ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดวงใจรัตติกาล sihan

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 2 เหตุการณ์ในคุกใต้ดิน แก้คำผิด

    • อัปเดตล่าสุด 25 มิ.ย. 54




    ภายในปราสาทสีดำแห่งรัตติกาลที่แห่งนี้ไม่มีคำว่ากลางวันและกลางคืน ไม่รู้ว่าเวลานั้นเดินผ่านไป

    ช้านานเท่าใด   มีแต่ความมืดมิดยังโชคดีที่รอบบริเวณนั้นมีดวงไฟสีส้มอ่อนทอแสงเป็นประกายเรือง ๆ 

    ให้ดูสว่างขึ้นมา แต่ก็เพียงริบรี่ไม่ต่างจากแสงของหิ่งห้อย

     

         ภายในห้องโถงใหญ่ยังคงมีการประชุมเหล่าปีศาจ  ยังคงทกเถียงเกี่ยวกับการหายไปของดวงแก้ว
    แห่งเพลิงนิลกาฬดวงแก้วคู่กายของจ้าวแห่งปีศาจ  ทันใดนั้นเสียงบานประตูท้องโถงใหญ่ก็เปิดออกขึ้น
    อีกครา 
    ทำให้ผู้ที่นั่งอยู่บนบังลังก์แห่งปีศาจทั้งมวลนั้นเงยหน้าขึ้นมอง 


    "
      ยุนโฮ ข่าวเจ้าว่าอย่างไรบ้าง " จ้าวแห่งปีศาจเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าวและดุดันอีกเช่นเคย 

     " ข้าจับเจ้าหัวขโมยได้แล้วขอรับ ตอนนี้ร่างของมันยังคงอยู่ในคุกใต้ดินรอการไต่สวนจากท่านขอรับ "
    สีหน้าที่เรียบเฉยพิ่งพอใจในการทำงานของยุนโฮในครั้งนี้เป็นอย่างมาก  จึงลุกจากแท่นบังลังก์
    ลงไปยังคุกใต้ดินทันที 

          
           
    ฮันเกิงหลังจากที่สลบอยู่พักใหญ่จึงตื่นขึ้นมาอย่างช้า ๆ แต่ร่างกายของเขานั้นไม่สามารถขยับได้
    ตามที่ต้องการเหมือนร่างของเขานั้นชาไปทั้งซีก  เมื่อขยับร่างกายของเขานั้นก็ต้องถึงกับร้องเสียงหลง
    ด้วยความเจ็บปวด แต่เสียงของฮันเกิงนั้นกับเปล่งออกมาไม่ได้  ฮันเกิงจะพยายามที่จะมองออกไปรอบๆ
    ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน  แต่รอบตัวของฮันเกิงนั้นมีแต่ความมืดไร้ซึ่งผู้คน  แต่เมื่อเขามองไปข้างหน้า

    เขากับเห็นกรงเหล็กสีดำกั้นทางเอาไว้หรือว่าเขาอยู่ในห้องขังอย่างนั้นหรือ  ฮันเกิงไม่เข้าใจว่าเขาถูกจับใน
    ข้อหาความผิดเรื่องอะไร  แต่สภาพที่น่ากลัวแห่งนี้บวกกับร่างกายและเสียงที่ไม่สามารถเปล่งออกมาได้

    ก็ทำให้ฮันเกิงหวั่นใจอยู่ไม่มากก็น้อย

        

         
    ทันใดนั้นก็มีชายร่างกำย่ำดูท่าท่างมีอำนาจแฝงอยู่กับความน่ากลัว  ปรากฏกายด้วยเสื้อคลุมสีดำยาว
    ลากพื้นดวงตาสีนิลคมสัน ผมที่ยาวเลยบ่าลงมาถึงกลางหลัง  ใบหน้าที่ดูหล่อเหลาแต่ก็ดูดุดัน

    นิ่งราวกับคนไร้ซึ่งอารมณ์ทำให้ดูยากว่าคน ๆ นี้ต้องการอะไรจากฮันเกิงกันแน่  แต่แล้วฮันเกิงก็รู้สึก

    ถึงรังสีอำมหิต   ที่แผ่กระจายออกมาจากชายผู้นี้ ทำให้ฮันเกิงนั้นอยากจะถอยกรูดไปให้ห่าง

    แต่เขาก็ไม่สามารถทำได้  เพราะว่าร่างกายที่ไม่อาจจะขยับได้ 


    "
    เจ้าใช่หรือมั้ย ที่ขโมยดวงแก้วประจำกายของข้า  " จ้าวแห่งปีศาจเอ่ยน้ำเสียงที่ดุดันขึงขังขึ้น  

    แต่เมื่อร่างสูงเห็นร่างของฮันเกิงถูกมนต์สะกดจึงคลายมนต์ให้   ทำให้ร่างของฮันเกิงนั้นเริ่มที่จะขยับได้
    แต่ด้วยความที่ฮันเกิงนั้นเป็นมนุษย์ธรรมดาทำให้การกลับมาเป็นปรกตินั้นเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย

