ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดวงใจรัตติกาล sihan

    ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 1 ของปริศนา แก้คำผิด

    • อัปเดตล่าสุด 25 มิ.ย. 54




    ท่ามกลางสายฝนที่หนาวเหน็บฮันเกิงรีบวิ่งฝ่าสายฝนไปยังมุมตึกอย่างรวดเร็วของอีกฝากหนึ่ง
    เพื่อทำการหลบฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก เสื้อทำงานของเขานั้นเปียกไปจนถึงครึ่งแผ่นหลัง 
    เขามองเอกสารในแฟ้มที่ถือมาเปียกไปหมดตัวหมึกบนกระดาษแทบจะจางรวมกันเป็นเนื้อเดียวจน
    มองไม่เห็นตัวหนังสือเสียแล้ว 

    "  เฮ้อ...จะให้ถึงห้องพักก่อนค่อยตกก็ไม่ได้ เอกสารสำคัญเสียหายหมดเลย  สงสัยคืนนี้คงไม่ได้นอนอีก
    แน่นอน ฮันเกิงเอ๋ย  "

    ฮันเกิงเป็นหนุ่มชาวจีนที่มาอาศัยอยู่โซล ประเทศเกาหลี ได้มาหลายปีแล้ว  ซึ่งฐานะทางบ้านที่ประเทศจีนของ
    เขานั้นก็ไม่ได้ร่ำรวยเงินทองอะไรมากนัก  จึงทำให้ฮันเกิงนั้นต้องประหยัดค่าใช่จ่ายในการดำรงชีวิตในแต่ละวัน  
    แถมต้องไปอยู่ห้องพักที่ถูกที่สุดของชานเมือง ทำให้เดินทางจากที่ทำงานจนถึงบ้านพักนั้นไกลออกไปเป็นกิโล

    ฮันเกิงต้องใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง  แล้วดันต้องมาซวยติดฝนอยู่ที่มุมตึกเปลี่ยวไร้ซึ่งผู้คนอีกซึ่งในเวลานี้
     ก็แทบจะไม่ค่อยมีผู้คนเดินผ่านไปมาแล้ว  ฮันเกิงนั่งรอฝนอยู่พักใหญ่เมื่อเห็นไม่เห็นท่าทีว่าฝนจะหยุดลงได้
    จึงเก็บสัมภาระพร้อมจะวิ่งตากฝนอีกครั้ง

    "  ดูท่าไม่หยุดแน่นอน  รีบวิ่งไปดีกว่า  "  แต่ยังไม่ทันทีฮันเกิงจะก้าวขาออกไป  ก็มีเสียงระเบิดดังลั่นเหมือนกับว่าแผ่นดินจะสะเทือนแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ  ทำให้ฮันเกิงนั้นเซล้มไปกองกับพื้นหมอกควันกระจายเต็มไปหมดตรงบริเวณที่ฮันเกิงอยู่   แต่เมื่อควันได้กระจายตัวเบาบางลงฮันเกิงจึงสังเกตเห็นอะไรบางอย่างที่นอนอยู่อีกฝากหนึ่งไม่ห่างจากตัวเขามานัก  เป็นร่างชายชรา ร่างหนึ่งสภาพไม่สู้ดีนัก   ฮันเกิงจึงรีบตัดสินใจเข้าไปดูพร้อมกับประคองร่างนั้นขึ้นวางบนตักของตน 

    " คุณลุงครับ  เป็นอะไรหรือเปล่า  "  ชายชราลืมตาขึ้นเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง  ฮันเกิงจึงนาบหูเข้าไปใกล้ ๆ
    เพื่อฟังเขาได้อย่างถนัดขึ้น

    "  มะ..มันกำ...ลังมา  เก็บสิ่งนี้ไว้  ซ่อนตัว...อย่าให้ใครเห็น...  " 

    "  ใครกำลังมาครับลุง... "    แต่...ยังไม่ทันที่ฮันเกิงพูดจบ  ร่างของชายชรานั้นก็ค่อย ๆ หายไปต่อหน้าต่อตา
    ของฮันเกิง
       เขาแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองร่างที่เขาประคองนั้นหายไปต่อหน้าต่อตาของเขา
    หรือว่าเขาโดนเข้าให้แล้ว  และแล้วสติของฮันเกิงก็วูบดับลง....

