ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    -|-The Rise of Fallen "High King"-|-

    ลำดับตอนที่ #3 : การแก้เผ็ดของมือมายา

    • อัปเดตล่าสุด 19 ก.ย. 50


    “ฉันต้องการปลอมตัวเป็นผู้ชาย”
     
     
    “อะไรนะ!!!!!!” คนที่ได้ฟังชัดเจนเต็มสองรูหูร้องสบถลั่นร้าน ราวกับว่าเขาลืมตัวไปเสียอย่างนั้น หญิงร่าเริงพลันมีสีหน้าชวนคอตก หล่อนไม่เห็นด้วยตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว ในตอนที่เพื่อนผู้น่าวิตกนั่งเล่าแผนการให้ฟัง ยิ่งปฎิกิรยาของสาวทิฟฟานี่ ยิ่งทำให้แน่ใจว่าแผนนี้ไม่เหมาะสมเอาเสียเลย
     
    “ได้ยินชัดแล้วนี่ ที่เหลือก็ ลงมือโล้ด” วิเอล่ายักไหล่สบายๆ ทำท่าเหมือนกับว่าเรื่องที่เธอพึ่งพูดออกมาเป็นเรื่องปกติธรรมดาสำหรับมนุษย์ ไม่เห็นจะน่าช็อคหรือส่งเสียงร้องโวยวายแต่อย่างใด แต่กับอีกสองคน ไม่ใช่แน่
     
     
    .........นี่เป็นเรื่องใหญ่พอตัวเลยทีเดียว.......
     
     
    เสียสติไปแล้วหรืออย่างไร อยู่ๆก็มาบอกว่าอยากปลอมตัวเป็นผู้ชาย เพื่ออะไรกัน
     
     
    แล้วยังจะทำเป็นไม่รู้ร้อนรู้หนาว ทั้งๆที่ไอ้คนฟังนั่งหัวโด่อยากจะเอาถ้วยชาทุบหัวยัยนี่ให้สติสตังมันเข้าที่เสียรู้แล้วรู้รอด เผื่อว่าสมองอาจทำงานเป็นปกติ ล้มเลิกความคิดงี่เง่าไปเสียทีได้
     
    “เดี๋ยวสิจ๊ะ ลงมืออะไรกัน เจ๊ยังไม่เข้าใจเลยว่าคุณน้องวีล่าจะทำแบบนั้นไปทำไมกัน” เจนนิเฟอร์ร้องทัก ในสมองของเขาตอนนี้กลับตื้อและเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจอย่างยิ่งยวดในตัวสาวมุ่งมั่นคนนี้สักนิดเดียว
     
    วิเอล่าเริ่มหัวเสียอีกรอบ “ทำไปก่อนเถอะค่ะ!! ไว้ทำเสร็จแล้วจะบอก”
     
    “เห็นด้วยค่ะ เพราะเรื่องนี้ต้องอาศัยฝีมืออันงดงามของเจ๊มาก ไว้เจ๊แปลงร่างวีล่าเค้าเสร็จ เราค่อยเล่านะคะ” คาธอเรียเริ่มเปลี่ยนท่านั่งมาเป็นนั่งไขว่ห้างแทน หล่อนขยับตัวบนเก้าอี้แบบคนร้อนรน โดยมีคนที่กำลังจะแปลงร่างพยักหน้ารัวๆหลายรอบ
     
    คนโดนสั่งงานจ้องใบหน้าทั้งสอง แม้ว่าดวงตาทั้งสองข้างยังคงเต็มไปด้วยคำถามและความอยากรู้อยากเห็น แต่ในเมื่องานมาถึงตัวแล้วจะทำอย่างไรได้ ยิ่งคาธอเรีย ยกยอปอปั้นตัวเองแบบนั้น ทำให้เขามีแรงฮึดในการทำงานชิ้นนี้มากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว เจนนิเฟอร์พยักหน้าหนึ่งทีแล้วตบมือ
     
    “โอเค!!! คุณน้องขา เจ๊จะแปลงโฉมคุณน้องเอง แน่นอน ไม่เพียงแค่ทรงผม แต่จะช่วยเรื่องหน้าตาด้วย” เจนนิเฟอร์บอกเสียงใส เป็นเครื่องหมายแสดงความกระตือรือร้นในการทำงานชิ้นเอก
     
    “ห๊า!!!!! จะแปลงหน้าฉันด้วยเหรอ!!!!”
     
    เจนนิเฟอร์ส่งเสียงฮึดฮัด ไม่พูดพล่ามทำเพลงอะไรมากมาย แค่คว้าข้อมือบางของวิเอล่า แล้วลากอย่างไม่สนใจไปที่ห้องทำวิกที่อยู่ด้านหลัง คาธอเรียพ่นลมทางจมูกนิดนึง ก่อนที่จะลุกขึ้นและเดินตามทั้งสองไป
     
    ทันทีที่ถึงหน้าห้อง ประตูสีขาวที่มีหน้าต่างทรงกลมเล็กๆอยู่ในระดับสายตาคนมองลอดผ่านเข้าไปในห้องได้ แต่ตอนนี้เป็นเพียงความมืดเท่านั้น เจนนิเฟอร์กำลูกบิดสีเงิน แล้วบิดเพียงเล็กน้อยเพื่อให้มีเสียงดัง คลิก พร้อมกับเปิดประตู ขนาดความกว้างสำหรับลอดเข้าไปได้ทีละคน วิเอล่าและคาธอเรียเข้ามาในห้อง พร้อมกับเจนนิเฟอร์ที่เปิดสวิตช์ไฟข้างประตู
     
    แสงสว่างสีขาววาบขึ้น ปรากฎเป็นห้องขนาดไม่ใหญ่มากที่ล้อมรอบไปด้วยผนังสีขาวสะอาดตา ด้วยความที่เจ้าของร้านเป็นคนจุกจิกเรื่องสกปรก จึงทำให้ร้าน ยัวร์ส ออร์ เดย์ ดูสะอาดสะอ้านและใหม่เอี่ยมอยู่เสมอ ตรงหน้าพวกเขาทั้งสามคน มีกระจกบานใหญ่และยาวชิดผนังตลอดจนอีกด้านหนึ่ง เก้าอี้สีดำมีพนักแขนอันเล็กตั้งอยู่หน้ากระจก เอาไว้สำหรับให้ลูกค้าที่ต้องการมาทำวิกนั่งลงและตรวจดูความเรียบร้อย นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์อื่นๆทำหรับเซ็ทผมตั้งอยู่หน้ากระจกด้วย
     
    “ห้องนี่ล่ะจ้ะ คุณน้องวีล่านั่งก่อนนะจ๊ะ เดี๋ยวเจ๊มา คุณน้องคาเรียรอแปบนะจ๊ะ เจ๊จะลากเก้าอี้มาให้” พูดจบ เจนนิเฟอร์ก็รีบร้อนออกจากห้องไป ทิ้งให้ลูกค้าหญิงคนงามทั้งสองนั่งจ้องหน้ากันสักครู่ ก่อนที่จะเอ่ยออกมาพร้อมๆกัน
     
    “บริการดีแบบนี้ มีหวังจ่ายบานแหงเลย” โดยเฉพาะวิเอล่า ที่แกล้งคอตกลงมาอย่างจงใจ  
     
     
     
     
    ผ่านไปไม่กี่นาที เสียงเปิดประตูดัง ผวัะ!! โดยฝีเท้าของเจนนิเฟอร์ที่เตะให้ประตูเปิดออก เข้ามาพร้อมกัยลากเก้าอี้สีดำอีกตัวหนึ่งมาให้คาธอเรียได้นั่งอย่างสบาย และยังไม่ทันที่หญิงหน้าอ่อนเอ่ยคำขอบคุณ ร่างโปร่งก็พุ่งทะยานวิ่งปลิวออกไปจากห้องแล้ว รวดเร็วจนทั้งสองยังต้องตาค้าง
     
