ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดวงใจรัตติกาล sihan

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 4 ท่องโลกแห่งรัตติกาล

    • อัปเดตล่าสุด 25 มิ.ย. 54




    ฮันเกิงไม่รู้ว่าอยู่ที่มานานเท่าไร  ไม่รู้ว่าบนโลกตอนนี้จะเป็นกลางวันหรือกลางคืน  เพราะดินแดนแห่งนี้
    นั้นทั้งมืดมิดมีเพียงแสงสว่างจากดวงไฟก็เท่านั้น  หลังจากเกิดเหตุการณ์ในตอนนั้นฮันเกิงก็ไม่เห็น
    หน้าจ้าวแห่งปีศาจ ที่แสนน่ากลัวผู้นั้นหลายวันแล้ว  มีเพียงชางมินเท่านั้นที่นำอาหารและน้ำขึ้นมาส่ง 

    "  เอา...ทานข้าวซะเด็กน้อย เจ้าจะได้มีแรง  "  ชางมินทำอาหารมาวางตรงหน้าของฮันเกิง 

    "  ฮัน ไม่หิว ฮันเบื่ออยากกลับบ้าน  "  ฮันเกิงในตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับเด็กที่เอาแต่ใจ  

    "  เจ้านี้ทำตัวเหมือนเด็กน้อย จริง ๆ นะเนี้ย  "  ชางมินส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่อย  ที่ต้องทำหน้าที่เป็น
    พี่เลี้ยง
    เด็กน้อยผู้นี้ 

    หน้าปราสาทนิลกาฬจ้าวซีวอน  ได้เดินทางกลับมาจากยมโลกซึ่งยุนโฮนั้นออกมาคอยต้อนรับ 

    " หลังจากที่ข้าไม่อยู่  ที่นี้มีปัญหาอะไรหรือเปล่า ยุนโฮ "

    "  ไม่มีอะไรผิดปรกติขอรับ  มีเพียงเด็กมนุษย์ที่ชางมินกำลังดูแลอยู่ขอรับ  ท่านซีวอนจะจัดการยังไงกับ
    มนุษย์ที่นำตัวมาขอรับ
    "  จ้าวซีวอนนิ่งไปพักหนึ่ง  มิได้เอ่ยอะไรกับนักรบคนสนิท

     

      ภายในห้อง ฮันเกิงก็ยังคงนั่งอยู่บนโฟซายาวสีดำ  ด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย  การที่จะได้ขึ้นไปอยู่บนโลก
    มนุษย์เป็นความปรารถนาอย่างที่สุดของฮันเกิงในตอนนี้  เขาไม่ต้องการอยู่ในโลกปีศาจอยู่ในที่ ๆ น่ากลัว
    มีแต่ความมืดมิดแบบนี้  แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงบานประตูเปิดออกพร้อมกับฝีเท้าของ ชายร่างสูงนัยน์ตาคมกริบ 
    ใส่ชุดคลุมสีดำยาว  สีหน้ารูปร่างนั้นยังคงติดตาฮันเกิงอยู่   ทำให้ร่างบางนั้นนึกถึงเหตุการณ์ในครั้งก่อน
    ที่ยังคงไม่สามารถลืมเลือนได้  ฮันเกิงต้องลุกจากโฟซาที่นั่ง  ถอยหลังเพื่อให้ห่างชายตรงหน้าให้
    มากที่สุดเท่าที่จะทำได้  

    "  เจ้ากลัวข้ามากขนาดนั้นเลยรึ เด็กน้อย  "

    "  ก็ต้องกลัวสิ ก็คุณจะมาดูดพลังวิญญาณฮันนี้น่า  "   จ้าวซีวอนได้ยินคำพูดของร่างที่อยู่ต้องหน้านั้น
    ก็ต้องหัวเราะออกมาจากลำคอ  

    "  เด็กหนอ เด็ก... "

    "  ฮันไม่ใช่เด็กนะ และฮันอยากกลับบ้านด้วย คุณต้องพาฮันกลับบ้านเดี๋ยวนี้  "  การที่ได้ยินว่าร่างบาง
    อยากจะกลับขึ้นไปยังโลกเบื้องบนนั้น  ทำให้จ้าวซีวอนนึกถึงดวงชะตาของมนุษย์น้อยผู้นี้ 

