ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SaintSeiya Fanfic] Mid summer Night Dream

    ลำดับตอนที่ #1 : เหตุผลของความขัดแย้ง

    • อัปเดตล่าสุด 18 ส.ค. 50


    Mid Summer Night Dream~ [ฉบับชั่ว รั่วเหล่าเซนต์]

     

    Writer: Misaki

     

    Style: รั่วชนิดที่รองกะละมังขนาดโอ่งมังกรร้อยถังยังไม่พอ 

     

     

     

    ความฝันในคืนกลางฤดูร้อน : เปิดม่าน

     

     

     

     

    รัก......คืออะไรนะ?

     

    รัก......คือความรู้สึกแบบไหน?

     

    รัก......คือสิ่งที่ซับซ้อนที่สุด?

     

    รัก......คือไร้ซึ่งพรมแดน?

     

    รัก......คือทุกสิ่งที่ต้องให้ได้มาไม่ว่าจะใช้วิธีใดก็ตาม?

     

     

    สรุปแล้ว.......รัก......คืออะไรกันแน่?

     

    เราจะรู้ได้ยังไง?.....ว่าเรากำลังตามหาสิ่งที่เรียกว่า รัก

     

    แล้วเมื่อไหร่?.....ที่เราจะเอื้อมมือไปถึงสิ่งนั้นได้สักที......?

     

    คำถามเหล่านี้วนเวียนอยู่ในใจของเหล่า "นักแสดง" ที่ไม่รู้เลยว่า.....อะไร คือสิ่งที่เรียกว่า รัก

     

    แต่ถ้าลองติดตามเรื่องราวของพวกเขา.....ก็จะเข้าใจได้ถึงคำว่า "รัก (ฉบับรั่ว)" ที่แท้จริง

     

     

     

    ถ้าหากว่า....จะกล่าวถึงเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรือง ผู้คนประชากรอยู่อย่างพอเพียง ไม่ขัดสน มีทั้งอาหาร ที่อยู่ และเครื่องนุ่มห่ม อยู่กันอย่างสุขสบาย การเงินของเหล่าราษฎร์เป็นที่วางใจ การเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มก็อยู่ในจำนวนที่ไม่สูงนัก ความสุขสบายของประชาชน เกิดจากผู้ครองเมืองซึ่งเต็มไปด้วยความเอาใจใส่ ดูแลความเรียบร้อยมิให้มีการขัดสนบกพร่อง อีกทั้งยังมีความรักใคร่ในตัวบ้านเกิดเมืองนอนของตน ผู้ครองแคว้นที่เต็มไปด้วยความมีสง่าราศี......และสมกับเป็นผู้นำของประเทศอันดับ 1

     

     

     

     

    ........เมืองแห่งการผลิตขนแกะ........

     

     

     

     

    ..................อาริเอส.......................

     

     

     

     

    เพียงแค่รีดขนจากแกะที่เลี้ยงไว้เป็นจำนวนมากแล้วขายส่งออกไปยังต่างเมือง เท่านี้ก็ได้กำไรอย่างมหาศาล..............

     

     

    และผู้ที่ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างของประเทศ ให้เป็นไปตามความเหมาะสม...............

     

     

    ราชาผู้ครองแคว้น โดโก ขนาบเคียงข้างกาย ด้วยพระมเหสีผู้ซึ่งเป็นอดีตองค์ชายแห่ง อาริเอส ราชินี ชิออน

     

     

    ทั้งหมด อยู่ด้วยกันมาอย่างสงบสุข วันคืนที่ดีค่อยๆหมุนเวียนผ่านไป.........

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    จนกระทั่ง.............................................................. 

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ในท้องพระโรงที่มีเพียงแค่ราชาและราชินีแห่งแคว้น อาริเอส ประทับอยู่ ณ พระที่นั่ง......ห้องโถงใหญ่ที่เอาไว้ใช้สำหรับการต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง บรรยากาศที่ควรจะเป็นบรรยากาศที่อบอุ่นดั่งอยู่ในบ้านของตน แต่กลับกลายเป็นบรรยากาศที่ตึงเครียดที่สุดไปเสียนี่.....................

     

     

    พระที่นั่งราชา......ราชินี ชิออน กำลังอยู่ในท่ากุมขมับ....................

     

     

    ".....เจ้าแน่ใจนะ?.....ว่าจะไม่เปลี่ยนความคิด..." น้ำเสียงที่ฟังแล้วดูเหนื่อยหน่าย ถึงแม้ว่าจะยังคงความสง่างามในฐานะ พระชายา ดวงพักตร์ที่เคยสดใสกลับหม่นหมองลงอย่างน่าประหลาด

     

    ราชินี ชิออน ตรัสกับร่างเพรียวที่ยืนอยู่หน้าบัลลังค์ ผมยาวสีม่วงอมชมพูรวบไว้หลวมๆด้านหลัง บนหน้าผากเกี้ยงเกลาเผยให้เห็นรอยแต้มสองจุดแลดูเด่น สรีระร่างกายที่ดูบางเสียจนไม่คิดว่า บุคคลที่ยืนหันใบหน้าประจันเข้ากับผู้มีอำนาจที่สุดในประเทศนี้ จะเป็น "องค์ชาย"

     

    "....คิดว่ากระหม่อมได้ทูลให้ท่านทราบแล้วนะ....กระหม่อมไม่สามารถทำตามพระประสงค์ของท่านได้" องค์ชายเอ่ยแย้งด้วยน้ำเสียงเรียบๆ เหมือนกับไม่มีทีท่าว่าจะโต้กลับผู้เป็นบิดามารดา(?) ใดๆทั้งสิ้น........

     

    "...เจ้ามีเหตุผลอะไรล่ะ? ลองเจ้าแย้งข้าแบบนี้แล้วก็ต้องบอกเหตุผลมาก่อน....." ชิออนพูดอีกครั้ง ใบหน้างามยังคงไว้ด้วยกิริยาดังเดิม

     

    "....พะยะค่ะ....กระหม่อมมีเหตุผล....แต่ไม่รู้ว่าจะท่านจะทรงพอพระทัยกับเหตุผลของกระหม่อมด้วยหรือเปล่า?"

     

    เจ้าชายแห่งอาณาจักร อาริเอส ตรัสอย่างนุ่มลึก ดวงเนตรที่ยังคงหลับพริ้มก่อนที่จะโค้งตัวลง.......

     

    "เอาหน่า ชิออน ^^~ ลองมูพูดแบบนี้แล้วก็น่าจะฟังก่อนนะ ไปขืนใจลูกมันไม่ดีหรอกหน่า~" องค์ราชา โดโก เอ่ยกับศรีภรรยาของตนก่อนที่จะเอามือข้างหนึ่งโอบไหล่บางของราชินีคนสวย มงกุฎราชาที่ส่องประกายวูบตัดกับผมสั้นประบ่าสีน้ำตาลของเขาเสียจริง...

     

     

     

    ว่าแต่?..............มันพูดผิดประโยครึเปล่า?..............- -!!! "ขืนใจ" กับ "ฝืนใจ" มันไม่ค่อยจะเหมือนกันสักเท่าไหร่เลยนะนั่น..........(รึเหมือนหว่า?)

