คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : :::: Stake 2 When TOMBOY becomes SEXY WOMAN ::::
Stake 2
ในที่สุดวันที่ฉันรอคอยก็มาถึง วันนี้คือวันเสาร์ซึ่งเป็นวันที่ฉันจะได้พักผ่อนอย่างสุขกายสบายใจที่สูดในรอบสัปดาห์ และก็เป็นวันที่ฉันรอดูว่า ‘จานัส’ มันจะให้ฉันทำอะไรในเย็นวันนี้ จริงๆแล้วฉันควรจะอยู่คนเดียวนะแต่ไอ้ลูกลิงนี่มันจะมาทำไม!!!!
“ไอ้ลินวันนี้แกจะไปแข่งรึเปล่าวะ” ไอ้ธีร์เพื่อนชายที่ฉันสนิทที่สุดในคณะและควบด้วยตำแหน่งเพื่อนร่วมสนามเอ่ยถามฉัน
ตอนนี้มันมานอนกลิ้งอยู่ที่คอนโดของฉันทำอย่างกับว่านี่คือห้องของมันอย่างนั้นแหละ เมื่อตอนบ่ายมันมาหาฉันบอกว่าขี้เกียจซ้อม เบื่อรถติด เซ็งสาว อยากเมาแต่ไม่มีที่ให้ไป สรุปคือมันเห็นห้องฉันแป็นบาร์ส่วนตัวของมัน!!
“วันนี้ไม่มีแข่ง อะเบียร์แก” ฉันโยนกระป๋องเบียร์ไปให้ไอ้ธีร์จากทางด้านข้างทีวี
หลังจากที่มันมานั่งๆนอนๆทำตัวไร้สาระในห้องฉันเป็นชั่วโมงๆมันก็เรียกหาเบียร์มากระแทกปาก ฉันเป็นพวกชอบซื้อเหล้าหรือเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ต่างๆเก็บใส่ตู้ และถ้าเป็นไวน์ด้วยแล้วห้องฉันยิ่งเยอะเพราะว่ามีแหล่งดีอย่าง ‘ยัยเบอร์นอน’ บ้านมันส่งออกไวน์ฉันเลยไปอุดหนุนมันอยู่บ่อยครั้ง ด้วยประการทั้งหลายแล้วห้องฉันเลยกลายเป็นสวรรค์บนดินของไอ้ธีร์มันเลย เวลามันมาทีเรียกได้ว่าแอลกอฮอล์ในห้องหายไปเกือบครึ่งห้อง ไม่ว่าจะเป็นเบียร์ ไวน์ จิน ว็อคกา ต่างๆนานามันก็ไปขุดมากรอกใส่ปากอย่างบ้าคลั่ง ฉันหล่ะกลัวว่าสักวันมันจะเป็นโรคแอลกอฮอล์ริซึม พักหลังๆฉันถึงขั้นต้องหากุญแจมาล็อคตู้โชว์แอลกอฮอล์หลากหลายเชื่อชาติเอาไว้
“ขอบใจ” มันรับกระป๋องเบียร์ก่อนจะเปิดออกแล้วยกเท้าทั้งสองข้างของมันขึ้นมาพาดบนโต๊ะกระจกด้านหน้า พลางหยิบเอารีโมทไปเปลี่ยนช่องโทรทัศน์ เอ่อ มันจะสบายไปรึเปล่าวะ นี่มันห้องฉันไม่ใช่หรอ!!
“ไอ้ธีร์แข่งเมื่อวานเป็นไงบ้างวะ”
“ถามได้ แพ้ดิวะ! แม่งดูมันจับรุ่นให้แข่งดิ เอาแชมป์มาแข่งกับฉัน ฉันคงจะชนะมันได้หรอก ก็รู้ๆกันอยูว่าฝีมือฉันยังไม่เทพขนาดแก” ไอ้ธีร์บ่นและทำท้าจะบ่นต่ออีกยาว
“ลินขออีกกระป๋องดิ” หลังจากที่มันซัดเบียร์กระป๋องแรกหมดในเวลาไม่นานมันก็เอ่ยของเบียร์จากฉันอีก ฉันเลยต้องเดินย้อนกลับไปที่ตู้เย็นอีกรอบ
ฉันเอากระป๋องเบียร์ยัดใส่มือมัน ไอ้หมอนี่มันขาดแอลกอฮอล์ไม่ได้เลย ฉันไปห้องมันทีไรกระป๋องเบียร์เกลื่อนพื้นทุกที แล้วเบียร์ที่อยู่ในห้องฉันก็ของมันทั้งนั้น มันเล่นซื้อมาแช่ไว้เวลามันมา ฉันยังกินเหล้าไปบ่อยขนาดมันเลย ถ้าไอ้ธีร์ไปยู่กับยัยจานัสมีหวังมันได้กินคิทแคทแทนเบียร์แน่ๆ
แต่ถึงอย่างนั้นก็เหอะฉันก็โดนยัยวาเลนกับยัยคอตต้อนบ่นอยู่บ่อยๆอะนะว่าฉันบริโภคแอลกอฮอล์เยอะเกินไป แต่ทำไงได้หล่ะก็คนมันชินอะ
“วันนี้ตอนเย็นๆแกว่างปล่าววะ” มันถามขณะที่ตัวเองยกกระป๋องเบียร์ซดเอาๆ
“ไม่ว่างว่ะ มีนัด”
“โห่! นัดสาวที่ไหนไว้อีกวะ” ดูมันพูดดิมันน่านัก “เฮ้ย!! ใจเย็นดิอย่างเพิ่ง!!!” ไอ้ธีร์ร้องเสียงหลงเมื่อชั้นยกเท้าขึ้นเตรียมพร้อมถีบมัน
แกร๊ง....
