ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดวงใจรัตติกาล sihan

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 3 ดวงชะตา แก้คำผิด

    • อัปเดตล่าสุด 25 มิ.ย. 54




    ฮันเกิงถูกวางลงที่เตียงกว้าง จ้าวซีวอนยอมรับว่าพลังวิญญาณของมนุษย์ผู้นี้นั้น  หอมหวานจน
    ไม่อาจจะทอดถอนได้  สายตาคมพิจารณาร่างบางที่นอนอยู่ตรงหน้า  ใบหน้าหวานสวยไม่ต่างจาก
    เทวีบนสวรรค์  ผิวขาวนวลละเอียดละออ ผมยาวประบ่าสีน้ำตาลเข้มนุ่มราวกับเส้นใยไหม 
     ริมฝีปากแดงที่ดูอิ่มเอิมและภายในโพรงปากนั้นก็หวานล่ำดุจดั่งน้ำผึ้งเดือนห้า 
    (( เฮ้อ...-///- บรรยายแบบนี้แล้วอยากจะกดป๋าจริง ๆ ))   แต่แล้วจ้าวปีศาจจึงส่ายศีรษะ
    เพื่อสลัดความคิดออกไป  แต่แล้วประตูก็เปิดออก
    พร้อมร่างหนึ่งที่เดินเข้ามา 

    "  มีอะไรให้ข้ารับใช้หรือครับ ท่านจ้าวปีศาจ  "  ร่างกำย่ำเหลือบมองไปยังเงาของบุคคลที่มายืนอยู่ด้านหลัง

    "  ข้าต้องการให้เจ้า ค่อยดูแลมนุษย์ผู้นี้ห้ามให้ใครเข้ามายุ่ง  หรือเคลื่อนไหวจนกว่าข้าจะสั่ง 
    ข้าต้องไปสะสางธุระของข้าให้เสร็จ 
    "

    " ขอรับ "

    บุคคลที่ยืนอยู่ด้านหลังโค้งน้อมรับคำสั่งองค์ผู้เป็นจ้าวเหนือปีศาจทั้งมวล  เมื่อจ้าวปีศาจซีวอน
    เห็นดังนั้นจึงเดินออกจากห้องไป 

      
    .
    ไม่นานหนักฮันเกิงก็ลืมตาขึ้น  ในหน้าที่ตอนแรกนั้นซีดเสียจนไม่เห็นเลือด ซึ่งจากการที่ได้พักผ่อน
    สีหน้าของเขาเริ่มกลับมาปรกติขึ้น แต่นั้นก็เพียงเล็กน้อย 

    "  ตื่นแล้วหรือเด็กน้อย  "  เสียงคำพูดที่ไม่คุ้นหูเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นฮันเกิงนั้นเริ่มที่จะได้สติแล้ว

    " คุณเป็นใคร แล้วฮันอยู่ที่ไหน  " 

    "  ที่นี้คือห้องของท่านซีวอน  ส่วนข้าเป็นผู้ดูแลเจ้า  เรียกข้าว่า ชางมิน  "   ชางมินเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ 
    ฮันเกิงพยักหน้าแล้วมองไปรอบ ๆ แต่ก็ต้องโล่งใจที่เขาไม่เห็นร่างที่เคยเจอก่อนหน้านั้น

    "  ท่านซีวอน ไม่อยู่หรอก เจ้าสบายใจเถอะ "

    "   ทำไมเจ้านายของคุณถึงได้โหดร้ายกับฮันนัก  แล้วไหนจะดูดวิญญาณของฮันอีก  "  พูดถึงเรื่องนี้ทำให้
    ฮันเกิงรู้สึกอดที่จะขวยเขินไม่ได้  จูบของเขาต้องเสียไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ

    " ท่านซีวอนไม่ได้โหดร้ายอย่างที่เจ้าคิดหรอก บางครั้งท่านก็เป็นคนมีน้ำใจเมตตา
    ต่อปีศาจทุกตนที่ท่านปกครอง  
    " 

    "  นิสัยแบบนั้นนี้นะ  "  ฮันเกิงเอ่ยย่างไม่เชื่อสาย แล้วเอ่ยถามชางมิน

    "  ขอถามหน่อยได้มั้ยครับ  ฮันอยากจะรู้ว่าลูกแก้วที่ฮันได้มามันสำคัญมากเลยเหรอครับ  "    ชางมินหันมา
    มองฮันเกิงไม่คิดว่าร่างที่อยู่ตรงหน้านี้จะถามถึงดวงแก้วประจำกายของท่านจ้าวปีศาจ

    " เจ้าอยากจะรู้ไปทำไม เด็กน้อย " คำพูดของชางมินทำให้ฮันเกิงถึงกับเสียวสันหลังวาบ หรือว่าเขาถาม
    ในสิ่งที่ไม่ควรถามเสียแล้ว 