     

     

     

    ราชินีแห่งแคว้น อาริเอส เริ่มครุ่นคิด..........ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว องค์ชายของตนก็ไม่ใช่คนที่ไม่มีเหตุผล บางทีแล้วอาจจะเป็นเหตุสุดวิสัยก็ได้ เพราะตั้งแต่เล็กๆ องค์ชายมูก็ไม่ค่อยขัดประสงค์ของทั้งสองอยู่แล้ว................

     

     

     

    ".....เอ้า....ก็ได้ มู เจ้าลองพูดเหตุผลของเจ้ามาสิ แต่ก่อนหน้านั้น....." ชิออนตัดสินใจ ก่อนที่จะดีดนิ้วเป๊าะหนึ่ง........

     

     

    ท่ามกลางสายตาอีก 2 คู่ที่จับจ้อง ว่าราชินีผู้กุมอำนาจการปกครองของอาณาจักรจะทรงทำเช่นไรต่อ............

     

     

    ประตูบานใหญ่ตรงสุดมุมทางเดินของท้องพระโรง.............ก็เปิดออก..........ก่อนที่ร่างสูงจะปรากฎออกมาทีละน้อย.....แม้ว่าจะไม่เห็นหน้าค่าตาเพราะแสงจากด้านนอกสะท้อนบดบัง...........ร่างนั้นหยุดยืนที่ประตูใหญ่ พร้อมด้วยข้ารับใช้บริวารที่ดูเหมือนว่าจะมาส่งชายคนนี้ค่อยๆหายลับไป.................

     

     

    ขาทั้งสองข้างค่อยๆก้าวเดิน....ผ่านพรมแดงซึ่งปูยาวจนถึงหน้ากระไดสู่บัลลังค์.........

     

     

    ในขณะเดียวกัน.....ที่ดวงเนตรสีเขียวขององค์ชายมูเบิกโพลง.........ตกใจ........ประหลาดใจ......และสับสน........

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    "......นี่คือ องค์ชาย ไอโอเรีย แห่งแคว้น เลโอ ผู้ที่เหมาะสมกับการเป็น "สามี" ของเจ้า"

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    Mid Summer Night Dream ความฝันในคืนกลางฤดูร้อน [ฉบับชั่ว รั่วเหล่าเซนต์] : ม่านที่ 1 เหตุผลของความขัดแย้ง 

     

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

     

     

     

     

     
    ..........................................O[]O....................................................

     

     

     

     



    .................................ม่ายยยยเจร๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!~~~~.......................................................

     

     

     

     


     
    เจ้าชายหน้าสวยแทบจะร้องกรี๊ดแบบข้างบนเสียให้ได้..................................

     

     

    ไม่จริงงงงงงงงง!!! TT^TT เสด็จแม่(?)ทูลเท็จจจจจจจจจจ!!!!!!!!!!!!!!!! ช้านม่ายย๊อมมมมมมมมมมมมมมมมม!!!!!!!!!!!!! เสด็จพ่อช่วยลูกด้วยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!!! อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

     

     

    เป็นไปได้.....เขาก็อยากจะลงไปนอนดิ้นๆๆๆที่พรมแดงสุดหรูชัก 360 องศาเป็นลมบ้าหมูผสมลมพิษตายกันไปข้างเสียให้รู้แล้วรู้เสือ สิงห์ กระทิง แรด!!!! = =!!!!!!!!

     
    แต่เพราะศักดินา "เจ้าชาย" มันค้ำคอ.....เขาก็เลยไม่สามารถลดอายุตัวและสมองลงไปให้เหลือเท่าแมงกระจั๊ว.....(มันพาดพิงถึงใครหว่า?)

     


    "ไอโอเรีย ข้าคาดว่านับจากนี้ไปรวมถึงอนาคต ข้าอาจต้องฝากเจ้าลูกชายคนนี้ให้กับเจ้า" ราชินีร่างเพรียวเอ่ยเสียงเรียบ ก่อนที่จะเกิดรอยยิ้มบางขึ้นภายในดวงพระพักตร์งดงามดั่งอิสตรี

     

    "พะยะค่ะ......กระหม่อมก็คิดเช่นเดียวกับท่าน ไม่ว่ายังไงกระหม่อมก็จะดูแลองค์ชายรัชทายาทอันดับหนึ่งให้ดีที่สุด"

     

    ชายหนุ่มผู้ซึ่งมีราศีสง่างามอย่างเจ้าชายที่แท้จริง เรือนผมสั้นสีน้ำตาลตัดกับดวงเนตรสีเขียวที่ไม่ว่าจะดูอย่างไรก็สมกับเป็นเจ้าชายแห่งอาณาจักรเลโอ ผู้ซึ่งเปี่ยมไปด้วยความแข็งแกร่งและองอาจดั่งเช่นชายชาตรีที่แท้จริง

     

    เมื่อลองมามองเทียบกับ.......องค์ชายรัชทายาทอันดับหนึ่งแห่ง อาริเอส หุ่นบางร่างน้อยที่ไม่ว่าจะดูอย่างไรก็แทบจะเรียกว่าร่างกายของเพศหญิงสาว.......ก็ไม่แปลกอะไรที่จะทำให้เจ้าชายราชสีห์ถูกใจขึ้นมา

     

    "ไม่ได้พบกันนานเลยนะ....มู.....ตั้งแต่คราวก่อนที่ชั้นชวนนายไปเยี่ยมอาณาจักรของชั้น..." ไอโอเรียเอ่ยก่อนที่จะหมุนตัวหันดวงหน้ากลับมาหาผู้ที่อยู่ในฐานะ "ภรรยา" ของเขา รอยยิ้มบางหากแต่ดูอบอุ่นเกิดขึ้นภายใต้ใบหน้าหล่อนั่น

     

    "........คราวก่อนนายไม่ได้ชวนชั้น.....แต่นายลากชั้นขึ้นม้าของนายแล้วพาไปเลยตังหาก.....กว่าจะหนีออกมาได้แทบจะกลิ้งตกถังข้าวสารไปตั้งหลายตลบ....เงินทองเครื่องประดับก็หล่นหาย เสียดายแทบตายแต่มันมืดมากแล้ว พวกองครักษ์ตามเก็บให้ก็ไม่ได้.....แค่กำไลชิ้นเดียวก็ปาเข้าไปแสนกว่าๆแล้ว เอาไปจำนำขายสบายตลอดชาติ แถมยังต้องบุกเดินลุยน้ำลุยฝน ไม่มีแรงแม้แต่จะเทเลพอต....~~บ่นๆๆๆๆๆ~~~"

     

     

     

    ไม่ว่ายังไง..............แกะก็ยังทิ้งนิสัยเสียไปไม่ลง...............

     

     

     

    แล้วการบ่นขององค์ชายน้อยก็ต้องหยุดลง เพราะผู้ที่ยืนฟังอยู่นานได้เข้าใกล้ระยะประชิดตัว ก่อนที่จะชันคางสวยขึ้นแล้วดึงดวงหน้าหวานให้เข้ามาใกล้...........

     

     

     

    ".....ให้ตายเหอะ.....ยังไม่ได้จัดงานสมรสอย่างเป็นทางการนายก็บ่นจนหูชั้นแทบจะเหน็บกินอยู่แล้ว......ไม่คิดรึไงว่าอย่างนี้ต้องสั่งสอน? หืม?....."

