ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [TFBOYS] MY Luvly Butler 'KaiYuan' ❤

    ลำดับตอนที่ #3 : 'Chapter I : I’ve come back'

    • อัปเดตล่าสุด 31 ก.ค. 58


    [TFBOYS] MY Luvly Butler ‘KaiYuan’

     

     

     

    - Chapter I : I’ve come back -

     

     

      

     

     

     

     


    “ผู้โดยสารโปรดทราบ ขณะนี้เครื่องบิน AS701 เที่ยวบินที่ TG333 จากท่าอากาศยานลอนดอนฮีทโธรว์กำลังจะลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติฉงชิ่งเจียงเป่ย์ในอีก 15 นาที ขอให้ผู้โดยสารทุกคนตรวจสอบสัมภาระของท่านก่อนลงจากเครื่องด้วยค่ะ

     

    เสียงพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินประกาศเสียงตามสายให้ผู้โดยสารทุกคนทราบ

     

    “ถึงแล้วสินะ” ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆ

     

    เมื่อเครื่องลงจอด ผมเดินสะพายกระเป๋าเดินออกมาตามทางผู้โดยสารขาเข้า เข้าไปรอรับกระเป๋าลากที่โหลดขึ้นเครื่อง ที่กำลังเคลื่อนมาตามสายพานพร้อมกับกระเป๋าของผู้โดยสารคนอื่น

     

    ผมยืนรอไม่นานกระเป๋าของผมก็มา ผมยกมันลงจากสายพานก่อนจะเดินลากกระเป๋าออกไป เพื่อรอทางบ้านมารับ

     

    ผมยืนมองหาไม่นานก็พบกับพ่อบ้านคนหนึ่งที่ผมจำเค้าได้

     

    “ลุงเฉินครับ” ผมโบกมือให้เค้า ทำให้เค้ามองเห็นผมแล้วก็เดินมาหาผม

     

    “ยินต้อนรับกลับนะครับคุณหนู” พ่อบ้านสูงอายุโค้งให้อย่างสุภาพ ตามแบบฉบับพ่อบ้านที่ถูกฝึกมาอย่างดี

     

    “ไปกันเถอะครับ คุณหญิงท่านกำลังรอคุณหนูอยู่พอดี” ลุกเฉินเผยมือให้ผมเดินตามไปยังรถ แล้วมาลากกระเป๋าของผมไปด้วย

     

    หลังจากผมขึ้นนั่งที่เบาะหลังของรถ รถก็เคลื่อนตัวออกไป

     

    “ผมไปอังกฤษตั้ง 10 ปี ที่นี่เปลี่ยนไปเยอะเลยนะครับ”

     

    “ใช่ครับคุณหนู”

     

    ออกมาได้ไม่นานรถก็มาติดอยู่ที่ไฟแดง

     

    ทำให้ผมคิดอะไรแพลงๆได้อย่างนึง

     

    ไฟแดงกำลังจะหมดลง

     

    “ลุงเฉินครับ บอกม๊าด้วยนะครับว่าผมจะกลับไปทันมื้อเย็น” เมื่อสัญญาณไฟเปลี่ยนจากสีแดงเป้นสีเขียว

     

    ผมรีบเปิดประตูออกแล้ววิ่งลงจากรถ

     

    ทำให้ลุงเฉินไม่สามารถลงจากรถมาลากผมกลับไปที่รถได้

     

    ได้แต่ตะโกนไล่หลังว่า “คุณหนูทำให้ผมเดือดร้อนอีกแล้วนะครับ”

     

    ผมก็รู้สึกสงสารลุงเฉินอยู่หรอกครับ เพราะถ้ากลับไปโดยผมไม่มาด้วย ต้องโดนคุณหญิงท่านดุแน่ๆ แต่ผมก็อยากออกมาเปิดหูเปิดตาบ้าง

     

    พอวิ่งมาได้ระยะหนึ่งผมก็หยุดพักหายใจแป๊บนึง แน่ใจแล้วว่าลุงเฉินจะไม่ตามมา ค่อยเดินต่อไปในย่านการค้ากลางใจเมืองฉงชิ่ง

