปล่าฉันรู้สึกว่าใจฉันมันเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก

    “ฉันเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเวลามองแกใกล้ๆแกก็สวยใช่เล่นนะ” มันพูดยิ้มๆ

    “จะอ้วกว่ะ” ฉันตะคอกใส่คนตัวสูงที่กำลังทำหน้ายียวนกวนประสาทฉันอยู่ ทำไมมันไม่ลุกออกไปซักทีวะ อึดอัดโว๊ย!!!

    “แกจะลุกออกไปได้รึยังหนักโว๊ย!!” ตรงกันข้ามกับความต้องการของฉัน ไอ้ธีร์เลิกคิ้วใส่ก่อนที่มันจะทิ้งน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมีหน่อยทำให้หน้าเรายังใกล้กันเข้าไปทุกที ร่างกายของเราทั้งสองคนก็แนบชิดกันจนอากาศแทบผ่านไปไม่ได้

    “ไอ้ลิน...ถ้าแกทำตัวให้อ่อนหวานน่ารักเหมือนกับผู้หญิงทั่วๆไปเขาหน่อย คงมีผู้ชายมาหลงเสน่ห์แกเยอะกว่านี้” มันมาอารมณ์ไหนของมันวะเนี่ยโคตรจะเลี่ยนเลย ถ้าให้ฉันทำตัวอ่อนหวานน่ารักมีหวังฟ้าถล่ม ดินทลาย ป่าไม้พัง คลังสินค้าวอดเป็นแน่แท้

    “ก็ฉัน...” ฉันหยุดพูดทันทีเมื่อไอ้ธีร์เขยิบหน้าเข้ามาใกล้ฉันเข้าไปทุกที ลมหายใจร้อนๆของมันเริ่มมาหยุดอยู่บริเวณแก้มขาวนวลของฉัน หลังจากนั้นมันก็เริ่มขยับมาอยู่ใกล้ๆกับริมฝีปากบางของฉันอย่างอ้อยอิ่งราวกับว่าอยากจะเป็นผู้ครอบครองริมฝีปากนี้

    ไอ้ธีร์สบตาฉัน มันมองเข้าไปในตาพยายามส่งความรู้สึกที่มันมีมาให้ฉันได้รับร็ ทุกการกระทำของมันทำให้ฉันใจเต้นแรงมากกว่าเก่า ฉันมองมันดวงสายตาหวานในชั่วเวลาหนึ่งก่อนจะรีบปรับสีหน้าและความรู้สึกให้เหมือนเดิม

    แกไม่ได้ชอบมันสักหน่อยยัยโม ใจเย็นๆสิ ใจนี่ก็เต้นจังเลยเดี๋ยวผ่าทิ้งซะเลย

    ริมฝีปากของมันเคลื่อนลงมาใกล้กับริมฝีปากของฉัน แต่ก่อนที่มันจะเเตะกัน

    โอ๊ย!!!! ยัยโหด เจ็บนะไอ้ธีร์เอามือกุมสีข้างก่อนจะทิ้งตัวลงไปนั่งกองอยู่กับพื้น ฉันชกสีข้างมันไปเต็มแรงเพราะความรำคาญ (และความเขิน) ตอนนี้ฉันจึงเป็นอิสระจากร่างกายแกร่งที่เคยทับอยู่

    ก็ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าให้ออกไปยังจะทับอยู่ได้ ตัวแกก็ใช่เบา” 

    อะไรวะ แกล้งแค่นี้ถึงขั้นต้องต่อยกันเลยไอ้ธีร์ลุกขึ้นมาโวยวายใส่ฉัน เหอะ! มันน่าโดนอีกสักหมัดสองหมัดจะได้รู้ว่ามันทำอะไรไว้กับฉันบ้าง มันเกือบจะจูบฉันเลยนะ!!! ไอ้การกระทำแบบนี้มันเรียกว่าแกล้งหรอ