     

    องค์ชายหนุ่มหน้าหล่อเอ่ย โดยเฉพาะประโยคหลังที่กระซิบเบาแสนเบาจนสเหมือนกับว่าในท้องพระโรงนั่นมีเพียงแค่พวกเขาสองคนเท่านั้น.......นัยต์ตาเขียวสบเข้ากับดวงเนตรสวยใสของว่าที่ "ภรรยา" ก่อนที่จะเริ่มโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้.................

     

     

     

     

     

     

     

     

    อีกสามเซน....................................

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    พระเนตรของราชินีสุดสวยเริ่มเบิกโพลงเท่าไข่นกกระจอกเทศ ส่วนท่านราชาที่เคารพรักกำลังแสยะยิ้มอย่างชั่วๆ....= =!!!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    อีกสองเซน.......................................

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    กล้องชัตเตอร์รุ่นดิจิตอลไฮสปีดเริ่มควักออกมาจากด้านหลังบัลลังค์ของพระราชาโดโก พร้อมด้วยกล้องวิดิโอโฮมและมือถือถ่ายรูปที่เรื่มเปลี่ยนเป็นโหมดไฮเปอร์เตรียมรัวชัตเตอร์ (ไม่ยักกะรู้ ว่าเบื้องหลังบัลลังค์ของพระราชาผู้ซึ่งกุมอำนาจการปกครองของแคว้นอาริเอส คือ ปาปารัซซี่ผู้ติดตามการเคลื่อนไหวของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนทุกฝีก้าวแบบไม่ยอมห่าง)

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    อีกเซนเดียว~~~~~

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    มือทั้งสองข้างของโดโกบัดนี้เต็มไปด้วยเหล่าขบวนพาเหรดกล้อง เครื่องมือหากิน พร้อมสับสวิตช์เก็บช็อตเด็ดได้ทุกเมื่อทุกเวลาไม่มียามขาด.......ฝ่ายศรีภรรยาชิออนที่กำลังจะติดเชื้อปาปารัซซี่จิตป่วนโดยการช่วยถ่ายกล้องวิดิโอโฮมอัดเก็บไว้เปิดดูเล่นที่ห้องนอน ไม่ต้องพูดถึงว่าสีหน้ายามนี้ของทั้งสองแทบจะเก็บความโรคจิตไว้ไม่อยู่

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    และแล้ว~~~~~~~~ ก่อนที่ใบหน้าของทั้งสองจะเข้าหากัน~~~~~~~ โดยที่ไอโอเรียไม่เปิดช่องว่างให้มูเลย (เรียติดโรคช่ามาจากเรื่องที่แล้วๆรึไงนะ?)

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ผัวะ~~~!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

     

     

     

     

     

     

     

     

    แล้วหมัดลุ่นๆด้วยความรักจากเจ้าชายคนสวยแห่งอาริเอส ก็เสยเข้าไปเต็มแรงรักที่ครั้งที่ใบหน้าหล่อเหลาของเจ้าชายสิงโต.....=[]=!!!! ตรงๆที่แก้มข้างซ้ายแถมอาจจะมีควงสว่านเล็กน้อย......................

     

     

     

     

     

     

     

    ด้วยความที่แกะน้อยเริ่มรู้สึกตัวในวินาทีสุดท้าย ความที่ยั้งมือไม่ทัน ทำใหเสัญชาติญาณการป้องกันตัวฉบับเคะๆสำแดงฤทธิ์ออกมา แม้ว่าร่างสูงจะไม่ถึงกับลงไปกองล้มกับพื้น แต่ด้วยแรงชกอย่างตกใจสุดขีดทำให้ใบหน้าของเขาหันขวับเหมือนมีลมแรงตีใส่

     

     

     

     

     

     

     

     

    "นายคิดเรอะ?.....ว่าชั้นจะให้นายฉวยโอกาสแบบนี้ง่ายๆ!!!!!!!" เสียงแผดร้องลั่นขององค์ชายมูแสดงความโกรธและขัดขืนออกมาอย่างเต็มที่ ดวงตามรกตลุกโชนพร้อมกับหมัดข้างขวาที่กำแน่นแสดงถึงความใจสู้อย่างไม่คาดคิด

     

    และเป็นเวลาเดียวกันกับที่ พักตร์ของเจ้าชายหนุ่มหล่อหันขวับ และคลี่รอยยิ้มบางมุมปากเล็กน้อย.........

     

    ".....สู้ไม่ได้ก็อย่าฝืนไปเลยหน่า เจ้าชาย......หรือจะให้เรียกว่า เจ้าหญิง?" ไอโอเรียที่ยังคงแสยะยิ้มดั่งสิงโตกระหายเหยื่อ = =!!! ก้าวออกมาข้างหน้า มือแกร่งข้างหนึ่งตวัดวูบบบ~~~ หมายที่จะคว้าเอวบางของอีกฝ่ายมากอดไม่ให้ดิ้นหนีอีก

     

     

     

    แต่ด้วยสัญญาณบางอย่างที่พลังชีวิตขององค์ชายแกะ ทำให้เขารู้ตัวทัน และเบนเอี้ยวตัวหลบได้อย่างหวุดหวิด..~~~~

     

     

     

    ฟู่........= =!!! แค่นี้ก็ไม่เป็นเหยื่อกับเจ้าสิงโตบ้ากามนี่แล้ว.....(เรียโหมดหื่น.....ห้ามให้อาหาร...)

     

     

     

    "......ชั้นยังไม่ได้ทำอะไรนายเลยนะ...." เจ้าชายแห่งเลโอเอ่ยเรียบๆ แม้ว่ารอยยิ้มบนใบหน้าจะยังคงผุดอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง ตรงกันข้าม........รัชทายาทแห่งแคว้น อาริเอส ที่กำลังแสยะยิ้มให้.............

     

    "....หึ....อย่างนายยังอ่อนไปนัก การเคลื่อนไหวแค่นี้ยังไงชั้นก็ไม่ได้แย่ขนาดที่จับจุดไม่รู้ทาง...."

     

    "อีกอย่าง.......ของนายถ้าไปเทียบกับที่ชั้นเคยเจอมา มันยังอ่อนหัดเหมือนกับเด็กพึ่งฝึกมายังไงยังงั้น~~"

     

    มูกล่าวด้วยถ้อยคำเยาะเย้ยกับน้ำเสียงสบายๆ ใบหน้าใสมีรอยยิ้มปานจะดูถูกเล็กๆ

     

     

     

    ก่อนที่...........ความเงียบจะเข้าครอบงำ.........แล้วใบหน้าใสๆขององค์ชายหน้าหวานพลันซีดดด~~~~~

     

     

     

    เนตรสีเขียวเบิกโพลง.....ไอโอเรียที่สะดุดหูกับประโยคหลุดๆเริ่มคิ้วขมวด......

