ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ My dear's sorrow
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
นับตั้งแต่ครั้งกาลสมัยก่อน มนุษย์ จัดเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีพัฒนาการมากมายที่สุด ตั้งแต่ยุคสมัยดึกดำบรรพ์ จนกระทั่งยุคทองแห่งความเจริญรุ่งเรืองของเครื่องจักรกล ทั้งความฉลาดและวิธีการตลบแตลงพลิกแพลงเพื่อใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อเหตุการณ์ต่างๆ พร้อมทั้งใช้อารมณ์อย่างมีหลักการคิดถึงเหตุผลก็นับว่าสูงขึ้นทุกวัน หากแต่สิ่งที่ไม่อาจลบเลือนไปจากจิตใจของมนุษย์ได้เลย แม้ว่าเข็มนาฬิกาแห่งชีวิตจะหมุนไปอีกสักกี่ร้อยรอบก็ตาม นั่นคือ ความขัดแย้งกันเองในหมู่มาก มาจาก ความฐิทิ เป็นบ่อเกิดแห่งหายนะ ซึ่งนำพาพวกเขาไปสู่การเปิดหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ หรือ ที่รู้จักกันในนาม “สงคราม”
ซึ่งบางครั้ง อาจเกิดเป็นความสูญเสียถึงขั้นความล่มสลายเลยก็เป็นได้
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
พื้นหินสีเทาหม่นอันเป็นส่วนหนึ่งของตรอกเล็กๆภายในบรรยากาศย่านสลัมบัดนี้ชื้นแฉะไปด้วยน้ำขุ่น เม็ดฝนนับร้อยนับพันตกลงมาจากท้องนภาที่เสมือนคลุมด้วยผ้าใบสีเทา เมฆครึ้มจำนวนมากลอยต่ำจากขอบฟ้า อากาศที่มองแล้วให้ความรู้สึกหม่นหมองแบบนี้ช่างเหมาะกับวันแห่งการพิพากษา อย่างน้อยก็เป็นความคิดอันแสนหดหู่ของคนคู่หนึ่งที่หลบอยู่ในตรอก อาศัยความมืดเข้าช่วยในการอำพรางตัวจากภายนอก
หรืออย่างน้อย ก็จำเป็นต้องพรางตัวเองให้ได้ จาก “พวกเขา” ที่ทั้งคู่ชิงชังนักหนา
เสียงสะอื้นไห้ร่ำร้องได้ยินเป็นระยะๆ อีกทั้งเสียงสูดจมูกอย่างที่เจ้าตัวจะไม่มีวันทำโดยเด็ดขาดหากไม่ใช่เวลาเช่นนี้ ในเมื่อหล่อนไม่อาจรักษาชีวิตของคนรักได้ ก็ไม่มีอะไรจะต้องเสียอีกแล้ว กิริยาท่าทางที่เคยคงไว้ซึ่งความงดงามดั่งสตรีชั้นสูงในตอนนี้แทบไม่มีเหลือ แม้ว่าสตรีผู้นี้ได้รับการปลอบโยนที่เพียงพอจากบุรุษร่วมชะตากรรมข้างๆเพียงใด ก็มิอาจลบล้างรอยแผลบาดลึกในจิตใจได้
“พอแล้ว ทุกอย่างมิใช่ความผิดของเจ้า อย่างน้อย เจ้ามิใช่เหตุผลหลักๆที่ทำให้พระองค์มีอันเป็นไปเยี่ยงนี้”
คำพูดที่บรรยายปลอบโยนให้ฟังดูสวยหรู พรั่งพรูออกมาเรื่อยตั้งแต่เมื่อนาทีก่อน แม้ว่า เจ้าของเสียงทุ้มต่ำของชายวัยสามสิบเก้าปีรู้อยู่แก่ใจดีอยู่แล้ว คำพูดใดเล่า จักมาบรรเทาความทุกข์โศก และตราบาปแห่งความผิดของ ท่านหญิงวิเอล่า ได้เท่ากับการกลับมาขององค์ราชันย์ในดวงใจ แต่คนตายฟื้นกลับเป็นเรื่องผิดธรรมชาติ เป็นไปไม่ได้ ลอร์ด เกวนดอล รู้ดีที่สุด เขาถอนหายใจขณะอยู่ในห้วงความคิด