    เออ! แล้วคราวหลังอย่ามาเล่นอะไรแบบนี้อีก กลับไปได้แล้ว เดี๋ยวฉันต้องออกไปข้างนอกฉันเอ่ยไล้ให้ไอ้ธีร์มันกลับไป จริงๆฉันไม่ต้องออกไปไหนหรอกแต่ถ้าต้องทนให้มันอยู่ต่อไป ใจฉันคงอยู่ไปเป็นสุขหรอก ให้มันกลับไปแล้วไม่ต้องเจอกันสักพักคงจะเป็นการดีกับตัวฉันมากกว่า

    อ้าวไหนแกบอกว่าไม่ว่างแค่ช่วงเย็นไงมันมองฉันด้วยสายตาเศร้าๆ อย่ามองอย่างนั้นได้ไหมเห็นแล้วขนลุก

    ก็ตอนนี้ฉันไม่ว่างแล้ว ฉันบอกให้กลับก็กลับไปเหอะน่ายิ่งพูดยิ่งอารมณ์เสีย ฉันเดินขยี้หัวก่อนจะเดินตรงไปที่ห้องนอนของตัวเอง แต่ไอ้ธีร์มันดึงมือของฉันเอาไว้ก่อน

    แกเป็นอะไรวะ คุยกันให้รู้เรื่องก่อนปกติแกเป็นคนมีเหตุผลจะตายไอ้ธีร์จับหน้าฉันให้หันไปสบตามัน

    ฉันสะบัดหน้าและมือตัวเองออกจากการเกาะกุมของคนตัวใหญ่กว่า ก่อนจะมองมันด้วยสายตาคาดโทษกลับไปฉันบอกมันด้วยเสียงนิ่งๆแต่แฝงไปด้วยความเย็นชาและรังสีอำมหิตที่เริ่มเข้าปกคลุมไปทั่วห้อง

    แกร๊ก

    โมลินสุดหล่อ สุดเท่ห์เจ้าขา จานัสมารับแล้วครับ...” เสียงอันร่าเริงของยัยจานัสที่แทรกเข้ามาในสงครามเย็นของฉันกับไอ้ธีร์เป็นอันต้องเงียบลงทันควันเมื่อมันรู้สึกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นเกิดอะไรขึ้นวะยัยจานัสปิดประตูลงก่อนจะเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นแล้วถามฉันกับไอ้ธีร์ด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็น แกไม่น่าต้องถามนะนัสแกมองหน้าฉันก็น่าจะดูออกนะว่าฉันกำลังโกรธอยู่ แต่ว่ามันเข้ามาได้ไง??

    ไม่ต้องถามจร้าก่อนที่ฉันจะถามมันว่ามันปรากฏกายอยู่ในห้องฉันได้ไง มันก็หยิบเอาพวงกุญแจมาแกว่งให้ดู สรุปคือมันแอบไปปั้มกุญแจห้องฉันเอาไว้ ไอ้เพื่อนคนนี้หนิมันน่าจับมาตีก้นให้เข็ด! “บอกฉันได้รึยังว่าเกิดอะไรขึ้น

    แกกลับไปได้แล้วไอ้ธีร์เดี๋ยวฉันต้องไปธุระกับยัยนัสฉันพูดเสียงนิ่งๆโดยไม่หันไปมองมัน ครั้งนี้ธีร์มันไม่ตื้อขอคำตอบ มันเดินคอตกออกไปอย่างเงียบๆโดยไม่เอ่ยลาฉันหรือว่ายัยจานัสเลยแม้แต่คำเดียว

    ไม่ต้องถาม ยังไม่พร้อมจะบอกฉันยกมือปรามเหมือนปางห้ามญาติใส่ยัยนัสเมื่อมันกำลังจะอ้าปากถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างฉันกับธีร์ ทำให้มันรูดซิปปากเงียบ

    ไหนบอกว่าให้เคลียร์เวลาช่วงเย็นไงนี่มันเพิ่งจะบ่ายสามเองจะรีบไปไหนวะ!!” ฉันเผลอตะคอกใส่ยัยจานัสไปคำโตด้วยอารมณ์หงุดหงิดที่ยังไม่จางหาย พอหันไปมองมันอีกทีมันก็เอียงคอมองฉันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม

    "แกเป็นอะไรมากป่ะปกติแกเก็บอารมณ์จะตายไป... ถ้าพร้อมจะบอกฉันก็พูดมานะอย่าเก็บเครียดไว้คนเดียว" ยัยจานัสนัสยิ้มจนตาหยีให้ฉัน  ก็จริงอย่างที่มันบอกเพราะปกติแล้วฉันเก็บอารมณ์ได้เก่งจนกลายเป็นคนที่เดาอารมณ์ยากมากบางทีเห็นฉันยิ้มแย้มร่าเริงแต่ในใจฉันอาจจะกำลังหลั่งเลือดก็ได้ แต่เพราะ 'มัน' ฉันถึงเป็นได้ขนาดนี้

    "ไม่มีอะไรหรอกแกก็แค่ทะเลาะกับไอ้ธีร์เป็นเรื่องธรรมดายังไม่ชินอีกหรอจ๊ะ" ฉันยิ้มกลบเกลื่อนไปเพราะไม่อากให้เพื่อนไม่สบายใจแค่นี้มันก็มีเรื่องให้คิดมากพอแล้ว แต่สายตาที่แบบไม่อยากจะเชื่อถือนี่มันหมายความว่าอะไรห๊ะ "ว่าแต่วันนี้แกมีอะไรถึงให้ฉันเคลียร์คิววะ"

    "ไม่มีอะไรมากหรอกสิ่งที่ฉันอยากห้แกทำก็คือ..." หน้ายัยนัสตอนนี้มันเหมือนกำลังจะประกาวรางวัลใหญ่ "คือ..." จะคืออีกนานไหม "คือ..." ชักจะหมดความอดทนแล้วนะเฟ้ย!! "คือ..."

    "ฉันไม่อยากรู้แล้ว สัญญาถือว่ายกเลิกฉันไปซ้อมนะบ้ายาย" ฉันทำท่าจะเดินไปหยิบพวงกุญแจรถที่แขวนอยู่ตามผนังแต่ติดที่ไอ้นัสมันวิ่งไปรวบกุญแจทุกดอกที่แขวนอยู่ไปไว้กับตัวมันหมด ยัยนี่มือเร็วอย่างกับอะไร

    "เฮ้ยๆ ลินใจเย็นดิ"ไอ้นัสพูดห้ามฉันก่อนที่ฉันจะถีบมันเพื่อแย่งกุญแจคืน

    "ก็คือ..."

    "แล้วจะคืออีกนานไหมห๊ะ!?!"

    ก็กำลังจะบอกเนี่ย คัดอยู่ได้!! หัดเงีขแล้วฟังบ้างดิ!!!"ฉันเงียบทันทีเมื่อจานัสตะคอกกลับมาใครจะไปกล้าเถียงยัยนี่ตอนโกรธกัน! ยัยนี่อารมณ์ร้อนอย่างกับไฟ

    "คือเย็นวันนี้ฉันจะพาแกไปงานประมูลรถหน่ะ ฉันกะว่าจะชวนยัยปอร์เข่ไปด้วย" ให้ฉันไปงานเนี่ยนะ คนทั้งงานคงได้อ้วกอะถ้าเห็นฉันใส่กระโปรงไป ถ้าให้ฉันแต่งยังไงก็ได้หล่ะก้จะไม่ว่าเลยแต่ถ้าได้ไปงานกับยัยปอร์เมื่อไหร่ฉันจะโดนบังคับให้ใส่ชุดราตรีตลอด แต่ฉันก็สามารถรอดมาได้อย่างปฎิหาร์

    "อย่าเพิ่งปฎิเสษเพราะข้าพเจ้ามีขอเสนอ" ยัยนัสนี่มันรู้ทันฉันไปหมดสงสัยคงเพราะอยู่กับมันมากเกินไป

