ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [TFBOYS] MY Luvly Butler 'KaiYuan' ❤

    ลำดับตอนที่ #6 : 'Chapter IV : FaceTime'

    • อัปเดตล่าสุด 12 ธ.ค. 58


    [TFBOYS] MY Luvly Butler ‘KaiYuan’

     

     

     

    - Chapter IV : FaceTime-

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ผมกลับมาบ้านพร้อมกับจุนไคโดยลุงเฉินที่ขับรถมารับพวกเราทั้งสองคน ตอนแรกผมว่าจะกลับเองนั่นแหล่ะ แต่คุณหนูจุนไคเค้าก็บอกว่าไม่ได้ผมกลับเอง ให้กลับด้วยกันเลย ผมเลยขัดไม่ได้

     

    “รีบไปเปลี่ยนชุดแล้วรีบมาทำงานนะ” พอผมลงจากรถ ลุงเฉินก็รีบบอกให้ผมไปเปลี่ยนชุดที่ห้องทันที

     

    “ครับ” ผมรับคำก่อนจะเดินเข้าบ้านไป

     

    ห้องของผมอยู่ส่วนหลังของบ้าน ที่เป็นบริเวณที่พักของคนรับใช้ภายในบ้าน ดีนะครับที่ยังเป็นห้องส่วนตัวให้ผม ไม่ได้เป็นแบบห้องนอนรวม เพราะคุณท่านที่พึ่งเสียไปเมตตาผม

     

    คุณท่านคนก่อนเค้าเป็นพ่อบุญธรรมของผมครับ ท่านรับผมมาเลี้ยงตั้งแต่ผมยังเด็กเล็กๆอยู่เลย เลี้ยงผมจนโต ผมก็เลยตอบแทนท่านด้วยการจะรับใช้คนที่บ้านแห่งนี้ไปตลอด แต่พอท่านเสียไป คุณนายที่ไม่เห็นด้วยกับการเก็บผมมาเลี้ยงตั้งแต่ก่อนแล้ว พยายามใช้ผมสารพัด แต่ผมก็ไม่บ่นซักคำ (เพราะบ่นในใจไงล่ะ)

     

    ผมออกมาจากห้องของตัวเองด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดทั้งตัวที่ถูกรีดจนเรียบทุกระเบียบนิ้ว ตัดกับกางเกงสแล็คสีดำสนิท ที่พอรวมกันแล้วเข้ากันได้อย่างดี พร้อมกับผ้ากันเปื้อนคาดเอวอีก 1 ผืน

     

    หน้าที่ของผมหลักๆก็คือ ทุกอย่างครับ คือจะอธิบายยังไงดี ก็ผมทำหมดทุกอย่างนั้นแหล่ะครับ ตั้งแต่ซากกะเบือยันเรือรบ ทั้งรดน้ำต้นไม้ ทำอาหาร ทำความสะอาดห้อง ล้างห้องน้ำ ล้างรถ เช็ดกระจก และอื่นๆอีกมากมายก่ายกองที่คุณนายจะสั่งมาอีกที

     

    “หยวน ไปรดน้ำต้นไม้ก่อนแล้วค่อยเข้าครัวนะ” ลุงเฉินบอกหน้าที่วันนี้ของผม

     

    ผมพยักหน้าอย่างรู้หน้าที่ ก่อนจะเดินออกไปหน้าบ้านที่มี ป่าอเมซอนขนาดย่อม ผมเดินไปเปิดก๊อกน้ำก่อนที่จะหยิบสายยางขึ้นมาตามฉีดใส่ต้นไม้ทีละต้นๆ

     

    “ทำอะไรอยู่น่ะ” เสียงบุคคลที่มาจากไหนก็ไม่รู้ เดินเข้ามาจากทางด้านหลังแล้วพูดขึ้น

     

    “คุณหนู มาทำอะไรตรงนี้ครับ” เพราะตอนนี้อยู่ที่บ้าน ผมต้องเรียกจุนไคเค้าว่าคุณหนู ตามที่คุณนายบอก

     

    “พี่บอกแล้วไงว่าเวลาอยู่กับพี่ให้เป็นตัวของตัวเอง” จุนไคทำเสียงดุ

     

    “แต่.......” ผมลังเลนิหน่อย

     

    “ม๊าไม่อยู่หรอก กว่าจะกลับก็ดึกๆโน้นแหล่ะ ไม่ต้องห่วง”

     

    ผมพยักหน้าเป็นคำตอบให้เค้า

     

    “นายมาทำอะไรตรงนี้อ่ะ” ผมหันกลับไปสนใจต้นไม้ต่อ

     

