ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Diary ครั้งหนึ่งของความทรงจำ

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 ชีวิตของผม มัธยมปีที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 23 ส.ค. 49


            ผมยังจำได้..... ชิงช้าที่ผมชอบเล่น ต้นส้มที่ผมชอบปีน หรือสนามฟุตบอลที่ผมมักจะ

    ล้มกลิ้งบ่อยๆและทุกๆที่จะมีเธออยู่กับผม อำเภอแม่สอดชีวิตในวัยเยาว์ของผมเริ่มที่นั่น

    ตอนนี้ผมกำลังจะขึ้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนประจำจังหวัดลำปาง คุณคงสงสัยใช่ไหม

    ว่าทำไมตอนจากกันผมถึงไม่ได้ร่ำลาเธอ ผมไม่กล้าครับ ไม่กล้าที่จะมองหน้าเธอ ผมกลัวว่า

    เธอจะเห็นน้ำตาผม ผมไม่อยากให้เธอเห็นยามที่ผมอ่อนแอ ผมแค้นตัวเองที่ไม่สามารถอยู่

    ข้างๆเธอในเวลาที่จำเป็นที่สุดทั้งๆที่ตลอดมาเราอยู่ด้วยกันเสมอ แต่ถึงผมจะโกรธจะโทษ

    ตัวเองไปมันก็ไม่ได้ทำให้ผมกลับไปหาเธอได้ คุณครับจะเรียกเธอกับผมว่าอะไรดี?!! แต่

    ตอนนี้ผมจะมามัวนั่งคิดถึงเธอไม่ได้แล้วเพราะผมมีเรื่องต้องปวดหัวอีกเรื่องหนึ่ง คือว่าวันนี้

    ผมจะไปโรงเรียนวันแรกก็เลยตื่นเต้นมากๆเพราะความตื่นเต้นอีกนั่นแหละที่กำลังจะทำให้

    ผมไปโรงเรียนสาย ผมยืนคิดอยู่นานกว่าจะก้าวเข้าประตูโรงเรียนได้ ไม่น่าเชื่อว่าทางเข้ากับ

    บริเวณที่ผมต้องเข้าแถวมันไกลกันมากๆ นั่นแสดงให้เห็นถึงความกว้างใหญ่ของโรงเรียนนี้

    โรงเรียนของผมเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดลำปาง จึงเป็นโรงเรียนที่ค่อนข้างใหญ่ ประตูทาง

    เข้าปลูกไม้ดอกไม้ประดับยาว สุดรั้ว ภายในมีสนามฟุตบอลขนาดใหญ่สร้างไว้ตรงกลาง เดิน

    จากประตูด้านขวามือจะเป็นสนามฟุตบอล ด้านซ้ายมือเป็นโรงยิมขนาดใหญ่ซึ่งมีทั้งสนามบา

    ส วอลเล่ย์ ตะกร้อและก็ปิงปอง เดินตรงไปอีกประมาณ20เมตรเป็นอาคารเรียน ซึ่งมีอาคาร

    เรียนประมาณ5-6อาคารสร้างไว้รอบๆโรงเรียน บริเวณทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ละติจูดที่

    110 ลองจิจูดที่120 60องศาลิปดาเหนือมีโรงอาหารขนาดกลางตั้งอยู่(ใครทราบก็บอกผม

    ด้วยว่ามันตั้งอยู่ที่ไหน??)บริเวณพื้นที่ว่างก็ประดับไปด้วยต้นไม้หลากชนิดทำให้บริเวณ

    โรงเรียนมีความร่มรื่นมาก ผมค่อยๆก้าวช้าๆไปยังบริเวณเคารพธงชาติเพราะตัวผมอยาก

    ชมรอบๆโรงเรียนในตอนนี้อะไรๆก็ดูจะเป็นเรื่องใหม่สำหรับผม ก็ผมมันเด็กบ้านนอกนี่ครับ

    บริเวณเข้าแถวมีเด็กนักเรียนรุ่นๆผมมาออกันเต็มไปหมดมีทั้งหน้าตาไม่ดีมากๆจนไปถึง

    หน้าตาระดับดาราหนัง ผมเลือกเข้าแถวบริเวณหลังๆหน่อย จากที่ผมสังเกตนักเรียนรุ่นผมมี