    “.....ไฟแรงดีเนอะ.....” วิเอล่ากล่าวพึมพำ
     
    “อือ” คาธอเรียรับเบาๆ ยังคงอึ้งกับความตั้งใจของสาวเทียมคนสนิท
     
    สิบนาทีต่อมา เสียงประตูสีขาวถูกเปิดก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เบากว่าครั้งที่แล้วมาก พร้อมกับเสียงย่ำเท้าของเจนนิเฟอร์ และเสียงเหมือนลูกล้อครูดไปกับพื้นกระเบื้อง โดยลูกค้าทั้งสองที่นั่งรออยู่นานจนในมือของทั้งคู่ต่างก็มีนิตยสารแฟชั่นของร้านถืออ่านกันเอาไว้แล้ว
     
    “มาแล้วค่า คุณน้อง” ใบหน้าของชายที่ดูสมหญิงโผล่ออกมา ต้องกับแสงไฟและสะท้อนเข้ากับสีผมไฮไลท์อันแสบสันบาดตา คาธอเรียแกล้งเอามือป้องตาไว้เพื่อกันแสงสะท้อน
     
    “ผมของเจ๊นี่แรงดีนะคะ ทำเอาตาฉันจะไหม้เป็นจุลอยู่แล้ว” หล่อนยิ้มแย้มเชิงล้อเล่น วิเอล่าที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ก็หมุนตัวกลับมาเกาะพนักเอาไว้และปล่อยหัวเราะก๊าก
     
    “หึย-------- คุณน้องคาเรียไม่ต้องเว่อร์ขนาดนั้นก็ได้จ้ะ เจ๊ชอบสีแบบนี้จะทำไมยะ” คนโดนล้อเข้าให้แกล้งทำหน้าเอาเรื่องเล็กๆ มือท้าวสะเอว ก่อนที่จะหันไปหาวิเอล่า “คุณน้องก็ด้วย ถ้าอยากให้เจ๊ช่วยก็หยุดหัวเราะแล้วนั่งสงบๆสักทีสิจ๊ะ”
     
    “ฉันนั่งสงบเสงี่ยมตั้งนานแล้ว เพราะเจ๊เข้ามานั่นแหละ ฉันถึงต้องหัวเราะ” วิเอล่ายิ้มยิงฟัน ในขณะที่เจนนิเฟอร์ตั้งท่าจะโต้กลับ แต่ก็ยั้งใจเอาไว้ได้และหันไปเข็นถาดสีดำเอามาไว้ตรงหน้าสาวปากดี
     
    “เอ้า เจ๊เอาวิกผมสั้นของผู้ชายมาให้คุณน้องเลือก จะลองทรงไหนก่อนดีจ๊ะ” เจนนิเฟอร์ถาม ชี้ไปยังถาดที่ใส่หุ่นหน้าคนพร้อมวิกผมสั้นแบบต่างๆ แม้แต่สีก็ยังมีให้เลือกเยอะจนทั้งวิเอล่าและคาธอเรียต้องกวาดตามองวิกผมเหล่านั้นให้ทั่ว แล้วมองหน้าละอ่อนของหญิงเทียมร่างโปร่งด้วยสายตาทึ่งๆ
     
    “นี่ขนวิกพวกนี้มาคนเดียวเลยเหรอ เพื่อมาให้ลองเนี่ยนะ” วิเอล่าถามตรงๆ พลางชี้ไปที่วิกผม
     
    “แหม ก็ใช่น่ะสิจ๊ะ เจ๊ไม่รู้ว่าคุณน้องอยากได้ทรงอะไรบ้าง เลยเอามาให้เลือกตั้งหลายแบบ ไม่ชอบเหรอจ๊ะ”
     
    สองสาวจ้องเจ้าของร้านไฟแรง รู้สึกนับถือในบริการขึ้นมาทันควัน พวกหล่อนหันไปมองหน้ากันเอง และคลี่ยิ้มกว้างๆพร้อมกัน
     
    วินาทีต่อมา ทั้งสามต่างก็สนุกสนานกันยกใหญ่ กับการเลือกแบบทรงผมและสีที่หญิงผมน้ำตาลเข้มถูกใจ บ้างก็ยกขึ้นมาลอง แล้วเปลี่ยนสลับกันไป คาธอเรียเองก็ไม่พลาดโอกาสนี้ เมื่อเห็นเพื่อนตัวเองได้ลองวิกผมอย่างสำราญใจ ตัวหล่อนเองก็เอาขึ้นมาสวมบ้าง สร้างเสียงหัวเราะในแบบลูกผู้หญิง และ ผู้ฉิงอีกคน
     
    “เข้าใจหานะคะ มีแบบยาวด้วย” วิเอล่ายกวิกผมยาวไม่มากสีดำสนิทขึ้นมาพิจารณา “แน่ใจเหรอคะว่าไม่ใช่วิกผู้หญิง”
     
    “แหม ผู้ชายบางคนเขาก็อยากจะใส่วิกผมยาวๆบ้างนี่จ๊ะ ดาราดังตั้งหลายคนที่ไว้ผมยาว เจ๊ล่ะช๊อบชอบ” เจนนิเฟอร์บิดตัวไปมา ยกมือทั้งสองข้างขึ้นแล้วแนบแก้มตัวเองทำท่าเขินอายกรี๊ดกร๊าดเหมือนเด็กผู้หญิง ทั้งๆที่ตัวเองก็อายุปาเข้าไปเกือบสามสิบ และไม่ใช่เพศหญิงด้วย ทั้งสองมองอย่างขบขันชอบใจ
     
    “แต่ถ้าจะปลอมเป็นผู้ชาย วิกผมสั้นไม่ดีกว่าเหรอ เธอหน้าหญิงจะตาย ขืนใส่วิกผมยาวเขาก็รู้สิ” คาธอเรียทัก แล้วหยิบวิกผมสั้นกุดสีน้ำตาลออกแดงแล้วยื่นให้ แต่วิเอล่าย่นจมูกพลางส่ายหน้า
     
    “ไม่ล่ะ ฉันไม่ชอบทรงสั้นกุด ฉันชอบที่เขาไว้ทรงกันมากกว่า” วิเอล่าปฎิเสธ หล่อนกวาดสายตาอย่างรวดเร็ว
     
    “ฉันวางไว้แถวนี้นี่นา” วิเอล่าพูดเบาๆเชิงบ่นกับตัวเอง ทันใดนั้น สายตาอันเฉียบคมก็สะดุดเข้าให้กับวิกผมที่ขลุกอยู่ตรงมุมถาด เธอหยิบวิกนั่นขึ้นมา เป็นวิกผมสีน้ำตาลอ่อนที่ตัดสั้นเป็นทรงสวย “นี่ล่ะ ฉันลองแล้ว มันเข้าท่ามากเลย ทรงนี้ก็แล้วกัน เจนนิเฟอร์คะ”
     
    เจ้าของชื่อเรียกยิ้มอย่างพอใจ “ตาแหลมมากเลยนะจ๊ะ คุณน้องวีล่าเลือกถูกแล้ว เจ๊รักทรงนั้นมาก และคิดว่าคงเหมาะกับหน้าขาวๆของคุณน้องแน่ๆ”
     
    “งั้นมาลองกันเลยดีกว่า ฉันชักอยาเห็นเร็วๆแล้วสิ” วิเอล่าเร่ง ความตื่นเต้นพุ่งขึ้นมาจุกอก เช่นเดียวกันกับคาธอเรีย พวกเธออยากรู้จริงว่าหากแปลงเป็นผู้ชายแล้วจะเป็นอย่างไร เจนนิเฟอร์ตอบรับสนองความต้องการ ด้วยการหยิบเครื่องมือสำหรับเก็บผมยาวเพื่อสวมวิกขึ้นมา
     
    “ไม่ต้องกังวลจ้ะ เจ๊ทำได้ทุกอย่างตามความปราถนาของลูกค้า เชื่อมือเจ๊เถอะนะ อีกเดี๋ยวก็ได้หล่อแล้ว”
     
    “เป็นผู้หญิง มันจะหล่อได้อย่างไร” คาธอเรียย้อนถามทันควัน
     
    “เจ๊ก็พูดไปอย่างนั้นแหละค่ะ คุณน้องคาเรียขา นานๆทีเจ๊ก็อยากจะสวมบทนักพูดกับเขาบ้าง” เจนนิเฟอร์ตอบกลับอย่างเสียฟอร์มหน่อยๆ กิ๊ปจำนวนมากเริ่มละเลงขึ้นไปอยู่บนศีษระของวิเอล่า
     