    "ถ้าข้อเสนอไม่น่าสนใจฉันบาย" น่าสนใจฉันก็ขอบาย

    "S4 เครื่องใหม่โอเคป่ะ" โห่แค่ S4 ห๊ะ!!! S4หรอ ยัยนัสมันจะทุ่มทุ่นไปรึเปล่าถึงขั้นซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่(อีกครั้ง) ให้เลยหรอ จริงๆตอนนี้ฉันใช่ I phone 4 อยู่ก็พอใจแล้วนะ

    "พูดถึงโทรศัพท์ ฉันอยากจะลากคอไอ้หมอนั่นมาจังเลย อย่าให้ฉันรู้นะว่ามันเป็นใครฉันจะตายไปถลกหนังหัวมันเลยคอยดู!" พูดแล้วหงุดหงิดเฟ้ย!

    "แกก็เอา S4 ไปสิ แล้วก็ไปงานกับฉัน" นี่มันคิดว่าจะเอาโทรศัพท์มาล่อฉันได้งั้นหรอ

    "แค่ไปงานใช่ไหม"

    "ใช่"

    "ได้!! งั้นฉันตกลง" คุณคิดถูกแล้วเพราะว่ามันใช่ได้ผล ก็ถ้าจะให้ฉันซื้อใหม่เองก็ขอผ่านเพราะช่วงนี้ฉันกำลังเก็บตังค์กะจะซื้อมอเตอร์ไซค์สักคัน ไว้ไปซิ่งที่บ้านไร่ฉันที่เชียงราย ที่นั้นเปรียบเสมือนบ้านพักตากอากาศของพวกคุณเธอทั้งหลาย บ้านฉันที่นั้นเป็นทั้งไร่ชาไร่กาแฟ อากาศก็เย็นสบายฉันอยากจะไปอยู่ที่นั้นถาวรเหมือนกันถ้าไม่ติดที่หลานฉันกับงานนะ อันหนีไปอยู่ที่นั้นกับพ่อกับแม่ฉันแล้ว

    "แกรับปากแล้วนะ ห้ามคืนคำด้วย"

    "ฉันสัญญาด้วยเกียรติของสาวหล่อแห่งฟรานซิส" ฉันยืนกำบั้นออกไปยัยนัสก็กระแทกกำปั้นกลับมาเหมือนกัน ถือว่าพันธะสัญญาเสร็จสิ้น

    "แล้วแกจะใส่ชุดอะไรไป" ฉันถามยัยนัสทั้งๆที่น่าจะรู้อยู่แล้ว้าคำตอบคืออะไร

    "ไม่น่าถาม อย่างฉันนะหรอมันก็ต้องกางเกงอยู่แล้ว" นั่นไงฉันว่าแล้วอย่างมันไม่น่าจะใส่ชุดราตรีได้

    กริ๊งๆๆ

    "ว่าไงจ๊ะตัวเธอ" ยัยนัสหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาก่อนจะกรอกเสียงร่าเริงลงไป

    ก็ได้...เออๆจะรีบไปนะ" ยัยจากนัสพูดแบบขอไปทีสงสัยจะโกนใครชวนไปซื้อของหล่ะสิ

    "ยัยคอตจะให้ฉันไปดูชุดล็อตใหม่ของลีออน้ป็นเพื่อนมันอะ แล้วลีออนมันก็ฝากบอกว่ามันจะเอาสูทมาให้แกชุดหนึ่งอะจะลองไปดูไหม" สูทหรอ ก็ดีนะฉันเพิ่จะซื้อเสิ้ตมาใหม่ น่าจะเข้ากับสูทของยัยลีออนพอดี

    ลีออนเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มฉันที่มความสารถด้านการออกแบบและดีไซด์ชุด ด้วยการที่ทางบ้านปูรากฐานเรื่องนี้มาบ้างแล้วทำให้ยัยลีออนเอากิจการที่บ้านมาต่อยอดแล้วเปิดร้านแบรนด์เสื้อผ้าที่ได้รับความนิยมขึ้นมา ฉันก็เป็นหนึ่งในลูกค้าขอวมันนะแต่ฉันจะรับแค่งานที่เป็นเชิตเท่ๆ หรือไม่ก็สูทเท่านั้น มันทำให้เป็นกรณีพิเศษ หวังว่าสูทคราวนี้ของลีออนคงออกมาดูดีนะ

     

    สาบานว่าชุดแบบนี้บ้านพวกแกเรียกว่าสูท!! ไอ้พวกเพื่อนทรยศ อย่าให้ฉันหลุดไปได้นะ ฉันจะกระซวกพวกแกเรียงคนเลยคอยดู!!!!!  จานัส ลีออน คอตตอน ปอร์เช่ พี่วิรัฐ ทุกคนอย่าหวังว่าจะรอดนะ ฉันจะจัดการทบต้นทบดอกเลยคอยดู!!

    10นาทีก่อนหน้านี้ที่ SP Shop

    'ไหนจ๊ะลีออนสูทของข้าพเจ้าอะ' ฉันเดินเข้าไนร้านเพื่อทวงถามถึงชุดสูทดีไซด์ใหม่

    'เดี๋ยวไปดูในห้องแต่งตัวนะ ฉันเตรีมจัดชุดใหญ่ให้ รับรองว่าเธอต้องชอบแน่ๆ' ฉันคิดไปเองมั้งว่ารอยยิ้มของยัยลีออนมันดูสะใจอะไรแปลกๆ แต่ชั่งมันเหอะ ตื่นเต้นอะได้เห็นสูทใหม่สักทีเสื้อผ้าของยัยลีออนไม่เคยทำให้ฉันผิดหวังเลยสักครั้ง และเนื่องจากวันนี้ฉันต้องไปงานประมูลรถเลยจัดเครื่องประดับมาชุดใหญ่โดยจิวหูที่เคยเป็นแค่จิววงกลมธรรมดาสองอัน ฉันก็อุตส่าห์ไปขุดจิวไม้กางเขนสีดำที่หลานสาวตัวแสบซื้อให้เป็นของขวัญออกมาใส่ แถมยังเซ็ตผมมาซะหล่อเลย

    ฉันเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวตามที่ลีออนบอก หน้ากระจกมีซองสีดำใส่ชุดขนาดยาววางอยู่ ที่จริงถ้าเป็นสูทมันต้องไม่ยาวขนาดนี้แต่อันนี้มันยาวผิดปกติ

    ฉันเดินเข้าไปเปิดซองดูก็เจอกับชุดราตรีสีน้ำเงินสด ยัยลีออนจัดให้ผิดตัวแน่เลย ยัยคนนี้ขี้ลืมจริงๆ

    แกร๊ก...

    ขณะที่ฉันรูดซิบปิดซองแล้วกำลังจะหยิบซองชุดนั้นไปให้ลีออน ประตูห้องแต่งตัวของฉันก็เปิดออก สงสัยจะเป็นลีออนดีเหมือนกันจะได้ให้มันเอาไปเปลี่ยน

    'ลีออน...อ่าวปอร์ พี่วิรัฐมาได้ไงอะ' คนที่เข้ามาใหม่ไม่ใช่ลีออนแต่อย่างได้แต่เป็นปอร์เช่เพื่อนและเจ้านายของฉันกับวิรัฐคนที่ทำหน้าที่ทุกอย่างตั้งแต่พี่เลี้ยง สารถี บอดี้การ์ดและหน้าที่ต่างๆนานาอีกมากมาย จริงๆพี่วิรัฐ(แกแก่กว่าพวกฉัน)เป็นคนที่หล่อ รูปร่างดี แถมใจดีอีกต่างหาก ใครได้พี่แกเป็นแฟนนะโชคดีตายเลย

    วิรัฐคะยัยปอร์สั่งพี่วิรัฐสั้นๆก่อนที่พี่วิรัฐจะพุ่งเข้ามาล็อคตัวฉันไว้ อะไรกันวะเนี่ย!