    " ที่..นี้ที่ไหนแล้วฮันมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง  "   ฮันเกิงเอ่ยมองไปยังสถานที่ ที่ไม่คุ้นตา 

    "  เจ้ามันกล้าดีจริงนะ เจ้าเด็กน้อย ถึงกับขโมยดวงแก้วแห่งเพลิงนิลกาฬ   ของข้าไป  "

    "  ฮันไม่ได้เอาไปนะ มีคนส่งมาให้ฮันตั้งหาก  "  ฮันเกิงเอ่ยขึ้น  ทำให้สีหน้าของจ้าวแห่งปีศาจนั้นเปลี่ยนไป 

    " ก็จริงอยู่ข้าคิดว่าคงไมใช่เจ้าเหรอ แต่ข้าแปลกใจว่าเจ้าได้ดวงแก้วเพลิงนิลกาฬ จากใครแล้วได้
    มาด้วยวิธีไหน เจ้าเด็กน้อย 
    "  ฝีเท้าของร่างสูงเดินเข้ามาใกล้ฮันเกิงมากขึ้นเรื่อย ๆ จนฮันเกิงนั้น
    ต้องก้าวถอยหลังไปอย่างอัตโมมัติ 


    "
      ฮันไม่แน่ใจ แต่มีชายชราคนหนึ่งเขารับบาดเจ็บ พร้อมกับพูดอะไรบางอย่างแล้วส่งของสิ่งนี้ให้ฮัน  "

    " ชายผู้นั้นพูดอะไรกับเจ้า  " จ้าวแห่งปีศาจผลักร่างของฮันเกิงจนไปชิดติดกับกำแพง  พร้อมกับขวางกั้น
    ทางออกด้วยการที่เอามือทั้งสองข้างนั้นยันไปที่กำแพง

    " เอ่อ...คือ...เขา...เขา  "

    "  ว่ามาสิ !  "  น้ำเสียงที่ดูราวกับหงุดหงิดกับอาการอ่ำอึ้งของอีกฝ่าย  ทำให้เสียงที่เปล่งออกมานั้น
    ไม่พอใจร่างที่อยู่ตรงหน้าเป็นอย่างมาก  ทำให้ฮันเกิงตัวรีบเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้จ้าวปีศาจนั้น
    หงุดหงิดมากขึ้นไปอีก 

    "  เด็กน้อย เจ้าจะยืนตัวสั่นแบบนี้ไปอีกนานมั้ย  "

    " แล้วทำไมคุณต้องดุฮันด้วยเล่า  พูดจาดี ๆ แบบคนที่เขามีมารยาทไม่เป็นเหรอ  " คำพูดของฮันเกิงนั้น
    ทำให้จ้าวปีศาจถึงกับอึ้งไม่ช่วงขณะ  เพราะไม่เคยมีปีศาจหรือมนุษย์หน้าไหนตะคอกหรือสั่งสอนเขามาก่อน
    แล้วเด็กคนนี้เป็นใครถึงกล้ามาขึ้นเสียงกับเขา 

    " เด็กน้อย เจ้ารู้ตัวหรือมั้ย ว่าเจ้ากำลังพูดอยู่กับใคร  " 

    " จะไปรู้ได้ยังไงเล่า  ก็คุณมันไม่ใช่ดาราดัง นิ  "  ฮันเกิงเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์  ทำให้จ้าวปีศาจที่
    ข่มอารมณ์โกรธอยู่นั้นถึงกับขาดสะบั้นลงทันที

    "  เจ้าอยากจะตาย เสียเดี๋ยวนี้ใช่หรือมั้ย  "   จ้าวปีศาจจับไปที่ไหล่ทั้งสองข้างของฮันเกิง บีบจนตัวของ

    ฮันเกิงนั้นลอยสูงอยู่เหนือพื้น  ฮันเกิงดิ้นรนอย่างเจ็บปวดเพราะแรงบีบของร่างสูงที่อยู่ตรงหน้า

    "  ฮันเจ็บนะ ก็ฮันพูดจริง ๆ นี้น่า ถ้าคุณไม่บอกชื่อแล้วฮันจะรู้จักคุณมั้ย แล้วที่นี้ที่ไหน  "

    "  ถ้าอย่างนั้นข้าจะบอกให้ก่อนที่เจ้าจะตายก็แล้วกัน  ข้าชื่อซีวอน เป็นจ้าวปีศาจแห่งรัตติกาลแห่งนี้ "

    ปีศาจ !!  คำพูดนี้ทำให้ฮันเกิงถึงกับตะลึง นี้เขาตายไปแล้วหรือยังไง  แล้วเขาเข้ามาที่นี้ได้ยังไง 
    เมื่อจ้าวซีวอนเห็นท่าทางของนายมนุษย์ที่จับมาได้นั้น   มีท่าทางตกตะลึงจึงกระตุกยิ้มมุมปากขึ้น
    พร้อมกับเอ่ยขึ้นเหมือนรู้ซึ่งถึงความคิดของชายหนุ่ม