    แต่คนที่ตัวสูงๆทั้งๆที่ผมมั่นใจว่าตัวเองสูงแล้วนะครับพอมาเจอคนที่นี่ผมดูตัวเตี้ยงลงไป

    ถนัดตา หลังจากจบบดสวดของครูใหญ่ก็ได้เวลาที่พวกเราจะแยกย้ายกันเข้าห้องเรียน ผม

    เดินตามเพื่อน(ที่ผมไม่รู้จัก)ไปห้องเรียนของผม ที่ห้องคนที่รู้จักกันมาก่อนก็เริ่มจับกลุ่มคุย

    กันแต่ตัวผมมาจากต่างจังหวัดคนเดียวทำให้ไม่มีเพื่อน ผมก็เลยไปหาที่นั่งข้างหลังหน่อย

    เสียงออดดังเป็นสัญญาณเตือนให้เข้าเรียนแต่คนอื่นๆยังคง จับกลุ่มคุยกันจนครูมาถึงจึงรีบ

    วิ่งเข้าที่ของตน แต่ก็ไม่วายยังคงส่งเสียงดังอยู่ดี ครูกระแอมหนึ่งทีก่อนจะแนะนำตัวเองและ

    สั่งแบ่งกลุ่มกันนั่งกลุ่มละ 6 คน โดยกำชับว่าไม่ต้องแบ่งแยกเพื่อนเก่าเพื่อนใหม่แต่ถึงอย่าง

    นั้นผมที่ไม่รู้จักใครเลยจะกล้าไปขอเขาเข้ากลุ่มหรอครับ "นาย...นาย"เสียงๆหนึ่งดังขึ้นผม

    รีบหันไปหาต้นเสียง พลางภาวนาว่าให้มีคนมาชวนเข้ากลุ่ม "นายมาอยู่กลุ่มเดียวกับเรา

    ไหม?"แล้วก็เป็นจริงตามที่ผมคาด ผมกระหยิ่มยิ้มอยู่ในใจ "ได้ครับ" เรื่องอะไรที่ผมจะต้อง

    ปฏิเสธ จริงไหมครับ?? กลุ่มของผมแน่นอนว่าต้องมี 6 คนประกอบด้วย ตัวผมเองโต๋สุดหล่อ

    (อิ อิ) บอม ปาย บี เอกแล้วก็มุก
                 
                     บอม เป็กเด็กที่มาจากต่างจังหวัดเหมือนกันกับผม แต่ช่วง

    เด็กเขาเคยอาศัยอยู่ที่นี่ จึงไม่ต้องห่วงเรื่องเพื่อน บอมเป็นคนผอมสูง หน้าตาคม ผิวสีแทน

    เหมือนคนภาคใต้ หน้าตาโดยรวมจัดว่าใช้ได้ นิสัยขี้เล่น คุยสนุก 
                
                    ปายเป็นเด็กที่นี่ เธอเตี้ยกว่าผมเล็กน้อย เป็นคนที่ดูภายนอกเงียบๆ แต่ที่จริงแล้ว
    เธอเป็นคนรักสนุก ชอบพูดคุย เธอร่าเริงเสมอ
                   
                      เอก เป็นเด็กที่นี่เช่นกัน เป็นคนที่สูงมากสำหรับเด็กในวัยนี้(ประมาณ175

    เซนติเมตร)หน้าตาเข้ม ร่าเริงแต่เฉพาะกับเพื่อนที่รู้จักเท่านั้น หากกับคนที่ไม่รู้จักแล้วเขา

    จะเงียบๆขรึมๆ 
                     
                     บี เป็นเด็กที่นี่ ตัวไม่สูงมากนัก นิสัยร่าเริง ขี้เล่นและก็ขี้โม้ เขาเล่าว่าหน้บ้าน    

    เขามีคอนโดหรูหราสูง 10ชั้น ด้านหลังเป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ด้านซ้ายเป็นตึกสูง 8ชั้น

    ด้านขวาเป็นศูนย์ภาษาขนาดกลาง บ้านของเขาอยู่ตรงกลางเป็นกระต๊อบเล็กๆ...(กระต๊อบ

    คือ สิ่งปลูกสร้างประเภทหนึ่ง จัดเป็นเรือนประเภทเครื่องผูกที่ไม่สู้มีราคาไม่สวยงามนัก ทำ

