คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : :::: Stake 1 Beginning ::::
#Molin#
“นางสาวพกาสร มาทรรัฐ เชิญที่ห้องอาจารย์วัฒนาตึกนิเทศค่ะ”
ความซวยบังเกิดขึ้นแล้วไงยัยโม!!!! ตั้งแต่ฉันมาอยู่ที่ฟรานซิสยังไม่เคยมีอาจารย์คนไหนเรียกไปพบเลยซักคนและฉันก็มั่นใจด้วยว่าไม่เคยไปกวน___อะไรอาจารย์วัฒนาแกเลยซักนิ๊ดดดเดียว แค่หน้าอาจารย์แกฉันยังไม่เคยเห็นเลย ทำไมฉันถึงดูตื่นเต้นมากมายอะหรอ เหตุผลไม่ยาก อาจารย์วัฒนาแกเป็นอาจารย์อยู่คณะนิเทศศาสตร์ขึ้นชื่อเรื่องความโหดเขี้ยวลากดิน เป็นที่เข็ดขยาดสำหรับของเหล่าเด็กนิเทศน์ มีอยู่ครั้งหนึ่งคนเขียนบทละครเวทีเขียนบทไม่ถูกใจอาจารย์ โดนแกด่าไปสามวันเจ็ดวันโทษฐานที่เขียนได้ไม่เข้าถึงอารมณ์ของตัวละคร =_= ฉันเคยลองขอเขามาอ่านแล้วจริงๆมันถือว่าใช่ได้เลยทีเดียวแต่ไม่รู้ว่ามาตรฐานของอาจารย์แกอยู่ระดับไหน ปวดตับแทนพวกนักเขียนบทที่สุด แต่เด็กสถาปัตอย่างฉัน!!! โดนเรียกไปเพื่ออะไร!?!
เนื่องจากฉันเป็นเด็กดีมีมารยาทไม่อยากให้ผู้ใหญ่รอนาน ฉันเลยขับ Porsche Carrera 4s ด้วยอัตราเร็ว 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง!!! (โคตรจะเสียชาติกำเนิดที่เกิดมาเป็น Supercar จริงๆ) เพื่อไปยังตึกนิเทศที่อยู่ห่างกับตึกสถาปัตที่ฉันเรียนหลายโยชน์ ไม่รู้ว่ามหาลัยมันจะใหญ่ไปไหน นักศึกษาก็ไม่ได้เยอะขนาดนั้น สร้างไว้หยั่งกับจะเอาไว้ต้อนวัว นักศึกษาส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกขับบิ๊กไบท์ก็ใช้รถกันทั้งนั้น
พอฉันเดินทางมาถึงตึกนิเทศฉันก็ยังคงความมีมารยาทด้วยการเดินขึ้นบันได!! เคยได้ยินไหมคะกดลิฟต์หนึ่งครั้งเสียค่าไฟ 7 บาท เลยไม่ขึ้นลิฟต์เดินออกกำลังกายคะเพราะห้องพักอาจารย์อยู่ชั้น 5 เองสบายมากไม่เกินความสามารถโมรินอย่างแน่นอน ฮิฮิฮิ ^^
ฉันพยายามถ่วงเวลาการไปถึงห้องอาจารย์วัฒนาให้ช้าที่สุดเท่าที่ทำได้เพราะฉันรู้สึกเหมือนว่า ‘เพื่อน’ ฉันกำลังจะนำความซวยที่ใหญ่กว่านี้มาให้
พอมาถึงหน้าห้องอาจารย์ฉันก็สูดหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะเปิดประตูกระจกออก ภาพที่เห็นคือมีนักศึกษาผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่งนั่งตัวลีบอยู่ตรงข้ามอาจารย์ ดูจากสภาพการแล้วโดนเทศนามาก่อนแน่ๆ
“ไม่มีมารยาท จะเข้าห้องทำไมไม่เคาะประตูก่อน แล้วนี่คุณเป็นใครมีธุระอะไร!!!” อาจารย์วัฒนาใช้หางตามองมาทางฉัน ได้ข่าวว่าอาจารย์เรียกฉันมานะ ถามว่าฉันมีธุระอะไรแล้วฉันจะไปรู้ไหมเนี่ย!!!
