ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดวงใจรัตติกาล sihan

    ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 7 บุคคลผู้มีใบหน้าเหมือนกัน

    • อัปเดตล่าสุด 5 ส.ค. 54



    หลังจากที่กลับมาจากการเยือนตรวจตามแคว้นต่าง ๆ  ในที่สุดทุกอย่างก็กลับมาเป็นปรกติอีกครั้ง          
    ฮันเกิงก็กลับมาอยู่ในห้องสีเหลี่ยมกว้าง ๆ  อยู่เช่นเคย  เพราะว่าจ้าวปีศาจนั้นตั้งแต่กลับมาจาก          
    การตรวจแคว้น ทั้งวันก็เอาแต่วุ่นยุ่งอยู่แต่กับงาน 
    และการประชุมของสภาปีศาจทุกวี่วัน                                                            

    "  เฮ้อ...เบื่อง่ะ  อยากกลับบ้านง่ะ  "  ฮันเกิงก็เอาแต่บ่นอยู่อย่างนั้น จนชางมินที่มองดูเขาอยู่นานก็
    ต้องเอ่ยขึ้น 

    " นี้...วัน ๆ เจ้าจะไม่พูดคำอื่นบ้างหรือไง ฮันเกิง  "  ฮันเกิงยังคงทำหน้าเบื่อหน่ายชีวิต  แล้วหันมามองชางมิน 
    ที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โฟซาตัวใหญ่สีดำ 

    "  ก็มันเบื่อจริง ๆ นี้น่า  เมื่อไรคุณซีวอนจะให้ฮันกลับบ้านเสียทีล่ะ "   ฮันเกิงยอมรับว่าตอนนี้เขาคิดถึง
    พ่อและแม่ของเขาเหลือเกิน  อยากกลับขึ้นไปบนโลกมนุษย์เร็ว ๆ จัง  หรือว่าเขานั้นเบื่อที่จะอยู่โลกปีศาจ
    ที่ไร้ซึ่งมนุษย์แบบเขาอยู่แล้วอย่างนั้นหรือ 

    "  เมื่อถึงเวลาสมควร  ท่านจ้าวปีศาจก็จะพาเจ้ากลับเองนั้นแหละ   "  ชางมินก็ได้แต่เอ่ยกับคำตอบเดิม ๆ
    กับคำถามเดิม ๆ   และแน่นอนฮันเกิงนั้นก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยถามกับท่านจ้าวปีศาจโดยตรงเช่นกัน 
    เพราะว่าภารกิจที่ต้องทำแต่ละวันนั้นก็มากมายเสียจนไม่มีเวลา  แถมสีหน้านั้นก็เหนื่อยกับงานที่ต้องทำ 
    และนี้ก็เป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้ฮันเกิงไม่กล้าที่เอ่ยถามแล้ว 

      แต่แล้วฮันเกิงก็ได้ยินเสียงดังอึกทึก ครึกโครมมาจากด้านนอกปราสาท  เสียงแตรเป่าดัง
    พร้อมกองทัพขบวนปีศาจเดินหน้ามายังปราสาทรัตติกาลหลายร้อยนาย  ฮันเกิงรู้สึกตื่นตา
    กับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า  และแน่นอนชางมินนั้นก็ยืนดูกับเขาด้วย  แต่แล้วฮันเกิงก็ไปสะดุดตาบุคคลหนึ่ง
    ที่นั่งอยู่บนเกี๊ยวราชรถ 

    "  ชางมิน  ผู้หญิงคนนั้นคือใคร  "

    " คนไหน  "  ชางมินหันไปถาม

    "  ก็คนที่นั่งอยู่บนราชรถ ตรงกลางขบวนนั้นไง  สวยมากเลยนะ "  ว่าแล้วชางมินก็มองไปยังเกี๊ยวราชรถ 

    "  นั้นคือบุตรของเจ้าเมืองแคว้นที่สิบสาม มีนามว่า ฮีชอล  อีกอย่างบุคคลที่เจ้าเห็นนั้น คือ

     บุรุษหาใช่สตรี    "   เมื่อฮันเกิงรู้ว่าบุคคลที่อยู่บนเกี๊ยวขบวนนั้นเป็นผู้ชาย ก็ถึงกับอึ้งทันที 
    เป็นไปได้อย่างนั้นหรือ ทั้ง ๆ ที่ออกจะสวยเหมือนนางฟ้าขนาดนั้น  ขนาดผู้หญิงบางคนนั้นยังหา
    ที่เปรียบมิได้เลย 

