ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คิดผิดนะฟิคนี้...ที่มีหนูเป็นลูกการิน!

    ลำดับตอนที่ #37 : :>>: บทที่ 34 :

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 367
      9
      21 ต.ค. 56

            ความเดิมตอนที่แล้ว >>>

            ฉันชักมือกลับเหมือนเสียหน้าอย่างบอกไม่ถูก เทียนหอมพยักหน้ารับก่อนที่เขาจะรุดตัวไปเข้าแถวต่อคิวซื้อของ ในขณะที่ฉันรู้สึกไม่พอใจอย่างบอกไม่ถูก
            ฮึ...ไม่อยากถูกเนื้อถูกตัวฉันรึไงยะตาบ้า ฉันไม่ใช่แบททีเรียนะเฟ้ย! โอ๊ยยยยย หงุดหงิดๆ! -_-*!
            ว่าแต่...เอ๊ะ ทำไมฉันจะต้องรู้สึกหงุดหงิดด้วยล่ะ งงๆ ตัวเองนะเนี่ยช่วงนี้ T^T!


    -------------------------------------------------------------------


    :>>: บทที่ 34 :<<:
    เหมือนจะน้อยใจ (มั้ง)



            ฉันได้แต่ยืนพิงกับราวเหล็กเพื่อรอเทียนหอมเพราะไม่มีที่นั่ง จนกระทั่งเทียนหอมเดินมาทางฉัน ในมือของเขาเต็มไปด้วยแก้วน้ำและแฮมเบอร์เกอร์ไก่ที่ถูกห่อไว้ด้วยกระดาษ ที่สำคัญ...
            “นี่นาย...ไปทำอีท่าไหนเนี่ย!!? เสื้อเปื้อนซอสไปหมดแล้ว! O_o!”
            พอฉันเห็นเทียนหอมเต็มๆ ตา ก็พบว่าซอสพริกสีส้มใส่อาหารได้เปื้อนเสื้อเขาจนเห็นเด่นชัด ฉันเดินไปหาเขาด้วยสีหน้าที่ตกอกตกใจไม่น้อย อย่าบอกนะว่า...เขาโดนกุมารทองแกล้งมาอีกแล้ว!?
            “พอดีว่าตอนที่ฉันใส่ซอสพริกคงจะไม่ระวังน่ะ เพราะทันทีที่ฉันเผลอ ซอสพริกก็เลยพุ่งกระฉูดมาหาฉันเฉยเลย ฉันว่าฉันก็ไม่ได้บีบแรงอะไรนะ -_-;”
            ในกรณีนี้ไม่ต้องถามแล้วแหละนะ กุมารทองแกล้งมาอีกแล้วชัวร์ๆ เลย -_-;
            “เทียนหอม...”
            ฉันเรียกชื่อเขาเสียงอ่อน โธ่เอ้ย... นี่เพราะพ่อให้กุมารทองมาแกล้งเทียนหอมจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย พ่อนะพ่อ! ตัวมาไม่ได้ก็เลยส่งกุมารทองมาแกล้งเขาแทนสินะ ฮึ่ยยยยย งานนี้พ่อได้กำไรไปเต็มๆ เลย น่าเกลียดที่สุด! >_<!
            “อ่ะนี่น้ำส้ม แล้วก็...แฮมเบอร์เกอร์ไก่ของเธอด้วย” เทียนหอมกุลีกุจอหยิบยื่นของมาให้ฉัน ในขณะที่ฉันก็ตัดสินใจพูดประโยคนี้ออกมา “ฉันว่า...เรารีบกลับบ้านกันเถอะ”
            “!!!”
            เขาถึงกับชะงักเหมือนสวิตซ์กดหยุดทำงาน นานหลายวินาทีที่เทียนหอมยืนนิ่งเหมือนจะตกใจ ก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นมาเพื่อมองหน้าฉันด้วยสายตาที่มีแต่คำถามว่า ‘ทำไม?’
            “วันนี้น่ะ นายโชคร้ายเพราะฉันมามากพอแล้วนะ ดังนั้นฉันก็เลยคิดว่านายควรจะ...”
            “กลับบ้าน? ไล่ฉันกลับบ้าน...เนี่ยนะ?”
            “ไม่ได้ไล่ แต่ในเมื่อนายเจอเรื่องซวยๆ แบบนี้แล้วยังอยากจะอยู่กับฉันต่อรึไง”
            ฉันพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง เทียนหอมกรอกตาขึ้นมองเพดานก่อนที่จะหยุดมาสบตาฉัน
            “นี่เธอคิดแบบนี้เองเหรอ?”