“ก็อาจารย์เป็นคนเรียกหนูมานี่คะ”
“นี่คุณชื่อพกาสร มาทรรัฐ หรอ คุณเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่” อาจารย์วัฒนามองฉันตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ปลายเท้าจรดผมซ้ำไปซ้ำมา กรรมฉันมันเหมือนผู้ชายขนาดแยกไม่ออกเลยหรอ แต่ก็ไม่แปลกหรอกเพราะฉันซอยผมสั้นเปิดหูทำสีขาวแซมเรียกได้ว่าทรงเดียวกับที่ผู้ชายหลายๆคนมักทำกัน เจาะหูข้างขวาสองรูพร้อมจิว ต้นคอขวาสักรูปเพนเทเคิล งงกันแหละซิว่าเพนเทเคิลเป็นยังไง เพนเทเคิลเป็นสัญลักษณ์ของลัทธิเพเกิน ลัทธินอกรีตของชาวคริสต์ที่เชื่อว่าเป็นพวกบูชาซาตาน ลักษณะเป็นสัญลักษณ์รูปดาวห้าเหลี่ยมที่ทับซ้อนกันไปมาแต่ละเหลี่ยมจะหมายถึงธาตุมูลฐานของโลก ที่สำคัญฟรานซิสเป็นมหาลัยที่ไม่บังคับให้นักศึกษาหญิงต้องใส่กระโปรงมาเพราะฉะนั้นฉันเลยใส่กางเกงมาเรียนเพื่อความคล่องตัว รวมๆแล้วดูยังไงฉันก็ไม่เหมือนผู้หญิงอยู่ดี วาเลนไทน์ของจากผู้ชายไม่เคยมี ได้จากสุภาพสตรีทั้งนั้น ชีวิตมันเศร้าเน้อ ToT ครั้งล่าสุดฉันไปแข่งรถที่รัสเซียมีไอ้บ้าที่ไหนก็ไม่รู้ มันท้าแข่งกับฉันมันนึกว่าฉันเป็นผู้ชายมันเลยเอาคู่ขามันมาเป็นของพนัน แล้วคู่ขามันดันมาปิ๊งฉันเป็นเหตุให้ไอ้หมอนั่นโกรธมากที่ถูกคู่ขาหักหน้า ของพนันเลยเพิ่มขึ้นเป็นเงินอีกจำนวนมหาศาล และในที่สุดฉันก็ชนะ ส่วนยัยคู่ขานั่นฉันก็ปล่อยไว้ที่เดิมหมอนั่นจะจัดการยังไงก็เรื่องของมัน
“ผู้หญิงค่ะ” ฉันตอบอย่างหนักแน่น ที่ฉันแต่งตัวและมีกริยาไม่เหมือนผู้หญิงทั่วไปไม่ใช่เพราะเป็นทอมนะ แต่ฉันเห็นว่าถ้าจะให้แต่งตัวหวานๆ เรียบร้อยๆ มันไม่เข้ากับตัวของเราดังนั้นลุคสุดท้ายที่เหมาะสมก็คืออย่างที่เห็น