    เฮ้ย! นี่คิดจะทำอะไรกันปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลยนะพี่ ปล่อย!’ ฉันพยายามสะบัดตัวออกเต็มที่แต่ว่าฉันตัวเล็กกว่าพี่แกตั้งเยอะ แรงพี่แกก็ไม่รู้ไปเอามาจากไหน ฉันว่าฉันแรงเยอะมากแล้วนะ แต่พี่นี่แรงควายมาก เจ็บโว้ย!!

    ทำอะไรนะหรอ แกเห็นชุดในนั้นแล้วใช่ไหม ฉันกะแล้วว่าคนอย่างพวกแกไม่มีวันใส่ชุดราตรีไปงานแน่ ฉัน ลีออน คอตต้อนเลยล่อแกกับจานัสออกมาไงตอนนี้คอตกำลังจัดการนัสอยู่ ส่วนแกก็เป็นเหยื่อของฉันกับลีออนยัยปอร์...ยัยเพื่อนทรยศศศศ ฉันหล่ะอยากให้ทุกคนเห็นหน้ามันจัง หน้ามันดูสะใจมากเลยที่จะจับฉันแต่งหญิงได้

    ขอโทษนะครับคุณลิน แต่ผมเลี่ยงไม่ได้จริงๆฉันตวัดสายตาคาดโทษ ตาย ไปที่พี่วิรัฐ แต่ดูดิดูที่ไอ้พี่วิรัฐมันพูดสาบานว่านั่นปาก เลี่ยงไม่ได้พี่กำลังจะเอาฉันเข้าเครื่องประหารรู้ตัวไหมห๊ะ!!!

    ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะพี่ ถ้าพี่ปล่อยฉันเลี้ยงไอติม

    เออ...คุณลินครับผมไม่ใช่เด็กสิบขวบนะครับเออว่ะลืมตัวไป มุกนี้ชอบใช้กับไอ้หลานตัวแสบจนติดเป็นนิสัยไปและ งั้นเอาใหม่ๆ

    งั้นถ้าพี่ไม้ปล่อยพี่เจอจระเข้ฟาดหางแน่เออต้องยังงี้ พวกนี้เขารู้กันว่าฉันเป็นมวยไทย พี่ต้องกลัวฉันบ้างแหละเพระฉันเคยซ้อมมวยกับพี่วิรัฐ พี่แกต้องรู้ว่าฉันเท้าหนักมือหนักขนาดไหน มุกนี้ได้ผลแน่

    จระเข้ฟาดหางหรอ ฉันว่าแกขยับตัวให้ได้ก่อนดีกว่าไหมยัยลิน ฮ่าๆๆเสียงยัยปอร์กับพี่วิรัฐหัวเราะนี่มันดังทะลุเข้าไปในโสตประสาทฉันเลย โว้ย!! นี่งัดมาทั้งไม้อ่อนไม้แข็งแล้วนะไม่ปล่อยสักทีฉันว่าแกยอมให้พวกฉันแต่งให้เหอะ ไม่งั้นฉันจะโทรไปบอกป๊าว่าแกทำ one77 เป็นรอยขีดข่วนเต็มไปหมด ดูสิว่าป๊าจะปรับแกเท่าไหร่ยัยปอร์ยกเอาโทรศัพท์ของมันขึ้นมาแกว่งไปมาเพื่อแสดงให้รู้ว่ามันพร้อมจะโทรไปหาป๊ามันทุกเมื่อ

    ฉันเกลียดพวกแกกกกกกฉันลากเสียงแสดงความเกลียดใส่มันเต็มที่ มันเอา one77 มาอ้างขนาดนี้ฉันจะทำอะไรได้อีกหล่ะ นอกจากยอมให้มัน จับขึ้นเขียง...