     

    ที่เปลี่ยนไปมากจริงๆ เมื่อก่อนไม่มีห้างสรรพสินค้าเยอะเหมือนปัจจุบันนี้

     

    ผมเดินดูร้านขายของต่างๆไปเรื่อยๆ ก่อนจะมีเด็กผู้ชายคนนึงวิ่งมาชนผมเข้าอย่างจัง ทำให้ทั้งผมกับเค้าล้มเข้าหายกันตามกฎของแรงโน้มถ่วง

     

    “โอ๊ย!! ” ผมร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

     

    ตอนนี้ผมอยู่ใต้ร่างของอีกคนที่ตัวเล็กกว่าผมมาก

     

    “ขอโทษครับ ผมรีบไปหน่อยเลยไม่ได้มองทาง” เสียงน้อยๆที่ผมคุ้นหู

     

    เค้าค่อยๆลุกขึ้นจากตัวของผม ก่อนจะช่วยพยุงผมขึ้นมา

     

    “ขอโทษอีกครั้งนะครับ ผมขอตัวก่อนล่ะ” เค้าก้มหัวให้ผมก่อนจะวิ่งออกไปจากตรงนั้น

     

    “เห้ยเดี๋ยวก่อน...” ไม่ฟังคำที่ผมเรียกไว้ก่อน

     

    นายนั่นเอง หวังหยวน

     

     

     

     

    {-[-(--------------------------/--\-_MY-:-Luvly-:-Butler_-/--\---------------------------)-]-}

    ^U^

     

     

     

     

    สายแล้วๆๆๆ ผมรีบวิ่งสุดแรงเกิดไปยังร้านเป้าหมาย ตามที่เพื่อนของผม เชียนซีได้นัดเอาไว้ แต่สงสัยจะรีบเกินไปหน่อย จนวิ่งไปชนเข้ากับใครคนนึง ล้มโครมกันไปทั้ง 2 คน

     

    “โอ๊ย!! ” เขาร้องออกมา คงจะเจ็บแหล่ะครับ ก็ผมเล่นวิ่งชนใส่เข้าอย่างจัง

     

    และเพราะเค้ากำลังแบกร่างของผมที่ล้มทับอยู่ด้านบนด้วย ไม่แปลกเลยที่เค้าจะเจ็บ

     

    “ขอโทษครับ ผมรีบไปหน่อยเลยไม่ได้มองทาง” ผมรีบขอโทษขอโพยทันที ก่อนจะรีบลุกขึ้นมาเพื่อไม่ให้เค้าคนนั้นเจ็บตัวไปมากกว่านี้

     

    ผมว่าผมอาจจะโดนด่าพ่อในใจไปแล้ว แต่ผมก็ผิดจริงๆนั่นแหล่ะ

     

    “ขอโทษอีกครั้งนะครับ ผมขอตัวก่อนล่ะ” แต่ตอนนี้ผมรีบมากถึงมากถึงมากที่สุด ผมเลยได้แต่ก้มหัวขอโทษไปอีกทีนึงก่อนจะออกตัววิ่งออกไปอีกครั้ง

     

    เหมือนผมจะได้ยินเค้าเรียกให้หลังมา แต่ผมไม่มีเวลามายืนคุยกับเค้าตอนนี้ ไม่งั้นผมอดกินข้าวฟรีแน่นอน

     

    ถ้าเรามีวาสนาก็คงได้เจอกันอีกนะครับ

     

    กริ๊งๆ’ เสียงกระดึ่งหน้าประตูร้านดังขึ้นเมื่อประตูร้านถูกเปิดออก

     

    “สายไป 5 นาที เป็นอันว่า อดนะเพื่อนรัก 5555” ผมก้มลงแขนชันกับเข่า หอบหายใจอย่างยากลำบาก เพราะวิ่ง 4 คูณ 100 มายังร้านนี้

     