“หรอ” อาจารย์พูดก่อนจะก้มหน้าลงไปกับกองเอกสาร คาดว่าจะเป็นบทละครที่คนที่นั่งข้างๆฉันเขียนขึ้น “เอาไปอ่านแล้วอีกสองวันกลับมาบอกผมว่ามันเป็นยังไง ถ้ามันไม่ดีก็ปรับได้เลย เห็นเพื่อนคุณบอกว่าคุณได้รางวัลนักเขียนหน้าใหม่ตั้งแต่อยู่มัธยมนี่ ผมอยากเห็นฝีมือการเขียนของคุณ” อาจารย์วัฒนาโยนบทละครปึกหนึ่งมาให้ฉัน ยัยเณอร์รีน!!!!!! แกกล้ามากนะ เอาชื่อฉันมาบอกอาจารย์อย่าให้เจอตัวนะแม่จะจับกดใส่กระป๋องให้ตัวหดกว่านี้อีกเลยคอยดู!! ยัยเณอร์รีนเป็นนักศึกษาอยู่คณะนิเทศและมันก็สนิทกับอาจารย์วัฒนาด้วยเพราะมันเป็นนักแสดงให้อาจารย์แกเกือบทุกงาน โอ๊ย!!!ยัยนี่หางานให้อีกแล้ว
ฉันหยิบเอาบทมาเปิดอ่านผ่านๆก่อนจะทำหน้าเบื่อโลกใส่อาจารย์ “หนูไม่รับปากนะคะ เพราะแค่นี้งานหนูก็เยอะพอแล้ว แต่ยังไงหนูก็จะพยายามทำให้นะคะ หนูลาหล่ะค่ะ” ฉันลุกขึ้นไหว้อาจารย์ก่อนจะเดินออกไปจากห้องโดยไม่ลืมที่จะหยิบบทไปด้วย
ติ๊ด...ติ๊ด
เสียงนาฬิกาฉันดังขึ้นเพื่อบอกเวลาบ่ายโมงตรง ฉันควานหาโทรศัพท์ที่กระเป๋ากางเกงเพื่อโทรไปเช็คนัดสำคัญแต่มันไม่มี!!! ลืมไว้ในคลาสแน่เลยนี่แสดงว่าฉันต้องขับไปตึกสถาปัตใช่ไหม คุณพระวันนี้เสียค่าน้ำมันไปเท่าไหร่เนี่ย
ฉันเดินมาที่จอดรถก่อนจะรีบเหยียบไปให้ถึงตึกให้เร็วที่สุด เพราะถ้าช้าฉันอาจพลาดการประมูลสนามแข่งรถก็ได้
เมื่อมาถึงคลาสด้วยความเร็วแสงฉันก็ควานหาโทรศัพท์ S4 ที่เพิ่งจะถ่อยมาจากศูนย์เมื่อวานนี้ เจอแล้ววางไว้ที่โต๊ะหลังห้องนี่เองดีนะที่ยังไม่หายไม่งั้นเสียดายตายเลย ฉันเดินเช็คประวัติการโทรขณะที่กำลังเดินออกจากคลาส นั่นไงยัยจานัสโทรมาจริงๆด้วย ยังไม่ทันที่ฉันจะโทรกลับไป มันก็โทรกลับมาก่อน
[โมแกรีบมาเลยนะ ไม่งั้นแกโดนตักหน้าแน่ มันมารอจ่อกันแล้วนะ] ยัยจานัสเป็นน้องสาวของสนามแข่งที่ฉันมักไปซ้อมอยู่บ่อยๆ มันก็เคยเป็นนักแข่งเหมือนฉันแต่หลังๆนี่ผันตัวไปดูแลรถแทนแล้ว
“ได้เลยฉันจะรีบไปขอเวลายี่สิบนาทีเจอกันที่สนาม” ฉันบอกยัยจานัสก่อนจะวางสาย เมื่อเดินมาถึงรถฉันกำลังหยิบกุญแจมาจากกระเป๋ากางเกงแต่มันดันมีผู้ชายคนหนึ่งวิ่งชนฉันจนโทรศัพท์ในมือตกลงไปบนพื้น
ปึก!!!