            “คิดอะไร = =!”
            “คิดว่าฉันอยู่กับเธอแล้วจะเจอแต่เรื่องแย่ๆ ...แบบนี้ใช่มะ? ^ ^” เทียนหอมยิ้มร่าเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไร หนำซ้ำเขายังแกะกระดาษห่อเพื่อกัดแฮมเบอร์เกอร์กินอีกด้วย
            “ก็ใช่น่ะสิ อ๊ะระวัง! O_O!”
            ฉันส่งเสียงร้องเมื่อเห็นแฮมเบอร์เกอร์ในมือเขาเริ่มยกสูง และดูท่าทางเทียนหอมจะไม่รู้เนื้อรู้ตัวว่าแฮมเบอร์เกอร์ไก่ของเขากำลังจะไป แปะหน้าเขาแล้ว! >_<! ฉันจึงรีบจับมือเทียนหอมก่อนที่ของกินจะไปแปะกับหน้าเขา และในจังหวะนั้นฉันก็เผลอเงยหน้ามองเขาด้วยแววตาที่เป็นห่วงสุดๆ
            “ถือไม่ระวังเลย!”
            “ฉันรู้สึกเหมือนมีคนจับมือฉันให้ยกสูงขึ้นด้วยแหะ หรืออุปาทานไปเองก็ไม่รู้ =_=;”
            ไม่ได้อุปาทานไปเองเฟ้ย! กุมารทองแกล้งนายอยู่ตั้งหากล่ะ!! >_<+!!!
            อ๊ะ จะว่าไปแล้วเทียนหอมก็มีสัมผัสที่ 6 ไม่ใช่เหรอ O_o แล้วทำไมเขาถึงไม่เห็นกุมารทองล่ะ?
            “นี่นายไม่เห็นวิญญาณเหรอวันนี้” ฉันจงใจถามเขาไปตรงๆ ในขณะที่เทียนหอมเคี้ยวแฮมเบอร์เกอร์อยู่ จนกระทั่งเขากลืนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาก็ถึงตอบกลับมา “เออ... ใช่ เป็นตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เพราะฉันไม่เห็นป้ากระสือกับพรายกระซิบมาหาเลย ปกติพวกเขาจะชอบมาอยู่เป็นเพื่อนฉันตอนกลางคืนนี่นา”
            “นายว่าอะไรนะ!? O_o!!!”
            “ฮ่าๆๆ อึ้งล่ะสิ ก็ช่วยไม่ได้นี่ที่ฉันเห็น แต่พวกเขาเป็นผีดีนะ ไม่ใช่ผีน่ากลัวอะไร”
            “ไม่ใช่! ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ฉันหมายถึงนายไม่เห็นพวกวิญญาณมาตั้งแต่เมื่อวานงั้นเหรอ? ตั้งแต่ช่วงไหนกัน?”
            “เอ่อ...ไม่รู้สิ น่าจะเป็นเพราะ...” เทียนหอมทำท่าครุ่นคิด แล้วกำลังจะเอาแฮมเบอร์เกอร์เข้าปากอีกรอบ แต่แล้วเขาก็ชะงักเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้ “อ๋อ รู้แล้วแหละ น่าจะตั้งแต่ตอนที่เธอเอาตุ๊กตารับเคราะห์มาให้ฉันล่ะมั้ง”
            เขาว่าจบ ก็ล้วงเอาตุ๊กตารับเคราะห์ที่พันด้วยสายสิญจน์มาให้ฉันดู ฉันถึงกังเบิกตาโพลงแล้วใจเต้นโครมครามทันที เพราะไม่นึกว่าเขาจะเอาติดตัวมาด้วยน่ะสิ! O/////O!
            แต่...เขาบอกว่าไม่เห็นเพราะมีตุ๊กตารับเคราะห์ตัวนี้อยู่สินะ!
            “งั้นก็ดีเลย...!”
            หมับ!!!
            “เฮ้ย! นี่เธอจะเอาไปไหนน่ะ!? O_O!!”
            ทันทีที่เทียนหอมเผลอ ฉันก็รีบคว้าตุ๊กตารับเคราะห์ของเขามาไว้กับตัวเอง ฉันแสะยิ้มให้แล้ววาดมือหมายจะให้เขามองอะไรบางอย่างที่เขาควรจะเห็น
            “ก็... ‘ลองดูให้ดีๆ สิ’ แล้วนายก็จะเจออะไรเจ๋งๆ เองแหละ ฮิๆ ฮิๆ”
            “เอ๋???”