    “เจ๊คะ ติดให้แน่นๆหน่อยนะคะ ฉันยังไม่อยากหน้าแตกเพล้งใหญ่ต่อหน้าพวกนั้น” หญิงสาวกำลังมองกระจก สะท้อนภาพของตนเองที่เหมือนกับมีตัวอะไรเล็กๆเกาะอยู่บนเส้นผมเต็มไปหมด คนมีประสบการณ์ท่วมท้นอย่างเจนนิเฟอร์ย่อมรู้ดีที่สุด ถึงวิธีการสารพัดเพื่อรักษาทรงผมนั้นให้คงอยู่รอดปลอดภัยตลอดทั้งวัน
     
    “หืมมมม-------- เชื่อมือเจ๊เถอะจ้ะ!! คุณน้องขา แม้คุณน้องจะโดนตบ โดนต่อย แถมเตะซ้ำอีกที กลิ้งไปอีกประมาณยี่สิบตลบ แถมกลิ้งตกท่ออีกตังหาก” เจนนิเฟอร์เอ่ยสมมติเหตุการณ์ในไม่น่าพิสมัยต่างๆนาๆขึ้น เสริมประโยคสุดท้ายขึ้นมาด้วยความสะใจนักหนา “วิกผมของคุณน้องก็ไม่หลุดหรอกจ้ะ!!! เจ๊รับประกัน!!!”
     
    “อืม แน่นๆแบบนี้ล่ะดี แต่ไม่ต้องสมมติเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นมาก็ได้ สรุปคือเจ๊ห่วงแต่วิกผมของตัวเองสินะ”
     
    วิเอล่าหันกลับมาทั้งรอยยิ้มหวานแหว แต่เพื่อนสนิทคนเก่าคนแก่อย่างทั้งสองคนในห้องย่อมไม่พลาดต่อรอยยิ้มอันตรายนั่น เจนนิเฟอร์ถอนหายใจ ยกมือทั้งสองข้างขึ้นเพื่อหมุนศีษระของลูกค้าเพื่อให้กลับไปมองที่กระจกอีกรอบ แต่ดูท่าทางว่าจะหมุนอย่างเร็วและรีบไปหน่อย ทำให้คนโชคร้ายอ้าปากค้างกว้างๆ เจ็บจี๊ดจนพูดไม่ออก
     
    “อย่ามัวฝอยอยู่เลยจ่ะ!! คุณน้องนั่งตรงๆนิ่งๆ ตามองกระจกอย่างเดียว เดี๋ยวเจ๊จะใส่วิกให้แล้ว” คนเป็นต้นเหตุทำเป็นเรื่องปกติ มือซ้ายหยิบวิกผมสีน้ำตาลอ่อนขึ้นมา จับนิดจับหน่อยเพื่อให้สภาพพร้อมใช้งาน
     
    วิเอล่าเฝ้ามองความเปลี่ยนแปลงของตัวเองที่เป็นภาพสะท้อนจากกระจกบานใหญ่ตรงหน้า ใจเต็มรัวเมื่อรู้ว่าตนนั้นจะได้ทำอะไรที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน
     
    แต่แล้ว.............เสียงกรีดร้องดัง คล้ายๆว่าโหยหวนนิดๆ ทำให้คาธอเรียที่นั่งอยู่ไม่ไกลนักสะดุ้งสุดตัวทันที
     
    “อ๊าาาาาาาาาาาา.........!!!!!!!!”
     
    ต้นเสียงนั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นคนที่กำลังจะโดนแปลงโฉม เสียงรุนแรงที่แสดงถึงความเจ็บปวดทรมานแสนสาหัสดังต่อเนื่อง มีกระตุกบ้าง หยุดบ้าง จนเหมือนกับจะไม่มีเสียง ทั้งนี้ อาจเพราะเจ็บจนแทบไม่มีแรงร้องออกมาเสียมากกว่า
     
    “ว๊ายยยยย!!!! คุณน้องขา!!!! ร้องเสียงแสบแก้วหูเหมือนวัวควายออกลูกเป็นคอกอย่างไรอย่างนั้นแหน่ะ!!!” เจนนิเฟอร์ที่อยู่ใกล้สุดอุทานออกมาดังลั่น เขากระโดดหย็องแหย็ง ออกอาการมากกว่าใครเขา
     
    “ก็มันเจ็บนี่คะ!!! โอะ...โอ๊ยยยยยย!!!!! ใช้อะไรติดเนี่ย!!! แน่ใจนะ ว่าไม่ได้ใช้ที่หนีบผ้าแทนกิ๊ป” วิเอล่าตะโกน น้ำตาหยดเล็กๆเริ่มซึมออกมาจากเนตรคู่สวย เจ็บจนบรรยายไม่ถูก ไม่นึกว่าแค่ติดกิ๊ปแค่นี้ต้องทรมานขนาดนี้ด้วย
     
    “ก็กิ๊ปนี่ล่ะจ่ะ!!! คุณน้องเว่อร์ไปเอง ใครจะสมองกลวงขนาดใช้ที่หนีบผ้ายะ เจ๊ต้องยึดให้มันแน่นๆกับหัวคุณน้อง ไม่อย่างนั้นแค่แมลงวันบินเกาะ มันก็หลุดแล้วล่ะจ่ะ!!! เอ้า ทนหน่อย!!!
     
    ช่างเสริมสวยมือโปรไม่มีคำพูดปลอบหรือเห็นใจสักนิด แต่กลับเดินหน้าทำกิจกรรมซาดิสม์ ที่สร้างความทุกข์ทรมานเจ็บจนเว่อร์ให้กับลูกค้าผู้น่าสงสาร กิ๊ปจำนวนมากเริ่มขึ้นไปละเลงอยู่บนเส้นผมของวิเอล่า ยิ่งทำให้ความทรมานของเจ้าของศีษระนั้นเพิ่มทวีคูณไปด้วย
     
    ตอนนี้หล่อนไม่คิดอะไรอีกแล้ว นอกจากอยากจะเอาด้ามหวีซี่เล็กทิ่มเข้าไปในรูจมูกของเจนนิเฟอร์ซะ
     
    ‘เขาแก้แค้นเรื่องเมื่อตะกี้นี้หรือเปล่านะ’ วิเอล่าคิดอย่างเคียดแค้นเจ็บใจ พลางหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมากัดขบเขี้ยวอย่างแรง
     
     
     
     
     
    “โอ้โห!!! เข้ากันกว่าที่คิดนะ”
     
    คาธอเรียส่งเสียงร้องอย่างตะลึง ปรบมือแปะๆ ขณะที่เจนนิเฟอร์ยืนมองผลงานชิ้นสำคัญของตนด้วยรอยยิ้มแห่งความภูมิใจยิ่งนัก
     
    ส่วนคนที่ผ่านขุมนรกมรสุมขุมใหญ่ กลับกลายเป็นศพหน้าเขียวหน้าม่วงทิ้งตัวลงนอนตายอนาจคาเก้าอี้ แม้ว่าหลังจากการยึดวิกกับเส้นผมสีน้ำตาลแล้ว จะไม่ทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกเจ็บอีก แต่ฝันร้ายที่เจ้าตัวคิดว่ายังไม่ตื่นนั้นก็ยังคงตามหลอกหลอนอยู่เป็นนาที
     
    “นี่!! จะนอนเป็นศพไม่สวยอีกนานแค่ไหนกันยะ!!! รีบลุกขึ้นมาแล้วมองตัวเองสิ ฉันว่ามันเจ๋งมากๆเลยล่ะ” เพื่อนหญิงผู้กระตือรือร้นเป็นพิเศษรีบปรี่เข้าไปพยุงซากเขียวขึ้นมา ตบหน้าแปะๆสองสามทีเพื่อให้คนโอเว่อร์ตื่นจากฝันร้ายขึ้นเสียที
     