    “หยวนยังไม่ตอบคำถามพี่เลย”

     

    “ก็เห็นๆอยู่ว่ารดน้ำต้นไม้ นายไม่น่าถามเลย ว่าแต่นายมาทำอะไร” ผมถามย้ำรอบสอง

     

    “เบื่อๆ เลยมาเดินเล่น”

     

    “แล้วการบ้านวันนี้ล่ะ ทำเสร็จแล้วหรอ”

     

    “แน่นอนว่า ยัง” จุนไคทำหน้าตาย แล้วทำเป็นไม่สนใจ

     

    “แล้วทำไมนายไม่ไปทำอ่ะ ปล่อยเวลาให้มันผ่านไปเฉยๆทำไม” ผมไม่เข้าใจลูกคุณหนูเลยจริงๆ ว่างมากจนมากวนคนอื่นทำงานแบบนี้อ่ะ

     

    “ใครว่าพี่ปล่อยให้เวลาผ่านไปเฉยๆ พี่กำลังดูหยวนรดน้ำต้นไม้อยู่นี่ไง” แล้วเค้าก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผม

     

    “เหอะๆ” ผมหัวเราะแห้งๆ ไม่รู้จะตอบกลับไปว่ายังไง

     

    “ถ้าจะไม่ช่วยก็อย่ามากวนแล้วกัน” ผมเดินไปอีกทางนึง เพื่อจะรดน้ำต้นไม้ที่อยู่อีกทาง แต่จริงๆคือเดินหนีจุนไคนั่นแหล่ะครับ

     

    “ถ้างั้นเดี๋ยวพี่ช่วยเอง” เค้าเดินตามมาก่อนจะแย่งสายยางไปจากผม

     

    “ได้ไงล่ะ เดี๋ยวใครมาเห็น ฉันก็โดนด่าเละอ่ะดิ ไม่ได้ๆ เอาคืนมา” ผมแย่งสายยางกลับคืนมา

     

    “ก็นี่จะช่วยแล้วไง อยากให้ช่วยไม่ใช่หรอ” แล้วเค้าก็ยื้อไว้เหมือนเดิม แต่คราวนี้ยกสายยางขึ้นสูงในระดับที่ผมยื่นมือสุดแขนแล้วก็ยังไม่ถึง

     

    “เอาคืนมานะ ดูดิเปียกหมดแล้ว” เพราะผมพยายามแย่งสายยางที่กำลังเปิดน้ำทิ้งไว้อยู่คืนมา เลยทำให้น้ำที่ควรจะรดต้นไม้ ตอนนี้มันกลับรดตัวผมหมดแล้ว

     

    ซึ่งเสื้อของผมเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวใช่ป่ะครับ แล้วเข้าใจอารมณ์เสื้อเชิ้ตมั้ยครับ พอโดนน้ำเปียกเข้าให้ก็มองเห็นข้างในหมดอ่ะ ซึ่งจุนไคเค้าก็ไม่ต่างกันเลย เพราะเจ้าตัวก็ยังอยู่ในชุดนักเรียนที่เป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวเหมือนกัน

     

    ผมพยายามยื่นมือขึ้นไปแย่งจนคว้าสายยางกลับมาได้ แต่แล้วก็ต้องเสียการทรงตัว ล้มทับคนข้างหน้าไปในที่สุด

     

    ร่างของผมทับอยู่บนร่างของจุนไคที่ล้มลงไปนอนหงายอยู่บนพื้น

     

    “หนักนะเนี่ย” เค้าบ่น

     

    “สมน้ำหน้า อยากกวนทำไมล่ะ”  ผมได้จังหวะก็จับสายยางฉีดใส่หน้าเค้าอย่างจัง เป็นการแก้แค้น

     

    ผมรวบรวมความหมั่นไส้ และอะไรต่อมิอะไร ปล่อยไปกับพลังน้ำที่ฉีดใส่เค้า

     

    เอาจริงๆผมก็ซะใจนะ สนุกด้วย รู้สึกไม่ได้สนุกอย่างนี้มานานแล้ว เหมือนได้ปลดปล่อยอะไรอย่างงั้น

     

    “อย่าฉีดใส่หน้าสิ เข้าปากหมดแล้ว แบ่ะ...” จุนไคบ้วนน้ำที่เข้าปากออก พร้อมพยายามเอามือปิดหน้าไม่ให้โดนน้ำ

     

    “อยากแกล้งฉันดีนัก โดนเองซะบ้าง นี่แหน่ะๆๆๆ”

     

    “จะหยุดไม่หยุด” เค้าทำเสียงดุ

     