     "  แต่นั้น  จะทำให้เจ้าเข้าใจผิดก็ไม่ใช่เลยแปลกอย่างไรหรอก  เพราะตอนที่ข้าเจอเขาครั้งแรกข้ายัง
    นึกว่าเขาเป็นสตรีเลย  แต่...นี้มิใช่เวลาที่แคว้นที่สิบสามจะส่งเครื่องบรรณาการนี้น่า  แล้วแคว้นที่สิบสาม
    มีเรื่องอะไรถึงได้มาเข้าเฝ้าท่านจ้าวปีศาจนะ  
    "  ชางมินเอ่ยอย่างใช้ความคิด  ส่วนฮันเกิงก็ได้แต่นั่ง
    มองหน้าบุคคลที่มาใหม่อย่างไม่วางตา 

    ภายในท้องพระโรงขบวนแคว้นที่สิบสามได้ต่างมาเข้าเฝ้าจ้าวปีศาจ  ฮีชอลชายหนุ่มผู้มีใบหน้าเหมือนสตรี
    ได้มีโอกาสได้เข้าเฝ้าจ้าวซีวอนครั้งแรก  ในครั้งแรกที่ได้เห็นก็ถึงขนาดทำให้ฮีชอลนั้นแทบจะลืมที่จะ
    หายใจใบหน้าที่หล่อเหลาร่างกายที่กำย่ำแทบ  ทำให้บุคคลที่พบเห็นนั้นแทบจะละลายได้ สายตาที่ดุดันดู
    แล้วชั่งเป็นคนที่ดูตรงไปตรงมา และเที่ยงธรรม  ฮีชอลตกหลุมรักจ้าวปีศาจตั้งแต่แรกเห็นเสียแล้ว      
    บังลังก์องค์รานีที่จะอยู่เคียงข้างพระองค์นั้นก็ยังคงว่างเปล่า  มันชั่งเมาะสมเหลือเกินที่เขาจะไปนั่งอยู่
    บนบังลังก์เคียงข้างพระองค์

       "  ข้าน้อยมีนามว่า  ฮีชอลขอรับ ท่านจ้าวปีศาจ เป็นบุตรชายของท่านเจ้าเมืองแคว้นที่สิบสาม 
    การที่ข้ามาที่นี้นั้น ก็เพื่อที่จะขอประทานอภัยเรื่องการที่ท่านพ่อของข้านั้นละเลย  หน้าที่ต่อบ้านเมืองจึง
    ขอให้ท่านจ้าวปีศาจโปรดอภัยด้วย 
    "   ซีวอนมองผู้สนทนาด้วยสีหน้าที่ไม่แสดงอาการแต่อย่างใด
    บุตรชายท่านเจ้าเมืองที่สิบสาม มาถึงที่ปราสาทรัตติกาลแห่งนี้ ต้องการอะไรกันแน่  จ้าวซีวอนก็มิอาจที่
    จะล่วงรู้ได้  แต่ที่แน่ ๆ คงมิได้มาเพื่อขออภัยโทษพ่อของตัวเองอย่างเดียวเป็นแน่

    "  เรื่องนั้นข้าไม่ใส่ใจหรอก  แต่ห้ามมีคราวหลังไม่อย่างนั้นข้าจะไม่ให้อภัย  "

    " ขอบพระทัย ที่เมตตาขอรับท่านจ้าวปีศาจ  "  สายตาของฮีชอลมองมายังร่างของจ้าวซีวอน 
    ด้วยสีหน้าที่หยาดเยิ้ม ถ้าเป็บบุรุษอื่นคงจะคล้อย
    ตามสายตาหวานนั้น แต่วิธีนี้ใช่ไม่ได้กับจ้าวปีศาจผู้นี้ 

    "  เจ้ามีเพียงแค่นี้ใช่หรือไม่  ถ้าใช่ก็จงกลับไปเสียเทอญเพราะว่าข้ามีงานที่จะต้องสะสางอีกมาก  "

    " เอ่อ...  "  คำพูดที่เย็นชานั้น ทำให้ฮีชอลพูดไม่ออกเลยที่เดียว น้ำเสียงที่เย็นชาแม้แต่หน้าก็แทบจะ
    ไม่มองเขาเสียด้วยซ้ำ  บุคคลนี้อยู่ตรงหน้านี้เป็นรูปปั้นหรืออย่างไรกันนะ  ถึงจะไม่ใส่ใจก็น่าจะ
    มองบรรยากาศรอบนอกเสียบ้างว่ามันอันตรายขนาดไหน 