    หล่อนค่อยๆคืนสติ ความเจ็บโบยบินไปหมดแล้วจึงทำให้วิเอล่ายันร่างบางของตนลุกขึ้น ตรงหน้า เป็นกระจกพอดิบพอดี วิเอล่าค่อยๆยืนขึ้น และเดินตรงเข้าไปใกล้กระจกจนห่างกันเพียงแค่ไม่กี่เซนต์
     
    แม้ดวงหน้านั้นจะเหมือนเดิมทุกอย่าง ยังคงความสวยดั่งหญิงตาคม เพียงแต่ว่า ไม่มีเส้นผมยาวที่ตกลงมาเคียงบ่าเคียงไหล่ยาวเกือบจรดเอว ทรงผมนั้นกลับซอยสั้นลงมาถึงต้นคอ จากสีผมเข้มจัด กลายเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ ที่น่าแปลกใจคือ ช่างรับกับใบหน้าหวานนั้นเหลือเกิน แม้แต่เจ้าตัวยังต้องคิดแบบนั้น
     
    “แต่ก็ยังดูเป็นผู้หญิงอยู่ดี” เจ้าของผลงานยิ้มมุมปาก กระดกหวีอันเล็กที่อยู่ในมือ “ต้องทำอะไรกับหน้าตาหน่อยนะจ๊ะ คุณน้อง”  
     
    “ตามสบายเลยค่ะ ตอนนี้เหมือนฉันกำลังเป็นหนูทดลองแปลงโฉมของเจ๊อย่างไรก็ไม่รู้แฮะ” วิเอล่ากลอกตาไปมา มองภาพของเจนนิเฟอร์ที่สะท้อนจากกระจก
     
    ชายสวยในชุดฟิตๆยิ้มแสยะ “เพิ่งรู้ตัวเหรอจ๊ะ” เขากล่าว
     
    เพียงแว่บเดียวเท่านั้นที่วิเอล่าคิดว่าทำถูกหรือเปล่าที่ขอให้เจ้าของร้านตัวแสบช่วย
     
     
    ไม่น่าเชื่อเลย ความมหัสจรรย์ของเหล่าเครื่องสำอางค์ต่างๆที่มีอยู่ในยุคนี้เปลี่ยนให้ผู้หญิงที่มีใบหน้าสวยงามสมสตรี กลายเป็นความงามที่ก้ำกึ่งกันระหว่างสองเพศ ไม่ทำให้ดูเป็นหญิงเกินไป แต่ด้วยความที่ยังมีเค้าโครงหน้าเล็กๆอย่างสาววัยรุ่น ทำให้ไม่สามารถแปลงได้อย่างสมบูรณ์แบบมากนัก นอกจากทำศัลยกรรม
     
    “ได้แค่นี้ก็ถือว่าสุดยอดแล้วล่ะค่ะ เจ๊” วิเอล่าร่างชายวัย 18 ปี หรือที่เจ้าตัวสมมติขึ้นมา มองหันซ้ายหันขวาอยู่หน้ากระจก คิ้วโก่งสวยของหล่อนถูกแต้มเติมให้กลายเป็นคิ้วหนาที่พยายามทำให้ดูเป็นธรรมชาติ หน้าบางส่วนถูกแต่งโทนให้ดูมีมิติและกว้างขึ้น ทำให้วิเอล่าดูเหมือนชายหน้าหวานคงความเยาว์
     
    “คนเขาอาจจะคิดว่าเธอเป็นผู้ชายหน้าสวย แบบนั้นก็ดีนะ แต่ระวังจะโดนเรียกว่า กระเทย ล่ะ” น้ำเสียงแกล้งเป็นห่วงเป็นใยที่ฟังแล้วเหมือนจะเยาะเย้ยมากกว่าดังมาจากเพื่อนสาวคนสนิท แต่คำพูดนั้น ทำให้ ชายหน้าสวย ที่ว่าต้องหันมาค้อนอย่างหนักด้วยความตะหงิดใจ
     
    “ปากเหรอยะนั่น อย่างไรซะ ถ้าพวกนั้นเรียกฉันแบบนั้นจริงๆ คิดหรือไงว่าฉันจะปล่อยพวกมันไปง่ายๆ”
     
    คาธอเรียกำลังจะตอบคำถาม แต่ก็ถูกสกัดเอาไว้ได้อย่างฉิวเฉียดด้วยคำพูดของเจนนิเฟอร์ คนโดนแทรกทำหน้ามุ่ย
     
    “คุณน้องวีล่าขา เจ๊แปลงโฉมให้คุณน้องแล้วนะ ตกลงบอกเจ๊ได้หรือยังว่าคุณน้องจะเอาโฉมใหม่นี้ไปอวดใคร” เจนนิเฟอร์ทวงสัญญาระหว่างลูกค้าที่ให้เอาไว้ตั้งแต่ก่อนลงมือทำ ท่าทางกระหายอยากรู้ความจริงเต็มแก่ ซึ่งถ้าพูดกันจริงๆ เหตุผลส่วนหนึ่งที่เขายอมทำตามข้อตกลงก็เพราะอยากจะฟังเรื่องราวจากลูกค้าหน้าสวยนี่แหละ
     
    วิเอล่าที่แปลงโฉมแล้วเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะหัวเราะกลบเกลื่อน เอามือเกาท้ายทอยตนเอง “อ๋อ สัญญาสินะ”
     
    “ถ้าเธอไม่อยากบอก ฉันบอกเองก็ได้” คาธอเรียโพล่งออกมาด้วยความรำคาญ พลางทิ้งตัวนั่งลงกับเก้าอี้อย่างแรง วิเอล่าหันไปหาเพื่อนของหล่อน ยิ้มแหยๆ
     
    “ไม่ต้องหรอก ขอบใจ”  
     
    ทันทีที่วิเอล่าหันกลับมา หล่อนสังเกตได้อย่างชัดเจนเลยว่าเจนนิเฟอร์มีท่าทียินดีผิดปกติ เขารู้ว่าเธอต้องยอมบอกแน่ๆ เท่านี้ก็จะได้รู้เรื่องมันส์ๆเด็ดๆอีกเรื่องหนึ่งแล้ว ร่างสูงคิด
     
    หญิงร่างชายถอนหายใจเบาๆ ในเมื่อเรื่องมาขนาดนี้เห็นทีจะเลี่ยงไม่ได้ เล่าก็เล่า เผื่อว่าอาจจะช่วยอะไรเราได้บ้าง
     
    “พี่ชายของฉัน หมู่นี้ไม่ค่อยกลับบ้าน........”
     
    “อ้าว!!! ทำไมล่ะ” ยังไม่ทันให้คนเริ่มเล่าจบประโยค เจนนิเฟอร์ก็ขัดขึ้นมาก่อนเสียแล้ว วิเอล่าทำท่าเคืองๆ
     
    “ก็ฟังฉันก่อนสิคะ เจ๊นี่ก็!!!” ชายสวยร้องขึ้น ทำให้คนโดนเอ็ดทำท่าจ๋อยหน่อยๆ เมื่อเห็นว่าสงบดีแล้ว เธอก็เล่าต่อทันควัน
     
    “คงเคยเห็นพี่ชายฉันใช่ไหมคะ พี่เจอัส..........”
     
    “โอ๊ยยยย!!!!! ทำไมจะไม่เคย!!! ก็เจอัสจังเขาออกจะหล่อขนาดนั้นเจ๊ต้องจำได้อยู่แล้ว แหม!!!”
     