    “ไม่หยุดหรอก แบร่ๆ” ผมล้อเลียนเค้า

     

    “ไม่หยุดใช่มั้ย? ได้!!” เค้าเข้าใกล้ผมเรื่อยๆ ก่อนจะใช้สองแขนของเค้ารัดรอบเอวผมไว้ ไม่ให้ผมขยับไปไหนได้

     

    แล้วระยะห่างระหว่างเราสองคนนั้นลดลงเรื่อยๆ จนแทบเหลืออยู่แล้ว ผิวภายใต้เสื้อเชิ้ตเครื่องแบบนักเรียนของเค้ากับชุดพ่อบ้านของผมสัมผัสกัน

     

    สัมผัสอุ่นๆที่ได้รับจากผิวกายของจุนไคทำให้ผมรู้สึกแปลกๆที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน และใบหน้าที่ใกล้กันเกินกว่าปกติทำให้อุณหภูมิร่างกายบริเวณใบหน้าของผมขึ้นสูงกว่าปกติ

     

    “ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ มาจับไว้ทำไมเนี่ย”

     

    “ไม่ปล่อยหรอก เมื่อกี้แสบมากนะ ขอเอาคืนบ้างเหอะ”

     

    “จะปล่อยไม่ปล่อย?” ผมทำเสียงดุบ้าง

     

    “ไม่ปล่อย” ผมพยายามดิ้นออกจากแขนปลาหมึกของเค้าที่รัดแน่นเหลือเกิน แต่ดิ้นยังไงก็ดิ้นไม่หลุดซักที

     

    “คุณหนูจุนไคคะ อยู่ไหนคะ คุณนายเรียนสายค่ะ” เสียงคนใช้สาววิ่งออกตามหา

     

    จึงทำให้ผมกับจุนไคผละออกจากกันทันที

     

    “ว้าย ทั้งคุณหนูไปโดนอะไรมาคะ ทำไมเปียกนี้ แกด้วยหยวนทำไมเปียกงี้”

     

    “เอ่อคือ...” ผมไม่รู้จะตอบว่าอะไร

     

    “ผมแค่มาช่วยหยวนรดน้ำต้นไม้น่ะครับ”

     

    “ที่จริงคุณหนูไม่ต้องมาลำบากอย่างนี้เลยนะคะ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนใช้ไป...รีบเข้าบ้านไปเปลี่ยนชุดก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวจะไม่สบายเอา” คนใช้คนนั้นพูดกับจุนไคก่อนจะหันมาจิกกัดผมทีนึงก่อนจะพาจุนไคเดินเข้าบ้านไป

     

    ในบ้านนี้มีไม่กี่คนหรอกครับที่เข้าข้างผม แทบนับคนได้เลยล่ะ แต่ผมก็ชินแล้ว

     

    ผมเดินเข้าไปหลังบ้าน กลับไปที่ห้องของตัวเองเพื่อเปลี่ยนชุดอีกรอบ เพราะนายคนเดียวเลย ไอ้คุณหนูจุนไคที่ทำให้ชุดยูนิฟอร์มของผมเปียกเละเทะอย่างนี้ นี่ผมต้องซักใหม่ แถมยังต้องรีดเองด้วย แค้นนี้ผมจดใส่บัญชีหนังหมาไว้แล้ว ค่อยมาคิดบัญชีทีหลังละกัน ตอนนี้ต้องรีบเปลี่ยนชุดแล้วเข้าไปเป็นลูกมือลุงเฉินในครัวแล้ว ถ้าช้ามีหวังได้โดนเทศนานแน่ๆเลย

     

     

     

     

     

     

     

    {-[-(--------------------------/--\-_MY-:-Luvly-:-Butler_-/--\---------------------------)-]-}

    ^U^

     

     

     

     

     

     

    มื้ออาหารเย็นผ่านไปได้ด้วยดี แต่ก็ไม่วายโดนเทศนาเรื่องเมื่อตอนเย็นอีกตามเคย แต่ข้ามๆ     มันไปเถอะ งานอย่างอื่นผมก็ทำจนเสร็จหมดแล้วก็เลยขอตัวกลับห้องนอนตัวเองก่อน

     

    ก็การบ้านน่ะสิครับ ไม่รู้อาจารย์จะสั่งอะไรกันนักกันหนา สั่งยังกับว่าเรียนวิชาตัวเองวิชาเดียวอย่างงั้นแหล่ะ

     

    ไหนจะรายงาน ไหนจะวิจัย พรีเซ้นเตเตอร์ การทดลอง ทำแล๊ปอีก อะไรอีกไม่รู้เยอะแยะมากมายเต็มไปหมด