แต่มันเร็วกว่า ไอ้ธีร์จับขาฉันไว้ก่อนจะกระชากเข้าหาตัวมันทำให้ฉันเสียการทรงตัว โชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่รู้ที่ไอ้ธีร์มันรับตัวฉันไว้ทัน เสียงกระป๋องเปล่าเบียร์ตกกระทบพื้นพร้อมๆกับร่างของฉันกับมันจะล้มลงไปบนโซฟา ตอนนี้หน้าฉันกับมันห่างกันเพียงไม่กี่เซ็นต์
ฉันเพิ่งสังเกตเห็นวันนี้เองว่าไอ้ธีร์มันก็หน้าตาดีเหมือนกันนะนัยน์ตาสีฟ้าของมันที่ฉันไม่เคยชอบ บัดนี้มันกลับดูมีเสน่ห์ดึงดูดให้ฉันสบตามันอยู่อย่างนั้น ผมสีดำนิลที่ซอยดูไม่เป็นทรงของมันดูดีกว่าครั้งที่ผ่านมา จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากสีชมพู ทั้งหมดที่มันเป็นดูดีไปเสียหมด ไม่รู้ว่าฉันคิดไปเองรึเปล่าฉันรู้สึกว่าใจฉันมันเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก
“ฉันเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเวลามองแกใกล้ๆแกก็สวยใช่เล่นนะ” มันพูดยิ้มๆ
“จะอ้วกว่ะ” ฉันตะคอกใส่คนตัวสูงที่กำลังทำหน้ายียวนกวนประสาทฉันอยู่ ทำไมมันไม่ลุกออกไปซักทีวะ อึดอัดโว๊ย!!!
“แกจะลุกออกไปได้รึยังหนักโว๊ย!!” ตรงกันข้ามกับความต้องการของฉัน ไอ้ธีร์เลิกคิ้วใส่ก่อนที่มันจะทิ้งน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมีหน่อยทำให้หน้าเรายังใกล้กันเข้าไปทุกที ร่างกายของเราทั้งสองคนก็แนบชิดกันจนอากาศแทบผ่านไปไม่ได้
“ไอ้ลิน...ถ้าแกทำตัวให้อ่อนหวานน่ารักเหมือนกับผู้หญิงทั่วๆไปเขาหน่อย คงมีผู้ชายมาหลงเสน่ห์แกเยอะกว่านี้” มันมาอารมณ์ไหนของมันวะเนี่ยโคตรจะเลี่ยนเลย ถ้าให้ฉันทำตัวอ่อนหวานน่ารักมีหวังฟ้าถล่ม ดินทลาย ป่าไม้พัง คลังสินค้าวอดเป็นแน่แท้
“ก็ฉัน...” ฉันหยุดพูดทันทีเมื่อไอ้ธีร์เขยิบหน้าเข้ามาใกล้ฉันเข้าไปทุกที ลมหายใจร้อนๆของมันเริ่มมาหยุดอยู่บริเวณแก้มขาวนวลของฉัน หลังจากนั้นมันก็เริ่มขยับมาอยู่ใกล้ๆกับริมฝีปากบางของฉันอย่างอ้อยอิ่งราวกับว่าอยากจะเป็นผู้ครอบครองริมฝีปากนี้
ไอ้ธีร์สบตาฉัน มันมองเข้าไปในตาพยายามส่งความรู้สึกที่มันมีมาให้ฉันได้รับร็ ทุกการกระทำของมันทำให้ฉันใจเต้นแรงมากกว่าเก่า ฉันมองมันดวงสายตาหวานในชั่วเวลาหนึ่งก่อนจะรีบปรับสีหน้าและความรู้สึกให้เหมือนเดิม
แกไม่ได้ชอบมันสักหน่อยยัยโม ใจเย็นๆสิ ใจนี่ก็เต้นจังเลยเดี๋ยวผ่าทิ้งซะเลย