    เจนนิเฟอร์เงียบกริบ เมื่อเห็นสีหน้าของวิเอล่า
     
    “ถ้าอยากจะให้วีล่าเขาเล่า ก็อย่าเพิ่งไปขัดตอนที่เขากำลังเล่าอยู่เลยค่ะ เพราะเขาจะหัวเสียและหมดอารมณ์ทันที” คาธอเรียเสริมเบาๆเมื่อสัมผัสได้ถึงบรรยากาศมาคุมืดๆน่ากลัว เจนนิเฟอร์พยักหน้าอย่างตื่นกลัวหน่อยๆ มองไปทางต้นเหตุของบรรยากาศดำมืด
     
    วิเอล่าก้มหน้า เหมือนกับพยายามสะกัดกลั้นอารมณ์เอาไว้ ส่งผลให้ไม่มีใครกล้าเอ่ยคำพูดใดๆออกมาทั้งสิ้นแม้กระทั่งหายใจก็เถอะ จนกระทั่งชั่วอึดใจหนึ่งต่อมา วิเอล่าเงยหน้าขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มเบิกบาน
     
    “งั้นก็ ต่อนะคะ” หล่อนพูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ก็ทำให้แม้แต่คาธอเรียที่สนิทกันมานานเหงื่อแตกพลั่กๆได้ “ฉันพอจะรู้ว่าพี่เจอัสอยู่ที่ไหน และนี่คือวิธีการพิสูจน์”
     
    “พิสูจน์!? จะพิสูจน์อะไรกันจ๊ะคุณน้อง เจ๊ไม่เคลียร์เลย” เจนนิเฟอร์สั่นหัว ราวกับจะทำให้คอของเขาหลุดออกจากบ่า
     
    “ฉันพอจะสืบมาได้บ้างว่า ที่โกดังใกล้ๆกับท่าเรือคัลตาก้า เห็นเขาว่าเป็นโกดังนะคะ ฉันไม่เคยเห็นจริงๆหรอก มีกลุ่มผู้ชายอยู่กลุ่มหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าเป็นใครบ้างและมาจากไหน อายุเท่าไหร่ก็ไม่รู้ รู้เพียงแต่ว่าเป็นกลุ่มชายล้วน ชาวบ้านพากันตั้งฉายาให้พวกนี้ว่า เคิร์ซ (Curse)
     
    เสียงแหลมแต่แฝงความหวานเอาไว้ดังขึ้นทันที “ฉันนึกได้อีกอย่างแล้วล่ะ!!! วีล่า ฉันรู้จักชื่อหัวหน้ากลุ่มด้วย”
     
    วิเอล่าปรายสายตามองด้วยความประหลาดใจกับข้อมูลใหม่ “เหรอ ชื่ออะไรล่ะ” เธอถาม
     
    “คาออส” คาธอเรียตอบเสียงใส “ชื่อเท่ดีเนอะ ไม่รู้เป็นโค้ดเนมหรือเปล่า”
     
    เจนนิเฟอร์ทำท่าเหมือนกับจะละลายเละพื้นไปเสียให้ได้ เพียงแค่ได้ยินชื่อที่ไม่รู้ว่าปลอมหรือเปล่าเท่านั้น “โอ๊ย ต้องหล่อลากดินแน่ๆเล้ย--------” เขาลากเสียงยาวจนน่าขนลุก
     
    “เฮอะ ฉันไม่สนหรอกว่ามันจะชื่ออะไร แต่ดูท่าทางจะชอบอวดเก่ง คนแถวนั้นเลยต้องเรียกพวกมันด้วยความหวาดกลัว” วิเอล่าบอกปัด “มันน่าหมั่นไส้นัก ผู้ชายแบบนี้” เพราะคำพูดถากถางของหล่อน ทำให้คนที่ลงไปกองกับพื้นเงยหน้ามองด้วยสายตาไม่ชอบใจอย่างยิ่งยวด
     
    แต่หญิงสาวเจ้าของแผนการก็ไม่สน “ก็ไอ้กลุ่มนี้ล่ะ ที่เป็นปัญหา เพราะฉันรู้ว่าสาเหตุที่พี่เจอัสไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง เป็นเพราะโดนกลุ่มนี้ล้างสมองให้ไปเข้าพวกด้วย”
     
    “หรือเท่ากับว่าเป็นกลุ่มก่ออาชญากรรมดีๆนี่เอง” วิเอล่าจบด้วยการกระแทกเสียงเน้นสุดๆในตอนท้าย คิ้วหนาจากการตกแต่งขมวดจนทำให้ดูเข้มขึ้นมากกว่าเดิม และทำให้หน้าเธอดูเหมือนผู้ชายวัยรุ่นมากขึ้นนิดหน่อย
     
    “แค่นั้นถือว่าเป็นอาชญากรรมเลยเหรอจ๊ะ” เจนนิเฟอร์ถามแดกดัน ยื่นหน้ายื่นตาเข้าไปใกล้วิเอล่าจนเจ้าหล่อนต้องขยับหนีแทบไม่ทัน คาธอเรียหัวเราะคิกคักกับท่าทางของทั้งสองคน
     
    “ก็แหงน่ะสิ แต่ที่ฉันไม่เข้าใจคือ พอฉันบอกคุณแม่เรื่องนี้ คิดว่าคงจะจบสิ้นแล้ว แต่คุณแม่ไม่เห็นจะทำท่าเดือดร้อนตรงไหน กลับบอกฉันว่า ‘อย่าไปรบกวนพี่เขาเลยลูก ก็ไม่ได้ไปทำอะไรเสียหายร้ายแรงนี่’ หน้างี้ยิ้มแป้นเลยนะคะ!!! เหมือนกับว่าสิ่งที่พี่เจอัสทำมันน่าภูมิใจเสียเต็มประดา ฉันไม่เข้าใจจริงๆ!!!!”
     
    คนเล่าเรื่องอย่างเผ็ดร้อนระเบิดเสียงออกมาดังลั่น ด้วยความที่เจนนิเฟอร์อยู่ใกล้สุดถึงกับต้องเอามือใหญ่ปิดหูไว้ทั้งสองข้าง วิเอล่าเลียนเสียงคุณแม่ของเธอไปพร้อมทำท่าประกอบไปด้วย ซึ่งในความคิดเห็นของคาธอเรีย เธอเลียนแบบได้เหมือนมากจริงๆ
     
    “ก็เพราะอย่างนี้นี่แหละ ฉันถึงต้องไปเห็นด้วยตาของตัวเองเลยไง ฉันอยากรู้ว่าพวกนี้เขาเป็นอะไรกันแน่ แล้วทำไมพี่เจอัสถึงไปเข้าพวกทั้งๆที่แต่ก่อนพี่เขาไม่เคยยอมเป็นพวกกับใคร บางครั้งที่พี่กลับมา ฉันลองถามแล้วแต่เขาก็ไม่เคยยอมบอกฉัน” วิเอล่าระบายความอัดอั้นออกมาจนแทบหมดเปลือก ทุกๆคำพูดของเธอยิ่งทวีความดังของเสียงขึ้นเรื่อยๆจนในที่สุด เพื่อนสนิทคนร่าเริงต้องลุกขึ้นมาจับไหล่ปราม
     
    “เย็นเข้าไว้สิยะ เดี๋ยวเธอก็ได้รู้แล้วไม่ใช่หรือไง” ร่างเพรียวเอ่ยเสียงอ่อน มือขาวสวยจับเข้าที่ไหล่บางของหญิงเดือดดาล ในขณะเดียวกัน สาวเทียมที่เงียบไปจนผิดปกติก็ค่อยๆจับแขนเก้าอี้ตัวที่วิเอล่านั่งอยู่เพื่อยันกายตนเองให้ลุกขึ้น
     
    “แสดงว่า ที่คุณน้องปลอมตัวเป็นผู้ชาย ก็เพื่อไปขลุกอยู่กับกลุ่มนั้นเหรอจ๊ะ” เจนนิเฟอร์เอ่ยถาม พยายามควบคุมน้ำเสียงให้กลับมา วิเอล่าพยักหน้าสองที และมันทำให้ร่างสูงโปร่งกระโดดหย็องแหย็ง
     
    “อูยยยยยยย---------- ทำไมคุณน้องต้องลำบากลำบนลงทุนขนาดนั้นล่ะจ๊ะ!!! อยากจะไปล้วงความลับของหนุ่มๆเขา ไปแบบธรรมดาๆเป็นผู้หญิงก็ได้นี่จ๊ะ เจ๊ว่าบางทีอาจได้ข้อมูลอะไรมากกว่าด้วยซ้ำ อย่างเช่น.........” เจนนิเฟอร์ทำท่าคิด เอานิ้วชี้จิ้มคางตัวเองพร้อมกรีดกราย “สเป็ค!! ไง!! จ๊ะ!!!” รอยยิ้มเยาะเหมือนรู้ดีกระจายบนใบหน้าเจ้าของร้านหนุ่ม วิเอล่ามองตาหรี่ลง เหงื่อตกเล็กน้อย และเบือนหน้าหนี
     