    “ม..มึง..คือ..กู..เหนื่อย...มาก” ผมพอหายใจหายคอได้สะดวกแล้วก็เดินเข้าไปนั่งที่ตรงข้ามกับเพื่อนรักของผม

     

    “ไหนตอนกูโทรไปบอกใกล้ถึงแล้ววะ สงสัยไม่อยากกินของฟรี” เชียนซีพูดอย่างเยาะเย้ยผม

     

    “พ่อมึงสิ...มีอุบัติเหตุนิดหน่อย กูเลยมาช้า” ผมแล้วผมก็เจ็บใจ ถ้าผมไม่ชนคนคนนั้นผมก็มาทัน และก็ได้กินของฟรี

     

    ถ้างั้นก็แสดงว่า เพราะไอ้หมอนั่นแท้ๆเลย ที่ทำให้ผมไม่ได้กินของฟรี อย่าให้เจออีกนะ คราวหน้าเดี๋ยวพ่อจะสั่งสอนให้คอยดู

     

    “สั่งๆๆ เลย แต่จ่ายใครจ่ายมันนะ หว่าอุตส่าห์ว่าจะเลี้ยงซะหน่อย เสียดายจัง” แต่ก่อนที่จะสั่งสอนเค้าคนนั้น ขอจัดการไอ้เพื่อนหน้าลิงที่นั่งตรงข้ามผมก่อนได้มั้ย กวนตรีนเหลือเกิน

     

     

     

     

     

    หลังจากผมกินข้าวเย็นเสร็จ ก็ตรงกลับมาที่บ้านเลยไม่ได้แวะที่ไหน

     

    จะเรียกว่าบ้านมันก็ไม่ถูกนะครับ เพราะบ้านที่ผมอยู่เนี่ย ออกจะใหญ่โตเกินหน้าเกินตาบ้านหลังอื่นเกินไปหน่อย บางทีอาจจะใช้คำว่า คฤหาสน์’ น่าจะเหมาะกว่านะครับ แต่จะเรียกว่าบ้านผมมันก็ไม่ถูกอีกเหมือนกัน เพราะผมอยู่ในบ้านหลังนี้ในฐานะ พ่อบ้าน’ นี่คือเรียกให้ดูดีนะครับ ถ้าเรียกแบบปกติเค้าก็เรียกกันว่า คนใช้ นั่นแหล่ะครับ

     

    “กลับมาแล้วครับ” ผมเดินเข้าไปในห้องครัว แล้วทักทาย แม่บ้านคนอื่น รวมทั้งลุงเฉิน หัวหน้าพ่อบ้านประจำบ้านหลังนี้

     

    “หยวนๆ ไปไหนมาทำไมพึ่งกลับเอาป่านนี้” ลุงเฉินถามขึ้นขณะที่กำลังล้างจานชามอยู่ที่เคาน์เตอร์

     

    “ไปกินข้าวกับเพื่อนมาน่ะครับ” ผมเดินเข้าไปในเคาน์เตอร์เพื่อช่วยลุงเฉินล้างจาน

     

    “ไม่ต้องๆ ลุงล้างจะเสร็จแล้ว หยวนไปจัดโต๊ะอาหารไป วันนี้มีแขกพิเศษมา”

     

    “แขกพิเศษ ใครหรอครับ” ผมถามด้วยความสงสัย ปกติบ้านหลังนี้ก็ไม่ค่อยมีแขกเท่าไหร่ นานๆทีถึงจะมีครั้ง

     

    “เดี๋ยวก็รู้เอง รีบไปจัดโต๊ะได้แล้ว” ลุงเฉินทำไมต้องทำเป็นมีลับลมคมนัย อะไรด้วย แถมยังไล่ผมให้ไปจัดโต๊ะด้วย

     

    “กลับมาแล้วครับ” ไม่ใช่ผมนะครับ ผมไม่ได้พูด ถ้าผมไม่ได้พูดแล้วใครพูดล่ะ

     

    ผมรีบออกไปดูที่หน้าประตู ต้องเป็นแขกที่ลุงเฉินบอกไว้แน่ๆเลย

     