            เทียนหอมทำหน้าสงสัย ก่อนที่เขาจะกวาดตามองบริเวณโดยรอบ แต่แล้วเขาก็ต้องชะงักเมื่อเห็นอะไรบางอย่างที่ฉันไม่เห็น แต่สายตาที่เทียนหอมมองมานั้นอยู่ตรงข้างๆ ฉันอย่างตกอกตกใจ ถ้าจะให้เดา...ตอนนี้กุมารทองคงจะมายืนอยู่ข้างๆ ฉันแล้วสินะ
            “นี่...นี่เธอ...! O_O!” เขาถึงกับชี้นิ้วมาข้างๆ ฉัน ฉันก็ได้แต่แสยะยิ้มให้ คงจะรู้สาเหตุที่ทำให้ตัวเองซวยแล้วสินะ หึๆ หึๆ “นายเห็นแล้วสินะ สิ่งที่ฉันไม่เห็นแต่นายเห็นน่ะ”
            “เธอ...เอาลูกใครมาเนี่ย!!? *O*!!!!”
            “หา!?! =_=!!!”
            “ไม่ทันได้สังเกตเลย สวัสดีจ้าหนู ลูกใครล่ะเรา?” เทียนหอมมานั่งยองๆ ตรงที่ๆ ว่างเปล่าข้างๆ ฉัน ในขณะที่ฉันแทบจะหงายหลังเงิบบบบบลงกับพื้นซะให้ได้
            คุณพระ! ฉันล่ะเชื่อเลยจริงๆ ว่าอีตานี้จะไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาคุยด้วยคือกุมารทอง T^T
            “...อะไรนะ? ทำไมถึงถามแปลกๆ แบบนั้นล่ะ ก็เห็นน่ะสิ ...เอ๊ะ? อย่าบอกนะว่าหนูไม่ใช่คน -_-;”
            โอ้วเย! ในที่สุดเขาก็รู้ตัวแล้วสินะ TOT ปลาบปลื้มมมม
            “เฮ้ย... นี่หนูเป็น..กุมารทองงั้นเหรอ =[ ]=’;!”
            อยากจะกราบหนูกุมารทองเบาๆ จริงจริ๊งงงงงง กว่าเทียนหอมจะรู้ก็เล่นกินเนื้อที่นิยายไปหลายบรรทัดเลยนะยะ (_ _)+ ฮึ่ยยยย ฉันล่ะอยากจะบ้า!
            “ใช่ ที่นายคุยอยู่คนเดียวแล้วคนอื่นเขาไม่เห็นด้วยนั่นแหละ ตัวโชคร้ายของนาย - -+”
            “!!!? เอ่อ...ลืมตัวไปเลยแหะ ฮะๆๆ” เทียนหอมถึงกับชะงักไปชั่วครู่ ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นยืนแล้วหัวเราะแห้งๆ ใส่ ก่อนที่เขาจะพูดต่ออย่างอารมณ์ดี “อย่าบอกนะว่ากุมารทองตนนี้พ่อเธอส่งมาขัดแข้งขัดขาฉัน?”
            “ฉลาดนี่ ฉันก็ว่าแล้วว่าทำไมพ่อฉันถึงยอมให้ฉันมากับนายง่ายๆ ที่แท้ก็มีอะไรในกอไผ่จริงๆ” ฉันลอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ ในขณะที่เทียนหอมกลับหัวเราะหึๆ แล้วก็บอกให้ฉันรู้
            “กุมารทองหายไปแล้วแหละ ที่แท้เหตุการณ์พวกนี้ก็เป็นเพราะกุมารทองตนนี้สินะ ^w^”
            “ก็ใช่น่ะสิ เจ็บตัวดีใช่ไหมล่ะ -_-!” ฉันพูดหน้าตาย ก่อนที่จะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองมีผ้าเช็ดหน้าติดตัวอยู่ก็เลยเอาออกมา พร้อมกับเทียนหอมที่ถามออกมาอย่างงงๆ “จะทำอะไรน่ะ?”