    “แหวะ ฉันไม่สนหรอกค่ะว่าพวกนั้นจะมีสเป็คแบบไหน และถ้าเจ๊หมายถึงว่าพวกนั้นอาจต้อนรับผู้หญิงล่ะก็.....” เจนนิเฟอร์มองด้วยความสงสัย ก่อนที่จะได้รับคำตอบ
     
    “ฉันได้ยินมาว่า พวกนั้นไม่ยอมให้ผู้หญิงเข้ากลุ่ม ทำท่าเหมือนกีดกันเพศอย่างนั้นแหละ เพราะฉะนั้นเป็นไปไม่ได้เลยหากว่าฉันจะไปล้วงความลับในร่างผู้หญิง และคิดว่าพี่เจอัสคงไม่ช่วยด้วย”
     
    เจนนิเฟอร์ยืดอกขึ้น ตบมือรัวๆแสดงความดีใจอย่างถึงที่สุด “อ๊ายยยยยยย!!!!!! แบบนี้เจ๊ก็มีสิทธิ์น่ะสิยะ!!!! โฮะๆๆๆๆๆ” เสียงหัวเราะด้วยความสะใจดังกระจายทั่วห้อง
     
    “เจ๊คงมีสิทธิ์ที่พวกนั้นจะจับเจ๊โบกปูนถ่วงทะเลคนแรกเลยล่ะ” คาธอเรียแทรกด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน ทำเอาวิเอล่าต้องก้มตัวหัวเราะพรืด กิริยาของทั้งสองสาวสามารถหุบรอยยิ้มกว้างๆของคนมีสิทธิ์ให้กลายเป็นสีหน้าบู้บี้ทันที
     
    “อะไรกันยะ!!!! เขาอาจจะชอบคนอย่างเจ๊ก็ได้ใครจะไปรู้ เจอัสจังยังเคยชมเจ๊ว่า น่ารัก เลย” เจนนิเฟอร์แย้ง
     
    วิเอล่าหัวเราะระลอกสอง พลางส่ายมือเร็วๆ “นั่นพี่เจอัสเขาชมกระดุมลายหัวลูกหมาของเจ๊ตังหาก พี่เขาชอบเลี้ยงหมาน่ะ พอเขาจะพูดถึงกระดุม เจ๊ก็ไม่ฟังเอาแต่นัวเนียพี่เจอัส”
     
    เพราะประโยคเพียงประโยคเดียว ทำให้ขากรรไกรของคนเก้อค้างด้วยความตกใจ ดูเหมือนว่าผมสีแสดไฮไลท์ของเขาลุกขึ้นมาตั้งชันด้วย
     
    “ถ้าปลอมเป็นผู้ชาย บางทีอาจได้เข้าพวก และคราวนี้จะได้รู้ความลับที่พี่เจอัสไม่ยอมบอกสักทีสินะ” คาธอเรียพูดเสริมสบายๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเจ้าของร้านที่นิ่งงันแข็งเป็นหินไป
     
    “อา.....ใช่ มีอีกอย่างนะที่ฉันอยากจะรู้” วิเอล่าหันมาหาคาธอเรีย ดวงตาคมวาวนั้นดั่งมีไฟสุมสีเพลิงลุกขึ้นเต้นระรัว
     
    “ฉันอยากจะรู้ว่า พี่เจอัสเขาเป็นอย่างไรเมื่ออยู่กับกลุ่มที่เขาเทิดทูนนักหนา” แม้ดวงหน้าจะกลายเป็นชายหวาน แต่ก็ไม่อาจ กลบความเฉียบคมที่มักฉาบอยู่บนนั้นเสมอๆ วิเอล่ายิ้มมุมปาก และทำให้เธอดูเท่ขึ้นนิดหน่อย
     
    “วีล่า!!! เธอทำหน้าแบบนั้นบ่อยๆนะ!!! แล้วจะทำให้เธอดูเป็นผู้ชายมากขึ้น” คาธอเรียเห็นดังนั้นก็รีบจับไหล่เพื่อนสาวแน่น สงสัยว่างานนี้คงต้องฝึกฝนมำหน้าทำตาและท่าทางให้มากกว่านี้เสียแล้ว
     
    “.......คุณน้องขา.....”
     
    สองสาวสะดุ้งสุดตัว เพราะน้ำเสียงที่ได้ยินมันช่างโหยหวนและวังเวงอะไรเช่นนี้ แต่เจ้าของเสียงอันน่าสะพรึงกลัว ก็คือเจ้าของร้านหน้าอ่อนวัยที่ตอนนี้เหมือนซากอะไรสักอย่าง
     
    “อะ......อะไรเหรอคะ เจ๊” วิเอล่ายิ้มซีดๆเมื่อเห็นสภาพของเจนนิเฟอร์ เช่นเดียวกับคาธอเรียที่ดูเหมือนจะถอยหลังหนีไปไกลกว่า
     
    “คุณน้อง........คงไม่อยากใส่ชุดนั้นไปหาเจอัสจังหรอกนะจ๊ะ” เจนนิเฟอร์เอ่ยเสียงสั่นและยานคาง มือยกขึ้นอย่างช้าๆและชี้สั่นๆไปที่ร่างของวิเอล่า
     
    และพอทั้งสองก้มลงมอง จึงเข้าใจได้ทันที ถึงหล่อนจะแปลงหน้าแปลงตา สวมวิกผมให้ดูเหมือนผู้ชายเท่าไหร่ แต่ก็คงไม่สามารถทำให้ใครเขาเชื่อสนิทได้ หากอยู่ในชุดเสื้อหนาวแขนยาว กางเกงสีดำรัดรูปยาว แถมสวมกระโปรงยีนส์สั้นทับกางเกงอีกที ไม่ว่าจะดูอย่างไร นี่คือการแต่งตัวของผู้หญิงชัดๆ
     
    “ถึงว่าไง ว่าเราต้องไปร้านเสื้อผ้าอีก” วิเอล่าหันมาพูดกับคาธอเรีย ที่พยักหน้าเห็นด้วย
     
    “เจ๊ว่าน่าจะเปลี่ยนเสื้อก่อน ค่อยมาทำผมนะจ๊ะ” เจนนิเฟอร์ออกความเห็น สำรวจดูวิเอล่า
     
    “มันก็เหมือนกันนั่นแหละ” วิเอล่าแก้ตัวลวกๆ แม้จะรู้ดีว่ามันคงง่ายกว่ากันเยอะ
     
    “งั้นก็รีบไปดีกว่ามั๊ง นี่มันจะบ่ายสองแล้วนะ เธออยากจะไปให้ถึงก่อนสี่โมงไม่ใช่หรืออย่างไร” คาธอเรียยกข้อมือตนเองขึ้นเพื่อดูนาฬิกา เข็มบอกนาทีชี้อยู่ที่เลข 11 ซึ่งหมายความว่าขณะนี้เป็นเวลาบ่ายโมง 55 นาทีแล้ว
     
    วิเอล่ามองหน้าหญิงผมดำพร้อมกับพยักหน้า ถึงแม้จะดูเหมือนยังมีเวลาอีกมากก็ตาม แต่สิ่งที่เจ้าตัวตระหนักไว้ในใจอยู่ตลอดเวลา คือความเรื่องมากของตนเอง ปกติแล้วแค่เลือกซื้อเสื้อผ้าสำหรับใส่ไปเที่ยวเล่นๆ ก็ต้องกินเวลาไปอย่างน้อยสองชั่วโมงแน่นอน แต่นี่คือการเลือกเสื้อผ้าสำหรับใส่ปลอมตัว ถ้าไม่เลือกให้เข้ากัน หล่อนคงไม่พอใจเป็นแน่ ดังนั้น เวลาจึงจำเป็นมากที่สุดในภารกิจครั้งนี้
     
    “คุณน้องจะไปซื้อเสื้อแล้วใช่ไหมล่ะจ๊ะ” เจนนิเฟอร์ถามพลางเก็บอุปกรณ์ต่างๆ แทนคำตอบ สองสาวเดินออกไปทางประตู เพื่อรอจ่ายเงินที่โต๊ะทำงานหน้าร้าน
     