Lamborghini คันหนึ่งวิ่งมาทับโทรศัพท์ที่เพิ่งจะตกไปแหลกสลายกลายเป็น (เศษ) ซาก โทรศัพท์ฉัน!!!! ราคาตั้งหลายหมื่นใช้ได้ไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงมันคุ้มไหม โอ๊ย!!!!!!!!!!! นี่มันวันซวยอะไรของฉันเนี่ย
ไอ้บ้านี่!! อย่าให้เจอนะแม่จะให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นโทรศัพท์ทั้งศูนย์เลยคอยดูซิ อย่าคิดว่าขับ Lamborghini Aventador แล้วฉันจะไม่กล้านะ ฉันเคยขับ Aventador ชนะผู้ชายมาแล้วเลยแถมให้อีกอย่างฉันได้รางวัล The best racing car award มาครอบครองนะคะถ้าไม่ติดว่าต้องรีบไปสนามฉันขับรถไปลากคอนายมาเลยคอยดู!!! ฉันยกมือขึ้นดูเวลา ซวยหมาแล้ว!!! เสียเวลาไปตั้งนานชวดสนามแข่งแน่ฉันวันนี้ ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้บ้า Lambor และไอ้ผู้ชายที่บังอาจชนฉันจนทำให้มือถือฉันมีอันเป็นไป แกก็อย่าหวังว่าจะรอด ฉันเหยียบขันเร่งแทบมิดเพื่อไปที่สนามแข่ง J ให้เร็วที่สุดเนื่องจากระยะทางที่ห่างกันพอสมควรฉันคิดว่าทักษะของนักแข่งรถฉันคงได้เอามาใช้บนท้องถนนก็วันนี้แหละ
#Taiyo#
ขณะที่ผมกำลังขับรถจะกลับบ้านผมก็เจอคนที่ผมเกลียดขี้หน้าที่สุดในสามโลก ไอ้ตุ๊ด!!! โลกมันกลมหรือผมมีกรรมกันแน่ผมถึงเจอแต่ไอ้หมอนี่ได้ตอนเวลา ที่แท้มันก็อยู่ฟรานซิสนี่เอง ทำไมเจ้าพ่อ รูปหล่อ รวยร้อยล้าน เจ้าของธุรกิจยักษ์ใหญ่อย่างผมต้องสนใจเด็กน้อยอย่างมันก็ไม่รู้นะ ผมก็อายุอารามปาไปต้อง 27 แล้ว แล้วมันหล่ะยังไม่เกิน 20 เลยมั้ง มันมีอะไรดีไปกว่าผมบ้างดูซิ หล่อหรอสำหรับผมบอกได้คำเดียวว่าหน้ามันหวานอย่างกับผู้หญิง ปากนิดจมูกหน่อย ตัวก็เล็ก เตี้ยก็เตี้ย ถ้าเอามาเทียบกับผมซึ่งสูง 180 กว่าเซ็นต์มันก็คงสูงแค่ไหล่ผมเอง รวมๆแล้วผมเหนือกว่าทุกอย่างแต่ทำไมพอลงสนามผู้หญิงถึงเท่ใจให้หมด ขนาดคู่ขาผมยังมองมันซะหวานหยดเลย สรุปอีกทีว่าสิ่งที่ผมเห็นว่ามันมีดีอยู่อย่างเดียวคือ เท้าหนัก!! ถึงได้เหยียบคันเร่ง Aventador ชนะสิงห์นักขับอย่างผมมาได้ทั้งๆที่ผมเคยได้รางวัลเดียวกับมันมาเมื่อ 4 ปีก่อนแต่ขอเน้นว่าแค่เฉียดนะ!! ตอนนั้นพอผมเคลียร์งานเสร็จก็เลยไปผ่อนคลายนั่งดูรถแข่งที่สนาม