“การสูญเสียครั้งนี้มิใช่จุดจบ เจ้าเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจ ไม่ใช่หรือ” ท่านลอร์ดเอ่ยอีกครั้งเพื่อย้ำเตือน
“.....แต่ข้า....ข้ามิอาจ....ลบเลือนรอยแผลครั้งนี้ไปได้....” เสียงแหบแห้งหลังจากสะอื้นมานานเอ่ยแผ่วเบาอย่างทรมาน ไม่ใช่ทางร่างกาย หากแต่เป็นจิตใจที่บอบช้ำ “ข้ารู้” ชายวัยกลางคนใต้ผ้าคลุมสีดำไว้ทุกข์ตอบ
เช่นเดียวกันนั้นเอง ไหล่ผอมบางใต้ผ้าคลุมของท่านหญิงผู้น่าเวทนาเริ่มสั่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าผ้าคลุมหนาพอกับการห่มร่างอันหนาวเหน็บด้วยละอองฝน แต่ก็ไม่หนาพอที่จะช่วยบรรเทาความทุกข์ของหยาดน้ำตาจากสตรีผู้สูงส่งได้
“ข้าขอโทษเจ้าด้วย ที่ไม่อาจช่วย ทั้งเจ้า ทั้งองค์ราชันย์” ลอร์ดกล่าวพร้อมกับก้มใบหน้าลง ในตอนนี้เขาเองก็รู้สึกผิดด้วยเช่นกัน
วิเอล่าเงียบกริบ หล่อนก้มหน้านิ่งและหยุดสั่น พลางยกมือเรียวยาวขาวใสขึ้นเพื่อปาดน้ำตา เสียงกระทบกันของแหวนทองวงใหญ่ที่สวมอยู่มากมายทำเอาลอร์ดที่อยู่ด้านข้างสะดุ้งนิด แต่ยังดีที่เสียงสายฝนได้กลบร่องรอยของการมีอยู่ของทั้งสองคนไปส่วนใหญ่แล้วจึงไม่น่าเป็นห่วงมากนัก ผ้าคลุมผืนดำสนิทถูกเลิกออก บรรยากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝนไม่อาจทำให้ดวงหน้าขาวบริสุทธิ์ราวหิมะที่ตกบนต้นสนของหญิงสาวนางนี้หม่นหมองไปได้ หล่อนเงยหน้าขึ้น ผลจากการร้องไห้อย่างหนัก ทำให้มีคราบน้ำตาสีดำจากการผสมกับเครื่องสำอางค์ หล่อนมีดวงตาโตสวย และคมกริบดั่งนางพญา แต่สิ่งที่สะดุดตาที่สุดบนรูปหน้าสลักนั้นคือ ตาสีน้ำข้าวสุกสกาว ใสดั่งแผ่นน้ำสงบนิ่ง แต่ก็ล้ำลึก ราวกับสามารถมองทุกสิ่งทุกอย่างทะลุปรุโปร่งไปจนหมด
“ราชาเคยตรัสกับข้าไว้”
“หืมม์” ลอร์ดเอ่ยขึ้นอย่างสงสัย เจ้าของประโยคหันดวงหน้างามมาพร้อมกับพยักหน้าลงหนึ่งครั้ง คราวนี้ แววตาของหล่อนช่างมุ่งมั่นและเต็มไปด้วยพลังผิดกับเมื่อครั้งที่หล่อนมีน้ำตานองหน้า
“ทุกสิ่งทุกอย่างแม้ว่าจักถูกชำระล้างจนขาวสะอาดเพียงใด แต่เบื้องหลังของความบริสุทธิ์นั้นจำต้องมีเงามืดคล้อยตามมาอยู่เสมอ เหมือนดั่งจิตใจของมนุษย์ ที่มีทั้งฝ่ายธรรมะและอธรรม”
วิเอล่าท่องจำประโยคขององค์ราชันย์ต่อไป “จิตใจของมนุษย์....ไม่มีใครที่ล้วนแต่เป็นสีขาวทั้งหมด หรือดำมืดมนทั้งหมด ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเหตุผล เพราะมนุษย์สร้างเหตุผล สงครามจึงเกิดขึ้น”