    ขึ้นพอเป็นที่คุ้มแดดกันฝน ไม่ทนทานแรมปี)จนตอนนี้ผมยังไม่รู้เลยว่าเขาจะเล่าเพื่ออะไร

    ผมก็คิดว่าบ้านเขาจะเป็นคฤหาสซะอีก สุดท้าย

                   มุก เธอเป็นคนไม่สูงมากนัก ผมยาว ผิวขาว เป็นเด็กนักเรียนของโรงเรียนนี้

    ตั้งแต่อนุบาล เป็นคนเรียบร้อย ไม่ค่อยพูด เธอเรียนดีจึงเป็นที่พึ่งพิงของกลุ่มเสมอ นี่คือ

    เพื่อนๆในกลุ่มของผม แต่ดูเหมือนผมจะลืมอะไรไปซักอย่าง...อ้อ..ผมลืมแนะนำตัวเองนั่น

    เอง มารู้จักผมกัน
     
                   ผม โต๋(สุดหล่อ) สูง 170เซนติเมตร คิ้วเข้ม ตาตี๋ๆ ผิวขาว ผมมั่นใจว่าผมหล่อ

    นิสัยน่ะหรอ ผมเป็นคนคุยสนุกสนาน ร่าเริง ชอบดนตรี ชอบกีฬามากๆๆ ชอบทีมฟุตบอลทีม

    ลิเวอร์พูล นี่ล่ะคือตัวผม นับตั้งแต่เข้ากลุ่มนี้ ทุกๆวันของผมมีแต่ความสุข แต่ก่อนนอนผมก็

    ไม่ลืมที่จะบันทึกความสุขของผมลงบนกระดาษส่งไปให้เธอได้รับรู้ ผมอยากจะปันความสุข

    ของผมให้เธอด้วย ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงความสุขเล็กๆก็ตาม



                                                             ....................................... 
                       




                         ปิ๊บๆ ปิ๊บๆ ปิ๊บๆ เฮือก!!!เด็กหนุ่มต้องสะดุ้งตื่นจากความฝันเพราะเสียง


    นาฬิกาปลุก ทว่า!! "ทำไมสายอีกแล้วล่ะ โธ่ นี่ขนาดตั้งนาฬิกาปลุกแล้วแท้ๆยังไม่ตรงอีก ไอ้

    นาฬิกาเฮงซวย!!!"โต๋สบถอย่างหัวเสีย นี่เขาจะเริ่มต้นเช้าวันใหม่อย่างสบายๆโดยไม่ต้องรีบ