    กลับสู่ปัจจุบัน

    ยัยลินเอาที่รัดออกยัยลีออนสั่งหลังจากที่ฉันยอมตกลงแต่งตามที่มันสองคนต้องการส่วนไอ้ที่มันบอกให้เอาออกอะคือที่รัดหน้าอกที่ฉันรัดเอาไว้ตลอดเวลา แต่จ้างให้ฉันก็ไม่เอาออกหรอเว้ย

    ไอ้เอาออกไอ้โอ่ออก (ไม่เอาออกให้โง่หรอก)” เนื่องจากฉันโดนยัยสองคนนี้มันเอาผ้ามาอุดปากและก็มัดฉันไว้กับเก้าอี้เพราะมันรำคาญที่ฉันโวยวายใส่พวกมัน ก็ถึงฉันจะตกลงแต่ก็ใช่ว่าจะยอมให้แต่งง่ายๆนี่

    ฉันปล่อยให้แกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเองก่อนถ้าแกไม่ไปใส่ให้เสร็จในสิบนาที...คงรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้นยัยปอร์เอาโทรศัพท์มาแกว่งอีกและ ใชช่สิก็พวกแกมีข้อต่อรองที่ฉันปฏิเสธไม่ได้หนิ

    อ้อไอ้ อ่อยอั้นอิ (ก็ได้ ปล่อยฉันสิ)” สุดท้ายก็ต้องยอมพวกมันจริงๆสิเนี่ยฝากไว้ก่อนเถอะพวกแก!!

                    พี่วิรัฐเดินมาปล่อยตัวฉันจากพันธนาการทั้งหลายหลังจากที่ได้รับสัญญาณจากยัยปอร์ เข้ากันจังนะของคนนี้เนี่ยหงุดหงิดเว้ย!

                    “เริ่มจับเวลาสิบนาทีอ้าวเห้ยไม่บอกไม่กล่าวกันก่อนเลย ฉันวิ่งไปหยิบชุดเข้าไปในห้องแต่งตัวก่อนรีบเปลี่ยนมันด้วยความเร็วสูง

    "จะครบสิบนาทีแล้วน้ายัยพวกนี้ก็เร่งจังเลย คนมันไม่เคยใส่นะเฟ้ยเห็นใจกันบ้างดิ

    "เออๆ เสร็จแล้วๆ"

    "ยัยลิน...ซ่อนรูปเหมือนกันนะเธอเนี่ยตอนแรกคิดว่าเป็นไม้กระดานยัยลีออนกับยัยปอร์ดูจะอึ้งไปซักพักก่อนจะพูดบอกฉัน ซ่อนรูปอะไรวะ

    ฉันดูสภาพตัวเองในกระจกก็แทบอ้าปากค้าง ตอนใส่ฉันไม่ได้ดูว่าชุดเป็นไงแค่ใส่ๆมา แต่ตอนนี้ฉันเห็นและมันเป็นชุดเดรสสีน้ำเงินเข้มสั้นเหนือเข่า เข้ารูป(เกินไปตรงหน้าอกเจาะเป็นรูปสามเหลี่ยมเว้าให้เห็นเนื้อขาวเนียน ข้างหลังเว้าเผยให้เห็นแผ่นหลังแต่ยังดีที่มีผ้าลูกไม้บังไว้แต่มันดันเป็นลูกไม้ซีทรู พรุนทั้งหลังเลยฉัน ใครมันเป็นคนออกแบบวะ - -;

    "ผมไม่เคยเห็นคุณลินแต่งตัวหวานๆแบบนี้เลยนะครับ คุณลินน่าจะหันมาแต่งแบบนี้มั้งนะครับ ถ้ายังแต่งหล่อไปเลยๆสงสารพวกผู้ชายเขาบ้างคุณนะหล่อกว่าผู้ชายบางคนอีกนะ" พี่วิรัฐพูดไปยิ้มไป ดูดิยิ้มจนแก้มจะปริอยู่แล้ว