และก็ได้เจอกับเจ้าของรางวัล The best racing award คนใหม่เข้าฝีมือไม่เลว ผมเลยส่งคนไปเชิญมันมาแข่งกับรุ่นพี่ในสาขารางวัลเดียวกันแบบผมนี่!! เย็นวันต่อมาผมกับมันเลือกรถเข้าลงแข่งเป็นรุ่นและสีเดียวกันคือ Lamborghini Aventador สีขาวที่ผมใช้อยู่ในปัจจุบัน วันนั้นผมพาคู่ขาไปด้วยคนหนึ่งและใช้ยัยนั้นเป็นตัวเดิมพัน แต่ดูเหมือนว่ายัยคู่ขาผมคนนี้จะชอบไอ้หมอนั่นมาก มากซะจนไม่ต้องรอให้ผมแพ้เธอก็วิ่งเข้าใส่มันแล้ว แล้วไอ้หมอนั่นก็แย้งคะแนนความนิยมผมไปซะแทบไม่เหลือผู้หญิงในสนามแทบจะยอมพลีกายถวายตัวให้มัน เหอะผมไม่คิดว่ามันจะชนะผมได้หรอก ด้วยความหมั่นไส้ผมเลยเพิ่มเดิมพันเป็นเงินอีกจำนวนมหาศาล แต่ผลการแข่งขันมันทำให้ผมน้ำตาจะไหล มันชนะผม!!! สองครั้งซ้อนด้วย!!! ทั้งๆที่ไม่เคยมีใครเคยชนะผมมาก่อนเลย
อีกครั้งหนึ่งผมเจอมันที่สนามในประเทศไทยเลยท้าเพื่อล้างตา คราวนี้ของเดิมพันกลายเป็น Porsche Cayman สีเหลืองเป็นรถคันแรกที่ป๋าซื้อให้ แต่ระหว่างที่แข่งมันใช้ Lamborghini ด้วยขนาดและรูปร่างรถที่ต่างกันมากมันเลยได้เปรียบในการแข่งขันนี้ และผมก็แพ้มันอีก แต่คราวนี้ผมถึงขั้นไปโวยวายกับมันกับเพื่อนมัน (แพ้แล้วพาลว่างั้น) แต่ก็ดีที่ไอ้เทม(หุ้นส่วนกาสิโนผู้อายุ 20 ปี)มันทำให้ผมฉะหน้าพวกนั้นให้หงายได้ แล้วผมก็ได้รางวัลเป็นหมัดหนักๆของไอ้ตุ๊ดและเกือบได้ลูกปืนจากเพื่อนของมัน!! เมื่อไหร่ผมจะเอาคืนพวกมันได้เสียทีเนี่ย!!
ครอบครัวผมย้ายไปอยู่ไทยได้สัก 20 ปีแล้ว เพราะว่าเมื่อก่อนป๋าผมมีศัตรูไปทั่วรัสเซีย ก็การทำงานด้านมืดเนี่ยถึงจะไม่ไปเหยียบจมูกใครแต่ยังไงมันก็ตามราวีอยู่ดี ป๋าเป็นห่วงความปลอดภัยของผมกับแม่เลยส่งพวกผมมาอยู่ที่ไทยก่อน แล้วป๋าก็บินไปจัดการเรื่องทุกอย่างแล้วก็สร้างชื่อเสีย(ง)กลายเป็นมาเฟียรัสเซียที่ทุกคนให้ความยำเกรง และความเป็นมาเฟียมันเลยถ่ายทอดทางพันธุกรรมมาที่ผม ผู้สานต่อกิจการเลยกลายเป็นผมซะงั้น พอธุรกิจอันดำมืดต่างๆนานาในรัสเซียทรงตัวแล้ว ผมก็เลยกลับมาอยู่ไทยอย่างเป็นทางการและก็ได้รับเชิญจากไอ้พวกบรรดาหุ้นส่วนโครงการสร้างกาสิโนของผมให้มาที่ฟรานซิสในวันนี้ ได้ยินไม่ผิดหรอกครับ พวกมันยังอยู่มหาลัยอยู่เลยคงมีแต่ออร์ดี้ที่จบมหาลัยอย่างสมบูรณ์แล้วแต่อายุมันน้อยกว่าผมตั้ง 4 ปี แต่ไอ้พวกนี้ไม่เคยให้ความเคารพผมหรอก เพราะครอบครัวเรารู้จักและทำธุรกิจด้วยกันมานานพอมารุ่นพวกผม มันเลยทำเหมือนผมเป็นเพื่อนเล่นพวกมัน พวกนี้มันโทรไปบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วยให้รีบมาที่ฟรานซิส ผมก็รีบเคลียงาน (โดยการโยนให้เลขาทำแทน) มาหาพวกมันแต่พวกมันกลับเรียกผมมาเพื่อเหล่สาว ขอบคุณ ผมขอให้พวกมันไปตายซะ!! ระดับผมไม่ต้องเหล่แค่อยู่เชยๆก็มีคนเข้ามาหาแล้ว
เมื่อผมเห็นโทรศัพท์ของมันตกบนพื้นความคิดอันชั่วร้ายของผมก็บังเกิดขึ้น!!! ไหนๆก็แข่งไม่ชนะมันซักทีงั้นโทรศัพท์บนพื้นฉันขอนะ!!!!! ผมเร่งคันเร่งแล้วหักล้อนิดหน่อย
กริบ!!!
ตรงเป้าครับผม รถผมทับโทรศัพท์พอดิบพอดี จากนั้นผมก็ชิ่งหนีทันที หมั่นไส้มันจริงๆเลยขออย่าได้เจอกันอีกเลย สาธุ!!!!!!
#Molin#
สนามแข่ง J
ในที่สุดสนามก็เป็นของฉานนนนน บอกแล้วว่าเฮียเส้นใหญ่ เส้นกับใครก็ไม่ใหญ่เท่าเส้นน้องสาวเจ้าของสนามแล้ว ฮิฮิ ^++++^
ฉันคิดอย่างเริงร่าขณะซ้อมดิฟรถ แต่ตอนนี้ฉันชักเริ่มเวียนหัวและดิฟมันไปเป็นสิบรอบติดกันใครมันทนได้บอกฉันหน่อยดิ เมื่อเห็นว่าร่างกายเริ่มไม่ไหวแล้วฉันจึงเปลี่ยนไปเร่งเครื่องขับไปตามพื้นสนามที่มีโค้งหักซอกเยอะมาก ฉันเหยียบคันเร่งแทบมิดเมื่อถึงทางตรงที่ค่อนข้างจะโล่ง Aston Martin One77 แล่นไปด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ...ใช่ขามาฉันใช้ Porsche แต่ว่าฉันต้องลองรถคันนี้เพื่อจะใช้ลงสนามต่อไป บริษัทนำเข้ารถของยัยคุณหนูปอร์เช่สังเวยมาให้ จริงๆแล้วฉันหมายตาคันนี้มานานแล้วนะแต่ไม่มีโอกาสเพราะว่า Aston Martin รุ่นนี้ไม่ใช่มีเงินอย่างเดียวนะถึงจะซื้อได้ คุณจะต้องได้รับเชิญให้ไปซื้อด้วย!!! ตาสีตาสาอย่างฉันก็เลยจบชีวิตอย่างอนาถอดครอบครองไป แต่ยังไงฉันก็คงซื้อไม่ได้อยู่ดีเพราะว่าราคามันโคตรจะแพงเลยตั้งร้อยกว่าล้าน เห็นราคาแล้วฉันเป็นลมเลย แต่ก็เป็นบุญนะที่บริษัทยัยปอร์สามารถชกชิงมาได้ฉันเลยมีวาสนาได้ขับ แต่คราวนี้พ่อยัยปอร์กำชับฉันมาว่าห้ามมีแม้แต่รอยขีดข่วน ไม่งั้นจะปรับรอยละแสน!! คุณพระ!! พ่อจะขูดเลือดขูดเนื้อหนูไปไหนนน ถ้าฉันเป็นเจ้าของรถคันนี้นะฉันคงเก็บมันเข้าคลังสมบัติไม่เอาออดมาให้เห็นเดือนเห็นตะวันหรอกเลย