     

     

     

    "...หมายความว่ายังไง? มู.....อธิบายมาให้ชัดๆ" หนุ่มหล่อถามย้ำอีกครั้ง คิ้วทั้งสองข้างแทบจะขมวดจนผูกกันเป็นโบว์กาชาด

     

    "....อ่ะ....เอ้อ....." แล้วคนเผลอก็วูบบบบบ~~~ หน้าซีดเป็นแกะต้มเผือก~~~~~

     

    จะขอความช่วยเหลือจากพระบิดาที่รักแลบะพระมารดาที่เคารพก็ไม่ได้.....เพราะเขาก็รู้สึกถึงรังสีอันน่าหวาดหวั่นจากราชินีผู้สง่างามที่กำลังทอดพระเนตรจ้องมององค์ชายแบบเขม่นครืนนน~~

     

    "จริงด้วยสิ.....ไหนเจ้าว่าเจ้ามีเหตุผลที่ปฎิเสธการแต่งงานระหว่างเจ้ากับองค์ชายไอโอเรีย......แล้วเหตุผลที่ว่ามันคืออะไรล่ะ? ถ้าหากว่ามันเป็นเหตุผลที่ดีพอ......ข้าก็จะลองคิดดู เจ้าคงเข้าใจแล้วสินะว่าทำไมข้าถึงต้องเรียกให้เจ้าชายไอโอเรียมาเข้าเฝ้าในวันนี้"

     

    ราชินีชิออนกล่าวต่อไป พระพักตร์สวยสง่าเริ่มมีร่องรอยความสงสัย...........

     

    "....คือว่า.....กระหม่อมไม่ได้มีประสงค์ที่คิดจะปกปิดไม่ให้ท่านรู้นะพะยะค่ะ.....ท่านอย่าได้เข้าใจผิดในตัวของกระหม่อม" เจ้าชายเอ่ยด้วยน้ำเสียงละล่ำละลัก เกรงกลัวต่อบารมีและรังสีออร่าที่เสด็จแม่ของเขาปล่อยออกมาอย่างยิ่ง......ผิดกับพระราชาที่ประทับอยู่บนบัลลังค์เฉยๆอย่างไม่มีทีท่าว่าจะห้ามฝ่ายใดเลย.................

     

    "งั้นเจ้าก็บอกข้ามา.....เจ้ามีเหตุผลอะไรกันแน่ที่ไม่สามารถตกลงรับข้อเสนอของข้าได้..." ชิออนเอ่ยรุกเข้าไปอีกครั้ง น้ำเสียงที่ชักจะเริ่มเยือกเย็นขึ้นเรื่อยๆเป็นเหมือนสิ่งบีบคั้นให้ร่างบางขยับริมปาก.......เหงื่อเม็กน้อยผุดขึ้นมาตามดวงหน้าสวยไหลอาบแก้มขาว

     

    ".........เอ่อ........กระหม่อม........มี...........คนที่..........กระหม่อม...........แน่ใจอยู่แล้ว........พะยะค่ะ!!!! >//////////////<~~~"

     

     

     

     

     

    ฟิ้ววววววววววววว~~~~~~~~

     

     

     

    สายลมหนาวพัดผ่านบริเวณช่วงท้องพระโรงงงงง~~~~~~~

     

     

     

     

     

    "...........วะ...........ว่าไงนะ..............เจ้าว่าไงนะ..........."

     

     

     

     

    คำประกาศิตเมื่อครู่จากเจ้าชายมูแห่งอาณาจักร อาริเอส ทำให้เกิดความสับสนและความตกใจอย่างคาดไม่ถึง.......................

     

     

     

     

    ถึงแม้ว่าราชาโดโกกำลังทำหน้าเหมือนนึกสนุก.....แต่อีกสองร่างแทบจะล้มตึงไปเดี๋ยวนั้นเลย.......

     

     

     

     

    "........กระหม่อม.......ไม่สามารถแต่งงานกับเจ้าชายไอโอเรียแห่งแคว้น เลโอ ได้ เพราะกระหม่อม....มี.....=///////////////=!!!!~ คนรักอยู่แล้ว............พะยะค่ะ..........!!!!!! /////////////////////"

     

     

     

     

     

     

     

     

    O[]o........................................<<<< สีหน้าพระพักตร์ของราชินีอาริเอสและองค์ชายเลโอในขณะนี้

     

     

     

     

    =_,=.......................................<<<< สีหน้าพระพักตร์อันกวนพระบาทของพระราชาโดโกในขณะจิตนี้

     

     

     

     

     

     

     

    โอ้วววววววววววววมาย อาเธน่าาาาาาาาาาาาาาาาา~~!!!!!!!!!!!!! นี่องค์ชายมูเสียสติไปแล้วหรืออย่างไร~~~!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

     

    ถึงได้กล่าวตรัสประโยคน่าอายขายหน้าฟ้าดินประชาชีไพร่ราษฎร์แบบน้านนน~~~~~~!!!!!

     

    นี่มัน.......โอ้ว พระเจ้าช่วยย~~~~กล้วยทอดดดดดดด ทั่นมูเปี๊ยนไป๋!!!!!!!!!!!!!!!!!! =[]=!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! (คนแต่งมันโรคจิ๊ตตตตต)

     

     

     

     

    ".......มะ......มันเป็นใคร.....ใครกันที่ทำให้เจ้ากล้าต่อปากต่อคำกับข้าถึงขนาดนี้......." ชิออนที่คิ้วบางเริ่มกระตุก เรือนผมยาวสีเขียวขยับด้วยแรงผุดลุกยืนอย่างกระทันหัน ดวงเนตรสีม่วงจับจ้องมายังเจ้าชายองค์น้อยตัวแสบที่กล้าถึงขนาดบอกความนัยอันเป็นสิ่งที่อัศ จอ รอ หัน การันต์ ยอ อย่างมากกกกกกกกกกกกกกกก

     

    ".....ถึงกระหม่อมทูลไป.....ท่านอาจไม่สู้จะชอบพระทัยนัก...." เจ้าของคำประกาศน่าตกตะลึงเอ่ยเสียงกระซิบเบา ดวงหน้าหวานใสเริ่มมีรอยแดงเถือกตามแก้มขาวนวล..........

     

    "แล้วมันเป็นใคร?" ชิออนทาบทามอีกครั้ง และครั้งนี้ปล่อยทั้งคอสโม่ออร่ารังสีสารพัดจะขุดขึ้นมาจากพลังในกาย = =!!!

     

     

     

     

    =/////////////////////=~~~!!!!!

     

     

     

     

    องค์ชายร้อยหน้าแดงอยู่พักหนึ่ง......ก่อนที่ริมฝีปากเรียวตะขยับพร้อมกับเปล่งคำพูดที่แสนจะบางเบา.................

     

     

     

     

     

    "..........เวอร์โก้ ชากะ.........นักบวชแห่งอาณาจักรเขตชายแดนระหว่าง อาริเอส และ เวอร์โก้..........."

     

     

    ................................................

     

    .....................................................

     

    ...........................................................

     

    ...................................................................

     

     

    O_O!!!!!

     

     

    เวลาผ่านไปประมาณ 10 วินาที กว่าที่องค์ราชินีชิออนจะหายจากอาการค้างอยู่หน้าพระบัลลังค์ สีหน้าแสดงออกให้เห็นว่าตกใจสุดขีด.....เหงื่อเม็ดน้อยเริ่มผุดขึ้นตามดวงพักตร์หวาน...........