    "  เจ้าเป็นเหยื่อพลังของข้า  แล้วเจ้าจะกลับขึ้นไปยังโลกที่เจ้ามาได้ยังไงกันเล่า  นี้คือการลงโทษที่เจ้า
    นั้นขโมยดวงแก้วเพลิงนิลกาฬของข้า 
    "

    " ฮันบอกคุณแล้วไงว่า ฮันไม่ได้เอาไป  "

    "  แล้วเจ้าเอาดวงแก้ว มาได้อย่างไร  "  ฮันเกิงนิ่งไปชั่วครู่พร้อมพูดกับจ้าวซีวอน 

    " ก็ฮัน บอกคุณไปแล้วไงว่ามีชายชราเขายื่นให้ฮัน  คุณนี้มันพูดไม่รู้เรื่องหรือยังไง   คนเขาอารมณ์ไม่ดี
    เข้าใจมั้งป่ะ เบื่อโว๊ย 
    !  "  ฮันเกิงเอ่ยขึ้นเสียงกับคนตรงหน้า เบื่อเต็มทีแล้วบ้านก็กลับไม่ได้ 
    ออกไปไหนก็ไม่ได้  ทำให้ฮันเกิงเริ่มรู้สึกหงุดหงิดไม่ใส่ใจกับอะไรแล้ว

    "  นี้เจ้ากล้าขึ้นเสียงกับข้าอย่างนั้นรึ  "

    "  ก็เอ่อ...สิ  หรือว่าขึ้นเสียงก็จะดูดพลังของฮันล่ะ เอาเลยสิ  ยังไงฮันก็ต้องตายอยู่แล้วนี้  "  ว่าแล้วฮันเกิง
    ก็เดินเข้าไปใกล้พร้อมกับยื่นริมฝีปากบางเข้าไปใกล้กับริมฝีปากหนาของจ้าวปีศาจ  แต่...อีกฝ่ายกับยืน
    ตะลึงไม่ทำอะไรทั้งสิ้น ฮันเกิงจึงพูดอีกว่า

    "  คนมันเบื่อเป็นเหมือนกันนะ อยู่แค่ในห้องอย่างเดียว  ทำอะไรก็ไม่ได้ ไปไหนก้ไม่ได้  อยู่แต่ในห้องพื้นที่
    สี่เหลี่ยมอย่างเดียว  มันเบื่อนะโว๊ย
    !!  "  ฮันเกิงหอบหายใจด้วยความเหนื่อยจากการที่เขานั้นเถียงร่าง
    จ้าวปีศาจตรงหน้า  ในเมื่อต้องตายอยู่แล้ว ทำให้ฮันเกิงนั้นไม่กลัวความตายอีกต่อไป เพราะที่เขาอยู่นั้น
    ก็ไม่ต่างอะไรกับคำว่าตายทั้งเป็น

    "  นี้เจ้าเบื่ออย่างนั้นเหรอ เด็กน้อย   "  จ้าวซีวอนเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง  ทำให้จ้าวซีวอนนั้นเห็น
    บุคลิกที่แปลกตาของชายหนุ่มร่างมนุษย์ผู้นี้ต่างไปอีกมุม  เพราะทุกทีที่เจอกันนั้นมนุษย์ผู้นี้จะตัว
    สั่นดวงตานั้นมีแต่จะฉายแว่วด้วยความหวาดกลัวทุกครั้งที่อยู่ตรงหน้า  แต่ตอนนี้กับมีสีหน้าที่เด็ดเดี่ยว
    ไม่กลัวสิ่งที่ต้องพบเจอ และมนุษย์ผู้นี้จะเป็นคนแรกและอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่สามารถต่อว่า
    จ้าวแห่งปีศาจได้ถึงขนาดนี้  แต่ถ้ามีปีศาจหรือมนุษย์หน้าไหนกล้าว่าเขาได้ถึงขนาดนี้ ดวงวิญญาณของ
    พวกมันคงจะกลายเป็นผงธุลีตั้งแต่คำแรกที่เอ่ยออกมาจากปากอันโสมมของพวกมันนั้นแล้ว

    " ก็ต้องเบื่อสิ คุณลองมาเป็นนักโทษแบบฮันบ้างมั้ยล่ะ จะได้รู้ว่าเบื่อมั้ย   "