แถวๆที่พักนักแข่งฉันเห็นเงาเหมือนยัยจานัสมันนั่งอยู่ ดังนั้นพอใกล้จะถึงส่วนที่เชื่อมสนามกับที่เก็บรถสำหรับบนักแข่งที่เป็นทางโค้งหักซอกต่อด้วยทางตรง ฉันก็เลยเข้าโค้งด้วยความเร็วที่ไม่มากนักก่อนจะเร่งความเร็วขึ้นอีกนิด หักพวงมาลัย และเหยียบแบรก ผลสรุปออกมาเป็นที่สวยงาม ล้อหลังรถฉันไถลไปจนคันรถแปลี่ยนมาตั้งฉากกับแนวถนนก่อนฉันจะขับรถเข้าไปเก็บในอู่
“ฝีมือยังไม่ตกนี่แก” หลังจากที่ฉันทิ้งตัวนั่งบนโซฟาข้างๆยัยนัส มันก็เริ่มชมฉันทันที บ้า...ชมเค้าซะเขินเลย
“ถ้าฝีมือตกแล้วฉันจะเอาอะไรกินหล่ะจ๊ะแม่คูณณณ” ฉันลากเสียงยาน ก่อนจะหยิบแก้วไวน์ตรงหน้าขึ้นมาดื่ม
“ยังไม่ได้ชวนก็กระดกไปแล้วหนึ่งแก้ว เดี๋ยวได้เมาตายหรอก”
“ลืมอะไรไปรึเปล่าจ๊ะว่าฉันขอแข็งกว่าปูนซีเมนต์เสริมเหล็กอีกนะ” เห็นฉันอย่างนี้แต่คอแข็งใช่เล่นนะคะ ฉันหัดกินมาตั้งแต่เด็กเริ่มตั้งแต่ไวน์ไปถึงเหล้า (ตับแข็งตาย) ตอนพ่อกับแม่นั่งกินไวน์กันฉันก็จะไปเสนอหน้าขอกินด้วยทุกครั้ง พ่อแม่ฉันก็ดีเนอะให้ลูกกินด้วยแต่ฉันก็กินไม่บ่อยนะคะออกแนวจะนานๆทีด้วยซ้ำ
“จ๊ะแม่คนคอแข็ง” ยัยนัสเบ้ปากใส่ฉันมันจะรินไวน์ใส่แก้วฉันเพิ่มแล้วก็หยิบแก้วของฉันส่งมาให้ จริงๆแล้วยัยนัสก็ดื่มแอลกอฮอลด์ได้นะ แต่ไม่มากนักเพราะยัยนี่คออ่อนน่าดู
“ลินวันเสาร์ช่วงเย็นๆแกว่างป่าววะ”
“เหมือนจะไม่ว่างนะ เหมือนจะมีแข่งให่ยัยปอร์อะ พอดีมีรถตัวใหม่เข้ามา”
“อย่ามาโกหกหน่อยเลยฉันเช็คกับยัยปอร์มาแล้วว่าแกไม่มีแข่ง” เฮ้ย!ไอ้นี่มันน่ากลัวขึ้นทุกวัน ถึงขั้นเช็คตารางแข่งฉันเลยหรอเนี่ย วันเสาร์นี้มันต้องมีอะไรแน่ๆเลย
“อุ๊ยตาย! รู้ด้วย”ฉันร้องพร้อมกับเอามีทาบอก
“อย่าทำแบบนี้อีนะขอร้อง อุบาทมาก” ก็จริงของมัน ตอนนี้ฉันคงเหมือนกับกระเทยกระต่าย (ควายมันใหญ่ไป) ทำท่าแต๋วแตกอะ คิดผิดนะที่เกิดมาเป็นผู้หญิง