     

     

     

    "......นักบวช......แห่งอาณาจักรเขตชายแดนระหว่างอาริเอสกับเวอร์โก้........" ชิออนเอ่ยทวนประโยคนั้นอย่างข้าๆ ดวงเนตรที่ยังคงไม่คลายความวิตกกลับยิ่งเบิกกว้างขึ้นไปอีกเรื่อยๆ

     

    "...พะยะค่ะ....นี่ล่ะคือสาเหตุที่กระหม่อมไม่อาจรับคำขอจากท่านได้....ขออภัยพะยะค่ะ...." มูโค้งตัวลงด้วยความรู้สึกผิดเล็กๆ

     

    "....มู....นี่นาย...เพราะเรื่องแค่นี้เองงั้นเหรอ ตลอดเวลานายก็เลยไม่ยอมมาตลอด เพราะเจ้านักบวชอะไรนั่นทำนายหลงมันได้ขนาดนี้!!?!!" เจ้าชายไอโอเรียที่ฟังความจริงทั้งหมดกระจ่างแจ้งจนเจ้าตัวแทบจะยืนอยู่เฉยๆไม่ไว้ ต้องปรี่เข้าไปจับข้อมือเรียวของออีกฝ่ายแล้วบีบแน่นเพื่อย้ำคำตอบ

     

    "เออ!!! มันก็แค่นี้แหละที่ชั้นไม่ยอมนาย.....แล้วก็ปล่อยมือชั้นได้แล้ว......." น้ำเสียงเย็นเรียบถูกตัดพ้อขึ้น แม้ว่าดวงหน้านั่นจะไม่แสดงอาการโกรธเคืองใดๆทั้งสิ้น แต่สำหรับเจ้าชายร่างบางแห่งอาณาจักรอาริเอส สีพระพักตร์ที่ดูสงบนิ่งนั่นล่ะคือสิ่งที่ต้องพึงระวัง......

     

    "......แล้วไอ้นักบวชนั่น....ชากะ....มันอยู่ที่ไหน?" เสียงแทรกจากองค์ราชินีผู้อยู่ในชุดฉลององค์สง่างามเอ่ยอย่างรำคาญเต็มทน ทันใดนั้น......ประตูใหญ่สลักลายสีทองตรงสุดพรมแดงได้ถูกแง้มออกทีละน้อย...แสงแดดจากภายนอกลอดผ่านเข้ามาเห็นเป็นเส้นสีทองสลับส้ม.............

     

     

    พร้อมกันนั้น..............ร่างของบุรุษผู้หนึ่งก็ก้าวออกมา โค้งคำนับผู้เป็นกษัตริ์ยแห่งอาณาจักรด้วยท่าทีที่นอบน้อมและรู้จักการวางตัว

     

     

    เรือนผมทองยาวสยายขยับ.....ร่างของนักบวชแห่งเขตแดนอาริเอสและเวอร์โก้ค่อยๆก้าวหยุดยืน ณ หน้าพระราชบัลลังค์

     

     

    "......ถ้าหากข้าประสาทหูของข้าฟังไม่ผิด....ข้าคิดว่าองค์ราชินีแห่งอาริเอสกำลังร้องเรียกหาข้านะครับ....." บุรุษผมทองผู้เป็นเจ้าของดวงหน้าขาวสง่างาม เพียงแค่อิริยาบถนิดเดียว ราวกับว่าเห็นแสงประกายวาววับจากนักบวชหนุ่มผู้นี้ ชากะผู้ไม่เคยลืมเปลือกเนตรให้เห็นเลยกล่าวด้วยน้ำเสียงเคารพ

     

    "ชากะ.....นี่นายมาที่นี่ได้ยังไง!!~" ว่าแล้วเจ้าชายแห่งอาริเอสก็แว้ดลั่น = =!! มือข้างหนึ่งปราดเข้าไปขยุ้มอย่างแรงที่คอเสื้อของนักบวชชากะ

     

    รอยยิ้มบางๆที่มุมปากหากแต่เจ้าเล่ห์เหลือทนเผยให้เห็น ก่อนที่ความเร็วอย่างสายฟ้าแลบจะเกิดขึ้น และมือเรียวบางของมูก็ถูกพันธนาการด้วยมือข้างซ้ายของชากะ.........

     

    ".....ไม่ได้เจอกันแค่คืนเดียว....นายกล้าแข็งข้อกันฉันแล้วเหรอ?" บุรุษผู้ใกล้เคียงกับพระเจ้ามากที่สุดค่อยๆแสยะยิ้มพราย ท่าทางว่าจะสนุกมากที่ได้แกล้งเจ้าแกะของเขาให้สะใจ

     

    ฝ่ายองค์ชายผู้อยู่ในกำมือ ไม่เอ่ยอะไรออกมาเพียงแค่หลงเหลือรอยแดงไว้บนใบหน้าเท่านั้น...........

     

    "เฮ้ยๆๆ!! เดี๋ยว ชากะ!!! แกทำอย่างนี้กับคนที่จะมาเป็นภรรยาของข้าในอนาคตได้ยังไง!!!" ว่าแล้วตัวเสือกตัวที่สามก็รีบปรี่เข้ามาพร้อมกับคว้าร่างของแกะน้อยไปกอดไว้ = =""

     

    "ไอโอเรีย!!! ปล่อยช้านนนนนนนนน~~~!!!!!!!!" พอเป็นเจ้าชายเลโอล่ะร้องทันทีเชียว..............- -~

     

    ".....อย่างท่านจะเจอมูได้สักกี่หนเชียว....ท่านคงไม่มีวันได้เห็นองค์ชายน้อยแห่งอาณาจักรอาริเอสอยู่ในอ่างหรอกนะ...." แล้วชากะก็ใส่ไฟกองโตเสียใหญ่ = =~!! สีหน้าที่ดูสงบนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นสักน้อยยยย ทำให้ไอโอเรียหงุดหงิดมากขึ้นเป็นเท่าตัว ส่วนรัชทายาทอันดับหนึ่งก็ง่อยประล่อกด้วยความเขินอายไปเรียบร้อยโรงเรียนเซนต์รั่วแล้ว

     

    "แกพูดแบบนี้หมายความว่าแกเคยเรอะ!!!! =*=!!!!" หนุ่มหล่อแทบจะกระโดดเข้าไปคว้าคอเสื้อตรงตำแหน่งเดียวกับที่องค์ชายน้อยจับ ถึงแม้ว่ามืออีกข้างจะยังคว้าเอวบางมากอดไว้ให้กระชับแน่นขึ้น....

     

    "...................แล้วท่านตีความไปได้อย่างไรล่ะ ข้าอุตส่าห์พูดถึงขนาดนี้แล้ว..........................."

     

     

     

     

    รอยยิ้มบางหากแต่เจ้าเล่ห์โค-ตะ-ระ และน่าเอาพระบาทขึ้นไปขยี้อย่างงามๆบนพระเศียรของมันเหลือเกิน........................

     

     

     

     

    "....ชากะ!!! =//////= บ้าเรอะพูดขึ้นมาอีกทำไม!!!!!" ด้วยความเขินอายจัด ร่างบางๆของเจ้าชายหน้าหวานก็หลุดจากแขนแกร่งของไอโอเรีย ก่อนที่จะวิ่งเข้าไปหานักบวชหนุ่มตัวการ ถึงแม้ว่าดวงตาทั้งสองข้างจะยังคงปิดสนิท หากแต่ก็รับรู้ได้ถึงความสะใจอย่างมากที่สุด.........