ริมฝีปากของมันเคลื่อนลงมาใกล้กับริมฝีปากของฉัน แต่ก่อนที่มันจะเเตะกัน
“โอ๊ย!!!! ยัยโหด เจ็บนะ” ไอ้ธีร์เอามือกุมสีข้างก่อนจะทิ้งตัวลงไปนั่งกองอยู่กับพื้น ฉันชกสีข้างมันไปเต็มแรงเพราะความรำคาญ (และความเขิน) ตอนนี้ฉันจึงเป็นอิสระจากร่างกายแกร่งที่เคยทับอยู่
“ก็ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าให้ออกไปยังจะทับอยู่ได้ ตัวแกก็ใช่เบา”
“อะไรวะ แกล้งแค่นี้ถึงขั้นต้องต่อยกันเลย” ไอ้ธีร์ลุกขึ้นมาโวยวายใส่ฉัน เหอะ! มันน่าโดนอีกสักหมัดสองหมัดจะได้รู้ว่ามันทำอะไรไว้กับฉันบ้าง มันเกือบจะจูบฉันเลยนะ!!! ไอ้การกระทำแบบนี้มันเรียกว่าแกล้งหรอ
“เออ! แล้วคราวหลังอย่ามาเล่นอะไรแบบนี้อีก กลับไปได้แล้ว เดี๋ยวฉันต้องออกไปข้างนอก” ฉันเอ่ยไล้ให้ไอ้ธีร์มันกลับไป จริงๆฉันไม่ต้องออกไปไหนหรอกแต่ถ้าต้องทนให้มันอยู่ต่อไป ใจฉันคงอยู่ไปเป็นสุขหรอก ให้มันกลับไปแล้วไม่ต้องเจอกันสักพักคงจะเป็นการดีกับตัวฉันมากกว่า
“อ้าวไหนแกบอกว่าไม่ว่างแค่ช่วงเย็นไง” มันมองฉันด้วยสายตาเศร้าๆ อย่ามองอย่างนั้นได้ไหมเห็นแล้วขนลุก
“ก็ตอนนี้ฉันไม่ว่างแล้ว ฉันบอกให้กลับก็กลับไปเหอะน่า” ยิ่งพูดยิ่งอารมณ์เสีย ฉันเดินขยี้หัวก่อนจะเดินตรงไปที่ห้องนอนของตัวเอง แต่ไอ้ธีร์มันดึงมือของฉันเอาไว้ก่อน
“แกเป็นอะไรวะ คุยกันให้รู้เรื่องก่อนปกติแกเป็นคนมีเหตุผลจะตาย” ไอ้ธีร์จับหน้าฉันให้หันไปสบตามัน
ฉันสะบัดหน้าและมือตัวเองออกจากการเกาะกุมของคนตัวใหญ่กว่า ก่อนจะมองมันด้วยสายตาคาดโทษ “กลับไป” ฉันบอกมันด้วยเสียงนิ่งๆแต่แฝงไปด้วยความเย็นชาและรังสีอำมหิตที่เริ่มเข้าปกคลุมไปทั่วห้อง
แกร๊ก
โมลินสุดหล่อ สุดเท่ห์เจ้าขา จานัสมารับแล้วครับ...” เสียงอันร่าเริงของยัยจานัสที่แทรกเข้ามาในสงครามเย็นของฉันกับไอ้ธีร์เป็นอันต้องเงียบลงทันควันเมื่อมันรู้สึกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น “เกิดอะไรขึ้นวะ” ยัยจานัสปิดประตูลงก่อนจะเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นแล้วถามฉันกับไอ้ธีร์ด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็น แกไม่น่าต้องถามนะนัสแกมองหน้าฉันก็น่าจะดูออกนะว่าฉันกำลังโกรธอยู่ แต่ว่ามันเข้ามาได้ไง??