“ฉันว่าจะซ้อมรถอีกสักหน่อยอะ” ฉันตอบก่อนฉันกับจานัสจะกระดกไวน์ใส่ปากหมดไปหนึ่งแก้ว “มีอะไรรึไงฉันจะได้เคลียตารางซ้อมถูก”
“เดี๋ยวก็รู้เองนะแหละเอาเป็นว่าวันเสาร์แกทำตัวให้ว่างๆเอาไว้เป็นโอเค J ” เอ้าไอ้นี่นิ ทำให้คนอื่นเขาเสียเวลาทำมาหากินป่ะ
ร่างบางของยัยนัสเริ่มแดงระเรื่อขึ้นด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ อย่างงี้ไงทำอะไรไม่เคยดูสังขาลตัวเองรู้ว่าตัวเองกินไม่ค่อยได้แล้วยังกินอีก ถ้ามันเมาฉันขอบายคนแรกเพราะจะไม่มีใครเอามันอยู่ซักคนเดียว
ยัยนัสจะกระดกเหล้าก็ต่อเมื่อมันดีใจสุดฤทธิ์หรือไม่ก็เครียดเรื่องปัญหาครอบครัวแค่สองอย่างเท่านั้น ไม่อย่างนั้นมันมันมีวันแตะเหล้าเป็นอันขาด อีกอย่างที่มันเกลียดเข้าไส้คือ บุหรี่
ดูจากรูปการของวันนี้แล้วเหตุที่มันมากสาดไวน์ใส่ปากกับฉันในวันนี้ก็คงไม่พ้นเรื่องครอบครัวมันแน่ๆ พ่อแม่ของยัยจานัสแยกทางกันตั้งแต่มันยังเด็กๆพอโตจนสามารถดูแลตนเองได้แล้วจานัสกับจีซัสพี่ชายมันก็ขอแยกออกมาอยู่คอนโด เหตุที่ทำให้มันกับจีซัสห่างเหินจากครอบครัวพ่อเป็นอันมากคือไม่ถูกชะตากับแม่เลี้ยงอย่างแรง อย่าว่าแต่มันเลยขนาดฉันที่เป็นคนนอกเคยเห็นลักษณะของหล่อนแล้วฉันกรันตีได้เลยว่า เจ๊แกแรงจริงจัง!!
“นัสคืนนี้ขอสิงที่นี่นะ เหนื่อยว่ะขี้เกียจขับรถ” ฉันเอนตัวลงพิงโซฟาก่อนจะหลับตาเพื่อให้ร่างกายผ่อนคลายจากความตึงเครียดที่สะสมมาทั้งวัน
“นัส Porsche คันนั้นอะ แต่งให้ใหม่หน่อยได้ป่ะ แต่ไม่ต้องเพิ่มเรื่องยนต์นะ เปลี่ยนสี หรือไม่ก็แต่งใหม่ไปเลย เอาแบบที่จำของเดิมไม่ได้ยิ่งดี” ฉันบอกทั้งๆที่ยังคงหลับตาอยู่ Porsche ที่ฉันบอกก็คือคันที่ได้จากพนันครั้งล่าสุดระหว่างฉันกับไอ้บ้าไทค์นั่น
“เกลียดรถมันขนาดนั้นเลย”
“ฉันรู้ว่าแกก็ไม่อยากเห็นแม้กระทั่งรถของพวกมัน”
“ต้องการเร็วแค่ไหน” ฉันเด้งตัวขึ้นมาจากโซฟาก่อนจะหันไปสบตาคู่สวยของยัยนัส
“ยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี ฉันจะเอารถของมันไปท้าแข่งกับมันอีกครั้ง มันจะได้รู้ว่าถึงมันจะเอา Lamborghini มาแข่งกับฉัน แข่งถึงชาติหน้ามันก็ไม่มีวันชนะฉันหรอ!!”
ความคิดเห็น