     

    "  คุณครับ  คุณ...  "  ฮันเกิงได้ยินเสียงอะไรบางอย่างจึงลืมตาด้วยท่าทางสะลึมสะลือ 
    จึงเห็น ร.ป.ภ  คนหนึ่ง
    มาเขย่าร่างของฮันเกิงให้ตื่นขึ้น  ฮันเกิงจึงค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งโดยที่มี ร.ป.ภช่วยพยุง
    พร้อมกับมองไปรอบ ๆ 

    "  เมื่อกี้คุณเห็นอะไรหรือป่าว  "  ฮันเกิงเอ่ยไปถาม ร.ป.ภ ที่ปลุกเขาให้ตื่นขึ้น 

    "  เห็นอะไรหรือครับ  ผมเดินออกมาจากตัวอาคารเพราะเห็นว่าฝนมันหยุดตกแล้วแล้วพอลงมาผม
    ก็เห็นคุณมานอนสลบอยู่ตรงนี้ แล้วคุณพักอยู่ที่ไหนล่ะครับ .
    "

    ฮันเกิงนิ่งไม่ได้เอ่ยอะไรแสดงว่าเมื่อกี้นี้เขาคงฝันไปสินะ   ชายชราที่หายไปต่อหน้าเขา 
    แล้วของที่เขาหยิบยื่นให้  กับคำพูดแปลก ๆ นั้นอีก 

    "  ไม่มีอะไรครับ ชั่งมันเถอะผมคงต้องกลับบ้านแล้วล่ะ  "  ว่าแล้วฮันเกิงก็เอ่ยขอบคุณ
    ที่ช่วยเหลือเขาก่อนที่จะเดินออกมาจากมุมตึกแห่งนั้น



         1 ชั่วโมงต่อมาฮันเกิงกลับมาถึงหอพักด้วยความเหนื่อยอ่อน พร้อมกับวางสัมภาระลงบนโซฟา
    ในห้องอย่างไม่ใยดี
    ทำให้ถุงพลาติกใบหนึ่งหล่นลงพื้น  ของในถุงนั้นกระจายหล่นลงมาหมด 

    " โอ๊ย !! เหนื่อยนะโว๊ยยยย  แม่ง !!  "  แต่แล้วสายตาของฮันเกิงก็ไปสะดุดกับถุงผ้าสีดำสนิทถุงหนึ่ง 
    ทำให้ฮันเกิงต้องก้มลงไปเก็บ 

    "  เอ๊ะ...ถุงผ้านี้เราไปเอามาตั้งแต่เมื่อไรหว่า  "  ฮันเกิงพิจารณาถุงผ้าพร้อมกับของอะไรบางอย่างที่อยู่ในนั้น 
    ฮันเกิงจึงค่อย ๆ แกะห่อถุงนั้นออก สิ่งที่อยู่ในนั้นคือลูกแก้วขนาดเท่ากับฝ่ามือของฮันเกิงสีดำ
    เหมือนเพลิงนิล
    แต่ทันใดนั้นลูกแก้วก็ทอแสงส่องประกายสว่างทั่วบริเวณห้อง

     

         ลึกลงใต้โลกซึ่งเป็นดินแดนอันมืดมิด  ไร้ซึ่งแสงสุริยาพาดผ่าน  ในดินแดนแห่งนี้เป็นที่อยู่ของ
    เหล่าปีศาจ
    และภายใต้ต้นไม้ที่เป็นพงหนามนั้นหากสังเกตจะมีอุโมงค์ช่องทางที่นำไปยังปราสาทสีดำทมิฬ
    ตั้งตะหง่านสูงอยู่เหนือพื้นประมาณ 2-3 ฟุตเห็นจะได้  
    ในประสาทมีเสียงฝีเท้าของปีศาจตนหนึ่ง
    เดินอย่างรวดเร็วไปที่ห้องโถงใหญ่นั้น  ภายในนั้นมีปีศาจมากมายหลายตนยืนอยู่หน้าบังลังก์ที่
    ตั้งตะหง่านและบนบังลังก์นั้นมีจ้าวแห่งปีศาจประทับอยู่ 