    แล้วก็พบกับคนคนนึงที่กำลังนั่งหันหลังถอดรองเท้าผ้าใบของเค้าอยู่ที่หน้าประตูบ้าน

     

    “ยินดีต้อนรับครับ” ผมรีบเดินเข้าไปรับรองแขก ก้มให้อย่างสุภาพ ตามแบบฉบับพ่อบ้านที่ได้รับการฝึกมาอย่างดี

     

    “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ หวังหยวน” ผมค่อยๆเงยหน้าขึ้นเมื่ออีกคนเอ่ยเรียกชื่อผม

     

    “นะ..นาย คือคนที่ชนฉันวันนี้หนิ” พอผมเห็นหน้าผมก็ตกใจ ร้องลั่น

     

    “ร้องเสียงดังใส่แขกทำไม หยวนๆ...ยินดีต้อนรับกลับครับ คุณหนูจุนไค” ลุงเฉินเดินออกมาจากห้องครัวมาเอ็ดผมทีนึงก่อนจะหันไปพูดกับคนที่พึ่งมาใหม่

     

    “จะ..จุนไค หรอ” ผมยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่ เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร เค้าก็คือลูกชายคนเดียวของตระกูลหวัง เจ้าของคฤหาสน์แห่งนี้ ที่ไปเรียนอยู่ต่างประเทศเป็นเวลา 10 ปี

     

    “ไม่คิดจะทักพี่หน่อยหรอ หยวนๆ” เค้าพูดกับผมอย่างยิ้มๆ

     

    “อะ..เออ..คะ...คือ..สวัสดี..” ผมไม่รู้จะทักทายเค้ายังไง

     

    “ทำตัวตามปกติเถอะ เหมือนตอนที่เราเล่นด้วยกันตอนเด็กๆอ่ะ เนอะ” จุนไคพูดอย่างนั้นพร้อมกับลูบหัวผมเล่นทีนึง ด้วยความที่ว่าส่วนสูงของผมมันค่อนข้างเอ่อ...ตามนั้นแหล่ะ อะไรนะให้อธิบายหรอ ก็เอ่อ... แบบ...ก็สูงพอสมควร... อะไรอีกนะขอความจริง?... ก็เอ้อ เตี้ย จบป่ะ และด้วยความที่ว่าพี่แกก็ไม่ได้สูงชะลูดเป็นเสาไฟฟ้า ทำให้เค้าชอบแกล้งผมอยู่บ่อยๆ ตอนเด็กๆ

     

    “จุนไคลูกรักของม๊า....กลับมาแล้วหรอลูก ไหนมาให้แม่กอดให้หายคิดถึงหน่อย...รู้มั้ยแม่คิดถึงลูกมั้ก..มาก” คุณนายหวังเดินเข้ามาหาลูกชายตัวเองทันที

     

    “ม๊าคร้าบบบ.. ผมหายใจไม่ออกแล้วเนี่ย”

     

    “กินอะไรมายังลูก?” คนเป็นแม่ผละออกจากลูกก่อนจะถามสารทุกสุกดิบ

     

    “ยังเลยครับ ผมรอกลับมากินอาหารฝีมือลุงเฉินที่บ้านดีกว่า คิดถึงจะแย่อยู่แล้ว”

     

    “งั้นไปกินกันดีกว่าลูก...มัวยืนอยู่ทำไม รีบไปจัดโต๊ะสิ” คุณนายหญิงคุยกับจุนไคเสร็จก็หันมาเอ็ดใส่ผม ทำให้ผมต้องรีบเดินไปจัดเตรียมโต๊ะอาหาร

     

    ผมเห็นจุนไคทำปากบอกประมาณว่า เดี๋ยวค่อยคุยกันนะ’ ผมพยักหน้ารับก่อนจะรีบเดินเข้าไปเตรียมโต๊ะในห้องอาหาร

     

    ผมก็คิดถึงเค้าเหมือนกันนะครับ

     

     

       
                                                                                                                                                                                                          ?SYDNEY?
       
                                                                                                                                                                                                          ?SYDNEY?
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×