    " ถ้าอย่างนั้นไปกับข้า  "

    " คุณจะพาฮันไปไหน  "  ฮันเกิงพยายามสลัดมือที่จับแขนให้หลุด แต่ก็เป็นเรื่องที่ยากเหลือเกิน
    เพราะแรงของอีกฝ่ายที่มีอยู่นั้นเหนือกว่า

    "  ข้าจะพาเจ้าทั่วดินแดนโลกรัตติกาล  "

       ซีวอนรั้งโอบเอวบางมายืนอยู่ข้าง ๆ ตน แต่แล้วก็มีลมแรงมากพัดมาที่ตาของฮันเกิงทำให้ ร่างบางนั้น
    ต้องหลับตาปี๋  แต่แล้วเมื่อฮันเกิงลืมตาขึ้นเขาก็เห็นบรรยากาศรอบตัวที่แปลกตาไป  รอบตัว ๆ ตัวมีแต่ต้นไม้เหมือนกันว่าเขานั้นยืนอยู่ในป่าลึกอย่างไรก็ไม่ปาน  แต่แล้วก็มีม้าสีดำสี่ตัวเทียมรถจอดอยู่ข้าง ๆ ที่ทั้งสอง
    นั้นยืนอยู่

     "  ขึ้นมาสิ  "  ฮันเกิงขึ้นรถเทียมม้าตามที่จ้าวปีศาจบอก  แต่แล้วมือหนานั้นก็โอบเอวบางมาไว้ข้าง ๆ

    ตัวอีกครั้ง 

    "   คุณไม่ต้องโอบฮันก็ได้  ฮันไม่ตกลงไปหรอก "  ฮันเกิงพยายามแกะมือที่โอบเอวนั้นออกไป แต่ก็ไม่สำเร็จ 

    "  เลิกดื้อกับข้าเสียที เด็กน้อย ถ้าเจ้าตกลงไปจะทำอย่างไรกันเล่า  "  จ้าวซีวอนกระซิบเสียงแผ่วเบาข้าง ๆ หู 
    ทำให้ฮันเกิงนั้นถึงกับหน้าแดงระเรื่อขึ้น  ถ้าที่เขินอายของอีกฝ่ายทำให้ซีวอนนั้นรู้สึกพอใจอยู่ไม่น้อย 
    แต่แล้วรถเทียมนั้นก็ขับเคลื่อนย้ายออกไป

    ราชรถก็ได้มาจอดอยู่หน้าเมือง ๆ หนึ่ง  หน้าเมืองนั้นมีป้ายเสาหน้าประตูเมืองเขียนว่า  เขตที่ 1 ฮันเกิงรู้สึก
    ถึงความเย็นเยือกเข้าไปถึงกระดูก  ความหนาวเหน็บเข้าไปจับถึงขั้วหัวใจ  ร่างบางในตอนนี้ต้องการ
    ที่พึงอย่างมาก  จ้าวซีวอนเมื่อเห็นสีหน้าของฮันเกิง จึงจับมือร่างบางมายืนอยู่ข้าง ๆ ตัว

    "  มีข้าอยู่  เจ้าไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น "  ไม่รู้เพราะเหตุอะไร  จริง ๆ แล้วฮันเกิงนั้นต้องกลัวคน
    ที่อยู่ตรงหน้าไม่ต่างจากที่นี้ แต่เมื่อฮันเกิงนั้นสัมผัสมือของจ้าวปีศาจความกลัวที่มีอยู่ในใจ
    ของฮันเกิงนั้นกับมลายสิ้น

    "  ท่านจ้าวปีศาจมา  "  เมื่อปีศาจทุกตนเห็นจ้าวซีวอนเดินมาพร้อมกับหนุ่มสวยร่างบางทำให้ปีศาจ
    ทุกตนนั้นต่างพากันแปลกใจอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยถามเพราะว่า
    กิตติศัพท์ที่ว่าน่ากลัวและโหดเหี้ยม

    "ข้าไม่ทราบว่าท่านจ้าวปีศาจจะมา เลยไม่ได้เตรียมการตอนรับท่านต้องของโทษอย่างสูงขอรับ  " 