“ไม่ต้องถามจร้า” ก่อนที่ฉันจะถามมันว่ามันปรากฏกายอยู่ในห้องฉันได้ไง มันก็หยิบเอาพวงกุญแจมาแกว่งให้ดู สรุปคือมันแอบไปปั้มกุญแจห้องฉันเอาไว้ ไอ้เพื่อนคนนี้หนิมันน่าจับมาตีก้นให้เข็ด! “บอกฉันได้รึยังว่าเกิดอะไรขึ้น”
“แกกลับไปได้แล้วไอ้ธีร์เดี๋ยวฉันต้องไปธุระกับยัยนัส” ฉันพูดเสียงนิ่งๆโดยไม่หันไปมองมัน ครั้งนี้ธีร์มันไม่ตื้อขอคำตอบ มันเดินคอตกออกไปอย่างเงียบๆโดยไม่เอ่ยลาฉันหรือว่ายัยจานัสเลยแม้แต่คำเดียว
“ไม่ต้องถาม ยังไม่พร้อมจะบอก” ฉันยกมือปรามเหมือนปางห้ามญาติใส่ยัยนัสเมื่อมันกำลังจะอ้าปากถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างฉันกับธีร์ ทำให้มันรูดซิปปากเงียบ
“ไหนบอกว่าให้เคลียร์เวลาช่วงเย็นไงนี่มันเพิ่งจะบ่ายสามเองจะรีบไปไหนวะ!!” ฉันเผลอตะคอกใส่ยัยจานัสไปคำโตด้วยอารมณ์หงุดหงิดที่ยังไม่จางหาย พอหันไปมองมันอีกทีมันก็เอียงคอมองฉันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม
"แกเป็นอะไรมากป่ะปกติแกเก็บอารมณ์จะตายไป... ถ้าพร้อมจะบอกฉันก็พูดมานะอย่าเก็บเครียดไว้คนเดียว" ยัยจานัสนัสยิ้มจนตาหยีให้ฉัน ก็จริงอย่างที่มันบอกเพราะปกติแล้วฉันเก็บอารมณ์ได้เก่งจนกลายเป็นคนที่เดาอารมณ์ยากมากบางทีเห็นฉันยิ้มแย้มร่าเริงแต่ในใจฉันอาจจะกำลังหลั่งเลือดก็ได้ แต่เพราะ 'มัน' ฉันถึงเป็นได้ขนาดนี้
"ไม่มีอะไรหรอกแกก็แค่ทะเลาะกับไอ้ธีร์เป็นเรื่องธรรมดายังไม่ชินอีกหรอจ๊ะ" ฉันยิ้มกลบเกลื่อนไปเพราะไม่อากให้เพื่อนไม่สบายใจแค่นี้มันก็มีเรื่องให้คิดมากพอแล้ว แต่สายตาที่แบบไม่อยากจะเชื่อถือนี่มันหมายความว่าอะไรห๊ะ "ว่าแต่วันนี้แกมีอะไรถึงให้ฉันเคลียร์คิววะ"
"ไม่มีอะไรมากหรอกสิ่งที่ฉันอยากห้แกทำก็คือ..." หน้ายัยนัสตอนนี้มันเหมือนกำลังจะประกาวรางวัลใหญ่ "คือ..." จะคืออีกนานไหม "คือ..." ชักจะหมดความอดทนแล้วนะเฟ้ย!! "คือ..."
"ฉันไม่อยากรู้แล้ว สัญญาถือว่ายกเลิกฉันไปซ้อมนะบ้ายาย" ฉันทำท่าจะเดินไปหยิบพวงกุญแจรถที่แขวนอยู่ตามผนังแต่ติดที่ไอ้นัสมันวิ่งไปรวบกุญแจทุกดอกที่แขวนอยู่ไปไว้กับตัวมันหมด ยัยนี่มือเร็วอย่างกับอะไร
"เฮ้ยๆ ลินใจเย็นดิ"ไอ้นัสพูดห้ามฉันก่อนที่ฉันจะถีบมันเพื่อแย่งกุญแจคืน
"ก็คือ..."
"แล้วจะคืออีกนานไหมห๊ะ!?!"
ก็กำลังจะบอกเนี่ย คัดอยู่ได้!! หัดเงีขแล้วฟังบ้างดิ!!!"ฉันเงียบทันทีเมื่อจานัสตะคอกกลับมาใครจะไปกล้าเถียงยัยนี่ตอนโกรธกัน! ยัยนี่อารมณ์ร้อนอย่างกับไฟ
"คือเย็นวันนี้ฉันจะพาแกไปงานประมูลรถหน่ะ ฉันกะว่าจะชวนยัยปอร์เข่ไปด้วย" ให้ฉันไปงานเนี่ยนะ คนทั้งงานคงได้อ้วกอะถ้าเห็นฉันใส่กระโปรงไป ถ้าให้ฉันแต่งยังไงก็ได้หล่ะก้จะไม่ว่าเลยแต่ถ้าได้ไปงานกับยัยปอร์เมื่อไหร่ฉันจะโดนบังคับให้ใส่ชุดราตรีตลอด แต่ฉันก็สามารถรอดมาได้อย่างปฎิหาร์
"อย่าเพิ่งปฎิเสษเพราะข้าพเจ้ามีขอเสนอ" ยัยนัสนี่มันรู้ทันฉันไปหมดสงสัยคงเพราะอยู่กับมันมากเกินไป
"ถ้าข้อเสนอไม่น่าสนใจฉันบาย" น่าสนใจฉันก็ขอบาย
"S4 เครื่องใหม่โอเคป่ะ" โห่แค่ S4 ห๊ะ!!! S4หรอ ยัยนัสมันจะทุ่มทุ่นไปรึเปล่าถึงขั้นซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่(อีกครั้ง) ให้เลยหรอ จริงๆตอนนี้ฉันใช่ I phone 4 อยู่ก็พอใจแล้วนะ
"พูดถึงโทรศัพท์ ฉันอยากจะลากคอไอ้หมอนั่นมาจังเลย อย่าให้ฉันรู้นะว่ามันเป็นใครฉันจะตายไปถลกหนังหัวมันเลยคอยดู!" พูดแล้วหงุดหงิดเฟ้ย!