     "  เอ่อ...แคว้นของข้าอยู่ถึงชายแดนสุดของเมืองปีศาจ  ถ้าท่านจ้าวปีศาจจะกรุณาเมตตาอีกสักครั้ง
    ขอให้ข้าและบริวารของข้า พักอยู่ที่นี้สักคืนได้หรือไม่  ขอรับ 
     " 

    สีหน้าของซีวอนชั่งใจเล็กน้อย เพราะว่าปราสาทรัตติกาลของเขามิเคยรับบุคคลภายนอกเข้าปราสาทมาก่อน 
    ยุนโฮจึงเอ่ยขึ้นว่า 

    "  ท่านจ้าวปีศาจ  บรรยากาศบริเวณรอบนอกตอนนี้กำลังจะมีพายุมา ขอรับ "  จ้าวซีวอนจึงหลับตา
    แน่นเพียงครู่แล้วเอ่ยว่า 

    "  ก็ได้ ข้าให้เจ้าพักที่นี้ แต่...เพียงคืนเดียวเท่านั้นห้ามมากไปกว่านี้  "

    "  คืนเดียวก็เมตตาพวกข้ายิ่งแล้ว ขอรับ  "   ฮีชอลโค้งคำนับให้จ้าวปีศาจอย่างสุภาพก่อนที่จะ
    มีทหารนำทางไปยังห้องพักของปราสาท 

     เมื่อซีวอนเสร็จจากงานต่าง ๆ จึงเดินไปยังห้องที่ใจของเขานั้นร่ำร้องมาตลอดเวลาไม่รู้ว่าคน ๆ นั้น
    จะเหงาบ้างรึปล่า  และแล้วจ้าวซีวอนก็เดินมายังหน้าห้องของฮันเกิง  พร้อมกับเปิดประตูเข้าไป 

    แต่เมื่อเปิดประตูออกจ้าวซีวอนก็ต้องตะลึงกับภาพที่อยู่ตรงหน้า  แผ่นหลังเนียนขาวสะโพกกลมมนตอน
    นี้ฮันเกิงเปลือยผ้าไร้ซึ่งอาภรณ์ทั้งเรือนร่างประจักษ์อยู่ตรงหน้าของเขาเป็นที่เรียบร้อย  ฮันเกิงเมื่อเห็น
    จ้าวซีวอนถือวิสาสะเข้ามาในห้องอย่างไม่ให้ซุ่มให้เสียง  แถมมองเห็นเขาในสภาพแบบนี้

    " เฮ้ย ! เข้ามาทำไมออกไปนะ "  ฮันเกิงตะโกนไล่สุดเสียงด้วยสีหน้าที่แดงระเรื่อ  ทำให้คนร่างสูง
    ต้องออกไปข้างนอกด้วยสีหน้าที่ทำอะไรไม่ถูก 

      หลังจากนั้น 5 นาทีต่อมา  ฮันเกิงเปิดประตูห้องออกมาแต่สีหน้าของเขานั้นก็ยังคงแดงไม่เปลี่ยนแปลง

    " คุณซีวอนมีธุระอะไรกับฮัน เหรอครับ  "   จ้าวซีวอนก็ยังคงอ่ำอึ้งเอ่ยด้วยท่าทางตะะกุกตะกัก 
    ชางมินเพิ่งเคยเห็นพฤติกรรมของเจ้านายตนเองแบบนี้เป็นครั้งแรก ทำให้ชางมินนั้นอดที่จะยิ้มกริ่มไม่ได้ 

    "  ทั้งสองคงอยากจะอยู่กันตามลำพัง ยังไงข้าขอตัวก่อนนะ ขอรับ  "  ชางมินเอ่ยก่อนที่จะหลีกตัวออกมา

    ตอนนี้จ้าวซีวอนและฮันเกิงจึงอยู่กันเพียงลำพัง

    " เข้ามาก่อนสิ ครับ  "  ฮันเกิงเริ่มเป็นฝ่ายเอ่ยก่อน ซีวอนจึงเดินเข้าไปในห้อง 

    " ตอนนี้เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง เหงาบ้างมั้ย  "