     

    ผมนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะอ่านหนังสือของตัวเอง ก่อนจะเริ่มเปิดหนังสือและสมุดการบ้าน

     

    -ตือดึ่ง-

     

    ผมหันไปมองเจ้าโทรศัพท์ที่นอนแน่นิ่งอยู่บนโต๊ะมานาน ก่อนจะหยิบมันขึ้นมาดู

     

    มีเบอร์แปลกขอเฟสไทม์มา ผมควรรับดีมั้ยครับ

     

    ทำเป็นไม่สนใจแล้วกัน

     

    ผมกดปิดหน้าจอก่อนจะวางมันไว้ที่เดิม แล้วลงมือทำการบ้านของตัวเองต่อ

     

    แต่แล้วไอ้คนปลายสายนั้นก็ยังไม่ล้มเลิกความพยายาม ยังคงโทรมาอีกหลายสาย

     

    อาจจะเป็นเชียนซีก็ได้ ไอ้หมอนั่นอาจจะโทรมากวนผมก็ได้ ถ้าใช่พ่อจะด่าไม่ให้ผุดให้เกิดเลยคอยดู

     

    ผมหยิบโทรศัพท์เครื่องเก่าขึ้นมากดรับ ก่อนจะอ้าปากเตรียมด่า

     

    “ว่างไง??” แต่คนที่ปรากฏบนหน้าจอผมกลับไม่ใช่ไอ้เชียนซี แต่กลับเป็นเพื่อนใหม่ที่พึ่งย้ายมาห้องเดียวกันวันนี้นี่เอง จุนไคนั่นแหล่ะครับ

     

    “นะ...นายมีเบอร์ฉันได้ไงเนี่ย” ผมถามด้วยความแปลกใจ เพราะปกติผมไม่ให้เบอร์ใครพร่ำเพรื่อ ให้เฉพาะเพื่อนที่สนิทเท่านั้น กับคนใช้ที่สนิทกันเท่านั้นเอง ก็เลยสงสัยว่าเค้าเอาเบอร์ผมมาจากไหน

     

    “พี่รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับหยวนนั่นแหล่ะ”

     

    “แล้วโทรมามีอะไรอ่ะ”

     

    “ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากรู้ว่าทำอะไรอยู่”

     

    “ทำการบ้านอยู่ แล้วการบ้านนายล่ะ ไม่ไปทำหรอ?”

     

    “ขี้เกียจอ่ะ”

     

    “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว วางสายนะ จะทำการบ้านต่อ”

     

    “เดี๋ยวๆ อย่าพึ่งวาง คุยกันก่อนสิ”

     

     “แต่ฉันจะทำการบ้านนะ”

     

    “ถ้างั้นก็คุยไปทำไปสิ”

     

    “ก็ได้ๆ” ผมวางโทรศัพท์ตัวเองลงข้างๆ ก่อนจะเริ่มลงมือทำการบ้านต่อ

     

    “นี่ๆ ไม่ได้อยากดูเพดานหรอกนะ ตั้งกล้องดีๆหน่อยดิ”

     

    “จะเอายังไงกันแน่ บ่นอยู่ได้”

     

    “จะขัดคำสั่งคุณหนูหรอ?”

     

    ผมจิ๊ปากทีนึงด้วยความไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ ก่อนจะเอามือถือของตัวเองว่าพึงกับกองหนังสือข้างๆ เพื่อให้เห็นหน้าตัวเองได้ชัดๆ

     

    “พอใจยังครับคุณหนู” ผมทำเสียงประชดประชัน

     

    “ล้อเล่นหน่า อย่างอนไปดิ”

     

    “ใครงอน ไม่มีสักหน่อย”

     

    “โอ๋ๆๆ ดีกันนะๆ” เค้าพูดพร้อมกับชูนิ้วก้อยขึ้น แล้วกะดิกไปมา

     

    “ไร้สาระ ถ้าจะกวนกันอ่ะ วางสายแล้วนะ”

     

    “ถ้างั้นไม่กวนก็ได้ ทำเสร็จแล้วถ่ายส่งมาให้ด้วยนะจะลอก แล้วก็อย่านอนดึกนะ ฝันดี บ๊ายบาย” เค้าโบกมือลาก่อนจะวางสายไป

     

    “คนอะไร ประสาทชะมัด” ผมนั่งทำการบ้านต่อไปเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมก็คงจะเป็น รอยยิ้มที่มุมปากล่ะมั้ง......^U^







     

     

     

     

       
                                                                                                                                                                                                          ?SYDNEY?
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×