"แกก็เอา S4 ไปสิ แล้วก็ไปงานกับฉัน" นี่มันคิดว่าจะเอาโทรศัพท์มาล่อฉันได้งั้นหรอ
"แค่ไปงานใช่ไหม"
"ใช่"
"ได้!! งั้นฉันตกลง" คุณคิดถูกแล้วเพราะว่ามันใช่ได้ผล ก็ถ้าจะให้ฉันซื้อใหม่เองก็ขอผ่านเพราะช่วงนี้ฉันกำลังเก็บตังค์กะจะซื้อมอเตอร์ไซค์สักคัน ไว้ไปซิ่งที่บ้านไร่ฉันที่เชียงราย ที่นั้นเปรียบเสมือนบ้านพักตากอากาศของพวกคุณเธอทั้งหลาย บ้านฉันที่นั้นเป็นทั้งไร่ชาไร่กาแฟ อากาศก็เย็นสบายฉันอยากจะไปอยู่ที่นั้นถาวรเหมือนกันถ้าไม่ติดที่หลานฉันกับงานนะ อันหนีไปอยู่ที่นั้นกับพ่อกับแม่ฉันแล้ว
"แกรับปากแล้วนะ ห้ามคืนคำด้วย"
"ฉันสัญญาด้วยเกียรติของสาวหล่อแห่งฟรานซิส" ฉันยืนกำบั้นออกไปยัยนัสก็กระแทกกำปั้นกลับมาเหมือนกัน ถือว่าพันธะสัญญาเสร็จสิ้น
"แล้วแกจะใส่ชุดอะไรไป" ฉันถามยัยนัสทั้งๆที่น่าจะรู้อยู่แล้ว้าคำตอบคืออะไร
"ไม่น่าถาม อย่างฉันนะหรอมันก็ต้องกางเกงอยู่แล้ว" นั่นไงฉันว่าแล้วอย่างมันไม่น่าจะใส่ชุดราตรีได้
กริ๊งๆๆ
"ว่าไงจ๊ะตัวเธอ" ยัยนัสหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาก่อนจะกรอกเสียงร่าเริงลงไป
ก็ได้...เออๆจะรีบไปนะ" ยัยจากนัสพูดแบบขอไปทีสงสัยจะโกนใครชวนไปซื้อของหล่ะสิ
"ยัยคอตจะให้ฉันไปดูชุดล็อตใหม่ของลีออน้ป็นเพื่อนมันอะ แล้วลีออนมันก็ฝากบอกว่ามันจะเอาสูทมาให้แกชุดหนึ่งอะจะลองไปดูไหม" สูทหรอ ก็ดีนะฉันเพิ่จะซื้อเสิ้ตมาใหม่ น่าจะเข้ากับสูทของยัยลีออนพอดี
ลีออนเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มฉันที่มความสารถด้านการออกแบบและดีไซด์ชุด ด้วยการที่ทางบ้านปูรากฐานเรื่องนี้มาบ้างแล้วทำให้ยัยลีออนเอากิจการที่บ้านมาต่อยอดแล้วเปิดร้านแบรนด์เสื้อผ้าที่ได้รับความนิยมขึ้นมา ฉันก็เป็นหนึ่งในลูกค้าขอวมันนะแต่ฉันจะรับแค่งานที่เป็นเชิตเท่ๆ หรือไม่ก็สูทเท่านั้น มันทำให้เป็นกรณีพิเศษ หวังว่าสูทคราวนี้ของลีออนคงออกมาดูดีนะ
สาบานว่าชุดแบบนี้บ้านพวกแกเรียกว่าสูท!! ไอ้พวกเพื่อนทรยศ อย่าให้ฉันหลุดไปได้นะ ฉันจะกระซวกพวกแกเรียงคนเลยคอยดู!!!!! จานัส ลีออน คอตตอน ปอร์เช่ พี่วิรัฐ ทุกคนอย่าหวังว่าจะรอดนะ ฉันจะจัดการทบต้นทบดอกเลยคอยดู!!