     "  ไม่ครับ เพราะชางมินก็อยู่เป็นเพื่อนและพูดคุยกับฮันบ้าง แต่เบื่อมากกว่า  คึดถึงคุณพ่อคุณแม่
    และน้องชายด้วย 
    "  ฮันเกิงพูดเกริ่น ๆ ออกมาเพื่อให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาอยากขึ้นไปอยู่บนโลกมนุษย์บ้างแล้ว 
    แต่อีกฝ่ายก็ยังคงนิ่งเฉยไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา ก่อนที่จะเปลี่ยนเรื่องพูด

    "  จริงสิ เด็กน้อย  เจ้าจำตอนที่เราไปแคว้นที่หนึ่งได้หรือมั้ย ตอนนี้ท่านเจ้าเมืองเขาได้ส่งผลไม้ของชอบมา
    ให้เจ้าด้วย อยากจะทานมั้ย 
    "  เมื่อพูดถึงของกินฮันเกิงก็ถึงกับลืมสิ้นเสียทุกสิ่ง  อยากจะทานผลไม้ลูก
    สีแดงเพลิงที่เจ้าเมืองที่หนึ่งเอามาให้เสียจน จ้าวซีวอนต้องยิ้มออกมาอย่างน่าเอ็นดู 

    "  ถ้าอย่างนั้นข้าจะให้ชางมินเตรียมผลไม้มาให้เจ้า ตอนทานอาหารเช้าดีมั้ย  เพราะข้าก็อยากจะ
    ทานอาหารเช้ากับเจ้าด้วย   
    "  จ้าวซีวอนเอ่ยด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม

    "  ดีจังที่คุณซีวอนมาทานเป็นเพื่อน  จริง ๆ แล้วฮันอยากทานข้าวรวมโต๊ะกับคุณซีวอนมานานแล้ว
    แต่ไม่กล้าพูด เพราะฮันเห็นคุณเหนื่อยกับงานมาทั้งวันเลยไม่อยากกวน   
    "  ฮันเกิงยิ้มกว้าง ในสายตา
    ของจ้าวซีวอน เข้ารู้สึกว่าคนตรงหน้านั้นน่ารักจนไม่มีคำบบรรยายเลย อยากจะจับกดลงเตียงให้รู้แล้วรู้รอดไป
    แต่เขาก็ไม่สามารถทำได้เพราะเหตุการณ์ในถ้ำตอนนั้น ถ้าเขาไม่ใจร้อนทำให้คนตรงหน้าร้องไห้
    จ้าวซีวอนจึงถือคำสัตย์กับตัวเองว่าถ้าเด็กน้อยผู้นี้ไม่ยอม เขาจะไม่เตะต้องหรือทำให้เสียใจด้วยน้ำมือ
    ของตนเป็นอันขาด 

    "  อย่างนั้นเหรอ  ถ้าอย่างนั้นข้าจะมากินข้าวกับเจ้าทุกวันเลยก็แล้วกัน  "  ฮันเกิงยิ้มพยักหน้าอย่างดีใจ 

    การสนทนาก็ยังคงดำเนินไปเรื่อย ๆ ในที่สุดจ้าวซีวอนจึงปล่อยให้ฮันเกิงได้พักผ่อน 

    และแล้วก็มาถึงห้องสีนิลกาฬ จ้าวซีวอนนั่งลงบนเก้าอี้โซฟาสีดำสนิท  พลางถอนหายใจอย่างคิดหนัก 

    " ข้าจะทำอย่างไรดี เด็กน้อย เจ้าคงอยากจะขึ้นไปบนโลกมนุษย์  เขาคงจะเริ่มคิดถึงครอบครัวของเขาที่นั้น

    แต่...ข้าไม่อยากให้เขา...ข้าจะทำอย่างไรดี  "

    "  ก็ให้เขามาเป็น รานีของเจ้าเสียสิ "  จ้าวซีวอนมองไปยังเสียงปริศนาที่เอ่ยมาจากด้านหลัง 
    ทำให้สีหน้าของเขานั้นถึงกับตึงเครียดดุดันขึ้นมาทันที 

    "  มาที่นี้ทำไม  ข้าไม่ต้องการเห็นหน้าท่าน  "

    " แหม ๆ พี่ชายจะมาเยี่ยมน้องชายทั้งที  อย่าทำมาเป็นแล้งน้ำใจกับข้าอย่างนั้นสิ  "  อีกฝ่ายเอ่ย
    ด้วยน้ำเสียงเจ้าเหล์พร้อมกับเลื่อนร่างเข้าไปใกล้  จ้าวซีวอนพร้อมกับเกยคางของเขาขึ้น
    แต่จ้าวซีวอนนั้นกลับสะบัดมันออกอย่างไม่มีเยื่อใย 