     

    ".......ก็แค่อยากจะให้เจ้าชายทั้งสองรับรู้เอาไว้น่ะ......" ชากะเอ่ยอีกครั้งพร้อมกับยิ้มพรายอย่างมีเลสนัย........

     

    ".....แกพูดจริงเรอะ!!!!!! นี่แก......ชั้นยังไม่เคยแล้วแกจะมาเคยได้ยังไง!!!!!!!!" ไอโอเรียเริ่มมาดหลุด - - เขย่าๆคอเสื้อของชากะอย่างแรงและเร็ว

     

    "......หึ....แค้นใจมากนักรึที่ข้าชิงตัดหน้าท่านไปก่อน?....เจ้าชายไอโอเรียแห่งเลโอ...หรือว่าไง?"

     

    ".....ฮึ่ม....แต่ข้าได้สิทธิ์ในการครองครองมู!!! แกจะมาเทียบกับข้าได้ยังไง!!!" แล้วการสนทนาก็เริ่มลาม..........เจ้าชายเป็นคนนะจ้ะไม่ใช่สิ่งของ........= =*

     

    "........แล้วถ้าข้าบอกว่า มูเป็นของข้า ล่ะ........." เริ่มดุเด็ดเผ็ดร้อนขึ้นเรื่อยๆเมื่อฝ่ายนักบวชหนุ่มงัดไม้ตาย.......

     

    "มูเป็นชายาของข้าในอนาคตเฟร้ย!!! - -~" ทางด้านเจ้าชายหนุ่มหล่อก็งัดข้อบัญญัติพระอนุญาติจากราชินีแห่งอาริเอสมาใช้บ้าง

     

    "ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมหนีไม่พ้นสัจธรรมแห่งความจริง.....ความจริงที่ว่าแกะยังไงก็ต้องเป็นของพระวันยันค่ำ....."

     

    นี่พี่เล่นธรรมะบริโภคช่วยเลยเรอะ - -~!!!!!

     

     

     

     

     

    น่าจะเพิ่มอีกอย่างหนึ่ง.............

     

     

     

     

     

    ไม่ว่าจะอยู่ในสถาณการณ์อับจนแค่ไหน................พระ ก็ยังคงความหื่นหน้าด้านหน้าซีเมนต์ได้อย่างไม่มีสึกกร่อน.........= =!!!

     

     

     

     

     

    ".............เออ.........เจ้านักบวชนี่ก็พูดเข้าท่าแฮะ.....ไม่ว่ายังไงแกะก็ต้องถูกกินวันยันค่ำ.....หึหึ......." อ่าวเวง...- -" เชื้อหื่นมันเริ่มแพร่กระจายมาทางบัลลังค์ราชาแล้ว......ราชาโดโกเอ่ยและแสยะยิ้มปรายหางตามามองที่พระชายาคนสวย...........= =~~!!!!!

     

     

     

     

     

     

     

    อีก 1 วินาทีต่อมา......................ร่างทั้งร่างของผู้ที่เคยนั่งอยู่บนพระที่นั่งกษัตริย์ก็หล่นวูบบบบบบบ~~~~

     

     

     

     

     

    ปลิวไปตกอยู่ ณ มุมท้องพระโรง.............................

     

     

     

     

    เหตุจากแรงคอสโม่มหาศาลจากพระราชินีผู้ที่เป็น ชายาคนสวย..................ที่ใส่หมัดลูกตรงทำให้พระสวามีลอยละล่องง~~~

     

     

     

     

     

     

    ".......หุบปากซะ โดโก แล้วไปนั่งสงบความหื่นอยู่ตรงนั้นเลย........" แถมด้วยน้ำเสียงเย็บวาบบบไปถึงกระดูกสันหลัง และสีพระพักตร์ที่ไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเลย.......................

     

    '...นี่ตรูต้องง้ออีกแล้วสิฟะเนี่ย - -' ราชาตกบัลลังค์คิดเงียบๆในใจ ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนเพื่อรักษาศักดิ์ศรีของความเป็นราชา......

     

    ท่ามกลางสายตาอีก 3 คู่ที่จับจ้อง..........อย่างเหวอ.........O[]o

     

     

     

     

     

    โอ้วพระเจ้าจอร์จมันยอดม๊าก~!!! ราชินีแห่งอาริเอสต่อยพระสามีกระเด็นนน~~!!!!!!!! ภาพหายากกกกกกกกกกก!!!!!!

     

     

     

     

    (.....สมัยตอนที่ชิออนเป็นองค์ชาย.....กว่าจะสอยมาให้เป็นของตัวเองได้คงจะชิมหมัดไปหลายตุบ.....)

     

     

     

     

    "......ยังไง.....ก็ไม่อนุญาติ.....เจ้าชายมูรัชทายาทแห่งอาริเอสก็ต้องแต่งกับเจ้าชายรัชทายาทแห่งเลโอถึงจะถูกต้องตามประเพณี" แล้วท่านราชินีก็สวมวิญญาณแม่เลี้ยงใจโฉดกลั่นแกล้งลูกเขยอีกคน.......

     

    "...แต่ว่า...เสด็จแม่....กระหม่อมไม่ได้รักกับองค์ชายไอโอเรียนะพะยะค่ะ!!!" ตามฟอร์มที่ลูกสาว(?)สุดที่รักต้องคัดค้านการจับคลุมถุงชน

     

    "แต่เจ้าก็ต้องแต่ง.......คำประกาศิตจากผู้ครองแคว้นยังไงก็เปลี่ยนไม่ได้...." ชิออนเอ่ยอีกครั้ง ดวงเนตรวาวด้วยความเยือกเย็นดุงพญาแห่งอาณาจักรอาริเอส

     

    "กระหม่อมไม่แต่งเด็ดขาด........แม้จะเป็นท่าน.......กระหม่อมก็รับคำตรัสไม่ได้......" มูเอ่ยด้วยถ้อยคำที่สลดเล็กๆอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนที่จะโค้งศีรษะลงอีกครั้งเพื่อแสดงถึงความเคารพอย่างสูง..........

     

    "......อึ่ก.....นี่เจ้าไม่รู้เลยรีไง....ว่าข้าห่วงเจ้า!!! เจ้าคิดดีแล้วรึว่าจะไม่ยอมแต่งกับเจ้าชายไอโอเรียแล้วไปอยู่กับไอ้นักบวชหน้าหื่นที่วันๆเอาแต่คิดเรื่องจะกดเจ้ากับเตียงน่ะ!!!!!!!!!!!"

     

    แล้วพระราชินีชิออนก็ร้องลั่นอย่างอดกลั้นต่อไปไม่ไหว ปากว่ามือก็ชี้มาทางบุคคลที่สามที่ถูกกล่าวถึงอีกด้วย

     

    ".........ข้า........ข้า.........ข้าขอประทานอภัย!!!! แต่ให้ข้าอยู่กับคนที่จะกดข้าทุกวันยังดีเสียกว่าอยู่กับคนที่ข้าไม่ได้รักด้วย!!!!!!!!!!!"

     

     

     

     

     

     

     

     

    ..............ประกาศอย่างแน่วแน่............คำประกาศที่น่าตกใจ ช็อค ตะลึง ตึง ตึ่ง หลุดออกมาแล้วววว~~~ O[]O

     

     

     

     

     

     

    ฝ่ายคนที่พูดประโยคเด็ด ได้แต่ก้มหน้างุดซ่อนสีแดงระเรื่อฉาบไว้ตลอดทั่วทุกอณูของใบหน้า...............