10นาทีก่อนหน้านี้ที่ SP Shop
'ไหนจ๊ะลีออนสูทของข้าพเจ้าอะ' ฉันเดินเข้าไนร้านเพื่อทวงถามถึงชุดสูทดีไซด์ใหม่
'เดี๋ยวไปดูในห้องแต่งตัวนะ ฉันเตรีมจัดชุดใหญ่ให้ รับรองว่าเธอต้องชอบแน่ๆ' ฉันคิดไปเองมั้งว่ารอยยิ้มของยัยลีออนมันดูสะใจอะไรแปลกๆ แต่ชั่งมันเหอะ ตื่นเต้นอะได้เห็นสูทใหม่สักทีเสื้อผ้าของยัยลีออนไม่เคยทำให้ฉันผิดหวังเลยสักครั้ง และเนื่องจากวันนี้ฉันต้องไปงานประมูลรถเลยจัดเครื่องประดับมาชุดใหญ่โดยจิวหูที่เคยเป็นแค่จิววงกลมธรรมดาสองอัน ฉันก็อุตส่าห์ไปขุดจิวไม้กางเขนสีดำที่หลานสาวตัวแสบซื้อให้เป็นของขวัญออกมาใส่ แถมยังเซ็ตผมมาซะหล่อเลย
ฉันเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวตามที่ลีออนบอก หน้ากระจกมีซองสีดำใส่ชุดขนาดยาววางอยู่ ที่จริงถ้าเป็นสูทมันต้องไม่ยาวขนาดนี้แต่อันนี้มันยาวผิดปกติ
ฉันเดินเข้าไปเปิดซองดูก็เจอกับชุดราตรีสีน้ำเงินสด ยัยลีออนจัดให้ผิดตัวแน่เลย ยัยคนนี้ขี้ลืมจริงๆ
แกร๊ก...
ขณะที่ฉันรูดซิบปิดซองแล้วกำลังจะหยิบซองชุดนั้นไปให้ลีออน ประตูห้องแต่งตัวของฉันก็เปิดออก สงสัยจะเป็นลีออนดีเหมือนกันจะได้ให้มันเอาไปเปลี่ยน
'ลีออน...อ่าวปอร์ พี่วิรัฐมาได้ไงอะ' คนที่เข้ามาใหม่ไม่ใช่ลีออนแต่อย่างได้แต่เป็นปอร์เช่เพื่อนและเจ้านายของฉันกับวิรัฐคนที่ทำหน้าที่ทุกอย่างตั้งแต่พี่เลี้ยง สารถี บอดี้การ์ดและหน้าที่ต่างๆนานาอีกมากมาย จริงๆพี่วิรัฐ(แกแก่กว่าพวกฉัน)เป็นคนที่หล่อ รูปร่างดี แถมใจดีอีกต่างหาก ใครได้พี่แกเป็นแฟนนะโชคดีตายเลย
วิรัฐคะ’ ยัยปอร์สั่งพี่วิรัฐสั้นๆก่อนที่พี่วิรัฐจะพุ่งเข้ามาล็อคตัวฉันไว้ อะไรกันวะเนี่ย!
‘เฮ้ย! นี่คิดจะทำอะไรกันปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลยนะพี่ ปล่อย!’ ฉันพยายามสะบัดตัวออกเต็มที่แต่ว่าฉันตัวเล็กกว่าพี่แกตั้งเยอะ แรงพี่แกก็ไม่รู้ไปเอามาจากไหน ฉันว่าฉันแรงเยอะมากแล้วนะ แต่พี่นี่แรงควายมาก เจ็บโว้ย!!
‘ทำอะไรนะหรอ แกเห็นชุดในนั้นแล้วใช่ไหม ฉันกะแล้วว่าคนอย่างพวกแกไม่มีวันใส่ชุดราตรีไปงานแน่ ฉัน ลีออน คอตต้อนเลยล่อแกกับจานัสออกมาไงตอนนี้คอตกำลังจัดการนัสอยู่ ส่วนแกก็เป็นเหยื่อของฉันกับลีออน’ ยัยปอร์...ยัยเพื่อนทรยศศศศ ฉันหล่ะอยากให้ทุกคนเห็นหน้ามันจัง หน้ามันดูสะใจมากเลยที่จะจับฉันแต่งหญิงได้
‘ขอโทษนะครับคุณลิน แต่ผมเลี่ยงไม่ได้จริงๆ’ ฉันตวัดสายตาคาดโทษ ตาย ไปที่พี่วิรัฐ แต่ดูดิดูที่ไอ้พี่วิรัฐมันพูดสาบานว่านั่นปาก เลี่ยงไม่ได้พี่กำลังจะเอาฉันเข้าเครื่องประหารรู้ตัวไหมห๊ะ!!!