            “เรื่องของฉัน ก้มตัวหน่อย ผมนายยังเปียกๆ อยู่เลย ฉันจะเช็ดให้”
            ฉันบอกออกแนวคำสั่ง เทียนหอมดูจะเหมือนงงนิดๆ แต่ก็ยอมย่อตัวให้ฉันเช็ดปอยผมที่เปียกจากเหตุการณ์น้ำพุ่งใส่เมื่อครู่ จนกระทั่งฉันเช็ดจนผ้าเช็ดหน้าหมาดๆ และผมเขาดูท่าจะไม่มีหยาดน้ำแล้ว ฉันก็บอกด้วยสีหน้าที่เรียบๆ ต่อว่า...
            “อาจจะสกปรกนิดหน่อย แต่ผ้าเช็ดหน้าฉันหมาดเพราะผมนายแล้ว ฉันก็จะเอามาเช็ดซอสที่เสื้อนายให้ นายคงไม่ว่า?”
            “ฮะๆๆ จะว่าทำไมกันเล่ายัยอบเชย ปรนนิบัติฉันซะขนาดนี้ถ้าว่าฉันก็แย่แล้ว ^_^”
            “=///////=!!! พูดบ้าๆ!” ฉันแหวใส่เขาหน้าแดงจัด เพราะนึกขึ้นได้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นมันน่าอายขนาดไหน แต่ว่าที่เขามาเป็นแบบนี้ก็เป็นเพราะฉันเชียวนะ มันคงจะไม่เป็นไรหรอก (มั้ง) ที่ฉันต้องทำแบบนี้เพื่อเป็นการตอบแทนที่เขายอมอยู่กับฉัน จนกระทั่งฉันได้เช็ดคราบซอสพริกตรงเสื้อเขา จนเหลือให้เห็นเพียงแค่คราบบางๆ และน้ำที่เปียกชุ่ม จู่ๆ เทียนหอมก็คว้ามือข้างที่ถือผ้าเช็ดหน้าอยู่โดยที่ฉันไม่ทันได้ตั้งตัว ฉันถึงกับสะดุ้งเฮือกแล้วเงยหน้าสบตาเขาทันที
            “อ๊ะ! อะไรของนายน่ะ!!?”
            “พอเถอะ... ไม่ต้องทำให้ฉันแล้ว” จู่ๆ เทียนหอมก็พูดเสียงกระเส่าและแผ่วเบา ฉันถึงกับหน้าถอดสีเพราะฉันนึกว่าฉันต้องเผลอไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจฉันเป็น แน่
            “ทำไมล่ะ? ฉันทำแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ”
            “เปล่า ไม่ใช่...อย่าทำสายตาแบบนั้น” เขาหลบสายตาฉัน ในขณะที่ฉันรู้สึกเหมือนน้ำตาจะปริ่มๆ ออกมาแบบไม่รู้สาเหตุ ไม่รู้สินะ จู่ๆ พอเทียนหอมมาทำท่าทางแบบนี้ใส่ฉัน ฉันก็รู้สึกใจเสียระคนน้อยใจอย่างบอกไม่ถูก
            “ขะ..ขอโทษ...”
            ฟุ่บ!
            “โอ๊ย!”
            ฉันถึงกับกรีดร้องใบหน้าเหยเก เมื่อเทียนหอมก็ฉุดมือฉันให้เดินไปตามเขาอย่างว่องไว ฉันได้แต่เดิมตามเขาไปอย่างงงๆ แต่ก็พะว้าพะวงอยู่กับของกินที่เขาติดป้ายว่าห้ามเอาเข้าไปในโดมที่มีให้ เดินต่อไปจากจุดซื้ออาหาร กระทั่งเทียนหอมก็พาฉันออกจากพิพิธพันธ์สัตว์น้ำเป็นที่เรียบร้อย เขาก็ปลดล็อครถด้วยรีโมตคอนโทรล ก่อนที่จะคว้าของกินในมือฉัน แล้วเขาก็เดินไปสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมๆ กับเอาของกินเข้าไปไว้ในนั้น แล้วในที่สุดเขาก็เดินมาหาฉัน
            “บอกแล้วไงว่าอย่าทำสายตาแบบนั้น”
            “นี่นายพาฉันออกมาทำไมกันเนี่ย!? ยังไม่ทันจะบ่ายเลยนะ! O_O!”
            “บ้าเอ้ย... ฉัน..ฉันกำลังจะควบคุมตัวเองไม่ได้...”