    “เจ๊คิดราคาเป็นกันเองนะจ๊ะ 3500 ก็แล้วกัน” ทันทีที่คนเก็บเงินเดินออกมา ก็เอ่ยปากบอกราคาทันที วิเอล่าคิ้วตกทันใด ส่งเสียงร้องอุทานอย่างตกใจในความเข้มงวดของสาวประเภทสองคนนี้
     
    “เจ๊คะ!!! ไม่เว่อร์ไปเหรอคะ นี่ฉันต้องนั่งทนเจ็บเพราะเจ๊เอาที่หนีบผ้ามาติดหนังหัวฉันนะ” หญิงแปลงโฉมบ่นกระปอดกระแปด อันที่จริงก็ไม่ใช่ว่าราคาจะสูงจนรับไม่ได้ เพียงแต่วันนี้เป็นวันพิเศษสำหรับเธอเท่านั้นเอง
     
    “โอ๊ย!!!!! คุณน้องวีล่าขา!!! จะเค็มไปถึงไหนกันจ๊ะ!!! เจ๊ลดให้แล้วนา------- จริงๆต้องสูงกว่านี้ด้วยซ้ำไป”
     
    ต้องเจ็บตัว แถมโดนหาว่าเค็มอมเงินไว้อีก วิเอล่าแทบทนไม่ได้ จึงทำให้ร่างบางต้องงัดเอาไม้ตายสุดท้ายออกมา
     
    “แต่วันนี้วันเกิดฉันนะคะ เจนนิเฟอร์” เธอใช้การแปลงร่างเป็นหนุ่มหน้าสวยลองอ้อนวอนอีกที พยายามอย่างยิ่งที่จะทำให้ใบหน้านั้นเกิดความน่ารักน่าเห็นใจมากที่สุดเท่าที่มารยาของเธอจะเอื้ออำนวย
     
    “เอ๋-----------!!!!! จริงหรือ คุณน้องคาเรีย” เจนนิเฟอร์เบือนหน้าหนีไปทางคาธอเรียทันที นั่นแปลว่า ยุทธการอ้อนของวิเอล่า ไม่ได้ผล
     
    “ค่า จริงๆนะคะ วันนี้วันเกิดวีล่า อายุครบ 18 ปีพอดี เลยฉลองวันเกิดตัวเองด้วยการทำอะไรบ้าๆนั่นอย่างไรล่ะคะ”
     
    คนได้ฟังกรีดกรายนิ้วเล็กน้อยแล้วยกขึ้นปิดปาก ดวงตาเบิกกว้างขึ้น ค่อยๆหันหน้าช้าๆมาหาเจ้าของวันเกิด ที่เริ่มมีสีหน้ามุ่ย
     
    “ต๊าย!!!!!!! แล้วก็ไม่บอกนะจ๊ะ คุณน้อง!!!! แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะจ๊ะ!!!! ปีนี้ก็จับผู้ชายหล่อๆให้ได้สักคนนึงนะ เจ๊อยากเห็นมานานแล้ว” เจนนิเฟอร์ยิ้มยิงฟันอย่างยินดีปรีดา ตบหลังวิเอล่าเบาๆพร้อมคำอวยพรที่เจ้าตัวไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่
     
    “แล้วตกลง เจ๊ว่าอย่างไรคะ วันเกิดทั้งที ไม่มีอะไรสมนาคุณหน่อยเหรอ” ได้ที วิเอล่าเข้าไปหาพร้อมอ้อนวอนอีกรอบ สิ่งที่เธอต้องการจริงๆคือวิกฟรีๆที่เธอกำลังสวมใส่อยู่ตังหาก แต่ดูท่าทางว่าจะยาก หากเจ้าของร้านคือ เจนนิเฟอร์
     
    “จะเอาวิกฟรีใช่ไหมล่ะจ๊ะ!!” เจนนิเฟอร์มองออกทันควัน น้ำเสียงเหน็บแนมหน่อยๆ วิเอล่ายิ้มแห้งๆ “เอางี้ เจ๊ลดให้อีก 20% วันเกิดทั้งทีนี่จ๊ะ”
     
    วิเอล่าถอนหายใจหนักๆ ทิ้งแขนทั้งสองข้างให้ตกลงที่ลำตัวอย่างปลงตก ถึงจะลดให้อีก 20% แต่หล่อนก็ต้องจ่ายไป 2800 อยู่ดี ซึ่งคิดหักลบกับค่าเจ็บปวดทรมานนั้น สำหรับวิเอล่า เป็นการแลกเปลี่ยนที่ไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่
     
    แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อของๆร้าน ยัวร์ส ออร์ เดย์ ก็เป็นของมีคุณภาพดี เธอควักกระเป๋าเงินออกมาเพื่อหยิบแบงค์ “แต่เจ๊ก็ไม่ได้มีแค่นี้นะจ๊ะ” เสียงแหลมที่ดัดมาแล้วเอ่ยขึ้น นิ้วเรียวที่กำลังจับแบงค์อยู่ซุกลงไปอีกครั้งทันที
     
    “อะไรหรือคะ” วิเอล่าถามด้วยใบหน้าอย่างคนมีความหวัง
     
    “ก็วันเกิดของคุณลูกค้าที่น่ารักทั้งที เจ๊จะออกเงินค่าเสื้อให้เองนะจ๊ะ ถือเป็นของขวัญจากเจ๊ก็แล้วกัน”
     
    ทั้งร้านตกอยู่ในความเงียบ ไม่มีแม้แต่เสียงเสียดสีขยับสักนิดของพื้นรองเท้า รวมทั้งไม่มีแม้แต่เสียงแหลมๆร้องอุทานของหญิงสาว ปรากฎการณ์นี้เหมือนกับตอนที่แม่ตัวดีประกาศว่าอยากจะปลอมตัวเป็นผู้ชาย และด้วยความผิดธรรมชาตินี้เอง ที่ทำให้แววตาแปลกใจบังเกิดขึ้นในดวงตาของเจนนิเฟอร์
     
    และทำให้สาวเทียมผู้รักการเสริมสวยผงะด้วยความตกใจ เมื่อเห็นสีหน้าอ้าปากค้าง ตาเบิกโพลงกว้างอย่างถึงที่สุด ของสองสาว เรียกได้ว่าเป็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความคาดไม่ถึง ไม่มีทางเชื่อในสิ่งที่เจ้าของร้านโพล่งออกมาแม้สักเปอร์เซนต์เดียว
     
    “อะไรกันจ๊ะนั่น!!! สีหน้าแปลกประหลาดโอเว่อร์แบบนั้นมันหมายความว่าอย่างไรห๊า!!! นี่ไม่เชื่อกันหรือไงจ๊ะว่าเจ๊จะออกค่าเสื้อให้” เจนนิเฟอร์ร้องเสียงดัง นี่เขากลายเป็นตัวเค็มถึงขนาดแค่ให้ของขวัญยังไม่เชื่อกันอีกหรืออย่างไรนี่
     
    “ไม่เชื่อค่ะ”
     
    ด้วยคำพูดที่ไม่มีการลังเลเลยของทั้งสองคน ทำให้คนเค็มเป็นเกลือกุมขมับ
     
    “เจ๊พูดคำไหนคำนั้นจ่ะ!!!! แต่ต้องมีข้อแม้นะ”
     
    “เอ๋ ข้อแม้อะไรเหรอ” วิเอล่าถามทันทีด้วยความสงสัย
     
    เจนนิเฟอร์แบมือออกมาตรงหน้าหญิงสาวในร่างเกือบเป็นชาย มือท้าวสะเอวเอียงคอเล็กน้อย “จ่ายเจ๊มาก่อนนะจ๊ะ คุณน้อง แล้วเจ๊จะบอก”
     
    วิเอล่าหน้าเบ้ทันที “รู้แล้วล่ะน่า เจ๊ก็” เธอเปิดกระเป๋าเงินอีกรอบ และยัดแบงค์ลงไปในมือเจนนิเฟอร์ ‘นี่ไม่เรียกว่าเค็มแล้วจะให้เรียกว่าอะไรหา’ หล่อนคิดในใจ
     