    "  เจ้ายังไม่ตายหรอก เด็กน้อย  ที่นี้หาใช่ยมโลก " เมื่อฮันเกิงได้ยินดังนั้นจึงรู้สึกใจชื่นขึ้นมาบ้าง

    "  แต่อีกไม่นานหรอกเพราะว่าข้านั้นอยากกินเจ้า  เพื่อเพิ่มพลังของข้ามากกว่าเพราะวิญญาณมนุษย์

    มันจะช่วยเพิ่มพลังให้กับข้า    "   เมื่อฮันเกิงได้ยินดั่งนั้นทำให้สีหน้าของเขาถึงกับซีดเผือก

    "  อย่ากินวิญญาณของฮันเลยนะ ไม่อร่อยหรอกเดี๋ยวท้องเสียน๊า  "  แต่จ้าวปีศาจนั้นหาได้ฟังไม่

    เมื่อฮันเกิงเห็นดังนั้นจึงเอ่ยเสียงดังลั่นขึ้น 

     "  ถ้าท่านดูดวิญญาณของฮันล่ะก็  ฮันจะเตะผ่าหมากท่านให้แตกเลยคอยดูสิ  "  ฮันเกิงร้องไห้ไปเอ่ย

    ขึ้นถึงแม้ว่ามือทั้งสองข้างของเขานั้นจะใช้การไม่ได้เพราะถูกพันธการของร่างตรงหน้า 
    แต่ขาทั้งสองข้างของเขานั้นก็อยู่ในระดับที่ส่วนจุดยุทธศาสตร์พอดี  และไร้ซึ่งพันธนาการกั้นขวาง 
    แต่เมื่อฮันเกิงเห็นว่าจ้าวแห่งปีศาจจะกินวิญญาณของเขาให้ได้ 
     ชายหนุ่มถึงกับหลับตาปี๋นี้เขาต้อง
    มาตายจริง ๆ หรือเนี้ย แต่แล้วเขาก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างมากระทบที่ริมฝีปาก 
    เมื่อฮันเกิงลืมตาขึ้นจึงรู้ว่าร่างตรงหน้าเขานั้นกำลัง   จูบ
    !  จูบแรกของฮันเกิงที่ไม่เคยให้ใครมาก่อน 
    กับต้องมาเสียให้แก่คน ๆ นี้ ซ้ำร้ายยังเป็นชายเหมือนกันอีกด้วย  รสสัมผัสจูบที่วาบหวาม
    ทำให้ความคิดของฮันเกิงในตอนนี้แทบมลายสิ้น 


    เสียงครางประท้วงนั้น  ทำให้ร่างสูงนั้นถึงกับพอใจในพฤติกรรมของร่างบางตรงหน้าไม่น้อย

    ทำให้ริมฝีปากหนาถอนจูบที่หวานล่ำออกมาอย่างยากลำบาก  ซีวอนเผยริมฝีปากออกมาเพียงชั่วครู่

    เพื่อให้ร่างบางนั้นหายใจเพียงระยะเวลาสั้น ๆ  และก็ประกบริมฝีปากแดงได้รูปนั้นอีกครั้ง 


    "
      ขอบใจที่ให้พลังแกข้าเด็กน้อย มันชั่งหอมหวานยากที่จะลืมเสียจริง  "  จ้าวแห่งปีศาจเอ่ย
    ด้วยน้ำเสียงที่ขบขัน เผยให้เห็นรอยยิ้มที่ดูแล้วมีเสนท์น่าหลงใหลเป็นอย่างมาก 

    แต่ร่างกายของฮันเกิงในตอนนี้ไร้ซึ่งเรียวแรงจะประคองร่างให้ยืนต่อไปได้ ถ้าร่างที่อยู่
    ต้องหน้าไม่จับเขาตึงไว้แบบนี้  เขาคงลงไปกองอยู่กับพื้นเสียแล้ว 

    "  ตั้งแต่วันนี้ไปเจ้าต้องเป็นเหยื่อพลังให้แก่ข้า เด็กน้อย  "  ว่าแล้วซีวอนก็อุ้มร่างของฮันเกิงที่ตอนนี้
    ลมหายใจนั้นรวยรินแทบจะสิ้นชีวิต ในท่าที่ไม่ต่างจากหญิงสาวร่างบาง 


    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++
    ตอนที่  2 มาแล้วจร้า  เหอๆ ๆ ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดนะแต่รู้สึกตอนแรกนั้นไซร์คำผิดเยอะชิบเป๋ง = =
    ต้องเหนื่อยป้าวันมาช่วยแก้ให้อีกแร่ะ  อิอิอิ แต่ยังไม่ได้แก้เลย  555 ขอบคุนนะจร้าป้า  ม๊วฟ ม๊วฟ  555
    ตอนนี้ไม่รู้ว่าผิดเยอะมั้ยเนี้ย  ช่วย ๆ ซู่หน่อยนะจร้า   ^^ ++

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×