            “นี่นายเป็นอะไรไป!? นายไม่สบายงั้นเหรอ?!?!” ฉันพุ่งตัวไปหาเขาแล้วถามด้วยสีหน้าที่เป็นห่วงสุดๆ เทียนหอมดูเหมือนจะไม่อยากให้ฉันเข้าไปใกล้ เขาก็เลยเบี่ยงตัวหลบฉัน
            “ฉัน..ฉันไม่เป็นไร แต่ว่าเธอน่ะอย่าเข้ามาใกล้ฉันตอนนี้เลย ถือซะว่ามันเป็นคำเตือนจากฉันก็แล้วกัน”
            เทียนหอมพูดกับฉันแบบไม่สบตา แต่เล่นเอาฉันรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังจะพังทลายต่อหน้า ...ความรู้สึกนี้มันอะไรกัน? ทำไมฉันรู้สึกปวดที่หัวใจแปลกๆ เวลาที่เขาทำท่าทีเหมือนจะเมินฉันแบบนี้ด้วย ไม่เข้าใจ...ไม่เข้าใจตัวเองเลยซักนิด
            “...เข้าใจแล้ว งั้นฉันจะไม่ยุ่งกับนายอีกแล้ว”
            ฉันรู้สึกว่าตัวเองเสียงสั่น และรู้สึกว่าตัวเองกำลังพยายามกลั้นน้ำตา ไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงต้องรู้สึกแย่แบบนี้ ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนฉันรำคาญเขาจะตายไป และที่สำคัญ...ทำไมฉันจะต้องรู้สึกเหมือนใจจะขาดแบบนี้ด้วยล่ะ?
            “นี่เธอ...ทำท่าเหมือนจะร้องไห้เลย” เทียนหอมคงจะจับได้ว่าเสียงฉันสั่น และสีหน้าฉันคงจะย่ำแย่เอามากๆ เขาถึงได้มาทักกับฉันแบบนี้ บ้าเอ้ย! ยัยน้ำอบ นี่เธอกำลังควบคุมอารมณ์เสียใจตัวเองไม่อยู่อย่างนั้นเหรอ?!
            “มะ..ไม่ใช่ซะหน่อย ฉันแค่แสบตาเพราะโดนแดดตั้งหากล่ะ”
            ฉันสะบัดหน้าหนี แล้วพยายามกระพริบตาถี่ๆ ไม่ให้น้ำตามันไหลออกมา
            “...เธอน้อยใจฉันเหรอ?”
            คำพูดของเทียนหอมเหมือนฟ้าผ่าเปรี้ยงมาที่กลางหัว ฉันถึงกับชะงักเหมือนเพิ่งจะเข้าใจอาการที่ตัวเองเป็นอยู่ ...บ้าน่า! ไม่จริงใช่ไหม!?
            “...”
            “แย่แล้ว... ฉันแย่แน่ๆ เลย เฮ้อ...” คำพูดชวนงงของเทียนหอมทำให้ฉันเหลียวมองเขา แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะหันมองเขาดีๆ ก็พบว่าเทียนหอมเดินเข้ามาสวมกอดฉันจนหน้าฝังอกกว้างๆ ของเขา หน้าฉันถึงกับร้อนฉ่าขึ้นมาอย่างว่องไว ความอุบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย และที่สำคัญ...ฉันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
            “ทะ..เทียนหอม...”
            “เธอผิดเองนะที่ทำให้ฉันรู้สึกแบบนี้” เขาพูดเสียงกระเส่าแล้วกระซิบที่ริมหูฉันอย่างแผ่วเบา ฉันถึงกับหน้าร้อนฉ่าขึ้นมามากกว่าเก่า และฉันก็พยายามที่จะขัดขืนเขาโดนการเอามือยันอกกว้างของเขาเอาไว้
            “อยะ..อย่า...”
            “ทำฉันใจสั่นก็ช่วยรับผิดชอบซะ...ยัยร้อยเล่ห์”
            เทียนหอมพูดเพียงเท่านั้น เขาก็จัดการแนบริมฝีปากอุ่นๆ มาประทับกับริมฝีปากฉันอย่างแผ่วเบา ฉันถึงกับเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ พอฉันขัดขืน เขาก็มอบรสหวานละมุนระคนร้อนแรงให้ฉันอย่างอ่อนโยน ฉันที่ขัดขืนได้ไม่นานก็ศิโรราบให้แก่เขา ยอมให้เทียนหอมตักตวงรสหวานไปให้พอใจ


    ::: ~~~ To be continues ~~~ :::
    -------------------------------------------------------------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×