     

     

     

     

    ราชาโดโก......เหวอ.....ก่อนที่จะผิวปากวี้ว~

     

    ราชินีชิออน.....เหวอเช่นกัน.....เหวอ......เหวอหนัก.....ชนิดที่เอายาสีม่วงกรอกปากยังไม่รู้สึกตัว.....(เย้ย!! ผิดเรื่องแล้วมั๊ง)

     

    เจ้าชายไอโอเรีย.........รายนี้ท่าจะหนักกว่าใคร ตาโตเท่าไข่ไดโนเสาร์จ้องอย่างอึ้งโคดสุดขีดมาทางมู

     

    มีเพียงคนเดียวที่ยังไม่เปลี่ยนอิริยาบถทางใบหน้า ชากะ บุรุษนักบวชผู้ครอบครองใจทั้งดวงขององค์ชายหัวดื้อแห่งอาริเอสเอาไว้ซะอยู่หมัด

     

     

     

     

    ...........ก่อนที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะเข้าสู่ความเงียบ............

     

     

     

     

    ".....เจ้าจะเอาอย่างนั้นรึ....?" หนุ่มร่างบางผู้เป็นราชินีเอ่ย.......ถ้าหากว่าไม่สังเกตุดีๆ......ก็จะไม่อาจรู้ได้เลยว่าดวงตาเข้มแข็งคู่นั้นกำลังสั่น.................

     

    "........พะยะค่ะ......กระหม่อมขออภัย.......เสด็จแม่........." องค์ชายน้อยผู้หาญกล้ากล่าว......และโค้งคำนับอีกครั้งเป็นเชิงขอโทษจากใจจริง..................

     

     

     

     

     

     

    "งั้นเจ้าก็ต้องตาย"

     

     

     

     

     


    ......................................O_O..................................

     

     

     

     

     

      

    ".......O[]O...........ชิออน.........มันไม่โหดไปหน่อยรึ? - -!!! นี่ลูกเรานะ......แล้ว.......กฎแบบนั้นมันมีด้วยเรอะ =[]=" โดโกร้องทักท้วงชายาขึ้น พร้อทกับตะเกียกตะกายขึ้นบัลลังค์ แต่เมื่อเห็นสายตาของชิออนแล้วก็กลัวเหลือเกินว่าจะถูกถีบตกอีกเมื่อไหร่ก็ได้

     

    "ก็เพราะนายไม่เคยสนเรื่องกฎประจำอาณาจักรน่ะเซ่!! มันบัญญัติเอาไว้ในข้อที่ 23 หน้าที่ 95 บรรทัดที่ 11 วรรคที่ 8 เอาไว้!!!! ว่า.....หากเชื้อพระวงศ์หรือแม้แต่องค์ชายองค์หญิงของอาณาจักรไม่ยอมทำตามกฎ "การแต่งงานภายใน" จักได้รับโทษประหารชีวิต!!!!!!!!!!!!!!!~~~~!!!!!!!!!!!!!!!!!!"

     

    "เย้ย!!! จริงเร้อ!!!!~ O[]o" องค์ราชาแห่งอาณาจักรถงกับอุทานลั่นอย่างไม่สมกับเป็นผู้ครองแคว้น

     

    "ก็เออน่ะสิ!!!! เพราะฉะนั้น.....ถ้าหากว่าเจ้าไม่ยอมทำตามคำสั่งของข้า....ผู้เป็นทั้งราชินีและเสด็จแม่ของเจ้า.....เจ้าก็ต้องตาย...."

     

    คำกล่าวสุดท้ายทิ้ง้ทายเอาไว้ด้วยความเย็นชา.....หากแต่แววเศร้าปรากฎขึ้นเบื้องหลังฉาบหน้าเอาไว้......

     

    ".....ตะ....แต่กระหม่อม....." องค์ชายมูเตรียมที่จะทักท้วงขึ้นมา.........ถึงกระนั้น สีแห่งความหนาวเย็นก็ยังคงไม่เปลี่ยน ถึงจะเป็นองค์ราชาก็ไม่อาจหยุดความรู้สึกนี้ได้

     

    "........นี่....ชิออน.....คิดดูก่อนก็ได้นี่นา......" โดโกพยายามอย่างยิ่งที่จะใช้วิธีลูบน้ำเย็นให้ราชินีของเขาสงบลง.....แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือแววตาอันแน่วแน่........และจริงจัง........

     

    "ไม่ได้ จะเปลี่ยนกฎ....มันไม่ได้หรอกนะ...." ชิออนเอ่ยเรียบๆ.....แต่สุรเสียงข้างในนั้นมีแต่ความอาลัย......

     

     

     

     

     

     

     

    "เดี๋ยวก่อน!!!!!!!"

     

     

     

     

     

    เสียงประสานดังขึ้นพร้อมกัน ทั้งองค์ราชิและพระชายาต่างเงยพักตร์ขึ้นมามอง........ร่างของชายหนุ่มผู้ซึ่งกำลังทำศึกแย่งเจ้าชายคนสวยอยู่ต่างก็ทักขึ้นมาพร้อมๆกัน

     

     

     

     

    "จะรีบด่วนตัดสินมันไม่เป็นการกระทำที่หุนหันพลันแล่นไปหน่อยหรือครับ ท่าน....." นักบวชหนุ่มผมทองเอ่ย สีหน้าที่เคยไร้ความรู้สึกกลับตึงขึ้นมาทีละน้อย..............

     

    "กรุณาเถอะพะยะค่ะ!!!! ข้าก็อยากจะให้เวลากับเจ้าชายอีกสักนิด!!!!! ส่วนตัวข้านั้นไม่รีบร้อนอยู่แล้ว......กรุณาให้เวลากับมูอีกสักนิดเถอะพะยะค่ะ...." เจ้าชายแห่งเลโอตะโกนลั่น......ทั้งท่าทางและความรู้สึก ราวกับเป็นพญาราชสีห์ที่ตื่นขึ้นเต็มตัวแล้ว

     

    "......นี่พวกนาย......" องค์ชายผู้อยู่ตรงกลางมองสลับซ้ายขวา.....ก่อนที่จะหรุบดวงเนตรลงและเปลี่ยนมาเป็นท่าทีของเจ้าชายผู้มาดมั่น........และเต็มไปด้วยความกล้าที่จะเข้าต่อกรกับราชินี......

     

    "กรุณา.....โปรดให้เวลากับกระหม่อมอีกสักนิดเถอะพะยะค่ะ!!!! ถึงตอนนั้นแล้วกระหม่อมก็คงพร้อมที่จะตัดสินใจ หรือไม่ก็พร้อมที่จะตาย!!!!!!"

     

     

     

     

     

    ผู้เป็นพระราชินีแห่งอาริเอส......มองภาพเบื้องพระพักตร์ด้วยสีหน้าพรั่นพรึง......

     

     

     

     

     

    .....ลูกชายคนเดียวของเขา.....มู แห่ง อาริเอส.......กลับเติบโตพอที่จะก้าวบัลลังค์ขึ้นมาทัดเทียมกับเขา.........เปี่ยมไปด้วยความแข็งแกร่งและแน่วแน่อย่างเช่นคุณสมบัติที่เจ้าชายรัชทายาทอันดับหนึ่งควรจะมี.....................