ชายข้างกายรับฟังเงียบๆ เขาแทบไม่อยากเชื่อว่าหล่อนจำประโยคแบบนี้ได้ตั้งแต่เมื่อใด องค์ราชันย์สอนหล่อนให้รู้เรื่องจิตวิทยาของมนุษย์ด้วยงั้นหรือ
“การหยุดยั้งบ่อเกิดแห่งความมืดมนในใจมุนษย์ และสร้างเหตุผลที่ทำให้ทุกคนอยู่ร่วมกันในดินแดนแห่งนี้ได้อย่างเห็นชอบทุกฝ่าย นั่นคือ หน้าที่ขององค์ราชันย์” พูดจบ ดวงตาโตคู่นั้นปิดลงอย่างช้าๆ เห็นแพขนตางอนงามยาวออกมา ริมปากกระตุกยิ้ม คิ้วโก่งเป็นพระจันทร์เสี้ยวสีน้ำตาลเข้มอ่อนแรงลง บัดนี้ใบหน้างามของหล่อนสงบนิ่งลงอย่างเห็นได้ชัด
มือขาวโผล่พ้นจากผ้าคลุม ต่างประสานกันอย่างท่าขอพรจากพระเจ้า วิเอล่าหลับตาพริ้ม ผมสีน้ำตาลอ่อนยาวที่รวบต่ำไว้ด้านหลังปลิวเล็กน้อย แม้ว่าหล่อนแค่ขยับศีรษะเท่านั้น แต่เหมือนกับมีสายลมพัดผ่าน สีหน้าที่อ่อนโยนแบบนี้ ช่างผิดกับท่านหญิง วิเอล่า เอลลาโอน่า ผู้เอาแต่ใจอย่างที่ผ่านมา ลอร์ด เกวนดอล คิดชื่นชม
“ข้าอยากจะเป็นราชินีแบบนั้น.....เพื่อสานความตั้งใจขององค์ราชันย์ให้จงได้.....ข้าอยากจะหยุดยั้งสงคราม และสร้างเหตุผลที่ทำให้ทุกคนยอมรับและเข้าใจอย่างที่ท่านบอก”
ลอร์ด เกวนดอล ยิ้ม เขาถอดผ้าคลุมศีรษะออก พลางมองไปยังที่ตั้งลานประหารที่อยู่ไกลออกไป ชายร่างสูงทอดสายตามองอย่างอบอุ่น ปนระคนความเศร้าสร้อยต่อการสูญเสีย เนตรสีดำสนิทของเขาดูยากนักว่าคิดอะไรอยู่ แต่ในเวลานี้ ศีษระที่ปกคลุมไปด้วยผมสั้นหนาสีดำโค้งต่ำลงอย่างผู้ดีที่ให้ความเคารพสูงสุดแก่ราชันย์ โดยมีหญิงสาวตาน้ำข้าวมองตามท่าทางนั้นอย่างประหลาดใจ ชายร่างสูงหันมายิ้มให้กับหล่อนอีกครั้ง
“ถือเสียว่า ฝนที่ตกในวันนี้ แทนการปลอบโยน และคำอวยพรจากสวรรค์.......”
วิเอล่านิ่งไป ก่อนที่จะกระตุกยิ้มกว้าง พร้อมกับลั่นหัวเราะออกมาแม้จะแผ่วเบาและไม่นานนัก
“มิได้จากสวรรค์ค่ะ แต่จากองค์ราชันย์ตังหากเล่า เพราะอากาศแบบนี้ เป็นอากาศที่ท่านโปรดมากที่สุด”
“.........ใช่ไหมเพคะ ท่านโอเดียร์ไลร่า.......”
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
สวัสดีค่า ผู้อ่านทุกท่าน >.< ฟิคออริลงในเด็กดีเรื่องที่ 2 ขอฝากไว้ด้วยนะคะ
กว่าจะคิดชื่อตัวละครกับชื่อเรื่องได้ก็เล่นเอาสมองตันไปเหมือนกันค่ะ เป็นเรื่องราวแนว แฟนตาซี บู๊แหลก วิปริต เลือดสาด (- -"") แต่แน่นอนว่า....ต้องแต่งให้จบให้ได้!!!!! =[]=!!!! สู้ตาย!!!!~
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น