‘ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะพี่ ถ้าพี่ปล่อยฉันเลี้ยงไอติม’
‘เออ...คุณลินครับผมไม่ใช่เด็กสิบขวบนะครับ’ เออว่ะลืมตัวไป มุกนี้ชอบใช้กับไอ้หลานตัวแสบจนติดเป็นนิสัยไปและ งั้นเอาใหม่ๆ
‘งั้นถ้าพี่ไม้ปล่อยพี่เจอจระเข้ฟาดหางแน่’ เออต้องยังงี้ พวกนี้เขารู้กันว่าฉันเป็นมวยไทย พี่ต้องกลัวฉันบ้างแหละเพระฉันเคยซ้อมมวยกับพี่วิรัฐ พี่แกต้องรู้ว่าฉันเท้าหนักมือหนักขนาดไหน มุกนี้ได้ผลแน่
‘จระเข้ฟาดหางหรอ ฉันว่าแกขยับตัวให้ได้ก่อนดีกว่าไหมยัยลิน ฮ่าๆๆ’ เสียงยัยปอร์กับพี่วิรัฐหัวเราะนี่มันดังทะลุเข้าไปในโสตประสาทฉันเลย โว้ย!! นี่งัดมาทั้งไม้อ่อนไม้แข็งแล้วนะไม่ปล่อยสักที ‘ฉันว่าแกยอมให้พวกฉันแต่งให้เหอะ ไม่งั้นฉันจะโทรไปบอกป๊าว่าแกทำ one77 เป็นรอยขีดข่วนเต็มไปหมด ดูสิว่าป๊าจะปรับแกเท่าไหร่’ ยัยปอร์ยกเอาโทรศัพท์ของมันขึ้นมาแกว่งไปมาเพื่อแสดงให้รู้ว่ามันพร้อมจะโทรไปหาป๊ามันทุกเมื่อ
‘ฉันเกลียดพวกแกกกกกก’ ฉันลากเสียงแสดงความเกลียดใส่มันเต็มที่ มันเอา one77 มาอ้างขนาดนี้ฉันจะทำอะไรได้อีกหล่ะ นอกจากยอมให้มัน จับขึ้นเขียง...
กลับสู่ปัจจุบัน
“ยัยลินเอาที่รัดออก” ยัยลีออนสั่งหลังจากที่ฉันยอมตกลงแต่งตามที่มันสองคนต้องการส่วนไอ้ที่มันบอกให้เอาออกอะคือที่รัดหน้าอกที่ฉันรัดเอาไว้ตลอดเวลา แต่จ้างให้ฉันก็ไม่เอาออกหรอเว้ย
“ไอ้เอาออกไอ้โอ่ออก (ไม่เอาออกให้โง่หรอก)” เนื่องจากฉันโดนยัยสองคนนี้มันเอาผ้ามาอุดปากและก็มัดฉันไว้กับเก้าอี้เพราะมันรำคาญที่ฉันโวยวายใส่พวกมัน ก็ถึงฉันจะตกลงแต่ก็ใช่ว่าจะยอมให้แต่งง่ายๆนี่
“ฉันปล่อยให้แกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเองก่อนถ้าแกไม่ไปใส่ให้เสร็จในสิบนาที...คงรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น” ยัยปอร์เอาโทรศัพท์มาแกว่งอีกและ ใชช่สิก็พวกแกมีข้อต่อรองที่ฉันปฏิเสธไม่ได้หนิ
“อ้อไอ้ อ่อยอั้นอิ (ก็ได้ ปล่อยฉันสิ)” สุดท้ายก็ต้องยอมพวกมันจริงๆสิเนี่ยฝากไว้ก่อนเถอะพวกแก!!
พี่วิรัฐเดินมาปล่อยตัวฉันจากพันธนาการทั้งหลายหลังจากที่ได้รับสัญญาณจากยัยปอร์ เข้ากันจังนะของคนนี้เนี่ยหงุดหงิดเว้ย!
“เริ่มจับเวลาสิบนาที” อ้าวเห้ยไม่บอกไม่กล่าวกันก่อนเลย ฉันวิ่งไปหยิบชุดเข้าไปในห้องแต่งตัวก่อนรีบเปลี่ยนมันด้วยความเร็วสูง
"จะครบสิบนาทีแล้วน้า" ยัยพวกนี้ก็เร่งจังเลย คนมันไม่เคยใส่นะเฟ้ยเห็นใจกันบ้างดิ
"เออๆ เสร็จแล้วๆ"
"ยัยลิน...ซ่อนรูปเหมือนกันนะเธอเนี่ยตอนแรกคิดว่าเป็นไม้กระดาน” ยัยลีออนกับยัยปอร์ดูจะอึ้งไปซักพักก่อนจะพูดบอกฉัน ซ่อนรูปอะไรวะ