     

     

     

     

    ภาพนั้นยังคงตรึงสายตาของทั้งคู่ไว้แน่น........รอยยิ้มบางค่อยๆผุดขึ้นมา.......ก่อนที่จะก้มดวงหน้าลงเล็กน้อยเพื่อยอมรับความอาจหาญ...............

     

     

     

     

     

    มู.................สายตาของเจ้า...............มันเป็นสายตาของเลือดแห่งกษัตริย์ที่แท้จริง..................

     

     

     

     

     

     

     

    กษัตริย์.......ผู้ห้าวหาญยามรบรา เข้มแข็งเมื่อมีภัย ซื่อตรงต่อราษฎร ต่อประเทศ และกล้าตัดสินใจในสิ่งที่กำลังเผชิญ...............

     

     

     

     

     

     

    ................หากว่า.............ข้าฝากอาณาจักรนี้ไว้ให้กับเจ้า..............เจ้าก็คงจะดูแลมันได้ไม่ด้อยไปกว่าข้า.................

     

     

     

     

     

     

     

    หรือบางที.......................เจ้าอาจทำได้ดียิ่งกว่า....................เมื่อเจ้าได้รับตำแหน่งเป็นกษัตริย์แห่งอาณาจักรอาริเอส.........................

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    "......หึ....การที่เจ้าต่อคำกับข้าได้ถึงขนาดนี้ แสดงว่ามั่นใจพอตัว......." ชิออนเอ่ยก่อนที่จะยิ้มบาง......มิใช่ยิ้มที่เยือกเย็น หากแต่เป็นรอยยิ้มที่ชื่นชมและภูมิใจในตัวของลูกชายคนเดียวอย่างเต็มพระทัย...........

     

    "...............ก็ได้..............ข้าให้เวลากับเจ้า...............แต่จะให้เพียงแค่ 3 ทิวา 3 ราตรี เท่านั้น"

     

    "จะ....จริงนะพะยะค่ะ!!! ท่านให้เวลากับกระหม่อมจริงๆนะ!!!!" องค์ชายน้อยผู้เติบใหญ่มองพระพักตร์อย่างตรงๆด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความปลื้อมปิติ................องค์ราชินียิ้มที่มุมปากอีกครั้ง.............

     

     

     

     

    "กษัตริย์พูดแล้วไม่คืนคำ"

     

     

     

     

    ".........ขอบ.....ขอบพระคุณท่านมากพะยะค่ะ!!!!!!!!! กระหม่อมจะใช้เวลา 3 วันนี้เพื่อการตัดสินใจที่แน่วแน่......ถึงเวลานั้นแล้วกระหม่อมจะให้คำตอบกับท่านทั้งสองอย่างแน่นอนพะยะค่ะ!!!!! งั้นกระหม่อมขอถวายบังคมลาไปพักผ่อนพะยะค่ะ" มูโค้งตัวลงอีกครั้ง ด้วยความยินดี เขารีบตรงไปยังประตูท้องพระโรง เปิดบานลูกบิดออก และหายลับไป...........................

     

    "หึ......เวลาแค่ 3 วัน.....ข้าก็จะรอดู......ว่าสุดท้ายแล้วเจ้าจะให้คำตอบข้าอย่างไร...."

     

    ".....ชิออน....สุดท้ายแล้ว นายก็ใจอ่อนจนได้...." ชายหนุ่มพระราชาเอ่ยยิ้มแย้ม ก่อนที่จะกอดไหล่มเหสีแน่น.........

     

    "เปล่าเลย โดโก.....แค่อยากจะทดสอบก่อนที่องค์ชายจะขึ้นเถลิงราชสมบัติเท่านั้น" ชิออนหันขวับ พลางค้อนสายตาเล็กน้อย แต่ก็ยังยอมให้พระสวามีกอดไหล่..................

     

    "ข้า....ข้าเองก็ขอขอบพระทัยในน้ำใจและกรุณาอันเปี่ยมล้นของท่านมาก.......ข้าเองนั้นเมื่อได้ทราบว่ามีกฎแบบนั้นอยู่ด้วย ข้าก็ไม่อาจวางใจได้เลย..........ไม่ว่ายังไง.......ข้าก็จะทำให้องค์ชายมาเป็นของข้าให้ได้......" ไอโอเรียโค้งคำนับลงอย่างต่ำเพื่อแสดงความเคารพและสนองในบุญคุณ.....ประโยคสุดท้ายหันขวับมาทางชากะที่หันหน้ามาหาเช่นเดียวกัน

     

    ".......ข้าเองก็ขอบพระทัยฝ่าบาท.....ที่อุตส่าห์ให้เวลาถึง 3 วัน ในการตัดสินใจ......แต่ยังไง.....ข้าก็ไม่อาจยอมแพ้ได้....." ประโยคสุดท้ายถูกส่งต่อไปให้เจ้าชายแห่งเลโอได้รับทราบ................ทั้งสองเขม่นกันอยู่นานพอควร................ก่อนที่เสียงตรัสจากพระราชินีจะดังขึ้น

     

    "งั้นข้าจะเตรียมห้องพักให้กับเจ้า......ไอโอเรีย ด้านนอกจะมีพวกข้ารับใช้คอยเตรียมม้าให้ท่านขึ้นขี่แล้วพาไปยังตำหนัก ส่วน.......นักบวชชากะ..........."

     

    "ข้ากลับออกไปพักด้านนอกปราสาทได้ หากว่าท่านยินยอม"

     

    ราชินีคนสวยแย้มสรวลน้อยๆ.........ก่อนที่จะตรัสต่อไป

     

    "จะให้คนที่อุตส่าห์เดินทางมาไกลแล้วไล่กลับก็กระไรอยู่ ข้าจะจัดที่พักให้ท่านก็ได้ แต่เป็นส่วนด้านนอกของวังในนะ.....เจ้าจะตกลงไหม?" ชิออนกล่าวเนิบๆ มองตรงมายังใบหน้าของชายหนุ่มซึ่งไม่เปลี่ยนอิโมชั่นใดๆทั้งสิ้น

     

    "เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นเกล้า...........ที่อุตส่าห์จัดที่พักให้คนอย่างข้า.........." ชากะรับน้ำพระทัยตอบ ก่อนที่จะโค้งตัวลงอีกครั้ง

     

    "ถ้าเช่นนั้น......ถวายบังคมลา.....พะยะค่ะ....."

     

    แล้วร่างของนักบวชหนุ่มก็หายลับไปอีกคน.......................ตามด้วยเจ้าชายแห่งเลโอที่โค้งคำนับด้วยท่าทางเดียวกัน..............

     

     

     

     

     

     

    เหลือเพียงแค่ผู้ปกครองแคว้นสองพระองค์อยู่ในท้องพระโรง.....................

     

     

    ราชินีทิ้งร่างลงบนบัลลังค์..........ก่อนที่จะยิ้มแย้มสรวลออกมาเล็กๆ.............

     

     

     

     

    "แล้วข้าจะคอยดู.............3 วันแห่งการชี้ชะตาของเจ้า............มู..........."

     

     

     

    โดยมีรอยยิ้มบางๆจากกษัตริย์โดโกส่งมาให้เงียบๆ............................

     

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×