    "  ไม่เป็นไร ข้าแค่มาดูความเป็นอยู่ของประชากรของข้า ก็เท่านั้น  "  เจ้าเมืองปกครองเขตที่หนึ่งโค้ง
    พร้อมกับเอ่ยต้อนรับ  เจ้าเมืองได้สั่งให้ลูกน้องนั้นจัดเตรียมอาหารให้แก่ท่านเจ้าปีศาจและฮันเกิง

    " เพราะไม่รู้ว่าท่านจ้าวปีศาจจะมา  ทางเมืองเราจึงไม่ได้เตรียม อาหารดี ๆ ไว้ให้พวกท่านทั้งสองต้อง

    ขออภัยด้วยขอรับ  "

    "  ไม่เป็นไร ทางข้านั้นไม่ได้เรื่องมากอะไร  "  ก่อนที่จะหันไปทางฮันเกิงพร้อมกับพูดว่า

    " เจ้าอาจจะเบื่ออาหารของปราสาทข้า ถ้าเช่นนั้นลองทานอาหารพื้น ๆ ของที่นี้ดูก็แล้วกัน  " ว่าแล้วอาหาร
    ทั้งหมดก็ถูกวางลงตรงหน้าบุคคลที่มาเยือน  ตรงหน้าของฮันเกิงนั้นมีผลไม้ลูกแดงสด  ถึงสองลูกวางอยู่
    ผลไม้นั้นเรียบเนียนและมีกลิ่นหอมจนฮันเกิงนั้นต้องหยิบขึ้นมาดม

    "  หอมจัง ผลไม้นี้เรียกว่าอะไรเหรอครับ   "

    "  ลูกจันทร์ธร  ขอรับนายหญิง  "  นายหญิงเหรอ  เขาเป็นผู้ชายนะไม่ใช่ผู้หญิง  แต่เมื่อเห็นนางกำนัล
    คนนึงยื่นลูกจันทร์ธรที่ปลอกแล้วให้แก่ฮันเกิง 

    "  อร่อยจัง ขอฮันอีกได้มั้ยครับ "  แล้วผลไม้อีกชิ้นก็ถูกยื่นให้ฮันเกิงอีก ไม่รู้กี่ชื้นแต่ที่รู้ ๆ ผลไม้ที่เคย
    อยู่ตรงหน้าฮันเกิงนั้นหมดไปแล้วถึงสองลูก  ไม่นับลูกที่อยู่ในตะกร้า  ที่ยังไม่ได้ขึ้นโต๊ะอีก
     การที่ฮันเกิงเจริญอาหารแบบนี้นั้น  ก็สร้างความพอใจให้จ้าวซีวอนเป็นอย่างมาก

    "  ดูท่าทางชายา ท่านจ้าวปีศาจจะชอบนะขอรับ ถ้ายังไงวันหลังทางเราจะนำไปถวาย  "  แต่ยังไม่ทันทีฮันเกิง
    นั้นจะเอ่ยปฏิเสธ จ้าวซีวอนก็เอ่ยว่า  

    "  ขอบใจเจ้ามาก ยังไงข้าของฝากท่านด้วย เพราะชายาของข้านั้น  กอดทีไรก็เจอแต่กระดูกทุกที  " 
    เจ้าเมืองเขตปกครองน้อมรับคำสั่ง
     เมื่ออกจากเมืองเขตที่หนึ่งฮันเกิงจึงเอ่ยกับจ้าวปีศาจทันที

    "  ทำไมคุณไม่ปฎิเสธ ที่ท่านเจ้าเมืองบอกว่า...ฮันเป็นชายาของคุณ  "

     "  เจ้าเป็นชายา ของข้าแล้วมันไม่ดีตรงไหน  ให้พวกมันคิดแบบนั้นก็ดีแล้วจะได้ไม่มีใครแย่งเหยื่อ
    แบบเจ้าไปจากข้า
    " น้ำเสียงที่เอ่ยออกมานั้น  ทำให้ฮันเกิงอดที่จะขวยเขินไม่ได้ 

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++
     
    จบตอนที่ 4 แล้วจร้า ต้องขอโทษด้วยที่วันนี้รู้สึกวางช้าไปหน่อย  แหะ ๆ ช่วยติดตามกันหน่อยนะจร้า
    และสิ่งที่ซู่นั้นลืมไม่ได้คือ..ขอบคุนป้าวันมาก ๆ เลยจร้า  ป้าวัน...ซู่รักป้า  อิอิอิอิ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×