ฉันดูสภาพตัวเองในกระจกก็แทบอ้าปากค้าง ตอนใส่ฉันไม่ได้ดูว่าชุดเป็นไงแค่ใส่ๆมา แต่ตอนนี้ฉันเห็นและมันเป็นชุดเดรสสีน้ำเงินเข้มสั้นเหนือเข่า เข้ารูป(เกินไป) ตรงหน้าอกเจาะเป็นรูปสามเหลี่ยมเว้าให้เห็นเนื้อขาวเนียน ข้างหลังเว้าเผยให้เห็นแผ่นหลังแต่ยังดีที่มีผ้าลูกไม้บังไว้แต่มันดันเป็นลูกไม้ซีทรู พรุนทั้งหลังเลยฉัน ใครมันเป็นคนออกแบบวะ - -;
"ผมไม่เคยเห็นคุณลินแต่งตัวหวานๆแบบนี้เลยนะครับ คุณลินน่าจะหันมาแต่งแบบนี้มั้งนะครับ ถ้ายังแต่งหล่อไปเลยๆสงสารพวกผู้ชายเขาบ้างคุณนะหล่อกว่าผู้ชายบางคนอีกนะ" พี่วิรัฐพูดไปยิ้มไป ดูดิยิ้มจนแก้มจะปริอยู่แล้ว
"ใครมันออกแบบวะ จะสั้นไปไหนเนี่ยชุดอะ แล้วผ้าข้างหลังนี่มันอะไรอะคันเว้ย!" ฉันโว้ยใส่ยัยตัวดีทั้งหลายที่ยืนมองผลงานของพวกมันอย่างหน้าระรื่น ขอบอกเลยว่าเกลียดยัยพวกนี้มากๆอะตอนนี้
"จะให้เอาลูกไม้ออกไหมหล่ะ คนทั้งงานจะได้เห็นหลังขาวๆของแกแทนไง" ยัยลีออนทำท่าจะเอากรรไกรมาตัดผ้าลูกไม้ยน้าหลังฉันออก อย่างงั้นฉันขอทนคันเป็นลิงอย่างนี้ดีกว่า
"อย่าบ่นน่ายัยลิน วันนี้ถือว่าฉันขอนะ งานนี้มีแต่ผู้ใหญ่ทั้งนั้น" ยัยปอร์บอกก่อนจะลากฉันไปนั่งหน้ากระจกใบใหญ่
"ฉันถามแกจริงๆเถอะยัยลินแกจะไปเผยแพร่ศาสนารึไงไม้กางเขนเต็มตัวเลยทั้งจี้คอ ทั้งจิวหูถ้าพกไบเบิลมาได้แกคงทำแล้วใช่ไหม" ยัยลีออนบ่นฉันซะยืดยาวก่อนจะปลดสร้อยและจิวรวมทั้งกำไลข้อมือหนังของฉันออกจนหมด
"เฮ้ย! เอาออกทำไมวะ ของหลานฉันนะเว้ย “มันสองคนฟังแบบเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาเพราะยัยลีออนเดินไปหยิบกล่องใส่จิวเวอรี่ของมันแล้วเอาตุ้มหูรูปสามเหลี่ยมสีดำอันมหึมามาใส่ให้ฉันแทน ส่วนกำไลก็เปลี่ยนเป็นสีขาวเรียบๆ
"ส่วนหัวนี่จะตัดไปทำไมผมอะให้มันยาวของมันก็ดีอยู่แล้ว" ยัยลีออนเอาวิกผมยาวสีน้ำตาลเข้มมาจะใส่ให้แต่ฉันก็ไม่ยอมอยู่นิ่งให้มันใส่ได้หรอก
"อยู่เฉยๆได่ป่ะ วิรัฐคะช่วยจับยัยลิงนี่ที" พี่วิรัฐตรงเข้ามาจับตัวฉันให้อยู่นิ่งๆเพื่อที่ยัยสไตล์ลิชจำเป็นจะได้ทึ้งผมฉันถนัดๆ
"วาเลนนนนแกจะมาช่วยฉันใช่ไหม" ยัยวาเลนเดินเปิดประตูเข้ามาด้วยสีหน้าเรียบเฉย นี่แกแกไม่ตกใจกับภาพที่เห็นเลยหรอ!?! ถ้าเป็นคนอื่นเค้าคงคิดว่ามีผู้หญิง(กระเทย)ตัวเล็กๆคนหนึ่งกำลังถูกรังแกจากชายร่างบึกและชะนีอีกสองคน กระสิกๆๆ
“ฉันรู้จักเธอด้วยหรอ” ฉันเกลียดแกที่สูดด ยัยวาเลนนน!!! เชื่อฉันไหมว่ามันต้องรับหน้าที่ทึ้งผมให้ฉันเพราะในกลุ่มฉันเนี่ยวาเลนเป็นคนที่ทำผมสวยที่สุดแล้ว ยัยพวกนี้ธุรกิจครอบครัวชัดๆไม่ยอมเสียค่าช่างเลยสักบาท
“วาเลนจัดการหัวยัยนี่ให้ด้วยนะเดี๋ยวฉันไปดู ‘เหยื่อ’ อีกคนก่อน” เหยื่ออีกคน...อย่าบอกนะว่า...
“ไอ้นัส!!!” พวกมันดูซะใจนะที่สามารถลากทอมบอยประจำแก๊งทั้งสองคนมาแต่งหญิงได้เนี่ย
complete....
ความคิดเห็น