    เจนนิเฟอร์รับเงินด้วยความดีใจ กดรหัสลงบนแป้นคอมพิวเตอร์เพื่อยืนยันว่าบาร์โค้ดของวิกผมสีน้ำตาลอ่อนนี้ได้ถูกซื้อไปอย่างถูกต้องแล้ว เขาไขกุญแจลิ้นชักทำงาน ก่อนดึงมันออก นับจำนวนเงินและเรียงลงไปบนกองเงินที่มีอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว
     
    “เจ๊น่ะ จะไปเลือกซื้อเสื้อด้วย” เจนนิเฟอร์เอ่ยในที่สุด ท่าทางกระดี๊กระด๊าเต็มที ทั้งบิดซ้ายบิดขวา แสดงถึงความเริงร่าสุดๆ วิเอล่ากับคาธอเรียมองคนสนิทด้วยสายตาบอกไม่ถูก
     
    “ห๊า!!!? จะไปซื้อด้วย เจ๊คะ แล้วร้านล่ะคะ” คาธอเรียถามขึ้น เสียงแหลมนั้นหมดความหวานอย่างสตรีลงทันใด
     
    “ไม่ต้องเป็นห่วงจ๊ะ คุณน้อง” เจ้าของร้านเอ่ยด้วยความมั่นใจเต็มที่ ร่างสูงหมุนกุญแจด้วยนิ้วชี้ ท่าทางยังคงดัดจริตเหมือนเดิม “เจ๊มีคนเฝ้าแทนก็แล้วกันน่า นานๆทีเจ๊ก็อยากจะพักงานบ้างนี่จ๊ะ”
     
    “อีกเดี๋ยวลูกค้าก็จะเข้าแล้วไม่ใช่หรือคะ เจ๊ไม่อยู่จะดีเหรอ” วิเอล่าเสริมด้วยท่าทางเป็นกังวล หล่อนกังวลเหลือเกินว่าเวลาที่ล่วงเลยไปทีละน้อยมันจะไม่พอต่อการไปซื้อเสื้อผ้า และถ้าเจนนิเฟอร์ที่มีนิสัยเรื่องมากกำลังสามแล้วล่ะก็ งานนี้คงไม่ต่ำกว่าสามชั่วโมง สตรีในร่างผมสั้นคิดอย่างหดหู่
     
    “เจ๊บอกแล้วไงจ๊ะ!!! ว่ามีคนมาแทนได้ ไม่ต้องห่วงร้านแทนเจ๊หรอกจ่ะ คุณน้องขา” เจนนิเฟอร์ตอบคำถามอย่างร่าเริง โดยที่ไม่รู้เลยว่า ความห่วงในใจของวิเอล่านั้นมันคนละเรื่องกัน
     
    เมื่อเห็นสีหน้าที่ดูไม่ดีของคุณน้องทั้งสอง เจนนิเฟอร์หยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องเล็กกระจิ๊ดริ๊ดขึ้นมา ไล่สายตาหาเบอร์โทรศัพท์ที่ต้องการ แล้วกดส่งออกอย่างช่วยไม่ได้
     
    เพียงไม่กี่อึดใจเท่านั้น หญิงร่างบางได้ยินเสียงที่ดัดแหลมมากกว่าปกติ และเหมือนกับพยายามอย่างสุดชีวิตที่จะทำให้ปลายสายรู้สึกว่าเสียงของคนที่โทรเข้ามานั้นช่างหวาดหยดย้อยราวกับน้ำผึ้งแสงจันทร์
     
    “ฮัลโหล จ้า เจ๊เองนะจ๊ะ” ไม่เพียงแต่เสียงเท่านั้น เจนนิเฟอร์ยังทำท่าทางประกอบความเลี่ยนนั่นไปด้วย “นี่ หนูเซ็นจ๋า ช่วยมาอยู่เฝ้าร้านเจ๊สักประเดี๋ยวหนึ่งได้ไหมจ๊ะ แหม เจ๊ไม่ได้ไปไหนหรอกจ้า แค่ต้องไปทำธุระเฉยๆ นะจ๊ะหนูเซ็น เจ๊รู้นะจ้ะว่าเซ็นจังเองก็มีงานต้องทำ แต่ทำอย่างไรได้ล่ะ เพื่อนของเจ๊เขาเร่งเจ๊นี่นา”
     
    ประโยคหลังสุด เจนนิเฟอร์ปรายสายตามองวิเอล่าแล้วยิ้มแสยะ ทำให้คนโดนพาดพิงถึงคิดอย่างหงุดหงิดว่า เจนนิเฟอร์ ก็เป็นสุนัขจิ้งจอกตอแหลดีๆนี่เอง
     
    “เพราะฉะนั้น เจ๊จะกลับมาให้ทันสี่โมงครึ่งนะจ๊ะ จ้า เจ๊จะระวังตัวน้า อ๊ายยยยย!!!! เซ็นจังน่ารักที่สุดเลย” เจนนิเฟอร์กรี๊ดเสียงร้องแหลมชนิดที่อาจทำให้แก้วใบเล็กๆแตกได้เลยในความคิดของวิเอล่า คาธอเรียเองก็ทนไม่ไหวเช่นกัน ต้องก้มหน้าหลบหนีเสียงอันน่ากลัวที่สามารถบั่นทอนประสาทหูได้อย่างง่ายดาย
     
    “เห็นไหมจ๊ะ เจ๊ทำได้” หลังจากวางสายไปเป็นที่เรียบร้อย เจนนิเฟอร์หันหน้ามาหาสองชีวิต ที่ตอนนี้กำลังป้องกันแก้วหูตนเองสุดฤทธิ์ “ทำอะไรกันจ๊ะนั่น อีก 5 นาที ผู้ช่วยของเจ๊ก็มาแล้วล่ะ ไปกันเถอะ”
     
    คาธอเรียมองเจ้าของร้านผู้น่าหวาดหวั่นที่กำลังเก็บสมบัติชิ้นเล็กชิ้นน้อยเข้ากระเป๋าถือผู้หญิงเพื่อเตรียมไปเที่ยว “ไม่รอผู้ช่วยก่อนเหรอคะ” หล่อนถาม
     
    เจนนิเฟอร์ยิ้มกว้าง “เขาอยู่ใกล้ๆนี่แหละจ้ะ ไม่ต้องรอหรอก เราไปกันได้เลย เวลาจำกัดไม่ใช่หรือจ๊ะ”
     
    วิเอล่าพยักหน้าเร็วๆแทนคำตอบ มือของเธอในตอนนี้ได้จับประตูกระจกเอาไว้แล้ว แสดงถึงความร้อนรนและดูเหมือนจะไม่รอใครด้วย
     
    “นี่ไม่คิดจะรอกันเลยอีกแล้วเหรอยะ”
     
    สตรีคมกริบกำลังเล่นกับวิกผมสีน้ำตาลอ่อน ส่งยิ้มมุมปากมาให้และยักคิ้วเข้ม ท่าเดียวกันกับที่คาธอเรียบอกให้เธอลองฝึกทำบ่อยๆ
     
    “ฉันคงเดินออกไปเลยล่ะย่ะถ้าไม่รอ”
     
    เพื่อนหญิงคนงามนิ่งงัน เธอชินแล้วกับคำพูดและการกระทำที่ดูเหมือนไม่มีความเอาใจใส่กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน และนั่นทำให้เกิดความเป็นกันเอง เธอไม่นึกเสียใจเลยสักนิดที่ได้เป็นมิตรสหายกับวิเอล่า

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -


    จริงๆแล้วแต่งเสร็จไว้นานแล้วค่ะ แต่ไม่ได้ลงตอนที่ 2 สักทีเพราะมีงานที่โรงเรียนเข้ามา เปิดเทอมแล้วก็มีการบ้านเข้ามาเยอะมากขึ้น แต่ยังไงก็ต้องแต่งเรื่องนี้ให้จบค่ะ >.< ตอนที่ 3 ก็จะมีตัวละครออกมาเพิ่ม ยังไงก็ขอฝากด้วยนะคะ ^^ (เม้นท์ได้ เม้นท์ด้วยเน้อ)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×