    " มะ...ไม่เป็นไร ฮันไม่อยากรู้ก็ได้  "  แล้วเหตุการณ์ก็กลับมาเงียบเหมือนเดิมอีกครั้ง

     

      ในห้องโถงใหญ่  ซีวอนมองดวงแก้วเพลิงนิลกาฬ กลับคืนมายังที่เดิมของมัน  ดวงแก้วสีดำส่องสว่าง
    อยู่บนคทาด้ามสีทอง ในที่สุดคทาแห่งนิลกาฬก็สมบูรณ์  แต่แล้วก็มีร่างสูง รูปร่างสมส่วน
    เข้าเฝ้า
    จ้าวปีศาจอีกครั้ง

    "  ยุนโฮ  เจ้ามาก็ดีแล้ว ข้าต้องการที่จะไปยมโลก  "

    " ท่านจะไปยมโลกด้วยเหตุอันใดหรือขอรับ "  ยุนโฮเอ่ยถามเพราะว่าจ้าวปีศาจนั้นไม่ได้ไปเยือน
    ที่ยมโลก
    เป็นเวลาหลายพันปีแล้ว

    " ข้าจะไปพบพระเชษฐา ของข้าเสียหน่อยมันผิดด้วยหรือไง "

    " ไม่ผิดขอรับ แต่ไม่เห็นท่านไปที่แห่งนั้นนานแล้ว หลังจาก...  " 

    "  หลังจากที่ข้าตัดขาดจากดินแดนยมโลก ใช่หรือมั้ย  "  เมื่อจ้าวปีศาจเห็นอีกฝ่ายเว้นคำพูดจึงเอ่ยตอบ 
    ให้เต็มประโยคแทน

        ใช่ซีวอนตัดขาดดินแดนแห่งนั้นมานาน    หลังจากที่มาปกครองดินแดนปีศาจแห่งนี้  และช่วยให้
    พระเชษฐาของตน ขึ้นครองยมโลกเป็นพญามัจจุราชอยู่เหนือเหล่าคนตายและปีศาจทั้งปวง  เรื่องนี้สร้าง
    ความไม่พอใจให้กับยุนโฮ อยู่พอสมควร  เพราะยุนโฮคิดว่าท่านจ้าวปีศาจของตนนั้น 
    ควรที่จะขึ้นครองยมโลกมากกว่า  แทนที่จะเป็นพญามัจจุราชองค์ปัจจุบัน

     "แล้วท่านมีการอะไรให้ ให้ข้ารับใช้หรือขอรับ  "

    " หลังจากที่ข้าขึ้นไปยมโลก ข้าอยากให้เจ้าช่วยตรวจตาและดูแลความสงบที่ปราสาทแห่งนี้ 
    จนกว่าข้าจะกลับ 
    "  ยุนโฮน้อมรับคำสั่ง ว่าแล้วร่างของจ้าวแห่งปีศาจก็หายไปจากแท่นบังลังค์ 

    ณ ดินแดนยมโลกที่มืดมิด  ที่แห่งนี้ไม่ได้ต่างอะไรไปจากดินแดนแห่งของปีศาจเสียเท่าไร 
    แต่ที่ต่างกันก็คือ มีเสียงวิญญาณสัตว์นรกที่โหยหวนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด  ในขุมนรกแต่ละขุม 
    ตั้งแต่ชั้นที่หนึ่งถึงชั้นที่แปด
      และแล้วซีวอนก็เดินทางมาถึงหน้าท้องพระโรงบนบานประตูใหญ่นั้นเขียนว่า 
    โลกันตนรก และหน้าบานประตูนั้นีนายทวารสองตนเฝ้าอยู่ 


    "
      ข้าต้องการพบองค์มัจจุราช  "  ว่าแล้วนายทวารก็เปิดประตูออก  ภายในท้องพระโรงนั้นดูน่าสะพึงกลัว

    เสาทางเดินเต็มไปด้วยหัวกระโหลกผีและมีเหล่าภูตผีวิญญาณที่เพิ่งตายไปต่างรอเข้าแถวฟังคำพิพากษา
    ข้างแท่นบังลังก์มีนายสุวรรณคอยตรวจดูบัญชีรายชื่อมนุษย์กล่าวรายงานแก่ท่านพญามัจจุราช 

     "  อ้าว...น้องข้าไม่ได้เจอกันนานเลย  สบายดีหรือมั้ย  "   สุรเสียงเอ่ยถามร่างสูงที่ยืนอยู่หน้าบังลังก์ก้อง
    กังวาลทั่วท้องพระโรง 

    "  พระเจ้าค่ะ  กระหม่อมสบายดี  "  ซีวอนโค้งคำนับให้อีกฝ่าย 

    "  เจ้ามีอะไรถึงมาหาพี่ที่ยมโลกได้ล่ะ ไปคุยกันที่ห้องดีกว่า "   ว่าแล้วก็ลงจากแท่นบังลังก์เดินไปโอบ
    ไหล่พระอนุชาของตนเข้าที่ทำนับ
    เมื่อมาถึงห้องส่วนตัวซีวอนไม่รอช้าจึงเอ่ยทูลต่อหน้าพระเชษฐาทันที