    "ใครมันออกแบบวะ จะสั้นไปไหนเนี่ยชุดอะ แล้วผ้าข้างหลังนี่มันอะไรอะคันเว้ย!" ฉันโว้ยใส่ยัยตัวดีทั้งหลายที่ยืนมองผลงานของพวกมันอย่างหน้าระรื่น ขอบอกเลยว่าเกลียดยัยพวกนี้มากๆอะตอนนี้

    "จะให้เอาลูกไม้ออกไหมหล่ะ คนทั้งงานจะได้เห็นหลังขาวๆของแกแทนไง" ยัยลีออนทำท่าจะเอากรรไกรมาตัดผ้าลูกไม้ยน้าหลังฉันออก อย่างงั้นฉันขอทนคันเป็นลิงอย่างนี้ดีกว่า

    "อย่าบ่นน่ายัยลิน วันนี้ถือว่าฉันขอนะ งานนี้มีแต่ผู้ใหญ่ทั้งนั้น" ยัยปอร์บอกก่อนจะลากฉันไปนั่งหน้ากระจกใบใหญ่

    "ฉันถามแกจริงๆเถอะยัยลินแกจะไปเผยแพร่ศาสนารึไงไม้กางเขนเต็มตัวเลยทั้งจี้คอ ทั้งจิวหูถ้าพกไบเบิลมาได้แกคงทำแล้วใช่ไหม" ยัยลีออนบ่นฉันซะยืดยาวก่อนจะปลดสร้อยและจิวรวมทั้งกำไลข้อมือหนังของฉันออกจนหมด

    "เฮ้ย! เอาออกทำไมวะ ของหลานฉันนะเว้ยมันสองคนฟังแบบเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาเพราะยัยลีออนเดินไปหยิบกล่องใส่จิวเวอรี่ของมันแล้วเอาตุ้มหูรูปสามเหลี่ยมสีดำอันมหึมามาใส่ให้ฉันแทน ส่วนกำไลก็เปลี่ยนเป็นสีขาวเรียบๆ

    "ส่วนหัวนี่จะตัดไปทำไมผมอะให้มันยาวของมันก็ดีอยู่แล้ว" ยัยลีออนเอาวิกผมยาวสีน้ำตาลเข้มมาจะใส่ให้แต่ฉันก็ไม่ยอมอยู่นิ่งให้มันใส่ได้หรอก

    "อยู่เฉยๆได่ป่ะ วิรัฐคะช่วยจับยัยลิงนี่ที" พี่วิรัฐตรงเข้ามาจับตัวฉันให้อยู่นิ่งๆเพื่อที่ยัยสไตล์ลิชจำเป็นจะได้ทึ้งผมฉันถนัดๆ

    "วาเลนนนนแกจะมาช่วยฉันใช่ไหม" ยัยวาเลนเดินเปิดประตูเข้ามาด้วยสีหน้าเรียบเฉย นี่แกแกไม่ตกใจกับภาพที่เห็นเลยหรอ!?! ถ้าเป็นคนอื่นเค้าคงคิดว่ามีผู้หญิง(กระเทย)ตัวเล็กๆคนหนึ่งกำลังถูกรังแกจากชายร่างบึกและชะนีอีกสองคน กระสิกๆๆ

    “ฉันรู้จักเธอด้วยหรอ” ฉันเกลียดแกที่สูดด ยัยวาเลนนน!!! เชื่อฉันไหมว่ามันต้องรับหน้าที่ทึ้งผมให้ฉันเพราะในกลุ่มฉันเนี่ยวาเลนเป็นคนที่ทำผมสวยที่สุดแล้ว ยัยพวกนี้ธุรกิจครอบครัวชัดๆไม่ยอมเสียค่าช่างเลยสักบาท

    “วาเลนจัดการหัวยัยนี่ให้ด้วยนะเดี๋ยวฉันไปดู เหยื่อ อีกคนก่อน” เหยื่ออีกคน...อย่าบอกนะว่า...

    “ไอ้นัส!!!” พวกมันดูซะใจนะที่สามารถลากทอมบอยประจำแก๊งทั้งสองคนมาแต่งหญิงได้เนี่ย

     

    complete....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×