    " ยุนโฮ เจ้ารู้ตัวใช่มั้ยที่ข้าเรียกเจ้ามาพบด้วยเรื่องอะไร  "  จ้าวแห่งปีศาจเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดัน และแฝง
    ไปด้วยอำนาจ

    " ขอรับ"

    " ข้ารู้สึกถึงพลังดวงแก้วของข้าที่ถูกขโมยไป  ข้าต้องการให้เจ้าไปนำดวงแก้วกลับมาให้ข้า
    พร้อมกับคนที่ขโมยมัน 
    ข้าจะลงโทษมันให้สาสม  "  

    "  รับทราบ ขอรับ  "  ว่าแล้วยุนโฮก็โค้งคำนับอีกฝ่ายก่อนร่างสูงจะเดินออกไป


       ภายในห้องของฮันเกิง  ฮันเกิงกำลังตะลึงกับเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้น   แสงที่เปล่งออกมาจาก
    ลูกแก้วปริศนาที่อยู่ในถุงของเขา แล้วมันมาจากไหนกันล่ะเนี้ย  แต่แล้วฮันเกิงก็นึกถึงเหตุการณ์
    ฝนตกและชายชราที่หายไปต่อหน้า  พร้อมกับยื่นของสิ่งหนึ่งให้เขา

    "  นี้มัน...อะไรเนี้ย  "  แต่แล้วความมืดมิดก็ปกคลุมท้องฟ้าจนมืดสนิท   ลมพายุพัดมาปะทะหน้าต่าง
    ที่เปิดอยู่สั่นเครือ

     ทำให้ฮันเกิงนั้นลุกขึ้นจะไปที่หน้าต่างเพื่อจะปิดมัน  แต่ทันใดนั้นก็มีชายหนุ่มใส่เสื้อกล้ามหนังดำ
    กับกางเกงหนังสีดำเช่นกัน  ยืนอยู่ริมหน้าต่างที่ฮันเกิงกำลังจะเอื้อมมือไปปิด แต่แล้วเมื่อฮันเกิงเห็น
    ร่างสูงที่ยืนอยู่นั้นทำให้ฮันเกิงต้องถอยตัวเองออกมาอย่าง
    อัตโนมัติ

    " เจ้ามนุษย์ จงนำดวงแก้วคืนแก่ข้าเดี๋ยวนี้ "

    "  คุณพูดเรื่องอะไรของคุณ  "  ฮันเกิงเอ่ยอย่างไม่พอใจที่มีชายแปลกหน้าปีนขึ้นมาบนหน้าต่าง
    บนหน้าต่าง 
    !!  เฮ้ย !! นี้มันชั้น 10 นะเฟ้ย แล้วมันขึ้นมาได้ยังไงวะ 

    "  นี้มันชั้น 10 นะคุณแล้วยืนไม่กลัว...  "   แต่ยังไม่ทันทีฮันเกิงพูดจบ  ยุนโฮก็ลงมาจากริมขอบ
    หน้าต่าง  มายังห้องของชายหนุ่ม 

    "  นี้คุณกำลังบุกรุก ที่ส่วนตัวของผมนะ  "  ฮันเกิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เริ่มสั่นเล็กน้อย  เมื่อเห็นอีกฝ่ายยัง
    คงเดินเข้ามาใกล้ 

    "  เจ้าเอาดวงแก้วไปไว้ที่ไหน  "   แต่ยุนโฮมิได้ฟังคำตอบของอีกฝ่าย เขาร่ายมนต์ตราบ้างอย่างใส่ไปที่ฮันเกิง
    จนร่างบางนั้นรู้สึกตัวของเขาเริ่มชาและหนังอึ้งขึ้นเรื่อย ๆ  ในที่สุด
    สติสัมปชัญะของฮันเกิงก็ดับวูบลง
    อีกครั้งอย่างง่ายดาย 

    ++++++++++++++++++++++++++++

    ตอนแรกฝากหน่อยนะ จำรหัสไม่ได้เลยต้องเปลี่ยนใหม่หมด 555



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×