    " ละเลยหน้าที่แบบนี้มันสมควรอย่างนั้นหรือ องค์อัคคี   "

    จ้าวซีวอนมองหน้าบุคคลที่อยู่ตรงหน้า ใบหน้าที่เหมือนกันกับเขาไม่มีผิดเพี้ยน พี่ชายฝาแฝดซึ่งเป็นเทพอัคคี 
    แต่ทั้งสองแตกต่างกันตรงที่ ผิวของจ้าวซีวอนจะเป็นผิวขาวออกเหลือง และนัยน์ตาสีนิลและผมสีดำสนิท
    เหมือนคืนรัตติกาล    ผิดกับองค์อัคคีชีวอน   มีผิวกายคล้ำออกแดงเหมือนเปลวไฟ ดวงตาสีแดงที่เหมือน
    ดวงอทิตย์ยามอัสดง
     ผมสีแดงเพลิงสว่าง ที่หน้าผากมีสายรัดเกล้าสีทองแดง
    ใบหน้าออกแนวขี้เล่นมากกว่า จ้าวซีวอนที่มีใบหน้าดุดันตลอดเวลา 

    "  แหม...เรียกแบบนี้ฟังแล้วดูห่างเหินจัง เรียกชีวอนสิ  "

    " พูดธุระของท่านมาดีกว่า องค์อัคคี  "  จ้าวซีวอนยังคงทำหน้านิ่งเรียบ ไม่ใส่ใจกับคำพูดของอีกฝ่าย 

    องค์อัคคียิ้มให้ก่อนที่จะลงไปนอนบนเตียงสีดำโดยที่เจ้าของห้องยังมิได้เอ่ยอนุญาต  พร้อมกับเอ่ยว่า 

    " ก็เด็กน้อยที่เจ้าเก็บมาเล่นนะ  เริ่มที่สิ้นอายุขัยของความเป็นมนุษย์แล้วนี้น่า ถ้าไม่รีบทำอะไร
    สักอย่างระวังจะเสียเขาไปนะ 
    "

    "  ข้าคิดว่าท่านเอาเวลาไปสลับรางรถไฟของท่านเถอะ  อย่ามาเป็นห่วงข้าเลย
    เรื่องของข้า ๆ จัดการเองได้   
    "  จ้าวซีวอนเอ่ยอย่างเหนื่อยหน่าย 

    " ข้าก็แค่เป็นห่วงน้องชายผู้น่ารักของข้าก็เท่านั้น  "  องค์อัคคียิ้มให้จ้าวซีวอน แต่อีกฝ่ายกลับ
    ทำหน้าตึงเครียดมากว่าเดิม 

    "  เอาล่ะ ๆ  ข้าแกล้งเจ้าพอสนุกแหละ ข้ากลับก่อนดีกว่า  "  ว่าแล้วร่างขององค์อัคคีก็ค่อย ๆ อันตรธาร
    หายไป  เมื่อจ้าวซีวอนเห็นว่าอีกฝ่ายไปแล้วจึงได้แต่คิดอย่างเงียบ ๆ  โดยมิได้สนใจเลยว่ามีเงาดำ
    ของใครบางคนได้ฟังเรื่องราวทุกอย่างตั้งแต่ตนจนจบ

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++
    เฮ้อ....ได้ลงเสียที่พ่อแม่พี่น้องทั้งหลาย ซู่ลงตอนใหม่ได้แล้วจร้า จากการที่หายไปเลี้ยงหลายชายคนเล็กเสียนาน
    อิอิอิ  คิดถึงทุกคนที่ติดตามฟิคของซู่มากเลยจร้า ใครต้องการ NC รอหน่อยนะ ทั้งสามซีรีย์นั้นมีแน่นอน 
    เหอ ๆๆ  ตอนนี้องค์อัคคี  ออกโรงแล้ว  เหอ ๆๆ  ติดตามหน่อยนะจร้า 
    ป.ล ช่วงนี้ใกล้สอบของใคร ๆ อีกหลายคน ยังไงก็อ่านหนังสือกันเยอะ ๆ นะจร้า เป็นกำลังใจให้ 
    ใครปิดเทอมแล้วก็ดีใจด้วยจร้า  ^^     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×