    "   เจ้าพี่   หม่อมฉันมีเรื่องทูลขอ  "

     " ว่ามาสิ  "

    " หม่อนฉัน ได้จับมนุษย์นายหนึ่งได้และตอนนี้เขาอยู่ที่โลกปีศาจของหม่อมฉัน  หม่อมฉันจะอยากให้
    เจ้าพี่ประทานอนุญาตให้สวุรรณตรวจดูดวงชะตาให้หน่อย
    " องค์มัจจุราชจึงทรงประทานอนุญาต
    ให้สุวรรณ
    เข้าเฝ้า 

    "   ทรงมีอะไรให้กระหม่อนรับใช้  พระเจ้าค่ะ "

    "  สุวรรณ ข้าอยากให้เจ้าตรวจดูดวงชะตา นายมนุษย์ผู้หนึ่งให้ข้าหน่อย  "

    " พระเจ้าค่ะ แล้วมนุษย์ผู้นั้นนามว่า อะไรหรือพระเจ้าค่ะ "

    " ฮาน ฮันเกิง  เอาแบบละเอียดด้วยนะ "  จ้าวแห่งปีศาจเอ่ยกับสุวรรณ

    " ได้ ขอรับ  "  ว่าแล้วสุวรรณก็เขียนตรวจดูดวงชะตา  ที่เขาได้รับมอบหมายไม่นานก็ได้คำตอบ

    "  ฮาน ฮันเกิง เป็นหนุ่มชาวจีน  ต้องจากบ้านมาแดนไกล  ชีวิตไม่เคยที่จะทำผิดเลยเป็น
    ดวงวิญญาณบริสุทธิ์  เป็นคนมีน้ำใจและชอบช่วยเหลือผู้อื่น แต่...
    "  ทันใดนั้นสุวรรณก็หยุดคำพูดไว้
    จนซีวอนนั้น
    ต้องเอ่ยถามอีกครั้ง

    "  ก็อะไรล่ะสุวรรณ เจ้าจะเงียบทำไม ว่าต่อไปสิ " น้ำเสียงที่หงุดหงิด และสีหน้าที่เปลี่ยนไปนั้น
    ทำให้สุวรรณถึงกับตัวรีบไปเลยทีเดียว  ทำให้องค์มัจจุราชตรัสห้ามปรามอนุชาเป็นการใหญ่

    "  ใจเย็น ๆ น้องข้า  สุวรรณเจ้าก็รีบพูดมาเถอะ "

     "  เอ่อ...แต่ด้วยชะตาของมนุษย์ผู้นี้สั้นหนัก  เพราะว่าเขาอยู่ได้ เพียง 2 วันโลกของมนุษย์ ร่างนั้นก็จะ
    ตายสูญดับไปตามการเวลา  แต่ในตอนนี้มนุษย์ผู้นี้มิได้อยู่บนโลกมนุษย์ ทำให้วงล้อชีวิตหยุด
    ทำงานไม่สามารถเคลื่อนวงล้อได้ พระเจ้าค่ะ 
    "

    "  แสดงว่ามนุษย์ผู้นั้นต้องตายอย่างนั้นหรือ  " จ้าวแห่งปีศาจเอ่ยด้วยสีหน้าที่ดูเผือดลงเห็นน้อย
    ถ้าเป็นผู้อื่นนั้น คงจะสังเกตไม่ออก  แต่คงไม่รอดพ้นสายพระเนตรขององค์ผู้เป็นเชษฐาไปได้

    " น้องข้า เจ้าเป็นห่วงมนุษย์ผู้นั้นอย่างนั้นรึ   "  คำที่ตรัสออกมาจากองค์มัจจุราชทำให้จ้าวแห่งปีศาจ
    คืนสติในทันที

     "  หม่อนฉัน ไม่ได้เป็นห่วงเขา เจ้าพี่  "  คำพูดของผู้เป็นอนุชา ทำให้เจ้าแห่งยมโลกต้องแย้มสรวล
    กับท่าทีปากไม่ต้องกับใจของน้องชาย  

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ตอที่ 3 ตามมาติด ๆ ขอรับ  555 ท่าทางจะว่าจัด ต้องรีบว่างก่อนที่จะไปต้องเลี้ยงลูก เฮ้ย ! หลาน 
    อิอิอิ  ติดกันจนตอนนี้ไม่รู้ใครเป็นแม่มันไปเสียแล้ว  อิอิอิ  ใครที่ตาดี ๆ ยังช่วยดูคำผิดให้คนสายตาสั้น
    หน่อยก็ดีนะจร้า ถือเสียว่าทำบุญ  อิอิอิ  ^^ ++

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×