    ร้อนไม่ได้หรือไงนะ 
                 
                      "โต๋เสร็จหรือยังลูก สายแล้วนะ"นภาร้องเรียก "เสร็จแล้วครับ"โต๋ตอบ

    พลางวิ่งมาคว้านมที่นภารินเตรียมไว้ให้ 
        
                       "วันนี้แม่ไปส่งนะลูก"นภาบอกลูกชายเพราะดูวันนี้

    เขาสายมากแล้ว  

                     "ไม่เป็นไรครับ ผมเดินไปเองดีกว่า"โต๋ตอบพลางวิ่งวุ่นหาถุงเท้าไปพลาง

                     "แม่จะไปสตาร์ทรถ"นภาไม่ฟังคำค้าน พร้อมกับไปสตาร์ทรถรอ 
                    
                       "แย่แล้วผมลืมงานของอาจารย์"นายโต๋ต้องกระโดดลงจากรถกลับเข้าบ้านไปเอา

    งานที่อุตส่าห์ทำเสร็จเมื่อคืนมา ทั้งที่อาจารย์สั่งไปได้3อาทิตย์แล้ว

                    "ไม่ลืมอะไรแล้วนะ?"คนเป็นแม่ถามเมื่อเห็นลูกชายกลับมาพร้อมกระเป๋าเรียบ

    ร้อยแล้ว 
     
                    "ครับ..อ๊ะ!!ผมลืมล็อคประตูบ้าน"ว่าแล้วก็กระโดดลงจากรถอีกรอบทำเอานภาได้

    แต่ส่ายหน้าถอนหายใจกับความขี้ลืมของลูกชาย

                  โต๋มาถึงโรงเรียนในสภาพทุลักทุเล แม้กระนั้นยังถูกทำโทษให้วิ่งรอบสนามอยู่ดี

    เพราะมาไม่ทัน พอกลับเข้าห้องได้ก็เหนื่อยจนแทบหมดอารมณ์ทักทายเพื่อนฝูงที่มาล้อม

    หน้าล้อมหลัง

                 "เป็นอะไรวะ มาถึงก็ฟุบคาโต๊ะเลยไอ้น้องโต๋"เอกเพื่อนซี้เอ่ยปากแซวแต่ก็ยังไม่วาย

    เอามือมาแตะหน้าผากวัดไข้เพื่อนด้วยความเป็นห่วง
       
                "ไม่เป็นไร แค่ตื่นสายหน่อยเดียวเองแต่โคตรเหนื่อยเลยว่ะ"โต๋ปัดมือเพื่อน ขณะจะ

    เล่าวีรกรรมการมาโรงเรียนสายให้เพื่อนฟัง อาจารย์พัชรินทร์ที่ปรึกษาวัย 40 ต้นๆก็เดินเข้า

    ชั้นมา ช่วงเวลามัธยมศึกษาปีที่ 1 ของผมเป็นช่วงเวลาที่มีความสุข ห้องของพวกผมเป็นห้อง

    1 หรือที่เรียกกันว่าห้องคิงนั่น คือห้องของเด็กเรียนดี แต่พวกผมทำตัวไม่เหมือนไม่ใช่เด็ก

    เรียนมากนัก เพราะทั้งเสียงดัง คุยมาก อาจารย์หลายๆท่านปราบก็ไม่ฟังกัน จนเป็นที่เอือม

    ระอา ตัวแสบประจำห้องของผมเห็นทีคงจะไม่พ้น วิทย์ หนุ่มน้อยเชื้อชาติอิสลาม หน้าตาไม่

    ได้หล่อเหลาอะไรมาก เป็นคนตลก ร่าเริง ขี้เล่นและชอบแกล้ง โดยเฉพาะผู้หญิง ด้วยวิธี

    แกล้งอันแสนพิลึกพิลั่นหลายคนก็เลยตั้งฉายาให้ว่า "บัวรดน้ำลาย" เพราะเจ้าตัวชอบพ่น

    น้ำลายเป็นฝอยเล็กๆใส่กลุ่มคนที่นั่งคุยกัน ผมก็เคยตกเป็นเหยื่อแต่ผมก็ไล่เตะมันไปแล้ว

    เรื่องอะไรที่ผมจะโดนอยู่ฝ่ายเดียว คุณคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า "กาลเวลาย่อมพิสูจน์ทุก

    สิ่ง"ทำไมผมถึงยกนิยามนี้ขึ้นมาน่ะหรอครับ ก็เรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ไง คุณคงยังจำได้ว่า

    กลุ่มของผมมี 6 คนคือตัวผม เอก บี ปาย บอม และก็มุก ช่วงแรกพวกเราเข้ากันได้ดี สนิท

    กันมาก แต่พอเวลาผ่านไปพวกเราก็เริ่มเห็นจุดต่างที่ทำให้พวกเราเข้ากันไม่ได้ พวกเรา

    ชอบอะไรที่ต่างกันแล้วก็ทำให้พวกเราคุยกันน้อยลงประกอบกับมีการเลือกกลุ่มใหม่ ผมจึง

    ถือโอกาสนี้แยกตัวออกมาโดยมีเอกและก็บีพ่วงมาด้วย กลุ่มใหม่ของผมมี 8 คนคือ ผม เอก

    บี นิว เดือน อุ๊บอิ๊บ เฟิร์นและก็มิ้ม ผมขี้เกียจบรรยายสรรพคุณของแต่ละคนเอาเป็นว่าผม

    เข้ากับกลุ่มนี้ได้ดีมากแม้ว่าจะมีผู้หญิงถึง 4 คน แต่เพศก็ไม่ได้เป็นตัวขัดขวางมิตรภาพ

    ระหว่างเรา พวกเราไปไหนมาไหนด้วยกัน กินข้าวด้วยกันและยังเป็นกลุ่มเด็กเรียนดีอีกด้วย

    นอกจากจะเรียนดีแล้วยังเฮฮาและมีความเด็ดขาดในการทำงาน ทำให้กลุ่มของพวกเราเป็น


    กลุ่มขาใหญ่ประจำห้อง





                         .....คุณเชื่อไหมว่าความสุขมักอยู่กับเราไม่นาน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×